ข่าวสังคม » ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ต้อนรับกงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ ที่เดินทางมารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ต้อนรับกงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ ที่เดินทางมารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ

24 กรกฎาคม 2019
911   0

Social Share

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ต้อนรับกงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ ที่เดินทางมารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ พร้อมเชื่อมความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นระหว่างไทยและญี่ปุ่น

ที่ห้องล้านนาบอลรูม 2 – 3 โรงแรมแชงกรีล่า เชียงใหม่ นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เดินทางแสดงความยินดีกับ นายฮิโรชิ มัทสึโมะตะ ที่เดินทางมารับตำแหน่งกงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ หัวหน้าส่วนราชการ ตัวแทนจากทุกหน่วยงานราชกาาร อธิการบดีมหาวิทยาลัย ตัวแทนจากภาคเอกชน ผู้พำนักชาวญี่ปุ่นในภาคเหนือของไทย คณะกงสุลใหญ่ กงสุล และกงสุลกิตติมศักดิ์ ได้เข้าร่วมงานในครั้งนี้

นายฮิโรชิ มัทสึโมะตะ กงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ กล่าวว่า ผมขอขอบพระคุณทุกท่านที่กรุณาให้เกียรติมาร่วมงานเลี้ยงแนะนำตัว ในวาระที่ผมมารับตำแหน่งกงสุลญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาอยู่ร่วมกับทุกท่านในค่ำคืนนี้ การได้รับมอบหมายให้มาปฏิบัติหน้าที่และร่วมทำงานกับทุกท่านในเมืองแห่งประวัติศาสตร์ที่สวยงามอย่างจังหวัดเชียงใหม่ ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับผม

แม้ผมจะเคยมีประสบการณ์มาเที่ยวและมาราชการที่ประเทศไทย แต่นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตผมที่ได้มาอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ก่อนหน้านี้ ผมเคยทำงานที่เกี่ยวข้องกับประเทศในอาเซียน แต่เวลาส่วนใหญ่บนเส้นทางนักการทูตของผมกลับอยู่แถบยุโรปและแอฟริกา ผมจึงรู้สึกดีใจมากที่การมารับตำแหน่งครั้งแรกในอเชียของผมคือ ที่เมืองเชียงใหม่แห่งนี้

น่าประหลาดใจที่ผมรู้สึกเหมือนเคยอยู่ที่นี่มานานแล้ว บางทีอาจเป็นเพราะผมได้รับการต้อนรรับอย่างอบอุ่นจากทุกท่านและทุกที่ ผมจึงขอใช้โอกาสนี้ กล่าวขอบคุณต่อความกรุณาที่ผมได้รับจากหน่วยงานภาครัฐ สถาบันศึกษาและวัฒนธรรม องค์กรธุรกิจและภาคเอกชน รวมถึงสื่อมวลชนทั้งหลาย

อีกทั้งขอขอบคุณชุมชนชาวญี่ปุ่นที่ประกอบด้วยบริษัทญี่ปุ่นราว 50 บริษัทและผู้พนำชาวญี่ปุ่นประมาณ 3,400 คนในภาคเหนือของประเทศไทย ตลอดจนขอขอบคุณคณะนักการทูตในเชียงใหม่ทุกท่าน

ความร่วมมือ การสนับสนุนและคำแนะนำจากทุกท่าน ถือเป็นสิ่งที่มีค่ายิ่งสำหรับการปฏิบัติหน้าที่และการใช้ชีวิตของผมที่เชียงใหม่ อย่างไรก็ตาม นี่ยังเป็นเพียงจุดเริ่มต้น ขณะที่ยังอยู่ในตำแหน่งนี้ ผมตั้งใจจะสืบสานและพัฒนาความร่วมมือในด้านต่างๆ ให้ดียิ่งขึ้น ผมหวังที่จะได้ทำงานร่วมกับท่าน ประตูของผมพร้อมเสมอที่จะเปิดต้อนรับท่านสู่ความสำเร็จ

การเพิ่มขึ้นอย่างมากของนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ไปเยือนประเทศญี่ปุ่นหลังการประกาศยกเลิกวีซ่านักท่องเที่ยวตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 ขำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทย ตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงพฤษภาคมปีนี้ ได้กระโดดไปไกลกว่า 620,000 คน เพิ่มขึ้น 16.4 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ผมหลังว่าการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่โตเกียวใมนปี ค.ศ. 2020 จะดึงดูดให้ชาวไทยมาเที่ยวญี่ปุ่นมากยิ่งขึ้น

ท้ายนี้ ผมรู้สึกดีใจมากที่ Mr. Nishino อดีตนักฟุตบอลทีมชาติญี่ปุ่นได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าโค้ชของฟุตบอลทีมชาติไทย ผมจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศในภาคเหนือนี้ให้ดีขึ้น สืบไป

นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ กล่าวว่า ในปีนี้ ประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่นได้เฉลิมฉลองการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการครบรอบ 132 ปี ซึ่งเป็นก้าวสำคัญของความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างสองประเทศที่ดำเนินมากว่า 700 ปี กล่าวได้ว่า ในปัจจุบัน ญี่ปุ่นเป็นหุ้นส่วนทั้งทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่ใกล้ชิดกับประเทศไทยที่สุดประเทศหนึ่ง

ความสัมพันธ์มีความใกล้ชิดแนบแน่นตั้งแต่ ระดับพระราชวงศ์ ซึ่งเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งของความสัมพันธ์ ไปถึงความสัมพันธ์ในระดับรัฐบาล ภาคเอกชน และประชาชน มีการแลกเปลี่ยนด้านการศึกษา การท่องเที่ยว วัฒนธรรม ดนตรี ภาพยนตร์ ละครโทรทัศน์ การ์ตูน ซึ่งมีส่วนสำคัญในการทำให้คนไทยและคนญี่ปุ่นรู้สึกสนิทสนมและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี

จังหวัดเชียงใหม่ จะทำงานร่วมกับท่านกงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ ในการสานต่อขับเคลื่อนความสัมพันธ์ระหว่างเชียงใหม่กับญี่ปุ่นให้ก้าวไปข้างหน้า โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้อง ระหว่างจังหวัดเชียงใหม่กับจังหวัดฮอกไกโด รวมถึงการพิจารณาความเป็นไปได้ในการสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างจังหวัดเชียงใหม่กับจังหวัดมิเอะ

เชื่อมั่นว่ามิตรภาพระหว่างจังหวัดเชียงใหม่ กับสถานกงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ จะเสริมสร้างความร่วมมือ และความสัมพันธ์ฉันมิตรที่แน่นแฟ้นระหว่างไทยกับญี่ปุ่นให้แนบแน่นยิ่งขึ้น เพื่อร่วมกันก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืนและมั่นคง เพื่อประโยชน์และความสุขของประชาชนทั้งสองประเทศ