เมีย ลั่น! ให้คนยิงรับกรรมตามกฎหมาย ส่วนผู้ก่อเหตุ ยังไร้ร่องรอย เตรียมฝังร่าง 2 ราษฏรบ้านแม่กองคาเหยื่อพรานป่า วันนี้

เมีย ลั่น! ให้คนยิงรับกรรมตามกฎหมาย ส่วนผู้ก่อเหตุ ยังไร้ร่องรอย เตรียมฝังร่าง 2 ราษฏรบ้านแม่กองคาเหยื่อพรานป่า วันนี้

ภรรยานายกมล หนึ่งในผู้เสียชีวิต ยังคงเฝ้าดูรูปสามีที่ตั้งทำพิธีทางศาสนา และ ขอให้ บอย ผู้ก่อเหตุได้รับโทษทางกฎหมาย ระบุ โกรธแค้นไป สามีก็ไม่ฟื้น ขอใช้ชีวิตที่เหลือ สู้ต่อไปเพื่อลูกๆ โดยภรรยาผู้เสียชีวิต เฝ้าบอกสามีผ่านรูปที่ตั้งทำพิธีทางศาสนา ตลอดว่า ว่าไม่ต้องห่วงนะ หลับให้สบาย ตนจะดูแลลูกทั้งสามให้ดีที่สุด

วันที่ 28 เมษายน 2568 ที่คริสตจักรกะเหรี่ยงแบ๊บติสท์บ้านโป่ง อ,แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศพและประกอบพิธีทางศาสนา ของ 2 ร่าง ผู้เสียชีวิตราษฏรบ้านแม่กองคา ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ที่ถูก นายยุทธนา จตุพรสีวลี หรือ บอย วัย 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/2 หมู่ 8 ต.แม่ลาน้อย อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน ยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2568 โดยไม่ทราบสาเหตุ มีราษฏร ประชาชน ญาติพี่น้องของทั้งสองครอบครัว เดินทางมาร่วมไว้ความอาลัย และ ร่วมแสดงความเสียใจกับ 2 ครอบครัวผู้เสียชีวิต ก่อนจะเคลื่อนร่างผู้เสียชีวิตประกอบพิธีฝังตามประเพณี ณ สุสานกลางคริสต์ชนสัมพันธ์

โดย นางอมลรดา จะเยอะ ภรรยา นายกมล สุกุลกิจ อายุ 41 ปี ราษฎรหมู่ที่ 10 แม่กองคา ตำบลแม่ยวม ได้เปิดเผยกับสื่อ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่า มาถึงวันนี้ตนสามารถทำใจยอมรับกับเรื่องที่เกิดขึ้นได้บ้างแล้ว เสียใจที่การกลับมาบ้านครั้งนี้จะเป็นการกลับมาครั้งสุดท้ายของสามี ซึ่งตนกับสามีทำงานต่างจังหวัด จะกลับมาเยี่ยมพ่อสามีที่บ้านแม่กองคาทุกปีในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยภรรยา นายกมล เล่าว่า นายกมล เป็นเพื่อนกับผู้ก่อเหตุ นายยุทธนา หรือ บอย ตอนที่กลับมาบ้านช่วงเทศกาลสงกรานต์ สามีทราบว่าเพื่อนหายไปในป่านานหลายวัน ก็ยังมีความคิดที่จะออกตามหาเพื่อนที่หาย กลับมาบ้านรอบนี้ สามียังซื้อกาแฟห่อใหญ่เตรียมมาแบ่งให้กับผู้ก่อเหตุ หรือ นายบอย กับ น้าที่ถูกยิเสียชีวิตคนละครึ่ง ที่ผ่านมาสามีก็ไม่เคยเล่าเรื่องอะไรเกี่ยวกับผู้ก่อเหตุให้ฟัง รู้แค่ว่าสองคนนี้เขาเป็นเพื่อนกัน ตนไม่คิดว่า นายบอย ซึ่งเป็นเพื่อนจะมายิงสามีตนจนเสียชีวิต โดยไม่รู้ว่าสาเหตุอะไร ขณะนี้ตนเองทำใจยอมรับกับเรื่องที่เกิดขึ้นได้บ้างแล้ว ขอให้คนก่อเหตุได้รับการลงโทษตามกฎหมาย ตนไม่คิดแค้นเคืองอะไร กับ ผู้ก่อเหตุ เพราะแค้นไปก็ไม่ทำให้สามีฟื้นขึ้นมาได้ ก็ขอให้เขาได้รับโทษทัณฑ์ชดใช้ในสิ่งที่เขาทำ ตนก็จะขอใช้ชีวิตที่เหลือทำงานและดูแลลูกๆทั้ง 3 คนให้ดีที่สุด

ด้าน นายบุญส่ง สุกุลกิจ เป็นน้องชายลุงดิเก ผู้เสียชีวิต กล่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ชาวบ้านแม่กองคามีความหวาดระแวงพากันย้ายไปอาศัยบ้านญาติพี่น้องตามหมู่บ้านต่างๆ ของอำเภอแม่สะเรียง ปล่อยบ้านทิ้งไว้ไม่มีคนอยู่สัตว์เลี้ยงไม่มีใครดูแล เพราะเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถจักกุมผู้ก่อเหตุได้ บ้านแม่กองคายังไม่ปลอดภัยสำหรับพวกเขา แม้ว่าเจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ 36 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองแม่สะเรียง ร่วมถึงผู้นำชุมชน จะจัดกำลังจัดเวรมาเฝ้าระวังรักษาความปลอดภัยก็ตาม ตนจึงได้ขอร้องให้ผู้ชายของแต่ละบ้านกลับมาเฝ้าบ้านดูแลบ้านตนเองและช่วยกันสอดส่องดูแลในหมู่บ้าน แต่ทุกคนก็ยังกลัวว่าผู้ก่อเหตุจะหวนกลับมาทำร้ายคนในหมู่บ้าน แม้ว่าจะมีกระแสข่าวว่า พบผู้ก่อเหตุในสถานที่ต่างๆ ในพื้นที่ อ.แม่ลาน้อย แต่ก็ไม่มีใครยืนยันได้ชัดเจน ชาวบ้านก็ยังไม่ไว้วางใจ ซึ่งทุกคนอยากให้เจ้าหน้าที่จับตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววัน หรือ จับเป็นไม่ได้ ก็ขอให้จับตาย เพราะถือว่าเป็นบุคคลอันตราย

สืบเนื่องจาก หนุ่มวัย 37 ปี จากคนหายเมื่อวันที่ 11 เมษายน จนกลายเป็นฆาตกรยิงชาวบ้าน 2 ศพ โดยไม่ทราบสาเหตุ เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดกำลังปฏิบัติการค้นหาผู้ก่อเหตุจนถึงวันนี้ ยังไม่พบเบาะแสหรือร่องรอยแต่อย่างใด

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

CMUBS คว้ารางวัลระดับ Silver บนเวที Thailand Quality Prize 2025 ต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน

CMUBS คว้ารางวัลระดับ Silver บนเวที Thailand Quality Prize 2025 ต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน ตอกย้ำศักยภาพการบริหารจัดการยุคใหม่

วันที่ 25 เมษายน 2568, เชียงใหม่ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แสดงความยินดีกับทีมบุคลากร “CMUBS IT Asset” ที่สามารถคว้ารางวัลระดับ Silver ในประเภท Task Achieving QCC Prize จากเวทีระดับประเทศ Thailand Quality Prize 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-20 มีนาคม 2568 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค กรุงเทพฯ ความสำเร็จในครั้งนี้นับเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันที่บุคลากรของคณะสามารถคว้ารางวัลจากเวทีคุณภาพระดับประเทศ สะท้อนถึงศักยภาพของบุคลากรและการพัฒนาองค์กรที่มุ่งเน้นคุณภาพและประสิทธิภาพอย่างแท้จริง

ทั้งนี้ การประกวด Thailand Quality Prize จัดโดยสมาคมส่งเสริมเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น (TPA) เป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนได้นำเสนอแนวทางการพัฒนาองค์กรผ่านกิจกรรมกลุ่ม QCC (Quality Control Circle) โดยมุ่งเน้นการจุดประกายความคิด การมีส่วนร่วมของบุคลากร และการนำนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้เพื่อยกระดับการทำงานและคุณภาพชีวิตในที่ทำงานอย่างยั่งยืน ซึ่งในปีนี้มีผลงานเข้าร่วมแข่งขันทั้งสิ้นจำนวน 183 ผลงานจากทั่วประเทศ โดยมีเพียงผลงานที่ผ่านการประเมิน ณ สถานที่ปฏิบัติงานจริง และสามารถแสดงผลสัมฤทธิ์ได้อย่างชัดเจนเท่านั้นที่จะได้รับการพิจารณารับมอบรางวัล

ทีม “CMUBS IT Asset” นำโดยนายอดิศักดิ์ กุนา หัวหน้าทีม พร้อมด้วยนางฐิตารีย์ ยิ้มประเสริฐ, นายพชร บัวเหลือง, นายนิรันดร์ บรรณศรี และนางสาวพิมลพรรณ จันทร์หอม ได้ร่วมกันนำเสนอผลงานในหัวข้อ “การเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการข้อมูล IT Asset ในห้องเรียน” โดยเน้นการประยุกต์ใช้ระบบดิจิทัลและการจัดทำระบบฐานข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน ช่วยเพิ่มความถูกต้องและลดความซ้ำซ้อนในการบริหารจัดการทรัพยากรด้านไอทีของคณะฯ เพื่อยกระดับการจัดเก็บข้อมูลและการบริหารจัดการทรัพยากรด้านไอทีภายในคณะฯ ให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด ซึ่งตอบโจทย์เป้าหมายขององค์กรในการเป็น Smart Business School อย่างยั่งยืน

นายอดิศักดิ์ กุนา หัวหน้าทีม ได้กล่าวถึงความรู้สึกหลังได้รับรางวัลว่า “พวกเราดีใจมากที่ความตั้งใจตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาได้รับการยอมรับในระดับประเทศ สิ่งที่ทีมเรายึดถือเสมอคือการทำงานที่ไม่หยุดอยู่แค่หน้าที่ แต่ต้องมองไปถึงโอกาสในการพัฒนาองค์กร เราอยากให้ระบบที่พัฒนาขึ้นมานี้สามารถช่วยให้การทำงานของคณะฯ เป็นระบบมากขึ้น และมีข้อมูลที่น่าเชื่อถือใช้ในการตัดสินใจ รางวัลนี้เป็นเหมือนกำลังใจสำคัญที่ทำให้เรารู้ว่า การทำงานอย่างมุ่งมั่นและเป็นระบบ แม้จะเป็นเรื่องเล็กในสายตาคนอื่น ก็สามารถสร้างผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ให้กับองค์กรได้ในระยะยาว”

ความสำเร็จของทีม “CMUBS IT Asset” ในการคว้ารางวัลระดับ Silver จากเวที Thailand Quality Prize 2025 ถือเป็นการตอกย้ำศักยภาพและความพร้อมของบุคลากรด้านการบริหารจัดการภายในองค์กร โดยเฉพาะการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่มุ่งยกระดับองค์กรสู่การเป็น Business School ชั้นนำระดับสากลบนพื้นฐานของคุณภาพและนวัตกรรม

เชียงราย ตร.เสกน้ำมนต์ ใส่หนุ่มเพี้ยนอ้างเป็นพญานาค

เชียงราย ตร.เสกน้ำมนต์ ใส่หนุ่มเพี้ยนอ้างเป็นพญานาค

เวลา 10.00 น. วันที่ 26 เม.ย. 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่จัน โดยการอำนวยการของพ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ จิตรประสาร
ผกก.สภ.แม่จัน พ.ต.ท.ภูริวัฒ รุจิรัฐภาส รอง ผกก.ป.สภ.แม่จัน นำโดย พ.ต.ต.ศักดิ์ชาย รีอินทร์ สวป.สภ.แม่จัน
พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ สายตรวจ 191 ตชด.327 และทหารพราน ฉก.ทพ.31 นายจันดี พิทักษ์ไพรศรี ผู้ใหญ่บ้านแสนสุข หมู่ 9 พร้อมผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันควบคุมตัว นายกันตภณ หรือแจ็ค (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ชาว ต.น้ำรอบ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี

หลังจากชาวบ้านหมู่บ้านแสนสุขหมู่ที่9 ต.ศรีคํ้า อ.แม่จัน จ.เชียงราย แจ้งว่ามีผู้ป่วย จิตเวชซึ่งเป็นบุคคลภายนอกหมู่บ้านได้เข้ามาพักบริเวณภายในกระท่อมท้ายหมู่บ้าน เป็นเวลาประมาณ 2 วัน ทำให้ชาวบ้านเกิดความหวาดกลัวจึงได้ประสานงานมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่จันเข้าไปดำเนินการ

เมื่อเจ้าหน้าไปถึงพบนายกันตภณ หรือแจ็ค อยู่ในอาการคุ้มคลั่งไม่ยอมให้ควบคุมตัว บอกว่าตนเองเป็นพญานาค เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันควบคุมตัวเอาไว้ ระหว่างที่ถูกควบคุมตัวพูดจาไม่รู้เรื่อง ท่องคาถาอ้างว่าเป็นภาษาของพญานาค จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องแกล้งทำเป็นเสกน้ำมนต์ให้ดื่มและรดตัวจึงเริ่มสงบลงก่อนที่จะนำตัวส่ง โรงพยาบาลแม่จัน เพื่อดำเนินการรักษาตัวต่อไป

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

จังหวัดลำพูน แถลงข่าวงานประเพณีสรงน้ำพระธาตุหริภุญชัย ประจำปี 2568 จัดขึ้น 5-11 พฤษภาคม 2568 นี้

จังหวัดลำพูน แถลงข่าวงานประเพณีสรงน้ำพระธาตุหริภุญชัย ประจำปี 2568 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-11 พฤษภาคม 2568 ณ วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร ตำบลในเมือง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน

วันที่ 25 เมษายน 2568 เวลา 18.30 น. ที่วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร ตำบลในเมือง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูนร่วมกับวัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร พระเทพรัตนนายก เจ้าคณะจังหวัดลำพูน, นายวิวัฒน์ อินทร์ไทยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน, นายชัชพีร์ วรรณภาพิรัชย์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน, นายธวัชชัย อุบลพิทักษ์ วัฒนธรรมจังหวัดลำพูน, และนายพงษ์เทพ มนัสตรง ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดลำพูน ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงานประเพณีสรงน้ำพระธาตุหริภุญชัย ประจำปี 2568 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-11 พฤษภาคม 2568 ณ วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร

สำหรับ กำหนดการกิจกรรมงานสรงน้ำพระบรมธาตุเจ้าหริภุญชัย ประจำปี 2568 ประกอบด้วย
วันจันทร์ ที่ 5 พฤษภาคม 2568 เวลา 13.00 น. อัญเชิญน้ำสรงพระราชทานจากที่ว่าการอำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ถึงบริเวณปั้มสามทหาร แยกประตูลี้ เวลา 17.00 น. เคลื่อนขบวนแห่น้ำสรงพระราชทาน เวลา 18.30 น. พิธีเปิดงาน โดยผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ณ บริเวณพิธีด้านเหนือพระวิหารหลวง และเวลา 19.30 น. ร่วมชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ของเครือข่ายสภาวัฒนธรรมจังหวัดลำพูน

วันอังคาร ที่ 6 พฤษภาคม 2568 เวลา 09.00 น. พุทธศาสนิกชนเข้าร่วมทำบุญและสรงน้ำองค์พระบรมธาตุเจ้าหริภุญชัย เวลา 18.30 น. พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ อบรมสมโภชน้ำสรงพระราชทาน และเครื่องราชสักการะ เวลา 19.00 น. ร่วมชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ของเครือข่ายสภาวัฒนธรรมจังหวัดลำพูน

วันพุธ ที่ 7 พฤษภาคม 2567 เวลา 09.00 น. พุทธศาสนิกชนเข้าร่วมทำบุญและสรงน้ำองค์พระบรมธาตุเจ้าหริภุญชัย เวลา 18.30 น. พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ อบรมสมโภชน้ำสรงพระราชทาน และเครื่องราชสักการะ เวลา 19.00 น. ร่วมชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ของเครือข่ายสภาวัฒนธรรมจังหวัดลำพูน

วันพฤหัสบดี ที่ 8 พฤษภาคม 2567 เวลา 09.00 น. พุทธศาสนิกชนเข้าร่วมทำบุญและสรงน้ำองค์พระบรมธาตุเจ้าหริภุญชัย เวลา 18.30 น. พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ อบรมสมโภชน้ำสรงพระราชทาน และเครื่องราชสักการะ เวลา 19.00 น. ร่วมชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ของเครือข่ายสภาวัฒนธรรมจังหวัดลำพูน และการประกวดแข่งขันกลองสะบัดชัย

วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม 2567 เวลา 09.00 น. ประกอบพิธีฝังค้างน้ำ (ฝังเสาสลิงเพื่อชักดึงน้ำขึ้นไปสรงองค์พระบรมธาตุ) พุทธศาสนิกชนเข้าร่วมทำบุญและสรงน้ำองค์พระบรมธาตุเจ้าหริภุญชัย เวลา 18.30 น. พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ อบรมสมโภชน้ำสรงพระราชทาน และเครื่องราชสักการะ เวลา 19.00 น. ร่วมชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ของเครือข่ายสภาวัฒนธรรมจังหวัดลำพูน และการแข่งขันประกวดดนตรีพื้นเมืองประกอบการฟ้อน

วันเสาร์ ที่ 10 พฤษภาคม 2567 เวลา 09.00 น. พุทธศาสนิกชนเข้าร่วมทำบุญและสรงน้ำองค์พระบรมธาตุเจ้าหริภุญชัย พิธีเปิดการแข่งขันกองหลวงชิงแชมป์ล้านนา ครั้งที่ 21 (รอบคัดเลือก) ณ ศาลากลางจังหวัดลำพูนหลังเก่า เวลา 18.30 น. พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ อบรมสมโภชน้ำสรงพระราชทาน และเครื่องราชสักการะ เวลา 19.30 น. ร่วมชมประเพณีการฟ้อนเล็บถวายเป็นพุทธบูชาแด่องค์พระบรมธาตุเจ้าหริภุญชัย ของคณะศรัทธาสาธุชนทั่วไป ณ บริเวณลานหอกังสดาล และชมการแข่งขันการประกวดฟ้อนเล็บ

วันอาทิตย์ ที่ 11 พฤษภาคม 2567 เวลา 07.00 น. ร่วมทำบุญตักบาตรแด่พระภิกษุ-สามเณร จำนวน 99 รูป เวลา 09.00 น. เคลื่อนขบวนแห่ครัวทานจากหน้าบ้านคุณสันต์ เทพมณี มาตามถนนอินทยงยศ ผ่านหน้าศาลากลางจังหวัดลำพูน (หลังเก่า) ถึงแยกประตูช้างสีเลี้ยวขวา ถึงวงเวียนช้างเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนรอบเมืองใน เข้าสู่วัดพระธาตุหริภุญชัยฯ เวลา 11.00 น. ถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุ-สามเณร ในพระวิหารต่าง ๆ ทั้ง 4 ทิศ เวลา 15.00 น. ชมขบวนอัญเชิญน้ำสรงพระราชทานฯ เครื่องราชสักการะ ขบวนน้ำทิพย์ดอยขะม้อ และน้ำทิพย์จาก 7 อำเภอของจังหวัดลำพูน เวลา 16.00 น. เคลื่อนขบวนแห่อัญเชิญน้ำสรงพระราชทาน พร้อมเครื่องราชสักการะ น้ำทิพย์ดอยขะม้อ และน้ำทิพย์จาก 7 อำเภอ จากหลังจวนผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน มาตามถนนรอบเมืองใน และเข้าสู่บริเวณมณฑลพิธีวัดพระธาตุหริภุญชัยฯ พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ จำนวน 15 รูป เจริญชัยมงคลคาถา ประธานในพิธีอัญเชิญน้ำสรงพระราชทาน ขึ้นสรงพระบรมธาตุหริภุญชัย อัญเชิญผ้าแพรแดง ขึ้นห่มพระบรมธาตุหริภุญ และอัญเชิญน้ำทิพย์จากดอยขะม้อ และน้ำทิพย์จาก 7 อำเภอ ขึ้นสรงพระบรมธาตุหริภุญชัยตามลำดับ

นพค.36 นำจิตอาสา 904 บำเพ็ญสาธารณประโยชน์ เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระนเรศวร

นพค.36 นำจิตอาสา 904 บำเพ็ญสาธารณประโยชน์ เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระนเรศวร

25 เม.ย. 68 บก.ทท.(นทพ.) โดย พ.อ. พัลลภ ผึ้งหลวง ผบ.นพค.36 สนภ.3 นทพ. มอบหมายให้ฝ่ายกิจการพลเรือน นำจิตอาสา 904 และ กำลังพลจิตอาสาพระราชทาน นพค.36 สนภ.3 นทพ. จ.แม่ฮ่องสอน จำนวน 20 นาย ร่วมกับปลัดอำเภอสบเมย จัดกิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ปรับปรุงภูมิทัศน์ ทำความสะอาดศาสนสถาน อาคาร สถานที่ เก็บกวาดเศษใบไม้ กิ่งไหม้ ณ สำนักสงฆ์พระธาตุศรีสบเงา ม.8 ต.แม่สวด อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ให้เกิดความสะอาด ร่มรื่น เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทั้งนี้ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดี ระหว่างส่วนราชการ และประชาชนในพื้นที่อีกด้วย

Cr. ฉลอง หมั่นสกุล จ.แม่ฮ่องสอน

แม่ฮ่องสอนฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุแผ่นดินไหว และฝึกซ้อมอพยพหนีไฟ ประจำปี 2568

แม่ฮ่องสอนฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุแผ่นดินไหว และฝึกซ้อมอพยพหนีไฟ ประจำปี 2568 (Full-scale Exercise : FSX)

25 เมษายน 2568 เวลา 10.30 น. ที่ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายเอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุแผ่นดินไหว และฝึกซ้อมอพยพหนีไฟ ประจำปี 2568 (Full-scale Exercise : FSX) โดยมีนายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายบุญลือ ธรรมธรานุรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ และข้าราชการเจ้าหน้าที่ในศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมการฝึกซ้อม ฯ เพื่อการฝึกป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน กรณีแผ่นดินไหวและเพลิงไหม้ ประจำปี พ.ศ. 2568 โดยได้จำลองสถานการณ์สมมุติ (scenario) เกิดเหตแผ่นดินไหวในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีการอพยพเจ้าหน้าที่และผู้บาดเจ็บไปยังจุดร่วมพลที่ปลอดภัย พร้อมทั้งเกิดเหตุโครงสร้างอาคารศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว และเกิดเหตุเพลิงไหม้ บริเวณชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน

ทั้งนี้ จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ดำเนินการจัดประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนโครงการมหาดไทย แรงงาน สานพลังเครือข่าย ร่วมใจต้านอัคคีภัยในสถานประกอบกิจการและหน่วยงานภาครัฐ จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้มีการบูรณาการกิจกรรมฝึกซ้อมอพยพหนีไฟ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมกับกิจกรรมฝึกซ้อมเผชิญเหตุแผ่นดินไหว ประจำปีงประมาณ พ.ศ. 2568 โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน

Cr. ฉลอง หมั่นสกุล จ.แม่ฮ่องสอน

ตร.ท่าตาฝั่ง แม่ฮ่องสอน ออกหมายจับ พรานโหดยิงดับ 2 ศพ พร้อมปิดป่าล่าบุคคลอันตราย ห้ามราษฏรที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าป่า

ตร.ท่าตาฝั่ง แม่ฮ่องสอน ออกหมายจับ พรานโหดยิงดับ 2 ศพ พร้อมปิดป่าล่าบุคคลอันตราย ห้ามราษฏรที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าป่า ในขณะที่ยังไม่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้

วันที่ 25 เมษายน 2568 จากเหตุการณ์คนหาย สู่ ผู้ร้ายฆ่าคนตาย ถึง 2 ศพ ล่าสุด ศาลจังหวัดแม่สะเรียงออกหมายจับ ผู้ก่อเหตุ นายยุทธนา จตุพรสีวลี อายุ 37 ปี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย ที่บ้านแม่กองคา ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน พ.ต.ท.ปพัสศ์พงศ์ แก้วรากมุก สารวัตรหัวหน้าสถานี สภ.ท่าตาฝั่ง ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยความคืบหน้าในการติดตามล่าตัวมือปืน ยิงชาวบ้าน บ้านแม่กองคา เสียชีวิต 2 ราย ว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ได้มีการแบ่งกำลังในการออกติดตามจับกุมผู้ต้องหา 2 ชุด โดย ชุดที่ 1 เข้าทางบ้านแม่กองคา เดินตามลำห้วยแม่กองคา ประกอบไปด้วย สภ.ท่าตาฝั่ง จนท.ปกครองอำเภอแม่สะเรียง เจ้าหน้าที่ ตชด,337 แม่สะเรียง กำนันผู้ใหญ่บ้าน ชุดที่ 2 เข้าทางศาลาอุทยานสาละวินเดินขึ้นไปตามลำน้ำแม่กองคา ประกอบไปด้วย กก.สส.ภ.จว.แม่ฮ่องสอน ทหารพราน 36 เจ้าหน้าที่อุทยานสาละวิน ทั้งนี้การค้นหาของเจ้าหน้าที่เป็นไปด้วยความระมัดระวัง เนื่องจาก ผู้ก่อเหตุมีความชำนาญพื้นที่และเข้าออกป่าเป็นประจำทำให้รู้ทางหนีทางรอดได้เป็นอย่างดี

ด้าน นายสมชาติ (ลี้) เป็นหลานของลุงที่เสียชีวิตรายแรก และ เป็นลูกพี่ลูกน้องกับคนเสียชีวิตรายที่ 2 ได้เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิต กับ ผู้ก่อเหตุ ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางอะไรกันมาก่อน แต่ทุกคนรู้ว่าผู้ก่อเหตุมีประวัติเรื่องเกี่ยวข้องกับยาเสพติดมาก่อน เป็นคนที่อื่นแต่มาอยู่และมามีภรรยาในพื้นที่หมู่บ้านนับ 10 ปีแล้ว เข้าใจว่าน่าจะเกิดอาการหลอน เจอหน้าใครก็จะทำร้าย ล่าสุด เมื่อคืนที่ผ่านมาได้ยินเสียงปืนมาจากข้างบนไม่รู้ว่าจะเป็นเสียงปืนอะไร 1 นัดไม่ทราบว่าจะเป็นผู้ก่อเหตุหรือเปล่า วันนี้จะตามเจ้าหน้าที่เข้าไปดูกระท่อมที่ผู้ก่อเหตุเคยอาศัยอยู่

สืบเนื่องจาก วันนี้ 23 เมษายน 2568 เวลาประมาณ 07:00 น. เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้ง”มีคนร้ายผู้ก่อเหตุใช้อาวุธอื่นลูกซองยาว ยิงราษฎรเสียชีวิต ในพื้นที่ หมู่ที่ 10 บ้านแม่กองคา ตำบลแม่ยวม อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยผู้ถูกยิงเสียชีวิตรายแรก ที่พบศพ คือ นายดิเก สุกุลกิจ อายุ 65 ปี ราษฎรหมู่ที่ 10 บ้านแม่กองคา ตำบลแม่ยวม และ ศพที่ 2 ถูกพบในวันที่ 24 เมษายน 2568 ช่วงบ่าย คือ นายกมล สุกุลกิจ อายุ 41 ปี ราษฎรหมู่ที่ 10 แม่กองคา ตำบลแม่ยวม

สำหรับพฤติการณ์ของผู้ก่อเหตุ นายยุทธนา จตุพรสีวลี อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นบุคคลที่ครอบครัวแจ้งความหายออกจากบ้าน ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2568 ตลอดระยะเวลาดังกล่าว เจ้าหน้าที่และชาวบ้านได้ระดมกำลังกันค้นหากันทุกวัน จนกระทั้งมาก่อเหตุ ยิงผู้อื่นเสียชีวิต 2 ราย โดยไม่ทราบสาเหตุ ในวันที่ 23 เมษายน 2568 เวลา07.00 น.

ล่าสุด เจ้าหน้าที่พบว่าผู้ก่อเหตุมีการใช้เสพติด (ติดฝิ่น) ใช้อาวุธปืนลูกซองยาว บรรจุกระสุนครั้งละทีละนัด ปัจจุบันคาดว่าลูกกระสุนเหลือประมาน 10 นัด ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำเรื่องความปลอดภัย ในการปฏิบัติหน้าที่เป็นหลัก ทั้งการค้นหา และการตามล่าตัวผู้ก่อเหตุ พร้อมทั้ง ได้จัดกำลังประกอบด้วยหน่วยทหารพรานและกำลังสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) เพื่อเฝ้าระวังในพื้นที่หมู่บ้านแม่กองคา หมู่ 10 ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน และหมู่บ้านข้างเคียง ซึ่งเกรงว่าจะย้อนกลับมาทำร้ายบุคคลอื่นๆ ในหมู่บ้านอีก

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

อำเภอแม่สะเรียง จับจริง เผาไม่แจ้งลงระบบ FireD 2 ราย หลัง ฝ่าฝืนประกาศห้ามเผาของจังหวัดแม่ฮ่องสอน

อำเภอแม่สะเรียง จับจริง เผาไม่แจ้งลงระบบ FireD 2 ราย หลัง ฝ่าฝืนประกาศห้ามเผาของจังหวัดแม่ฮ่องสอน

วันนี้ (25 เม.ย. 2568) เวลาประมาณ 13:40 น. นายวรศักดิ์ พานทอง นายอำเภอแม่สะเรียง พร้อมด้วย ผู้ใหญ่บ้านห้วยสิงห์ เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลแม่ยวม และนิติกรเทศบาลตำบลแม่ยวม ควบคุมตัวผู้ฝ่าฝืนประกาศห้ามเผาในที่โล่ง ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 2 ราย ในเขตท้องที่ตำบลแม่ยวม อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งไม่ปฏิบัติตามมาตรการของจังหวัด ตลอดจนประกาศเขตท้องที่ห้ามเผาตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข ของเทศบาลตำบลแม่ยวม นายวรศักดิ์ พานทอง นายอำเภอแม่สะเรียง ได้มอบหมายให้ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกับเทศบาลฯ ท้องที่เกิดเหตุ ดำเนินการตามอำนาจ หน้าที่ตามระเบียบกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ออกประกาศห้ามเผาในที่โล่งทุกชนิด ยกเว้นพื้นที่ตามแผนบริหารจัดการเชื้อเพลิง ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถึง 30 เมษายน 2568 เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง PM 2.5 สำหรับพื้นที่การเกษตรที่มีความจำเป็นต้องบริหารจัดการเชื้อเพลิงโดยใช้ไฟ ให้เกษตรกรแจ้งขออนุญาต ผ่านระบบ Fire D ณ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่ที่จะบริหารจัดการเชื้อเพลิงตั้งอยู่ โดยให้นายอำเภอในฐานะผู้อำนวยการอำเภอ เป็นผู้พิจารณาอนุมัติ ทั้งนี้ ต้องจัดทำแนวกันไฟไฟโดยรอบ และควบคุมมิให้ลุกลามไปยังพื้นที่อื่นๆ

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

พบศพถูกยิง รายที่ 2 ในลำห้วยแม่กองคา ปิดป่าล่าบุคคลอันตราย จากบุคคลสูญหายกลายเป็นฆาตกร

แม่สะเรียง ปิดล้อมป่าล่าบุคคลอันตราย จากบุคคลสูญหายกลายเป็นฆาตกร พบศพถูกยิง รายที่ 2 ในลำห้วยแม่กองคา

วันที่ 25 เมษายน 2568 จากเหตุการณ์คนสูญหาย สู่ ผู้ร้ายฆ่าคนตาย ในพื้นที่บ้านแม่กองคา ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ล่าสุด เมื่อเวลา 16.30 น.ของเย็นวานนี้ (24 เม.ย. 68) พ.ต.อ.พิษณุ สมนึก รอง ผบก.ภ.จว.แม่ฮ่องสอน พ.ต.ท.ปภัสศ์พงศ์ แก้วรากมุก สว.ท่าตาฝั่ง นายจตุพล ยะจอม ปลัดอำเภอ หัวหน้าฝ่ายความมั่นคง พร้อมกำลัง ออกตรวจสอบในพื้นที่เกิดเหตุ หลัง เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนพบ ศพถูกยิง รายที่ 2 บริเวณลำห้วยทิศใต้ บ้านแม่กองคา หมู่ที่ 10 ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ผู้เสียชีวิตชื่อ นายกมล สุกุลจิต อายุ 41 ปี ชาวบ้านแม่กองคา โดยผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุในครั้งนี้คือ นายยุทธนา จตุพรสิวลี อายุ 37 ปี (คนที่สูญหายออกจากบ้านไป 10 วัน ) อยู่บ้านเลขที่ 36/2 หมู่ 8 ต.แม่ลาน้อย อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน สวมเสื้อลายคล้าย อส.สีน้ำตาล กางเกงสีน้ำตาลลายขาว สวมหมวกโม่งสีดำชมพู ที่พบกับผู้เสียชีวิตทั้งสอง และก่อเหตุยิง จนเสียชีวิต เมื่อ วันที่ 23 เม.ย. 2568 ตอนนี้อยู่ระหว่างปิดล้อมติดตามจับกุมตัว

สืบเนื่องจาก วันนี้ 23 เมษายน 2568 เวลาประมาณ 07.00 น. เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้ง”มีคนร้ายผู้ก่อเหตุใช้อาวุธอื่นลูกซองยาว ยิงราษฎรเสียชีวิต จำนวน 1 ราย และ ยังตามหาตัวไม่พบ อีก 1 ราย ในพื้นที่ หมู่ที่ 10 บ้านแม่กองคา ตำบลแม่ยวม อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยผู้ถูกยิงเสียชีวิตรายแรก ที่พบศพ คือ นายดิเก สุกุลกิจ อายุ 65 ปี ราษฎรหมู่ที่ 10 บ้านแม่กองคา ตำบลแม่ยวม และ ราษฎรที่คาดว่าจะถูกยิง 1 ราย แต่ยังหาตัวไม่พบ ชื่อ กมล สุกุลกิจ อายุ 41 ปี ราษฎรหมู่ที่ 10 แม่กองคา ตำบลแม่ยวม จากคำให้การของภรรยาผู้ตาย (นางจะซอ) วันที่เกิดเหตุ นายดิเก สามี(ที่เสียชีวิต) และ นายกมล ได้ออกไปหาของป่า ด้วยกัน หลังจากได้ยินเสียงปืนหลายนัด ตนพบเพียง ศพ นายดิเก สามี ส่วน นายกมล ที่ไปกับสามีวันเกิดเหตุ หาไม่เจอ ซึ่งคนก่อเหตุได้เดินมาหาตนที่กระท่อมแล้วขอกาแฟซองไป พร้อมบอกว่า ได้ยิงสามีตนเสียชีวิตแล้ว

การปิดล้อมตามล่าตัวผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่สนธิกำลังร่วม ทั้งฝ่ายปกครอง สภ.แม่สะเรียง สภ.ท่าตาฝั่ง ตชด.337 สภ.สบเมย เจ้าหน้าที่อุทยานสาละวิน รวมกว่า 71 นาย แบ่งกำลังค้นหา แยกตาม 4 ทิศ นำโดยกำลังจากหน่วยป่าไม้ ในพื้นที่เป็นผู้นำทาง รัศมีระยะการค้นหาทั้ง 4 ทิศ 200-300 เมตร ในการกระจายกำลังการค้นหาผู้ก่อเหตุ พร้อมใช้โดรนของตำรวจและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 2 จำนวน 2 ตัว ในการร่วมสนับสนุนภารกิจค้นหา และ สุนัขดมกลิ่น

สำหรับพฤติการณ์ของผู้ก่อเหตุ นายยุทธนา จตุพรสีวลี อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นบุคคลที่ครอบครัวแจ้งความหายออกจากบ้าน ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2568 ซึ่งเจ้าหน้าที่และชาวบ้านได้ระดมกำลังกันค้นหา 10 กว่าวันผ่านมา จนกระทั้งมาก่อเหตุ ยิงผู้อื่นเสียชีวิต โดยไม่ทราบสาเหตุ ล่าสุด ระบุผู้ก่อเหตุมีการใช้เสพติด (ติดฝิ่น) ใช้อาวุธปืนลูกซองยาว บรรจุกระสุนครั้งละทีละนัด ปัจจุบันคาดว่าลูกกระสุนเหลือประมาน 10 นัด ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำเรื่องความปลอดภัย ในการปฏิบัติหน้าที่เป็นหลัก ทั้งการค้นหา และการตามล่าตัวผู้ก่อเหตุ พร้อมทั้ง ได้จัดกำลังประกอบด้วยหน่วยทหารพรานและกำลังสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) เพื่อเฝ้าระวังในพื้นที่หมู่บ้านแม่กองคา หมู่ 10 ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน และหมู่บ้านข้างเคียง ซึ่งเกรงว่าจะย้อนกลับมาทำร้ายบุคคลอื่นๆ ในหมู่บ้านอีก

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

กองกำลังผาเมือง สนธิกำลังจับกุมกลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ยึดยาไอซ์ 399 กิโลกรัม เคตามีน 240 กิโลกรัม ผู้ต้องหา 2 คน พื้นที่เชียงดาว

กองกำลังผาเมือง สนธิกำลังจับกุมกลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ยึดยาไอซ์ 399 กิโลกรัม เคตามีน 240 กิโลกรัม ผู้ต้องหา 2 คน พื้นที่เชียงดาว

จากกรณี เมื่อ 25 เม.ย. 68 เวลา 04.30 น. ชุดเฉพาะกิจไชยานุภาพ กกล.ผาเมือง ได้รับการประสานจาก ผกก.สภ.เชียงดาว ว่า เมื่อวันที่ 25 เม.ย.68 เวลา 04.15 น. กก.2 บก.ปส.3 บช.ปส. จัดตั้ง จุดตรวจ/ จุดสกัดชั่วคราว บริเวณ บ.ห้วยจะค่าน ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ สามารถสกัดจับ รถได้ 2 คัน รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ทะเบียน ยพ 3852 เชียงใหม่ จำนวน 1 คัน และ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า สีเหลือง ทะเบียน 2 กพ 1232 เชียงใหม่ จำนวน 1 คัน จับกุม ผู้ต้องหา จำนวน 2 คน โดย ผู้ต้องหา พยายามขับรถหนี การจับกุม แต่รถเสียหลักตกลงข้างทาง ผู้ต้องหาที่เป็นผู้ขับขี่ รถกระบะ จำนวน 1 คน หลบหนีไปได้ ในระหว่างจับกุม

โดยจากการตรวจค้น รถยนต์กระบะ จำนวน 1 คัน ตรวจพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) จำนวน 19 กระสอบ ๆ ละ 20 กก. และกระสอบละ 19 กก. จำนวน 1 กระสอบ รวมทั้งสิ้น ประมาณ 399 กก. และวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) จำนวน 12 กระสอบ ๆ ละ 20 กก. รวมทั้งสิ้นประมาณ 240 กก. ผกก.กก.2 บก.ปส.3 บช.ปส. จึงประสาน ผกก.สภ.เชียงดาว ในการใช้ กำลัง สนับสนุนการปฏิบัติ ลากรถเป้าหมายออกจากพื้นที่เกิดเหตุ มายัง สภ.เชียงดาว โดยนำ ผู้ต้องหา พร้อมของกลาง มาสอบสวน เพื่อขยายผล โดย ผกก.สภ.เชียงดาว ได้ประสาน ผบ.ฉก.ไชยานุภาพ ในการร่วม สอบสวน ผู้ต้องหา, ตรวจสอบ ของกลาง ดังกล่าว และ ขยายผล บังคับใช้กฏหมาย ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด บ้านเป้าหมาย ผู้ต้องหา ทั้ง 2 คน รายละเอียดดังนี้ปัจจุบันหน่วยได้ควบคุมตัวผู้ต้องหามาไว้ ณ สภ.เชียงดาว เพื่อทำการสอบสวนเพิ่มเติม ต่อไป

สรุปผลการสกัดกั้นยาเสพติด กกล.ผาเมือง ในห้วงตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2567 ถึงปัจจุบัน หน่วยสามารถสกัดกั้นยาเสพติดได้ 250 ครั้ง จับกุมผู้ต้องหาได้ 272 คน ตรวจยึดยาบ้าได้ 98,356,119 เม็ด, เฮโรอีน 145 กิโลกรัม, ไอซ์ 7,781 กิโลกรัม, ฝิ่น 22.1 กก. และ คีตามีน 355 กิโลกรัม จากการปะทะกับเจ้าหน้าที่ จำนวน 37 ครั้ง กลุ่มขบวนการฯ เสียชีวิต 13 ศพ ซึ่งหากยาเสพติดที่ตรวจยึดได้ดังกล่าว ถูกลำเลียงเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพมหานคร จะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจจากมูลค่าของยาเสพติดที่จำหน่ายถึง 23,035 ล้านบาท (23,035,966,950 บาท)