ประธานองคมนตรี / ประธานที่ปรึกษาโครงการฯ ติดตามและขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการพัฒนาราษฎรชาวไทยภูเขาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน

ประธานองคมนตรี / ประธานที่ปรึกษาโครงการฯ ติดตามและขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการพัฒนาราษฎรชาวไทยภูเขาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ประจำปีงบประมาณ 2568 ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน

วันที่ 15 พฤษภาคม 2568 เวลา 10.30 น. ที่ ห้องประชุมสิงหนาทบำรุง ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน นายเอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมประชุมการติดตามและขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการพัฒนาราษฎรชาวไทยภูเขาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ประจำปีงบประมาณ 2568 โดยมี พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี /ประธานที่ปรึกษาโครงการฯ เป็นประธานการประชุม และมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย นายบุญลือ ธรรมธรานุรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดแม่ฮ่องสอน หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมเพื่อติดตามความก้าวหน้าการขับเคลื่อนการดำเนินงานฯ และแก้ไขปัญหาข้อขัดข้องในการดำเนินงาน และการให้คำแนะนำในการดำเนินโครงการฯ โดย ประธานองคมนตรี / ประธานที่ปรึกษาโครงการฯ

ที่ประชุมได้การรายงานความก้าวหน้าการขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการพัฒนาราษฎรชาวไทยภูเขาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ประจำปีงบประมาณ 2568 ตามประเด็นที่กำหนด ดังนี้ การจัดตั้งหมู่บ้านยามชายแดนให้เป็นหมู่บ้านที่ถูกต้องตามพระราชบัญญัติ ลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ.2457 ซึ่งดำเนินงานโดยที่ทำการปกครองจังหวัดแม่ฮ่องสอน , การติดตามความก้าวหน้าการดำเนินการโครงการปรับปรุงเส้นทางคมนาคมในพื้นที่โครงการหมู่บ้านพัฒนาเพื่อควานมั่นคงพื้นที่ชายแดนอันเนื่องมาจากพระราชดำริจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งดำเนินงานโดยสำนักงานจังหวัดแม่ฮ่องสอน , การติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานแผนงานขยายเขตระบบไฟฟ้าในพื้นที่โครงการฯ ซึ่งดำเนินงานโดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดแม่ฮ่องสอน , การติดตามความก้าวหน้าการปรับปรุงซ่อมแซมอ่างเก็บน้ำบ้านปางคอง อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งดำเนินงานโดยโครงการชลประทานแม่ฮ่องสอน , การดำเนินการและแก้ไขปัญหาข้อขัดข้องโครงการสนับสนุนนักเรียนทุนพยาบาลศาสตร์บัณฑิตของมูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งดำเนินงานโดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน , การดำเนินงานโครงการจัดตั้งหมู่บ้านยามชายแดนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งดำเนินงานโดยศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และความมั่นคง เขตพื้นที่กองพลพัฒนาที่ 3 และการดำเนินโครงการพัฒนาเพื่อเสริมความมั่นคงเฉพาะพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งดำเนินงานโดยศูนย์อำนวยการประสานโครงการพัฒนาเพื่อเสริมความมั่นคงเฉพาะพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน

Cr. ฉลอง หมั่นสกุล จ.แม่ฮ่องสอน

ประธานองคมนตรี ติดตามผลการดำเนินงานด้านการเรียนการสอนของนักศึกษาที่มีภูมิลำเนาจังหวัดแม่ฮ่องสอน

พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี ติดตามผลการดำเนินงานด้านการเรียนการสอนของนักศึกษาที่มีภูมิลำเนาจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในสถาบันพระบรมราชชนก

วันที่ 15 พฤษภาคม 2568 เวลา 0830 น. ณ ห้องประชุมราชอัยยิกาสุสรณ์โรงพยาบาลศรีสังวาลแม่ฮ่องสอน อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เดินทางมาติดตามผลการดำเนินงานด้านการเรียนการสอนของนักศึกษาที่มีภูมิลำเนาจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในสถาบันพระบรมราชชนก โดยมี นายเอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ศาสตราจารย์พิเศษ ดร. นพ. วิชัย เทียนถาวร อธิการบดีสถาบันพระบรมราชชนก พร้อมด้วยผู้บริหาร คณาจารย์ ได้นำนักศึกษาที่มีภูมิลำเนาจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่เข้าศึกษาในระดับปริญญาตรี คณะพยาบาลศาสตร์ คณะสาธารณสุขศาสตร์และสหเวชศาสตร์ จำนวน 169 คน และนักศึกษาผู้ช่วยพยาบาล ภายใต้โครงการผลิตผู้ช่วยพยาบาล สร้างคน สร้างงาน สู่การสร้างภาวะชุมชน คนแม่ฮ่องสอน เทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชนีพันปีหลวง ครบรอบ 91 พรรษา วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี เชียงใหม่ จำนวน 37 คน เข้ามารายงานความก้าวหน้าในการจัดการเรียนการสอน

จากการดำเนินงานของสถาบันพระบรมราชชนก ในด้านการจัดการเรียนการสอน ภายใต้โครงการ สบช.สัญจร เพื่อเปิดโอกาสทางการศึกษา สถาบันพระบรมราชชนกได้ MOU ร่วมกันกักระทรวงศึกษาธิการ และได้ดำเนินการสัญจรทั่วประเทศ เพื่อให้โควตาสำหรับนักเรียนในพื้นที่ พบว่า จังหวัดแม่ฮ่องสอนมีนักเรียนที่ได้รับคัดเลือกโครงการ สบช.สัญจร ตั้งแต่ปีการศึกษา 2565- 2567 จำนวน 96 คน ประกอบด้วยคณะพยาบาลศาสตร์ จำนวน 85 คน คณะสาธารณสุขศาสตร์และสหเวชศาสตร์ จำนวน 11 คน นักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการสบช.สัญจร “บัณฑิตคืนถิ่น รักบ้านเกิด” เทิดพระเกียรติ รัชกาลที่ 9 มีผลการเรียน ระดับเกียรตินิยมอันดับ 1 และ 2 จากคณะพยาบาลศาสตร์ จำนวน 3 ราย คณะสาธารณสุขศาสตร์และสหเวชศาสตร์ จำนวน 3 ราย

สำหรับในปีการศึกษา 2568 มีนักศึกษาสนใจเข้าร่วมโครงการผลิตแพทย์และทีมนวัดกรรมสุขภาพเพื่อเวชศาสตร์ครอบครัว ตอบสนองต่อระบะรุรุภาพปฐมภูมิทั่วไทย (9 หมอ) โดยโครงการดังกล่าว คณะรัฐมะรัฐมตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระหรวงสาธารณสุข (สธ.) เมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2567 ดังนี้

1. เห็นชอบในหลักการของโครงการผลิตแพทย์และทีมนวัตกสุขภาพเพื่อเวชศาสตร์ครอบครัวตอบสนองต่อระบบสุขภาพปฐมภูมิทั่วไทย(โครงการผลิตแพทย์ฯ)
2. อนุมัติรายการผูกพันข้ามปิงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป สำหรับโครงการผลิตแพทย์ฯ จำนวนทั้งสิ้น 37,234.48 ล้านบาทครอบคลุมระยะเวลา 10 ปี ระหว่างปีการศึกษา 2568 – 2577 แผนผลิต จำนวน 62,000 คน

ประกอบด้วยแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวและสหวิชาชีพ รวม 9 สาขาวิชาชีพ ได้แก่ แพทย์เวชศาสตร์ พยาบาล นักวิชาการสาธารณ์สุข ผู้ช่วยพยาบาล ผู้ช่วยสาธารณสุข ทันตแพทย์ เภสัชกร นักฉุกเฉินการแพทย์ และแพทย์แผนไทย) ปีการศึกษา 2568 นี้ นักศึกษาที่ผ่านการคัดเลือกในโครงการ 9 หมอ ที่มีภูมิลำเนาจาก จังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 10 คน

คณะสาธารณสุขศาสตร์และสหเวชศาสตร์ 6 คน ประกอบด้วย
-สาขาวิชาสาธารณสุขชุมชน 3 คน โควตาของตำบลทุ่งยาว อำเภอปาย 2 คน และตำบละต่แม่คะตวน
อ.สบเมย 1 คน)
– สาขาทันตสาธารณสุข 2 คน โควตาของตำบลแม่ยวม อำเภอแม่สะเรียง และ ตำบลแม่ฮี้ อำเภอปาย
– สาขาวิชาการแพทย์แผนไทย 1 คน โควตาของตำบลเวียงใต้ อำเภอปาย

Cr. ฉลอง หมั่นสกุล จ.แม่ฮ่องสอน

เสริมสร้างขวัญและกำลังใจ ผบ.กรมทหารพราน 36 มอบทุนการศึกษา ประกาศเกียรติคุณ เงินช่วยเหลือครอบครัวกำลังพล

เสริมสร้างขวัญและกำลังใจ ผบ.กรมทหารพราน 36 มอบทุนการศึกษา ประกาศเกียรติคุณ เงินช่วยเหลือครอบครัวกำลังพล

วันที่ 15 พฤษภาคม 2568 ณ ค่ายเทพสิงห์ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 พ.อ. ต่อพงษ์ ชำนาญอาสา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 ได้เป็นประธานในพิธีมอบทุนการศึกษาให้กับบุตรกำลังพล ประจำปี 2568 จำนวน ยอดทุน 442,000 บาท พร้อมทั้งมอบใบประกาศเกียรติคุณ จาก กองทัพบก , กองทัพภาคที่ 3 ให้กำลังพล 7 นาย และมอบเงินช่วยเหลือสวัสดิการ ,ของใช้บุตรแรกเกิด ให้กับกำลังพลของหน่วย

จากนั้นได้มีการพบปะ พูดคุย กล่าวชมเชยกำลังพลที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น และให้โอวาทแก่บุตรกำลังพลที่เข้ารับมอบทุนในครั้งนี้ ซึ่งเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับกำลังพลและครอบครัวนักรบดำ

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

ชุดปฏิบัติการจิตวิทยาเฉพาะกิจที่ 302 แม่สะเรียง ร่วมบริจาคโลหิต ต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์ ในโครงการ 70 พรรษา 70 ล้านซีซี

ชุดปฏิบัติการจิตวิทยาเฉพาะกิจที่ 302 แม่สะเรียง ร่วมบริจาคโลหิต ต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์ ในโครงการ 70 พรรษา 70 ล้านซีซี

วันที่ 15 พฤษภาคม 2568 ณ โรงพยาบาลแม่สะเรียง ชุดปฏิบัติการจิตวิทยาเฉพาะกิจที่ 302 ร่วมกับ กำลังพล ฉก.ทพ.36 และ ชป.กร.304 กอ.รมน.ภาค 3 ส่วนแยก 1 กกล.นเรศวร เข้าบริจาคโลหิต ให้กับ ธนาคารเลือด รพ.แม่สะเรียง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลในโครงการ “70 พรรษา 70 ล้าน ซีซี เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายพระราชสมภพ ทรงเจริญพระชนมายุ 70 พรรษา 2 เมษายน 2568 และ นำไปช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องใช้โลหิตในการผ่าตัด หรือทำการรักษา รวมถึง เพื่อให้ ธนาคารเลือด รพ.แม่สะเรียง สำรองไว้ใช้ในยามจำเป็น

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

ปศุสัตว์แม่สะเรียง ตรวจสอบโคตาย ไม่เข้าข่ายโรคระบาดในสัตว์ เตือนอย่าชำแหละเพื่อบริโภคโดยเด็ดขาด

ปศุสัตว์แม่สะเรียง ตรวจสอบโคตาย ไม่เข้าข่ายโรคระบาดในสัตว์ เตือน อย่าชำแหละเพื่อบริโภคโดยเด็ดขาด

วันที่ 14 พฤษภาคม 2568 นายสมพงษ์ พิพัฒพงค์ชัย ปศุสัตว์จังหวัดแม่ฮ่องสอน มอบหมายให้ นายวีรภัทร เทพวงสา เจ้าพนักงานสัตวบาลชำนาญงาน รักษาราชการแทนปศุสัตว์อำเภอแม่สะเรียง และนายสันติ จตุรชัยมงคล พนักงานผู้ช่วยปศุสัตว์ ลงพื้นที่ตรวจสอบ กรณีเกษตรกรแจ้งโคป่วยตายไม่ทราบสาเหตุ ในพื้นที่บ้านโก๊ะไม้หลู่ ตำบลป่าแป๋ อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตรวจสอบเบื้องต้น มีข้อเท็จจริงดังนี้ โคฝูงที่ป่วยตาย มีเจ้าของเลี้ยงร่วมกัน 2 ราย ได้แก่ นายวินัย วันเผด็จ เลี้ยงโค จำนวน 10 ตัว ป่วย 5 ตัว และป่วยตาย 1 ตัว และนายสมใจ ไฝ่พฤสุวรรณ เลี้ยงโค จำนวน 12 ตัว ป่วย 11 ตัว และป่วยตาย 1 ตัว ทั้งสองเป็นเกษตรกรผู้เลี้ยงโคในพื้นที่บ้านโก๊ะไม้หลู่ หมู่ที่ 7 ตำบลป่าแป๋ อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยเลี้ยงรูปแบบปล่อยตามธรรมชาติร่วมกัน

จากการสอบสวนทางระบาดวิทยา ในวันที่ 12 พฤษภาคม 2568 โคฝูงดังกล่าวมีอาการน้ำลายไหล ไม่กินหญ้า จำนวน 14 ตัว จากทั้งหมด 22 ตัว และในเช้าวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 พบโคตายจำนวน 2 ตัว ลักษณะภายนอก ไม่พบรอยโรคที่สงสัยว่าเป็นโรคระบาดสัตว์ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการฝังซากโคตามวิธีการที่กรมปศุสัตว์กำหนด จากอาการแสดง ลักษณะสภาพแวดล้อมโดยรอบ ประกอบกับรอบบริเวณดังกล่าวไม่พบโค กระบือที่ป่วยตายในลักษณะเดียวกัน อาการป่วยของโคฝูงดังกล่าววินิจฉัยเบื้อง อาจเกิดจากการได้รับสารพิษจากสิ่งแวดล้อม หรือจากต้นอ่อนของพืชในปริมาณมาก

นอกจากนี้ได้ดำเนินการรักษาตามอาการให้แก่สัตว์ที่ยังมีน้ำลายไหลและไม่กินอาหาร พร้อมทั้งแจ้งเจ้าของสัตว์ให้ทำการกักโคฝูงดังกล่าวเพื่อดูอาการ หลังจากให้การรักษาทางยาพบว่า มีการตอบสนองต่อการรักษามีอาการดีขึ้น

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

นายกแม่สามแลบ เตือนระวัง ฝนตกหนักเส้นทางลื่น อันตราย ส่วนบ้านเสาหิน น้ำป่าหลาก เพิ่มความระมัดระวังการเดินทาง

นายกแม่สามแลบ เตือนระวัง ฝนตกหนักเส้นทางลื่น อันตราย ส่วนบ้านเสาหิน น้ำป่าหลาก เพิ่มความระมัดระวังการเดินทาง และ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

วันที่ 14 พฤษภาคม 2568 ภายหลังได้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ทำให้หลายพื้นที่เกิดน้ำป่าไหลหลากออกตามลำห้วย และ เส้นทางสัญจร นายพงษ์พิพัฒน์ มีเบญจมาศ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่สามแลบ ได้เปิดเผยว่า ภายหลังได้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ ตั้งแต่เย็นเมื่อวานนี้ ได้เกิดน้ำในลำห้วยแม่สามแลบไหลหลาก เพิ่มระดับสูงขึ้น แต่ยังไม่ส่งผลกระทบต่อความเสียหาย ฝนที่ตกหนักทำให้น้ำไหลหลากออกจากลำห้วยตามเส้นทางถนนพื้นที่สัญจรในหมู่บ้านของ ต.แม่สามแลบ เช่นที่ บ้านกอมูเดอ น้ำป่าที่หลากตามเส้นทางถนนพัดพาเศษไม้ปิดขวางเส้นทาง ชาวบ้านต้องช่วยกันนำเศษไม้ออกไม่ให้ปิดทางน้ำหวั่นสร้างความเสียหายกับถนน

นอกจากนี้ฝนที่ตกหนักทำถนนมีความลื่นมาก โดยเฉพาะเส้นทางขึ้นไปยังกลอเซโล ขอประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนใช้เส้นทางด้วยความระมัดระวัง หากมีความจำเป็นในการเข้าออกในพื้นที่ของหมู่บ้านแม่สามแลบให้เช็คเส้นทางก่อนการเดินทาง และ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ขณะที่ ด้านบ้านสาหิน ต.เสาหิน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ทาง องค์การบริหารส่วนตำบลเสาหิน ได้ประกาศแจ้งเตือน ชาวตำบลเสาหิน ให้เฝ้าระวังน้ำป่าหลาก หลังเมื่อเวลา 18.00 น.ของเย็นวานนี้ ได้มีน้ำป่าไหลหลากออกมาจากลำห้วยต่างๆของ บ้านเสาหิน มวลน้ำกำลังไหลลงมาถึงบ้านสล่าเชียงตอง และ ลำห้วยแม่แงะ พื้นที่ตอนล่างที่ต้องเฝ้าระวังคือ บ้านแม่แพะ แม่เหลอ บ้านแม่เจ และ บ้านโพซอ ต.เสาหิน อ.แม่สะเรียง ทางองค์การบริหารส่วนตำบลเสาหิน แจ้งเตือนพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ริมลำห้วย และ ผู้ใช้เส้นทางสัญจรเข้าไปในพื้นที่บ้านเสาหิน ให้ระวังน้ำป่าไหลหลาก ให้เตรียมพร้อมรับมือมวลน้ำ และ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และ ระมัดระวังในการเดินทาง

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้การต้อนรับคณะผู้แทนของคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ

ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้การต้อนรับคณะผู้แทนของคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) เข้าพบเพื่อเยี่ยมคาราวะ และขอบคุณหน่วยงานของไทยในการช่วยเหลือประสานงาน

14 พ.ค. 2568 ที่ห้องประชุมสิงหนาทบำรุง ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายเอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยปลัดจังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้การต้อนรับคณะผู้แทนของคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) นำโดย นายดราโกสลาฟ บลาเซวิช (Dragoslav Blazevic) หัวหน้าสำนักงาน ICRC สำนักงานเชียงใหม่ พร้อมด้วย นางสาววรลักษณ์ ธีรนันทากุล หัวหน้าสำนักงาน ICRC สำนักงานเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่ภาคสนาม ICRC สำนักงานเชียงใหม่ เข้าพบเพื่อเยี่ยมคาราวะ และขอบคุณหน่วยงานของไทยในการช่วยเหลือประสานงาน และอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ

ทั้งนี้ คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC : International Committee of the Red Cross) เป็นองค์กรที่ปฏิบัติงานเพื่อให้ความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรม แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากการสู้รบ / ความไม่สงบ ตามพันธกิจที่ได้รับมอบหมายจากสนธิสัญญาเจนีวา หรือ กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ การดำเนินการในภาคส่วนหนึ่งจึงมุ่งเน้นการประสานความเข้าใจกับทุกภาคส่วนภายใต้ หลักการของกฎหมายระหว่างประเทศดังกล่าว

สำหรับ ICRC สำนักงานเชียงใหม่เริ่มดำเนินงานในพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย – เมียนมาเพื่อให้ความช่วยเหลือทางด้าน มนุษยธรรมแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศเพื่อนบ้านมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 โดยหนึ่งในกิจกรรมการให้ความช่วยเหลือหลักคือโครงการให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากการสู้รบผ่านการให้ความ สนับสนุนค่าใช้จ่ายให้แก่โรงพยาบาลที่อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงสาธารณสุขมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545

Cr. ฉลอง หมั่นสกุล จ.แม่ฮ่องสอน

แม่ฮ่องสอน ไม่พบการลักลอบนำเข้าโคกระบือจากประเทศเพื่อนบ้าน เตือนประชาชน พบโค กระบือตายหรือป่วยตายผิดปกติ แจ้งปศุสัตว์ทันที

แม่ฮ่องสอน ไม่พบการลักลอบนำเข้าโคกระบือจากประเทศเพื่อนบ้าน เตือนประชาชน พบโค กระบือตายหรือป่วยตายผิดปกติ แจ้งปศุสัตว์ทันที อย่าชำแหละเพื่อบริโภคโดยเด็ดขาด

14 พ.ค. 68 นายสมพงษ์ พิพัฒพงค์ชัย ปศุสัตว์จังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า กรมปศุสัตว์ได้ชลอการนำเข้าโค กระบือ จากประเทศเพื่อนบ้าน เป็นเวลา 2 ปี ตั้งแต่เดือน ก.พ.2566 ส่วนการเคลื่อนย้ายสัตว์ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยบูรณาการทั้งฝ่ายทหาร ปกครอง ตำรวจ ท้องที่ ท้องถิ่น ได้ทำการควบคุมโรคตามข้อสั่งการของกรมปศุสัตว์อย่างเข้มงวด สำหรับการลักลอบนำเข้าโค กระบือ ในพื้นที่ยังหวัดแม่ฮ่องสอน เราได้ควบคุมดูแลอย่างเข้มงวดยังไม่พบการลักลอบนำเข้าตามแนวชายแดน และแจ้งไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนชายแดน หากพบมีการลักลอบนำเข้าโค กระบือให้แจ้งมายังปศุสัตว์จังหวัด ปศุสัตว์อำเภอ ได้ทันที สำหรับโค กระบือของเกษตรกรที่อยู่ในหมู่บ้านตามแนวชายแดน ได้ทำการฉีดวัคซีนป้องกันโรค และควบคุมโรคต่างๆ ไว้แล้ว

นายสมพงษ์ พิพัฒพงค์ชัย ปศุสัตว์จังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวต่อไปว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคแอนแทรกซ์ในหลายจังหวัดตามที่มีข่าวนั้น ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ยังไม่มีรายงานการพบโรคแอนแทรกซ์ในสัตว์และประชาชนแต่อย่างใด ปศุสัตว์จังหวัดแม่ฮ่องสอนเข้มงวดและเฝ้าระวังมาตลอดและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบ หากเกษตรกรพบสัตว์ตายฉับพลันหรือป่วยตาย และมีเลือดไหลออกจากปาก จมูก ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอทันทีเพื่อตรวจสอบและควบคุมโรค พร้อมกันนี้ได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนงดบริโภคเนื้อดิบจากสัตว์ ให้ความรู้ในการป้องกันโรคในพื้นที่ ส่วนกรณีที่พบโคตายในพื้นที่บ้านแม่สะลาบ ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง นั้น จากการตรวจสอบของปศุสัตว์อำเภอ โคที่ตายสาเหตุเกิดจากแก๊สในกระเพาะอาหารทำให้สัตว์ท้องอืด หายใจไม่ออก และตายไม่ใช้เกิดจากโรคระบาดสัตว์แต่อย่างใด

Cr. ฉลอง หมั่นสกุล จ.แม่ฮ่องสอน

เชียงราย ตำรวจเชียงราย สกัดไอซ์ 578 กก เครือข่ายว้าแดง กลางเมือง

เชียงราย ตำรวจเชียงราย สกัดไอซ์ 578 กก เครือข่ายว้าแดง กลางเมือง

เวลาประมาณ 23.30 น. วันที่ 13 พฤษภาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.เชียงราย ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย, พ.ต.อ.รัฐพล น้อยช่างคิด รอง ผบก.ภ.จว.เชียงราย และ พ.ต.อ.พัสกร ธวัชเชียงกุล ผกก.สส.ภ.จว.เชียงราย นำโดย พ.ต.ท.พันธุ์ระวี วงศ์ชัย สว.กก.สส.ฯ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง สนธิกำลังสกัดยาไอซ์เครือข่ายว้าแดง ยึดยาไอซ์ 578 กิโลกรัม

ด้วยการตรวจยึดในครั้งนี้สืบเนื่องจากได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีกลุ่มขบวนการลำเลียงยาเสพติดจากชายแดนอำเภอแม่สาย เข้าสู่พื้นที่ตอนใน โดยใช้รถยนต์เอนกประสงค์ สีขาว เป็นพาหนะ เจ้าหน้าที่จึงวางแผนสกัดกั้น จนกระทั่งพบรถยนต์ต้องสงสัย ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่น Xpander สีขาว ทะเบียน ขต 7954 เชียงราย บริเวณริมถนนด้านข้างที่ทำการองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย หน้ากองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดเชียงรายผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสกัดกั้นเพื่อตรวจสอบ แต่รถคันดังกล่าวได้เร่งเครื่องชนรถของเจ้าหน้าที่ก่อนจะหลบหนีแต่เ้าหน้าที่สามารถสกัดไว้ได้แต่คนขับรถได้อาศัยความมืดหลบหนีไปได้

จากการตรวจสอบ พบของกลางยาเสพติดประเภทไอซ์ จำนวน 20 กระสอบ ๆ ละประมาณ 25 กิโลกรัม รวมน้ำหนักประมาณ 578 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ภายในรถยนต์คันดังกล่าว

จากนั้นในช่วงเช้าทางเจ้าหน้าที่ได้ติดตามขยายผลจนพบรถนำเป็นรถกระบะอีซูซุ สีขาวหมายเลขทะเบียน 9 กฬ 1402 กรุงเทพมหานคร ซึ่งหลบหนีไปได้ก่อนการจับกุมเสียหลักตกอยู่ข้างทาง แต่ไม่พบคนขับ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้ขยายผลการจับกุมต่อไป

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

โครงการ Lively Awareness Project (LAP) จัดอบรมครู-ตำรวจตระเวนชายแดน สร้างเครือข่ายความปลอดภัยในโรงเรียนชายแดนเหนือ

โครงการ Lively Awareness Project (LAP) จัดอบรมครู-ตำรวจตระเวนชายแดน สร้างเครือข่ายความปลอดภัยในโรงเรียนชายแดนเหนือ

ระหว่างวันที่ 8 – 10 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา โครงการ Lively Awareness Project (LAP) นำโดย คุณวิน วิมล ดินุ และ พ.ต.ท.จารุวัฒน์ ใจสุบรรณ์ จัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการให้กับครูและเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 รวมจำนวน 132 นาย จากโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนทั้งสิ้น 17 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย พะเยา และน่าน

การอบรมครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจาก สถานกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกา ประจำเชียงใหม่ โดยมุ่งเน้นการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และทักษะในการป้องกันปัญหาสังคมร่วมสมัยในโรงเรียนพื้นที่ชายแดน อาทิ ภัยจากการค้ามนุษย์ อาชญากรรมออนไลน์ และ แนวทางการจัดสภาพแวดล้อมในโรงเรียนให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็กนักเรียน

ทั้งนี้ ครูและตำรวจที่ผ่านการอบรม จะนำองค์ความรู้และเครื่องมือที่ได้รับไปขยายผล ถ่ายทอดให้กับนักเรียนและชุมชนในพื้นที่ต่อไป เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคม และลดความเสี่ยงต่อภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อเด็กและเยาวชน