ผู้เขียน: admin

ไฟป่าคลอกชาวบ้านกอมูเดอ หลัง วูบกะทันหัน ขณะเฝ้าระวังทำแนวบริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่เกษตร

วันที่ 5 เมษายน 2568 ได้รับการเปิดเผยข้อมูลจาก นายพงษ์พิพัฒน์ มีเบญจมาศ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่สามแลบ ว่า เมื่อเวลา 16.30 น. ของวานนี้ (4 เม.ย. 68) ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันไฟป่า ต.แม่สามแลบ ได้รับแจ้งจากผู้นำชุมชน ม. 9 บ้าน กอมูเดอ ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย ว่าเมื่อเวลา ประมาณ 15.30 น. เกิดเหตุชาวบ้านที่ไปลาดตระเวน เฝ้าระวังแนวกันไฟ ในพื้นที่บริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่เกษตร ได้ถูกไฟคลอก ทราบชื่อต่อมาคือ นายจ่อลา ดาวเรืองศรีอำพน บ้านเลขที่ 160 หมู่ที่ บ้านกอมูเดอ ตำบลแม่สามแลบ อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เหตุเกิด ระหว่างช่วงดูแลเฝ้าระวังไฟไม่ให้ลุกลามในป่า เนื่องจากอากาศร้อน และ เกิดอาการวูบกระทัน ทำให้ใบหน้า มือ แขน และเท้า บางส่วนถูกเปลวไฟเผาไหม้ ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงจึงเข้าไปช่วยกันออกมา แล้วได้แจ้งศูนย์ฯ ต.แม่สามแลบ ทางศูนย์ฯ จึงนำรถฉุกเฉิน อบต.แม่สามแลบ ขึ้นไปรับ และ ประสานทางโรงพยาบาลสบเมย เพื่อทำการส่งต่อรักษาตัว เบื้องต้น พ้นขีดอันตรายแล้ว ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บรู้สึกตัวดี สัญญาณชีพปกติ ทางแพทย์ให้นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลเพื่อฉีดยาฆ่าเชื้อและทำแผล

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

นายอำเภอสบเมย ส่งมอบตัวแทน รุดเยี่ยมให้กำลังใจชาวบ้านถูกไฟคลอกหลังร่วมลาดตระเวนดูแลแนวกันไฟ

วันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2568 เวลา 10.00 น. นายคำผัน โมกไธสง นายอำเภอสบเมย มอบหมายให้ นายธนวัฒน์ คงศิริ ปลัดอำเภอกลุ่มงานความมั่นคง เข้าเยี่ยมให้กำลังใจและมอบกระเช้าผลไม้ แก่ นายจ่อลา ดาวเรืองศรีอำพน ราษฎรบ้านกอมูเดอ หมู่ที่ 9 ตำบลแม่สามแลบ อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ผู้ประสบเหตุไฟไหม้ร่างกาย เนื่องจากการลาดตระเวนดูแลแนวกันไฟ ในขณะที่มีไฟลุกลามไม่ให้เข้าไปในเขตป่าและหมู่บ้าน โดยเหตุเกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2568 ที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างการรักษาที่โรงพยาบาลสบเมย

จากข้อมูลเบื้องต้นผู้ป่วยมีความลึกของบาดแผลไฟไหม้ ระดับที่สอง (Second degree burn) บริเวณแขนขาและใบหน้าบางส่วน การตอบสนองของร่างกายยังปกติ ในส่วนของการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบเหตุอยู่ระหว่างดำเนินการตามระเบียบของทางราชการ

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

ช่วงสงกรานต์ เที่ยวเล่นน้ำท้ายเขื่อนแม่กวงฯ ได้ คลองมีน้ำให้เล่น เป็นตามรอบเวรส่งน้ำ 11-17 เม.ย. “เฉลิมเกียรติ” ย้ำผู้มาค้าขายต้องไม่ลงไปตั้งแผงค้าริมน้ำ มีพื้นที่ให้จำหน่ายผู้ค้าต้องร่วมกันดูแลเรื่องขยะ ช่วยกันเก็บ คัดแยก ขยะเปียกนำกลับ ขยะแห้งเทศบาลจะช่วยอำนวยความสะดวกเก็บให้ ย้ำชัด “ไม่มีการเก็บเงินใดๆ ทั้งสิ้น” ด้านผู้ค้าพอใจพร้อมร่วมมือกันจัดการขยะ

วันที่ 5 เม.ย 68 นายเฉลิมเกียรติ อินกนก ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่กวงอุดมธารา (ผคบ.แม่กวงฯ) กล่าวถึงการบริหารจัดการพื้นที่ท้ายเขื่อนแม่กวงอุดมธาราในช่วงรอบเวรการส่งน้ำให้พื้นที่การเกษตรในช่วงฤดูแล้งว่า ในปีนี้โครงการฯ ให้ราษฎรในพื้นที่เป็นผู้บริหารจัดการด้วยตัวเอง มาเล่นน้ำได้ตามปกติเพื่อการนันทนาการ คลายร้อน และรักษาประเพณีอันดีงามในช่วงเทศบาล ส่วนผู้ค้าโครงการฯ ไม่สามารถให้ลงไปจำหน่ายสินค้าในพื้นที่ด้านล่างได้ เนื่องจากติดปัญหาบางประการเกี่ยวกับพื้นที่ รวมถึงเรื่องการรักษาความสะอาดและความปลอดภัย

“โครงการฯ ได้ประสานไปยัง สภ.สันทราย และ สภ.ดอยสะเก็ด รวมถึงเทศบาลตำบลหนองแหย่งและเทศบาลตำบลลวงเหนือ รวมทั้งอำเภอดอยสะเก็ด ให้เข้ามารักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนที่มาใช้พื้นที่ด้านท้ายเขื่อนแม่กวงอุดมธารา โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์” นายเฉลิมเกียรติฯ กล่าว

ผคบ.แม่กวงฯ กล่าวต่อว่า สำหรับรอบเวรการส่งน้ำเพื่อการเกษตรและการอุปโภคบริโภครอบนี้จะเป็นรอบที่ 6 ซึ่งจะส่งน้ำถึงวันที่ 4 เม.ย. 68 เช้าวันที่ 5 เม.ย. ในคลองก็จะไม่มีน้ำให้เล่นแล้ว ในรอบต่อไปจะเริ่มส่งในวันที่ 8 เม.ย. 68 ซึ่งจะเริ่มจากส่งน้ำให้กับคลองบางซอยก่อน มีปริมาณน้ำประมาณ 1.5 ลบ.ม.ต่อวินาที และจะเปิดจริงครบทุกคลองในวันที่ 11 เม.ย. 2568 โดยจะเริ่มเปิดประมาณ 08.00 น. แล้วจะไปปิดการส่งน้ำในวันที่ 17 เม.ย. 2568 โดยวันที่ 11-17 เม.ย. 2568 โครงการฯ ได้ขอความร่วมมือไปทาง สภ.สันทราย และ สภ.ดอยสะเก็ด รวมถึงฝ่ายปกครองอำเภอดอยสะเก็ดด้วย เพื่อให้สอดส่องดูแลในเรื่องความปลอดภัยของผู้มาใช้พื้นที่

นายเฉลิมเกียรติ อินทกนก ผคบ.แม่กวงฯ กล่าวอีกว่า รอบเวรส่งน้ำจะมีเพียงอีก 1 รอบเท่านั้น หลังจากรอบช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่สิ้นสุดวันที่ 17 เม.ย. จะส่งในช่วงวันที่ 24-30 เม.ย. 2568 จะสิ้นสุดการส่งน้ำสำหรับฤดูแล้ง 2568 อย่างไรก็ตามโครงการฯ จะให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการส่งน้ำและเกษตรกรกลุ่มผู้ใช้น้ำกลุ่มต่างๆ ลงสำรวจพื้นที่อีกครั้ง ว่า ยังมีความต้องการจะเพิ่มเติมปริมาณการใช้น้ำอีกหรือไม่ เพื่อป้องกันความเสียหายของพืชผลทางการเกษตร

ด้าน นายสุนทร ใสญาสน์ ม.10 ต.ลวงเหนือ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ หนึ่งในผู้ค้าที่เข้ามาจับจองพื้นที่ค้าขายของให้กับผู้ที่มาใช้มาเล่นน้ำท้ายเขื่อนแม่กวงฯ ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าว ว่า ผู้ค้าจะมี 2 ฝั่ง ในฝั่งพื้นที่ ต.ลวงเหนือ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ จะมีร้านค้าตั้งแผงชั่วคราวอยู่ 45 ร้านค้า อีกฝั่งเป็นพื้นที่ ต.หนองแหย่ง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ จะมีร้านค้าประมาณ 30 ร้าน ต่างคนคนละฝั่งต่างดูแลในพื้นที่ที่มาตั้งแผงขายของ เรื่องสำคัญคือ เรื่องขยะ ผู้ค้าทั้ง 2 ฝั่งต้องช่วยกันทำความสะอาด ทั้งความสะอาดบริเวณร้านของตัวเอง และบริเวณริมน้ำตลอดทั้งแนวที่ประชาชนมาใช้พื้นที่เล่นน้ำ

จากการสำรวจแผงค้าและบริเวณที่ประชาชนมาพื้นที่เล่นน้ำและนั่งกินอาหารพักผ่อน พบว่าเป็นระเบียบเรียบร้อย ขยะได้รับการจัดการอย่างเป็นระบบ โดยผู้ค้าที่เข้ามาขายสินค้าช่วยกันจัดการ มีเพียงบางส่วนในพื้นที่ ต.หนองแหย่ง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ยังมีการเรียกเก็บค่าจัดการขยะ นายเฉลิมเกียรติ อินทกนก ผคบ.แม่กวงฯ ถึงขั้นต้องเดินบอกทีละร้านที่เข้ามาขายสินค้า ว่าไม่มีการเรียกเก็บเงินใดๆ ทั้งสิ้น รวมถึงค่าจัดการขยะด้วย แต่ขอให้ทุกร้านได้ช่วยกันเก็บ ทั้งบริเวณร้านของตัวเองและบริเวณที่ประชาชนนักท่องเที่ยวมานั่งดื่มกิน มาเล่นน้ำ โดยให้ช่วยกันทั้งสองฝั่งลำคลอง และให้มีการคัดแยกขยะ ขยะเปียกให้นำกลับไปด้วย ส่วนขยะแห้งทางเทศบาลทั้ง 2 แห่งจะอำนวยความสะดวกจัดเจ้าหน้าที่มาเก็บให้ โดยให้รวบรวมใสถุงดำไปรวมไว้บริเวณที่ได้กำหนดไว้แล้ว พร้อมกันนี้ยังได้ย้ำชัดว่า ไม่มีการเรียกเก็บเงินใดๆ ทั้งสิ้น

5 แยกวัดใจ ชาวแม่สะเรียง วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไข อุบัติเหตุบ่อยครั้ง ล่าสุดคร่าชีวิตแล้ว 2 ราย

วันที่ 5 เมษายน 2568 อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบริเวณแยกพิพิธภัณฑ์แม่สะเรียง ซึ่งเกิดขึ้น ราวๆ 09.30 น. ของวันที่ 4 เมษายน 2568 เผยให้เห็นภาพอุบัติเหตุกระบะ ชนท้ายมอไซค์ แล้วล้อรถด้านหน้าขวาเหยียบทับจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ประชาชนชาวอำเภอแม่สะเรียง และ ผู้ใช้เส้นทางต่างออกมาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรมีการแก้ไขจุดแยกดังกล่าว เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ทั้งความสับสนในแยกเข้า แยกออก ผู้ใช้รถใช้ถนนต่างคนต่างจะใช้เส้นทางไม่ระมัดระวัง ชาวบ้านวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าปรับปรุงแก้ไขเพื่อเป็นการลดอุบัติเหตุลดการสูญเสียชีวิตที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งจุดดังกล่าวถูกขนานนามว่า แยกวัดใจ ที่ประกอบไปด้วยการเชื่อมต่อถนนทางหลวง 108 แม่สะเรียง – เชียงใหม่ และ เส้นทางถนนหลวง 105 แม่สะเรียง – แม่สอด และ เส้นทางเข้าสู่เมืองแม่สะเรียง เป็นทางแยกเชื่อมต่อกันถึง 5 แยก

นายพดลชัย ลาศนาวิน ผู้ประกอบการร้านขายเสื้อผ้าที่อยู่บริเวณริมทาง ตรงแยกดังกล่าว ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า เป็นแยกที่อันตรายมาก อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการแก้ไข เพราะจุดดังกล่าวเป็นจุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งแทบทุกอาทิตย์ แต่มีเคสวันนี้ที่รุนแรง ถึงขั้นเสียชีวิต อยากให้ติดไฟแดง คิดว่า ก็จะสามารถชะลอรถที่วิ่งพุ่งมาจากแยกต่างๆ ได้ ก็อาจจะช่วยให้อุบัติเหตุน้อยลง

ด้าน นายวรศักดิ์ พานทอง นายอำเภอแม่สะเรียง พร้อม นายภาสกร จินดารัตน์ หัวหน้าหมวดทางหลวงแม่สะเรียง นายเอกราช ดงสงเคราะห์ รองนายกเทศมนตรีตำบลเมืองยวมใต้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สะเรียง นายธนู ลาวิชัย ผู้ใหญ่บ้านจอมแจ้ง ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อหารือแนวทางร่วมกันในการแก้ไขปัญหาจุดดังกล่าว ซึ่งแต่ละหน่วยงานก็จะได้รวบรวมปัญหา เหตุและปัจจัย ต่างๆเสนอไปยังต้นสังกัดหน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อปรับปรุงแก้ไขจุดที่อันตรายให้มีความปลอดภัยมากขึ้นสำหรับผู้ใช้รถใช้ถนน

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

พช.จังหวัดเชียงราย จัดพิธีทอดผ้าป่าสมทบกองทุนพัฒนาเด็กชนบท ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2568

วันที่ 4 เมษายน 2568 ที่วัดเจ็ดยอด พระอารามหลวง ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย นายรุจติศักดิ์ รังษี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีทอดผ้าป่าสมทบกองทุนพัฒนาเด็กชนบท ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2568 โดยมี พระราชวชิรคณี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุผาเงา เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นางอำไพ บัวระดก พัฒนาการจังหวัดเชียงราย หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการทหาร ตำรวจ นายอำเภอ คณะกรรมการกองทุนพัฒนาเด็กชนบท ในพระราชูปถัมภ์ฯ ผู้มีจิตศรัทธา และประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วมพิธี

ตามที่ กระทรวงมหาดไทย มอบหมายให้กรมการพัฒนาชุมชน ดำเนินการทอดผ้าป่าสมทบกองทุนพัฒนาเด็กชนบท ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพื่อนำเงินบริจาคดังกล่าว สมทบเข้ากองทุนพัฒนาเด็กชนบท สำหรับนำไปใช้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือสนับสนุนและพัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน อายุตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 ปี ที่ครอบครัวยากจนและด้อยโอกาสให้ได้รับการอบรมเลี้ยงดูอย่างถูกต้อง เหมาะสมตามวัย

จากการดำเนินงานกองทุนพัฒนาเด็กชนบทจังหวัดเชียงราย ณ ปัจจุบันมีเงินทั้งสิ้น 4,214,638.55 บาท (สีล้านสองแสนหนึ่งหมื่นสีพันหกร้อยสามสิบแปดบาทห้าสิบห้าสตางค์) ในปี 2568 ได้มอบทุนเด็ก จำนวน 455 รายๆ ละ 1,500 บาท เป็นเงิน 682,500 บาท

สำหรับ วันนี้ 4 เมษายน 68 สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดลำพูน ได้ดำเนินการเชิญชวน ผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญทอดผ้าป่าสมทบกองทุนพัฒนาเด็กชนบท ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มียอดเงินที่ผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญทั้งสิ้น เป็นเงิน 427,706 บาท (สี่แสนสองหมื่นเจ็ดพันเจ็ดร้อยหกบาท) โดยจะนำไปสมทบกองทุนพัฒนาเด็กเล็กทั้ง 18 อำเภอ ต่อไป

โอกาสนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้กล่าวเชิญชวนทุกภาคส่วน คณะจิตศรัทธา พ่อค้าประชาชน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้ร่วมทำบุญสมทบกองทุนพัฒนาเด็กชนบทในครั้งนี้ อีกด้วย

วัดสุพรรณรังษี สืบสานงานประเพณีปอยส่างลอง ถวายเป็นพระราชกุศล สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ

วันที่ 4 เมษายน 2568 ณ วัดสุพรรณรังษี (จองคำ) พระครูอนุโชติสุวรรณวิศาล เจ้าคณะอำเภอแม่สะเรียง / เจ้าอาวาสวัดสุพรรณรังษี ได้ทำพิธีปลงผมส่างลอง ในงานสืบฮีตสานฮอย ประเพณีปอยส่างลอง โดย คณะศรัทธาวัดสุพรรณรังสี(จองคำ) ร่วมกับ ผู้ปกครอง เทศบาลตำบลแม่สะเรียง อบจ.แม่ฮ่องสอน และ วัฒนธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมสืบสานประเพณี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เฉลิมพระเกียรติทรงเจริญพระชนมายุ ครบ 70 พรรษา สำหรับโครงการสืบสานงานประเพณีปอยส่างลอง หรือ บรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน มีกำหนด 3 วัน ระหว่าง 4-6 เมษายน 2568 ซึ่งมีประชาชนในพื้นที่อำเภอแม่สะเรียงและอำเภอใกล้เคียง ให้ความสนใจนำบุตรหลาน เข้าร่วมโครงการฯ 62 คน

โดย วันที่ 4 เมษายน เป็นวันปลงผมส่างลอง วันที่ 5 เมษายน จะทำการแห่ส่างลองไปศาลเจ้าเมืองและเสาหลักเมืองแม่สะเรียงเพื่อขอขมาแล้วแห่ส่างลองไปตามถนนในเขตเทศบาลตำบลแม่สะเรียง และ พิธีเรียกขวัญส่างลอง พร้อมแห่เครื่องไทยทาน(แห่โคหลู่โคตาน)ไปตามถนนในเขตเทศบาล ส่วนวันที่ 6 จะเป็น พิธีอุปสมบทจางลอง การบรรพชาสามเณร

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

อำเภอแม่สะเรียง แจ้งจับมือ“เผาขยะ“หนุ่มสูงอายุ วัย 64 ไม่สนควันไฟ เพื่อนบ้านเตือนไม่ฟัง แจ้งจับดำเนินคดีทันที

วันที่ 4 เมษายน 2568 อำเภอแม่สะเรียง ได้รับแจ้งจาก สารวัตรกำนันตำบลบ้านกาศ ว่ามีราษฎรในพื้นที่ “เผาขยะภายบริเวณบ้านของตนเอง” ไม่สนใจคำแจ้งเตือนประกาศห้ามเผาของทางราชการ จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ จับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย เหตุเกิดเมื่อ 3 เมษายน 2568 เวลาประมาณ 19.00 น. หนุ่มวัยสูงอายุ อายุ 64 ปี ม.12 ต.บ้านกาศ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ได้เผาขยะและเศษใบไม้ ที่บริเวณบ้านตนเอง แล้วเกิดควันไฟ รบกวนเพื่อนบ้านและชาวบ้านในหมู่บ้าน ฝุ่นคลุ้งกระจาย ในหมู่บ้านถนนสาธารณะ สร้างความเดือดร้อนรำคาญและเป็นเหตุให้เกิดควันหรือสิ่งอื่นใดในลักษณะที่อาจทำให้ไม่ปลอดภัยแก่การจราจรในทางเดินรถ อีกทั้งไม่สนใจคำประกาศแจ้งเตือนของผู้นำบ้าน จึงได้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดี และพร้อมนี้ได้มอบภาพประกอบคดีให้กับพนักงานสอบสวน

โดยที่เกิดเหตุ สวนหลังบ้านและข้างทางสาธารณะ สายศรีดอนชัย-สบหาร หมู่ 8 บ้านศรีดอนชัย ต.แม่สะเรียง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ร.ต.อ.วชิรินทร์ สุรินทร์ รอง สว.(สอบสวน) พนักงานสอบสวนเวร สภ.แม่สะเรียง ได้รับแจ้งความร้องทุกข์กล่าวหาโทษไว้สอบสวนดำเนินคดีแล้ว สายตรวจตำบลบ้านกาศ ได้แจ้งให้ ผู้กระทำความผิด มาพบพนักงานสอบสวน และ ให้การรับว่าได้เผาดังกล่าวจริง ตามข้อกล่าวหา ฐาน“เผาหรือกระทำการใดๆ ภายในระยะทางห้าร้อยเมตรจากทางเดินรถ เป็นเหตุให้เกิดควันหรือสิ่งอื่นใดในลักษณะที่อาจทำให้ไม่ปลอดภัยแก่การจราจรในทางเดินรถนั้น” อันเป็นความผิดตาม พรบ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 130 และเป็นการปรับเป็นพินัย และความผิดตาม พรบ.จราจรฯ เป็นความผิดที่รัฐเป็นผู้เสียหาย โดยมีพนักงานสอบสวนเป็นผู้กล่าวหา จึงได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับ

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

วันผู้สูงอายุแห่งชาติและวันแห่งครอบครัวจังหวัดแม่ฮ่องสอน “คุณค่าผู้สูงวัย สานสายใยพลังครอบครัว”

วันที่ 4 มีนาคม 2568 เวลา 11.30 น. ที่ ห้องประชุมสวนหมอกคำ รีสอร์ท อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน นายเอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน มอบหมายให้ นายบุญลือ ธรรมธรานุรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการวันผู้สูงอายุแห่งชาติและวันแห่งครอบครัวจังหวัดแม่ฮ่องสอน ประจำปี 2568 ภายใต้แนวคิด “คุณค่าผู้สูงวัย สานสายใยพลังครอบครัว” และ โครงการรวมพลคนพิการสานสายใยพลังครอบครัวเพื่ออนาคตที่ครอบคลุมและยั่งยืนจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ คณะทำงานสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน วิทยากร ผู้สูงอายุ คนพิการ ผู้ดูแลคนพิการ ครอบครัว ร่วมกิจกรรม โดยการจัดกิจกรรมในครั้งนี้มีการบูรณาการระหว่างสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน สภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย และสมาคมชมรมผู้สูงอายุจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยภายในกิจกรรมประกอบด้วย 1. กิจกรรมเชิดชูเกียรติผู้สูงอายุและครอบครัว 2.กิจกรรมการให้ความรู้การส่งเสริมบทบาทการมีส่วนร่วมพัฒนาผู้สูงอายุและสถาบันครอบครัว 3.กิจกรรมสมัชชาครอบครัว

ทั้งนี้ การดำเนินโครงการวันผู้สูงอายุแห่งขาติและวันแห่งครอบครัวจังหวัดแม่ฮ่องสอน ปี 2568 ภายใต้แนวคิด “คุณค่าผู้สูงวัย สานสายใยพลังครอบครัว” และโครงการรวมพลคนพิการสานสายใยพลังครอบครัวเพื่ออนาคตที่ครอบคลุมและยั่งยืนจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดการทำกิจกรรมร่วมกันระหว่างผู้สูงอายุ คนพิการ เด็กและเยาวชนและสมาชิกในครอบครัว ให้เกิดความสัมพันธภาพที่ดี และเพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้หน่วยงานทุกภาคส่วนตระหนักถึงคุณค่าและเห็นความสำคัญของผู้สูงอายุและสถาบันครอบครัว

Cr. ฉลอง หมั่นสกุล จ.แม่ฮ่องสอน

รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน นำหัวหน้าส่วนราชการและเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ลงพื้นที่ออกตรวจเฝ้าระวัง ตรวจเตือน ควบคุม กวดขันการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2568 ในพื้นที่อำเภอปาย

วันที่ 4 เมษายน 2568 นายเอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน มอบหมายให้ นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน นำหัวหน้าส่วนราชการและเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ ลงพื้นที่ออกตรวจเฝ้าระวัง ตรวจเตือน และบังคับใช้กฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2568 เพื่อควบคุม กวดขันการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2568 ในพื้นที่อำเภอปาย ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์

โดย รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน และคณะ ได้เดินทางไปตรวจดูร้านค้าตามแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ที่มีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บริเวณซุ้มน้ำหลายแห่ง โดยเน้นการควบคุม ดูแลการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลาตามที่กฎหมายกำหนด ไม่จำหน่ายให้กับกลุ่มเด็กและเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี และจะดำเนินคดี ขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และผู้ที่สนับสนุนให้เด็กหรือเยาวชน ดื่มและขับจนเกิดอุบัติ

สำหรับกิจกรรมดังกล่าวฯ จังหวัดแม่ฮ่องสอน มุ่งหวังให้ทุกภาคส่วนในการจัดทำมาตรการเพื่อสืบสานคุณค่าอันดีงามของประเพณีสงกรานต์ให้เด็ก เยาวชนและประชาชนทั่วไป ได้รับทราบแนวทางที่ถูกต้อง เหมาะสม และสามารถนำไปปฏิบัติ โดยให้ทุกหน่วยงานมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง

Cr. ฉลอง หมั่นสกุล จ.แม่ฮ่องสอน

เจ้าคณะจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พิธีบรรพชาสามเณรและถวายเครื่องไทยทาน เนื่องในงานประเพณีปอยส่างลอง ประจำปี 2568 วัดหัวเวียง

วันที่ 4 เมษายน 2568 ณ วัดหัวเวียง ตำบลจองคำ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน พระสุมณฑ์ศาสนกิตติ์ ดร. เจ้าคณะจังหวัดแม่ฮ่องสอน เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยกองมู เป็นประธานฝ่ายสงฆ์พิธีบรรพชาสามเณรและถวายเครื่องไทยทาน เนื่องในงานประเพณีปอยส่างลอง ประจำปี 2568 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ นายกเทศมนตรีเมืองแม่ฮ่องสอน และคณะเจ้าภาพส่างลอง ร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก โดยมีส่างลองเข้าร่วมพิธีบรรพชาในครั้งนี้จำนวน 14 รูป

ประเพณีปอยส่างลอง ประจำปี 2568 เทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน ร่วมกับชุมชนกลางเวียง และวัดหัวเวียงสืบสานงานประเพณีปอยส่างลอง (บวชลูกแก้ว)ประจำปี 2568
งานประเพณีปอยส่างลอง ( บวชลูกแก้ว ) คือการบรรพชาหรือการบวชเณรของชาวไทใหญ่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่สืบทอดมายาวนาน

คำว่า “ปอยส่างลอง” เป็นภาษาไทใหญ่ “ปอย” แปลว่า งาน เช่นงานปอยเหลินสิบเอ็ด ปอยจ่าตี่ “ส่าง” เพี้ยนมาจาก สางหรือขุนสาง หมายถึง พระพรหม หรืออีกความหมายหนึ่งมาจากคำว่าเจ้าส่าง ซึ่งหมายถึงสามเณร ส่วนคำว่า “ลอง” มาจาก “อลอง” หมายถึง พระโพธิสัตว์ หรือหน่อพุทธางกูร (หน่อเนื้อเชื้อไขพระพุทธเจ้า) หรือราชบุตร

ตามความเชื่อดั้งเดิมของการจัดงานปอยส่างลองนั้น จะต้องมีพิธีต่าง ๆ เพื่อเตรียมตัวก่อนบวชอยู่ 3-4 วันด้วยกัน ได้แก่
วันแรก เรียกว่า วันรับส่างลอง ในตอนเช้าเจ้าภาพส่างลองจะนำบรรดาเด็กชายไปวัด เพื่อแต่ชุดส่างลอง
วันที่ 2 เรียกว่า วันข่ามแขก คือ วันรับแขกนั่นเอง จะเป็นวันที่ญาติพี่น้องจากหมู่บ้านอื่นมาร่วมงานอย่างพร้อมเพรียงกัน
วันที่ 3 เรียกว่า วันแห่ครัวหลู่ เป็นวันแห่งเครื่องไทยทาน มีการแห่ส่างลองกับเครื่องไทยทานจากวัดไปตามถนนสายต่าง ๆ ขบวนแห่ประกอบด้วยจีเจ่ (กังสดาล) ม้าเจ้าเมืองต้นตะเป่ส่าพระพุทธ ต้นตะเป่ส่าพระสงฆ์ ปุ๊กข้าวแตก เทียนเงินเทียนทอง พุ่มเงินพุ่มทอง อู่ต่องปานต่อง หม้อน้ำต่า อัฐบริขาร ดนตรีประโคมและขบวนแห่ส่างลอง โดยให้ส่างลองขี่คอพี่เลี้ยงเรียกว่า “ตะแปส่างลอง” มีกลดทอง หรือ ” ทีคำ” แบบพม่าไว้บังแดด ช่วงเย็นวันเดียวกัน มีพิธีเรียกขวัญส่างลอง หรือพิธีทำขวัญนาค
วันที่ 4 เรียกว่า วันข่ามส่าง หรือวันหลู่ วันบรรพชาส่างลอง นำส่างลองไปบรรพชาเป็นสามเณรในวันข่ามส่าง ผู้คนจะมาชุมนุมกันที่วัดกันตั้งแต่เช้า จนได้เวลาพอสมควรก็จะมีการ ถ่อมลีก คืออ่านหนังสือธรรมะให้ทุกคนฟังอันเป็นการกล่อมเกลาจิตใจให้ตั้งมั่นอยู่ในความดีซึ่งถือเป็นประเพณีสืบทอดกันมานาน เมื่อได้เวลาฉันเพลก็จะมีการถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ที่นิมนต์มาร่วมพิธีบรรพชาสามเณรก่อนแล้วจึงเลี้ยงอาหารผู้มาร่วมงานพิธีเป็นอันเสร็จสิ้นพิธี

Cr. ฉลอง หมั่นสกุล จ.แม่ฮ่องสอน