ชุดปฏิบัติการจิตวิทยาเฉพาะกิจที่ 302 แม่สะเรียง ร่วมบริจาคโลหิต ต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์ ในโครงการ 70 พรรษา 70 ล้านซีซี

ชุดปฏิบัติการจิตวิทยาเฉพาะกิจที่ 302 แม่สะเรียง ร่วมบริจาคโลหิต ต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์ ในโครงการ 70 พรรษา 70 ล้านซีซี

วันที่ 15 พฤษภาคม 2568 ณ โรงพยาบาลแม่สะเรียง ชุดปฏิบัติการจิตวิทยาเฉพาะกิจที่ 302 ร่วมกับ กำลังพล ฉก.ทพ.36 และ ชป.กร.304 กอ.รมน.ภาค 3 ส่วนแยก 1 กกล.นเรศวร เข้าบริจาคโลหิต ให้กับ ธนาคารเลือด รพ.แม่สะเรียง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลในโครงการ “70 พรรษา 70 ล้าน ซีซี เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายพระราชสมภพ ทรงเจริญพระชนมายุ 70 พรรษา 2 เมษายน 2568 และ นำไปช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องใช้โลหิตในการผ่าตัด หรือทำการรักษา รวมถึง เพื่อให้ ธนาคารเลือด รพ.แม่สะเรียง สำรองไว้ใช้ในยามจำเป็น

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

ปศุสัตว์แม่สะเรียง ตรวจสอบโคตาย ไม่เข้าข่ายโรคระบาดในสัตว์ เตือนอย่าชำแหละเพื่อบริโภคโดยเด็ดขาด

ปศุสัตว์แม่สะเรียง ตรวจสอบโคตาย ไม่เข้าข่ายโรคระบาดในสัตว์ เตือน อย่าชำแหละเพื่อบริโภคโดยเด็ดขาด

วันที่ 14 พฤษภาคม 2568 นายสมพงษ์ พิพัฒพงค์ชัย ปศุสัตว์จังหวัดแม่ฮ่องสอน มอบหมายให้ นายวีรภัทร เทพวงสา เจ้าพนักงานสัตวบาลชำนาญงาน รักษาราชการแทนปศุสัตว์อำเภอแม่สะเรียง และนายสันติ จตุรชัยมงคล พนักงานผู้ช่วยปศุสัตว์ ลงพื้นที่ตรวจสอบ กรณีเกษตรกรแจ้งโคป่วยตายไม่ทราบสาเหตุ ในพื้นที่บ้านโก๊ะไม้หลู่ ตำบลป่าแป๋ อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตรวจสอบเบื้องต้น มีข้อเท็จจริงดังนี้ โคฝูงที่ป่วยตาย มีเจ้าของเลี้ยงร่วมกัน 2 ราย ได้แก่ นายวินัย วันเผด็จ เลี้ยงโค จำนวน 10 ตัว ป่วย 5 ตัว และป่วยตาย 1 ตัว และนายสมใจ ไฝ่พฤสุวรรณ เลี้ยงโค จำนวน 12 ตัว ป่วย 11 ตัว และป่วยตาย 1 ตัว ทั้งสองเป็นเกษตรกรผู้เลี้ยงโคในพื้นที่บ้านโก๊ะไม้หลู่ หมู่ที่ 7 ตำบลป่าแป๋ อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยเลี้ยงรูปแบบปล่อยตามธรรมชาติร่วมกัน

จากการสอบสวนทางระบาดวิทยา ในวันที่ 12 พฤษภาคม 2568 โคฝูงดังกล่าวมีอาการน้ำลายไหล ไม่กินหญ้า จำนวน 14 ตัว จากทั้งหมด 22 ตัว และในเช้าวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 พบโคตายจำนวน 2 ตัว ลักษณะภายนอก ไม่พบรอยโรคที่สงสัยว่าเป็นโรคระบาดสัตว์ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการฝังซากโคตามวิธีการที่กรมปศุสัตว์กำหนด จากอาการแสดง ลักษณะสภาพแวดล้อมโดยรอบ ประกอบกับรอบบริเวณดังกล่าวไม่พบโค กระบือที่ป่วยตายในลักษณะเดียวกัน อาการป่วยของโคฝูงดังกล่าววินิจฉัยเบื้อง อาจเกิดจากการได้รับสารพิษจากสิ่งแวดล้อม หรือจากต้นอ่อนของพืชในปริมาณมาก

นอกจากนี้ได้ดำเนินการรักษาตามอาการให้แก่สัตว์ที่ยังมีน้ำลายไหลและไม่กินอาหาร พร้อมทั้งแจ้งเจ้าของสัตว์ให้ทำการกักโคฝูงดังกล่าวเพื่อดูอาการ หลังจากให้การรักษาทางยาพบว่า มีการตอบสนองต่อการรักษามีอาการดีขึ้น

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

นายกแม่สามแลบ เตือนระวัง ฝนตกหนักเส้นทางลื่น อันตราย ส่วนบ้านเสาหิน น้ำป่าหลาก เพิ่มความระมัดระวังการเดินทาง

นายกแม่สามแลบ เตือนระวัง ฝนตกหนักเส้นทางลื่น อันตราย ส่วนบ้านเสาหิน น้ำป่าหลาก เพิ่มความระมัดระวังการเดินทาง และ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

วันที่ 14 พฤษภาคม 2568 ภายหลังได้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ทำให้หลายพื้นที่เกิดน้ำป่าไหลหลากออกตามลำห้วย และ เส้นทางสัญจร นายพงษ์พิพัฒน์ มีเบญจมาศ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่สามแลบ ได้เปิดเผยว่า ภายหลังได้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ ตั้งแต่เย็นเมื่อวานนี้ ได้เกิดน้ำในลำห้วยแม่สามแลบไหลหลาก เพิ่มระดับสูงขึ้น แต่ยังไม่ส่งผลกระทบต่อความเสียหาย ฝนที่ตกหนักทำให้น้ำไหลหลากออกจากลำห้วยตามเส้นทางถนนพื้นที่สัญจรในหมู่บ้านของ ต.แม่สามแลบ เช่นที่ บ้านกอมูเดอ น้ำป่าที่หลากตามเส้นทางถนนพัดพาเศษไม้ปิดขวางเส้นทาง ชาวบ้านต้องช่วยกันนำเศษไม้ออกไม่ให้ปิดทางน้ำหวั่นสร้างความเสียหายกับถนน

นอกจากนี้ฝนที่ตกหนักทำถนนมีความลื่นมาก โดยเฉพาะเส้นทางขึ้นไปยังกลอเซโล ขอประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนใช้เส้นทางด้วยความระมัดระวัง หากมีความจำเป็นในการเข้าออกในพื้นที่ของหมู่บ้านแม่สามแลบให้เช็คเส้นทางก่อนการเดินทาง และ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ขณะที่ ด้านบ้านสาหิน ต.เสาหิน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ทาง องค์การบริหารส่วนตำบลเสาหิน ได้ประกาศแจ้งเตือน ชาวตำบลเสาหิน ให้เฝ้าระวังน้ำป่าหลาก หลังเมื่อเวลา 18.00 น.ของเย็นวานนี้ ได้มีน้ำป่าไหลหลากออกมาจากลำห้วยต่างๆของ บ้านเสาหิน มวลน้ำกำลังไหลลงมาถึงบ้านสล่าเชียงตอง และ ลำห้วยแม่แงะ พื้นที่ตอนล่างที่ต้องเฝ้าระวังคือ บ้านแม่แพะ แม่เหลอ บ้านแม่เจ และ บ้านโพซอ ต.เสาหิน อ.แม่สะเรียง ทางองค์การบริหารส่วนตำบลเสาหิน แจ้งเตือนพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ริมลำห้วย และ ผู้ใช้เส้นทางสัญจรเข้าไปในพื้นที่บ้านเสาหิน ให้ระวังน้ำป่าไหลหลาก ให้เตรียมพร้อมรับมือมวลน้ำ และ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และ ระมัดระวังในการเดินทาง

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้การต้อนรับคณะผู้แทนของคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ

ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้การต้อนรับคณะผู้แทนของคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) เข้าพบเพื่อเยี่ยมคาราวะ และขอบคุณหน่วยงานของไทยในการช่วยเหลือประสานงาน

14 พ.ค. 2568 ที่ห้องประชุมสิงหนาทบำรุง ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายเอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยปลัดจังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้การต้อนรับคณะผู้แทนของคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) นำโดย นายดราโกสลาฟ บลาเซวิช (Dragoslav Blazevic) หัวหน้าสำนักงาน ICRC สำนักงานเชียงใหม่ พร้อมด้วย นางสาววรลักษณ์ ธีรนันทากุล หัวหน้าสำนักงาน ICRC สำนักงานเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่ภาคสนาม ICRC สำนักงานเชียงใหม่ เข้าพบเพื่อเยี่ยมคาราวะ และขอบคุณหน่วยงานของไทยในการช่วยเหลือประสานงาน และอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ

ทั้งนี้ คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC : International Committee of the Red Cross) เป็นองค์กรที่ปฏิบัติงานเพื่อให้ความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรม แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากการสู้รบ / ความไม่สงบ ตามพันธกิจที่ได้รับมอบหมายจากสนธิสัญญาเจนีวา หรือ กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ การดำเนินการในภาคส่วนหนึ่งจึงมุ่งเน้นการประสานความเข้าใจกับทุกภาคส่วนภายใต้ หลักการของกฎหมายระหว่างประเทศดังกล่าว

สำหรับ ICRC สำนักงานเชียงใหม่เริ่มดำเนินงานในพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย – เมียนมาเพื่อให้ความช่วยเหลือทางด้าน มนุษยธรรมแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศเพื่อนบ้านมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 โดยหนึ่งในกิจกรรมการให้ความช่วยเหลือหลักคือโครงการให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากการสู้รบผ่านการให้ความ สนับสนุนค่าใช้จ่ายให้แก่โรงพยาบาลที่อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงสาธารณสุขมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545

Cr. ฉลอง หมั่นสกุล จ.แม่ฮ่องสอน

แม่ฮ่องสอน ไม่พบการลักลอบนำเข้าโคกระบือจากประเทศเพื่อนบ้าน เตือนประชาชน พบโค กระบือตายหรือป่วยตายผิดปกติ แจ้งปศุสัตว์ทันที

แม่ฮ่องสอน ไม่พบการลักลอบนำเข้าโคกระบือจากประเทศเพื่อนบ้าน เตือนประชาชน พบโค กระบือตายหรือป่วยตายผิดปกติ แจ้งปศุสัตว์ทันที อย่าชำแหละเพื่อบริโภคโดยเด็ดขาด

14 พ.ค. 68 นายสมพงษ์ พิพัฒพงค์ชัย ปศุสัตว์จังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า กรมปศุสัตว์ได้ชลอการนำเข้าโค กระบือ จากประเทศเพื่อนบ้าน เป็นเวลา 2 ปี ตั้งแต่เดือน ก.พ.2566 ส่วนการเคลื่อนย้ายสัตว์ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยบูรณาการทั้งฝ่ายทหาร ปกครอง ตำรวจ ท้องที่ ท้องถิ่น ได้ทำการควบคุมโรคตามข้อสั่งการของกรมปศุสัตว์อย่างเข้มงวด สำหรับการลักลอบนำเข้าโค กระบือ ในพื้นที่ยังหวัดแม่ฮ่องสอน เราได้ควบคุมดูแลอย่างเข้มงวดยังไม่พบการลักลอบนำเข้าตามแนวชายแดน และแจ้งไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนชายแดน หากพบมีการลักลอบนำเข้าโค กระบือให้แจ้งมายังปศุสัตว์จังหวัด ปศุสัตว์อำเภอ ได้ทันที สำหรับโค กระบือของเกษตรกรที่อยู่ในหมู่บ้านตามแนวชายแดน ได้ทำการฉีดวัคซีนป้องกันโรค และควบคุมโรคต่างๆ ไว้แล้ว

นายสมพงษ์ พิพัฒพงค์ชัย ปศุสัตว์จังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวต่อไปว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคแอนแทรกซ์ในหลายจังหวัดตามที่มีข่าวนั้น ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ยังไม่มีรายงานการพบโรคแอนแทรกซ์ในสัตว์และประชาชนแต่อย่างใด ปศุสัตว์จังหวัดแม่ฮ่องสอนเข้มงวดและเฝ้าระวังมาตลอดและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบ หากเกษตรกรพบสัตว์ตายฉับพลันหรือป่วยตาย และมีเลือดไหลออกจากปาก จมูก ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอทันทีเพื่อตรวจสอบและควบคุมโรค พร้อมกันนี้ได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนงดบริโภคเนื้อดิบจากสัตว์ ให้ความรู้ในการป้องกันโรคในพื้นที่ ส่วนกรณีที่พบโคตายในพื้นที่บ้านแม่สะลาบ ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง นั้น จากการตรวจสอบของปศุสัตว์อำเภอ โคที่ตายสาเหตุเกิดจากแก๊สในกระเพาะอาหารทำให้สัตว์ท้องอืด หายใจไม่ออก และตายไม่ใช้เกิดจากโรคระบาดสัตว์แต่อย่างใด

Cr. ฉลอง หมั่นสกุล จ.แม่ฮ่องสอน

เชียงราย ตำรวจเชียงราย สกัดไอซ์ 578 กก เครือข่ายว้าแดง กลางเมือง

เชียงราย ตำรวจเชียงราย สกัดไอซ์ 578 กก เครือข่ายว้าแดง กลางเมือง

เวลาประมาณ 23.30 น. วันที่ 13 พฤษภาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.เชียงราย ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย, พ.ต.อ.รัฐพล น้อยช่างคิด รอง ผบก.ภ.จว.เชียงราย และ พ.ต.อ.พัสกร ธวัชเชียงกุล ผกก.สส.ภ.จว.เชียงราย นำโดย พ.ต.ท.พันธุ์ระวี วงศ์ชัย สว.กก.สส.ฯ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง สนธิกำลังสกัดยาไอซ์เครือข่ายว้าแดง ยึดยาไอซ์ 578 กิโลกรัม

ด้วยการตรวจยึดในครั้งนี้สืบเนื่องจากได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีกลุ่มขบวนการลำเลียงยาเสพติดจากชายแดนอำเภอแม่สาย เข้าสู่พื้นที่ตอนใน โดยใช้รถยนต์เอนกประสงค์ สีขาว เป็นพาหนะ เจ้าหน้าที่จึงวางแผนสกัดกั้น จนกระทั่งพบรถยนต์ต้องสงสัย ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่น Xpander สีขาว ทะเบียน ขต 7954 เชียงราย บริเวณริมถนนด้านข้างที่ทำการองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย หน้ากองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดเชียงรายผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสกัดกั้นเพื่อตรวจสอบ แต่รถคันดังกล่าวได้เร่งเครื่องชนรถของเจ้าหน้าที่ก่อนจะหลบหนีแต่เ้าหน้าที่สามารถสกัดไว้ได้แต่คนขับรถได้อาศัยความมืดหลบหนีไปได้

จากการตรวจสอบ พบของกลางยาเสพติดประเภทไอซ์ จำนวน 20 กระสอบ ๆ ละประมาณ 25 กิโลกรัม รวมน้ำหนักประมาณ 578 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ภายในรถยนต์คันดังกล่าว

จากนั้นในช่วงเช้าทางเจ้าหน้าที่ได้ติดตามขยายผลจนพบรถนำเป็นรถกระบะอีซูซุ สีขาวหมายเลขทะเบียน 9 กฬ 1402 กรุงเทพมหานคร ซึ่งหลบหนีไปได้ก่อนการจับกุมเสียหลักตกอยู่ข้างทาง แต่ไม่พบคนขับ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้ขยายผลการจับกุมต่อไป

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

โครงการ Lively Awareness Project (LAP) จัดอบรมครู-ตำรวจตระเวนชายแดน สร้างเครือข่ายความปลอดภัยในโรงเรียนชายแดนเหนือ

โครงการ Lively Awareness Project (LAP) จัดอบรมครู-ตำรวจตระเวนชายแดน สร้างเครือข่ายความปลอดภัยในโรงเรียนชายแดนเหนือ

ระหว่างวันที่ 8 – 10 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา โครงการ Lively Awareness Project (LAP) นำโดย คุณวิน วิมล ดินุ และ พ.ต.ท.จารุวัฒน์ ใจสุบรรณ์ จัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการให้กับครูและเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 รวมจำนวน 132 นาย จากโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนทั้งสิ้น 17 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย พะเยา และน่าน

การอบรมครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจาก สถานกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกา ประจำเชียงใหม่ โดยมุ่งเน้นการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และทักษะในการป้องกันปัญหาสังคมร่วมสมัยในโรงเรียนพื้นที่ชายแดน อาทิ ภัยจากการค้ามนุษย์ อาชญากรรมออนไลน์ และ แนวทางการจัดสภาพแวดล้อมในโรงเรียนให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็กนักเรียน

ทั้งนี้ ครูและตำรวจที่ผ่านการอบรม จะนำองค์ความรู้และเครื่องมือที่ได้รับไปขยายผล ถ่ายทอดให้กับนักเรียนและชุมชนในพื้นที่ต่อไป เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคม และลดความเสี่ยงต่อภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อเด็กและเยาวชน

รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ จ.เชียงราย พบปะเยี่ยมเยือนหนึ่งในว่าแคนดิเดตตัวแทนพรรคในการลงรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส. ปี 70

รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ จ.เชียงราย พบปะเยี่ยมเยือนหนึ่งในว่าแคนดิเดตตัวแทนพรรคในการลงรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส. ปี 70

วันที่ 12 พ.ค. 68 ที่สนามฟุตบอลหญ้าเทียม X-ARENA ต.ท่าสาย อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ไดัมาเยี่ยมเยือนทีมฟุตบอลอาวุโสจังหวัดเชียงรายและพูดคุยกับแกนนำพรรคพลังประชารัฐในพื้นที่ จ.เชียงราย โดยมีนายผจญ ใจกล้า อดีตผู้สมัคร ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ เขตพื้นที่ อ.แม่จัน และทีมงาน ร่วมให้การต้อนรับ

นายสุรเดช กล่าวถึงภารกิจในวันนี้ว่า ตนมีภารกิจที่ จ.พะเยา ในการไปใช้สิทธิ์ตามหน้าที่ของพลเมืองไทยที่ดี ในการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาล หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจก็เลยถือโอกาสมาลงพื้นที่พบปะเยี่ยมเยือนประชาชนในพื้นที่ จ.เชียงราย ก่อนที่จะขึ้นเครื่องที่สนามบินแม่ฟ้าหลวง ซึ่งวันนี้ได้มาพบปะกับทีมฟุตบอลอาวุโสของ จ.เชียงราย ที่เป็นการรวมตัวของผู้คนหลากหลายอาชีพ โดยการแนะนำของว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ก็คือนายผจญ ใจกล้า ซึ่งในอดีตเคยดำรงตำแหน่งเป็นสาธารณสุขอำเภอแม่จัน และยังเคยเป็นผู้สมัคร ส.ส.ในนามพรรคพลังประชารัฐ และในปัจจุบันท่านก็กำลังได้รับการพิจารณาคุณสมบัติเพื่อที่จะเป็นตัวแทนของพรรคที่จะลงสมัคร ส.ส.เชียงราย เขต 1 ในปี 2570 ที่จะมาถึง และตนก็ถือโอกาสมาสำรวจพื้นที่ไปในตัวด้วย ถือเป็นการเตรียมความพร้อมเอาไว้ก่อน เพราะตอนนี้บรรยากาศการเมืองก็ค่อนข้างยุ่งอยู่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหรือพรรคฝ่ายค้าน

รองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวอีกว่า ตนรับหน้าที่ดูแลคัดเลือกผู้สมัครในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน รวมทั้งหมด 34 เขตเลือกตั้ง เราจำเป็นต้องคัดคนที่ดีที่สุดที่เราจะสามารถส่งลงสนามสู้ศึกเลือกตั้งได้

เกี่ยวกับประเด็นที่ทางรัฐบาลจะมีการปรับ ครม. และอาจจะมีการดึงพรรค พปชร. เข้าไปร่วมเป็นรัฐบาลนั้น ทางรองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวว่า เกี่ยวกับเรื่องนี้จะต้องฟังความเห็นของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. ซึ่งท่านหัวหน้าพรรคเคยบอกชัดเจนว่าท่านไม่เอาคาสิโน และพวกเราในพรรคก็เห็นชอบว่าไม่เอาคาสิโนด้วย เรายืนยันตรงจุดนี้ ซึ่งเราที่ไม่เอาคาสิโนแต่จะให้เราไปร่วมรัฐบาลด้วย แล้วเราจะทำยังไง และเราก็คงไม่ยกมือให้ในประเด็นนี้ ซึ่งทางหัวหน้าพรรคท่านได้ตอบสื่อไปบ้างแล้วว่าท่านไม่ต้องการร่วมด้วย แต่ถ้าทางรัฐบาลไม่เอาคาสิโนก็อาจจะมีความเป็นไปได้ เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้

สำหรับประเด็นที่มีกระแสข่าวออกมาว่าบิ๊กป้อมจะไปเป็นนายกรัฐมนตรี นายสุรเดชกล่าวว่า ตนยังเคยไม่ได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะระยะนี้ตนใช้เวลาอยู่ที่ภาคเหนือเป็นส่วนใหญ่ แต่ในวันพรุ่งนี้จะมีการประชุมพรรค ตนก็อาจจะถือโอกาสสอบถามกับหัวหน้าพรรคเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว แต่ตนเชื่อว่าตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม แต่สุดท้ายก็ต้องแล้วแต่ทางผู้นำพรรค

นายสุรเดช เผยต่อว่า ตนนับถือ พล.อ.ประวิตร เพราะเป็นคนที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล และทำงานปิดทองกลังพระมาเยอะ ทำอะไรให้ประเทศชาติมาเยอะ แต่ท่านก็ไม่เคยเอามาพูด ตามวิสัยของทหาร แต่ตนบอกว่าสมัยนี้มันไม่ได้แล้ว เราทำอะไรเพื่อประชาชนเราก็จฝต้องประกาศให้เขารู้ ตนเชื่อว่าหัวหน้าพรรคซึ่งเป็นคนที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล จะตัดสินใจทำอะไรได้อย่างถูกต้อง

“ตอนนี้พรรคพลังประชารัฐ ได้เปลี่ยนรูปโฉมใหม่ มีการเปลี่ยนโลโก้ใหม่เป็นรูปพลวัต ซึ่งรูปร่างคล้ายกับกังหัน ประกอบด้วยสีน้ำเงิน ขาว แดง มีความสวยงาม และมีความหมายที่ดี เรามุ่งเน้นดูแลความเดือดร้อนของประชาชน ดูแลปากท้องประชาชน ตามสโลแกนพรรคอันใหม่ที่ว่า “อนุรักษ์นิยมทันสมัย” คือพรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคที่เน้นอนุรักษ์นิยม ดูแลทุกข์สุขประชาชน อีกคำหนึ่งก็คือ “ปกป้องสถาบัน ทันสมัยเศรษฐกิจ มีชีวิตที่สดใส” ยุคนี้เป็นยุคดิจิตอลแล้ว เราจะต้องทันสมัยตลอดเวลา ทีมงานของเราทันสมัยกันหมด เรามีศักยภาพพร้อมที่จะเป็นรัฐบาล พร้อมที่จะช่วยเหลือประเทศชาติและประชาชน” นายสุรเดช กล่าว

ด้านนายผจญ ใจกล้า อดีตสาธารณสุขอำเภอแม่จัน และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในนามพรรค พปชร.เชียงราย เขต 1 เผยว่า วันนี้เป็นวันฝึกซ้อมฟุตบอลของทีมฟุตบอลอาวุโสเชียงราย และได้รับเกียรติจากทางรองหัวหน้าพรรค พปชร. ที่ได้มาลงพื้นที่เยี่ยมเยือน ถือว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ท่านได้แวะมา

นายผจญ กล่าวอีกกว่า ตนเป็นสมาชิกพรรค พปชร. มาตั้งแต่ปี 2561 และไม่เคยเปลี่ยนใจ เพราะอุดมการณ์ตนอยู่กับทางพรรมาโดยตลอด เคยมีโอกาสได้ลงสมัคร ส.ส. ในปี 62 เขตเดียวกับ ส.ส.ละออง ติยะไพรัช และได้อันดับที่ 3 พ่ายแพ้ให้กับทางพรรคเพื่อไทยที่มี ส.ส.ละออง เป็นตัวแทนพรรค แต่หลังจากนั้นตนก็ทำงานเพื่อสังคมมาโดยตลอด และก็มีคนมาชักชวนไปอยู่พรรคอื่นอยู่ แต่ตนบอกว่าถ้าจะไปก็ต่อเมื่ออุดมการณ์ตรงกันเท่านั้น และมาเห็นการเปลี่ยนแปลงของพรรค พปชร. ในยุคนี้ ซึ่งค่อนข้างที่จะชัดเจนทั้งเรื่องวิสัยทัศน์และนโยบายของพรรค เรื่องการปกป้องสถาบัน ซึ่งตนชื่นชอบมากอยู่แล้ว ตนมองว่าสังคมทุกวันนี้ค่อนข้างจะแตกแยกเป็นอย่างมาก เราจะทำอย่างไรให้คนรุ่นเก่าและรุ่นใหม่อยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข ซึ่งนโยบายพรรคที่ออกมาก็ค่อนข้างที่จะตรงใจกับตน

“ตนและครอบครัวได้คุยกันว่า หากทางพรรคให้โอกาสในการลงรับสมัครรับเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่ง ตนก็จะสู้ให้เต็มที่ และจะได้เตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆ ซึ่งก็ต้องฝากทางรองหัวหน้าพรรคช่วยพิจารณาตนด้วย” นายผจญ กล่าว

ก่อนที่นายสุรเดชจะเดินทางไปสนามบินแม่ฟ้าหลวง ก็ได้ไปแวะดูการฝึกซ้อมของทีมฟุตบอล และร่วมให้เกียรติเป็นผู้เขี่ยลูกฟุตบอลเริ่มการฝึกซ้อมแข่งขันอีกด้วย

สภ.บ้านดู่ จัดโครงการฝึกทบทวนพัฒนาทักษะการยิงปืนทางยุทธวิธี

สภ.บ้านดู่ จัดโครงการฝึกทบทวนพัฒนาทักษะการยิงปืนทางยุทธวิธี

วันที่ 13 พฤษภาคม 2568 เวลา 08.00 – 16.00 น. สถานีตำรวจภูธรบ้านดู่ จัดโครงการฝึกทบทวนพัฒนาทักษะการยิงปืนทางยุทธวิธี ประจำปี 2568 (Combat Handguns) ณ สนามยิงปืนสุวิทย์ เม่นแย้ม ตำบลบ้านดู่ อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย โดยได้รับเกียรติจาก พ.ต.อ.ศันย์ชัย พานิชกุล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบ้านดู่ เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกอบรม ซึ่งจัดขึ้นภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย, พ.ต.อ.สันติ กองสมัคร และ พ.ต.อ.ชลทฤษ ชัชวาล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย

การฝึกอบรมครั้งนี้ มอบหมายให้ พ.ต.ท.ชาตรี ชราชิด รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรบ้านดู่ และ พ.ต.ท.วีรวุฒิ พุ่มไพรจิตร สารวัตรป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรบ้านดู่ เป็นผู้ดำเนินการและควบคุมการปฏิบัติ

โดยได้รับการสนับสนุนจาก คณะกรรมการ กต.ตร. สภ.บ้านดู่ และ สนามยิงปืนสุวิทย์ เม่นแย้ม เพื่อพัฒนาและเสริมสร้างทักษะทางยุทธวิธีในการใช้อาวุธปืนให้แก่ข้าราชการตำรวจในสังกัด สภ.บ้านดู่ ให้มีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย และเสริมสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

Skay doctor บินลัดฟ้ารับ ผู้ป่วยชาย วัย 50 ปี จาก รพ.สต.สล่าเชียงตอง ชายแดนเสาหิน เข้ารับการรักษา รพ.แม่สะเรียง

Skay doctor บินลัดฟ้ารับ ผู้ป่วยชาย วัย 50 ปี จาก รพ.สต.สล่าเชียงตอง ชายแดนเสาหิน เข้ารับการรักษา รพ.แม่สะเรียง

วันที่ 13 พฤษภาคม 2568 ที่ค่ายเทพสิงห์ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 นายสิบพยาบาล พร้อมกำลังชุดบรรเทาสาธารณภัยอำนวยความสะดวกและให้การช่วยเหลือการส่งต่อผู้ป่วย Skay doctor ด้วยการลำเลียง ฮ.ท.145 บินรับผู้ป่วยชายวัย 50 ปี จากชายแดนนเสาหิน รพ.สต.สล่าเชียงตอง ต.สาเหิน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อนำส่งผู้ป่วยรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลแม่สะเรียง ภายหลังในพื้นที่ ต.เสาหิน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เกิดฝนตกหนัก และ มีน้ำป่าไหลหลาก ทำให้การเดินทางต้องหยุดชะงัก รถไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ชาวบ้านต้องพากันเดินเท้าหามคนป่วยใส่เปล จากบ้านแม่เหี๊ย ส่ง รพ.สต.สล่าเชียงตอง ต.เสาหิน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ตอน 03.00 น โดยใช้เวลาเดินเท้า ประมาณ 4-5 ชั่วโมง ถึงมือหมอเพื่อรักษาอาการเบื้องต้น

จากการประเมินผู้ป่วยผ่านระบบออนไลน์ ของเจ้าหน้าที่ รพ.สต.สล่าเชียงตอง และ แพทย์โรงพยาบาลแม่สะเรียง คนไข้ชายวัย 50 ปี นายสมพงษ์ ธารายิ่งยาวนาน อายุ 50 ปี ที่อยู่ 18/15 ม.6 ต.เสาหิน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน มาด้วยอาการปวดท้อง เคยมีประวัติเป็นไส้เลื่อน หลายปีแล้ว แต่ทุกครั้งเจ็บแป๊บเดียวก็ดีขึ้นแต่รอบนี้เจ็บหนักอาการเจ็บปวดไม่ดีขึ้น คนไข้มีอาการปวดท้องน้อยมาก ไส้เลื่อนลงที่บริเวณลูกอัณฑะ มีอาเจียนมา 3 ครั้ง มีไข้ต่ำๆ ปวดแสบร้อน บริเวณใต้ลิ้นปี่ร่วมด้วย จึงได้มีการประสานส่งตัวผู้ป่วยด้วย Skay doctorเพื่อเข้ารับการรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลแม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน