ผอ.สบอ.16 แม่สะเรียง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม รับฟังปัญหาอุปสรรค ร่วมวางแผน ให้แนวนโยบายฯ สู้ไฟป่า

ผอ.สบอ.16 แม่สะเรียง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม รับฟังปัญหาอุปสรรค ร่วมวางแผน ให้แนวนโยบายฯ สู้ไฟป่า

วันที่ 26 มีนาคม 2568 นายพรเทพ เจริญสืบสกุล ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 สาขาแม่สะเรียง พร้อมด้วยคณะ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยม ร่วมประชุมวางแผนเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควัน ชุดปฏิบัติการในพื้นที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวิน และ อุทยานแห่งชาติแม่สะเรียง (เตรียมการ) เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจในการต่อสู้กับไฟป่า พร้อมรับฟังปัญหาอุปสรรคในการทำงาน และ ร่วมวางแผนในการปฏิบัติการดับไฟให้มีประสิทธิภาพ ปลอดภัยในทุกๆพื้นที่ พร้อมมอบนโยบายเน้นย้ำในการปฏิบัติงาน โดยยึดหลักการทำงานที่ “รวดเร็ว ตรงเป้า เข้าถึงพื้นที่ มีประสิทธิภาพสูงสุด” และต้องสร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่เพื่อลดการเผาและจุดไฟในพื้นที่ป่า พร้อมมอบเสบียงอาหาร และกล่าวให้ขวัญและกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

นายอำเภอแม่สะเรียง เน้นย้ำ พบไฟดับไว ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนร่วมช่วยป้องกัน เฝ้าระวังการลอบเผาป่า

นายอำเภอแม่สะเรียง เน้นย้ำ พบไฟดับไว ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนร่วมช่วยป้องกัน เฝ้าระวังการลอบเผาป่า

วันที่ 25 มีนาคม 2568 นายวรศักดิ์ พานทอง นายอำเภอแม่สะเรียง ย้ำชัด การเผาป่าเกิดหมอกควันไฟ เกิดผลกระทบต่อชีวิตพี่น้องประชนรอบด้านทั้งทรัพยากรธรรมชาติ เศรษฐกิจ สุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ในส่วนของ เจ้าหน้าที่ได้ทำหน้าที่กันอย่างเต็มที่เมื่อเกิดจุดความร้อนก็ระดมกำลังเข้าพื้นที่ พบไวดับไว เพื่อลดปัญหาการลุกลาม และ พยายามไม่ให้มีไฟใหม่เกิดขึ้น แต่ด้วยปัญหาและอุปสรรคในการทำงาน ด้วยสภาพภูมิประเทศของอำเภอแม่สะเรียงเป็นป่าเขาดอยสูง การเข้าไปดับไฟก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก บางจุดรถน้ำเข้าไม่ถึงฉีดไมได้ เป็นภูเขาสูงชันเจ้าหน้าที่ไม่สามารถขึ้นไปดับได้ ต้องรอให้ไฟลามลงมาแล้วค่อยดับ โดยเฉพาะพื้นที่ริมทางหลวง มีไฟป่าเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เช่นถนนสาย 108 แม่สะเรียง – แม่ฮ่องสอน เขตรอยต่ออำเภอแม่ลาน้อย และ เส้นทาง มุ่งสู่จังหวัดเชียงใหม่ และ เส้นทางหลวง 105 แม่สะเรียง – แม่สอด เขตรอยต่ออำเภอสบเมย ซึ่งพบว่าเกิดไฟป่าลุกลามมาจากดอยสูง เจ้าหน้าที่ต้องพลัดเปลี่ยนเวรกันในการลาดตะเวนเส้นทางดังกกล่าวเพื่อเฝ้าระวังปัญหาไฟป่าที่อาจจะเกิดขึ้นได้อีก

ทั้งนี้ ได้ดำเนินการควบคู่กับการรณรงค์สร้างการตระหนักรู้แบบเคาะประตูบ้านต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนได้รู้ถึงผลกระทบต่างๆที่เกิดขึ้น ซึ่งมาตรการจะไม่เกิดผลถ้าพี่น้องประชาชนไม่ให้ความร่วมมือ ไม่เห็นความสำคัญไม่ตระหนักรู้ถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นของปัญหาไฟป่าและหมอกควันไฟ ในส่วนการบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิดกรณีเผาป่า หากตรวจพบก็จะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด และ วอนพี่น้องประชาชนช่วยหน่วยงานภาครัฐในการสอดส่องการกระทำผิดเกี่ยวกับการลักลอบเผาป่า หากมีการพบเจอให้บันทึกหลักฐานเพื่อเอาผิดกับคนเผา เพื่อร่วมกันสร้างอากาศและลมหายใจที่ปลอดภัยให้กับชุมชนคนแม่สะเรียง

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

บ้านละอูบ อ.แม่ลาน้อย ร่วมกับเครือข่ายลเวือะเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม จัดงาน “สืบสานวัฒนธรรมชนเผ่าลเวือะ ครั้งที่ 4”

บ้านละอูบ อ.แม่ลาน้อย ร่วมกับเครือข่ายลเวือะเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม จัดงาน “สืบสานวัฒนธรรมชนเผ่าลเวือะ ครั้งที่ 4” เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์วัฒนธรรมชนเผ่าลเวือะ และเผยแพร่วิถีชีวิตสู่สาธารณะชน

วันที่ 25 มีนาคม 2568 นายณัฐพงศ์ ไผ่พันธุ์พฤกษ์ ผู้ใหญ่บ้านละอูบ หมู่ที่ 6 ตำบลห้วยห้อม อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า หมู่บ้านละอูบ ร่วมกับเครือข่ายลเวือะเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม ภายใต้การสนับสนุนขององค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดงาน “สืบสานวัฒนธรรมชนเผ่าลเวือะ ครั้งที่ 4” อย่างยิ่งใหญ่ ระหว่างวันที่ 21-22 มีนาคม 2568 โดยในวันที่ 22 มีนาคม 2568 เวลา 10.00 น.ว่าที่ร้อยตรี วิทยา โปทาศรี นายอำเภอแม่ลาน้อย เป็นประธานเปิดงาน มีพี่น้องชาติพันธุ์ลเวือะ ร่วมงานครั้งนี้กว่าพันคน

สำหรับงานครั้งที่ 4 มีการสานต่อกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งการแสดงศิลปวัฒนธรรม เวทีเสวนา และกิจกรรมที่เชื่อมโยงเครือข่ายชุมชนลเวือะ เพื่อให้เกิดความร่วมมือและการสนับสนุนที่ตรงกับความต้องการของชุมชน

ภายในงานกิจกรรมที่น่าสนใจ ได้แก่ ขบวนวันลเวือะ เวทีเสวนาหัวข้อ “ ร่างกฏหมายคุ้มครองชาติพันธุ์กับแนวคิดพื้นที่คุ้มครองส่งเสริมวิถีชีวิตชนเผ่าลเวือะ โชว์ฟ้อนดาบลเวือะ และพิธีกรรมบ้านลเวือะ ดนตรีจากศิลปินชนเผ่าลเวือะ นิทรรศการวิถีลเวือะ การจำหน่ายเครื่องเงิน จักสาน ผ้าทอ และการจำหน่ายผลผลิตการเกษตรจากโครงการหลวง การเดินแฟชั่นโชว์หนุ่มสาวลเวือะ การแสดงจากหมู่บ้านต่าง ๆ การแข่งขันตำข้าวเปลือก สานตะกร้า ตำข้าวปุก การปั่นด้าย และแข่งขันทำอาหารลเวือะ

ทั้งนี้ ได้มีพิธีมอบธงวันลเวือะให้กับเจ้าภาพจัดงาน “สืบสานวัฒนธรรมชนเผ่าลเวือะ ครั้งที่ 5 ”โดยมีเจ้าภาพคือหมู่บ้านอมพาย อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน รับมอบธงเพื่อเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานครั้งต่อไป

นายคำปัน ประทีปพจน์ ประธานเครือข่ายลเวือะ ได้กล่าวว่า งาน “สืบสานวัฒนธรรมชนเผ่าลเวือะ ” มีเป้าหมายเพื่อสร้างพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างชุมชนลเวือะและหน่วยงานภาคีเครือข่าย ภายใต้แนวคิด “การพัฒนาการท่องเที่ยวชุมชนท้องถิ่น บนฐานการอนุรักษ์วัฒนธรรมและทรัพยากรชุมชน” รวมถึงการถ่ายทอดวัฒนธรรมสู่เยาวชนรุ่นใหม่ โดยมุ่งหวังให้เกิดการพัฒนาชุมชนบนฐานวัฒนธรรมดั้งเดิมอย่างยั่งยืน

Cr. ฉลอง หมั่นสกุล จ.แม่ฮ่องสอน

ตามจับข้ามปี รวบได้แล้วสาวนก ต่อลวงเด็กหญิง 14 ปี ให้ขี้คุกหน้าลายข่มขืนยับ

ตามจับข้ามปี รวบได้แล้วสาวนก ต่อลวงเด็กหญิง 14 ปี ให้ขี้คุกหน้าลายข่มขืนยับ

เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 25 มี.ค.2568 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.,พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ,พล.ต.ต.ณัฐพล สัตยานุรักษ์ รอง ผบช.ก.,พล.ต.ต.ทรงกรด เกริกกฤตยา ผบก.ปคม.สั่งการให้ พ.ต.อ.ชวินโรจน์ ภีมรัชตธำรงค์ ผกก.4 บก.ปคม.ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.แม่จัน จ.เชียงราย,ตม.เชียงราย,กก.4 ปทส.นำหมายจับศาลเยาวชนและครอบครัว จ.เชียงราย ที่ 15/2567 จับกุมตัว น.ส.พิม อายุ 18 ปี ชาวหมู่ 5 ต.ดอยลาน อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ผู้ต้องหาคดี “เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหาล่อไปหรือพาไปซึ่งเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม พรากเด็กอายุยังไม่ถึง 15 ปี ไปจากบิดามารดาผู้ปกครองหรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร ,หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นหรือกระทำการด้วยประการใดๆให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย”

สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ หลังจากวันที่ 7 ก.ย.2567 ได้เกิดเหตุ ด.ญ.ไก่ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี ถูก น.ส.พิม ล่อลวงให้ไปที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 2 ต.สันทราย อ.แม่จัน จ.เชียงราย เพื่อพานั่งดื่มกินสุรากับ นายเชนหรือ “ล้นหน้าลาย” เพราะมีรอยสักเต็มใบหน้า จากนั้น นายเชนหรือ “ล้นหน้าลาย” ได้พาเด็กหญิงเข้าไปในห้องนอนแล้วข่มขืนกระทำชำเรา เมื่อเด็กหญิงได้สติได้วิ่งหลบหนีออกจากบ้านแต่ นายเชนหรือ “ล้นหน้าลาย” ได้ตามไปจับตัวแล้วใส่กุญแจมือไว้บนบ้าน ก่อนจะลงมือข่มขืนอีก ต่อมา ด.ญ.ไก่ (นามสมมุติ) อาศัยจังหวะที่ นายเชนหรือ “ล้นหน้าลาย”เผลอ จึงได้วิ่งหลบหนีออกจากบ้านไปแจ้งญาติ จนตำรวจไปจับกุมตัว นายเชนหรือ “ล้นหน้าลาย” ถูกดำเนินคดีช้อหา “ร่วมกันพรากและพาเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแล โดยปราศจากเหตุสมควรเพื่อการอนาจาร,กระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี,กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีซึ่งมิใช่ภรรยาของตน โดยเด็กนั้นจะยิยอมหรือไม่ก็ตาม” แล้ว

แต่อย่างไรก็ตาม น.ส.พิม ได้หลบหนีไปทำได้ ทำให้เจ้าหน้าที่ได้ขออนุมัติหมายจับและออกติดตามหาตัวมานานข้ามปี จนกระทั่งช่วงเช้าวันที่ 25 มี.ค.2568 ทราบว่า น.ส.พิม ได้ไปอยู่ที่บ้านไม่มีเลขที่ หลังหนึ่งใกล้ไร่อ้อย ในพื้นที่หมู่ 10 ต.ไผ่ล้อม อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก จึงตามไปจับกุมตัวได้ในที่สุด ซึ่ง น.ส.พิม ยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง เพราะถูก นายเชนหรือ “ล้นหน้าลาย” ข่มขู่ให้พาเด็กหญิงไปให้ข่มขืนไม่เช่นนั้นตนเองจะถูกข่มขืนเสียเอง เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่จัน จ.เชียงราย ดำเนินคดีตามกฏหมาย

ทางด้านนางบัวผา อายุ 69 ปี แม่ของ นายเชนหรือ “ล้นหน้าลาย” กล่าวว่า บุตรชายเคยทำผิดคดียเสพติดและถูกจับกุมจนต้องเข้าออกเรือนจำมาแล้วหลายครั้ง สำหรับเหตุการณ์ข่มขืนเกิดขึ้นที่บ้านของตน ซึ่ง นายเชนหรือ “ล้นหน้าลาย” ได้พาเด็กหญิงไปข่มขืน เมื่อเด็กหญิงวิ่งหนีไปแจ้งตำรวจ บุตรชายของตนก็หลบหนีออกจากบ้านไป โดยได้ไปอาศัยอยู่ที่บ้านญาติ ซึ่งห่างออกจากบ้านไปประมาณ 4 กิโลเมตร ก่อนจะถูกตำรวจตามไปจับกุมตัวได้ในที่สุด

เชียงราย โครงการเสนาธิการทหารสายธารใจ สร้างชลธารใสสู่สังคม มอบ อาคารบริการน้ำดื่ม ระบบ RO ให้กับโรงเรียนบ้านโป่ง

เชียงราย โครงการเสนาธิการทหารสายธารใจ สร้างชลธารใสสู่สังคม มอบ อาคารบริการน้ำดื่ม ระบบ RO ให้กับโรงเรียนบ้านโป่ง

เวลา 10.00 น. วันที่ 24 มี.ค. 68 ที่โรงเรียน บ้านโป่ง ตำบลโป่งงาม อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย วิทยาลัยเสนาธิการทหาร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ร่วมกับ นักศึกษาหลักสูตรเสนาธิทหารรุ่นที่ 66 และ นายทหารนักเรียนเสนาธิการร่วมรุ่นที่ 6 ได้ส่งมอบ อาคารบริการน้ำดื่ม ระบบ RO ให้กับโรงเรียนบ้านโป่ง และมอบอาหารกลางวันมื้อพิเศษให้กับนักเรียน ซึ่งการส่งมอบอาคารบริการน้ำดื่ม ระบบ RO ให้กับโรงเรียนบ้านโป่ง เป็นโครงการ เสนาธิการทหารสายธารใจ สร้างชลธารใสสู่สังคม เพื่อให้นักเรียนได้มีน้ำดื่มที่สะอาด และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

สำหรับโรงเรียนบ้านโป่งเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 149 หมู่ที่ 8 ตำบลโป่งงาม อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2508อยู่ภายใต้การดูแลของ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3สังกัดกระทรวงศึกษาธิการสภาพแวดล้อมของโรงเรียนมีพื้นที่ทั้งหมด 8 ไร่ 3 งาน 59 ตารางวา ลักษณะโดยรอบโรงเรียน ผู้ปกครองของนักเรียนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพ เกษตรกรรมและรับจ้างทั่วไป มีจำนวนนักเรียนทั้งหมด 62 คนนักเรียนส่วนใหญ่มาจากกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ได้แก่ ไทใหญ่ อาข่า ม้ง ลาหู่

Cr. ณัฐวัตร จ.เชียงราย

หน.อช.สาละวิน เปิดแผนสกัดดับไฟผืนป่าใหญ่ 2 คืน 3 วัน ป้องกันลามเข้าพื้นที่ core area สัตว์ป่าชุกชุม

หน.อช.สาละวิน เปิดแผนสกัดดับไฟผืนป่าใหญ่ 2 คืน 3 วัน ป้องกันลามเข้าพื้นที่ core area สัตว์ป่าชุกชุม

วันที่ 24 มีนาคม 2568 นายลิขิต ไหวพรหม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสาละวิน เปิดเผยว่า วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ อช.สาละวิน ร่วมกับทาง หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าสกลนคร และ หัวหน้าชุดเสือไฟ มาร่วมกับทาง ทาง อช.สาละวินในการวางแผนในการเข้าพื้นที่ป่า กำหนดระยะเวลา 2 คืน 3 วัน เพื่อเข้าดับไฟในพื้นที่หน่วยอุมดา เป้าหมาย อนุรักษ์เข้มมข้น พื้นที่เกิดไฟป่าบริเวณดอยบ้านแม่ดึ๊ ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน จุดฮอตสปอร์ต สะสม 10 จุด (อ้างอิงจาก https://firms.modaps.eosdis.nasa.gov) พื้นที่ดังกล่าวมีความสำคัญ เพราะเป็นพื้นที่ป่าสมบูรณ์ ห่างไกลชุมชน สัตว์ป่าชุกชุม อาทิ เลียงผา เสือดาว เสือไฟ ถือเป็นพื้นที่อนุรักษ์เข้มข้น (core area) ของอุทยานแห่งชาติสาละวิน จึงมีความสำคัญเร่งด่วนในการเข้าดับไฟแผนปฏิบัติงานดับไฟป่าบริเวณดอยบ้านแม่ดึ๊ ระหว่างวันที่ 24 – 27 มีนาคม 2568 (2 คืน 3 วัน) โดยเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการดับไฟสายที่ 1 เจ้าหน้าที่หน่วยอุมดา กับ ราษฏรบ้านแม่ดึ๊ ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง ได้เข้าดำเนินการทำแนวต้านไฟในพื้นที่เป้าหมาย ร่วมกับทาง กำลังพลทหารพราน หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 ฐานปฎิบัติการสบแงะ

ทั้งนี้ ทาง อช.สาละวิน ได้มี การเตรียมจัดกำลังพล แบ่งเป็น 2 ชุดปฏิบัติงาน ชุดที่ 1 หน่วยพิทักษ์ป่า สว.6 (อุมดา) ร่วมกับราษฎรอาสาเฝ้าระวังไฟป่าบ้านแม่ดึ๊ รับผิดชอบแนวปฏิบัติ เส้นสีเขียว จำนวนประมาณ 6-10 นาย ชุดที่ 2 เจ้าหน้าที่ส่วนกลาง อุทยานแห่งชาติสาละวิน ร่วมกับชุดเสือไฟ จ.สกลนคร รับผิดชอบแนวปฏิบัติ เส้นสีน้ำเงิน จำนวนประมาณ 10–15 นาย พร้อม วิทยุสื่อสารประจำชุดเพื่อรายงานสถานการณ์ระหว่างปฏิบัติ โดยเริ่มปฏิบัติการเข้าพื้นที่เป้าหมาย วันที่ 24 – 27 มีนาคม 2568 ระยะเวลา: 2 คืน 3 วัน พร้อมจัดเตรียม เสบียงอาหารข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม (เตรียมให้ครบสำหรับ 3 วัน) อุปกรณ์พักแรม อุปกรณ์ดับไฟป่าครบครัน รถยนต์และรถจักรยานยนต์วิบากในการเข้าพื้นที่ลาดชัน แผนการปฏิบัติการแบ่งเป็น 2 สาย สายที่ 1 โดยใช้ ห้วยแม่ดึ๊ เป็นแนวต้านไฟ ใช้เครื่องเป่าลมทำแนวกันไฟบริเวณชายขอบ ตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป ใช้ ไฟเผากลับ เพื่อสร้างแนวควบคุม ควบคุมการเผาโดยให้ลมอยู่ในทิศทางที่คาดการณ์ได้ สายที่ 2 ใช้ แนวลำห้วยแยกแม่ชบา เป็นแนวต้านไฟ ดำเนินการแบบเดียวกันกับสายที่ 1 ทำแนวกันไฟ และใช้ไฟเผากลับในช่วงเวลาเหมาะสม ต้องประสานกันระหว่างสองชุดเพื่อไม่ให้แนวไฟมาชนกันอย่างไม่คาดคิด ภารกิจดังกล่าวเป้าหมาย เพื่อสกัดไฟไม่ให้ลามเข้าสู่พื้นที่ชั้นใน โดยเฉพาะพื้นที่ที่อยู่สูงกว่า 800 เมตร

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

เชียงราย รวบแก๊งขนยาเค 49 กิโลกลางเมืองเชียงราย

เชียงราย รวบแก๊งขนยาเค 49 กิโลกลางเมืองเชียงราย

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านดู่, เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์(AI) ศอ.ปส.ภ.5, เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย,เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส 3 บช.ปสได้ร่วมกันจับกุม นายสมชัย สงวนนามสกุล อายุ 32 ปี ชาว ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย น.ส.วิมาลา สงวนนามสกุล อายุ 43 ปี ชาว ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย นายจะสอ สงวนนามสกุล อายุ 42 ปี ชาว ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย พร้อมด้วยของกลาง พัสดุ 3 กล่อง บรรจุเคตามี แบ่งบรรจุเป็นก้อนบรรจุภายในถุงพลาสติก พิมพ์ลายหน้าเสือ 777 รวมประมาณ 49 ก้อน (ก้อนละประมาณ 1 กก.) รวมน้ำหนัก 49 กิโลกรัม รถยนต์ 1 คัน รถจักรยานยนต์ 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง

โดยการการจับกุมครั้งนี้เจ้าหน้าที่สวน สภ.เมืองเชียงราย พบรถยนต์กระบะฟอร์ด สวมป้ายทะเบียนขับขี่เข้ามาในพื้นที่จำนวนบ่อยครั้ง จึงได้ติดตามตรวจสอบพบว่ารถคันดังกล่าวเดินทางมาจากพื้นที่แม่ยาว มาที่จอดรอบริเวณถนนกลางเวียง ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย จึงได้แสดงตัวเพื่อทำการตรวจค้น ผลการตรวจสอบพบบุคคลภายในรถ 2 คน เป็น ชาย 1 คน หญิง 1 คน และกล่องพัสดุ จำนวน 3 กล่อง สอบถามให้ข้อมูลว่าพวกตนไม่ทราบว่าสิ่งของภายในคืออะไร โดยได้รับการว่าจ้างให้ทำการไปส่งพัสดุ และในบริเวณใกล้เคียงพบรถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนจอดอยู่บริเวณใกล้เคียง ลักษณะมีพิรุธจึงทำการตรวจสอบ สอบถามยอมรับว่าได้เดินทางมาด้วยกัน จึงเชิญตัวทั้งสาม มาที่ สภ.เมืองเชียงรายเพื่อทำการตรวจสอบ

เมื่อเปิดกล่องพัสดุพบว่าภายในบรรจุ เคตามีน ลักษณะเป็นก้อนสีขาว ห่อหุ้มด้วยถุงพลสติกพิมพ์ลายหน้าเสือ 777 จำนวน 49 ห่อ รวมน้ำหนักประมาณ 49 กิโลกรัม ทางเจ้าหน้าที่ตึงได้ทำการควบคุมตัวทั้งหมดเอาไว้

และจากการตรวจสอบประวัติ น.ส.วิมาลาฯ โดยละเอียด พบว่า เป็นบุคคลผู้มีหมายจับของศาลจังหวัดเชียงราย ที่ จ.634/2567 ลงวันที่ 13 ธันวาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย,ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) โดยการมีไว้เพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน เป็นการกระทำโดยหัวหน้า ผู้มีหน้าที่สั่งการหรือมีหน้าที่จัดการในเครือข่ายอาชญากรรม และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด (ยาไอซ์) และได้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน” จึงได้แสดงหมายจับให้กับ น.ส.วิมาลาฯ ดูและตรวจสอบ รับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริงและไม่เคยถูกจับตามหมายจับนี้มาก่อน

จากนั้นจึงควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงราย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชน พร้อมนายอำเภอแม่ฟ้าหลวง ร่วมมอบบ้านหลังใหม่ ให้นักเรียนในกองทุนกู้วิกฤติเพื่อชีวิตเด็ก

มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชน พร้อมนายอำเภอแม่ฟ้าหลวง ร่วมมอบบ้านหลังใหม่ ให้นักเรียนในกองทุนกู้วิกฤติเพื่อชีวิตเด็ก

วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2568 โครงการพัฒนาเด็ก ซี.ซี.เอฟ. จังหวัดเชียงรายนำโดยนายปรีชา ศิรินาม นายอำเภอแม่ฟ้าหลวง นายปิติ หวุ่ยยือ กำนันตำบลเทอดไทย ทีมสารวัตรกำนัน และนางสาวณัฏฐนิช คำดา เจ้าหน้าที่โครงการอาวุโส ได้ลงพื้นที่บ้านปางมะหัน ตำบลเทอดไทย อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย เพื่อมอบบ้านหลังใหม่และสิ่งของจำเป็นแก่เด็กหญิงทัดดาว แซ่หยี ซึ่งเป็นหนึ่งในเด็กกองทุนกู้วิกฤติเพื่อชีวิตเด็ก

การมอบบ้านหลังใหม่ในครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงการให้ที่อยู่อาศัย แต่เป็นการมอบโอกาสในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดีกว่า สิ่งของจำเป็นที่มอบให้เพิ่มเติม อาทิ อุปกรณ์เครื่องครัว ชุดเครื่องนอน ทุนประกอบอาชีพ และสัตว์เลี้ยงอย่างหมูและไก่พันธุ์พื้นเมือง ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ครอบครัวของเด็กหญิงทัดดาวสามารถสร้างแหล่งอาหารและหารายได้เลี้ยงดูตนเองได้อย่างยั่งยืน

สำหรับ มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชนฯ เป็นองค์กรที่มุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กและเยาวชนที่ด้อยโอกาสในประเทศไทย โดยดำเนินโครงการต่างๆ ที่หลากหลาย เพื่อสนับสนุนด้านการศึกษา สุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดีของเด็กๆ การมอบบ้านหลังใหม่และสิ่งของจำเป็นในครั้งนี้เป็นเพียงหนึ่งในหลายโครงการที่มูลนิธิฯ ดำเนินการ เพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับเด็กและเยาวชนที่ต้องการความช่วยเหลือ

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

อำเภอแม่สะเรียงร่วมใจ ส่งมอบ ความห่วงใยให้ประชาชน และเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า

อำเภอแม่สะเรียงร่วมใจ ส่งมอบ ความห่วงใยให้ประชาชน และ เจ้าหน้าที่ดับไฟป่า

วันที่ 22 มีนาคม 2568 ณ ที่ว่าการอำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน นายวรศักดิ์ พานทอง นายอำเภอแม่สะเรียง พร้อมด้วย คณะกรรมการและสมาชิกกิ่งกาชาดอำเภอแม่สะเรียง ร่วมแจกจ่ายหน้ากากอนามัย (N95) ป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ให้แก่ประชาชนชาวอำเภอแม่สะเรียง เนื่องจากวันนี้ พื้นที่อำเภอแม่สะเรียง มีค่า PM2.5 เพิ่มสูงขึ้นอยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยได้มอบให้ท่านละ 2 ชิ้น (500 คน) สามารถติดต่อขอรับได้ ณ ที่ว่าการอำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน

พร้อมกันนี้ คุณอุบล สุขศิริ (ครูรักษ์โลก) ผู้บริหารร้านซุปเปอร์เวิร์มรีไซเคิล ส่งมอบน้ำดื่มเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ ให้เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครดับไฟป่า ที่ได้ทุ่มเท เสียสละ เพื่อให้ชาวแม่สะเรียงมีอากาศสะอาด โดยส่งมอบน้ำดื่มผ่านกิ่งกาชาดอำเภอแม่สะเรียง เพื่อส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานดับไฟป่าในพื้นที่ ต่อไป

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

นายอำเภอแม่สะเรียงนำทีมลุยดับไฟ หลังอุทยานแห่งชาติแม่สะเรียง พบควันไฟป่าคลุ้ง

นายอำเภอแม่สะเรียงนำทีมลุยดับไฟ หลังอุทยานแห่งชาติแม่สะเรียง (เตรียมการ) หลังพบควันไฟป่าคลุ้ง

วันที่ 22 มีนาคม 2568 นายวรศักดิ์ พานทอง นายอำเภอแม่สะเรียง นำทีมร่วมกับทาง นายมาโนช กิ่งเมือง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแม่สะเรียง (เตรียมการ) นำทีมเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ทหาร กำนันผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนจิตอาสา เขาดับไฟในพื้นที่ป่าเขาสูงชัน หลังอุทยานแห่งชาติแม่สะเรียง (เตรียมการ) ท่ามกลางหมอกควันไฟป่าคลุ้ง อากาศที่ร้อนอบอ้าว เพื่อให้แม่สะเรียงปลอดควันพิษ

ศูนย์ปฎิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าฯ จังหวัดแม่ฮ่องสอนได้รายงานสรุปสถานการณ์ไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละออง ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประจำวันที่ 22 มีนาคม 2568 จุดความร้อนประจำวันที่ 21 มีนาคม 2568 (เมื่อวานนี้) จำนวน 275 จุด จุดความร้อนสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 21 มีนาคม 2568 จำนวน 1,373 จุด .คุณภาพอากาศประจำวันที่ 22 มีนาคม 2568 (ค่ามาตรฐานเกิน 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) ค่า PM2.5 สถานีอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน เท่ากับ 91.0 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (อยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ) ค่า PM2.5 สถานีอำเภอแม่สะเรียง เท่ากับ 113.0 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (อยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ) ค่า PM2.5 สถานีอำเภอปาย เท่ากับ 72.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ)

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน