สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย ตรวจสุขภาพหลังชาวบ้านริมน้ำสายมีอาการผิดปกติจากพิษสารปนเปื้อน

สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย ตรวจสุขภาพหลังชาวบ้านริมน้ำสายมีอาการผิดปกติจากพิษสารปนเปื้อน

วันที่ 30 มิถุนายน 2568 จากกรณีที่ประชาชนในพื้นที่บ้านแม่สาย หมู่ที่ 1 ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย พบอาการผื่นแดงขึ้นตามร่างกาย หลังใช้น้ำจากบ่อในครัวเรือนเพื่ออุปโภค จนเกิดความกังวลในวงกว้าง ล่าสุด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลตำบลเวียงพางคำ ร่วมกับโรงพยาบาลแม่สาย สำนักงานสาธารณสุขอำเภอแม่สาย รพ.สต.ในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย และศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 1/1 เชียงราย ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงทันที

การลงพื้นที่ในครั้งนี้ประกอบด้วยการเก็บตัวอย่างน้ำจากบ่อที่ประชาชนใช้เพื่อทดสอบหาสารหนูเบื้องต้นด้วยชุดทดสอบภาคสนาม (Arsenic Field Test Kit) พร้อมตรวจร่างกายประชาชนที่มีอาการ โดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังและอายุรกรรมจากโรงพยาบาลแม่สาย พบว่าอาการที่เกิดขึ้นเป็นผื่นแพ้เหงื่อ (Allergic reaction) ไม่พบความผิดปกติทางระบบประสาทแต่อย่างใด

นอกจากนี้ ยังได้คัดกรองชาวบ้านกลุ่มเสี่ยงเพิ่มเติม พร้อมเก็บตัวอย่างน้ำจากจุดที่มีการโพสต์เผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์ 2 จุด และพื้นที่ใกล้เคียงอีก 1 จุด รวมทั้งเก็บตัวอย่างเพิ่มเติมอีก 6 จุด เพื่อส่งตรวจหาสารปนเปื้อนในห้องปฏิบัติการศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 1/1 เชียงราย คาดว่าจะทราบผลภายในไม่กี่วัน

ทางด้านสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย ขอความร่วมมือประชาชนหลีกเลี่ยงการใช้น้ำจากบ่อธรรมชาติที่ยังไม่ผ่านการปรับปรุงคุณภาพ หากมีอาการผิดปกติ เช่น ผื่น คัน แสบผิวหนัง อ่อนเพลีย หรือปัสสาวะเปลี่ยนสี ขอให้รีบพบแพทย์ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือโรงพยาบาลใกล้บ้านทันที

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

เชียงราย ตำรวจ ฝ่ายปกครองเข้ม ตู้คีบตุ๊กตา ป้องกันการพนันแฝง-แหล่งมั่วสุมเยาวชน

เชียงราย ตำรวจ ฝ่ายปกครองเข้ม ตู้คีบตุ๊กตา ป้องกันการพนันแฝง-แหล่งมั่วสุมเยาวชน

เวลา 18.00 น. วันที่ 29 พฤษภาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงราย ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย พ.ต.อ.โสภณ ม่วงเฟื่อง ผกก.สภ.เมืองเชียงราย และ พ.ต.อ.พัสกร ธวัชเชียงกุล ผกก.สืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย สั่งการให้ พ.ต.ท.เดชาวัต นาทิเลศ รอง ผกก.สืบสวน สภ.เมืองเชียงราย, พ.ต.ท.ฉันทฤทธิ์ เหล่าไพโรจน์จารี รอง ผกก.ป้องกันปราบปราม สภ.เมืองเชียงราย พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองอำเภอเมืองเชียงราย นำโดย นายบุญส่ง ตินารี นายอำเภอเมืองเชียงราย ลงพื้นที่ตรวจสอบกิจการตู้คีบตุ๊กตาและตู้เกมคล้ายกันตามห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ และแหล่งชุมชนในพื้นที่รับผิดชอบ

การปฏิบัติครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของ พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย และเพื่อรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนที่กังวลเกี่ยวกับการประกอบกิจการตู้คีบตุ๊กตาบางแห่ง ที่อาจเข้าข่ายเป็นการพนันแฝง หรือเป็นแหล่งมั่วสุมของเด็กและเยาวชน เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบใบอนุญาตประกอบกิจการ, ลักษณะการทำงานของตู้, มูลค่าของรางวัลเมื่อเทียบกับจำนวนเงินที่ใช้เล่น รวมถึงมาตรการป้องกันไม่ให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงในช่วงเวลาเรียนและหลังเวลา 20.00 น. อย่างเข้มงวด

จากการตรวจสอบ พบว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี มีเอกสารครบถ้วนและปฏิบัติตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม หากพบการกระทำผิด เช่น ไม่มีใบอนุญาต หรือเข้าข่ายเป็นการพนัน เจ้าหน้าที่จะดำเนินคดีตามกฎหมายทันที ทั้งในรูปแบบตักเตือน, สั่งปรับปรุง หรือจับกุมและยึดของกลาง

พ.ต.อ.โสภณ ม่วงเฟื่อง ผกก.สภ.เมืองเชียงราย เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อจัดระเบียบและสร้างความมั่นใจแก่ประชาชน หากพบว่ามีการดำเนินการไม่ถูกต้อง จะดำเนินการขั้นเด็ดขาด พร้อมขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้งดให้บริการแก่เด็กและเยาวชนในช่วงเวลาเรียน และหลังเวลา 20.00 น. รวมถึงห้ามนักเรียนในเครื่องแบบเข้าใช้บริการอย่างเด็ดขาด

ทั้งนี้ สภ.เมืองเชียงราย กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย และฝ่ายปกครองอำเภอเมืองเชียงราย จะดำเนินการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง หากประชาชนพบเห็นการกระทำที่น่าสงสัย สามารถแจ้งได้ที่ สภ.เมืองเชียงราย โทร. 0 5374 4571-2, สายด่วน 191 หรือศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเมืองเชียงราย โทร. 1567

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

เชียงราย พบสารหนูในบ่อน้ำแม่สาย ชาวบ้านผงะหลังใช้อุปโภคในครัวเรือน-ผื่นขึ้นตามตัว

เชียงราย พบสารหนูในบ่อน้ำแม่สาย ชาวบ้านผงะหลังใช้อุปโภคในครัวเรือน-ผื่นขึ้นตามตัว

วันที่ 29 พฤษภาคม 2568 ผศ.ดร.สุรพล วรภัทราทร หัวหน้าศูนย์วิจัยปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีก่อกำเนิด มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ดร.สืบสกุล กิจนุกร อาจารย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ได้ลงพื้นที่แม่น้ำสาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อตรวจโลหะหนักในน้ำ (สารหนู-As) โดยใช้ชุดตรวจแบบรู้ผลทันที( IQUAN) ซึ่งเป็นชุดที่เคยตรวจไปแล้วก่อนหน้านี้ (30 เมษายน 2568) โดยใช้จุดเดิมในการตรวจเพื่อศึกษาหาแนวโน้มของปริมาณสารหนูว่ามีความเปลี่ยนแปลงหรือไม่ เนื่องจากประชาชนต้องการรู้และติดตามสถานการณ์การปนเปื้อนสารหนูว่ามีค่าเปลี่ยนแปลงหรือไม่อย่างไร ซึ่งเป็นความร่วมมือกับหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น ศูนย์จัดการภัยพิบัติเพื่อนพึ่ง (ภา) เทศบาลตำบลเวียงพางคำ

โดยการการตรวจน้ำที่หัวฝาย พรมแดนไทยพม่า มีประชาชนมารอสังเกตการณ์การตรวจกว่า 10 คน ผลการตรวจเบื้องต้น จุดที่ 1 แม่น้ำสายที่หัวฝาย พบสารหนู 0.12 มิลลิกรัม/ลิตร (mg/L) (ค่ามาตรฐานคือ 0.01 mg/L )การตรวจน้ำประปาจากก๊อกน้ำในบ้านเรือนไม่พบเกินค่ามาตรฐาน นอกจากนี้ได้นำน้ำจากบ่อน้ำตื้น(บ่อเจาะ)ในบ้านประชาชน ห่างจากแม่น้ำสายประมาณ 100 เมตร มาตรวจด้วย ซึ่งตรวจพบสารหนูเกินค่ามาตรฐาน คือ 0.10 mg/L โดยตรวจซ้ำ 3 ครั้ง เกินค่ามาตรฐานสองครั้ง การครั้งสุดท้าย error

นางบุญ ใจวงศ์ เจ้าของบ่อน้ำกล่าวว่า ได้ใช้น้ำจากบ่อน้ำตื้นปั้มขึ้นมาใช้อุปโภคในครัวเรือน และใช้ล้างบ้านจากน้ำโคลนน้ำท่วม พบว่ามีอาการคัน มีผื่นขึ้นตามมือ แขน เท้า เมื่อทราบผลแล้วในวันนี้ก็จะไม่ใช่น้ำบ่อ โดยจะใช้น้ำประปาซึ่งปลอดภัย ดีมากที่อาจารย์มาตรวจให้ในวันนี้ ได้รู้ว่าน้ำบ่อของเราปนเปื้อนสารหนู จะได้ไม่ใช้ต่อไป หากไม่รู้ก็จะเสี่ยงอันตรายในระยะยาว

ผศ.ดร.สุรพล กล่าวว่าสรุปได้ว่าน้ำประปายังคงปลอดภัย แต่น้ำในแม่น้ำสายค่าค่อนข้างสูง แต่ที่น่าสนใจคือบ่อน้ำตื้นที่มีความลึก 5-10 เมตร ที่ชาวบ้านนิยมขุดเพื่อนำน้ำใช้ในบ้าน ปรากฏว่าตรวจพบค่าสารหนูเกินมาตฐาน ดังนั้นจึงไม่ควรใช้แล้ว ทางการควรมีการแจ้งเตือนชาวบ้านให้หลีกเลี่ยงการ และสาธารณสุขควรเก็บตัวอย่างน้ำบ่อที่ชาวบ้านใช้ไปตรวจ รวมถึงบ่อบาดาลด้วยว่าปลอดภัยหรือไม่

ดร.สืบสกุล กิจนุกร อาจารย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กล่าวว่าขณะนี้รัฐบาลพูดถึงแค่ปัญหาสารหนูในแม่น้ำกก แต่จริงๆ แล้วลามไปถึง 4 แม่น้ำ โดยแม่น้ำสายคือน้ำพิษ รัฐบาลพูดเฉพาะการแก้ปัญหาน้ำท่วม ต้องการให้ตรวจเร่งด่วน ประชาชนมีแนวปฏิบัติอย่างไร เจ้าหน้าที่ที่เข้าไปช่วยต้องแต่งกายหรือปฏิบัติตัวอย่างไร ขอเทศบาล รพ.สต. สำรวจว่าใครบ้างโดนน้ำแล้วคัน ห้ามสัมผัสน้ำโดยตรง แต่น้ำท่วมแล้วเราลุยน้ำเราจะต้องมีแนวปฏิบัติให้อย่างไร น้ำท่วมนี้มากับสารโลหะหนัก เป็นน้ำพิษหรือไม่

นายบัณฑิตย์ พันธ์พลากร ผู้อำนวยการศูนย์จัดการภัยพิบัติเพื่อนพึ่ง (ภา) และว่าที่สมาชิกสภาเทศบาลเวียงพางคำ กล่าวว่าเราใช้น้ำประปาจากแม่น้ำสายอุปโภคบริโภค แปรงฟัน การตกค้างของสารโลหะจะเป็นอย่างไร ก่อเป็นมะเร็งในวันข้างหน้า เมื่อวันที่ 24 พ.ค. น้ำท่วมที่แม่สาย ตนได้ไปช่วยประชาชนล้างบ้านที่ถ้ำผาจม ปรากฎว่าเป็นผื่นขึ้นที่มือสองข้างจนวันนี้ยังไม่หาย

“ชุมชนติดแม่น้ำสายที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมและปนเปื้อนสารพิษแบบนี้ ต่อไปใครจะมาช่วย ต้องใส่ชุดหมี ใส่ถุงมือ หรือสวมชุดอวกาศ คนจะมาช่วยนี่ต้องกล้าหาญมาก ชาวบ้านที่ยังไม่มีข้อมูลว่าสารพิษนี้จะสะสมร่างกายอย่างไร ทุกวันนี้เราใช้ชีวิตอยู่กับมะเร็งที่จะเกิด คำว่าปลอดภัยในชีวิตของเราอยู่ตรงไหน 40,000 คนที่ใช้น้ำประปา มีความเสี่ยงต่อสุขภาพในอนาคต หากคนแม่สายกันเองยังไม่ปกป้องแม่น้ำที่เราใช้”นายบัณฑิตย์ กล่าว

นายธนวัฒน์ ปวงรังสี ชาวบ้านสายลมจอย กล่าวว่าในอดีตน้ำท่วมไม่ได้มาทุกปี ไม่ได้มาปีละหลายๆ ครั้งแบบนี้ ท่วมแล้วไปเร็ว แต่หลังๆ มานี้สังเกตสีน้ำขุ่น น้ำมาไม่ปกติ เพราะข้างบนเขาทำเหมือง การขุดลอกแม่น้ำสายที่ปลายน้ำแบบนี้จะไปสิ้นสุดตรงไหน ดินพัดมากับน้ำท่วมเยอะมาก เพราะเขาขุดแม่น้ำ ทำเหมืองที่ต้นน้ำของเรา นี่คือสิ่งที่กระทบกับเราจริงๆ

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

เชียงราย เครือข่ายประชาชน หารือปิดเหมืองต้นน้ำสาย ก่อนทุกอย่างจะสายเกินแก้ น้ำเป็นพิษ

เชียงราย เครือข่ายประชาชน หารือปิดเหมืองต้นน้ำสาย ก่อนทุกอย่างจะสายเกินแก้ น้ำเป็นพิษ

เวลา 09.00น.วันที่ 29 พ.ค. 68 ที่ ห้องประชุมเทศบาลตำบลเวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย มีการจัดประชุมกรณีปัญหามลพิษข้ามพรมแดน แม่น้ำกก สาย รวก โขง “ปิดเหมืองต้นน้ำสาย ก่อนทุกอย่างจะสายเกินแก้” มีผู้เข้าร่วมประมาณ 50 คน

ดร.สืบสกุล กิจนุกร อาจารย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กล่าวว่าขณะนี้รัฐบาลพูดถึงแค่ปัญหาสารหนูในแม่น้ำกก แต่จริงๆ แล้วลามไปถึง 4 แม่น้ำ วันนี้ที่แม่สายคือน้ำพิษ รัฐบาลพูดเฉพาะการแก้ปัญหาน้ำท่วม ต้องการให้ตรวจเร่งด่วน ประชาชนมรแนวปฏิบัติอย่างไร เจ้าหน้าที่ที่เข้าไปช่วยต้องแต่งกายหรือปฏิบัติตัวอย่างไร ขอเทศบาล รพ.สต. สำรวจว่าใครบ้างโดนน้ำแล้วคัน ห้ามสัมผัสน้ำโดยตรง แต่น้ำท่วมแล้วเราเดินลุยน้ำเราจะต้องมีแนวปฏิบัติให้อย่างไร น้ำท่วมนี้มากับสารโลหะหนัก เป็นน้ำพิษหรือไม่

ดร.สืบสกุล กล่าวว่าเหตุการณ์ที่เกิดในขณะนี้ เป็นความเสี่ยงสิ่งแวดล้อมระดับโลก พบภาพเหมืองแร่แรร์เอิร์ทที่ต้นน้ำ ซึ่งเบอร์หนึ่งคือจีน มีแร่นี้ในมือมากที่สุด ทุกอปท.ควรมีการตรวจ เพื่อให้รู้และเป็นแนวทางในการปฏิบัติ การตรวจที่แม่สายที่น่ากังวลคือพบตะกั่ว เกินค่ามาตรฐาน มูลนิธิสิทธิมนุษยชนไทใหญ่ ทำรายงานเปิดเผยพื้นที่ทำเหมือง และเมื่อดูกูเกิลเอิร์ทก็เห็น

“ใครผลิตแร่ ใครนำเข้าแร่ ปลายทางของแร่อยู่ที่ไหน นอกจากนี้ระบบประปาของเราเปราะบางมาก ทั้งที่แม่สายและอ.เมือง เมื่อน้ำท่วมก็ต้องหยุดการผลิต แหล่งน้ำดิบของเราอยู่ในภาวะเสี่ยง ซึ่งที่แม่น้ำสายมีการตรวจน้ำและตะกอนดินเพียง 1 ครั้งเท่านั้น” ดร.สืบสกุลกล่าว

ชาวบ้านเกษตรกรรายหนึ่งกล่าวว่าน้ำในคลองชลประทานที่มาจากน้ำสาย ก็คือชลประทานก็คือน้ำสาย ที่ไหลไปยังพื้นที่เกษตรกว้างไกล เมื่อแม่น้ำสายปนเปื้อน เราจะมีมาตรการว่าขอปิดน้ำสายไม่ให้เข้าคลองชลประทาน เพื่อชะลอสารตกค้างในคลองชลได้หรือไม่ เพื่อยืดเวลาการสะสม

นายจรูญ บาระมีชัย อดีตประธานผู้สูงอายุเทศบาลตำบลแม่สาย กล่าววว่าบ้านของตนอยู่ติดน้ำเหมือง ขี้โคลนที่บ้านยังไม่หมดตั้งแต่น้ำท่วมปี 2568 จะมีชุดตรวจสารโลหะหนักเพื่อให้ประชาชนจะทราบข้อมูลได้อย่าไร อยากรู้ว่าน้ำบ่อที่บ้านตรวจได้หรือไม่ พืชผักในสวน อยากตรวจเพื่อที่จะได้รู้และป้องกันตนเอง

นายบัณฑิตย์ พันธ์พลากร ผู้อำนวยการศูนย์จัดการภัยพิบัติเพื่อนพึ่ง (ภา) เทศบาลเวียงพางคำ กล่าวว่าเราใช้น้ำประปาจากแม่น้ำสายอุปโภคบริโภค แปรงฟัน การตกค้างของสารโลหะจะเป็นอย่างไร ก่อเป็นมะเร็งในวันข้างหน้า เมื่อวันที่ 24 พค. น้ำท่วมที่แม่สาย ตนได้ไปช่วยประชาชนล้างบ้านที่ถ้ำผาจม ปรากฎว่าเป็นผื่นขึ้นที่มือสองข้างจนวันนี้ยังไม่หาย

“ชุมชนติดแม่น้ำสายที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมและปนเปื้อนสารพิษแบบนี้ ต่อไปใครจะมาช่วย ต้องใส่ชุดหมี ใส่ถุงมือ หรือสวมชุดอวกาศ คนจะมาช่วยนี่ต้องกล้าหาญมาก ชาวบ้านที่ยังไม่มีข้อมูลว่าสารพิษนี้จะสะสมร่างกายอย่างไร ทุกวันนี้เราใช้ชีวิตอยู่กับมะเร็งที่จะเกิด คำว่าปลอดภัยในชีวิตของเราอยู่ตรงไหน 40,000 คนที่ใช้น้ำประปา มีความเสี่ยงต่อสุขภาพในอนาคต หากคนแม่สายกันเองยังไม่ปกป้องแม่น้ำที่เราใช้

นายธนวัฒน์ ปวงรังสี ชาวบ้านสายลมจอย กล่าวว่าในอดีตน้ำท่วมไม่ได้มาทุกปี ไม่ได้มาปีละหลายๆ ครั้งแบบนี้ ท่วมแล้วไปเร็ว แต่หลังๆ มานี้สังเกตสีน้ำขุ่น น้ำมาไม่ปกติ เพราะข้างบนเขาทำเหมือง การขุดลอกแม่น้ำสายที่ปลายน้ำแบบนี้จะไปสิ้นสุดตรงไหน ดินพัดมากับน้ำท่วมเยอะมาก เพราะเขาขุดแม่น้ำ ทำเหมืองที่ต้นน้ำของเนร นี่คือสิ่งที่กระทบกับเราจริงๆ

นส.เพียรพร ดีเทศน์ เลขาธิการมูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา (พชภ.) กล่าวว่าปัญหามลพิษข้ามพรมแดนที่เกิดขึ้นกับแม่น้ำกก สาย รวก โขง 4 แม่น้ำ กำลังเป็นปัญหาที่ประชาชนต้องการเห็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ การเปิดหน้าดินทำเหมืองเถื่อนไม่มีกฎหมายใดๆ ที่ต้นน้ำของประชาชนนับล้านคนต้องยุติทันที ทุกวันนี้เราเห็นน้ำแต่เรากลับใช้ไม่ได้ สำหรับปัญหาแม่น้ำสาย ณ เวลานี้รัฐบาลยังไม่มีมาตรการแก้ปัญหาการปนเปื้อนสารโลหะหนัก

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

สจป.1 แม่ฮ่องสอน สั่งจับตาเส้นทางมอดไม้ 4 เขตรอยต่อข้ามจังหวัด ล่าสุด ลาดตระเวนพบอีก 2 จุด ตรวจยึดไม้พร้อมของกลางหลายรายการ

สจป.1 แม่ฮ่องสอน สั่งจับตาเส้นทางมอดไม้ 4 เขตรอยต่อข้ามจังหวัด ล่าสุด ลาดตระเวนพบอีก 2 จุด ตรวจยึดไม้พร้อมของกลางหลายรายการ

วันที่ 30 พฤษภาคม 2568 นายเกษม คำมา ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอน และ นายสมจินต์ เนตรประดิษฐ์ ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า ได้สั่งการ กำชับเน้นย้ำ ให้เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยป้องกันรักษาป่าทุกอำเภอในการบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการ เข้มงวดการลาดตะเวนตามจุดพื้นที่เสี่ยง และ จับตาเส้นทางมอดไม้ พื้นที่รอยต่อข้ามจังหวัด 4 จุด ซึ่งประกอบไปด้วย พื้นที่เขตรอยต่อ อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน – บ้านแม่โถ อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ / อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน – อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ / อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน – อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ และ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน – อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่

จากการบูรณาการออกลาดตระเวนตามพื้นที่เป้าหมาย เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดไม้แปรรูปประดู่ และ ไม้สักท่อน พร้อมของกลางหลายรายการ โดยเมื่อวันที่ 29 พ.ค 68 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจยึดไม้ประดู่ทั้งไม้ท่อนและไม้แปรรูป และ อุปกรณ์กระทำผิด 2 จุด ในพื้นที่ อ.ขุนยวม และ อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่ง จุดที่ 1 ในพื้นที่ อ.ขุนยวม เจ้าหน้าที่ป่าไม้หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ มส.3 (ขุนยวม), เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ขุนยวม, คณะกรรมการจัดการป่าชุมชนบ้านต่อแพ และเจ้าหน้าที่ทหารพรานร้อยที่ 3603ได้ร่วมกันออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ บริเวณป่าห้วยผักห้า ตำบลแม่เงา อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน

คณะเจ้าหน้าที่ฯ ชุดดังกล่าวได้ทำการตรวจยึดไม้สักท่อน จำนวน 1 ท่อน ปริมาตร 1.289 ลบ.ม. คิดเป็นเงินค่าภาคหลวง จำนวน 256 บาท คิดเป็นค่าเสียหายที่รัฐพึงได้รับเป็นเงิน จำนวน 77,400 บาท และได้ตรวจยึดอุปกรณ์การประทำผิด จำนวน 4 รายการ ประกอบไปด้วย รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ TOYOTA สีเทา ทะเบียนรถ บว 84xx เชียงใหม่ จำนวน 1 คัน เลื่อยโซ่ยนต์ พร้อมบาร์ ขนาด 25 นิ้ว ไม่ทราบยี่ห้อ สี ส้มขาว หมายเลขเครื่อง 20180/06 จำนวน 1 เครื่อง รอกโซ่มือยก ยี่ห้อ LEVER HOIST สีส้ม ขนาด 3 ตัน ยาว 1.5 เมตร จำนวน 1 ชุด, และ โซ่นอกลากรถ ขนาด 3 หุน G43 USA พร้อมตะขอ 2 ข้าง จำนวน 1 เส้น ซึ่ง ไม้สักท่อนของกลางเก็บรักษาไว้ที่หน่วยฯ มส.3 (ขุนยวม)

ส่วนจุดที่ 2 ในพื้นที่ อ.แม่ลาน้อย นายอำนวย ยอดคำ หัวหน้าสายตรวจปราบปรามฯ สจป.ที่.1 สาขาแม่ฮ่องสอน สายที่ 2 พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่หน่วยฯ มส.4 (แม่ลาน้อย) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 36 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่ว่าการอำเภอแม่ลาน้อย เข้าดำเนินการตรวจสอบ บริเวณป่าห้วยข้าวหลาม เขตปกครองบ้านหัวลา หมู่ที่ 7 ต.สันติคีรี อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ยวมฝั่งซ้าย พบมีการลักลอบตัดและแปรรูปไม้ประดู่ จำนวน 3 แผ่น/เหลี่ยม ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดไม้ของกลางมาเก็บรักษาที่หน่วยฯได้ 1 แผ่น ส่วนอีก 2 แผ่น ไม่สามารถนำออกมาได้เนื่องจากจุดเกิดเหตุอยู่ไกลจากจุดที่รถจะเข้าถึงได้และมีน้ำหนักที่มากไม่สามารถเคลื่อนย้ายด้วยกำลังคนจึงขอพนักงานสอบสวนทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

กวาดล้างรายวัน สจป.1 แม่ฮ่องสอน ตรวจยึดไม้ประดู่ในพื้นที่ป่าห้วยผีฮ้าย

กวาดล้างรายวัน สจป.1 แม่ฮ่องสอน ตรวจยึดไม้ประดู่ในพื้นที่ป่าห้วยผีฮ้าย

วันที่ 29 พฤษภาคม 2568 ภายหลังที่ทาง นายเกษม คำมา ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 แม่ฮ่องสอน และ นายสมจินต์ เนตรประดิษฐ์ ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า ได้เปิดยุทธการสยบมอดไม้เพื่อตัดตอนกลุ่มนายทุนต่างจังหวัด และ มีการลาดตระเวนติดตามเบาะแสการลักลอบตัดไม้ในพื้นที่เป้าหมาย

ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 พ.ค. 2568 เวลา 13.30 น. สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอน ซึ่งประกอบไปด้วย เจ้าหน้าที่ป่าไม้ประจำหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ มส.3 (ขุนยวม), เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ขุนยวม, เจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ 3603 และกำนันตำบลเมืองปอน ได้ร่วมกันออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ในท้องที่ตำบลเมืองปอน หลังมีเบาะแสว่ากลุ่มมอดไม้ลักลอบเข้ามาดำเนินการตัดและแแปรรูปไม้ บริเวณป่าห้วยผีฮ้าย หมู่ที่ 5 บ้านแม่ซอ ตำบลเมืองปอน อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ยวมฝั่งซ้าย

เจ้าหน้าที่ฯ ชุดดังกล่าวได้ทำการตรวจยึดไม้ประดู่แปรรูป จำนวน 6 แผ่น ปริมาตร 1.194 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นค่าภาคหลวง 95.52 บาท ค่าเสียหายที่รัฐพึงได้รับ เป็นเงิน 83,580 บาท และไม้ประดู่ท่อน จำนวน 2 ท่อน ปริมาตร 2.756 ลบ.ม. คิดเป็นค่าภาคหลวง 220.48 บาท ค่าเสียหายที่รัฐพึงได้รับเป็นเงิน 96,460 บาท ทั้งนี้ ไม้ประดู่แปรรูปของกลางทั้งหมดเก็บรักษาไว้ที่หน่วยฯ มส.3 (ขุนยวม)

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน มณฑลทหารบกที่ 37 จัดกิจกรรมปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติฯ

ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน มณฑลทหารบกที่ 37 จัดกิจกรรมปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติฯ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ณ บริเวณหน้าดอยเจดีย์ มณฑลทหารบกที่ 37 ค่ายเม็งรายมหาราช ต.เวียง อ.เมือง จ.เชียงราย

วันที่ 29 พ.ค. 68 เวลา 08.30 น.  พล.ต.จักรวีร์ เสนีย์วรยุทธ์ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน มณฑลทหารบกที่ 37 จัดกำลังพล จิตอาสา 904 และกำลังพล จิตอาสาพระราชทาน มณฑลทหารบกที่ 37 พร้อมด้วย กอ.รมน.จังหวัดเชียงราย จัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา ปลูกต้นไม้ สร้างพื้นที่สีเขียว ปรับภูมิทัศน์ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 ณ บริเวณหน้าดอยเจดีย์ มทบ.37 ค่ายเม็งรายมหาราช ต.เวียง อ.เมือง จ.เชียงราย โดยมีกำลังพลจาก ฉก.ทัพเจ้าตาก, ร.17 พัน.3 ในพระองค์ฯ, ผศ.จว.เชียงราย, รพ.ค่ายเม็งรายมหาราช, สมาคมแม่บ้าน ทบ.สาขามทบ.37 และรร.กองทัพบกอุปถัมภ์บริบูรณ์ธนวัฒน์ ค่ายเม็งรายมหาราช เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ด้วย ประมาณ 200 คน

โดยกิจกรรมประกอบด้วย การปลูกต้นไม้มงคลจำนวนทั้งสิ้น 800 ต้น เพื่อสร้างความชุ่มชื่นและเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับผืนป่า และอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตามระบบนิเวศน์ภายในค่าย เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568

ทั้งนี้ กิจกรรมจิตอาสาพัฒนาปลูกต้นไม้ สร้างพื้นที่สีเขียว ปรับภูมิทัศน์ เพื่อต้องการให้กำลังพลนชาวค่ายเม็งรายมหาราช จังหวัดเชียงรายได้พร้อมใจร่วมกันแสดงออกถึงความจงรักภักดี ที่ได้ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า และยังเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในสังคมอีกด้วย

# จิตอาสาพระราชทาน เราทำความดีด้วยหัวใจ
# น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น
# เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน
# ทหารเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส
# พิทักษ์ราชัน ปกป้องประชา รักษาแผ่นดิน

ผอ.สจป.1 แม่ฮ่องสอน – ผอ.สปฟ.สจป.ที่.1 แม่ฮ่องสอน สั่งการ เข้มงวดสกัดมอดไม้ส่งขายนายทุนพื้นที่เป้าหมาย 4 อำเภอ

ผอ.สจป.1 แม่ฮ่องสอน / ผอ.สปฟ.สจป.ที่.1 แม่ฮ่องสอน สั่งการ เข้มงวดสกัดมอดไม้ส่งขายนายทุนพื้นที่เป้าหมาย 4 อำเภอ

วันที่ 28 พฤษภาคม 2568 จากการเริ่มเปิดยุทธการ กวาดล้างมอดไม้ในพื้นที่เป้าหมาย 4 อำเภอ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประกอบไปด้วย อำเภอแม่สะเรียง อำเภอแม่ลาน้อย อำเภอสบเมย และ อำเภอขุนยวม ส่งผลทำให้ทางเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดไม้แปรรูปและไม้ท่อนประดู่ได้จำนวนหนึ่ง ซึ่งถือเป็นสกัดกั้น และ การป้องกันปราบปรามการลักลอบตัดโค่นและแปรรูปไม้เพื่อส่งตามออเดอร์นายทุนต่างจังหวัด

นายเกษม คำมา ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอน และ นายสมจินต์ เนตรประดิษฐ์ ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า ได้สั่งการเปิดยุทธการกวาดล้างมอดไม้ในพื้นที่เป้าหมาย โดย ล่าสุด เมื่อวันที่ 27 พ.ค 68 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ป่าไม้ประจำหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ มส.3 (ขุนยวม), เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ขุนยวม และ กำนันตำบลแม่ยวมน้อย ได้ร่วมกันออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ในท้องที่ บริเวณป่าบ้านห้วยปู่แสน หมู่ที่ 3 บ้านหว่าโน ตำบลแม่ยวมน้อย อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน เจ้าหน้าที่ฯ ชุดดังกล่าวได้ทำการตรวจยึดไม้ประดู่แปรรูป จำนวน 3 แผ่น ปริมาตร 0.784 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นค่าภาคหลวง 62.72 บาท ค่าเสียหายที่รัฐพึงได้รับ เป็นเงิน 54,880 บาท และ ไม้ประดู่ท่อน จำนวน 2 ท่อน ปริมาตร 3.360 ลบ.ม. คิดเป็นค่าภาคหลวง 268.80 บาท ค่าเสียหายที่รัฐพึงได้รับเป็นเงิน 117,600 บาท โดยไม้ประดู่แปรรูปของกลางทั้งหมดเก็บรักษาไว้ที่หน่วยฯ มส.3 (ขุนยวม)

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

นายอำเภอแม่สะเรียง ชวนเชิญอุดหนุน กระเทียมดีมีคุณภาพ หลังลงพื้นที่เยี่ยมเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียม

นายอำเภอแม่สะเรียง ชวนเชิญอุดหนุน กระเทียมดีมีคุณภาพ หลังลงพื้นที่เยี่ยมเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียม

วันที่ 27 พฤษภาคม 2568 นายวรศักดิ์ พานทอง นายอำเภอแม่สะเรียง ลงพื้นเยี่ยมเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมเพื่อรับฟังปัญหาการจำหน่ายผลผลิต“กระเทียม” บ้านสบหาร หมู่ที่ 2 ต.บ้านกาศ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ตามที่ ปรากฏข่าวสาร“ เกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ไม่สามารถจำหน่ายผลผลิตกระเทียมได้และราคากระเทียมตกต่ำ” นั้น นายอำเภอแม่สะเรียง ได้ลงพื้นที่เยี่ยมกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียม “บ้านสบหาร” มีเกษตรกร ที่ยังไม่ได้จำหน่ายผลผลิตกระเทียม ปี 2568 ประมาณ 20 ครอบครัว มีผลผลิรวมประมาณ 38,500 กิโลกรัม

สำหรับสถานการณ์ผลผลิตของ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ในปี 2568 มีพื้นที่เพาะปลูก 580 ไร่ เกษตรกร 200 ราย ผลผลิตรวม ประมาณ 580 ตัน เกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรสมาชิกกลุ่มแปลงใหญ่ ผลผลิตออกสู่ตลาด ช่วงเดือน กุมภาพันธ์-เมษายน เกษตรกรส่วนใหญ่จะขายผลผลิตเป็นกระเทียมสด ในราคา 16 -17 บาท/กิโลกรัม และบางส่วนเก็บผลผลิตไว้ขายเป็นกระเทียมแห้ง ปัญหาการจำหน่ายผลผลิตปี 2568 คือ เกษตรกรผู้ปลูกกระเทียม ไม่สามารถจำหน่ายหรือระบายผลผลติกระเทียมได้ เนื่องจากไม่มีพ่อค้าคนกลางมารับซื้อ หรือ รับซื้อในปริมาณน้อยกว่าทุกปี ปัจจุบันพบมีเกษตรกร ประมาณ 47 ราย ยังคงมีผลผลิตกระเทียมแห้ง น้ำหนักรวมประมาณ 120 ตัน ยังไม่สามารถจำหน่ายได้ เกษตรกร แจ้งว่าต้นทุนอยู่ที่ประมาณ 40 บาท/กิโลกรัม ปัจจุบันราคากระเทียมแห้งที่พ่อค้าคนกลางเข้ามารับซื้อมีจำนวนน้อยและให้ราคาถูก ประมาณ 30-35 บาทไม่คุ้มทุน ซึ่งระคาที่เหมาะสมและคุ้มทุนอยู่ที่ราคา 45 บาท/กิโลกรัม ขึ้นไป

นายวรศักดิ์ พานทอง นายอำเภอแม่สะเรียง กล่าวว่า ผลผลิต“กระเทียม” ของเกษตรกร มีคุณภาพดีมาก มีหลากหลายขนาด เป็นกระเทียมต้นฤดู เนื้อแน่น ซึ่งเกษตรกรปลูกในที่นาบริเวณพื้นที่ลุ่มริมน้ำแม่ยวม ดินดี ทำให้ผลผลิตมีคุณภาพ อุดมสมบูรณ์ ปลอดสารเคมี ในส่วนปัญหาหลักของเกษตรกร นอกเหนือจากความต้องการของตลาดที่ลดลง คือ ช่องทางการจำหน่าย หรือการประชาสัมพันธ์ ที่ไม่สามารถเข้าถึงผู้บริโภค หรือ ผู้ประกอบการที่มีความต้องการใช้กระเทียมโดยตรง จึงขอเชิญชวนให้ส่วนราชการ หน่วยงานรัฐ ภาคเอกชน ร้านอาหาร สถานประกอบการ และประชาชนทั่วไป ได้อุดหนุนเกษตรกร ผู้ปลูกกระเทียม ผ่านช่องทางต่างๆ และสามารถติดต่อ สอบถามรายละเอียด ได้ที่่ “นายประภัทร สารียอด” ผู้แทนเกษตรกรบ้านสบหาร โทร 085-0544539

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

เชียงราย ปิดล้อมตรวจค้น 2 เป้าหมายขยายผลคดีดักยิงหนุ่มบนดอย

เชียงราย ปิดล้อมตรวจค้น 2 เป้าหมายขยายผลคดีดักยิงหนุ่มบนดอย

ฝ่ายปกครอง อ.แม่ฟ้าหลวง ตำรวจ สภ.แม่ฟ้าหลวง และทหารหน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก กองกำลังผาเมือง ปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมาย 2 จุด ยึดเงินสด 1.7 ล้านบาท อาวุธปืน และทรัพย์สินอื่นๆ ไปตรวจสอบ หลังสอบสวนพบว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดักยิงหนุ่มบนดอย

วันที่ 28 พ.ค. 68 เวลา 05.00 น.นายปรีชา ศิรินาม นายอำเภอแม่ฟ้าหลวง พ.ต.อ.สงกรานต์ สันวงค์ ผกก.สภ.แม่ฟ้าหลวง อำนวยการให้ นายอานนท์ ขันคำ ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครอง จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ บูรณาการร่วมกับตำรวจชุดสืบสวสน สภ.แม่ฟ้าหลวง และเจ้าหน้าที่ทหาร บก.ควบคุมผาแด่น หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก กองกำลังผาเมือง ปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมาย ตามหมายค้นศาลจังหวัดเชียงราย จำนวน 2 เป้าหมาย เป้นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” สางปัญหายาเสพติด หลังจากผลการสืบสวนสอบสวนพบว่าทั้ง 2 เป้าหมาย น่าจะมีส่สวนเกี่ยวข้องกับคดีดักยิงข้างต้น

โดยเป้าหมายที่ 1 เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 124 หมู่ที่ 7 ต.เทอดไทย ตามหมายค้นศาลจังหวัดเชียงราย ที่ 163/2568 ลงวันที่ 27พค68 พบ น.ส.พิมพ์นิภา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าบ้านและเป็นผู้นำตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบซิมโทรศัพท์มือถือจำนวน 2 ซิมอยู่ภายในบ้าน จึงได้ตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบเป็นพยานหลักฐานประกอบการสอบสวน โดยไม่พบสิ่งผิดกฎหมายเพิ่มเติม ส่วนเป้าหมายที่ 2 เจ้าหน้าที่ตรวจค้นบ้านเลขที่ 638 หมู่ที่ 19 ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง ตามหมายค้นศาลจังหวัดเชียงราย ที่ 168/2568 ลงวันที่ 27พค68 พบว่ามีนายสิทธิพงษ์ คีรีวงค์สุขใจ อยู่ภายในบ้าน แต่เมื่อนายสิทธิพงษ์เห็นเจ้าหน้าที่ได้วิ่งหลบหนีไปทางด้านหลังบ้าน และอาศัยความชำนาญพื้นที่หลบหนีไปได้ เจ้าหน้าที่จึงได้เชิญ น.ส.วิมถรัตน์ คีรีวงค์สุขใจ อายุ 25 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ภายในบ้านเป็นผู้นำตรวจค้น

ผลการตรวจค้นเป้าหมายที่ 2 พบอาวุธปืนลูกซองยาวพร้อมเครื่องกระสุนปืน และทรัพย์สินอื่นๆ อยู่ภายในบ้านและบริเวณบ้าน จึงได้ตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบตาม พ.ร.บ.มาตรการปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด จำนวน 9 รายการคือ 1.อาวุธปืนยาวลูกซอง ยี่ห้อ REMINGTON เลขทะเบียนปืน กท 44527xx จำนวน 1 กระบอก 2.เครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 ยี่ห้อ BULLETMASTER จำนวน 17 นัด 3.เงินสด จำนวน 1,700,000 บาท 4.สร้อยคอทองคำ จำนวน 2 เส้น 5. สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 3 เล่ม 6.รถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน ขฉ 55xx เชียงราย จำนวน 1 คัน 7 ซิมโทรศัพท์มือถือ จำนวน 5 ซิม 8.เสื้อยืดคอกลมสีน้ำเงินของนายสิทธิพงษ์ฯ จำนวน 1 ตัว และ 9.กระสอบฟางสีเขียวภายในบรรจุกระดาษไข จำนวน 2 กระสอบ จึงได้สิ่งของที่ตรวจยึดได้ไปเก็บรักษาที่ สภ.แม่ฟ้าหลวง เพื่อดำเนินการตรวจสอบตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ การปิดล้อมตรวจค้นดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากได้มีการสืบสวนสอบบสวนขยายผล กรณีเมื่อวันที่ 20 พ.ค. 68 ร.ต.อ.นพพร จอมสว่าง รอง สว.(สอบสวน) สภ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 บ้านแม่หม้อ ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ซึ่งเป็นหมู่บ้านตะเข็บชายแดนไทย-เมียนมา ว่ามีผู้ถูกยิงเสียชีวิตบริเวณทางเข้าหมู่บ้าน ต่อมาตรวจสอบพบว่าผู้เสียชีวิตคือ นายลิเชอ ไม่มีนามสกุล อายุประมาณ 33 ปี ถือบัตรประจำตัวคนไม่มีสัญชาติไทย อาศัยอยู่ที่พื้นที่หมู่ 10 ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง นอกจากนั้นการปิดล้อมตรวจค้นดังกล่าวยังเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” สางปัญหายาเสพติดพื้นที่อำเภอแม่ฟ้าหลวงอีกทางหนึ่งด้วย

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์