กองกำลังผาเมือง สกัดกั้นกลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ที่ฝาง ยิงดับ 1 ศพ ยาบ้า จำนวน 200,000 เม็ด ฝิ่นดิบ จำนวน 20.8 กิโลกรัม

กองกำลังผาเมือง สกัดกั้นกลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ยึดยาบ้า จำนวน 200,000 เม็ด, ฝิ่นดิบ จำนวน 20.8 กิโลกรัม และอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก กลุ่มขบวนการฯ เสียชีวิต 1 ศพ ในพื้นที่ อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่

วันที่ 5 มิถุนายน 2568 เวลา 00.35 น. กองร้อยทหารม้าที่ 4 หน่วยเฉพาะกิจไชยานุภาพ จัดกำลังพล จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ ร่วมกับชุดปฏิบัติการหน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วม ทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจเพื่อป้องกันและสกัดกั้นการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติด บริเวณ ช่องทางผาบ่อง ตำบลม่อนปิ่น อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากสืบทราบว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่แนวชายแดนผ่านพื้นที่ดังกล่าว ตรวจพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัย ประมาณ 4 – 5 ราย สะพายกระเป๋าเป้ดัดแปลงไว้ด้านหลังเดินเข้ามาในพื้นที่ดังกล่าว หน่วยจึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจค้นแต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงใส่ฝ่ายเรา จึงเกิดการปะทะกัน ประมาณ 5 นาที ผลการปะทะฝ่ายเราปลอดภัย หน่วยจึงได้จัดกำลังพลเพิ่มเติม จำนวน 2 ชุดปฏิบัติการ เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ ตรวจพบกระสอบดัดแปลงเป็นเป้สะพายหลังสีเขียว จำนวน 3 เป้

เป้ที่ 1 ภายใน บรรจุยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ( ยาบ้า ) จำนวน 100,000 เม็ด และ ยาเสพติดให้โทษประเภท 2 ( ฝิ่นดิบ ) จำนวน 1 จ๊อย ( น้ำหนัก 1.6 กิโลกรัม )

เป้ที่ 2 ภายใน บรรจุยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ( ยาบ้า ) จำนวน 100,000 เม็ด และ ยาเสพติดให้โทษประเภท 2 ( ฝิ่นดิบ ) จำนวน 1 จ๊อย ( น้ำหนัก 1.6 กิโลกรัม )

เป้ที่ 3 ภายใน บรรจุยาเสพติดให้โทษประเภท 2 ( ฝิ่นดิบ ) จำนวน 11 จ๊อย ( น้ำหนัก 17.6 กิโลกรัม )

รวม ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ( ยาบ้า ) จำนวน 200,000 เม็ด และยาเสพติดให้โทษประเภท 2 ( ฝิ่นดิบ ) จำนวน 20.8 กิโลกรัม และอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก กลุ่มขบวนการฯ เสียชีวิต 1 ศพ

ต่อมาเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 น. พลตรี กิดากร จันทรา ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง/ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกองกำลังผาเมือง มอบหมายให้ พันเอก ไมตรี ศรีสันเทียะ เสนาธิการการกองกำลังผาเมือง เป็นผู้แทน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ เพื่อตรวจสอบการตรวจยึดยาเสพติดดังกล่าว และได้นำของกลางส่งให้กับสถานีตำรวจภูธรฝาง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

สรุปผลการสกัดกั้นยาเสพติด กกล.ผาเมือง ในห้วงตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2567 ถึงปัจจุบัน หน่วยสามารถสกัดกั้นยาเสพติดได้ 284 ครั้ง จับกุมผู้ต้องหาได้ 299 คน ตรวจยึดยาบ้าได้ 112,650,860 เม็ด, เฮโรอีน 145 กิโลกรัม, ไอซ์ 8,062 กิโลกรัม, ฝิ่น 42.9 กก. และ เคตามีน 695 กิโลกรัม จากการปะทะกับเจ้าหน้าที่ จำนวน 40 ครั้ง กลุ่มขบวนการฯ เสียชีวิต 16 ศพ

หากยาเสพติดที่ตรวจยึดได้ดังกล่าว ถูกลำเลียงเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพมหานคร จะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจจากมูลค่าของยาเสพติดที่จำหน่ายถึง 25,775 ล้านบาท (25,775,219,100 บาท)

#พิทักษ์อาณารักษาชายแดน
#กองกำลังผาเมือง
#SEAL_STOP_SAFE

เชียงราย สกัดยาบ้าโลโก้รถยนต์ยี่ห้อหนึ่ง 19 กระสอบ รวบผู้ต้องหา 2 คน ขับรถหนีตกน้ำ หลังสนามบินเชียงราย

เชียงราย สกัดยาบ้าโลโก้รถยนต์ยี่ห้อหนึ่ง 19 กระสอบ รวบผู้ต้องหา 2 คน ขับรถหนีตกน้ำ หลังสนามบินเชียงราย

วันที่ 31 พ.ค. 68 เวลาประมาณ 11.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.เชียงราย สภ.เมืองเชียงราย สภ.บ้านดู่ สภ.แม่ฟ้าหลวง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย พ.ต.อ.รัฐพล น้อยช่างคิด รอง ผบก.ภ.จว.เชียงราย พ.ต.อ.ดพัสกร ธวัชเชียงกุล ผกก.สส.ภ.จว.เชียงราย พ.ต.อ.ศันย์ชัย พานิชกุล ผกก.สภ.บ้านดู่ พ.ต.อ.สงกรานต์ สันวงค์ ผกก.สภ.แม่ฟ้าหลวง ได้ บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จับกุมผู้ต้องหา 2 คน คือ นายอาโซ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ชาว ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย และนายอาตือ (ไม่ทราบนามสกุล) สัญชาติเมียนมา พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 19 กระสอบ รวมประมาณ 4 ล้านเม็ด

โดยการจับกุมฝนครั้งนี้ทางเจ้าหน้าได้สืบทราบว่า จะมีการส่งมอบยาเสพติดบริเวณถนนข้างสนามบินแม่ฟ้าหลวง ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย โดยใช้รถยนต์สีดำ จึงได้นำกำลังวางแผนทำการติดตามจับกุมจนกระทั่งพบรถยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า CRV สีดำ เลขทะเบียน กธ 30xx เชียงราย จอดอยู่บริเวณถนนหลังสนามบินแม่ฟ้าหลวง หมู่ที่ 10 บ้านปางลาว ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย จึงแสดงตัวเข้าทำการตรวจค้น แต่รถยนต์คันดังกล่าวได้ขับหลบหนีและได้ประสบอุบัติเหตุตกร่องน้ำ พบผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ที่อยู่ในรถได้เปิดประตูออกมาแล้วว่ายน้ำขึ้นฝั่งก่อนจะวิ่งหลบหนีโดยทางเจ้าหน้าได้ติดตามจนสามรถควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้ โดยขณะทำการติดตามจับกุมพบว่านายอาตือ ได้รับบาดเจ็บเจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวส่งรักษาตัวที่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ตรวจค้นในรถพบยาบ้า จำนวน 19 กระสอบ รวมประมาณ 4 ล้านเม็ด

จากการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพว่าได้รับยาบ้ามาจากชายแดนด้าน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เพื่อจะนำมาส่งให้กับผู้รับที่ด้านหลังสนามบินแม่ฟ้าหลวงเชียงราย แต่เจ้าหน้าที่ได้มาถึงแล้วขอตรวจค้นจึงได้ขับหลบหนีแต่ด้วยเส้นทางที่แคบจึงได้เสียหลักตกลงข้างทาง

โดยยาบ้าที่พบภายในรถอยู่ในถุงขยะสีดำ ห่อกระสอบดัดแปลงสีรุ้ง เมื่อเปิดออกพบว่ามีสัญลักษณ์ โลโก้ รถยนต์ยี่ห้อหนึ่ง เมื่อแกะออกพบถุงพลาสติกสีฟ้าอยู่ภายใน และมียาบ้าบรรจุอยู่ภายใน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

เชียงราย ผบ.ทบ.ติดตามการสร้างพนังกั้นน้ำป้องกันน้ำท่วมแม่สาย

เชียงราย ผบ.ทบ.ติดตามการสร้างพนังกั้นน้ำป้องกันน้ำท่วมแม่สาย

เวลา 09.30 น.วันที่ 31 พ.ค.68 พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก และคณะ เดินทางไปยัง บ้านหัวฝาย ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อติดตามการสร้างพนังป้องกันน้ำท่วมจากแม่น้ำสาย ที่ทางทหารช่างได้เร่งมือก่อสร้างตลอด 24 ชั่วโมง โดยมี พลโท กิตติพงษ์  แจ่มสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 3 พลโท สิรภพ ศุภวานิช เจ้ากรมการทหารช่าง พลตรีจักรวีร์ เสนีย์วรยุทธ์ ผู้บัญชาการ มณฑลทหารบกที่ 37 พลตรี กิดากร จันทรา ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย แล้วหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ

โดยการเดินทางมาครั้งนี้เพื่อเป็นการตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของทหารช่างในการสร้างผนังกั้นแม่น้ำสายเพื่อป้องกันน้ำท่วมหลังจากเกิดน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2567 ที่ผ่านมา โดยทางทหารช่างได้มีการสร้างพนังคอนกรีตริมแม่น้ำสาย และมีคันดินรองรับเพื่อป้องกันน้ำท่วมทะลักเข้ามาในพื้นที่ชุมชน โดยในสาวนที่มีอาคารติดแม่น้ำสายได้มีการเชื่อมเหล็กปิดช่องประตูหน้าต่างป้องกันน้ำเข้ามาได้

ระหว่างที่เดินสำรวจพื้นที่ได้มีประชาชนในพื้นที่ อ.แม่สาย ที่เคยได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ได้มารอให้กำลังใจโดยนำดอกไม้ และเขียนป้ายขอบคุณ ที่ทหารได้เข้ามาช่วยเหลือ ทั้งทำความสะอาดบ้านเรือน ขนของหนีน้ำ จนถึงมาช่วยทำพนังป้องกันน้ำท่วม

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

อำเภอแม่ลาน้อย ร่วมกับ ชุดปฏิบัติการจิตวิทยาเฉพาะกิจที่ 302 แม่สะเรียง เสริมสร้างศักยภาพ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน

อำเภอแม่ลาน้อย ร่วมกับ ชุดปฏิบัติการจิตวิทยาเฉพาะกิจที่ 302 แม่สะเรียง เสริมสร้างศักยภาพ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน

วันที่ 30 พฤษภาคม 2568 ที่ หอประชุมอำเภอแม่ลาน้อย อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน ว่าที่ร้อยตรีวิทยา โปทาศรี นายอำเภอแม่ลาน้อย เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการเสริมสร้างศักยภาพ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประจำปี 2568 โดยมี ร้อยโท เอนกณรงค์ ทองอ่อน หัวหน้าชุดปฏิบัติการจิตวิทยาที่ 302 นำชุดปฏิบัติการจิตวิทยาเฉพาะกิจที่ 302 สนับสนุนกำลังพลเป็นวิทยากร ได้จัดกิจกรรมนันทนาการ เพื่อสร้างสภาวะเกื้อกูลต่อการปฏิบัติงาน สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะเพื่อให้เกิดความผ่อนคลายและสร้างความเป็นกันเอง ซึ่งมีกำนัน – ผู้ใหญ่บ้าน – ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่อำเภอแม่ลาน้อย เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 300 คน

โดย วิทยากรให้ความรู้เรื่อง “ด่านตรวจ จุดตรวจ จุดสกัด” เสริมสร้างอุดมการณ์ความรักชาติ บรรยายเรื่องประวัติศาสตร์ชาติไทย รวมถึง วิวัฒนาการของธงชาติไทย ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมโครงการฯ มีความตั้งใจและให้ความร่วมมือกับกิจกรรมนันทนาการ ทำให้เกิดความสนุกสนาน และรู้สึกผ่อนคลาย ได้ทราบถึงประวัติความเป็นมาของชนชาติไทย เกิดความรัก และ หวงแหนผืนแผ่นดินไทยมากยิ่งขึ้น ได้ทราบถึงวิวัฒนาการและความเป็นมาของธงชาติไทย อีกทั้งได้ร่วมกันร้องเพลงชาติไทย และ ร่วมกันทำสัญลักษณ์ WE ARE THAI ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงออกถึงความเป็นไทย

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

วันสถาปนากองกำลังป้องกันแห่งชาติคาเรนนี KNDF ครบรอบการก่อตั้ง 4 ปี

วันสถาปนากองกำลังป้องกันแห่งชาติคาเรนนี KNDF ครบรอบการก่อตั้ง 4 ปี เป็นกองกำลังติดอาวุธที่ทาง พรรคแห่งชาติคาเรนนีก้าวหน้า KNPP ภาคภูมิใจในฝีมือการรบและสามารถกำชัยชนะเหนือกองทัพเมียนมาที่เคยตั้งอยู่ในรัฐคาเรนนี

วันที่ 31 พฤษภาคม 2568 พลเอก อ่องเมี๊ยะ ผู้บัญชาการกองกำลังกะเหรี่ยงคาเรนนี KA เปิดเผยว่า ในวันนี้ เป็นวันครบรอบการก่อตั้ง กองกําลังป้องกันแห่งชาติคาเรนนี (KNDF) ครบรอบปีที่ 4 โดยกองกำลัง KNDF ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 ในการก่อตั้งครั้งแรกมีกำลังพลเพียง 35 นายโดยได้รับการฝึกที่ฐานค่ายยามู ค่ายหลักของกองทัพคาเรนนี KA จนปัจจุบันมีกำลังรวมกันประมาณ 2,000 นาย กระจายอยู่ทั้ง 7 เมืองของรัฐคาเรนนี ที่มีเมืองลอยก่อว์เป็นเมืองหลวง

สำหรับในรัฐคาเรนนี มีกองกำลังผสม ทั้งหมดกว่า 10,000 นาย ประกอบด้วยกองกำลัง Karenni Army/KA กองทัพคาเรนนี , KNDF กองกำลังป้องกันชาติคาเรนนี , กองกำลังดาวแดง KNPLF , กองกำลังดาวขาว KNSO , กองกำลังพิทักษ์ประชาชน PDF

หลังจากได้มีการจัดตั้งกองกำลังป้องกันชาติคาเรนนี KNDF ทางพรรคแห่งชาติคาเรนนีก้าวหน้า KNPP ใน 2 ปี ทางพรรคแห่งชาติคาเรนนีก้าวหน้า ได้มีการเจรจากับกลุ่มอื่น ๆ ได้แก่ กองกำลังดาวแดง KNPLF , กองกำลังดาวขาว KNSO ซึ่งในอดีตเป็นศัตรูกับ กองทัพคาเรนนี ให้หันมาร่วมมือกันในการกวาดล้างทหารเมียนมาที่มีฐานที่มั่นในรัฐคาเรนนี จนสามารถกวาดล้างได้สำเร็จถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งในปัจจุบันมีทหารเมียนมาประจำอยู่ในรัฐคาเรนนี ได้แก่เมืองผาซอง , เมืองบอลาแคะ และเมืองลอยก่อว์ โดยมีกำลังทหารไม่มากนักแต่ที่สามารถอยู่ได้และยังไม่ถูกกวาดล้างเนื่องจากได้รับการสนับสนุนกำลังทางอากาศอย่างต่อเนื่อง และรวมไปถึงค่ายทหารเมียนมาเหล่านั้นตั้งอยู่ติดพื้นที่ชุมชนที่มีประชาชนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นทำให้การกวาดล้างเป็นไปด้วยความยากลำบาก แต่ก็ไม่สามารถสร้างความเหนือกว่าทางด้านการทหารต่อกองทัพคาเรนนีแต่อย่างใด

Cr. ฉลอง หมั่นสกุล จ.แม่ฮ่องสอน

องค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมกับ กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำเชียงใหม่ จัดงานปายไชน่า (Pai China) ปีที่ 3

องค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมกับ กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำเชียงใหม่ จัดโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของจังหวัดแม่ฮ่องสอน กิจกรรมการจัดงานปายไชน่า (Pai China) ปีที่ 3 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมไทย-จีน

วันที่ 30 พฤษภาคม 2568 นายเอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของจังหวัดแม่ฮ่องสอน กิจกรรมการจัดงานปายไชน่า (Pai China) ปีที่ 3 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมไทย-จีน โดยมี Ms.Yang Jiong (หยาง โจ่ง) รองกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำเชียงใหม่ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายอำเภอปาย หัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัดและระดับอำเภอ ประชาชน และนักท่องเที่ยวร่วมงานจำนวนมาก ที่หมู่บ้านสันติชล ตำบลเวียงใต้ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน

ทั้งนี้ งานปายไชน่า จัดขึ้นโดยความร่วมมือกันระหว่าง กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำเชียงใหม่ กับองค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาจากการที่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้เข้าร่วมเป็นเครือข่ายแลกเปลี่ยนภาษาและวัฒนธรรมไทยจีน โดยทางประเทศจีนได้ส่งนักศึกษาจีนมาสอนภาษาให้กับเด็กและเยาวชนในจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ภาษาจีนจากเจ้าของภาษา ต่อมาได้มีการพัฒนาความร่วมมือ โดยมีการหารือถึงการจัดงานเชื่อมสัมพันธ์ไทยจีน ที่เป็นงานวิชาการ มีการประกวดแข่งขันทักษะด้านต่าง ๆ ซึ่งจะส่งผลให้เด็กแม่ฮ่องสอนมีทักษะภาษาจีนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งการจัดงานปายไชน่า จึงได้นำเอาวัฒนธรรมจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในชาติพันธุ์ในจังหวัดแม่ฮ่องสอนมาเป็นแนวคิดหลัก ถือได้ว่ามีครบทั้งวัฒนธรรมและธรรมชาติที่น่าประทับใจ โดยภายในงานประกอบด้วย กิจกรรมทางวิชาการ ได้แก่ การประกวดวาดภาพระบายสี การประกวดคัดอักษรจีน การแข่งขันมัคคุเทศก์น้อย และการประกวดรำพัดจีน , กิจกรรมนันทนาการ ได้แก่ กิจกรรมแชร์ชิงแชมป์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว, การประกวดปายไชน่าควีน ปี 3 การแข่งขันกีฬาพื้นบ้านจีน เช่น หมากรุก ยิงหน้าไม้ ตีลูกข่าง รวมทั้งการแสดงดนตรีเพื่อเพิ่มสีสันในการจัดงานอีกด้วย

Cr. ฉลอง หมั่นสกุล จ.แม่ฮ่องสอน

รณรงค์วันงดสูบบุหรี่โลก ปี 2568 พบว่าแม่ฮ่องสอนมีประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป สูบบุหรี่เพิ่มขึ้น

รณรงค์วันงดสูบบุหรี่โลก ปี 2568 พบว่าแม่ฮ่องสอนมีประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป สูบบุหรี่เพิ่มขึ้นจากปี 2564 จากร้อยละ 14.7 เพิ่มเป็นร้อยละ 18.5 ทำให้ 25 หน่วยงานร่วมลงนามประกาศเจตนารมต่อต้านการสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า มุ่งสู่จังหวัดแม่ฮ่องสอนปลอดบุหรี่

เมื่อเวลา 10.30 น.ของวันนี้ 30 พ.ค.68 นายเอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธาน พร้อมด้วย นพ.ทศพล ดิษฐ์ศิริ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดกิจกรรมรณรงค์เนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลกประจำปี 2568 โดยมีส่วนราชการ หน่วยงาน องค์กรปกครองส่วนท้อง นักเรียน นักศึกษา จากโรงเรียนต่าง รวมทั้งมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ วิทยาเขตแม่ฮ่องสอน เข้าร่วมกิจกรรม ณ หอประชุมเสรีพิทักษ์สหกรณ์ออมทรัพย์ครูแม่ฮ่องสอน

การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ประกอบด้วย กิจกรรมการประกาศเจตนารมณ์ การลงนามความร่วมมือในการป้องกันบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า การมอบรางวัลประกวดคลิป TIKTOK และบูธนิทรรศการ แสดงผลงาน โดยมีภาคีเครือข่ายจากหน่วยงานราชการและแกนนำเด็กและเยาวชนจากสถานศึกษาในจังหวัดแม่ฮ่องสอน

ทั้งนี้ วันงดสูบบุหรี่โลก จัดขึ้นครั้งแรกในวันที่ 31 พฤษภาคม ค.ศ. 1988 โดยองค์การอนามัยโลก เนื่องจากเล็งเห็นอันตรายของบุหรี่ต่อสุขภาพ ของผู้สูบบุหรี่และผู้ไม่สูบบุหรี่แต่ได้รับควันบุหรี่ การจัดงานวันงดสูบบุหรี่โลกก็เพื่อกระตุ้นให้ผู้สูบบุหรี่เลิกสูบ ให้รัฐบาลชุมชนและประชากรโลก ตระหนักถึงความสำคัญและเข้าร่วมกิจกรรมและกระตุ้นให้รัฐบาลกำหนดนโยบาย/กฎหมาย เพื่อควบคุมยาสูบ องค์การอนามัยโลกระบุชัดเจนว่า การสูบบุหรี่เป็นสาเหตุสำคัญของการป่วยและเสียชีวิตก่อนวัยอันควรที่สามารถป้องกันได้ และกำหนดให้ วันที่ 31 พฤษภาคม ของทุกปีเป็นวันงดสูบบุหรี่โลก โดยในปี 2568 ได้กำหนดประเด็นรณรงค์คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลกคือ กระชากหน้ากากธุรกิจบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า

 

นพ.ทศพล ดิษฐ์ศิริ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า เด็กและเยาวชน ถือเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่ายิ่งของชาติในอนาคต โดยปัจจัยเสี่ยงสุขภาพที่สำคัญในกลุ่มเด็กและเยาวชนไทย ยังคงเป็นเรื่องบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และยาเสพติด ซึ่งมีผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิต การสูบบุหรี่หรือยาสูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคระบบทางเดินหายใจ และเพิ่มความรุนแรงของโรคจากการติดเชื้อโควิด 19 ทำให้มีโอกาส เสียชีวิตได้สูง สถานการณ์การสูบบุหรี่ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ปี พ.ศ.2567 พบว่ามีประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป สูบบุหรี่เพิ่มขึ้นจากปี 2564 จากร้อยละ 14.7 เพิ่มเป็นร้อยละ 18.5 สิ่งเหล่านี้มีผลทำให้เด็กและเยาวชนเกิดพฤติกรรมทางที่ไม่เหมาะสม เกิดผลเสียต่อตนเองและคนรอบข้าง ทางจังหวัดแม่ฮ่องสอนและภาคีเครือข่ายฯ ได้ตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็นในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว จึงได้จัดรณรงค์นี้ขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตแก่ประชาชนจังหวัดแม่ฮ่องสอน และลดจำนวนการสูบบุหรี่ ลดปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ

นายเอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ปัญหาการสูบบุหรี่ส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมแก่ตัวเองและคนรอบข้าง ซึ่งปัจจุบันแนวโน้มการใช้บุหรี่ในกลุ่มเด็กเยาวชนพบเห็นกันได้บ่อย โดยเฉพาะบุหรี่ไฟฟ้าที่เข้ามาครอบงำ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาไปใช้สารเสพติดชนิดอื่น และปัญหาควันบุหรี่มือสองที่ส่งผลโดยตรงกับคนในครอบครัว ซึ่งในตัวบุหรี่ยังพบสารเคมีกว่า 4,000 ชนิด โดย 70 ชนิดเป็นสารก่อมะเร็ง ที่ส่งผลทำให้เกิดปัญหาเรื่องสุขภาพตามมาในระยะยาว และในปัจจุบันการพัฒนาบุหรี่ไฟฟ้า ทางบริษัทได้ต่อยอดผลิตภัณฑ์มาจนถึง GEN ที่ 6 ในรูปแบบของประเภทยาดม ซึ่งได้ผสมสารและกลิ่นมากกว่า 16,000 กลิ่น ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นองุ่น สตรอเบอรี่ กลิ่นโค้ก กลิ่นลูกอมต่างๆ ซึ่งง่ายต่อการจูงใจในการทดลองใช้งาน และในปัจจุบันมีการนำพอตผสมกับยาเคตามีน แพร่ขยายในกลุ่มเที่ยวกลางคืน จะเห็นได้ว่ายิ่งเราป้องกันมากเท่าไหร่ บริษัทที่ผลิตบุหรี่จะก้าวนำเราเสมอ ดังนั้น จึงต้องสร้างภูมิคุ้มกันในเด็กและเยาวชนให้รู้จักโทษและพิษภัยจากบุหรี่ไฟฟ้า รวมทั้งบูรณาการทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมกันป้องกันไม่ให้เกิดนักสูบหน้าใหม่ และเน้นมาตรการในการปราบปรามอย่างต่อเนื่อง

พร้อมกันนี้ นายเอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ร่วมกับส่วนราชการ หน่วยงาน ประกาศเจตนารมณ์ “ความร่วมมือไม่เอาบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า”มุ่งสู่จังหวัดแม่ฮ่องสอนปลอดบุหรี่ จะร่วมมือกันรณรงค์ป้องกันประชาชนคนไทยทุกคน โดยเฉพาะเด็ก และเยาวชน ให้ปลอดพ้นจากการเสพติดบุหรี่ไฟฟ้าทุกรูปแบบ ร่วมกันสื่อสารข้อมูล เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับประชาชนชาวไทยโดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ได้รับรู้ถึงอันตรายของการเสพติดบุหรี่ไฟฟ้า และรู้เท่าทันกลยุทธ์ของอุตสาหกรรมยาสูบ สร้างพื้นที่ที่ปลอดภัย โดยเฉพาะในโรงเรียน และสถานศึกษาทุกระดับ เพื่อป้องกันการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ยาสูบทุกชนิด ของเด็กและเยาวชนไทย โดยการเฝ้าระวังและสนับสนุนให้มีการบังคับใช้กฎหมาย การห้ามจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด

Cr. ฉลอง หมั่นสกุล จ.แม่ฮ่องสอน

มทบ.37 เข้าร่วมพิธีวางพวงมาลาเนื่องใน “วันที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว” ประจำปี 2568

มทบ.37 เข้าร่วมพิธีวางพวงมาลาเนื่องใน “วันที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว” ประจำปี 2568 ของ จังหวัดเชียงราย

วันที่ 30 พ.ค. 68 เวลา 08.00 น. พล.ต. จักรวีร์ เสนีย์วรยุทธ์ ผบ.มทบ.37 มอบหมายให้ พ.อ. สิงหนาท โลสุยะ เสธ.มทบ.37 พร้อมด้วยนายทหารสัญญาบัตร และสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขา มทบ.37 เข้าร่วมพิธีวางพวงมาลาเนื่องใน “วันที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว” ประจำปี 2568 ของ จังหวัดเชียงราย โดยมี นายชรินทร์ ทองสุข ผวจ.เชียงราย เป็นประธานฯ ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ GMS จังหวัดเชียงราย ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย

โครงการทหารพันธุ์ดี มณฑลทหารบกที่ 37 อารยเกษตรวิถี น้อมนำศาสตร์พระราชา พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ค่ายเม็งรายมหาราช

โครงการทหารพันธุ์ดี มณฑลทหารบกที่ 37 อารยเกษตรวิถี น้อมนำศาสตร์พระราชา พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ค่ายเม็งรายมหาราช จังหวัดเชียงราย

โครงการทหารพันธุ์ดี มณฑลทหารบกที่ 37 เดิมเป็น “โครงการเดินตามรอยเท้าพ่อ (เกษตรอินทรีย์)” โดยยึดหลักตามแนวทางพระราชดำริปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นปรัชญาที่ชี้ถึงแนวทางปฏิบัติตน โดยคำนึงถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล และการสร้างภูมิคุ้มกันที่ดี เพื่อพร้อมรับต่อความเสี่ยงบนพื้นฐานของ ความรอบรู้ ความรอบคอบ ระมัดระวัง และคุณธรรม การใช้ความรู้อย่างถูกหลักวิชาการด้วยความรอบคอบ และระมัดระวัง ควบคู่ไปกับการกระทำที่ไม่เบียดเบียนกัน การแบ่งปันช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ความร่วมมือ ปรองดองกันในหน่วยจะสร้างสายใยเชื่อมโยงคนในส่วนต่างๆ ของหน่วยเข้าด้วยกัน สร้างสรรค์พลังในทางบวก นำไปสู่ความสามัคคี การพัฒนาที่สมดุลและยั่งยืน และการพร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์ ซึ่งปรัชญานี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ทั้งระดับบุคคล องค์กร และชุมชน

สอดคล้องกับพระราชประสงค์ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ต้องการให้กำลังพลมีอาชีพ มีรายได้ และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รวมถึงการนำองค์ความรู้ ในด้านเกษตรกรรม ผลผลิตเมล็ดพันธุ์พืชไปขยายผลสู่ชุมชน และพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อให้ราษฎรมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และให้การดำเนินโครงการของ นขต.ทบ. เป็นไปในแนวทางเดียวกัน จึงได้ปรับชื่อโครงการเดินตามรอยเท้าพ่อ (เกษตรอินทรีย์) เป็น “โครงการทหารพันธุ์ดี” พร้อมทั้งดำเนินการตามขั้นตอนขอจัดตั้งโครงการทหารพันธุ์ดี ตามที่มีข้อตกลงกับมูลนิธิชัยพัฒนา และสำนักงาน กปร. เมื่อปี พ.ศ. 2562

มณฑลทหารบกที่ 37 ได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาพัฒนาพื้นที่ค่ายเม็งรายมหาราช ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตามแนวทางโดยปัจจุบันอยู่ในขั้นการปรับปรุงดำเนินการอาทิเช่น
– โครงการเลี้ยงจิ้งหรีด จัดเตรียมอุปกรณ์เลี้ยงจิ้งหรีด
– โครงการเลี้ยงแกะเพื่อนแพะ
– โครงการปลูกพืชกลุ่มแม่บ้านฯและกำลังพลผู้มีรายได้น้อยดำเนินการเพาะกล้ามะเขือเทศ จำนวน 50 ถุง

การพัฒนาปรับภูมิทัศน์รอบ สง.โครงการฯและสวนหย่อมข้างเฮือนพอเพียง
– ดำเนินการผลิตดินปลูกและจัดเตรียมถุงดำ จำนวน 50 ถุง
– ขุดลอกสระน้ำบริเวณตูบแก้วตูบคำและเรือนพอเพียง

ทั้งได้จำหน่ายผลิตผลผักปลอดสารพิษและผลิตภัณฑ์แปรรูปฯ ทั้งของโครงการและภาคีเครือข่ายชุมชนสันมะแฟน อ.พาน ณ ประตูช่องทางออกที่ 2 ติดกับชุมชนวัดใหม่หน้าค่ายและชุมชนเด่นห้า เพื่อทดลองระบบการตลาด การพึ่งพาตนเอง การสร้างเครือข่ายและประชาสัมพันธ์โครงการฯที่มีการน้อมนำศาสตร์พระราชาไปปรับใช้อย่างเป็นรูปธรรมทุกวันพุธ ผลการตอบรับจากประชาชน และกำลังพลเป็นอย่างดีประชาชนที่มาใช้บริการมีความพึงพอใจอย่างยิ่ง ได้รับประทานผักปลอดสารพิษ และราคาถูกอีกด้วย

ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มทบ.ที่ 37 ตรวจความพร้อม เตรียมช่วยเหลือประชาชน ในภัยพิบัติต่างๆ ในห้วงวันหยุด 4 วัน

ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 37 ตรวจความพร้อมกำลังพล และยุทโธปกรณ์ เตรียมช่วยเหลือประชาชน ในภัยพิบัติต่างๆ ห้วงวันหยุด 4 วัน

วันที่ 30 พ.ค. 68 เวลา 14.30 น.  พล.ต.จักรวีร์ เสนีย์วรยุทธ์ ผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 37 มอบหมายให้ พ.อ.ไพศาล อุปพรรณ์ รองเสนาธิการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 37 เป็นผู้แทนตรวจความพร้อมกำลังพล และยุทโธปกรณ์ ด้านบรรเทาสาธารณภัย เตรียมช่วยเหลือประชาชน ในภัยพิบัติต่างๆ พร้อมปฏิบัติหน้าที่ภายใน 1 ชม. ทั้งกำลังพล ยานพาหนะ และยุทโธปกรณ์ เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อุทกภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย ในห้วงวันหยุด 4 วันที่จะถึงนี้ พร้อมทั้ง เน้นย้ำมาตรการรักษาความปลอดภัยในการปฏิบัติภารกิจต่างๆ มีชุดปฏิบัติการเข้ารับการตรวจความพร้อม ประกอบด้วย กองร้อยมณฑลทหารบกที่ 37 จำนวน 2 ชุดปฏิบัติการ รวม 10 นาย, ชุดเสนารักษ์เดินเท้า จาก โรงพยาบาลค่ายเม็งรายมหาราช 2 ชุดปฏิบัติการ รวม 6 นาย พร้อมรถพยาบาล จำนวน 1 คัน, แผนกยุทโยธามณฑลทหารบกที่ 37 (ชุดช่าง) จำนวน 2 ชุดปฏิบัติการ รวม 4 นาย และ สำนักงานขนส่งมณฑลทหารบกที่ 37 จำนวน 1 นาย พร้อม รยบ.FTS จำนวน 1 คัน รวมจำนวนทั้งสิ้น 21 นาย ณ หน้า กองร้อยมณฑลทหารบกที่ 37 ค่ายเม็งรายมหาราช อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย

ทั้งนี้รองเสนาธิการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 37 ได้ทำเข้าใจขั้นตอนการปฏิบัติแผนเผชิญเหตุได้อย่างถูกต้อง เพื่อให้สามารถช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาหรือ อุบัติเหตุได้อย่างทันท่วงที และมีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติเป็นสำคัญ รวมทั้งวิธีการใช้งานอุปกรณ์และเครื่องมือต่าง ๆ ต้องมั่นใจว่าสามารถใช้งานได้จริง ไม่มีการชำรุดหรือเสียหาย ที่อาจจะส่งผลให้เกิดอุปสรรคในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ตลอดจนให้มีความพร้อมในการจัดเตรียมกำลังพลยุทโธปกรณ์ การเข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนเพราะเป็นภารกิจสำคัญที่ “กองทัพบก” ได้มอบหมายให้ปฏิบัติ “เพราะทหารต้องเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส”

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์