สาละวินเพิ่มระดับสูงขึ้นต่อเนื่อง อบต.แม่สามแลบ จัดชุดเคลื่อนที่เร็วระวังทางน้ำ ห่วง 10 หมู่บ้านเสี่ยง

สาละวินเพิ่มระดับสูงขึ้นต่อเนื่อง อบต.แม่สามแลบ จัดชุดเคลื่อนที่เร็วระวังทางน้ำ ห่วง 10 หมู่บ้านเสี่ยง

วันที่ 23 กรกฏาคม 2568 จากสถานการณ์ฝนตกหนักติดต่อกัน ส่งผลทำให้ระดับน้ำในลำน้ำสาละวิน เพิ่มสูงขึ้น แต่ยังไม่ส่งผลกระทบกับพี่น้องประชาชนริมน้ำสาละวิน โดย นายพงษ์พิพัฒน์ มีเบญจมาศ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล แม่สามแลบ จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า วันนี้ระดับน้ำสาละวินเพิ่มสูงขึ้น ทาง อบต.แม่สามแลบ ได้มีการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้พี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ริมน้ำสาละวิน ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อลดปัญหาความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์

พร้อมกันนี้ ทาง อบต.แม่สามแลบ ได้จัดชุดเคลื่อนที่เร็วเฝ้าระวังทางน้ำ เตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน 24 ชั่วโมง ซึ่งหากฝนตกหนักต่อเนื่องแบบนี้ น่าเป็นห่วง 10 หมู่บ้าน ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ที่มีความเสี่ยง เกรงจะเกิดน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม ดินสไลด์ปิดถนน เพราะเคยมาเกิดแล้ว จึงต้องแจ้งเฝ้าระวังแต่ละหมู่บ้านเป็นพิเศษในการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ในส่วนเส้นทางการคมนาคม สายรองในแต่ละหมู่บ้านยังคงประสบปัญหาถนนเป็นดินโคลนเละ ร่องลึก รถติดโคลนทำให้การเดินทางเป็นไปด้วยความยากลำบากในช่วงนี้ พี่น้องประชาชนต้องเพิ่มความระมัดระวังในการใช้เส้นทาง บางจุดแนะนำให้ใช้เส้นทางเรือในการสัญจร เส้นทางสายรองบางจุดที่เข้าสู่หมู่บ้าน อบต.แม่สามแลบ และ ชาวบ้าน ต้องช่วยกันซ่อมไปใช้ไป โดยนำหินถมปิดร่องถนนที่ลึก เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

อำเภอสบเมย จัดโครงการพัฒนาส่งเสริมการท่องเที่ยว “ดอยพุ่ยโค” ดินแดนทุ่งหญ้าสีทอง วิวทะเลหมอก 360 องศา

อำเภอสบเมย จัดโครงการพัฒนาส่งเสริมการท่องเที่ยว “ดอยพุ่ยโค” ดินแดนทุ่งหญ้าสีทอง วิวทะเลหมอก 360 องศา

วันที่ 23 กรกฏาคม 2568 ณ หอประชุมโรงเรียนบ้านอุมดาเหนือ ต.แม่คะตวน อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน นายคำผัน โมกไธสง นายอำเภอสบเมย ได้เดินทางเป็นประธานเปิดโครงการ พัฒนาส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่อำเภอสบเมย ซึ่งมี นายสุรศักดิ์ ใจคำ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่คะตวน หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมกิจกรรม

ในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและการบริหารจัดการส่งเสริมการท่องเที่ยว (ดอยพุ่ยโค) ซึ่ง บรรยายโดยวิทยากรจาก อบต.แม่คะตวน .การดำเนินการของวิสาหกิจชุมชนดอยพุ่ยโค บรรยายโดยวิทยากรจาก CCF.ตลอดจนการให้ความรู้เบื้องต้นแก่กลุ่มเยาวชน ในการปฐมพยาบาลเบื้องต้น กรณีนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บ บรรยายโดย วิทยากรจาก รพ.สต.บ้านผาผ่า พร้อมทั้งร่วมกันพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวดอยพุ่ยโค การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมอบรม กลุ่มวิสาหกิจชุมชนดอยพุ่ยโค ผู้นำชุมชน หมู่ที่ 4 หมู่ที่ 6 หมู่ที่ 8 ของ ต.แม่คะตวน และ นักเรียนมัธยมศึกษา 1-3 โรงเรียนบ้านอุมดาเหนือ

ดอยพุ่ยโค หรือดอยปุย (ภาษาท้องถิ่นของชาวกระเหรี่ยง)ตั้งอยู่ที่ บ้านอุมดาเหนือ ต.แม่คะตวน อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ระดับความสูงที่ 1406 ม.จากระดับน้ำทะเล ห่างจากที่ว่าการอำเภอสบเมยประมาณ 14 กิโลเมตร

ดอยพุ่ยโค ขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดน แห่งทุ่งหญ้าสีทอง วิวทิวทัศน์สวยงามและสุดยอดทะเลหมอกที่สามารถมองวิวได้รอบ 360 องศา ทำให้สามารถชมได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตกดิน ในยามค่ำคืนมีดาวเต็มฟ้า ระยะทางเดินเท้าไม่ไกลประมาณ 3 กิโลเมตร ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงก็ถึงยอดดอย เส้นทางบางช่วงชัน เล็กน้อยแต่ถือว่าเป็นการเดินป่าที่ค่อนข้างง่ายและใช้เวลาเดินขึ้นไม่นานนัก แต่กลับได้พบความสวยงามของ ธรรมชาติที่ สวยงามแสนบริสุทธิ์ ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยวที่จะได้พบกับทุ่งหญ้าสีทองคือ เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

“พรานเทพสิงห์ 36” พร้อมเป็นที่พึ่ง ช่วยเหลือประชาชน ในการรับมือภัยพิบัติทุกรูปแบบ

“พรานเทพสิงห์ 36” พร้อมเป็นที่พึ่ง ช่วยเหลือประชาชน ในการรับมือภัยพิบัติทุกรูปแบบ

วันที่ 22 กรกฏาคม 2568 ณ ค่ายเทพสิงห์ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 พันเอก ต่อพงษ์ ชำนาญอาสา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 ได้มอบหมายให้ทาง พันโทวรุตม์ วีรลักษณ์อนันต์ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 ตรวจสภาพความพร้อมของกำลังพลชุดบรรเทาสาธารณภัย และ สิ่งอุปกรณ์ในการบรรเทาสาธารณภัย พร้อมทั้งจัดนายสิบพยาบาลของหน่วย ทำการฝึกอบรม การปฏิบัติการช่วยชีวิตทางยุทธวิธี ขั้นพื้นฐาน (Tactical Combat Casualty Care, TCCC) การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทางยุทธวิธี เพื่อเตรียมความพร้อมในภารกิจการช่วยเหลือประชาชน ในพื้นที่รับผิดชอบของหน่วย

ที่ผ่านมาทาง นายสิบพยาบาลของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 ได้ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลแม่สะเรียง จัดการฝึกอบรม การช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน Basic Life Support (BLS), การช่วยฟื้นคืนชีพด้วยการกดหน้าอก Cardiopulmonary Resuscitation (CPR), การใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ Automated External Defibrillator (AED) และการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บเบื้องต้น, การเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุบนท้องถนน ให้กับ กำลังพลของหน่วย

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

เช็คทุกเช้า นอภ.แม่สะเรียง กำชับกำนันผู้ใหญ่บ้านดูปริมาณน้ำฝน พร้อมรับมือพายุวิภาในการช่วยเหลือประชาชน

เช็คทุกเช้า นอภ.แม่สะเรียง กำชับกำนันผู้ใหญ่บ้านดูปริมาณน้ำฝน พร้อมรับมือพายุวิภาในการช่วยเหลือประชาชน

วันที่ 20 กรกฎาคม 2568 นายวรศักดิ์ พานทอง นายอำเภอแม่สะเรียง เปิดเผยว่าในห้วงสถานการณ์อุทกภัย ทางอำเภอแม่สะเรียง ได้กำชับเน้นย้ำให้ทางกำนันผู้ใหญ่บ้านแต่ละหมู่บ้านเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ปริมาณน้ำฝนอย่างใกล้ชิด พร้อมแจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนได้เตรียมความพร้อมหากเกิดสภาวะวิกฤตฉับพลัน โดยเฉพาะในห้วงที่จะเกิดพายุวิภา อาจทำให้ฝนตกสะสมอย่างต่อเนื่องปริมาณน้ำฝนอาจสูง ทำให้มีความเสี่ยงสูงที่จะเผชิญกับ น้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มได้

ทั้งนี้ ในทุกๆ เช้า ทางกำนันผู้ใหญ่บ้านจะมีการแจ้งรายงานปริมาณน้ำฝนเข้ามาในกลุ่ม line โดยทุกหมู่บ้านจะมีจุดวัดปริมาณน้ำฝน เพื่อประกอบการแจ้งเตือนประชาชน และให้ เฝ้าระวังข่าวสารอย่างใกล้ชิด ติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างสม่ำเสอม เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินหากมีฝนตกหนักมีความเสี่ยงให้รีบแจ้งเตือนพี่น้องประชาชน และ ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อม ทั้งยานพาหนะ อุปกรณ์ กำลังคน ตลอด 24 ชั่วโมง ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้อย่างทันต่อเหตุการณ์

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

ปชช.สองแผ่นดิน ริมน้ำสาละวิน ร่วมปลูกป่าสันติภาพ สร้างพรหมแดนสีเขียว เป็นแนวกันชนไฟป่าอย่างยั่งยืน

ปชช.สองแผ่นดิน ริมน้ำสาละวิน ร่วมปลูกป่าสันติภาพ สร้างพรหมแดนสีเขียว เป็นแนวกันชนไฟป่าอย่างยั่งยืน

วันที่ 19 กรกรฎาคม 2568 นายพงษ์พิพัฒน์ มีเบญจมาศ นายกองค์การ บริหารส่วนตำบลแม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่าเมื่อวานนี้ (18 กรกฎาคม 2568)  ประชาชน 2 ฝั่งริมน้ำสาละวิน ได้เดินทางร่วมกันปลูกป่าเพื่อสันติภาพ  สร้างพื้นที่สีเขียวเป็นแนวกันชนไฟป่าอย่างยั่งยืน  โดยจะดำเนินการปลูกกระจายตามแนวริมน้ำสาละวิน จำนวน 5 จุด เป้าหมาย ต้นไม้กว่า 5,000 ต้น ซึ่งเป็นพันธุ์ไม้หายาก  ไม้ร่มรื่นและไม้ผล  ภายใต้ความร่วมมือ ” โครงการพรมแดนสีเขียว  ขบวนการต้นไม้แห่งชีวิตมื่อตรอ’ ดำเนินการเริ่มปลูก ณ ฐานปฏิบัติการซอแลท่า ฝั่งรัฐกะเหรี่ยง ตรงข้ามท่าเรือบ้านแม่สามแลบ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดมือตรอ นายอำเภอปือโซ และมีบังคับการกองพลที่ 5 ของกองกำลังกะเหรี่ยง Karen National Liberation Army (KNLA) ของ สภาพแห่งชาติกะเหรียง (Karen National Union-KNU) ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และองค์การบริหารส่วนตำบลแม่สามแลบ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ได้ร่วมกิจกรรมดังกล่าว อย่างคึกคัก

นายกแม่สามแลบ กล่าวเพิ่มเติมว่า “วัตถุประสงค์ของกิจกรรม ดังกล่าว เพื่อ สร้างความร่วมมือกันฟื้นฟูและดูแลผืนป่าแม่น้ำสาละวิน และเพื่อสร้างความร่วมมือในการจัดการไฟป่าทั้งสองฝั่ง เนื่องจากเป็นแม่น้ำที่เป็นพรมแดน และมีระบบนิเวศเชื่อมโยงหากัน เช่นเดียวกับประชาชนสองฝั่งก็เป็นเครือญาติและในวันนี้เป็นพลังร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ”

ทั้งนี้ เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมาพื้นที่ดังกล่าวเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่ประสบปัญหาไฟป่า ด้วยความร่วมมือของสองฝั่งลำน้ำสาละวินในการร่วมแก้ไขปัญหาไฟป่าอย่างจริงจัง ทั้งการทำแนวกันชน  การจัดชุดเฝ้าระวังไฟป่า การจัดกำลังลาดตระเวนดับไฟ การตั้งจุดสกัด พร้อมอุปกรณ์ดับไฟ  จนเกิดเป็นพื้นที่โมเดลนำร่องในการแก้ไขปัญหาไฟ เป็นแนวกันชนผืนใหญ่ให้กับทั้งสองฝั่งประเทศ ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ ปี 2567  จะเห็นได้จาก  จุดhotspotที่เผยแพร่ผ่านระบบ Firms เมื่อวันที่ 17/3/68  เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จในการบูรณาการความร่วมมือในการร่วมกันแก้ไขปัญหาไฟป่า ส่งผลให้พื้นที่ดังกล่าวจุดฮอตสปอตลดลง
อย่างชัดเจน

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

นายอำเภอแม่ลาน้อย ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิด หลังจากที่เกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่

นายอำเภอแม่ลาน้อย ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมให้เร่งสำรวจความเสียหายบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน

วันที่ 18 กรกฏาคม 2568 ภายหลังจากที่เกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ อำเภอแม่ลาน้อย ว่าที่ร้อยตรีวิทยา โปทาศรี นายอำเภอแม่ลาน้อย พร้อมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัย ในพื้นที่ตำบลสันติคีรี และตำบลแม่ลาหลวง อำเภอแม่ลาน้อย เพื่อสำรวจความเสียหายและรับฟังข้อมูลความเดือดร้อนของราษฏร เร่งบรรเทาความเดือดร้อน บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน แจ้งเตือนผู้นำระดับตำบล หมู่บ้านในพื้นที่ลุ่มต่ำ ณ สะพานบ้านหัวลาร่วมใจพัฒนา บ้านหัวลา และ สะพานลำน้ำแม่ลาหลวง บ้านแม่ลาหลวง อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน

ทั้งนี้ จากการคาดการณ์และแจ้งข่าวสารจากกรมอุตุนิยมวิทยา รวมถึงการคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนในห้วงที่ผ่านมา ได้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่หลายตำบล ทำให้เกิดอุทกภัยในพื้นที่ตำบลแม่นาจาง ตำบลสันติคีรี ตำบลแม่ลาหลวง ทำให้พื้นที่ทำการเกษตร เช่นไร่นา สวน ได้รับความเสียหาย ได้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการช่วยเหลือเร่งด่วน ประกอบกับมีดินสไลด์ในบางหมู่บ้าน ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้เข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเพื่อให้ราษฎรสามารถสัญจรได้

นายอำเภอแม่ลาน้อยได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน โดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เมื่อเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินหรือผลผลิตทางการเกษตรให้เร่งสำรวจและช่วยเหลือ หากพี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบจากอุทกภัยหรือต้องการความช่วยเหลือสามารถแจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือแจ้งฝ่ายความมั่นคงอำเภอแม่ลาน้อยได้ตลอด 24 ชั่วโมง

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

แม่สะเรียง จับสึกพระสงฆ์พัวพันยาเสพติด พร้อมเข้ารับการบำบัดฟื้นฟู

แม่สะเรียง จับสึกพระสงฆ์พัวพันยาเสพติด พร้อมเข้ารับการบำบัดฟื้นฟู

วันที่ 18 กรกฏาคม 2568 นายวรศักดิ์ พานทอง นายอำเภอแม่สะเรียง/ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอแม่สะเรียง สั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองอำเภอแม่สะเรียง นำโดยปลัดอำเภอและสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน(อส.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะพระสงฆ์ หลังรับแจ้งว่ามีพระสงฆ์ มีพฤติกรรมเสพยาและเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ณ สำนักสงฆ์บ้านป่าหมาก หมู่ที่ 11 ตำบลบ้านกาศ อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน

ชุดปฏิบัติการ ได้ดำเนินการตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะแล้ว พบมีสารเสพติดในปัสสาวะจริงจึง ได้ทำการสอบสวนสืบสวนข้อเท็จจริงพร้อมขยายผล และได้เชิญตัวให้เจ้าคณะอำเภอดำเนินการสึกพ้นจากความเป็นสงฆ์ และผู้เสพได้ยินยอมสมัครใจ ขอรับการบำบัดฟื้นฟูต่อไป

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

“น้อมรำลึกสมเด็จย่า” โรงเรียนสังวาลย์วิทยา จัดกิจกรรมวันศรีนครินทร์ สถานศึกษาบนดอยสูง มุ่งเน้นให้นักเรียนเป็นคนดี คนเก่ง

“น้อมรำลึกสมเด็จย่า” โรงเรียนสังวาลย์วิทยา จัดกิจกรรมวันศรีนครินทร์ สถานศึกษาบนดอยสูง มุ่งเน้นให้นักเรียนเป็นคนดี คนเก่ง มีทักษะวิชาการ วิชาชีพ และ ทักษะชีวิต

วันที่ 18 กรกฏาคม 2568 เวลา 09.00 น. ที่ โรงเรียนสังวาลย์วิทยา อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ได้จัดงานวันศรีนครินทร์ เพื่อ น้อมรำลึกสมเด็จย่า ขึ้น โดยได้รับเกียรติจาก นายบุญลือ ธรรมธรานุรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เดินทางเป็นประธานในงานวันศรีนครินทร์ หรือ วันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เพื่อ น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่ทรงมีต่อเด็กด้อยโอกาสบนพื้นที่สูง ให้มีโอกาสทางการศึกษาและชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยมี นางกัญวรา วงศ์ธิดา ผู้อำนวยโรงเรียนสังวาลย์วิทยา นำเด็กนักเรียน คณะครู ให้การต้อนรับ ร่วมกับทาง นายพงษธร เศรษฐถาวร ผู้พิพากษาศาลจังหวัดแม่สะเรียง , นายวรศักดิ์ พานทอง นายอำเภอแม่สะเรียง , ดร.กัญญาพัชร พงษ์ดี รอง.ผอ.สพป.แม่ฮ่องสอน เขต2 และหัวหน้าส่วนราชการ และราษฎรในพื้นที่ ร่วมประกอบพิธีทำบุญใส่บาตร อุทิศส่วนกุศลเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จย่า

พร้อมกันนี้ ได้มีการมอบทุนการศึกษา กองทุนสมเด็จย่า จำนวน 9 ทุน และ มอบเข็มตราสัญลักษณ์ให้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1มัธยมศึกษาปีที่ 4 และ ครู กิจกรรมวันศรีนครินทร์ประกอบไปด้วย การประกวดการแข่งขันทักษะวิชาการ การวาดภาพระบายสี การคัดลายมือ การเขียนเรียงความ ในหัวข้อ สมเด็จย่าของปวงชนชาวไทย นอกจากนี้ยังการจัดการแข่งขันดนตรีโฟคซอง เพื่อเป็นการเปิดเวทีให้เด็กๆนักเรียนได้แสดงออกอย่างสร้างสรรค์

โรงเรียนสังวาลย์วิทยา เป็น โรงเรียนในพระราชดำริของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี จัดตั้งขึ้นเพื่อให้โอกาสทางการศึกษาแก่เด็กด้อยโอกาสทางการศึกษา ในถิ่นทุรกันดาร ซึ่งเมื่อเดือนพฤศจิกายน พุทธศักราช 2510 สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้เสด็จเยี่ยมราษฎรชาวไทยภูเขา ณ ศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขาดอยแม่เหาะ ได้ทรงรับสั่ง แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนว่าควรจัดตั้งโรงเรียนประถมศึกษาขึ้นโดยเร็ว เพื่อเด็กชาวเขาจะได้รับการศึกษาเล่าเรียนและเป็นพลเมืองที่ดีของชาติสืบไป ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนจึงได้ดำเนินการตามพระราชปณิธานสนองพระเดชพระคุณด้วยความจงรักภักดี จึงได้รายงานเสนอต่อกระทรวงมหาดไทยขอจัดตั้งโรงเรียนและของบประมาณในการก่อสร้างอาคารเรียนตามแบบแปลน ป.1 ฉ จำนวน 4 ห้องเรียน 1 หลัง ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อเดือนกันยายน พุทธศักราช 2511 ในพื้นที่ ที่ศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขา จัดเตรียมให้ มีเนื้อที่ 10 ไร่ 1 งาน ทำการเรียนการสอน เมื่อวันที่ 11 เดือน ธันวาคม พุทธศักราช 2511 เมื่อสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงทราบการก่อสร้างอาคารเรียนเสร็จเรียบร้อยพร้อมที่จะทำการเปิดการเรียนการสอน พระองค์ท่านได้เสด็จเปิดป้ายอาคารเรียนด้วยพระองค์เอง เมื่อวันที่ 4 เดือนกุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2511 และพระราชทานนามโรงเรียนว่า สังวาลย์วิทยา

ปัจจุบันโรงเรียนสังวาลย์วิทยาเปิดทำการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล 2 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียนจำนวน 521 คน จำนวน 23 ห้องเรียน มีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาจำนวน 38 คน โรงเรียนได้ดำเนินการให้ นักเรียนที่บ้านอยู่ห่างไกลโรงเรียนมาพักนอนในโรงเรียน ซึ่งมีจำนวน 263 คน เพื่อให้เด็กๆ ได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างเท่าเทียม ทั้งนี้โรงเรียนสังวาลวิทยามุ่งเน้นให้เด็กนักเรียนเป็นคนดี ที่จะเป็นคนเก่ง และ เด็กสามารถมีทักษะวิชาการ ทักษะอาชีพ และ ทักษะชีวิต ต่อไปในอนาคตได้

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

สภ.แม่สะเรียง จัดกิจกรรมจิตอาสาเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ

สภ.แม่สะเรียง จัดกิจกรรมจิตอาสาเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ

วันที่ 17 กรกฏาคม 2568 ณ ริมแม่น้ำยวม อ.แม่สะเรียง นายวรศักดิ์ พานทอง นายอำเภอแม่สะเรียง เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมจิตอาสาเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนารายณ์มหาราช 11 กรกฎาคม โดยมี พันตำรวจเอกรัฐวิชญ์ วศินพงศ์ธนัช ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแม่สะเรียง พ.ต.ท.จักษ์พัฒน์ ดอกจันทร์ รองผกก.ป.สภ.แม่สะเรียง, พ.ต.ท.กิตติ์ธนัตถ์ มหาวันแจ่ม รอง ผกก(สอบสวน)สภ.แม่สะเรียง, พ.ต.ท.อลงกรณ์ พรหมตา รอง ผกก.สส.สภ.แม่สะเรียง พร้อมข้าราชการตำรวจสถานีตำรวจภูธรแม่สะเรียงและส่วนราชการ ประชาชนจิตอาสา ร่วมกิจกรรมจิตอาสา ตัดหญ้าและเก็บกวาดขยะ แนวริมแม่น้ำยวม เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนารายณ์มหาราช

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

ชุมชนยลวิถีบ้านต่อแพ ถ่ายทอดภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมท้องถิ่น แก่เด็ก เยาวชน สืบสานสิ่งดีงามและวิถีชีวิต ต่อยอดสร้างรายได้

ชุมชนยลวิถีบ้านต่อแพ ถ่ายทอดภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมท้องถิ่น แก่เด็ก เยาวชน สืบสานสิ่งดีงามและวิถีชีวิต ต่อยอดสร้างรายได้

15 กรกฏาคม 2568 ที่ศูนย์การเรียนรู้ทางวัฒนธรรมชุมชนพื้นถิ่นวัดต่อแพ อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน นางสาวกมลลักษณ์ บุญซื่อ วัฒนธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธาน เปิดโครงการส่งเสริมการดำเนินงานชุมชน และแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรม เป็นชุมชนยลวิถี เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมท้องถิ่น แก่เด็ก เยาวชน และผู้ที่สนใจ สะท้อนอัตลักษณ์วัฒนธรรม สามารถสร้างทั้งคุณค่าเชิงวัฒนธรรมและมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ชุมชน เช่นการทำปราสาทราชวัตร (จองพารา) โคมไฟ ตุงฉลุ และตำข่อน

ชุมชนบ้านต่อแพ มีศูนย์การเรียนรู้ทางวัฒนธรรมชุมชนพื้นถิ่นวัดต่อแพ ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2557 โดยพระครูอนุกูลกัลยาณพจน์ เจ้าอาวาสวัดต่อแพ และพ่อจางณัฐพล สุวรรณสังข์ เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวไทใหญ่ ชุมชนบ้านต่อแพ อีกทั้ง ยังเป็นชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ขับเคลื่อนด้วยพลังบวร ที่มีศักยภาพและความพร้อมด้านการท่องเที่ยวในทุกมิติ มีการอนุรักษ์ สืบสาน รักษา และต่อยอดทุนทางวัฒนธรรม ด้านศิลปะ ดนตรี และการแสดง

สำหรับกิจกรรมโครงการส่งเสริมการดำเนินงานชุมชน และแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรม มีการบรรยายหัวข้อ “ ศิลปและวัฒนธรรมการต้องลายไทใหญ่ ( ฉลุแผ่นสังกะสี) โดย พระครูอนุสาร นันทสิทธิ์ เจ้าอาวาสวัดประตูเมือง และการบรรยายหัวข้อ “ ศิลปในพระพุทธศาสนา “โดย พระครูอนุกูลกัลยาณพจน์ เจ้าอาวาสวัดต่อแพ มีการเรียนรู้ภูมิปัญญาซึ่งมีฐานการเรียนรู้ทั้งหมด 3 ฐาน ได้แก่ ฐานต้องลายไทใหญ่ ฐานตุง ฐานโคมไฟ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคท้องถิ่น นักเรียน และประชาชน รวมทั้งสิ้นกว่า 50 คน

นายบุญสม เมืองนำโชค ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอขุนยวม เปิดเผยว่า ชุมชนบ้านต่อแพ ต.แม่เงา อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน เป็นชุมชนคุณธรรมต้นแบบ และ ได้รับการคัดเลือก สุดยอดชุมชนต้นแบบ เที่ยวชุมชน ยลวิถี จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประจำปี 2566

พระครูอนุกูลกัลยาณพจน์ เจ้าคณะตำบลขุนยวม – แม่เงา เจ้าอาวาสวัดต่อแพ ได้เจริญพรว่า การอนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการธำรงไว้ซึ่งอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของชุมชน ซึ่งสะท้อนถึงวิถีชีวิต ความเชื่อ และความคิดสร้างสรรค์ของบรรพบุรุษที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “การต้องลายไทใหญ่ผสมพม่า” ซึ่งเป็นงานหัตถกรรมอันประณีตที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นของชาวบ้านต่อแพ โครงการในวันนี้ จึงเป็นโอกาสอันดี ที่จะส่งเสริมให้เยาวชนและประชาชนในพื้นที่ ได้เรียนรู้และภาคภูมิใจในมรดกทางวัฒนธรรมของตนเอง อีกทั้งยังเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ และพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน โดยมีศูนย์การเรียนรู้ทางวัฒนธรรมชุมชนพื้นถิ่นวัดต่อแพ เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และถ่ายทอดองค์ความรู้อย่างเป็นระบบ

นางสาวกมลลักษณ์ บุญซื่อ วัฒนธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เปิดเผยว่า โครงการที่จัดทำในครั้งนี้ จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน เน้นส่งเสริมภูมิปัญญาที่ถ่ายทอด ได้แก่ การต้องลายแบบไทใหญ่ผสมพม่า เช่น การทำปราสาทราชวัตร (จองพารา) โคมไฟ และตุงฉลุตำข่อน ซึ่งล้วนเป็นงานหัตถศิลป์ที่สะท้อนอัตลักษณ์วัฒนธรรม สามารถสร้างทั้งคุณค่าเชิงวัฒนธรรมและมูลค่า ทางเศรษฐกิจให้แก่ชุมชน เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนในพื้นที่ได้เรียนรู้และสามารถสืบทอดภูมิปัญญาได้อย่างถูกต้อง เพื่อพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมที่สร้างรายได้แก่ชุมชน เพื่อเป็นต้นแบบของศูนย์เรียนรู้ที่สามารถถ่ายทอดองค์ความรู้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

Cr. ฉลอง หมั่นสกุล จ.แม่ฮ่องสอน