จนท.ลาดตระเวนดับไฟ จ๊ะเอ๋! 4 มอดไม้ลักลอบแปรรูปกลางป่า จับกุมได้ 1 วิ่งหนี 3 ยึดของกลางไม้สักแปรรูปและอุปกรณ์

จนท.ลาดตระเวนดับไฟ จ๊ะเอ๋! 4 มอดไม้ลักลอบแปรรูปกลางป่า จับกุมได้ 1 วิ่งหนี 3 ยึดของกลางไม้สักแปรรูปและอุปกรณ์

วันที่ 7 เมษายน 2568 นายสมจินต์ เนตรประดิษฐ์ ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 สาขา แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 11.00 น.ของวานนี้ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอน เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ มส.5 (แม่สะเรียง) ชุดดับไฟป่าประจำตำบลได้ออกปฏิบัติการ ดับไฟป่า.ตามจุดhotspot ระหว่างการปฏิบัติการดับไฟป่าได้ตรวจพบการ ลักลอบแปรรูปไม้หวงห้ามโดยใช้เครื่องจักร(เลื่อยวงเดือน) บริเวณเขตป่าพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2584 ณ ป่าบ้านแพะ หมู่ 3 ตำบลบ้านกาศ อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน

ระหว่างการปฏิบัติการดับไฟป่าบริเวณป่าบ้านแพะ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบเสียงเครื่องจักร (เลื่อยวงเดือน) กำลังทำงานจึงวางแผนโอบล้อมพื้นที่ดังกล่าว พบชาย 4 คน กำลังแปรรูปไม้ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวจับกุมชาย 4 คน แต่เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ได้หลบหนีไป 3 คน เจ้าหน้าที่จับกุมได้ 1 คน ทราบชื่อต่อมากคือ นายทักษ์ อายุ 51 ปี ส่วนคนที่หลบหนี ทราบชื่อแล้ว 2 คน โดยขณะเข้าจับกุมเจ้าหน้าที่ได้บันทึกภาพถ่ายวีดีโอไว้แล้วและได้ประสานชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ ชุดที่ 2 สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ สาขาแม่ฮ่องสอน นำโดยนายอำนวย ยอดคำ เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ และได้แจ้งผู้นำชุมชน (ผู้ใหญ่บ้านแพะ) เข้าร่วมดำเนินการตรวจยึดจับกุม ไม้สักแปรรูป จำนวน 20 แผ่น ปริมาตร 0.66 ม3 ไม้สักท่อน จำนวน 2 ท่อน ปริมาตร 0.46 ม3 และอุปกรณ์กระทำความผิดทั้งหมด ได้แก่ เลื่อยวงเดือน 1 ตัว พร้อมเครื่องยนต์ 11 แรง ใบเลื่อยวงเดือน ขนาด 70 ซม. ล้อเข็นลากไม้ 1 ตัว จอบ 1 ด้าม ซะแลงเหล็กข้ออ้อย 1 ตัว ค้อน1 ด้าม ที่วัดระดับน้ำ 1 ตัว ขวาน 1 ด้าม และเลื่อยลันดา 1 ตัว จึงได้นำมาเก็บรักษายัง หน่วยฯมส.๕ (แม่สะเรียง) โดยผู้ต้องหาให้การว่า ไม้สักท่อนดังกล่าว ได้ชักลากโดยใช้ล้อเข็น นำมาจากห้วยกองงอง ใกล้กับที่เกิดเหตุมาแปรรูปในที่เกิดเหตุดังกล่าว

จากการตรวจสอบพื้นที่โดยรอบบริเวณเกิดเหตุ พบว่ามีร่องรอยการตัดโค่นไม้เป็นท่อนๆ ด้วยเลื่อยโซ่ยนต์ สังเกตจากร่องรอยฟันเลื่อยบริเวณหน้าตัดตอไม้ มีเศษ ขี้เลื่อยและกิ่งไม้ เปลือกไม้ ตกอยู่กระจัดกระจาย พบร่อยรอยการชักลากไม้เคลื่อนย้ายขึ้นแท่น เลื่อยวงเดือน เพื่อทำการแปรรูปจากไม้ท่อนเป็นไม้แปรรูป ได้นำมาเก็บรักษายัง หน่วยฯ มส.5
(แม่สะเรียง)

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

ผบ.มทบ.37 เยี่ยมหน่วยตรวจเลือกทหารในพื้นที่ ย้ำทุกกระบวนการยึดตามระเบียบ โปร่งใส เชิญชวนสมัครใจเป็นทหาร

ผบ.มทบ.37 เยี่ยมหน่วยตรวจเลือกทหารในพื้นที่ ย้ำทุกกระบวนการยึดตามระเบียบ โปร่งใส พร้อมเชิญชวนสมัครใจเป็นทหาร สร้างโอกาสต่อยอดเป็นทหารอาชีพ

วันที่ 7 เมษายน 2568 เวลา 10.20 น. ที่หน่วยตรวจเลือกทหารฯ อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย พลตรี จักรวีร์ เสนีย์วรยุทธ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 เดินทางลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยมหน่วยตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจำการ ประจำปี 2568 ของอำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย โดยได้มอบนโยบายกับคณะกรรมการตรวจเลือก ให้กำกับดูแลตามขั้นตอน และระเบียบที่กองทัพบกกำหนด รวมทั้งประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ให้กับชายไทย เพื่อสร้างความเข้าใจในขั้นตอนการดำเนินการ รวมถึงชี้แจงถึงสิทธิ และสวัสดิการที่จะได้รับ โดยมีคณะผู้บังคับบัญชา ตลอดจนส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับ

ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 ได้เดินทักทายพบปะ พูดคุย ให้กำลังใจชายไทยที่มารายงานตัวตรวจเลือกทหารฯ ตลอดจนพ่อแม่ ผู้ปกครอง ญาติที่คอยมารอลุ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการคัดเลือกทหารฯ และสร้างความเชื่อมั่นว่ากองทัพบกได้พัฒนาในทุกกระบวนการของทหารกองประจำการ ให้เท่าทันต่อสถานการณ์ และสร้างโอกาสให้เป็น 2 ปีแห่งความหวังในรั้วกองทัพบก เพื่อดูแลน้องคนเล็กของครอบครัวอย่างเต็มที่ และดีที่สุด พร้อมทั้งได้เน้นย้ำคณะกรรมการตรวจเลือกทหารฯ ดำเนินงานทุกขั้นตอนให้เป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก การดำเนินงานทุกขั้นตอน ต้องมีความบริสุทธิ์ ยุติธรรม โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ อำนวยความสะดวกให้ผู้เข้ารับการตรวจเลือกอย่างเต็มที่

ทั้งการปรับและจัดลำดับกลุ่มบุคคลที่จะเข้าสู่กระบวนการตรวจเลือก อำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ร้องขอเป็นทหาร พิจารณาลดข้อจำกัดต่างๆ เพื่อให้ผู้ที่มีความตั้งใจอยากเป็นทหารได้รับการคัดเลือก และต้องคำนึงถึงครอบครัว พ่อแม่พี่น้องที่มาคอยให้กำลังใจ ต้องประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้สิทธิประโยชน์ สวัสดิการที่ทหารกองประจำการจะได้รับ ตลอดจนตอบข้อสงสัยให้กับผู้เข้ารับการตรวจเลือก ผู้ปกครองหรือญาติ ใช้ในการตัดสินใจสมัครเป็นทหาร ปฏิบัติต่อทุกคนด้วยความจริงใจ หากพบผู้กระทำความผิดมีบทลงโทษอย่างเด็ดขาด พร้อมได้ให้ความมั่นใจกับผู้ปกครองว่าเมื่อลูกหลานของท่านก้าวเข้าสู่รั้วทหาร ทางกองทัพบกจะดูแลลูกหลานของท่านเป็นอย่างดี พร้อมฝึกระเบียบวินัย และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นในทุกด้าน ควบคู่กับโอกาสในการศึกษาต่อ และยังสามารถต่อยอดเพื่อสอบเข้ารับราชการทหารได้อีกด้วย

สำหรับการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการประจำปี 2568 กองทัพบก ได้มีกำหนดตั้งแต่วันนี้ -12 เมษายน 2568 โดยขอให้ชายสัญชาติไทยที่เกิด พ.ศ. 2547 ซึ่งมีอายุครบ 21 ปี และมีอายุครบ 22 – 29 ปีที่ยังไม่เคยเข้ารับการตรวจเลือก เข้ารับการตรวจเลือกตามวันเวลาและสถานที่ที่กำหนดในหมายเรียกฯ (แบบ สด.35) ทั้งนี้หากพบเห็นผู้ที่กระทำความผิดในการดำเนินการตรวจเลือกทหารฯ สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ หรือคณะกรรมการตรวจเลือก ผู้นำในพื้นที่ได้ตลอด

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

เชียงราย ด่าน ตม.เชียงแสน รวบหนุ่มรัสเซีย Over Stay ไม่ยอมกลับประเทศ

เชียงราย ด่าน ตม.เชียงแสน รวบหนุ่มรัสเซีย Over Stay ไม่ยอมกลับประเทศ

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 6 เม.ย. 68 เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองเชียงแสนภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ธนิสร แสงท่านั่ง ผกก.ด่าน ตม.เชียงแสน สั่งการให้ จนท.ชุดสืบสวน ด่าน ตม.เชียงแสน ออกตรวจ X-RAY พื้นที่เสี่ยงต่างด้าวกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่

เมื่อไปถึงบริเวณบนถนนสาธารณะติดกับแม่น้ำโขง บ้านห้วยเกี๋ยง ม.8 ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ได้พบชายลักษณะดป็นชาวต่างชาติ จึงได้แสดงตัวเพื่อทำการตรวจสอบ พบว่าชายดังกล่าว เป็นชาวรัสเซีย อายุ 24 ปี ถือหนังสือเดินทางประเทศรัสเซีย ที่อยู่เมืองซาเลคาร์ด ประเทศรัสเซีย โดยพบว่าอาศัยอยู่ในประเทศไทยเกินกว่าเวลาที่กำหนด ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาว่า “เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (OVERSTAY 268 วัน) ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522” จากนั้นจึงได้นำตัวส่ง พงส.สภ.เชียงแสน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

ผู้ว่าฯ เชียงราย เรียกประชุมด่วน คุณภาพน้ำกก “พอใช้ ถึง เสื่อมโทรม”

ผู้ว่าฯ เชียงราย เรียกประชุมด่วน คุณภาพน้ำกก “พอใช้ ถึง เสื่อมโทรม”

เวลา 10.00 น.วันที่ 6 เม.ย.68 ที่ ห้องประชุมพญาพิภักดิ์ ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุมฯ เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำกก หลังรับทราบผลการตรวจคุณน้ำในพื้นที่จังหวัดเชียงราย โดยนายอาวีระ ภัคมาตร์ ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่) ได้รายงานผลจากการลงพื้นที่ตรวจสอบและเก็บตัวอย่างน้ำ เพื่อตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำผิวดิน การตรวจวัดโลหะหนัก พร้อมด้วยไซยาไนด์ เพื่อหาความปนเปื้อนของสารมลพิษในแหล่งน้ำของแม่น้ำกก เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2568 ว่า แม่น้ำกกอยู่ในเกณฑ์ “พอใช้ ถึง เสื่อมโทรม” โดยค่าความสกปรกในรูปสารอินทรีย์เกินมาตรฐาน บริเวณบ้านโป่งนาคำ ต.ดอยฮาง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย แสดงถึงแหล่งน้ำมีความสกปรกในรูปสารอินทรีย์สูง การปล่อยน้ำเสียจากแหล่งชุมชนจากกิจกรรมต่าง ๆ โดยไม่ได้ผ่านการบำบัดลงสู่แหล่งน้ำ แบคทีเรียเกินทั้ง 3 จุด ได้แก่ บ้านโป่งนาคำ สะพาะข้ามแม่น้ำกก ต.ดอยฮาง และสะพานแม่ฟ้าหลวง บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดเชียงราย บ่งบอกถึงความไม่สะอาดและไม่ปลอดในการบริโภคโดยไม่ผ่านการฆ่าเชื้อก่อน นายอาวีระฯ ยังกล่าวอีกว่า คุณภาพน้ำกกในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เกินมาตรฐานเล็กน้อย ในมุมของนักสิ่งแวดล้อมมองว่ายังเป็นปัญหาที่ไม่มาก ส่วนการเก็บตัวอย่างน้ำไปตรวจสอบควรดำเนินการเดือนละ 1-2 ครั้งเพื่อคลายความกังวลใจให้กับประชาชน

ด้าน นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ขอให้สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่) เพิ่มความถี่ในการลงพื้นที่เก็บตัวอย่างน้ำไปตรวจสอบ พร้อมทั้งขอให้ดำเนินการตลอดลำน้ำตั้งแต่รอยต่อจังหวัดเชียงราย ผ่านอำเภอเมืองเชียงราย อำเภอเวียงชัย อำเภอเวียงเชียงรุ้ง อำเภอดอยหลวง อำเภอแม่จัน ก่อนไหลลงสู่แม่น้ำโขง ที่อำเภอเชียงแสน พร้อมทั้งได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำรวจการใช้น้ำกกตลอดลำน้ำในกิจกรรมใดบ้าง เช่น ประปา เกษตร อุตสาหกรรม หรือให้ลงเล่นน้ำเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ภายในวันพุธที่ 9 เม.ย.68 นี้ จังหวัดเชียงรายจะมีข้อมูลเหล่านี้อย่างละเอียด เพื่อใช้เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนในอนาคต และกำชับให้สร้างความเข้าใจกับประชาชนไห้ครอบคลุมทุกพื้นที่เสี่ยง

นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ยังได้ขอความร่วมมือให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งการประปาส่วนภูมิภาค ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สาธารณสุขอำเภอ เทศบาล สำนักงานสิ่งแวดล้อมจังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นต้น และขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

เชียงราย รวบ 4 ผู้ต้องหาส่งยาบ้าพัสดุไปภาคใต้กว่าแสนเม็ด

เชียงราย รวบ 4 ผู้ต้องหาส่งยาบ้าพัสดุไปภาคใต้กว่าแสนเม็ด

วันที่ 6 เม.ย.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สายภายใต้การอำนวยการ พ.ต.อ.เทคนิค จันสี ผกก.สภ.แม่สาย จ.เชียงราย,พ.ต.ท.จิรพัชร ผู้มีทรัพย์ รอง ผกก.สส.นำโดย พ.ต.ต.วงศกร ธนานนทพันธ์ รรท.สว.สส.นำเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายอัศนัย อายุ 41 ปี ชาว ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย น.ส.นวลละออ อายุ 31 ปี ชาว ต.โป่งผา อ.แม่สาย นายวศิน อายุ 24 ปี ชาว ต.เวียงพางคำ และ น.ส.กรกนก อายุ 24 ปี ชาว ต.ศรีพนมมาศ อ.ลับแล จ.อุตรดิตย์ พร้อมของกลางยาเสพติดประเภทยาบ้าจำนวน 198,000 เม็ด ดำเนินคดีข้อหา “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน” และ “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย” โดยกร๊นายอัศนัยยังเพิ่มข้อหา “เป็นผู้ขับขี่เสพยาเสพติดฯ โดยผิดกฎหมาย” ด้วย

หลังจากเย็นวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งมีกลุ่มคนต้องสงสัยนำกล่องพัสดุไปฝากส่งที่เอกชนรับส่งพัสดุแห่งหนึ่งพื้นที่หมู่ 10 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย ชายแดนไทย-เมียนมา โดยแต่ละคนสวมใส่หน้ากากและสวมหมวกปิดบังใบหน้า เจ้าหน้าที่จึงไปไปตรวจสอบกล่องพัสดุที่ถูกฝากส่งจำนวน 2 กล่อง กล่องแรกระบุปลายทางส่งไปที่โรงเรียนแห่งหนึ่งพื้นที่ ต.แก้วแสน อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช และกล่องที่ 2 ส่งไปที่ ต.ครน อ.สวี จ.ชุมพร ต้นทางส่งโดยใช้ชื่อ น.ส.กรกนก หนึ่งในผู้ต้องหา เมื่อเปิดดูภายในทั้ง 2 กล่องก็พบบรรจุห่อยาบ้าจำนวน 108,000 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงแกะรอยติดตามหาตัว น.ส.กรกนก พบว่าขับขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายกันไปกับชายอีก 1 คนซึ่งทราบชื่อต่อมาว่านายอัศนัย ไปตามถนนปิยะพร 4 หมู่ 13 ต.แม่สาย อ.แม่สาย โดยถือกล่องพัสดุมาด้วยอีก 2 ใบ เจ้าหน้าที่จึงได้ตามไปจับกุมตัวเอาไว้ และเมื่อตรวจในกล่องพัสดุที่นำมาด้วยก็พบยาบ้าอีก 90,000 เม็ด

จากการสอบสวนขยายผลก็ทราบว่ายังมีผู้ร่วมขบวนการอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งพื้นที่หมู่ 13 ต.แม่สาย เจ้าหน้าที่จึงตามไปจับกุมตัวคนในบ้านได้อีก 2 คนคือนายวศิน และ น.ส.นวลละออ เมื่อสอบถามต่างก็ให้การว่าเครือข่ายยาบ้ารายได้ไปรับยาบ้าที่ซ่อนเอาไว้ในสวนลิ้นจี่ใกล้วัดห้วยน้ำรินชายแดนไทย-เมียนมา ต.เวียงพางคำ แล้วจึงนำมาบรรจุกล่องสงไปยังภาคใต้ดังกล่าวโดยระหว่างนั้นก็เสพยาบ้ากันไปด้วย เจ้าหน้าที่จึงนำตัวพร้อมของกลางส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์


ผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอน มอบเงินช่วยเหลือ เยี่ยมให้กำลังใจ ราษฏรอาสาดับไฟป่าหลังถูกไฟคลอกขณะร่วมลาดตระเวนดูแลแนวกันไฟ

ผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอน มอบเงินช่วยเหลือ เยี่ยมให้กำลังใจ ราษฏรอาสาดับไฟป่าบ้านกอมูเดอหลังถูกไฟคลอกขณะร่วมลาดตระเวนดูแลแนวกันไฟ

วันที่ 6 เมษายน 2568 เวลา 14.00 น. ณ โรงพยาบาลสบเมย อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน นายเอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน และคณะฯ ได้เดินทางเข้าเยี่ยมกล่าวให้กำลังใจมอบกระเช้า และ เงินช่วยเหลือ แก่ นายจ่อลา ดาวเรืองศรีอำพน ราษฎรอาสาไฟป่าบ้านกอมูเดอ หมู่ที่ 9 ตำบลแม่สามแลบ อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ผู้ประสพเหตุไฟไหม้ร่างกาย เนื่องจากการลาดตระเวนดูแลแนวกันไฟ ในขณะที่มีไฟลุกลามไม่ให้เข้าไปในเขตป่าและหมู่บ้าน โดยมีนายคำผัน โมกไธสง นายอำเภอสบเมย นายแพทย์พิทยา หล้าวงค์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสบเมย นายพงษ์พัฒน์ มีเบญจมาส นายก อบต.แม่สามแลบ หัวหน้าส่วนราชการ ให้การต้อนรับ

โดยเหตุการณ์ได้เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2568 ที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างการรักษาที่โรงพยาบาลสบเมย ข้อมูลเบื้องต้นผู้ป่วยมีความลึกของบาดแผลไฟไหม้ ระดับที่สอง (Second degree burn) บริเวณแขนขาและใบหน้าบางส่วน การตอบสนองของร่างกายปกติอาการดีขึ้นตามลำดับ

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

อบต.เมืองปอน เปิดการแข่งขันกีฬาต้านยาเสพติด ประจำปี 2568

องค์การบริหารส่วนตำบลเมืองปอน เปิดการแข่งขันกีฬาต้านยาเสพติด ประจำปี 2568 โดยมีนักกีฬาจากทุกหมู่บ้านมาร่วมแข่งขันกีฬา เป็นจำนวนมาก

วันที่ 6 เมษายน 2568 นายณรงค์พัชญ์ นาคทรัพย์ นายอำเภอขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาต่อต้านยาเสพติด ณ โรงเรียนชุมชนบ้านเมืองปอน หมู่ 1 ต.เมืองปอน อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน โดยมีนายชาคร กันตีมูล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเมืองปอน เป็นผู้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานดังกล่าว โดยกล่าวว่าการจัดแข่งขันกีฬาดังกล่าวก็เพื่อ เพื่อให้เยาวชนและประชาชนในแต่ละหมู่บ้าน หันมาออกกำลังกายและเล่นกีฬา เพื่อให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง และให้ห่างไกลจากยาเสพติด ซึ่งนักกีฬาจะได้แสดงความสามารถ ทักษะทางด้านการเล่นกีฬา และนำประสบการณ์การแข่งขันไปพัฒนาทักษะจากขั้นพื้นฐานสู่ความเป็นเลิศ โดยใช้กีฬาเป็นสื่อในการพัฒนาภาพชีวิต และเป็นการเชื่อมความสันพันธ์ระหว่างหมู่บ้านในพื้นที่ตำบลเมืองปอน ให้มีความรักสามัคคีแก่กันและกัน

สำหรับการแข่งขันกีฬาต่อต้านยาเสพติดของตำบลเมืองปอนในครั้งนี้ มีนักกีฬาจากหมู่บ้านเมืองปอน ม.1 , บ้านเมืองปอน , บ้านแม่ลาก๊ะ , บ้านท่าหินส้ม , บ้านหนองแห้ง , บ้านหางปอน , บ้านมะหินหลวง , บ้านป่าฝาง , บ้านแม่ซอง และ บ้านแม่โข่จู ของตำบลเมืองปอนส่งเข้าแข่งขันอย่างคับคั่ง โดยได้มีการจัดแข่งขันกีฬา ประเภทกีฬาสากล- ฟุตบอล ชาย 9 คน , เซปักตะกร้อชาย ,วอลเลย์บอลหญิง และกีฬาเปตอง

Cr. ฉลอง หมั่นสกุล จ.แม่ฮ่องสอน

เชียงราย ทัพเจ้าตาก ปะทะชายอดนแม่หม้อยึด 8 แสนเม็ด

เชียงราย ทัพเจ้าตาก ปะทะชายอดนแม่หม้อยึด 8 แสนเม็ด

เวลา 10.00 น. วันที่ 6 เม.ย. 68 พันเอก อนุวัช ปัญญานันท์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตากกองกำลังผาเมือง พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ตรวจสอบของกลางยาบ้าจำนวน 800,000 เม็ด ที่ บ้านแม่หม้อหมู่ 7 ตำบลเทอดไทยอำเภอแม่ฟ้าหลวงจังหวัดเชียงราย หลังจากเมื่อ เวลา 01.00 น. หมวดทหารม้าที่ 2 กองร้อยทหารม้าที่ 1 ฉก.ทัพเจ้าตาก ได้รับการแจ้งเตือนว่ามีบุคคลเดินผ่าน บริเวณช่องทางชาน้ำมัน บ้านแม่หม้อ

จึงได้จัด กำลังพล 1 ชุดปฏิบัติการ เข้าตรวจสอบบริเวณดังกล่าว ได้ตรวจพบบุคคลต้องสงสัยสะพายเป้ จำนวนประมาณ4-5คน เดินลงมาจากแนวชายแดน ประเทศเพื่อนบ้าน จึงได้แสดงตนเข้าขอตรวจค้น แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงใส่ฝ่ายเรา ทำให้เกิดการปะทะกันประมาณ 10 นาที เมื่อสิ้นสุดการปะทะ เจ้าหน้าที่ปลอดภัย โดยกลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ทิ้งสิ่งของและ อาศัยความชำนาญในพื้นที่หลบหนีไป หน่วยจึงได้จัดกำลังเพิ่มเติม จำนวน 3 ชุดปฏิบัติการวางกำลังควบคุมพื้นที่เกิดเหตุ

ต่อมาเมื่อเวลา 05.30 น. เจ้าหน้าที่ได้ทำการเข้าตรวจสอบพื้นที่ตรวจพบเป้กระสอบดัดแปลง จำนวน 4 กระสอบ จากการตรวจสอบภายในบรรจุ ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) กระสอบละ 200,000เม็ด รวมประมาณ 800,000 เม็ด จึงได้ทำการตรวจยึดก่อนนำส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ. แม่ฟ้าหลวงดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

สจป.ที่.1 แม่ฮ่องสอน เข้าตรวจยึดไม้สักแปรรูป ลักลอบตัดในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติแม่ยวมฝั่งซ้าย พื้นที่ตำบลป่าแป๋

สจป.ที่.1 แม่ฮ่องสอน เข้าตรวจยึดไม้สักแปรรูป ลักลอบตัดในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติแม่ยวมฝั่งซ้าย พื้นที่ตำบลป่าแป๋

วันที่ 6 เมษายน 2568 นายสมจินต์ เนตรประดิษฐ ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 สาขา แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอน เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ มส.5 (แม่สะเรียง) เวลา 13.00 น.(วันที่ 5 เมษายน ) ได้รับการประสานจากผู้ใหญ่บ้านป่ากล้วย หมู่ที่ 8 ตำบลแม่สะเรียง ว่ามีการลับลอบตัดไม้บริเวณป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ยวมฝั่งซ้าย ท้องที่ตำบลป่าแป๋ อำเภอแม่สะเรียง จึงได้นำกำลังพลเข้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว

ผลการตรวจสอบ พบว่ามีไม้สักถูกตัดโค่น และแปรรูปในที่เกิดเหตุ ตามจุดที่ได้รับแจ้ง ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นลำห้วยลึก มีความชันมาก จึงได้ประสานงานไปยังเจ้าหน้าอุทยานแห่งชาติแม่สะเรียงเตรียมการเพื่อขอสนับสนุนรถติดรอกไฟฟ้า จึงสามารถตรวจยึดชักลากไม้สักแปรรูป จำนวน 5 แผ่น ออกจากป่าได้ คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมลงความเห็นว่าเป็นการกระทำผิดต่อ พรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 “ในเขตป่าสงวนแห่งชาติมิให้ผู้ใด ยึดถือ ครอบครอง ทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง ทำไม้ เก็บของป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ” จึงได้รวมกันจัดทำบันทึกตรวจยึดและรวบรวมหลักฐานเอกสารต่างๆ นำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรอำเภอแม่สะเรียง ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

วัดศรีบุญเรือง ประเพณีปอยส่างลอง เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

วัดศรีบุญเรือง ประเพณีปอยส่างลอง เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

วันที่ 5 มีนาคม 2568 ที่ วัดศรีบุญเรือง อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน นายวรศักดิ์ พานทอง นายอำเภอแม่สะเรียง เป็นประธานในพิธีบรรพชาสามเณรและอุปสมบทพระภิกษุปอยส่างลอง เฉลิมพระเกียรติพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ ประจำปี 2568 โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ พุทธศาสนิกชน เข้าร่วมพิธีจำนวนมาก มีผู้เข้าบรรพชาเป็นเยาวชนและประชาชน บรรพชาเป็นสามณรจำนวน 75 คน ผู้อุปสมบทจำนวน 14 คน รวมทั้งสิ้น 89 คน

พระอธิการอัษดิน วิสุทธิจิตโต เจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง เปิดเผยว่า การจัดโครงการบรรพชาสามเณรและอุปสมบทพระภิกษุปอยส่างลอง ในครั้งนี้ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อฟื้นฟู อนุรักษ์และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม วิถีชีวิตของชาวอำเภอแม่สะเรียง เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมประเพณีปอยส่างลองของอำเภอแม่สะเรียง เพื่อปลูกฝังและพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ขัดเกลาจิตใจของเด็ก โดยการศึกษาเรียนรู้และปฏิบัติธรรมอย่างถูกต้อง

นายวรศักดิ์ พานทอง นายอำเภอแม่สะเรียง กล่าวว่า ประเพณีปอยส่างลอง เป็นกิจกรรมที่เชื่อมความรักความสามัคคี สร้างความสัมพันธ์ให้กับผู้ทำกิจกรรมได้เรียนรู้ ปฏิบัติตนด้านพุทธศาสนา กิจกรรมนี้ได้ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนสืบทอดอายุของพระพุทธศาสนา และมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเด็กและเยาวชนให้เป็นคนดี คนเก่ง และมีความสุข ซึ่งได้แสดงถึงเอกลักษณ์ของอำเภอแม่สะเรียง ส่งเสริมให้ชุมชน หน่วยงาน องค์กร ทั้งภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ให้ความสำคัญในการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีปอยส่างลอง ให้คงอยู่สืบต่อไป

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน