มทบ.37 โดย รพ.ค่ายเม็งรายมหาราช “ตรวจเยี่ยมศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ฯ”

มทบ.37 โดย รพ.ค่ายเม็งรายมหาราช “ตรวจเยี่ยมศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ฯ”

วันที่ 12 มิ.ย. 68 เวลา 08.00-12.00 น. รพ.ค่ายเม็งรายมหาราช โดยทีมส่งเสริมสุขภาพ พร้อมด้วยประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขา มณฑลทหารบกที่ 37 ได้ดำเนินการ โครงการเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการให้แก่เด็กปฐมวัย พร้อมทั้งตรวจสุขภาพช่องปากและฟัน ณ โรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์บริบูรณ์ธนวัฒน์ ค่ายเม็งรายมหาราช จำนวน 387 คน ผลการปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

มทบ.37 มอบเงินสงเคราะห์บุพการีกำลังพล ทบ.ที่พิการทุพพลภาพ และบุตรที่มีความต้องการพิเศษ

มทบ.37 มอบเงินสงเคราะห์บุพการีกำลังพล ทบ.ที่พิการทุพพลภาพ และบุตรที่มีความต้องการพิเศษ

วันที่ 12 มิ.ย.68 เวลา13.30 น. พล.ต.จักรวีร์ เสนีย์วรยุทธ์ ผบ.มทบ.37 พร้อมด้วย พ.ท.หญิง เยาวเรศ ชูก้าน ประธานสมาคมแม่บ้าน ทบ. สาขา มทบ.37 ได้มอบเงินสงเคราะห์บุพการีกำลังพล ทบ.ที่พิการทุพพลภาพ และบุตรที่มีความต้องการพิเศษ ตามที่ ผบ.ทบ. โดย สก.ทบ.ได้กรุณาอนุมัติเงินช่วยเหลือฯ ตั้งแต่ ก.ค.- ธ.ค.67 เป็นจำนวนเงินรายละ 3,000 บาท ซึ่งมี คณะ ฝสธ.มทบ.37 และสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขา มทบ.37 เข้าร่วมพิธีฯ โดยมีผู้เข้ารับมอบเงินสวัสดิการ จำนวน 35 รายแยกเป็นบุพการีที่ทุพพลภาพ 30 ราย และบุตรที่มีความต้องการพิเศษ 5 ราย ณ ศาสนสถานค่ายเม็งรายมหาราช อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ซึ่งผลการปฏิบัติสร้างขวัญกำลังใจให้กับกำลังพลได้เป็นอย่างดี

#กองทัพบกเราไม่ทอดทิ้งกัน

ผู้ว่าฯ เชียงราย ลงพื้นที่เวียงชัย สร้างความเชื่อมั่นให้เกษตรกร – ย้ำ “น้ำกกยังใช้ทำเกษตรได้” ภายใต้เงื่อนไขการจัดการดินและสุขอนามัย

ผู้ว่าฯ เชียงราย ลงพื้นที่เวียงชัย สร้างความเชื่อมั่นให้เกษตรกร – ย้ำ “น้ำกกยังใช้ทำเกษตรได้” ภายใต้เงื่อนไขการจัดการดินและสุขอนามัย

วันที่ 11 มิถุนายน 2568 นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยนายบดินทร์ เทียมภักดี นายอำเภอเวียงชัย นายเสน่ห์ แสงคำ เกษตรจังหวัดเชียงราย และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันลงพื้นที่เยี่ยมเยียนและให้กำลังใจพี่น้องเกษตรกรผู้ทำนา ณ หมู่ที่ 8 บ้านไตรแก้ว ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเวียงชัย จังหวัดเชียงราย เพื่อรับฟังความคิดเห็นและสร้างความมั่นใจในการประกอบอาชีพการเกษตร ท่ามกลางความกังวลของประชาชนต่อประเด็นคุณภาพน้ำในแม่น้ำกก

โดยล่าสุดผลการตรวจสอบจากสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (สคพ.1) จังหวัดเชียงใหม่ ยืนยันว่า ในน้ำแม่น้ำกกมีการตรวจพบสารหนูเกินค่ามาตรฐานในบางจุด ซึ่งระดับการปนเปื้อนมีความแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ย้ำอย่างชัดเจนว่า หน่วยงานภาครัฐไม่ได้ปิดบังข้อมูล และมีการเปิดเผยผลการตรวจอย่างต่อเนื่องทุกเดือน โดยเน้นย้ำว่าข้อมูลที่ถูกต้องควรรับจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น หน่วยงานรัฐที่มีผลแล็บ จากเครื่องมือที่ได้มาตรฐานและมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย

สำหรับน้ำประปา ทั้งในระดับการประปาภูมิภาคสาขาเชียงราย และประปาหมู่บ้านที่ใช้น้ำจากแม่น้ำกกเป็นต้นทุน ได้ผ่านกระบวนการตกตะกอน กรอง และบำบัดคุณภาพน้ำตามหลักวิชาการ โดยผลการตรวจสอบจากการประปาส่วนภูมิภาค และศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 1/1 จังหวัดเชียงราย ยืนยันตรงกันว่า น้ำประปาที่ผลิตมีคุณภาพปลอดภัยตามเกณฑ์มาตรฐาน และสามารถใช้อุปโภคบริโภคได้ตามปกติ

ในประเด็นที่เกษตรกรจำนวนมากสงสัยว่า “แม่น้ำกกยังสามารถใช้น้ำในการเพาะปลูกได้หรือไม่” เกษตรจังหวัดเชียงราย กล่าว่า ปัจจัยสำคัญที่จะช่วยจำกัดการแพร่กระจายของสารหนูจากน้ำเข้าสู่พืช คือ “การปรับปรุงคุณภาพดินให้มีค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) ที่เหมาะสม” โดยเฉพาะค่า pH 6.5 ขึ้นไป จะช่วยลดการดูดซึมโลหะหนักเข้าสู่พืชผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับ ข้อมูลของศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ 1/1 จังหวัดเชียงราย ที่ได้ดำเนินการเก็บตัวอย่างพืชและสัตว์น้ำในพื้นที่ที่ใช้น้ำจากแม่น้ำกก รวมถึงชนิดที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำโดยตรง ส่งตรวจในห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐาน ผลการตรวจสอบล่าสุดพบว่า ปริมาณสารหนูในพืชและสัตว์น้ำที่เก็บตัวอย่างนั้น “ไม่เกินค่ามาตรฐาน” ซึ่งเป็นข้อบ่งชี้ว่า สามารถใช้แม่น้ำกกเพื่อการเกษตรได้

ทั้งนี้ เกษตรจังหวัดเชียงราย ยังได้เน้นย้ำเรื่องสุขอนามัยในการปฏิบัติงานในพื้นที่น้ำธรรมชาติว่า เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำโดยตรง เช่น ควรใส่รองเท้าบูทและเสื้อผ้าที่ปกปิดร่างกายระหว่างลงแปลงนา เพื่อป้องกันการสะสมของสารเคมีที่อาจตกค้างบริเวณผิวหนังในระยะยาว

สำหรับเกษตรกรในพื้นที่เวียงชัย ส่วนใหญ่ยังคงติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และเชื่อมั่นในผลการตรวจสอบจากห้องแล็บอย่างเป็นทางการ แต่ในขณะเดียวกันก็สะท้อนความต้องการให้ภาครัฐเร่งแก้ปัญหาที่ต้นทางอย่างเป็นรูปธรรม

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวทิ้งท้ายว่า ขอให้ประชาชนยึดถือข้อมูลจากหน่วยงานรัฐที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย และมีเครื่องมือที่ได้มาตรฐาน และไม่หลงเชื่อข้อมูลที่ไม่มีที่มาชัดเจน

ชาวอำเภอแม่สะเรียง ร่วม ประเพณีสรงน้ำพระบรมสารีริกธาตุ วัดท่าข้ามใต้ (เดือน 9 เป็ง)

ชาวอำเภอแม่สะเรียง ร่วม ประเพณีสรงน้ำพระบรมสารีริกธาตุ วัดท่าข้ามใต้ (เดือน 9 เป็ง)

วันที่ 10 มิถุนายน 2568 ที่ วัดท่าข้ามใต้ อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน นายวรศักดิ์ พานทอง นายอำเภอแม่สะเรียง เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการลานวัฒนธรรมชุมชนตำบลบ้านกาศ โดยมี คณะกรรมการจัดงานลานวัฒนธรรมชุมชนตำบลบ้านกาศ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนเข้าร่วมงาน การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เพื่อให้เด็ก เยาวชน และประชาชน ได้ตระหนักถึงความสำคัญของชุมชน วัฒนธรรม ประเพณีท้องถิ่น และภูมิปัญญาพื้นบ้าน เรียนรู้วิถีชีวิต และปลูกจิตสำนึกกระตุ้นให้คนในชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการเผยแพร่สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น บนพื้นฐานของธรรมชาติที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตชุมชน

พร้อมกันนี้ พุทธศาสนิกชนชาวอำเภอแม่สะเรียง ร่วมประเพณีสรงน้ำพระธาตุพระบรมสารีริกธาตุ (เดือน 9 เป็ง) วัดท่าข้ามใต้ ตำบลบ้านกาศ อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งถือปฏิบัติเป็นประเพณีนี้มาเป็นประจำทุกปี ปีนี้เป็นปีที่ 108 เพื่อน้อมถวายสักการะบูชาพระบรมสารีริกธาตุของวัดท่าข้ามใต้ และบูชาคุณพระศรีรัตนตรัย ร่วมสืบสานขนบธรรมเนียมประเพณีของท้องถิ่น และบำรุงพระพุทธศาสนาให้เจริญมั่นคงสืบไป

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

อำเภอสบเมย ดำเนินโครงการมหาดไทยสีขาว สร้างพื้นที่ปลอดภัย หยุดยั้งยาเสพติด

อำเภอสบเมย ดำเนินโครงการมหาดไทยสีขาว สร้างพื้นที่ปลอดภัย หยุดยั้งยาเสพติด

วันที่ 10 มิถุนายน 2568 ณ องค์การบริหารส่วนตำบลแม่สามแลบ อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน นายคำผัน โมกไธสง นายอำเภอสบเมย มอบหมายให้ นายธนวัฒน์ คงศิริ ปลัดอำเภอกลุ่มงานความมั่นคง พร้อมเจ้าหน้าที่/สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน บูรณาการร่วมกับ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านแม่สามแลบ สถานีตำรวจภูธรสบเมย กองร้อยทหารพรานที่ 3605 ดำเนินการตรวจสารเสพติดบุคลากรในสังกัดองค์การบริหารส่วนตำบลแม่สามแลบ ตามโครงการมหาดไทยสีขาว สร้างพื้นที่ปลอดภัย หยุดยั้งยาเสพติด (Safe Zone No Drugs) โดยได้รับความร่วมมือจาก ข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง เป็นอย่างดี

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

ชาวแม่ฮ่องสอน เข้าวัดปฏิบัติธรรม วันธรรมสวนะ ศรัทธาอิ่มบุญ อุดหนุนชุมชน ตักบาตรสะพานซูตองเป้

ชาวแม่ฮ่องสอน เข้าวัดปฏิบัติธรรม วันธรรมสวนะ ศรัทธาอิ่มบุญ อุดหนุนชุมชน ตักบาตรสะพานซูตองเป้

วันที่ 10 มิถุนายน 2568 ที่วัดภูสมะณาราม อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน นายบุญลือ ธรรมธรานุรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง ณ สะพานซูตองเป้ โดย เจ้าอธิการจิตตพัฒน์ เจ้าอาวาสวัดภูสมณาราม นำพระภิกษุ สามเณรจำนวน 30 รูป ออกรับบิณฑบาต นางสาวกมลลักษณ์ บุญซื่อ วัฒนธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน นำหัวหน้าส่วนราชการ ศรัทธาสาธุชน และนักท่องเที่ยว ร่วมทำบุญตักบาตร ตาม “โครงการเข้าวัดปฏิบัติธรรม วันธรรมสวนะ ศรัทธาอิ่มบุญ อุดหนุนชุมชน ตักบาตรสะพานซูตองเป้”

ต่อจากนั้น รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน นำหัวหน้าส่วนราชการ ศรัทธาสาธุชน ขึ้นวัด ปฏิบัติธรรม ฟังพระธรรมเทศนา เจริญจิตภาวนา ถวายเครื่องไทยธรรม สร้างบุญ เสริมสิริมงคล เนื่องในวันธรรมสวนะ และอุดหนุนผลิตภัณฑ์ชุมชน

โครงการเข้าวัดปฏิบัติธรรม วันธรรมสวนะ ศรัทธาอิ่มบุญ อุดหนุนชุมชน ตักบาตรสะพานซูตองเป้ จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดย สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน บูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ และเอกชน จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมกับกิจกรรม ส่งเสริมความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา เสริมสร้างความอบอุ่นและความเข็มแข็งของสถาบัน ครอบครัว โดยมีบุคคล 3 วัย ได้มีโอกาสได้ทำกิจกรรมร่วมกันในวันธรรมสวนะ และวันสำคัญต่าง ๆ ตลอดจนผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญา การแต่งกายด้วยผ้าไทย ซึ่งจังหวัดแม่ฮ่องสอนมีความหลากหลายกลุ่มชาติพันธุ์ วัฒนธรรมการแต่งกาย ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ เมื่อมาทำบุญได้แต่งกายที่สวยงาน เข้าวัดปฏิบัติธรรมวันธรรมสวนะเกิดความ ภาคภูมิใจไปด้วย และยังเพิ่มศักยภาพให้วัด ศาสนสถานเป็นพื้นที่สร้างรายได้ให้แก่ชุมชน และจุดเช็คอินเพิ่มมากขึ้น

สำหรับโครงการเข้าวัดปฏิบัติธรรม วันธรรมสวนะ ศรัทธาอิ่มบุญ อุดหนุน ชุมชนตักบาตรสะพานซูตองเป้” ณ วัดภูสมะณาราม ในช่วงเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม 2568 รวมทั้งสิ้น 6 ครั้ง ครั้งที่ 1 วันอังคารที่ 10 มิถุนายน ครั้งที่ 2 วันพุธที่ 18 มิถุนายน ครั้งที่ 3 วันพุธที่ 25 มิถุนายน ครั้งที่ 4 วันพฤหัสบดีที่ 3 กรกฎาคม ครั้งที่ 5 วันศุกร์ที่ 18 กรกฎาคม และครั้งที่ 6 วันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม 2568

Cr. ฉลอง หมั่นสกุล จ.แม่ฮ่องสอน

มณฑลทหารบกที่ 37 จัดกำลังพลจิตอาสาพระราชทาน ร่วมปล่อยพันธุ์ปลา เพื่อรักษาระบบนิเวศ

มณฑลทหารบกที่ 37 จัดกำลังพลจิตอาสาพระราชทาน ร่วมปล่อยพันธุ์ปลา เพื่อรักษาระบบนิเวศ ณ สถานีพัฒนาการเกษตรพื้นที่สูง ตามพระราชดำริ บ้านธารทอง ตำบลแม่เงิน อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย

มณฑลทหารบกที่ 37 จัดกำลังพล “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” นำโดย ร้อยตรี ณัฐพล บุญทับ หัวหน้าชุดปฏิบัติการประสานงานคุ้มครองป้องกันชุมชน สถานีพัฒนาการเกษตรพื้นที่สูง ตามพระราชดำริ บ้านธารทอง พร้อมกำลังพล “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชีนี 3 มิถุนายน 2568

โดยจัดกิจกรรม “ปล่อยพันธุ์ปลาเพื่อรักษาระบบนิเวศ” ร่วมกับ นายวิทยา มะสะ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาและส่งเสริมอาชีพการประมง นักวิชาการประมงชำนาญการ พร้อมเจ้าหน้าที่ นำพันธุ์ปลานิลและปลาทับทิมมามอบให้กับหัวหน้าสถานีพัฒนาการเกษตรพื้นที่สูง ตามพระราชดำริบ้านธารทอง เพื่อปล่อยกลับคืนสู่แหล่งน้ำตามธรรมชาติในพื้นที่ของโครงการอันเนื่องมาจาก พระราชดำริ เป็นการรักษาระบบนิเวศและธรรมชาติสิ่งแวดล้อม การปล่อยปลาคืนสู่ธรรมชาติ อีกทั้งเป็นการสร้างบุญและเสริมความเป็นสิริมงคล รวมทั้งเป็นการสร้างระบบนิเวศให้อยู่ในสภาพที่เหมาะ รวมทั้งเป็นอาหารให้กับประชาชนที่ปฏิบัติงานในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยการปล่อยปลาครั้งนี้มีจำนวน 3000 ตัว มีหัวหน้า เจ้าหน้าที่และคนงาน สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูง ตามพระราชดำริ บ้านธารทอง และเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชเชียงราย รวมปล่อยด้วย ผลการปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

#จิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจ
#เพื่อชาติศาสน์กษัตริย์และประชาชน
#น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น
#ทหารเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส

ศอ.จอส.พระราชทาน มทบ.37 จัดกำลังพลจิตอาสา ร่วมกิจกรรมบริจาคโลหิต ในวันผู้บริจาคโลหิตโลก

ศอ.จอส.พระราชทาน มทบ.37 จัดกำลังพลจิตอาสา ร่วมกิจกรรมบริจาคโลหิต “14 มิ.ย. วันผู้บริจาคโลหิตโลก World Blood Donor Day” ณ มูลนิธิสาธารณกุศลสงเคราะห์เชียงราย

วันที่ 10 มิ.ย. 68 เวลา 09.00 น. ศอ.จอส.พระราชทาน มทบ.37 จัดกำลังพลจิตอาสาพระราชทาน มทบ.37 บริจาคโลหิตกับ “นายวีรชัย สุวรรณธาราเรือง” ผู้ป่วยที่มีความต้องการโลหิตเร่งด่วน ซึ่งรักษาตัว ณ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ และร่วมกิจกรรมบริจาคโลหิต “14 มิ.ย. วันผู้บริจาคโลหิตโลก World Blood Donor Day” มูลนิธิสาธารณกุศลสงเคราะห์เชียงราย อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการสำรองโลหิตให้กับผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้โลหิตในการรักษา ในการบริจาคโลหิตครั้งนี้ ศอ.จอส.พระราชทาน มทบ.37 จัดกำลังพลจิตอาสา ร่วมกิจกรรมบริจาคโลหิตดังกล่าว สามารถบริจาคโลหิตได้ จำนวน 1,350 ซีซี

ฉก.ทัพเจ้าตาก กกล.ผาเมือง ปะทะกลุ่มขบวนการลำเลียง ยึด 5 เป้ ล้านเม็ด พื้นที่แม่ฟ้าหลวง

ฉก.ทัพเจ้าตาก กกล.ผาเมือง ปะทะกลุ่มขบวนการลำเลียง ยึด 5 เป้ ล้านเม็ด พื้นที่แม่ฟ้าหลวง

เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2568 เวลา 11.30 นาฬิกา กองร้อยทหารม้าที่ 1 หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก ได้จัดกำลัง จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ ร่วมกับ หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วม ทำการลาดตระเวนและเฝ้าตรวจ เพื่อป้องกัน และสกัดกั้นการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติด บริเวณบ้านปูนะ ตำบลเทอดไทย อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ขณะปฏิบัติหน้าที่ได้ตรวจพบ กลุ่มบุคคลต้องสงสัย ประมาณ 5 คน มีพฤติการณ์น่าสงสัย นั่งอยู่บริเวณพื้นที่เกิดเหตุ จึงได้แสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจค้น แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้วิ่งหลบหนี และใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิด ยิงใส่เจ้าหน้าที่ เพื่อป้องกันการไล่ติดตาม จึงเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ ประมาณ 5 นาที ผลการปะทะฝ่ายเราปลอดภัย ไม่พบการสูญเสียของกลุ่มขบวนการ หน่วยจึงได้จัดกำลังเพิ่มเติมจำนวน 2 ชุดปฏิบัติการ วางกำลังเข้าควบคุมพื้นที่เกิดเหตุไว้

ต่อมาเวลา 13.00 น. หน่วยได้ทำการเข้าตรวจสอบของกลางในพื้นที่เกิดเหตุ ตรวจพบเป้กระสอบดัดแปลง จำนวน 5 เป้ ภายในบรรจุยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ยาบ้า) เป้ละ 200,000 เม็ด รวมประมาณทั้งสิ้น 1,000,000 เม็ด และต่อมา เวลา 15.30 นาฬิกา พลตรี กิดากร จันทรา ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง ได้มอบหมายให้ พันเอก กิตติ นาใจ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางเข้าตรวจสอบของกลางยาเสพติด พร้อมทั้งชี้แจงให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนบริเวณพื้นที่เกิดเหตุดังกล่าว หลังจากนั้นจึงได้นำของกลางส่งให้สถานีตำรวจภูธรแม่ฟ้าหลวง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป จากเหตุการณ์ดังกล่าว พลตรี กิดากร จันทรา ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง/ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกองกำลังผาเมือง ได้สั่งการให้หน่วยในพื้นที่ยังคงเพิ่มความเข้มงวดในการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด อย่างต่อเนื่องต่อไป

#SealStopSafe

กองกำลังผาเมือง สกัดกั้นกลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ที่ฝาง ยิงดับ 1 ศพ ยาบ้า จำนวน 200,000 เม็ด ฝิ่นดิบ จำนวน 20.8 กิโลกรัม

กองกำลังผาเมือง สกัดกั้นกลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ยึดยาบ้า จำนวน 200,000 เม็ด, ฝิ่นดิบ จำนวน 20.8 กิโลกรัม และอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก กลุ่มขบวนการฯ เสียชีวิต 1 ศพ ในพื้นที่ อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่

วันที่ 5 มิถุนายน 2568 เวลา 00.35 น. กองร้อยทหารม้าที่ 4 หน่วยเฉพาะกิจไชยานุภาพ จัดกำลังพล จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ ร่วมกับชุดปฏิบัติการหน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วม ทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจเพื่อป้องกันและสกัดกั้นการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติด บริเวณ ช่องทางผาบ่อง ตำบลม่อนปิ่น อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากสืบทราบว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่แนวชายแดนผ่านพื้นที่ดังกล่าว ตรวจพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัย ประมาณ 4 – 5 ราย สะพายกระเป๋าเป้ดัดแปลงไว้ด้านหลังเดินเข้ามาในพื้นที่ดังกล่าว หน่วยจึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจค้นแต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงใส่ฝ่ายเรา จึงเกิดการปะทะกัน ประมาณ 5 นาที ผลการปะทะฝ่ายเราปลอดภัย หน่วยจึงได้จัดกำลังพลเพิ่มเติม จำนวน 2 ชุดปฏิบัติการ เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ ตรวจพบกระสอบดัดแปลงเป็นเป้สะพายหลังสีเขียว จำนวน 3 เป้

เป้ที่ 1 ภายใน บรรจุยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ( ยาบ้า ) จำนวน 100,000 เม็ด และ ยาเสพติดให้โทษประเภท 2 ( ฝิ่นดิบ ) จำนวน 1 จ๊อย ( น้ำหนัก 1.6 กิโลกรัม )

เป้ที่ 2 ภายใน บรรจุยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ( ยาบ้า ) จำนวน 100,000 เม็ด และ ยาเสพติดให้โทษประเภท 2 ( ฝิ่นดิบ ) จำนวน 1 จ๊อย ( น้ำหนัก 1.6 กิโลกรัม )

เป้ที่ 3 ภายใน บรรจุยาเสพติดให้โทษประเภท 2 ( ฝิ่นดิบ ) จำนวน 11 จ๊อย ( น้ำหนัก 17.6 กิโลกรัม )

รวม ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ( ยาบ้า ) จำนวน 200,000 เม็ด และยาเสพติดให้โทษประเภท 2 ( ฝิ่นดิบ ) จำนวน 20.8 กิโลกรัม และอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก กลุ่มขบวนการฯ เสียชีวิต 1 ศพ

ต่อมาเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 น. พลตรี กิดากร จันทรา ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง/ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกองกำลังผาเมือง มอบหมายให้ พันเอก ไมตรี ศรีสันเทียะ เสนาธิการการกองกำลังผาเมือง เป็นผู้แทน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ เพื่อตรวจสอบการตรวจยึดยาเสพติดดังกล่าว และได้นำของกลางส่งให้กับสถานีตำรวจภูธรฝาง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

สรุปผลการสกัดกั้นยาเสพติด กกล.ผาเมือง ในห้วงตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2567 ถึงปัจจุบัน หน่วยสามารถสกัดกั้นยาเสพติดได้ 284 ครั้ง จับกุมผู้ต้องหาได้ 299 คน ตรวจยึดยาบ้าได้ 112,650,860 เม็ด, เฮโรอีน 145 กิโลกรัม, ไอซ์ 8,062 กิโลกรัม, ฝิ่น 42.9 กก. และ เคตามีน 695 กิโลกรัม จากการปะทะกับเจ้าหน้าที่ จำนวน 40 ครั้ง กลุ่มขบวนการฯ เสียชีวิต 16 ศพ

หากยาเสพติดที่ตรวจยึดได้ดังกล่าว ถูกลำเลียงเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพมหานคร จะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจจากมูลค่าของยาเสพติดที่จำหน่ายถึง 25,775 ล้านบาท (25,775,219,100 บาท)

#พิทักษ์อาณารักษาชายแดน
#กองกำลังผาเมือง
#SEAL_STOP_SAFE