เชียงราย ตำรวจแม่จันคนรีสอร์ทยึดไอซ์ 139 กิโล

เชียงราย ตำรวจแม่จันคนรีสอร์ทยึดไอซ์ 139 กิโล

วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 เวลา 19.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่จัน ภายใต้การอำนวยการของ พลตำรวจโท กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พลตำรวจตรีมานพ เสนากูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย พันตำรวจเอกเกียรติศักดิ์ จิตรประสาร ผู้กำหนดการตำรวจภูธรแม่จัน นำโดย พันตำรวจตรี ผดุง ท้ายเรือนคำ รักษาราชการสารวัตรสืบสวนสภแม่จัน ได้ร่วมกันตรวจค้นและตรวจยึดยาเสพติดในพื้นที่ รีสอร์ท หมู่ 4 ตำบลศรีค้ำ อำเภอแม่จัน ยึดยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ไอซ์) 139 กิโลกรัม

รายการตรวจยึดในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีการนำยาเสพติดจำนวนมากมาซุกซ่อน ภายในห้องพักของรีสอร์ทดังกล่าวจึงได้วางแผนเข้าทำการตรวจค้น เมื่อเข้าไปถึงห้องพักในรีสอร์ทดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้เปิดห้องพักเข้าไปภายในแต่ไม่พบผู้ใดอยู่ในห้อง จากการตรวจค้น พบของกลางยาเสพติดทั้งหมดซุกซ่อนอยู่ภายในห้องพักของกลางดังกล่าวถูกซุกซ่อนในกระสอบหลากสีและผ้าซิ่น รวม 5 กระสอบ และวางกระจายอยู่ใต้เตียง เปิดออกพบหีบห่อถุงพลาสติกทึบแสง สีแดง-ขาว มีตราสัญลักษณ์ “CHINESE TEA GIFT” ภายในถุงพลาสติกสีใสแบบมีซิปเปิด-ปิด และบรรจุซ้อนใน จึงได้ทำการตรวจยึดเอาไว้ จากนั้นได้นำของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่จัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

ผบก.เชียงราย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม สภ.บ้านดู่ มอบขวัญกำลังใจข้าราชการตำรวจ พร้อมเยี่ยมผู้ป่วยติดเตียง

ผบก.เชียงราย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม สภ.บ้านดู่ มอบขวัญกำลังใจข้าราชการตำรวจ พร้อมเยี่ยมผู้ป่วยติดเตียง

วันที่ 21 พฤษภาคม 2568 เวลา 10.45 น. พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย เดินทางมาตรวจเยี่ยมข้าราชการตำรวจ สภ.บ้านดู่ อำเภอเมืองเชียงราย ตามโครงการตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญข้าราชการตำรวจและครอบครัวในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดเชียงรายโดยมี พ.ต.อ.ศันย์ชัย พานิชกุล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบ้านดู่ พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจ สภ.บ้านดู่ ข้าราชการตำรวจบำนาญ นายสุวิทย์ เม่นแย้ม ประธานคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ (กต.ตร.) สภ.บ้านดู่ และคณะ กต.ตร.สภ.บ้านดู่ ร่วมให้การต้อนรับ

โดย พล.ต.ต.มานพ ได้มอบนโยบายการปฏิบัติราชการตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เน้นย้ำการให้บริการประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ การป้องกันปราบปรามอาชญากรรมในพื้นที่ รวมถึงได้มอบสิ่งของบำรุงขวัญเพื่อสร้างขวัญกำลังใจแก่ข้าราชการตำรวจและครอบครัว พร้อมทั้งเยี่ยมชมแปลงเกษตรอินทรีย์ของสถานี ตามโครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” ซึ่งเป็นกิจกรรมส่งเสริมคุณภาพชีวิตและลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนให้แก่เจ้าหน้าที่

จากนั้น คณะได้ออกเยี่ยมผู้ป่วยติดเตียงในเขตเทศบาลตำบลบ้านดู่ พร้อมมอบสิ่งของยังชีพเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ป่วยและครอบครัว ก่อนร่วมรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับข้าราชการตำรวจ สภ.บ้านดู่ สร้างบรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเอง

ทั้งนี้ การลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมในครั้งนี้ ถือเป็นการเสริมสร้างขวัญกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ และตอกย้ำการเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกสถานการณ์

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

เชียงราย ยึดยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด ซุกพงหญ้าริมอ่างเก็บน้ำ

เชียงราย ยึดยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด ซุกพงหญ้าริมอ่างเก็บน้ำ

วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 เวลา 17.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านดู่ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย พ.ต.อ.ศันย์ชัย พานิชกุล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบ้านดู่ จังหวัดเชียงราย นำโดย พ.ต.ต.ณัฐวุฒิ แก้วสืบ สว.สส.ฯ และ พ.ต.ต.เกียรติพงษ์ ติ๊บมา สว.(สอบสวน)ฯ ได้นำกำลังตำรวจชุดสืบสวนเข้าตรวจสอบบริเวณพงหญ้าริมอ่างเก็บน้ำ หมู่บ้านห้วยอ้มใหม่ หมู่ที่ 9 ตำบลแม่ข้าวต้ม อำเภอเมืองเชียงราย หลังได้รับแจ้งจากนายสมพิศ มุกดา ผู้ใหญ่บ้าน ว่าพบกระสอบต้องสงสัยจำนวนหลายใบถูกปกคลุมด้วยผ้าใบและกิ่งไม้ อำพรางไว้อย่างมิดชิด

จากการตรวจสอบพบของกลางเป็น ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวนถึง 19 กระสอบ รวมกว่า 5,200,000 เม็ด น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 539 กิโลกรัม คาดว่าเป็นของขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ที่ลักลอบนำมาพักไว้เพื่อรอการลำเลียงส่งต่อ ขณะเข้าตรวจค้นไม่พบผู้ต้องหา คาดว่าหลบหนีไปได้ก่อนเจ้าหน้าที่จะมาถึง จึงทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านดู่ ดำเนินคดีตามกฎหมาย และเร่งสืบสวนติดตามตัวผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีต่อไป

พ.ต.อ.ศันย์ชัย เผยว่า จะเร่งขยายผลติดตามจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว และเข้มงวดป้องกันการลักลอบขนยาเสพติดในพื้นที่อย่างเต็มที่

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

เชียงราย ตชด. 327 จับกระบะดัดแปลงลอบขนไอซ์ 100 กิโล ข้ามพรมแดน

เชียงราย ตชด. 327 จับกระบะดัดแปลงลอบขนไอซ์ 100 กิโล ข้ามพรมแดน

เวลาประมาณ 09.00 น. วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน ร้อย ตชด.327 นำโดย พ.ต.ต.อนัญวัฒน์ รัตนวิชัย ผบ.ร้อย ตชด.327 ร.ต.อ.สมชาย สร้อยแสง รอง ผบ.ร้อย ตชด.327 และ ร.ต.อ.ปริณ วรโชคคุณากรณ์ ผบ.มว.กก.ตชด.32 พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันจับกุม นายสุพจน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี ชาวตำบลห้วยจระเข้ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม และ นายบุญปั๋น (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี ถือบัตร บุคคลไม่มีสัญชาติ พร้อมของกลางยาไอซ์ 100 กิโลกรัม

โดยการจับกุมในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ ได้สืบทราบว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากข้ามด่านพรมแดน จากเมียนมาเข้ามาฝั่งประเทศไทย ทางเจ้าหน้าที่จึงได้จัดกำลัง 2 ชุดปฏิบัติการ เข้าประจำจุดเฝ้าสังเกตบริเวณด่านพรมแดนแม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย ที่สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 จนกระทั่ง ประมาณ 15.15 น. พบรถยนต์ยี่ห้อเชฟโรเลต รุ่นเทรลเบลเซอร์ สีดำ ทะเบียนจังหวัดเชียงราย ตรงตามที่แหล่งข่าวแจ้ง เป็นพาหนะขนยาเสพติด หลังรับแจ้ง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวและสกัดหยุดรถ พร้อมเชิญตัว นายสุพจน์ ซึ่งเป็นคนขับไปยังที่ทำการชุดปฏิบัติการตำรวจตระเวนชายแดนแม่สาย

จากการตรวจค้นอย่างละเอียด พบถุงชาสีทองและสีเขียวจำนวนหนึ่ง ซุกซ่อนอยู่ในช่องลับบริเวณหลังคารถ ซึ่งภายในบรรจุยาเสพติดคาดว่าเป็นไอซ์ รวม 100 ห่อ ประมาณ 100 กิโลกรัม หลังจากทำการสอบสวนจึงได้ขยายผล ไปที่บ้านเช่าแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอแม่สาย โดยพบกับนายบุญปั๋น ซึ่งอาศัยอยู่ในห้องเช่า พาเจ้าหน้าที่ถึงได้เข้าทำการตรวจค้นภายในห้องพักแต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายอื่น แต่ทางเจ้าหน้าที่เชื่อว่าบุคคลทั้งสองเกี่ยวข้องกับยาเสพติดดังกล่าวจึงได้ควบคุมตัวไว้เพื่อทำการสอบสวนเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

โรงเรียนบ้านแม่กองคาจัดกิจกรรมให้ความรู้ และซ้อมแผนเผชิญเหตุ

โรงเรียนบ้านแม่กองคาจัดกิจกรรมให้ความรู้ และซ้อมแผนเผชิญเหตุ

วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ที่โรงเรียนบ้านแม่กองคา ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ดร.กัญญาพัชร พงษ์ดี รองผอ.เขต.สพป.มส.เขต 2 พร้อมด้วย พ.ต.ท.ปพัสศ์พงศ์ แก้วรากมุก สว.สภ.ท่าตาฝั่ง ได้เดินทางเยี่ยมให้กำลังใจ คณะครูและนักเรียนโรงเรียนบ้านแม่กองคา และ ติดตาม การซักซ้อมแผนเผชิญเหตุภายในโรงเรียน

โดย นายภัควัฒน์ สุปินโน ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านแม่กองคา พร้อมด้วยข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าตาฝั่ง, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพบ้านห้วยสิงห์, เทศบาลตำบลแม่ยวม ร่วมเป็นวิทยากรซักซ้อมแผนเผชิญเหตุภายในโรงเรียนเพื่อให้นักเรียนโรงเรียนบ้านแม่กองคา ได้เรียนรู้วิธีปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้องกรณีเผชิญเหตุการณ์ต่างๆที่อาจเกิดขึ้นได้ และได้บรรยายเรื่องยาเสพติด, การพนันออนไลน์ บุหรี่ไฟฟ้า การช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉิน และการทำ(CPR) โดยมีเด็กนักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1- 6 จำนวน 90 คน เข้ารับการอบรมและเรียนรู้ในครั้งนี้

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

สภ.ท่าตาฝั่ง รับมอบเครื่องปริ้นสนับสนุนเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่

สภ.ท่าตาฝั่ง รับมอบเครื่องปริ้นสนับสนุนเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่

วันที่ 20 พ.ค. 68 ณ ห้องคณะผู้บริหารเทศบาลตำบลเมืองยวมใต้ ชั้น 2 ต.แม่สะเรียง อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน นายวิชัย กองเเก้ว นายกเทศมนตรีตำบลเมืองยวมใต้ พร้อมด้วย นายเอกราช ดงสงเคราะห์ รองนายกเทศมนตรี ตำบลเมืองยวมใต้ ร่วมมอบอุปกรณ์สำนักงาน เครื่องปริ้น HP LaserJet Pro MFP M225 series จำนวน 1 เครื่อง ให้กับ สถานีตำรวจภูธรท่าตาฝั่ง โดยมี พ.ต.ท.ปพัสศ์พงศ์ แก้วรากมุก สว.สภ.ท่าตาฝั่ง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรท่าตาฝั่ง รับมอบ

โดยนายวิชัย กองเเก้ว นายกเทศมนตรีตำบลเมืองยวมใต้ กล่าวว่า ในการมอบอุปกรณ์สำนักงานดังกล่าวฯได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท เนค โอเอ เซอร์วิส จำกัด เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไว้ใช้บริการประชาชนและผู้มาใช้บริการ ขับเคลื่อนงานให้สามารถดูแลทุกข์สุขและอำนวยความสะดวกในการบริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นต่อไป

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

แม่ฮ่องสอน เปิดรับฟังความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมของประชาชน ศึกษาความเป็นไปใด้ ของเส้นทางท่องเที่ยวสายบุญชาติคีรีธาร ช่วงเชียงใหม่ – แม่ฮ่องสอน

แม่ฮ่องสอน เปิดรับฟังความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมของประชาชน ศึกษาความเป็นไปใด้ ของเส้นทางท่องเที่ยวสายบุญชาติคีรีธาร ช่วงเชียงใหม่ – แม่ฮ่องสอน

วันที่ 20 พ.ค. 68 เวลา 09.00 น. นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานเปิดโครงการศึกษาความเป็นไปได้ของเส้นทางท่องเที่ยวสายบุปผชาติคีรีธาร ช่วงเชียงใหม่ – แม่ฮ่องสอน โดยมี นายอมเรศ นันทพัฒน์ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชนบทแม่ฮ่องสอน นายธนวัต ลำมะนา วิศวกรโยธาชำนาญการ กรมทางหลวงชนบท ผู้แทนหน่วยงานราชการ ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้แทนหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ หน่วยงานภาคธุรกิจเอกชนองค์กรพัฒนาเอกชนด้านสิ่งแวดล้อม ผู้แทนสถาบันการศึกษา ศาสนสถาน หน่วยงานด้านสาธารณสุขผู้นำชุมชน สื่อมวลชน และประชาชนทั่วไป เข้าร่วมแสดงความคิดเห็น ณ ห้องประชุมธาราทิพย์ โรงแรม ดิอิมพีเรียลแม่ฮ่องสอนรีสอร์ท อ.เมืองแม่ฮ่องสอน

ทั้งนี้ จังหวัดเชียงใหม่ และ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นเมืองหลักและเมืองรองในการท่องเที่ยวตามนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาล อีกทั้งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายของทรัพยากรทางธรรมชาติ เช่น ภูเขา น้ำตก อุทยานแห่งชาติ โครงการหลวงและโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ รวมทั้งมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและประเพณี ตลอดจนวิถีชีวิตของชุมชนที่น่าศึกษาเรียนรู้ อีกทั้งได้มีการจัดทำแผนพัฒนาจังหวัดแม่ฮ่องสอน (พ.ศ. 2566 – 2570 )

โดยมีเป้าหมายในการพัฒนา ทำให้แม่ฮ่องสอนเป็นเมืองแห่งความสุข ยกระดับคุณภาพชีวิตด้วยเศรษฐกิจเชิงสร้าง สร้างสรรค์ ที่กรมทางหลวงชนบท ได้ดำเนินโครงการดังกล่าว เพื่อเป็นการยกระดับถนนให้มีความสะดวกและปลอดภัยในการเดินทาง ต่อเติมโครงข่ายการคมนาคมชนส่งให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น อันจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อประชาชนของทั้ง 2 จังหวัด และกรมทางหลวงชนบท จึงมีนโยบายที่จะเพิ่มศักยภาพของโครงข่ายสายทางในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อพัฒนาให้เป็นเส้นทางท่องเที่ยวสายบุปผชาติคีรีธารยกระดับถนนให้มีความสะดวกและปลอดภัยในการเดินทาง ต่อเติมโครงข่ายการคนาคมขนส่งให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น สนับสนุนให้เกิดการขยายตัวด้านการท่องเที่ยว การค้า และการลงทุนในพื้นที่ จะนำไปสู่การสร้างงานและสร้างรายได้ได้กับประชาชนอย่างยั้งยืน

อย่างไรก็ตาม การพัฒนาโครงการมีความเกี่ยวข้องกับประชาชน และหน่วยงานราชการ ความสำเร็จของโครงการจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ้ายที่เกี่ยวข้อง แม้ว่าโครงการจะก่อเกิดผลดีในภาพรวม แต่อาจส่งผลกระทบด้านลบต่อประชาชนบางกลุ่ม การรับฟังความคิดเห็นของประชาชน จึงมีความสำคัญยิ่งในการสร้างความเข้าใจ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาร่วมกันอย่างยั่งยืน

กรมทางหลวงชนบท จึงได้ประชุมรับฟังความคิดเห็น และการมีส่วนร่วมของประชาชน ครั้งที่ 1 (ปฐมนิเทศโครงการ) เพื่อนำเสนอรายละโครงการ โดยเฉพาะเหตุผลความเป็นมา ขั้นตอน ขอบเขตการศึกษา และแผนการดำเนินงานการศึกษาเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้รับทราบ รวมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมประชุม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมแสดงความคิดเห็นและให้ข้อเสนอแนะ เพื่อนำไปใช้ประกอบการศึกษาโครงการให้มีความเสอดคล้องกับความต้องการของพื้นที่มากที่สุด

Cr. ฉลอง หมั่นสกุล จ.แม่ฮ่องสอน

เชียงราย ทัพเจ้าตากปะทะขบวนการลำเลียงยาเสพติด 2 เคสในคืนเดียว

เชียงราย ทัพเจ้าตากปะทะขบวนการลำเลียงยาเสพติด 2 เคสในคืนเดียว

วันที่ 20 พ.ค.68 เวลา 10.00 น. พลตรี กิดากร จันทรา ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมืองในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกองกำลังผาเมือง มอบหมายให้ พันเอก อนุวัช ปัญญานันท์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบยาบ้าประมาณ 1,000,000 เม็ด จากการปะทะกับกลุ่มผู้บำเลียงยาเสพติด ที่บริเวณบ้านลิเซ ตำบลแม่ฟ้าหลวง อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย

หลังจากเมื่อเวบาประมาณ 22.00 น.คืนวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา กำลังทหารจากกองร้อยทหารม้าที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก ได้จัดกำลัง จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ ร่วมกับ หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วม ทำการลาดตระเวน และเฝ้าตรวจ เพื่อป้องกัน และสกัดกั้นการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดได้ตรวจพบ กลุ่มบุคคลต้องสงสัยสะพายเป้ ประมาณ 5-10 คน อยู่บริเวณแนวชายแดน เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัว เพื่อขอทำการตรวจค้น แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ใช้อาวุธปืน ไม่ทราบชนิดยิงใส่จึงเกิดการ ปะทะกันประมาณ 10 นาที ฝ่ายเราปลอดภัย กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ทิ้งสิ่งของ และอาศัยความชำนาญ ในพื้นที่หลบหนีไปได้ หน่วยจึงได้จัดกำลังเพิ่มเติมจำนวน 2 ชุดปฏิบัติการ วางกำลังเข้าควบคุมพื้นที่ เกิดเหตุไว้

ต่อมาเวลา 06.30 น.วันที่ 19 พ.ค.ได้ทำการ เข้าตรวจสอบของกลางในพื้นที่เกิดเหตุ ตรวจพบเป้สะพายหลัง จำนวน 5 เป้ ภายในบรรจุยาเสพติด ให้โทษ ประเภท 1 (ยาบ้า) เป้ละ 200,000 เม็ด รวมประมาณทั้งสิ้น 1,000,000 เม็ด ก่อนจะทำการตรวจยึดดำเนินการตามกฏหมายต่อไป

อีกราย เมื่อเวลา 23.15 น. กองบังคับการควบคุมผาทมิฬ หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก ได้รับแจ้งว่า จะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติด จากพื้นที่แนวชายแดน เข้ามายังในพื้นที่อำเภอแม่จันจึงได้จัดกำลัง ร่วมกับหน่วยเฉพาะกิ8กรมทหารพรานที่ 31 ทำการตั้งจุดตรวจเพื่อป้องกัน และสกัดกั้นการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติด บริเวณ เส้นทางหมายเลข 1149 ได้ตรวจพบรถยนต์ ต้องสงสัย จำนวน 1 คัน ขับผ่านมา จึงได้ ขอทำการตรวจค้น แต่บุคคลในรถเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ ได้เร่งเครื่องหลบหนี หน่วยจึงได้ทำการ ไล่ติดตาม จนถึงบริเวณซอยข้างโรงเรียนบ้านสันกอง ตำบลแม่ไร่ อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย และได้ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย เป็นรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน ขท 34xx และรถยนต์ส่วนบุคคล (รถเก๋ง) ยี่ห้อ ฮอนด้าชีวิต สีบรอนซ์ทอง ไม่ติดป้ายทะเบียน หน่วยจึงได้ทำการตรวจค้น

ผลการตรวจค้น พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 2 กระสอบๆ ละประมาณ 200,000 เม็ด วางอยู่ภายในห้องโดยสารของรถยนต์กระบะ และ พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 1 กระสอบ ประมาณ 200,000 เม็ด วางอยู่ ในห้องเก็บสัมภาระท้ายรถยนต์ส่วนบุคคล (รถเก๋ง) รวมยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ที่ตรวจพบ จำนวนประมาณ 600,000 เม็ด ปัจจุบันหน่วยได้นำของกลางไปเก็บรักษาไว้ที่ บก.ผาทมิฬ ฉก.ทัพเจ้าตาก เพื่อดำเนินการต่อไป

จากเหตุการณ์ดังกล่าว พลตรี กิดากร จันทรา ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมืองในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกองกำลังผาเมือง ได้สั่งการให้หน่วย ในพื้นที่ ยังคงเพิ่มความเข้มงวดในการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด อย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันไม่มห้ยาเสพติดทะลักเข้าไปยังตอนในของประเทศตามนโยบาย“Seal Stop Safe” ในการป้องกันและสกัดกั้นยาเสพติดใน 51 อำเภอชายแดนต่อไป

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

เชียงราย พระ ว. มอบทนายฟ้องยูทูปเปอร์กล่าวหาว่าเป็นวัดร้าง อย่าพูดเอามันจนลืมความเป็นคน

เชียงราย พระ ว. มอบทนายฟ้องยูทูปเปอร์กล่าวหาว่าเป็นวัดร้าง อย่าพูดเอามันจนลืมความเป็นคน

จากกรณีที่ได้มียูทูปเปอร์หลายคน นำเสนอคลิปภาพเรื่องราวในทำนองว่า หลังจากเกิดกรณี “ดิไอคอน” แล้ว ที่ไร่เชิญตะวัน มีสภาพรกร้างไร้ผู้คน ตัวของท่าน ว.วชิรเมธี เองก็ไม่ได้เข้าไปที่ไร่เชิญตะวันอีกเลย จนเกิดคำถามว่า ว.วชิรเมธี อยู่ไหน? โดยในวันนี้ (19พค68) ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปที่ไร่เชิญตะวัน โดยได้ไปสอบถามจากผู้ปฏิบัติงานภายในไร่เชิญตะวัน ทราบว่า ท่าน ว.วชิรเมธี อยู่ที่ไร่เชิญตะวันพอดี ทำให้มีโอกาสได้เข้าไปพบ โดยท่าน ว.วชิรเมธี ได้พาทีมข่าวไปเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ ภายในไร่เชิญตะวัน ซึ่งเบื้องต้นสถานที่ต่างๆ ก็อยู่ในสภาพที่สะอาดสะอ้าน ได้รับการดูแลเอาใจใส่เจ้าบุคคลากรของไร่เชิญตะวันเป็นอย่างดี บรรยากาศภายในไร่เชิญตะวันยังดูสงบเงียบเหมาะแก่การปฏิบัติธรรม แต่ที่เห็นว่ามีผู้คนจำนวนน้อยลงอาจจะเป็นเพราะว่าไม่ได้เป็นช่วงไฮซีซั่นที่นักท่องเที่ยวจะเยอะ ยืนยันไร่เชิญตะวันไม่ได้ร้าง ยังมีประชาชนเข้าไปกันตามปกติ โดยเฉพาะท่าน ว.วชิรเมธี บางวันมีประชาชนเข้าไปนมัสการเยอะจนแทบไม่มีเวลาได้ฉันภัตตาหาร

พระเมธีวชิโรดม ผู้อำนวยการศูนย์วิปัสนาสากลไร่เชิญตะวัน จ.เชียงราย เปิดเผยถึงกรณียูทูปเปอร์นำเสนอว่าไร่เชิญตะวันร้าง ว่า อยากบอกผู้ที่มาทำข่าวหรือไลฟ์สด ขอให้มาเวลาทำการ ไร่เชิญตะวันเปิด 09.00 น. ปิด 17.00 น. แล้วจะเห็นว่า ภายในไร่เชิญตะวันมีกิจกรรมทุกวัน และถ้าติดตามเพจของพระอาจารย์ จะเห็นว่าไม่มีวันไหนที่ไม่มีกิจกรรม บางคนเหมือนตั้งใจมาถ่ายจุดที่ไม่มีกิจกรรม ไปถ่ายโกดัง อาคารไม้ที่กำลังรีโนเวท แล้วปล่อยข้อมูลเท็จออกไป อย่างเมื่อวานพระอาจารย์รับแขกแทบไม่ได้ฉันเพล ยังทำหน้าที่พระไปบรรยายธรรมเทศนาโปรดญาติโยมตลอด วันก่อนมีการอบรมเณรร้อยกว่ารูป มีการประชุม มีการทำกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมายตามปกติ

“ผู้ที่มานอกเวลาทำการและปล่อยข้อมูลเท็จออกไปทนายตั้งเรื่องและส่งฟ้องเรียบร้อย มีคนมาล็อบบี้ขอให้ถอนฟ้อง แต่ทางทนายคงทำให้ไม่ได้ ทำอะไรก็ต้องรับผิดชอบ การนำเสนออะไรผ่านโซเซียลมีเดียอย่าทำไปเพราะว่าหิวแสงจนเกินไป ไม่ใช่อยากถ่ายอะไรก็ถ่าย บุกไปถ่ายถึงบนกุฏิพระ ทนายก็ต้องทำหน้าที่ปกป้องสิทธิ์และศักดิ์ศรีควาามเป็นมนุษย์ของทางไร่เชิญตะวัน อย่ามากล่าวหาว่าพระไม่มีเมตตา อาตมาไม่ได้ฟ้อง ผู้ที่ฟ้องคือลูกศิษย์ที่เป็นทีมทนาย ที่เชียงรายดูเงียบๆ ไป อย่าลืมว่าปีที่ผ่านมาเชียงรายเจอน้ำท่วมอย่างหนักหลายพื้นที่ยังซ่อมบ้านไม่เสร็จ ปีนี้มาเจอน้ำกกเน่ามีสารพิษอีก เพราะฉะนั้นถ้ารักจะเป็นนักข่าวอยากนำเสนอเรื่องราวออกไปสู่โซเซียล อยากให้หาความรู้เรื่องเศรษฐกิจ เรื่องการท่องเที่ยวด้วยว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร ไม่ใช่อยากไลฟ์สดดตรงไหนก็แบกกล้องไปนำเสนอข้อมูลเท็จออกไปต่อสาธารณชน” พระเมธีวชิโรดม กล่าว

ส่วนกรณีที่ไปประเทศญี่ปุ่น พระเมธีวชิโรดม ชี้แจงว่า ไปสร้างวัดที่ประเทศญี่ปุ่นถวายหลวงพ่อพระอุปัชฌาชย์ (พระเทพสิทธินายก (ชื่น ปญฺญาธโร) อดีตเจ้าอวาสวัดพระสิงห์ อดีตเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย) มาแล้วนับ 10 ปี ตอนนี้มี 2 วัด วัดหลังสุด (วัดหลวงพ่อชื่นพุทธาราม จังหวัดไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น) ก็เพิ่งมีการผูกพัทธสีมาไป การสร้างวัดทำไปอย่างถูกต้องตามกฏหมาย พระอาจารย์จึงไปๆมาๆระหว่างไทยกับญี่ปุ่นในฐานะพระธรรมทูตซึ่งเป็นเรื่องปกติ ใครจะทำข่าวอะไรอยากให้ทำการบ้านเยอะๆ อิงข้อเท็จจริง อย่าไปทำข่าวแล้วพูดอะไรเอามัน จนกระทบกับศานาและสถาบันสงฆ์โดยรวม ไม่ใช่หวังเอายอดไลค์ยอดแชร์ออย่างเดียว อย่าไปรู้ผิด คิดเอา เดาเก่ง ขอให้มีจรรยาในวิชาชีพกันหน่อย อย่าเอาขยะข้อมูลปฏิกูลข่าวสารไปนำเสนอกับประชาชน

ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นกับวัดไร่ขิงที่เป็นข่าวดังอยู่ในขณะนี้ รวมทั้งมีสำนักสงฆ์บางแห่งถูกมองว่าเป็นแหล่งฟอกเงินนั้น พระเมธีวชิโรดม บอกว่า เรื่องการเงินถ้าทำให้ถูกต้องก็จะไม่มีปัญหาตั้งแต่ต้น ที่ไร่เชิญตะวันทำในรูปแบบมูลนิธิ สามารถตรวจสอบได้ บัญชีเดียวของพระอาจารย์ที่มีเป็นบัญชีนิตยภัต(เงินเดือน)ของพระเปรียญ 9 ส่วนการเงินอื่นๆ ให้อยู่ในรูปของมูลนิธิ รวมทั้งการไปบรรยายธรรมต่างๆ มีผู้ถวายมาก็เข้าบัญชีมูลนิธิ ท่านใดอยากรูู้ข้อเท็จจริง ตรวจสอบได้ที่มูลนิธิ อย่ารู้ผิด-คิดเอา-เดาเก่ง ในส่วนขของตัวพระอาจารย์และไร่เชิญตะวันเป็นแบบนี้ ส่วน1ของพระสังฆาธิการรูปอื่นหรือวัดอื่นไม่ขอก้าวล่วง

ส่วนเรื่องคดีดิไอคอน พระเมธีวชิโรดม บอกว่าเป็นเรื่องเซนซิทีฟฃ (sensitive) ขอผ่านไม่อยากพูดถึงอีกแล้ว

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

ชุดปฏิบัติการจิตวิทยาเฉพาะกิจที่ 302 แม่สะเรียง อบรมคุณธรรมจริยธรรม สร้างอุดมการณ์รักชาติ นักศึกษาใหม่ วก.แม่สะเรียง

ชุดปฏิบัติการจิตวิทยาเฉพาะกิจที่ 302 แม่สะเรียง อบรมคุณธรรมจริยธรรม สร้างอุดมการณ์รักชาติ นักศึกษาใหม่ วก.แม่สะเรียง

วันที่ 19 พฤษภาคม 2568 ชุดปฏิบัติการจิตวิทยาเฉพาะกิจที่ 302 เป็นวิทยากร โครงการอบรม คุณธรรม จริยธรรม นักศึกษาใหม่ โดยทางชุดปจว.302 ได้จัดกิจกรรมนันทนาการเพื่อสร้างสภาวะเกื้อกูลต่อการปฏิบัติงาน สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ, เสริมสร้างอุดมการณ์ความรักชาติ, ประวัติศาสตร์ชาติไทย รวมถึง ประวัติธงชาติไทย ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายนักศึกษา ระดับ ปวช.ชั้นปีที่ 1 และ ระดับ ปวส.ชั้นปีที่ 1 เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 255 คน ณ อาคารโดมเอนกประสงค์ วิทยาลัยการอาชีพแม่สะเรียง ต.แม่สะเรียง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน

โดย วิทยากร โครงการอบรมกล่าวชื่นชมว่า นักศึกษาฯ มีความตั้งใจและให้ความร่วมมือกับกิจกรรมนันทนาการ ทำให้เกิดความสนุกสนาน และรู้สึกผ่อนคลาย ทั้งนี้รวมถึง นักศึกษาฯ ได้ทราบถึงประวัติความเป็นมาของชนชาติไทย ทำให้เกิดความรักชาติ และหวงแหนผืนแผ่นดินไทยมากยิ่งขึ้น อีกทั้ง ยังได้ทราบถึงประวัติความเป็นมาของธงชาติไทย ที่สร้างความภูมิใจในเกียรติยศ ตลอดจนการปลูกฝังความรัก ความสามัคคีและความผูกพันความเป็นชาติไทย ให้ดำรงรักษาเอกภาพของความเป็นไทยตลอดกาล

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน