ลุยกันต่อ รอไม่ไหว 3 เส้นทาง 7 จุด พลังความสามัคคี ซ่อมไปใช้ไป สู่เส้นทางความปลอดภัย อบต.แม่สามแลบ จับมือ ชาวบ้านเดินหน้า ช่วยกันซ่อมแซมเส้นทาง

ลุยกันต่อ รอไม่ไหว 3 เส้นทาง 7 จุด พลังความสามัคคี ซ่อมไปใช้ไป สู่เส้นทางความปลอดภัย อบต.แม่สามแลบ จับมือ ชาวบ้านเดินหน้า ช่วยกันซ่อมแซมเส้นทาง

วันที่ 16 กรกฏาคม 2568 นายพงษ์พิพัฒน์ มีเบญจมาศ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่สามแลบ เปิดเผยว่า เส้นทางถนนสายหลัก และ สายรอง เข้าสู่ ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ยังถือว่าวิกฤต เนื่องจากฝนตกต่อเนื่อง ทำให้ถนนเป็นดินโคลน เละ เป็นร่องลึก การสัญจรของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ครู นักเรียน ภาคส่วนราชการ ที่เข้าออก ก็ต้องพบกับปัญหาอุปสรรคในการเดินทางที่ยากลำบากในช่วงนี้

โดย ถนนสายรอง ที่ได้ดำเนินการช่วยกันซ่อมแซมเพิ่มเติมตามภาพ คือ ช่วงระหว่าง บ.แม่ตอละ – รร.ตชด.บ้านห้วยมะโอ 2 จุด และ เส้นระหว่าง กอมูเดอ-กลอเซโล ที่ทาง อบต.แม่สามแลบ ร่วมกับ ชาวบ้านกลอเซโล ช่วยกันขนเอาหินลูกรัง มาลงเป็นช่วงๆ เพื่อให้สัญจรได้ชั่วคราวไปก่อน โดยถนนสายรองที่เข้าสู่หมู่บ้านที่ยังคงลำบาก ถนนเละ ร่องลึก ลื่น รถจมดินโคลนแทบขยับไม่ได้ มีจำนวน 3 เส้นทางประกอบไปด้วย. ถนนสายรอง ช่วงระหว่างบ้านกอมูเดอ – กลอเซโล จำนวนที่ยาก 3 จุด ถนนสายรอง ระหว่าง บ.ห้วยแห้ง – ปูคำน้อย – บุญเลอ 2 จุด และ ถนนสายรองจาก บ. บุญเลอ – สบเมย 2 จุด ใน ส่วนถนนทางหลวงชนบท มส.3004 ทล. 105 แยกแม่สามแลบ . ซึ่งมีกำหนดเข้ามาดำเนินการซ่อมแซมเส้นทาง แต่ก็ไม่สามารถดำเนินการอะไรมากเนื่องจากติดปัญหาฝนตกหนักต่อเนื่อง จุดที่มีประมาณในเส้นทางสัญจรอยู่ 3 ช่วง ประกอบไปด้วย เส้นทางช่วงระหว่าง บ.แม่สามแลบ – แม่ปัว เส้นทาง.ช่วงระหว่าง บ.สิวาเดอ – บ.ห้วยแห้ง และ เส้นทาง.ช่วงระหว่าง บ.ห้วยกระต่าย – บ.แม่ลามาน้อย

นายกฯ แม่สาแลบ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตอนนี้ทาง อบต.แม่สามแลบ เราร่วมกันแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน ใช้ไปซ่อมไป เพราะเราไม่สามารถเอาเครื่องจักรปรับไถได้ แต่หลังฝน น่าจะประมาณปลายเดือนตุลาคม ทาง อบต.แม่สามแลบได้ประสานกับ อบจ.เพื่อนำเครื่องจักรในการปรับเกลี่ย และลูกรังบดอัด ถนนสายรอง จากกอมูเดอ – กลอเซโล -บุญเลอ -สบเมย เพื่อรองรับฤดูท่องเที่ยวทะเลหมอกกลอเซโล และความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวในการสัญจร ส่วนของเส้นทาง แยกจากบ้าน แห้ง – บุญเลอ อบต.แม่สามแลบ ได้รับสนับสนุนงบประมาณของจังหวัด เป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก (งบยุทธศาสตร์จังหวัด งบ ปี 68 ) จริงๆ แล้วถ้าผู้รับจ้างเขาดำเนินการทำก่อนหน้านี้สัญญาจ้างเริ่มตั้งแต่ เดือนกุมภาพันธ์ ตอนนี้ใกล้เสร็จแล้ว แต่เขาแค่ไปปรับหน้าดินแล้วก็ทิ้งไว้ จนฝนเทลงมา จึงเป็นเหตุที่ทำให้ถนนเละกว่าเดิม ชาวบ้านสัญจรลำบากหนักกว่าเดิม พอเข้าช่วงฤดูฝนก็ไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ต้องรอไปอีก ซึ่งสัญญาดังกล่าวจะสิ้นสุดเดือนตุลาคม ชาวบ้านและผู้ใช้เส้นทางก็ต้องทนกับความลำบากต่อไป และเพื่อความปลอดภัยในการใช้เส้นทาง ขอให้พี่น้องประชาชนและผู้สัญจรเส้นทางดังกล่าว เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

อช.สาละวิน จับกุมผู้ต้องหาล่าสัตว์ป่าในพื้นที่ พร้อมตรวจยึดอาวุธปืน ซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ดำเนินคดี

อช.สาละวิน จับกุมผู้ต้องหาล่าสัตว์ป่าในพื้นที่ พร้อมตรวจยึดอาวุธปืน ซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ดำเนินคดี

วันที่ 16 กรกฏาคม 2568 นายลิขิต ไหวพรหม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสาละวิน เปิดเผยว่า เมื่อ วันที่14 กรกฎาคม 2568 เวลาประมาณ 21.20 น. คณะเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติสาละวิน ได้ออกตรวจปราบปรามการกระทําผิดเกี่ยวกับป่าไม้ และ สัตว์ป่า ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติสาละวิน ตามถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1194 ตําบลแม่ยวม อําเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ขณะเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานออกตรวจลาดตระเวนตามเส้นทางถนนหลวงดังกล่าว พบชายจำนวน 2 ราย อยู่บริเวณริมทางห่างจากถนนประมาณ 5 เมตร มีลักษณะต้องสงสัย จึงได้แสดงตัวและขอทำการตรวจค้น ผลการตรวจสอบพบของกลางและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ดังนี้ ปีนลูกกรด จำนวน 2 กระบอก ลูกกระสุนปีนลูกกรด จำนวน 6 นัด ไฟฉายคาดหัว จำนวน 2 อัน ซากสัตว์ (กระรอกท้องแดง) จำนวน 1 ซาก และ ซากสัตว์(กระรอกบินเล็กแก้มขาว) จำนวน 6 ซาก

จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าชายทั้ง 2 ราย มีภูมิลำเนาอยู่ที่หมู่ที่ 9 ตำบลแม่ยวม อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติสาละวินจึงได้แจ้งขอกล่าวหาต่อผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธ พ.ศ.2490 พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 พร้อมทั้งควบคุมตัวผู้กระทำความผิดทั้ง 2 ราย ส่งสถานีตำรวจภูธรท่าตาฝั่ง ตำบลแม่ยวม อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

ทต.เมืองยวมใต้ ร่วมกับ สะพานบุญครูหนึ่ง มอบเตียงไฟฟ้า และ เครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ป่วยติดเตียง

ทต.เมืองยวมใต้ ร่วมกับ สะพานบุญครูหนึ่ง มอบเตียงไฟฟ้า และ เครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ป่วยติดเตียง

วันที่ 14 กรกฏาคม 2568 ณ หมู่ 8 บ้านป่ากล้วย และ หมู่ 9 บ้านนาคาว ตำบลแม่สะเรียง อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เทศบาลตำบลเมืองยวมใต้ ร่วมกับ งานสะพานบุญครูหนึ่ง นำโดย นายวิชัย กองแก้ว นายกเทศมนตรีตำบลเมืองยวมใต้ พร้อมด้วย ดร.เกษม กันทาหอม รองนายกเทศมนตรีตำบลเมืองยวมใต้ นางรุ่งนภา เกตุสุวรรณ นักทรัพยากรบุลคลชำนาญการ นายธีรเดช ปันนะ ประธานชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขอำเภอแม่สะเรียง รวมไปถึง พนักงานเทศบาลตำบลเมืองยวมใต้และคณะทำงานอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านในเขตพื้นที่ ดำเนินการศูนย์ประสานงานช่วยเหลือประชาชนสะพานบุญครูหนึ่ง(เทศบาลตำบลเมืองยวมใต้) โดยร่วมลงพื้นที่ มอบเตียงผู้ป่วยไฟฟ้าและมือหมุน จำนวนละ 1 เครื่อง รวมถึงมอบเครื่องอุปโภค บริโภค ให้กับ ผู้ป่วยติดเตียงในเขตพื้นที่ เพื่อใช้ในการดำรงชีพและเป็นขวัญกำลังใจในการใช้ชีวิตต่อไปในภายภาคหน้า

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

ป้องกันไว้ก่อน อบต.แม่สามแลบ ชาวบ้านขนดินหินปิดร่องลึกเพื่อการสัญจรที่ปลอดภัย เตือนไม่จำเป็นขอให้เลี่ยงเดินทาง

ป้องกันไว้ก่อน อบต.แม่สามแลบ ชาวบ้านขนดินหินปิดร่องลึกเพื่อการสัญจรที่ปลอดภัย เตือนไม่จำเป็นขอให้เลี่ยงเดินทาง บางจุดแนะใช้เรือ

วันที่ 12 กรกฏาคม 2568 นายพงษ์พิพัฒน์ มีเบญจมาศ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่สามแลบ เปิดเผยว่า ช่วงนี้ขอให้ผู้ที่ใช้รถใช้ถนนในการสัญจร เข้า-ออก ในพื้นที่ ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน โปรดใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากฝนยังตกต่อเนื่อง ทำให้ถนนเสียหาย เป็นโคลน ร่องลึก และลื่นมาก ยากลำบาก เสี่ยงอันตรายในการสัญจร หากเลี่ยงได้ ขอให้เลี่ยงการใช้เส้นทางดังกล่าว ประกอบไปด้วย ถนนสายหลักทางหลวงชนบท มส.3004 แยก ทล.105 – บ้านแม่สามแลบ – ห้วยกระต่าย- ห้วยแห้ง -แม่ตอละ และ ถนนสายรอง แยก บ.ห้วยแห้ง – บุญเลอ – สบเมย

หากมีความจำเป็นไป บ้านสบเมย ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย ขอให้ใช้ทางเรือแทนครับ ซึ่งหน่วยงานที่รับผิดชอบถนนดังกล่าว มีแผนเตรียมพร้อมดำเนินการแก้ไข ปรับปรุงซ่อมแซมแล้ว แต่ฝนยังตกต่อเนื่อง จึงยังไม่สามารถดำเนินการได้ในเวลานี้.. จึงแจ้งให้ทราบโดยทั่วกัน ด้วยความเคารพ เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง

นายพงษ์พิพัฒน์ มีเบญจมาศ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่สาม กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ในถนนสายรองเข้าหมู่บ้าน ในบางจุดของเส้นทางที่ยากลำบาก เช่น เส้นทางบ้านห้วยแห้ง – บุญเลอ ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ถนนเป็นร่องลึก เละสั ญจรไม่ได้ ทางอบต.แม่สามแลบ ได้ร่วมกับ ชาวบ้านในพื้นที่ช่วยกันแก้ไขชั่วคราวเป็นจุดๆ โดยนำดิน หินลูกรังใส่กระสอบทรายวางตามร่องลึกบนเส้นทาง เพื่อสัญจรได้ชั่วคราวไปก่อน

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

กอ.รมน.จังหวัดเชียงราย จัดหลักสูตรการพัฒนาเมืองเชียงรายให้มั่นคง เจริญในทุกมิติ

กอ.รมน.จังหวัดเชียงราย จัดหลักสูตรการพัฒนาเมืองเชียงรายให้มั่นคง เจริญในทุกมิติ โดยการจัดอบรมการพัฒนาสัมพันธ์เครือข่ายความมั่นคงระดับผู้บริหาร (พคบ.)

วันที่ 6 กรกฎาคม 2568 พลตรี จักรวีร์ เสนีย์วรยุทธ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 เป็นประธานพิธีปิดการอบรมการพัฒนาสัมพันธ์เครือข่ายความมั่นคงระดับผู้บริหาร รุ่นที่ 3 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 และได้มอบเกียรติบัตรให้แก่ผู้เข้ารับการอบรมฯ ณ ห้องศรีจอมทอง ชั้น 2 โรงแรมไชยนารายณ์ ริเวอร์ไซด์ อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย โดยมี พันเอก ภานุมาส จีนานุรักษ์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเชียงราย นำผู้เข้ารับการอบรม ซึ่งเป็นผู้บริหารจากทุกภาคส่วนในจังหวัดเชียงราย ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจ และผู้นำมวลชน จำนวนทั้งสิ้น 106 คน มีรูปแบบการอบรมประกอบด้วย ภาควิชาการ กิจกรรมการพัฒนาความสัมพันธ์ การศึกษาดูงาน และการทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์ (CSR) ตามหลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์เครือข่ายความมั่นคงในระดับผู้บริหาร จังหวัดเชียงราย รุ่นที่ 3 ใช้ระยะเวลา 6 วัน 5 สัปดาห์ ตั้งแต่ห้วงวันที่ 7,14,21,28 มิถุนายน และ วันที่ 5-6 กรกฎาคม 68 ในหลักสูตรการอบรมฯ ยังได้มีการระดมความคิดเห็นเพื่อมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ และการพัฒนาเมืองเชียงราย ในนาม พคบ. รุ่น 3 ทั้งด้านการเสริมสร้างความมั่นคงของสถาบันหลัก การสร้างความรักความสามัคคีของคนในชาติ ความมั่นคงทางด้านอาหาร ด้านเศรฐกิจ และปัญหาสาธารณภัย

พลตรี จักรวีร์ เสนีย์วรยุทธ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 กล่าวว่า ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงในหลายด้านตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ซึ่งจังหวัดเชียงรายเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพ มีความเจริญในทุกๆ ด้าน เป็นจังหวัดที่น่าอยู่อาศัยและผู้คนมีความสุข แต่ก็ยังมีปัญหาใรหลายด้านเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะปัญหาด้านสาธารณภัย จึงได้มีการผลักดันให้เกิดหลักสูตรนี้ ต่อเนื่องดำรงไว้ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน บูรณาการความร่วมมือในทุกมิติ นำองค์ความรู้ที่ได้รับมาพัฒนาสร้างเมืองเชียงรายให้มั่นคง เพื่อเผชิญกับภัยคุกคามในทุกรูปแบบ ดังคำขวัญ พคบ. ที่ว่า “เชียงรายมั่นคง ดำรงสถาบัน ยึดมั่นความดี”

ทุเรียนแม่ฮ่องสอน อร่อยไม่แพ้ที่ใด ไม่ใช่มีแค่ลูกสองลูกแต่มีเป็นตัน เร่งผลักดันเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร

ทุเรียนแม่ฮ่องสอน อร่อยไม่แพ้ที่ใด ไม่ใช่มีแค่ลูกสองลูกแต่มีเป็นตัน

10 ก.ค. 68 ว่าที่ร.ต.ภาณุวัฒน์ ขัดนาค ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท.สำนักงานแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ได้นำทีมงานแม่ฮ่องสอนพลัส พร้อมด้วยนายภานุเดช ไชยสกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอน และนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวแม่ฮ่องสอน ทีมงานของสมาคม และ ทีม ททท.แม่ฮ่องสอน ร่วมกับสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวแม่ฮ่องสอน ลงพื้นที่สำรวจสวนทุเรียนบ้านห้วยโป่งอ่อน หมู่ 7 ตำบลหนองจำแป อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ได้พบกับคุณนภา แสงใส (เจ้าของสวน) เร่งผลักดันเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร

สำหรับความพิเศษของทุเรียนสวนนี้ อยู่ที่รสชาติอร่อย หวานมัน สวนทุเรียนอยู่ใกล้กับภูโคลน และน่าจะเป็นแนวพาดผ่านของธารน้ำพุร้อน จึงเรียกว่าเป็นทุเรียนสายน้ำแร่ก็ว่าได้ รสชาติหวาน เนื้อนิ่ม เม็ดลีบเล็ก เนื้อหนา กลิ่นจางมาก ไม่ฉุน กินแล้วไม่รู้สึกร้อนใน พื้นที่สวนแห่งนี้อยู่ในภูมิประเทศเป็นเนินเขา รายล้อมด้วยความสมบูรณ์ของป่าไม้เขียวขจีสลับกับทุ่งนาขั้นบันไดแปลงเล็กๆ เป็นหย่อมๆ

คุณนภา แสงใส เจ้าของสวนทุเรียน กล่าวว่า สวนทุเรียนแห่งนี้มีอยู่สองถึงสามสวนใกล้ ๆ กัน ปลูกทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ประมาณ 10 ไร่ มี 155 ต้น ปลูกทุเรียนมาแล้วกว่า 7 ปี (นำกล้าพันธุ์มาจากทางภาคตะวันออก) และให้ผลผลิตมาแล้ว 2-3 ปี ปีที่ผ่านมาได้ผลผลิตประมาณ 200 ลูก ประมาณ 500 กิโลปีนี้ผลผลิตคงจะเยอะกว่าปีที่ผ่านมา น่าจะถึง 1,000 กิโล หรือกว่า 1 ตัน การจำหน่ายก็จะลงเพจและจะมีลูกค้าโทรมาสั่งซื้อ เราก็จะแพ็คใส่กล่องส่งไปให้ บางคนก็มารับเอง จำหน่ายโลละ 130 บาท ผลผลิตจะออกสามรุ่น นอกจากนี้ยังมีผลผลิตของสวนผลไม้ที่หลากหลาย อาทิ เงาะ และมังคุด อีกด้วย สามารถเข้ามาเยี่ยมชม ชิมทุเรียน และเลือกซื้อกลับบ้านได้ ทางเข้าอยู่ตรงข้ามภูโคลน ทางเข้าอ่างเก็บน้ำห้วยโป่งอ่อน รถเก๋งเข้าถึงจากจุดจอดเดินมา 100 เมตร ผ่านทุ่งนาขั้นบันได ลำธารน้ำ ก็มาถึงสวนท่ามกลางขุนเขา ยังไม่มีระบบการส่งข้ามจังหวัด แต่สามารถสั่งและมาส่งในตัวเมืองแม่ฮ่องสอนได้ หรือมาเลือกซื้อได้ในตลาดวันอาทิตย์ (กาดติ๊ด) แม่ฮ่องสอน ปกติก็มีผู้มารับซื้อและยังไม่มีหน้าร้าน

ว่าที่ร้อยตรีภาณุวัฒน์ ขัดนาค ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท.สำนักงานแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า สวนทุเรียนแห่งนี้ มีความน่าสนใจ และผลผลิตมีคุณภาพ รสชาติอร่อย ไม่มีกลิ่นฉุน เนื้อเยอะ เม็ดลีบเล็ก รับประทานแล้วไม่รู้สึกร้อนใน ซึ่งเกษตรกรมีความตั้งใจดูแลรวมทั้งใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ตลอดจนในพื้นที่ก็มีทัศนียภาพที่สวยงามรายล้อมด้วยขุนเขาและทุ่งนาขั้นบันได ที่อยู่ใกล้ตัวเมือง เดินทางสะดวกไม่ไกล สามารถเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวได้ทั้งบ้านรักไทย ปางอุ๋ง ภูโคลน สะพานซูตองเป้ นับเป็นสินค้าการท่องเที่ยวใหม่ของจังหวัดที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่ง

นายภานุเดช ไชยสกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอน และนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า สวนทุเรียนแห่งนี้นับว่ามีมีศักยภาพ มีคุณภาพดีสามารถแข่งขันในตลาดได้ แถมสวนทุเรียนก็สามารถพัฒนาต่อยอดในการท่องเที่ยวเชิงเกษตรได้ ประกอบกับทุเรียนก็มีคุณภาพดี ถือเป็นทุเรียนสายน้ำแร่ที่มีคุณภาพดีอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดแม่ฮ่องสอน สนใจติดต่อพี่นภา แสงใส (เจ้าของสวน) โทร. 0989052754

Cr. ฉลอง หมั่นสกุล จ.แม่ฮ่องสอน

มูลนิธิพิพัฒน์แม่ส่องสอน มอบทุนการศึกษาให้กับบุตรสมาชิกอาสารักษาดินแดน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประจำปี2568

มูลนิธิพิพัฒน์แม่ส่องสอน มอบทุนการศึกษาให้กับบุตรสมาชิกอาสารักษาดินแดน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประจำปี2568

วันที่ 9 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00 น. ที่ อาคารศูนย์บริการและพัฒนาลุ่มน้ำปายตามพระราชดำริ จังหวัดแม่ฮ่องสอน (ท่าโป่งแดง) อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน นายเอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน มอบหมายให้ นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานพิธีมอบทุนการศึกษามูลนิธิพิพัฒน์แม่ส่องสอนให้กับบุตรสมาชิกอาสารักษาดินแดน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประจำปี2568 โดยมี นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ประธานกรรมการมูลนิธิพิพัฒน์แม่ฮ่องสอน อดีตผู้ว่าการจังหวัดแม่ฮ่องสอน คณะกรรมการมูลนิธิพิพัฒน์แม่ฮ่องสอน หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนร่วมพิธี

ทั้งนี้ ประธานกรรมการมูลนิธิพิพัฒน์แม่ฮ่องสอน อดีตผู้ว่าการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการศึกษาในจังหวัดแม่ฮ่องสอนที่มีนักเรียนยากจนกลุ่มชาติพันธุ์ที่หลากหลายกลุ่มมีความเปราะบาง ขาดโอกาสทางการศึกษาจำนวนมาก เนื่องจากราษฎรมีความยากจน แม้จะมีอยู่มีกิน แต่ก็ขาดแคลนทุนทรัพย์ในการส่งบุตรให้เรียนในระดับปริญญาตรีได้ ทั้งนี้ มูลนิธิพิพัฒน์แม่ฮ่องสอน จึงได้สนับสนุนทุนการศึกษาให้กับกลุ่มเปราะบางดังกล่าวให้มีโอกาสได้ศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี และเมื่อสำเร็จการศึกษาจะได้กลับมาช่วยพัฒนาจังหวัดแม่ฮ่องสอนและเป็นกำลังของแผ่นดินสืบไป ทั้งนี้ มูลนิธิฯ จัดตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบันเป็นปีที่ 10 โดยมูลนิธิฯ ได้สนับสนุนทุนการศึกษาให้นักเรียนได้เรียนต่อปริญญาตรีแล้วจำนวนกว่า 370 คน โดยในห้วงระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีทั้งให้ทุนต่อเนื่องและทุนแบบให้ครั้งเดียว ซึ่งนักศึกษาสำเร็จการศึกษาแล้วจำนวน 237 คน และอยู่ระหว่างศึกษาจำนวน 133 คน ในมหาวิทยาลัยต่างๆทั่วประเทศ ซึ่งจบมาประกอบอาชีพเป็น แพทย์ พยาบาล วิศวกร ครู ตำรวจ ปลัดอำเภอ และอื่นๆ เป็นต้น

โดยในปีการศึกษา 2568 มูลนิธิฯ ได้สนับสนุนทุนการศึกษาไปแล้ว จำนวน 762,160 บาท ดังนี้ 1. ทุนหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิตมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ วิทยาลัยน่าน ภายได้ข้อตกลงเรียนฟรีตลอดหลักสูตร (3.5 ปี) และระหว่างเรียนมีรายได้ (MOU ร่วมกับ CP ALL) จบแล้ว มีงานทำในตำแหน่ง “ผู้ช่วยผู้จัดการ” ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น จำนวน 34 ราย จำนวนเงิน 572,160 บาท 2. ทุนหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ วิทยาลัยน่าน จำนวน 1 ราย จำนวนเงิน 70,000 บาท 3. ทุนนักศึกษาทุนต่อเนื่อง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จำนวน 2 ราย จำนวนเงิน 40,000 บาท 4.ทุนนักศึกษาทุนต่อเนื่อง มหาวิทยาลัยนเรศวร จำนวน 1 ราย จำนวนเงิน 80,000 บาท

ในวันนี้เป็นการสนับสนุนทุนการศึกษาให้กับนักศึกษา 36 ราย รวมจำนวนเงิน 804,500 บาท ได้แก่ 1. สนับสนุนทุนการศึกษาบุตรสมาชิกอาสารักษาดินแดน (อส.) จังหวัดแม่ฮ่องสอน มูลนิธิฯ ได้ตระหนักถึงความสำคัญของ อส. ในการดูแลงานด้านความมั่นคง รักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง สนับสนุนภารกิจของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ทั้งปราบปรามยาเสพติด การป้องกันการตัดไม้ทำลายป่า การบรรเทาภัยพิบัติ ฯลฯ แต่ได้รับเงินเดือนไม่เพียงพอกับการส่งบุตรเรียนหนังสือ จึงได้พิจารณาสนับสนุนทุนการศึกษาให้กับบุตร อส ที่กำลังศึกษาอยู่ ในระดับปริญญาตรี 11 สถาบันการศึกษา ได้แก่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยพะเยา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ (วิทยาเขตแม่ริม, วิทยาเขตแม่ฮ่องสอน) วิทยาลัยพยาบาลราชชนนีเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปางจำนวน 33 ราย รวมเป็นเงิน 460,000 บาท 2. สนับสนุนทุนการศึกษาให้กับนางสาวชยนฐ บัวคำ นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นเงิน 304,500 บาท ตลอดหลักสูตร 4 ปี จนจบการศึกษา

โดยมี หัวหน้าสำนักงานจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นผู้แทนรับทุนการศึกษาดังกล่าว 3. ทุนการศึกษาทั่วไป มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จำนวน 2 ราย รวมเป็นเงิน 40,000 บาท รวมสนับสนุนทุนการศึกษาในปี 2568 ทั้งสิ้น 74 คน เป็นเงินทั้งสิ้น 1,566,660 บาท โดยทุนดังกล่าวฯนี้ ยังได้รับการสนับสนุนจาก นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายบุญลือ ธรรมธรานุรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ได้ร่วมกับบรรดาหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน บริจาคสนับสนทุนการศึกษาให้กับมูลนิธิฯ ในปี 2568 เป็นเงินทั้งสิ้น 271,114 บาท โดยในยอดบริจาคดังกล่าวมี นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย อดีตผู้ว่าการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมบริจาคจำนวนเงิน 10,000บาท ซึ่งตั้งแต่เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ร่วมบริจาคให้มูลนิธิฯ เป็นประจำทุกปี รวมทั้งนางมุชญา ปุรณะวิทย์ ผู้จัดการโรงเรียนอนุบาลบรรณวิทย์ ที่ร่วมบริจาคสนับสนุนทุนปีละ 20,000 บาทต่อเนื่องมาเป็นเวลา 10 ปี อีกด้วย

Cr. ฉลอง หมั่นสกุล จ.แม่ฮ่องสอน

พัฒนาส่งเสริมการท่องเที่ยวบ้านรักไทยให้เป็นไปตามแนวทางกฎหมาย มีความปลอดภัย และป้องกันเหตุต่างๆ เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกมิติ

พัฒนาส่งเสริมการท่องเที่ยวบ้านรักไทยให้เป็นไปตามแนวทางกฎหมาย มีความปลอดภัย และป้องกันเหตุต่างๆ เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกมิติ

วันที่ 9 กรกฎาคม 2568 เวลา 09.30 น. นายเอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ได้มอบหมายให้นายบุญลือ ธรรมธรานุรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานการประชุมหารือกำหนดแนวทางการพัฒนาบ้านรักไทย แหล่งท่องเที่ยวชุมชนจีนยูนนานยอดนิยมของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในมิติด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสังคมวัฒนธรรม ด้านเศรษฐกิจความปลอดภัย ความมั่นคงตามแนวชายแดน โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งผู้ประกอบการบ้านรักไทยเข้าร่วมประชุมจำนวน 40 คน ณ ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน

จากข้อมูลที่ ททท.สำนักงานแม่ฮ่องสอน ร่วมกับสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ทำการปกครองเมืองแม่ฮ่องสอน รวมทั้งสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวแม่ฮ่องสอน และสมาคมท่องเที่ยวบ้านรักไทย ได้จัดทำข้อมูลสถานพักแรมพบว่า บ้านรักไทยมีสถานพักแรม 78 แห่ง มีห้องพักประมาณ 1,000 ห้อง ซึ่งเป็นพื้นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่แม่ฮ่องสอน จำนวนมากในแต่ละปี โดยสถานพักแรมทั้งหมดต้องดำเนินการจดแจ้งเป็นที่พักซึ่งมีลักษณะไม่เกิน 8 ห้อง และตั้งแต่ 8 ห้องขึ้นไป ให้เป็นไปตามเงื่อนไขหลักเกณฑ์ของภาครัฐ

นายบุญลือ ธรรมธรานุรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ ได้รับมอบหมายจากนายเอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในการกำกับติดตามการดำเนินงานของหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งด้านการพัฒนา การส่งเสริม การจัดการความปลอดภัย การดูแลความมั่นคง ความปลอดภัย การสาธารณสุข การศึกษา โดยเน้นให้ผู้ประกอบการสถานพักแรม ร้านอาหารต้องดูแลให้มีการตรวจสอบจากหน่วยงานต่าง ๆ ให้มีการรับรองความมั่นคงแข็งแรง เกิดความปลอดภัย รวมทั้งการจัดการของเสียและน้ำเสียอย่างถูกต้องเป็นระบบ รวมทั้งการป้องกันอัคคีภัย ตลอดจนการจัดการความเสี่ยงหรือภัยที่จะมาในรูปแบบต่าง ๆ ป้องกันปัญหายาเสพติด ป้องกันปัญหาตามแนวชายแดน รวมทั้งการดูแลด้านการสาธารณสุข การศึกษา ตลอดจนการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมการรักษาป่า รวมทั้งศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยในที่ประชุมได้มอบหมายให้ทางฝ่ายเลขาจัดตั้งคณะทำงานและเร่งดำเนินการตามแนวทางดังกล่าวอย่างเร็วที่สุด เพื่อเตรียมพร้อมรองรับการเดินทางท่องเที่ยวในฤดูกาลท่องเที่ยวที่จะมาถึง โดยผู้ประกอบการและชุมชน ได้เข้าใจตาม มาตรการและยินดีให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่จะเข้าไปช่วยดำเนินการ

Cr. ฉลอง หมั่นสกุล จ.แม่ฮ่องสอน

แม่ฮ่องสอน บางกอกแอร์เวย์ หยุดบิน ไม่ส่งผลกระทบท่องเที่ยวมากนัก เนื่องอยากอยู่ในช่วงหน้าฝน ส่วนฤดูท่องเที่ยวก็มีบ้าง

แม่ฮ่องสอน บางกอกแอร์เวย์ (Bangkok Airways) หยุดบิน ไม่ส่งผลกระทบท่องเที่ยวมากนัก เนื่องอยากอยู่ในช่วงหน้าฝน ส่วนฤดูท่องเที่ยวก็มีบ้าง การเดินทางโดยเครื่องบิน มีอัตราส่วนอยู่ที่ประมาณเกือบ 1 เปอร์เซ็นต์ จากสถิติผู้ที่เดินทางเข้าสู่จังหวัดแม่ฮ่องสอนในปี 2568 อยู่ที่ประมาณ 700,000 คน มีผู้โดยสารที่เดินทางโดยเครื่องบินเข้าสู่แม่ฮ่องสอนประมาณกว่า 3,000 คน

9 ก.ค.68 ว่าที่ร้อยตรีภานุวัฒน์ ขัดนาค ผอ.ททท.สำนักงานแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา หลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลายลง จังหวัดแม่ฮ่องสอนมีอัตราขยายตัวของนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นปีละ 3-5 เปอร์เซ็นต์ ปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวอยู่ที่ประมาณ 1.2 ล้านคน มีรายได้กว่า 7,000 ล้านบาท มีแนวโน้มที่จะขยายตัวต่อเนื่อง และในปี 2568 นี้มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากอาจมีปัญหาเรื่องสภาพคล่องทางเศรษฐกิจและปัจจัยต่าง ๆ แต่ในเชิงของการท่องเที่ยวไม่ได้มีการลดลงมากขึ้น ยังอยู่ในสถานการณ์ที่ยังมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง และนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะกระจุกตัวอยู่ในช่วงของฤดูหนาว ตั้งแต่เดือน ต.ค.- ก.พ.

สำหรับช่วงโลซีซั่นหรือช่วงฤดูร้อนประมาณ 2-3 เดือน จะมีนักท่องเที่ยวอยู่บ้าง ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่วนคนไทยมีเบาบางโดยลักษณะของพฤติกรรมลูกค้าหรือนักท่องเที่ยว ส่วนหน้าฝนเป็นช่วงที่เราได้มีการโปรโมทหรือส่งเสริมการท่องเที่ยวให้มากขึ้น เพื่อให้ตอบสนองกับเรื่องของพฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงกรีนซีซั่นก็นำเสนอขายแหล่งเที่ยวหรือสินค้าใหม่ๆ ในช่วงฤดูฝน เช่น ทุ่งนาขั้นบันใดหรือความสวยงามทางธรรมชาติ ป่าเขา ทะเลหมอก ทัศนียภาพ เป็นจุดที่ทำให้ขยายตัวในเชิงของการท่องเที่ยว ทำให้สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ทั้งปี ซึ่งตัวเลขไม่ได้กระจุกเฉพาะในช่วงฤดูหนาวเท่านั้น ดังนั้นจังหวัดแม่ฮ่องสอนสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ทั้งปี แต่ว่าจะมีนักท่องเที่ยวน้อยในช่วงฤดูร้อนเท่านั้นเอง แต่ว่าในช่วงฤดูร้อนจะมีชาวต่างชาติมาพักอาศัยอยู่และมาท่องเที่ยวอยู่ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนโดยเฉพาะอำเภอปาย และกระจายตัวไปยังอำเภอต่าง ๆ ด้วย

ว่าที่ร้อยตรีภานุวัฒน์ ขัดนาค ผอ.ททท.สำนักงานแม่ฮ่องสอน กล่าวต่อไปว่า พฤติกรรมการเดินทางของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าสู่จังหวัดแม่ฮ่องสอน มากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ส่วนที่เหลือเดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง รถจักรยานยนต์โดยเฉพาะกลุ่มบิกไบร์ สำหรับการเดินทางโดยเครื่องบิน มีอัตราส่วนอยู่ที่ประมาณเกือบ 1 เปอร์เซ็นต์ จากสถิติผู้ที่เดินทางเข้าสู่จังหวัดแม่ฮ่องสอนในปี 2568 อยู่ที่ประมาณ 700,000 คน โดยมีผู้โดยสารที่เดินทางโดยเครื่องบินเข้าสู่แม่ฮ่องสอนประมาณกว่า 3,000 คน ถ้าเทียบสัดส่วนแล้วถือว่าเป็นสัดส่วนที่ไม่เยอะมาก เนื่องจากเครื่องบินมีข้อจำกัดจำนวนที่นั่งประมาณ 70 ที่นั่ง ดังนั้นการเดินทางโดยเครื่องบินยังไม่ได้ทำให้เกิดผลกระทบต่อการท่องเที่ยวแม่ฮ่องสอน แต่จะมีผลกระทบในการใช้ชีวิตของประชาชน หน่วยงาน หรือนักท่องเที่ยวบางส่วนที่ใช้ชีวิตในการเร่งรีบ เช่นการเข้าถึงด้านการแพทย์ การเดินทางไปประชุมที่มีเวลาเร่งด่วน

สาเหตุที่เครื่องบินหลายสายการบินที่มาบินเส้นทางแม่ฮ่องสอน ส่วนใหญ่เกิดจากปัญหาของเครื่องบินที่มาให้บริการ สายการบินมีเครื่องบินไม่เพียงพอ รวมถึงช่วงเวลาที่ทำการบิน ไม่สอดคล้องกับพฤติกรรมการเดินทางของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะช่วงบินของแม่ฮ่องสอนมาถึงก็เป็นช่วงเย็น ทำให้นักท่องเที่ยวขาดโอกาสที่จะไปท่องเที่ยวในช่วงตลอดวันที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวสะท้อนว่าไม่เกิดความค้ำค่าในการเดินทางมาท่องเที่ยว จึงเลือกแผนการเดินทางท่องเที่ยวทางบกมากกว่า

อย่าไรก็ตาม ททท.แม่ฮ่องสอน ก็ได้หาลือกับทีมท่องเที่ยวแม่ฮ่องสอนพลัส ถ้ามีการเดินทางโดยเครื่องบินก็จะทำให้มีโอกาสขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจการท่องเที่ยวมากขึ้น จึงได้ร่วมหารือกันเพื่อเชื่อมโยงเส้นทางอื่น เช่น เส้นทางสุโขทัย แม่ฮ่องสอน หรือมีสายการบินอื่นที่สนใจสามารถที่จะมาทำการบินที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนได้หรือไม่

นายภานุเดช ไชยสกูล นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ช่วงนี้เป็นช่วงโลซีซั่น มีนักท่องเที่ยวน้อยอยู่แล้ว หลังจากสายการบินบางกอกแอร์เวย์(Bangkok Airways ) หยุดบินเส้นทางสุวรรณภูมิ -ลำปาง – แม่ฮ่องสอน ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2568 เป็นต้นมานั้น แต่มีข่าวว่าจะกลับมาบินอีกครั้งในช่วงฮายซีซั่น ต.ค.-พ.ย.68 แต่จริงเท็จอย่างไรก็ต้องดูกันต่อไป แต่ว่าอนาคตข้างหน้า สายการบินในประเทศไทยที่มีเครื่องบินแบบบางกอกแอร์เวย์(Bangkok Airways ) หรือเครื่อง ATR เครื่องใบพัดเท่าที่ทราบไม่มีเลย มีแต่บางบางกอกแอร์เวย์(Bangkok Airways ) ที่มาบินให้จังหวัดแม่ฮ่องสอน ขอฝากไปถึงรัฐบาลจะแก้ปัญหาอย่างไรเกี่ยวกับสนามบินขนาดเล็กที่มีหลายจังหวัด เพราะในประเทศไทยมีแต่สายการบินที่มีเครื่องบินลำใหญ่ ไม่สามารถมาลงที่สนามบินแม่ฮ่องสอนได้ และแม่ฮ่องสอนเป็นเมืองรองที่ต้องใช้เครื่องบินขนาดเล็ก

อนาคตผมคิดว่าหลายสายการบินจะไม่ใช้เครื่องบินใบพัด จะต้องแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้ได้ เพื่อสนับสนุนจังหวัดขนาดเล็กที่เป็นเมืองท่องเที่ยวอย่างเช่นจังหวัดแม่ฮ่องสอนซึ่งมี 3 สนามบินเมืองแม่ฮ่องสอน ปาย แม่สะเรียง ทำให้แม่ฮ่องสอนมีผลกระทบ โดยเฉพาะช่วงฮายซีซั่นจะมีนักท่องเที่ยวเข้าสู่จังหวัดแม่ฮ่องสอนจำนวนมาก แต่ในปัจจุบันแม่ฮ่องสอนแม้จะไม่มีเครื่องบินมาบินก็ไม่ส่งผลกระทบมากนักในช่วงโลซีซั่น แต่จะกระทบในช่วงฮายซีซั่นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว พ.ย.-ม.ค. ที่จะถึง แต่ในอนาคตไม่แน่ใจว่าสายการบินบางกอกแอร์เวย์(Bangkok Airways ) จะมาบินให้แม่ฮ่องสอนอีกหรือไม่

Cr. ฉลอง หมั่นสกุล จ.แม่ฮ่องสอน

จนท.ทพ.36 ฐานปฏิบัติการแม่สามแลบ เข้าช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยเด็กรักษาตัวต่อ

จนท.ทพ.36 ฐานปฏิบัติการแม่สามแลบ เข้าช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยเด็กรักษาตัวต่อ

วันที่ 10 กรกฏาคม 2568 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 ร้อย ทพ.3605 ฐานปฏิบัติการแม่สามแลบ จัดเจ้าหน้าที่ อำนวยความสะดวก และ ให้ความช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสบเมย และ โรงพยาบาลสบเมย ในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่เดินทางมาทางเรือ เพื่อส่งตัวเข้ารับการรักษาต่อทางรถ จาก ท่าเรือแม่สามแลบ จำนวน 1 ราย เป็นหญิง อายุ 1 ปี ซึ่งเป็นราษฎร บ้านปู่ทา ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน อาการมีไข้ไอ มีเสมหะ หายใจเร็ว หายใจเหนื่อย เจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ 36 ฐานปฏิบัติการแม่สามแลบ จึงเข้าช่วยเหลือและอำนวยความสะดวก ในการส่งตัวผู้ป่วยเข้ารับการรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลสบเมย

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน