เชียงราย คนริมน้ำกกยื่น 7 ข้อเรียกร้องถึงรัฐบาลแก้ไขน้ำกกปนเปื้อน

เชียงราย คนริมน้ำกกยื่น 7 ข้อเรียกร้องถึงรัฐบาลแก้ไขน้ำกกปนเปื้อน

เวลา 09.00 น.วันที่ 22 เม.ย.2568 ที่ ห้องประชุมสายน้ำกก ศูนย์การเรียนรู้และฝึกอบรม CCF เชียงราย ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย เครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำ กก อิง โขง นำโดย นายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา นายกสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นเพื่อแก้ไขปัญหาสารปนเปื้อนในแม่น้ำกก โดยมี นักวิชาการและตัวแทนชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบ เข้าร่วม ในการนำเสนอถึงความเดือดร้อน และแนวทางในการแก้ไขปัญหา

โดยแม่น้ำกก ได้รับผลกระทบจนมีสารปนเปื้อนมาจากการทำเหมืองแร่ในเขตปกครองของชนกลุ่มน้อย ว้า ในประเทศเมียนมา โดยมีการใช้สารเคมีในการสกัดแร่ต่างๆ ทำให้สารแคมีไหลลงมาในแม่น้ำกก และแม่น้ำสาย จนกระทั่งมีการตรวจพบว่ามีสารหนูเกินค่ามาตราฐาน จนทำให้เกิดผลกระทบหลายด้าน ทั้งด้านการท่องเที่ยว การเกษตร การประมง โดยเฉพาะการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบแล้วในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการแพริมแม่น้ำกกหลายรายทั้งต้นน้ำที่ ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ และแพริมแม่น้ำกก ในพื้นที่ ต่างๆ ในจังหวัดเชียงราย ทำให้ผู้ประกอบการขาดทุนหลายราย

นางจิรภัทร์ กันธิยาใจ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านร่มไทย ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า สิ่งที่กังวลก็คือแม่น้ำของเราเปลี่ยนไป ปีนี้เศรษฐกิจเรายับเยินเลย ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาลานที่อยู่ริมแม่น้ำกกที่เคยใช้เล่นน้ำหญ้าขึ้นสูงถึงเข้าไม่มีใครกล้าลงไปเล่นน้ำ ช่วงวันที่ 14 -15 เม.ย. ช่วงเป็นฤดูแล้งแต่กลับมีน้ำ และดินโคลนไหลมา ทำให้แพที่สร้างอยู่ริมแมน้ำได้รับความเสียหาย จะหาจ้างให้ใครลงไปเก็บก็ไม่มีใครกล้าลงไป ที่เป็นห่วงขณะนี้ก็คือคนที่หาปลา ไม่สามารถลงน้ำได้น่าหดหู่ใจมาก เมื่อ 2-3 ปี ก่อนยังสามารถหาปลาเลี้ยงชีพได้ แต่ตอนนี้แม้แต่ลงน้ำยังไม่กล้า บ้านเรือนหลายหลังที่อยู่ติดแม่น้ำกก บางรายยังต้องอาศัยอยู่ในบ้านพักช่าวคราว เพราะบ้านเสียหายจากน้ำท่วมครั้งก่อนยังไม่ได้รับการซ่อมแซม

ชาวบ้านบ้านฟาร์มสหกิจ ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตั้งแต่บ้านถูกแม่น้ำกกท่วมเมื่อฤดูฝนปีที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ยังถูกน้ำท่วมอยู่เพราะยังมีคันกั้นน้ำที่ไม่ได้รับการซ่อมแซมอยู่ในพื้นที่ของเอกชน น้ำกกยังคงไหลเข้ามาที่บ้าน ตอนนี้ยังมีสารปนเปื้อนเข้ามาอีก ใช้ชีวิตลำบากมาก อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาช่วยเหลือ ที่ผ่านมามีหน่วยงานต่างๆเข้ามาดูแต่พอกลับไปก็ไม่ได้มีการแก้ไขอะไร ปัจจุบันน้ำยังท่วมบ้านอยู่เหมือนเดิม

นาย สุขใจ ยานะ อายุ 72 ปี ชาวประมงพื้นบ้าน บ้านเชียงแสนน้อย อ.เชียงแสน จ.เชียงราย กล่าวว่า น้ำกกที่บ้านเชียงแสนน้อยเป็นปากแม่น้ำที่น้ำกกไหลลงสู่แม่น้ำโขง ในปีนี้ถือว่าเป็นศึกหนัก ที่นี่เกิดการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำที่คาดเดาไม่ได้ บางครั้งก็สูง บางครั้งก็ลงอย่างรวดเร็วขึ้นอยู่กับการปล่อยน้ำจากเขื่อนในแม่น้ำโขงทางตอนใต้ของประเทศจีน ซึ่งถือว่าได้รับความเดือดร้อน ปีนี้ที่ผ่านมาแม่น้ำกกยังมีการทำแพขายของทำให้ชาวบ้านมีเงินหมุนเวียนแต่ในปีนี้ไม่มีคนมานั่งชาวเชียงแสนน้อยทั้งคนหาปลาต้องรับศึกหนักทั้งแม่น้ำโขงที่เปลี่ยนไป กับ แม่น้ำกกที่มีสารปนเปื้อน

ดร.สืบสกุล กิจนุกร อาจารย์ประจำสำนักนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ผู้ประสานงานศูนย์ช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติเชียงราย กล่าวว่า สารปนเปื้อนในแม่น้ำกก ที่มีการปนเปื้อนของสารหนู ซึ่งเกิดจากการทำเหมืองทองของประเทศเมียนมา ทางรัฐบาลไทยต้องหาทางออก โดยการคุยกับผู้นำระดับประเทศคือ จีน พม่า และกลุ่มชาติพันธุ์ว้า ซึ่งเหมืองทองได้ประกอบกิจการอยู่ในพื้นที่เขตปกครองของว้า เรื่องปัญหาสารพิษเป็นปัญหาใหม่ และมีความซับซ้อนของผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้ที่ก่อมลพิษไม่ใช่รัฐบาล ดังนั้นจึงต้องใช้เวลาในการแก้ไขปัญหา อีกทั้งรัฐบาลยังไม่มีข้อมูลของแหล่งกำเนิดสารโลหะหนักที่อยู่นอกเขตแดนประเทศไทย เพราะรัฐบาลขาดผู้มีอำนาดตัดสินใจทางนโยบายที่ต้องรับผิดชอบกับปัญหาดังกล่าว และรัฐบาลยังใช้กลไกเดิมในการแก้ไขปัญหา เช่น สทนช. และ MRC อีกทั้งรัฐบาลยังขาดยุทธศาสตร์และแผนการแก้ไขปัญหาสาเหตุของมลพิษข้ามแดน ข้อกังวลของประชาชนในพื้นที่ คือการขาดข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสารพิษจากแหล่งกำเนิดต้นแม่น้ำกก กลางน้ำ และปลายน้ำ เพราะได้รับข้อมูลล่าช้า และไม่ต่อเนื่อง ประกอบกับสารโลหะหนักส่งผลกระทบในระยะยาว เนื่องจากสารโลหะหนักสะสมในน้ำและห่วงโซ่อาหาร จากนั้นได้เสนอมาตราการและนโยบายที่รัฐบาลควรปฏิบัติคือ จัดตั้งสถาบันตรวจสอบคุณภาพน้ำในลุ่มน้ำโขงเหนือ ประจำจังหวัดเชียงราย จัดตั้งคณะทำงานระดับประเทศและระดับจังหวัดที่มีส่วนร่วมของประชาชนในการแก้ไขปัญหาระยะยาว สร้างความโปร่งใสในการสื่อสารข้อมูลกับประชาชน

ด้าน นายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา ได้เสนอให้ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยเร่งนำเดินการตามข้อเรียกร้อง จำนวน 7 ข้อคือ

1. แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหามลพิษข้ามพรมแดน โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ภาคประชาชน และนักวิชาการ เพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาทั้งในแหล่งกำเนิดมลพิษ ระหว่างทาง และผู้รับผลพิษ จัดตั้งศูนย์ตรวจสอบคุณภาพน้ำในลุ่มน้ำกก จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงราย ภายใน 30 วัน
2. เปิดเผยและซักซ้อมมาตรการรับมืออุทกภัยลุ่มน้ำกก และลุ่มน้ำสาย อย่างเป็นระบบ มีส่วนร่วม และมีประสิทธิภาพ
3. สร้างความร่วมมือกับประเทศเมียนมา และกลุ่มกองกำลังว้า เพื่อเพิ่มจุดเก็บตัวอย่างน้ำ เพื่อตรวจสอบแหล่งที่มาของสารปนเปื้อน ตลอดลำน้ำกก น้ำสาย ทั้งพื้นที่ต้นน้ำ พื้นที่ทำเหมืองในรัฐฉาน ประเทศพม่า และพื้นที่แม่น้ำกกในประเทศไทย
4. การสร้างระบบสื่อสารสาธารณะที่โปร่ง เพื่อให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลข่าวสารด้านคุณภาพน้ำอย่างต่อเนื่อง โดยจัดตั้งศูนย์ตรวจสอบคุณภาพน้ำจังหวัดเชียงราย
5. การขยายขอบเขตการศึกษาและวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมข้ามพรมแดน  โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์ที่ดินที่เป็นการลุกล้ำหรือทำลายสิ่งแวดล้อม ตลอดลุ่มน้ำ
6. เปิดการเจรจา 4 ฝ่ายคือ ไทย เมียนมา กองกำลังชาติพันธุ์ที่ควบคุมพื้นที่สัมปทานเหมือง และประเทศจีน เพื่อร่วมกันหาทางออกอย่างสร้างสรรค์และรับผิดชอบ โดยมีกลไกระดับอาเชียนบวกประเทศ
7. การแต่งตั้งคณะกรรมการ คณะทำงานในทุกระดับให้มีสัดส่วนของประชาชน ผู้ได้รับผลกระทบภาคประชาสังคม

จากนั้นกลุ่มจึงร่วมกันยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่าน นายชิตวัน ชินอนุวัฒน์ สส.เชียงราย เขต 1 พรรคประชาชน เพื่อให้นายกรัฐมนตรี และรัฐบาล เร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเร็ว

โดย นายชิตวัน กล่าวว่า ปัจจุบันตนได้นำเรื่องปัญหาดังกล่าวเข้าหารือในสภาผู้แทนราษฏร พร้อมนำเรื่องเข้าสอบถามรัฐบาลว่าจะดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวยังไง ทั้งในเรื่องของปัญหาน้ำท่วม และปัญหาของหมอกควัน พร้อมกล่าวว่าพรรคประชาชนเป็นฝ่ายค้าน ซึ่งเป็นอุปสรรคอย่างมากในการทำงานช่วยเหลือประชาชน จากนั้นได้กล่าวว่าประชาชนต้องได้รับการแจ้งเตือนอย่างเป็นระบบทั้งในเรื่องของเรื่องเหตุแผ่นดินไหว หรือเรื่องอุทกภัย และสารปนเปื้อนต่างๆทางน้ำหรือดิน

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

ค้นหาต่อเนื่อง 10 วัน ยังไร้ร่องรอย อำเภอแม่สะเรียงสนธิกำลังร่วมระดมค้นหา หนุ่มวัย 37 ปี พลัดหลงป่าบ้านแม่กองคา

ค้นหาต่อเนื่อง 10 วัน ยังไร้ร่องรอย อำเภอแม่สะเรียงสนธิกำลังร่วมระดมค้นหา หนุ่มวัย 37 ปี พลัดหลงป่าบ้านแม่กองคา

วันที่ 21 เมษายน 256 นายวรศักดิ์ พานทอง นายอำเภอแม่สะเรียง ได้มอบหมาย นายจตุพล ยะจอม ปลัดอำเภอ หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตำบลแม่ยวม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าตาฝั่ง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสาละวินพร้อมเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลแม่ยวม ร่วมประชุมวางแผนการค้นหาผู้สูญหาย กรณีบุคคลสูญหาย

นายยุทธนา จตุพรสีวลี อายุ 37 ปี ณ หมู่บ้านแม่กองคา หมู่ที่ 10 ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน โดยได้ประชุมพูดคุย เพื่อวางแผนการระดมกำลัง แบ่งหน้าที่ มอบหมายภารกิจออกค้นหาบุคคลสูญหาย โดยแบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด ชุดแรกเป็นชุดของอุทยานแห่งชาติสาละวินกับเจ้าหน้าที่กรมทหารพรานที่ 36 และฝ่ายปกครอง ตำบลแม่ยวม เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลแม่ยวม เข้าค้นหาทางด้านบ้านห้วยห้อม ตำบลแม่คง ชุดที่ 2 ประกอบด้วยชุดปฏิบัติการพิเศษอำเภอแม่สะเรียง ฝ่ายปกครองตำบลแม่ยวม เจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรท่าตาฝั่ง และกำลังชาวบ้านบ้านแม่กองคา เขาค้นหาทางด้านบ้านแม่กองคา

นายยุทธนา จตุพรสีวลี วัย 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/2 หมู่ 8 ต.แม่ลาน้อย อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งหายออกจากบ้านเมื่อช่วงกลางวัน เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2568 โดยสวมเสื้อบายคล้าน อส.สีน้ำตาล กางเกงสีน้ำตาลลายขาว พร้อมสวมหมวกโม่งปิดบังใบหน้าสีดำชมพู พร้อมรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า ดรีม สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน คาดว่าน่าจะออกไปหาของป่า เมื่อทุกๆครั้งที่ผ่านมา จนกระทั้งเมื่อช่วง เวลา 16.00 น.ของวันเดียวกัน มีพายุฝนตกหนักและมีน้ำป่าหลากเกรงว่าสามีจะได้รับอันตราย จึงแจ้งผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านช่วยกันออกตามหา ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ยังไร้วี่แวว ไร้ร่องรอย

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

<

ตำรวจ สภ.ปาย รวบตัวชาวจีน ลักเด็ก 4 คนไปกระทำอนาจาร

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปาย อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน รวบตัวชาวจีนที่ ลักเด็ก 4 คนไปกระทำอนาจาร ล่าสุดทางพนักงานสอบสวนปาย แจ้งข้อหาหนักพรากผู้เยาว์ ส่วนคดีอนาจารอยู่ระหว่างการส่งตัวเด็กไปให้ทางโรงพยาบาลปาย ตรวจสอบ

วันที่ 21 เมษายน 2568 พ.ต.อ.ภาสวินทร์ แก้วต่าย ผกก.สภ.ปาย อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยถึงกรณีเด็กหายตัวไป ล่าสุด เมื่อเวลา เวลา 22.00 น.ของคืนที่ผ่านมา ตำรวจสืบสวน โดย พ.ต.ท.นพคุณ อรรถธรรมกุล รอง ผกก.สส.สภ.ปาย สภ.ปาย และกู้ภัยปายสามัคคีฯ สามารถควบคุมตัวบุคคล ต้องสงสัยลักพาตัวเด็กทั้ง 4 คนได้แล้ว ในพื้นที่ตำบลเวียงใต้ อำเภอปาย เบื้องต้นทาง พ.ต.อ.ภาสวินทร์ แก้วต่าย ผกก.สภ.ปาย แจ้งข้อหาพรากผู้เยาว์ และอยู่ระหว่างการขยายผลสอบสวนปากคำผู้ต้องหา และตรวจสอบประวัติคดีอาชญากรรม ว่าเคยก่อเหตุมาก่อนหน้านี้หรือไม่

ก่อนหน้านั้นได้มีผู้ปกครองเด็ก ราษฎรหมู่บ้านใหม่สหสัมพันธ์ ม.7 ต.เวียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน โพสข้อความในเฟซบุคว่า เมื่อเวลา 11.00 น.ได้มีบุตรหลานคนในหมู่บ้าน ได้หายไปรวม 4 คน ได้แก่ 1.ด.ญ.พร (นามสมมุติ) อายุ 9 ปี 2.ด.ญ.สิริ(นามสมมุติ) อายุ 7 ปี 3.ด.ญ.ปราย(นามสมมุติ) อายุ 7 ปี ทั้ง 3 คน อยู่ ตำบลเวียงใต้ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน และ ด.ญ.อัญ(นามสมมุติ) อายุ 11 ปี อยู่ ตำบลเวียงเหนือ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยเด็กบอกผู้ปกครองว่าจะไปเล่นน้ำที่น้ำตกหมอแปง

ต่อมา เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2568 เวลา 22.00 น. เจ้าหน้าที่ได้ติดตามตัวผู้ก่อเหตุและเด็กจำนวน 4 คน ที่ลานศูนย์วัฒนธรรมจีนยูนาน บ้านสันติชน ต.เวียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน และจับกุมตัว Mr.Lin อายุ 50 ปี สัญชาติจีน เบื้องต้น เด็กหญิง 1 ใน 4 คน ระบุว่า ผู้ต้องหาได้เข้ามาหอมแก้ม และพยายามจะนอนด้วยที่เต้นท์หน้าบ้าน ผู้ปกครองจึงประสงค์ขอให้ตำรวจดำเนินคดีในข้อหา พรากเด็กอายุ ไม่เกิน 15 ปี เพื่อไปกระทำอนาจาร

Cr. ฉลอง หมั่นสกุล จ.แม่ฮ่องสอน

ชาวไทใหญ่บ้านป่าลาน แห่โคหลู่ ปอยส่างลอง ประจำปี 2568 อย่างยิ่งใหญ่สวยงาม

ชาวไทใหญ่บ้านป่าลาน แห่โคหลู่ ปอยส่างลอง ประจำปี 2568 อย่างยิ่งใหญ่สวยงาม ผู้ร่วมงานแต่งชุดพื้นถิ่นเข้าร่วมขบวนแห่ สร้างสีสันให้กับงานประเพณีเป็นอย่างมาก

วันที่ 19 เมษายน 2568 นายอาวุธ ขยันดี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยโป่ง นำพี่น้องชาวไทใหญ่ หมู่บ้านป่าลาน หมู่ที่ 3 ตำบลห้วยโป่ง อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดขบวนแห่โคหลู่ (แห่เครื่องไทยทาน) ในงานประเพณีปอยส่างลอง ประจำปี 2568 ซึ่งขบวนแห่โคหลู่ในวันนี้ ประกอบด้วยจีเจ่ / ม้าเจ้าเมือง / อุ๊บเครื่องสักการะพระพุทธเจ้า / ต้นตะเป่ส่า / เทียนเงินเทียนทอง / โพธิ์เงินโพธิ์ทอง / หม้อน้ำต่า/ ผ้าไตร / เครื่องไทยทานหัววัด / ปุ๊กข้าวแตก และ ปิดท้ายด้วยขบวนส่างลองหรือผู้ที่บรรพชาสามเณร จำนวน 20 องค์ และจางลองหรือผู้ที่อุปสมบทพระภิกษุ 1 องค์ รวมจำนวน 21 องค์ แห่ขบวนไปตามถนนในหมู่บ้าน ไปสิ้นสุดที่วัดบ้านป่าลาน ไฮไลท์สำคัญในขบวนแห่โคหลู่ มีการแต่งกายด้วยชุดพื้นถิ่นของพี่น้องชาวไทใหญ่ ปะโอ และกะเหรี่ยงแดง ร่วมขบวนแห่ด้วยชุดชาติพันธุ์หลากสีสัน สร้างความสวยงามตระการตาให้กับขบวนแห่โคหลู่เป็นอย่างมาก

ทั้งนี้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน และ องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยโป่ง ได้ส่งเสริมและสนับสนุนการจัดงานปอยส่างลอง ซึ่งเป็นประเพณีงานบุญที่ยิ่งใหญ่ของพี่น้องชาวไทใหญ่ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่มีการจัดขึ้นเป็นประจำทุกๆปี โดยในปีนี้ หมู่บ้านป่าลาน ได้กำหนดการงานประเพณีปอยส่างลอง ประจำปี 2568 ขึ้นระหว่างวันที่ 18-20 เมษายน 2568 โดยมีเจ้าภาพใหญ่ในการจัดงานครั้งนี้ คือ พ่อส่างอุดม – แม่ส่างสุพรรณ คำใส พ่อส่างมนูญศักดิ์ แสนสีหะ – แม่ส่างมยุรี แก้วสมศรี นายชนสรณ์ – นางอารุณี เกรียงสมุทร พร้อมญาติพี่น้องและครอบครัวเด็กชายชนาภัทร เกรียงสมุทร (น้องไตตั้น) เพื่อเป็นการสืบสานประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นเอาไว้ให้คงอยู่สืบไป

Cr. ฉลอง หมั่นสกุล จ.แม่ฮ่องสอน

กองกำลังผาเมือง ปะทะขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติด วิสามัญ 2 ศพพื้นที่ฝาง ยึดยาบ้า 500,000 เม็ด


กองกำลังผาเมือง สกัดกั้นกลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ยึดยาบ้า 500,000 เม็ด กลุ่มขบวนการเสียชีวิต 2 ศพ ในพื้นที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่

จากกรณี เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 02.30 น. กองร้อยทหารม้าที่ 3 หน่วยเฉพาะกิจไชยานุภาพ จัดกำลังพล ร่วมกับ หมวดสกัดกั้น กองกำลังผาเมือง และ ชุดปฏิบัติการหน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วม ทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจเพื่อป้องกันและสกัดกั้นการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติด บริเวณ เส้นทางบ่อปูนซีเมนต์ บ้านขอบด้ง ตำบลม่อนปิ่น อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ตรวจพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยสะพายเป้ ประมาณ 6 – 8 คน จึงได้แสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจค้น แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ใช้อาวุธปืน ไม่ทราบชนิดและขนาดยิงใส่ฝ่ายเรา ทำให้เกิดการปะทะกันประมาณ 30 นาที หน่วยจึงได้จัดกำลังพลเข้าควบคุมตรวจสอบพื้นที่ ผลการปฏิบัติฝ่ายเราปลอดภัย

หลังจากนั้นได้ประสานขอกำลังพลสนับสนุนเพิ่มเติม จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ ซึ่งปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนเฝ้าตรวจ บริเวณ เส้นทางพระธาตุดอยอ่างขาง โดยในระหว่างชุดปฏิบัติการดังกล่าวเคลื่อนย้ายไปสมทบ ระหว่างทางได้ตรวจพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยสะพายเป้ ประมาณ 4 – 6 คน จึงได้แสดงตัว เพื่อขอทำการตรวจค้น แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ใช้อาวุธปืน ไม่ทราบชนิดและขนาดยิงใส่ฝ่ายเรา ทำให้เกิดการปะทะกันประมาณ 30 นาที ผลการปฏิบัติฝ่ายเราปลอดภัย หน่วยจึงได้จัดกำลังพล เข้าควบคุมและตรวจสอบพื้นที่เพิ่มเติม จำนวน 4 ชุดปฏิบัติการ จากการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ พบกลุ่มขบวนการเสียชีวิต จำนวน 2 ศพ ตรวจยึดเป้สะพายหลัง จำนวน 5 เป้ ภายในบรรจุยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) กระสอบละ 100,000 เม็ด รวมทั้งสิ้น 500,000 เม็ด, ลูกระเบิดขว้าง จำนวน 1 ลูก, กระเป๋าสัมภาระ จำนวน 1 ใบ, โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง และกุญแจรถจักรยานยนต์ จำนวน 1 ดอก

ต่อมาเมื่อเวลา 1400 พลตรี กิดากร จันทรา ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง/ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกองกำลังผาเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ เพื่อตรวจสอบการตรวจยึดยาเสพติดดังกล่าว และได้นำของกลาง ส่งให้กับสถานีตำรวจภูธรฝาง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

จากเหตุการณ์ดังกล่าว พลตรี กิดากร จันทรา ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง/ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกองกำลังผาเมือง ได้สั่งการให้หน่วยในพื้นที่ ยังคงเพิ่มความเข้มงวดในการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด อย่างต่อเนื่องต่อไป

สรุปผลการสกัดกั้นยาเสพติด กกล.ผาเมือง ในห้วงตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2567 ถึงปัจจุบัน หน่วยสามารถสกัดกั้นยาเสพติดได้ 246 ครั้ง จับกุมผู้ต้องหาได้ 268 คน ตรวจยึดยาบ้าได้ 95,856,085 เม็ด, เฮโรอีน 145 กิโลกรัม, ไอซ์ 7,141 กิโลกรัม, ฝิ่น 22.1 กก. และ คีตามีน 355 กิโลกรัม จากการปะทะกับเจ้าหน้าที่ จำนวน 37 ครั้ง กลุ่มขบวนการฯ เสียชีวิต 13 ศพ ซึ่งหากยาเสพติดที่ตรวจยึดได้ดังกล่าว ถูกลำเลียงเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพมหานคร จะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจจากมูลค่าของยาเสพติดที่จำหน่ายถึง 22,020 ล้านบาท (22,020,960,850 บาท)

เชียงราย ธนาธร ลงพื้นที่ ช่วยหาเสียง นายกเล็ก ชูนโยบายพัฒนาเมือง เน้นบริหารโปร่งใส

เชียงราย ธนาธร ลงพื้นที่ ช่วยหาเสียง นายกเล็ก ชูนโยบายพัฒนาเมือง เน้นบริหารโปร่งใส

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 20 เมษายน 2568 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย เพื่อร่วมปราศรัยหาเสียงสนับสนุน ดร.ศราวุธ สุตะวงค์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงราย หมายเลข 1 รวมถึงผู้สมัครสมาชิกเทศบาลนครเชียงราย ในนามพรรคประชาชน ที่ ลานหน้าวัดเชตุพน (สันโค้งน้อย) อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย โดยมีนายชิตวัน ชินอนุวัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดเชียงราย เขต 1 พรรคประชาชน พร้อมสมาชิกพรรคให้การต้อนรับ ในการปราศรัย นายธนาธร ได้กล่าวถึงคุณสมบัติของ ดร.ศราวุธ สุตะวงค์ ว่าเป็นผู้มีผลงานที่ชัดเจนด้านการพัฒนาโรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนจนสามารถยกระดับโรงเรียนสู่มาตรฐานระดับประเทศ พร้อมชี้ถึงปัญหาในเขตเทศบาลนครเชียงราย เช่น ปัญหาขยะและความสะอาดในตลาด ซึ่งต้องการผู้บริหารที่เข้ามาแก้ไขอย่างจริงจัง

นายธนาธรกล่าวย้ำว่า การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงราย มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการเลือกตั้งระดับประเทศ เพราะงบประมาณที่จัดสรรให้ท้องถิ่นในแต่ละปีมีมูลค่าหลายพันล้านบาท การเลือกผู้นำที่ดีจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้ภาษีของประชาชนถูกใช้ไปอย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า

“เทศบาลนครเชียงรายมีพื้นที่เพียง 60 ตารางกิโลเมตร แต่ได้รับงบประมาณจำนวนมาก จึงเป็นพื้นที่ที่บริหารได้ง่าย หากได้คนดีมาบริหารก็สามารถพัฒนาเมืองได้อย่างรวดเร็ว” นายธนาธรกล่าว

นายธนาธรกล่าวอีกว่า ผลการเลือกตั้งทั่วไปที่ผ่านมา ที่พรรคประชาชนได้คะแนนเสียงอันดับหนึ่งทั่วประเทศ แต่ไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล และปัจจุบันทำหน้าที่ฝ่ายค้านในการตรวจสอบการทำงานของฝ่ายบริหาร พร้อมระบุว่า หากพรรคประชาชนได้รับโอกาสในสนามเลือกตั้งท้องถิ่น ตนต้องการเห็นตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครเชียงรายเป็นของพรรค เพื่อให้ ดร.ศราวุธ เข้ามาบริหาร และสัญญาว่างบประมาณทุกบาทของประชาชนจะไม่ถูกคอร์รัปชัน เพราะจะมีการตรวจสอบจากทีมงานของพรรคอย่างใกล้ชิดตลอดช่วงการทำงาน

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

วิถีวัฒนธรรมของกะเหรี่ยงแดง ในงานประเพณีปอยต้นธี (วันปีใหม่) ที่บ้านห้วยมะเขือส้ม แม่ฮ่องสอน

วิถีวัฒนธรรมของกะเหรี่ยงแดง ในงานประเพณีปอยต้นธี (วันปีใหม่) ที่บ้านห้วยมะเขือส้ม ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน

18 เมษายน 2568 ปอยต้นธีมาจากภาษาไทใหญ่ คำว่าปอย หมายถึง งาน คำว่าต้นธี หมายถึง ต้นไม้ที่มีการแกะสลัก และมีการประดับตกแต่งให้สวยงามโดยมีลักษณะคล้ายร่ม (ธี ภาษาไทใหญ่แปลว่าร่ม) เมื่อนำคำ 2 คำมาประสมกัน เป็นปอยต้นธี จะหมายถึง งานประเพณีปีใหม่ ของกลุ่มชาติพนธุ์กะเหรี่ยงแดง และกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงคอยาว

“ต้นธี” เป็นความเชื่อทางวัฒนธรรมร่วมของกลุ่มชาติพันธุ์ในเมียนมาและชายแดนในประเทศไทย ไม่ว่าไทใหญ่ กะยอ กะแย(กะเหรี่ยงแดง) กะยัน จะนับถือต้นธี ส่วนเสาต้นธี ในอดีตจะใช้ต้นหว้า เพราะเชื่อว่าเป็นต้นไม้ต้นแรกที่ถือกำเนิดในโลก ในอตีตเสาต้นธีจะต้องเป็นต้นหว้าเท่านั้น แต่ปัจจุบันชาวกะยันได้ปรับเปลี่ยนหันมาใช้ต้นไม้อื่นแทน เช่น ต้นตองตึง ที่หาได้ง่ายกว่าแทน ส่วนคำว่า “ธี” หมายถึงร่ม หรือฉัตร เป็นส่วนปลายของ เสาต้นธี จะประดับประดาอย่างสวยงาม มีส่วนยอดที่สวมไว้ลักษณะคล้ายกับร่ม

งานปอยต้นธี จะจัดกัน 3 วัน
ในวันแรกของการประกอบพิธี เป็นวันตัดต้นธี เรียกว่า โกวกะควาง
วันที่ 2 วันประดับตกแต่งต้นธี เรียกว่า หม่ากะควางเกลอ
วันที่ 3 วันปลุกต้นธี เรียกว่า เบาถ่างกะควาง

ต้นธีที่นำมาใช้ในการประกอบพิธีกรรม ทำจากไม้ลูกหว้า หรือไม้สะเป่ (ภาษาไทยใหญ่) หรือ ภาษากะเหรี่ยงแดง เรียกว่า ตะมอเหมาะ และกะเหรี่ยงคอยาว เรียกว่า กะเม่มา

ต้นหว้าชาวกะเหรี่ยงแดงหรือกะเหรี่ยงคอยาว มีความเชื่อว่า ต้นหว้าเป็นต้นไม้ต้นแรกที่เกิดขึ้นในโลก ถือเป็นไม้มงคลที่นิยมนำยอดของต้นหว้ามาขจัดปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายแล้วจะได้สิ่งดีๆสมดั่งใจหวัง

พิธีกรรมอีกอย่างที่ถือเป็นจุดเด่นของงานนี้ก็คือ การเสี่ยงทายกระดูกไก่ เพื่อทำนายว่า ปีนี้ทั้งปี หมู่บ้านจะมีเหตุการณ์ หรือมีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้นบ้าง โดยจะนำไก่มาผ่าเอากระดูกต้นขาทั้งสองข้างมาทำนายโดยผู้นำพิธีกรรมของหมู่บ้าน ผลของการทำนายกระดูกไก่ปีนี้ ผู้ใหญ่หน่อง ผู้ใหญ่บ้านห้วยปูแกง ได้บอกกับเราว่า ผลการทำนายปีนี้ หมู่บ้านห้วยปูแกง จะมีการติดต่อกับคนภายนอกมาก จะมีคนเข้ามาในชุมชนมากกว่าปีก่อน ๆ ทำให้หมู่บ้านมีความเป็นอยู่ดีขึ้น รายได้ดี พืชผลทางการเกษตรเองก็ดีเช่นกัน

ประเพณีปอยต้นธี หรือปีใหม่ของชาวกะเหรี่ยงแดง จัดขึ้นในช่วงเดือนเมษายน ของทุกปี ปอยต้นธี เป็นงานประเพณีที่มีต้นกำเนิดจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ มีการจัดงานขึ้นครั้งแรก เมื่อปีจุลศักราช 1576 หรือปีพุทธศักราช 2363 ที่เมืองลอยก่อ รัฐคะยา สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ เป็นประเพณีที่มีมาแต่งสมัยโบราณกาลการจัดประเพณีปอยต้นธีของทุกๆปี จะมีการจัดงานขึ้นที่เมืองต้นกำเนิดก่อนที่เมืองอื่นๆจะได้จัดงานประเพณีต่อไป

Cr. ฉลอง หมั่นสกุล จ.แม่ฮ่องสอน

สพป.แม่ฮ่องสอน เขต 2 ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานศึกษากรณีได้รับผลกระทบจากเหตุวาตภัย

สพป.แม่ฮ่องสอน เขต 2 ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานศึกษากรณีได้รับผลกระทบจากเหตุวาตภัย

วันที่ 18 เมษายน 2568 ดร.นพพร เดชชิต ผอ.สพป.แม่ฮ่องสอน เขต 2 พร้อมด้วย นายภีมม์เนศ คงคาใส ผอ.กลุ่มนโยบายและแผน ว่าที่ร้อยตรีคมกริช พิกุล ผอ.กลุ่มกฎหมายและคดี และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่โรงเรียนบ้านท่าผาปุ้ม อำเภอแม่ลาน้อย เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับบุคลากรของโรงเรียน และตรวจสอบสภาพความเสียหายของอาคารเรียนและอาคารประกอบที่ได้รับผลกระทบจากเหตุวาตภัยเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2568

เบื้องต้น จากการสำรวจพบอาคารเสียหายได้แก่อาคารเรียนจำนวน 3 หลัง โรงอาหาร ห้องน้ำ ห้องพยาบาล โดยหลังคาอาคารเรียนได้รับความเสียหายทั้งหมด ทั้งนี้สมาชิก อส.กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอแม่ลาน้อยที่ 5 ร่วมกับคณะครู ชาวบ้านในพื้นที่ ได้ทำการขนย้ายสิ่งของที่จำเป็นในการเรียนการสอน นำไปไว้ในอาคารที่แข็งแรงปลอดภัย พร้อมให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับระเบียบปฏิบัติในการดำเนินการเพื่อประกอบการเสนอของบประมาณในการปรับปรุงซ่อมแซมและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

แจ้งความคนหาย ชาวบ้านแม่กองคา ระดมค้นหาชายวัย 38 พลัดหลงป่า 7 วัน ยังไร้วี่แวว จุดธูปขอเจ้าป่าเจ้าเขาเปิดทาง

แจ้งความคนหาย ชาวบ้านแม่กองคา ระดมค้นหาชายวัย 38 พลัดหลงป่า 7 วัน ยังไร้วี่แวว จุดธูปขอเจ้าป่าเจ้าเขาเปิดทาง

วันที่ 18 เมษายน 2568 ณ สถานีตำรวจท่าตาฝั่ง ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน นายชาญชัย อมรใฝ่สีแดง ผู้ใหญ่บ้านแม่กองคา พร้อมด้วย นางศิริพร ผู้คงความเพียร อาขุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29/2 หมู่ 10 ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ได้เข้าแจ้งความคนหายออกจากบ้าน ต่อ ร.ต.อ.ประเสริฐ ภูมิไท ร้อยเวร สภ.ท่าตาฝั่ง ว่า เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2568 ซึ่งเป็นสามี นายยุทธนา จตุพรสีวลี วัย 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/2 หมู่ 8 ต.แม่ลาน้อย อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งหายออกจากบ้านเมื่อช่วงกลางวัน โดยสวมเสื้อบายคล้าน อส.สีน้ำตาล กางเกงสีน้ำตาลลายขาว พร้อมสวมหมวกโม่งปิดบังใบหน้าสีดำชมพู พร้อมรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า ดรีม สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน คาดว่าน่าจะออกไปหาของป่า เหมือนทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา

จนกระทั่งเมื่อช่วง เวลา 16.00 น.ของวันเดียวกัน มีพายุฝนตกหนักและมีน้ำป่าหลากเกรงว่าสามีจะได้รับอันตราย จึงแจ้งผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านช่วยกันออกตามหา ซึ่งผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านได้ระดมกำลังกันออกตามหาตามเส้นทางเดินป่าที่คาดว่าผู้สูญหายจะไป จนกระทั้งพบจักรยานยนต์บริเวณสันเขาป่าบ้านแม่กองคา แต่ไม่พบตัวสามี ที่สูญหายแต่อย่างใด จึงพากันออกตามหาอีกทั้งคืน โดยผู้ใหญ่บ้านได้แบ่งกำลังชาวบ้านออกค้นหาตามจุดต่างๆ ในรัศมีป่ารอบหมู่บ้าน ตั้งแต่วันที่ 12- 16 เมษายน ก็ยังไม่พบตัวสามี ซึ่งอาจพลัดหลงในป่า

แต่ ครอบครัว และ ชาวบ้าน ต่างก็รอด้วยความหวังว่าผู้สูญหาย น่าจะมีชีวิตอยู่เพราะไม่มีเหตุปัจจัยในการเสียชีวิต ไม่พบศพ ไม่มีกลิ่นเหม็น พร้อมกันนี้ ได้มีการนำอาหารเครื่องดื่ม ของส้มของหวาน มาเซ่นไหว้เจ้าป่าเจ้าเขา ขอให้เปิดทางเปิดการมองเห็นในการค้นหาผู้สูญหาย

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

นายอำเภอแม่ลาน้อย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งตรงจสอบเหตุพายุลมกรรโชกแรงพัดอาคารโรงเรียนบ้านท่าผาปุ้มได้รับความเสียหาย

นายอำเภอแม่ลาน้อย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งตรงจสอบเหตุพายุลมกรรโชกแรงพัดอาคารโรงเรียนบ้านท่าผาปุ้มได้รับความเสียหาย

วันที่ 18 เมายน 2568 อำเภอแม่ลาน้อย โดยว่าที่ร้อยตรีวิทยา โปทาศรี นายอำเภอแม่ลาน้อย พร้อมด้วย นายฐณธรณ์ คำแสน ปลัดอำเภองานป้องกัน นำสมาชิก อส.กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอแม่ลาน้อย ที่ 5 ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากเหตุวาตภัย ลมกระโชกแรง ณ โรงเรียนท่าผาปุ้ม หมู่ที่ 4 ตำบลท่าผาปุ้ม อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน

เบื้องต้นจากการสำรวจพบอาคารเสียหายได้แก่อาคารเรียนจำนวน 3 หลัง โรงอาหาร ห้องน้ำ ห้องพยาบาล โดยหลังคาอาคารเรียนได้รับความเสียหายทั้งหมด ทั้งนี้สมาชิก อส.กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอแม่ลาน้อยที่ 5 ร่วมกับคณะครู ชาวบ้านในพื้นที่ ได้ทำการขนย้ายสิ่งของที่จำเป็นในการเรียนการสอน นำไปไว้ในอาคารที่แข็งแรงปลอดภัย และได้ประสานสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 2 เข้าสำรวจความเสียหาย เพื่อเร่งแก้ไขและซ่อมแซมอาคารเรียนต่อไป

ทั้งนี้ นายอำเภอแม่ลาน้อยได้กำชับ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ หากพี่น้องประชาชนได้รับความเสียหายจากเหตุภัยธรรมชาติหรือวาตภัย สามารถขอความช่วยเหลือหรือแจ้งมายังฝ่ายความมั่นคงอำเภอแม่ลาน้อย เพื่อแก้ไขปัญหาเบื้องต้น และจะได้ดำเนินการประสานภาคีเครือข่ายให้ความช่วยเหลือต่อไป

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน