งานวิจัยชี้การส่งเสริมโปรตีนที่หลากหลายทางเลือกใหม่สำหรับประเทศไทย ในการลดมลพิษ PM2.5 และหลีกเลี่ยงการเสียชีวิตได้กว่า 100,000 ราย

งานวิจัยชี้การส่งเสริมโปรตีนที่หลากหลายทางเลือกใหม่สำหรับประเทศไทย ในการลดมลพิษ PM2.5 และหลีกเลี่ยงการเสียชีวิตได้กว่า 100,000 ราย

งานวิจัยล่าสุดจาก Madre Brava เรื่อง “อุตสาหกรรมปศุสัตว์กับ PM2.5: ตัดไฟแต่ต้นลมด้วยการผลิตโปรตีนที่หลากหลาย” ที่จัดทำร่วมกับ Asia Research and Engagement พบว่า การเผาเพื่อการเกษตรอาจเป็นสาเหตุให้เกิดการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรในประเทศไทยมากกว่า 34,000 รายต่อปี และหากอุตสาหกรรมนี้เติบโตตามที่คาดการณ์ไว้ จำนวนผู้เสียชีวิตก่อนวัยอันควรที่เกี่ยวข้องกับการเผาตอซังข้าวโพดเพียงเลี้ยงสัตว์อย่างเดียวอาจสูงถึง 361,000 ราย ในช่วงระหว่างปี 2020 ถึง 2050 แต่หากไทยเริ่มสร้างความหลากหลายของแหล่งโปรตีนจะสามารถลดอัตราการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรจากการเผาตอซังข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้มากกว่า 100,000 รายภายในปี 2050

วิชญะภัทร์ ภิรมย์ศานต์ ผู้อำนวยการ Madre Brava ระบุว่า รายงานฉบับนี้เผยให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างการผลิตเนื้อสัตว์และอาหารทะเลกับปัญหามลพิษฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ซึ่งมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสุขภาพของประชาชนไทย โดยแหล่งกำเนิดหนึ่งของฝุ่นละอองขนาดเล็กนี้มาจากกระบวนการผลิตอาหารสัตว์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมปศุสัตว์ที่มีความต้องการสูงในตลาดทั้งในและต่างประเทศ

“รายงานฉบับนี้เน้นการศึกษาถึงผลกระทบที่รุนแรงของการเกษตรปศุสัตว์ โดยเฉพาะการเผาตอซังข้าวโพดที่ปลูกเพื่อผลิตอาหารสัตว์ ซึ่งส่งผลต่อการเพิ่มระดับมลพิษทางอากาศในประเทศ โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้งที่มีการเผาข้าวโพดจำนวนมากเพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการเพาะปลูกใหม่”

“ผลกระทบจากการเผาตอซังข้าวโพดที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตก่อนวัยอันควรถึงปีละ 12,000 ราย ระหว่าง 2020-2050 ซึ่งเกือบเทียบเท่ากับจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจักรยานยนต์ในประเทศไทยในปี 2021 โดยเสนอให้ประเทศไทยเริ่มสร้างความหลากหลายของแหล่งโปรตีน โดยให้โปรตีนจากพืชทดแทนโปรตีนจากสัตว์ให้ได้ 50% ภายในปี 2050 ซึ่งหากทำได้ จะช่วยลดการผลิตเนื้อสัตว์และอาหารทะเลลง และลดความต้องการข้าวโพดในการผลิตอาหารสัตว์ ส่งผลให้สามารถลดอัตราการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรจากการเผาตอซังได้มากกว่า 100,000 ราย”

ลดการผลิตเนื้อสัตว์ช่วยลด PM2.5 ได้อย่างไร
ผู้อำนวยการ Madre Brava ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า รายงานฉบับนี้พบว่า การเผาตอซังพืชในช่วงฤดูแล้ง (ธันวาคมถึงเมษายน) เป็นสาเหตุหนึ่งของฝุ่น PM2.5 เนื่องจากความชื้นต่ำทำให้ฝุ่นสะสมในอากาศ ปรากฏการณ์อุณหภูมิผกผันและภูมิประเทศที่เป็นหุบเขาทำให้การไหลเวียนของอากาศไม่ดี ส่งผลให้ PM2.5 ไม่สามารถกระจายตัวได้ การบุกรุกพื้นที่ป่าและการขาดการจัดการที่เหมาะสมทำให้ไฟจากการเผาตอซังอาจลุกลามสู่พื้นที่ป่าได้ และยังมีผลกระทบจากการเผาตอซังข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศเพื่อนบ้านที่ทำให้ PM2.5 ลอยข้ามพรมแดนเข้าสู่ประเทศไทยด้วย

“แม้จะมีความพยายามในการจำกัดการเผาตอซังพืชเพื่อลดมลพิษ PM2.5 แต่ปัญหายังคงมีอยู่และไม่สามารถแก้ไขได้อย่างยั่งยืน รายงานนี้เสนอแนวทางในการแก้ปัญหาด้วยการลดความต้องการอาหารสัตว์และเพิ่มการใช้โปรตีนจากพืช ซึ่งสามารถช่วยลดผู้เสียชีวิตจากมลพิษ PM2.5 ได้มากกว่า 100,000 รายภายในปี 2050 หากสามารถเพิ่มการผลิตโปรตีนจากพืชมาทดแทนโปรตีนจากสัตว์ 50% ทั้งการบริโภคในประเทศและส่งออก นอกจากนี้ ยังสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ 1.3 ล้านล้านบาท สร้างงาน 1.15 ล้านตำแหน่ง และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 35.5 ล้านเมตริกตันต่อปี”


Madre Brava เสนอแนวทางยั่งยืนเพิ่มโปรตีนจากพืช ลดฝุ่น PM2.5 และส่งเสริมสุขภาพ
จากข้อสรุปในงานวิจัยฉบับนี้ ทาง Madre Brava ได้เสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหามลพิษ PM2.5 และส่งเสริมความยั่งยืนทางอาหาร โดยแนะนำให้ภาครัฐส่งเสริมการบริโภคอาหารที่ดีต่อสุขภาพและยั่งยืนมากขึ้น เช่น การให้มาตรการจูงใจทางการเงินเพื่อทำให้ผลิตภัณฑ์โปรตีนจากพืชมีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น รวมถึงการนำเมนูอาหารเน้นพืชมาใช้ในงานและการประชุมของภาครัฐ รวมถึงโรงเรียนและโรงพยาบาล เพื่อแบบอย่างให้ประชาชนหันมาบริโภคโปรตีนจากพืชมากขึ้น

“รายงานยังเสนอให้ภาคธุรกิจผู้ค้าปลีกและธุรกิจบริการอาหารกำหนดเป้าหมายเพิ่มยอดขายของโปรตีนจากพืช โดยลดราคาผลิตภัณฑ์เหล่านี้ให้สามารถแข่งขันกับโปรตีนจากสัตว์ พร้อมทั้งจัดวางผลิตภัณฑ์โปรตีนจากพืชให้เด่นชัด และให้ข้อมูลเกี่ยวกับคุณค่าทางโภชนาการและประโยชน์ต่อสุขภาพ นอกจากนี้ยังแนะนำให้ผู้ผลิตเนื้อสัตว์และอาหารทะเลลงทุนในการวิจัยและพัฒนาโปรตีนทางเลือกที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและราคาเข้าถึงได้ง่าย เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนและลดการปล่อยมลพิษจากอุตสาหกรรมปศุสัตว์ในระยะยาว”

“การสร้างความหลากหลายของแหล่งโปรตีนในประเทศไทยไม่เพียงแต่จะช่วยลดมลพิษ PM2.5 แต่ยังเป็นโอกาสในการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน เพิ่มงาน สร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาวด้วย” วิชญะภัทร์กล่าวทิ้งท้าย

ลดพื้นที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์อีกหนึ่งทางออกสู่การลดฝุ่น PM2.5
การเผาตอซังข้าวโพดจากการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ยังคงเป็นปัญหาสำคัญในประเทศไทย แม้จะมีการห้ามเผาในกฎหมาย แต่การบังคับใช้กฎหมายไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการเผาตอซังพืชยังคงเกิดขึ้นอย่างแพร่หลาย ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของฝุ่น PM2.5 ในภาคเหนือ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เชียงใหม่ ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนัก และบางช่วงมีระดับมิลพิษจากฝุ่นละอองขนาดเล็กสูงติดอันดับโลก การพยายามจับกุมผู้กระทำผิดตามแนวทาง Zero Burning ยังไม่สามารถยุติปัญหานี้ได้ และในบางครั้งทำให้เกิดการลักลอบเผามากขึ้น

สุรีรัตน์ ตรีมรรคา รองประธานสภาลมหายใจเชียงใหม่ ซึ่งเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนเรื่องการแก้ปัญหาไฟป่าและฝุ่น PM2.5 ในภาคเหนือ ระบุว่า การลดการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นแนวทางที่ถูกต้องและยั่งยืน แต่ต้องมีการวางแผนและการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน ชี้การปลูกข้าวโพดในพื้นที่ป่าหรืออุทยานฯ เป็นปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไข โดยต้องมีการจัดการสิทธิที่ดินและการสนับสนุนจากภาครัฐ เพื่อให้เกษตรกรสามารถปรับเปลี่ยนวิธีการผลิตได้อย่างยั่งยืน

“ข้อเรียกร้องของเราคือให้อำนาจกับท้องถิ่นในการจัดการและลดไฟลักลอบเผา และให้ความสำคัญในการทำงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนในการควบคุมการเผาไฟ และการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายเพื่อแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างมีประสิทธิภาพ”

เชียงราย ขนไอซ์ 9 เป้ปะทะกับทหาร ใกล้ตลาดสายลมจอย

เชียงราย ขนไอซ์ 9 เป้ปะทะกับทหาร ใกล้ตลาดสายลมจอย

เวลา 09.00 น วันที่ 19 มีนาคม 2568 กำลังทหาร หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก กองกำลังผาเมืองโดยการอำนวยการของ ทาง พล.ต.กิดากร จันทรา ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง มอบหมายให้ พ.อ.อนุวัช ปัญญานันท์ ผบ.ฉก.ทัพเจ้าตาก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบ การปะทะกันระหว่าง เจ้าหน้าที่กับผู้ลำเลียงยาเสพติด

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 02.00 น.ลเจ้าหน้าที่ทหาร ร้อย ม.3 ฉก.ทัพเจ้าตาก กองกำลังผาเมือง นำกำลังออกลาดตระเวนตรวจตราตามแนวชายแดนไทย-เมียนม ติดแม่น้ำสายซึ่งเป็นชุมชนหนาแน่นใกล้ตลาดสายลมจอย ติดจุดผ่านแดนถาวรสะพานข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 1 ต่อมาเมื่อไปถึงบริเวณท่าข้ามดอยเวา 3 หรือท่าว้า ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย ได้ตรวจพบกลุ่มคนต้องสงสัยจำนวนกว่า 10-12 คน อยู่บริเวณแนวชายแดนและสะพานเป้พากันเดินเท้าข้ามแม่น้ำสายที่ตื้นเขินในข่วงนี้จากฝั่งบ้านปงถุง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา เข้ามายังฝั่งไทย

เจ้าหน้าที่จึงได้ให้สัญญานเพื่อจะเข้าไปตรวจสอบแต่ปรากฎว่ากลุ่มคนดังกล่าวกลับพากันแตกตื่นและใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงใส่เจ้าหน้าที่ ทำให้เกิดการยิงปะทะกันขึ้นนานประมาณ 10 นาที เมื่อสิ้นเสียงปืนพบว่าเจ้าหน้าที่ทุกนายปลอดภัยส่วนฝ่ายตรงกันข้ามได้พากันลุยน้ำข้ามฟากไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้านแล้วหลบหนีไปได้ จากการตรวจสอบจุดปะทะเจ้าหน้าที่พบกระสอบฟางดัดแปลงเป็นเป้ตกกระจัดกระจายอยู่ตามริมฝั่งที่มีอาคารคอนกรีตตั้งอยู่หนาแน่นจำนวน 9 ใบ ภายในบรรจุยาเสพติดประเภทไอซ์ใบละประมาณ 35 กิโลกรัมกว่า รวมของกลางไอซ์ทั้งหมดประมาณ 323 กิโลกรัม

โดยหลังจากทำการตรวจสอบแล้วเจ้าหน้าที่ได้ทำการ ตรวจยึดไว้ขยายผลตามกฎหมาย จากนั้นผู้บัญชาการกองกำลังผาเมืองจึงสั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่ได้เพิ่มความเข้มงวดในการสกัดกั้นแลปราบปรามยาเสพติดอย่างต่อเนื่องต่อไป ทั้งนี้จุดปะทะดังกล่าวอยู่ใกล้กับอาคารที่เจ้าหน้่าที่เคยตรวจยึดรถจักรยานยนต์หลายคันที่เตรียมจะลักลอบขนข้ามแม่น้ำสายเมื่อหลายวันก่อนด้วย

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

เชียงราย พายุฤดูร้อนพัด รพ.แม่ลาว เสียหาย งดรับผู้ป่วย เลื่อนตรวจ ป้ายล้มทับคนเจ็บ

เชียงราย พายุฤดูร้อนพัด รพ.แม่ลาว เสียหาย งดรับผู้ป่วย เลื่อนตรวจ ป้ายล้มทับคนเจ็บ

หลังจากที่เกิดพายุฤดูร้อนเมื่อช่วง เย็นวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา ทำให้เกิดฝนตกหนักและพายุลูกเห็บถล่มพื้นที่ อ.แม่ลาว จ.เชียงราย จนอาคารสถานที่หลายแห่งได้รับความเสียหาย ทำให้โรงพยาบาลแม่ลาวซึ่งเป็นโรงพยาบาลประจำอำเภอได้มีประกาศฉบับที่ 1 เรื่องความเสียหายจากพายุฤดูร้อนในช่วงเวลา 18.20 น.วันที่ 18 มี.ค.โดยมีเนื้อหาว่าพายุได้ทำให้เกิดความเสียหายหลายจุดในโรงพยาบาล ทั้งจุดบริการผู้ป่วยและที่พักของเจ้าหน้าที่ จากการสำรวจความเสียหายเบื้องต้นพบว่าห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ (ห้องแล็ป) ไม่สามารถให้บริการได้เพราะโครงสร้างหลังคาเสียหายอย่างรุนแรงและมีน้ำรั่วซึม ส่วนหอผู้ป่วยในไม่สามรถรองรับผู้ป่วยเพิ่มเติมได้

ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยและความต่อเนื่องในการรักษาจึงให้ผู้ป่วยที่มีอาการดีขึ้นกลับบ้านได้ก่อนกำหนด ประสานโรงพยาบาลเครือข่ายใกล้เคียงเพื่อรับผู้ป่วยไปดูแลได้แก่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์กรณีผู้ป่วยที่มีภาวะเร่งด่วน โรงพยาบาลโรงพยาบาลสมเด็จพระญาณสังวรกรณีผู้ป่วยที่ต้องนอนรักษาตัวและมีอาการคงที่ และโรงพยาบาลพานกรณีรับบริการตรวจเลือดเร่งด่วน จะมีการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีมูลค่าสูงและเสี่ยงต่อความเส่ยหายจากน้ำฝนและไฟฟ้าลัดวงจรออกจากห้องแล็ปไปไว้ในที่ปลอดภัย งประสานเทศบาล ต.ป่าก่อดำ จัดการกับสิ่งกีดขวางและกระทบกับการเดินทางเข้าออกโรงพยาบาล นอกจากนี้ได้เลื่อนนัดผู้ป่วยที่มีกำหนดตรวจเลือดตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค.เป็นต้นไปจนกว่าจะกลับสู่ภาวะปกติ

ปัจจุบันมีการตั้งศูนย์รายงานการบาดเจ็บจากเหตุพายุฤดูร้อนขอ อ.แม่ลาว ที่ ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลแม่ลาว เพื่อรับแจ้งและดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวด้วยแล้ว จากนั้นจะร่วมกันตรวจสอบความเสียหายภายในโรงพยาบาลอย่างละเอียดตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค.เป็นต้นไปเมื่อมีแสงสว่างเพียงพอ ขณะที่เจ้าหน้าที่ที่ได้รับผลกระทบด้านที่อยู่อาศัยจะได้รับการจัดหาที่พักชั่วคราวในพื้นที่ที่ปลอดภัย

ด้านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จ.เชียงราย รายงานพายุครั้งนีเกิดขึ้นในเขต ต.จอมหมอกแก้ว ต.ป่าก่อดำ ต.บัสลี ต.ดงมะดะ อ.แม่ลาว ทำให้นอกจากโรงพยาบาลแม่ลาวจะได้รับความเสียหายยังทำให้หลังคาหอประชุมโรงเรียนอนุบาลจอมหมอกแก้ว ศาลาการเปรียญและห้องน้ำวัดดอนจั่น ปัายปั๊ม ปตท.ได้รับความเสียหาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บที่หัวไหล่ 1 ราย เพราะถูกป้ายเวทีล้มทับ นอกจากนี้ยังมีพายุในพื้นที่ ต.ธารทอง อ.พาน,ต.โรงช้าง อ.ป่าแดด ต.บ้านเหล่า อ.เวียงเชียงรุ้ง และเทศบาลนครเชียงราย ต.แม่ข้าวต้ม อ.เมืองเชียงราย รวมทั้งสิ้นอย่างน้อย 5 อำเภอ 8 ตำบล 15 หมู่บ้าน มีส่วนราชการเสียหาย 2 แห่ง วัด 1 แห่ง มีผู้บาดเจ็บ 1 คนดังกล่าว แต่ความเสียหายที่แท้จริงอยู่ระหว่างสำรวจต่อไป

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

ทีมแพทย์ชายขอบสาละวิน เร่งส่งต่อ ผู้ป่วยฉุกเฉินทางเรือและรถ กว่า 3 ชม.หลังปัญหาหมอกควันกระทบการบิน Sky Doctor

ทีมแพทย์ชายขอบสาละวิน เร่งส่งต่อ ผู้ป่วยฉุกเฉินทางเรือและรถ กว่า 3 ชม.หลังปัญหาหมอกควันกระทบการบิน Sky Doctor

วันที่ 18 มีนาคม 2568 ได้รับการเปิดเผยจากทีมช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉิน ภายหลังจากที่สภาพอากาศปิด Sky Doctor ไม่สามารถบิน มารับผู้ป่วยฉุกเฉินครรภ์เป็นพิษ ที่ทางเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลสบเมย แจ้งขอความช่วยเหลือไปยังศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยฮ.ที่หน่วยเฉพาะกิจสิงหนาถ ติดภารกิจ และ ฮ.จาก จังหวัดเชียงใหม่ ก็ไม่สามารถบินมาได้ เนื่องจากติดสภาพปัญหาหมอกควัน จึงไม่สามารถบินมารับผู้ป่วยฉุกเฉินได้

ทางทีมงานจึงได้มีการประสานความร่วมมือกัน 3 หน่วย โดยมีทาง แพทย์หญิงพิจิตรา จันทร์เจนจบ แพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉิน รพ.ศรีสังวาลย์ (ศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการจังหวัดแม่ฮ่องสอน) เป็นหลักในการประสานความร่วมกับ ทีมเจ้าหน้าที่รพ.สต.สบเมย นายนับพระคุณ สุริยธรรมคุณ พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ นางสาวเพ็ญนภา เสรีลักขณานักวิชาการสาธารณสุขปฏิบัติการ (ทีมส่งต่อผู้ป่วยจากบ้านสบเมยมาบ้านแม่สามแลบ ร่วมกับ ทีมรพ.สบเมย.นายแพทย์พิทยา หล้าวงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสบเมย นางศุภาพิชญ์ ตาคำ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ (หัวหน้ากลุ่มงานห้องอุบัติเหตุและฉุกเฉิน) นางสายสุนีย์ กุลศิริ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ (หัวหน้ากลุ่มงานห้องคลอด) นางสาวพลอยลมัย งามจิตเจริญ ตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ ในการวางแผนส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉิน หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 32+4 เดือน มีสภาวะครรภ์เป็นพิษ ความดันโลหิตสูงปวดหัวรุนแรง ซึ่งมีสภาวะเสี่ยงทั้งตัวแม่และลูกในครรภ์ จึงจำเป็นต้องส่งต่อให้รวดเร็วและปลอดภัยมากที่สุด ซึ่งจากบ้านสบเมย เดินทางออกมาถึง รพ.แม่สะเรียง โดยทางรถ ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 ชั่วโมงครึ่ง และ เกรงว่าการใช้เส้นทางรถจะส่งผลกระทบกับผู้ป่วยมากกว่า

ทางเจ้าหน้าที่จึงได้มีการปรับแผนการส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉิน โดยใช้เส้นทางเรือ ซึ่งใช้ระยะเวลาได้เร็วสุดในเวลาวิกฤตโดยเรือชาวบ้าน จากท่าเรือจากบ้านสบเมย ล่องตามแม่น้ำสาละวิน เพื่อไปขึ้นรถฉุกเฉินที่จะรอรับที่บริเวณท่าเรือของบ้านแม่สามแลบ ใช้เวลา 1 ชม. โดยจะมีทีมแพทย์คอยรับเพื่อทำการส่งต่อ และ มีเจ้าหน้าทหารพรานที่ 36 ฐานปฏิบัติการบ้านแม่สามแลบ และ ฐานปฏิบัติการบ้านสมเมย คอยให้ความฃ่วยเหลือในการลำเลียงผู้ป่วยลงเรือและขึ้นรถเพื่อส่งต่อขึ้นผู้ป่วย สู่ โรงพยาบาลแม่สะเรียง ด้วยความปลอดภัย

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

ทต.เมืองยวมใต้ ฉีดพ่นละอองน้ำ เพิ่มความชุ่มชื่นในอากาศ

ทต.เมืองยวมใต้ ฉีดพ่นละอองน้ำ เพิ่มความชุ่มชื่นในอากาศ

วันที่ 18 มีนาคม 2568 เทศบาลตำบลเมืองยวมใต้ โดยนายวิชัย กองแก้ว นายกเทศมนตรีตำบลเมืองยวมใต้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเมืองยวมใต้ นำรถบรรทุกน้ำปฏิบัติการฉีดพ่นละอองน้ำ เพื่อลดค่าฝุ่นละอองในอากาศ บริเวณศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลเมืองยวมใต้ และถนนหลวงหมายเลข 105 หมู่ 6 ดงสงัด หมู่ 4 บ้านทุ่งพร้าว ตำบลแม่สะเรียง ปริมาณน้ำ จำนวน 10,000 ลิตร

ขณะที่สถานการณ์ไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละออง ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประจำวันที่ 18 มีนาคม 2568 .จุดความร้อนสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 17 มีนาคม 2568 จำนวน 645 จุด คุณภาพอากาศ 3 สถานี ค่า PM2.5 สถานีอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน เท่ากับ 69.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ) ค่า PM2.5 สถานีอำเภอแม่สะเรียง เท่ากับ 83.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (อยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ) ค่า PM2.5 สถานีอำเภอปาย เท่ากับ 82.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (อยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ) จุดความร้อนประจำวันที่ 18 เวลาช่วงบ่าย 14.10 น. พบจุดความร้อน 32 จุด อ.ปาย 3 จุด อ.เมือง 7 จุด อ.ขุนยวม 9 จุด อ.แม่สะเรียง 5 จุด และ อำเภอสบเมย 8 จุด ส่วนอำเภอปางมะผ้า และ อ.แม่ลาน้อย ไม่พบจุดความร้อน

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

วันรีไซเคิลโลก กับ บทบาทผู้ประกอบการ สู่ ครูรักษ์โลก เชิญชวนพี่น้องชาวแม่สะเรียงร่วม ลด เก็บ แยกขยะก่อนทิ้งลดปัญหาโลกร้อน

วันรีไซเคิลโลก กับ บทบาทผู้ประกอบการ สู่ ครูรักษ์โลก เชิญชวนพี่น้องชาวแม่สะเรียงร่วม ลด เก็บ แยกขยะก่อนทิ้งลดปัญหาโลกร้อน

“18 มีนาคมของทุกปี” ถือเป็นวันรีไซเคิลของโลก หรือ World Recycling Day เพื่อต้องการเน้นย้ำให้ทุกคนได้ตระหนักถึงความสำคัญของการรีไซเคิลที่สามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้หลายล้านตันต่อปี และยังสามารถช่วยลดการใช้ทรัพยากรลงได้อีกด้วย ร่วมกันลด เก็บ แยกขยะก่อนทิ้ง หมุนเวียนทรัพยากรเพื่อโลกกัน

วันที่ 18 มีนาคม 2568 ณ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน รายการ ที่นี้แม่สะเรียง ได้นำเสนอเรื่องราวของ วันรีไซเคิลโลก โดย นายพงษ์ภูธร เผือกวัฒนะ เป็นอีกหนึ่งผู้ประกอบการด้านรีไซเคิล ที่หันมาส่งเสริมสนับสนุนและช่วยเหลือสังคม โดยก่อตั้ง ครูรักษ์โลก ขึ้นภายใต้ชื่อ ซ้อโบว์ หรือ นางสาวอุบล สุขศิริ ผู้ดำเนินกิจกรรม “ซุปเปอร์เวิร์ม รีไซเคิล”เพื่อให้คำแนะนำแลกเปลี่ยนเรียนรู้ถึงการบวนการวิธีการ เชิญชวนประชาชนเปลี่ยน “ขยะ” ให้เป็นประโยชน์ ลดปัญหาสิ่งแวดล้อม เพียงร่วมกันคัดแยกขยะก่อนทิ้งลงถัง เริ่มจากครอบครัว ต่อยอดสู่ชุมชน และ สถานศึกษา

ขณะนี้ได้ดำเนินการนำร่องในพื้นที่ชุมชนเทศบาลเมืองยวมใต้ โดยร่วมสนับสนุนให้ทุกครัวเรือนได้มีการคัดแยกขยะจากต้นทางสู่กระบวนการรับซื้อเปลี่ยนขยะเป็นเงิน เช่นเดียวกับในสถานศึกษา ที่ โรงเรียนสังวาลย์วิทยา เป็นอีกหนึ่งโรงเรียนที่อยู่ในเครือข่ายของ ครูรักษ์โลก ที่จัดให้ความรู้เรื่องประเภทของขยะ การคัดแยกขยะก่อนทิ้งให้กับเด็กๆสามารถคัดแยกขยะเองได้ เริ่มต้นจากห้องเรียน สู่ครอบครัว สู่ชุมชน จนในปัจจุบัน เด็กๆนักเรียนได้มีความรู้ความเข้าใจในการคัดแยกขยะในแต่ละชั้นเรียนและที่บ้าน เก็บมาขายสร้างรายได้ให้กับตัวเองและครอบครัว ติดต่อ ครูโบว์ ครูรักษ์โลก ได้ที่ 065-2702211

ทั้งนี้ ความสำคัญของการรีไซเคิล คือ การหมุนเวียนทรัพยากรธรรมชาติ จะช่วยในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิต และทำลายผลิตภัทฑ์ต่างๆ ซึ่งประโยชน์ ดังนี้ ลดปริมาณขยะที่ต้องฝังกลบ การเผา ช่วยลดมลพิษ ลดการใช้พลังงาน และทรัพยากรในการผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่จากวัตถุดิบ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ปกป้องแหล่งน้ำ หรือระบบนิเวศจากมลพิษที่เกิดจากการกำจัดขยะที่ไม่เหมาะสม

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

รองผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอน เผย แม่ฮ่องสอนยกระดับความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้าน ทั้ง 3 รัฐ ในการเฝ้าระวังป้องกันไฟป่าข้ามแดน

รองผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอน เผย แม่ฮ่องสอนยกระดับความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้าน ทั้ง 3 รัฐ ในการเฝ้าระวังป้องกันไฟป่าข้ามแดน

วันที่ 18 มีนาคม 2568 นายบุญลือ ธรรมธรานุรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้กล่าวถึง ปัญหาไฟป่าข้ามแดนในพื้นที่เขตรอยต่อระหว่างจังหวัดแม่ฮ่องสอน กับ ประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจังหวัดแม่ฮ่องสอนมีพื้นที่แนวเขตติดต่อกับพี่น้องฝั่งประเทศเพื่อนบ้านทั้ง 3 รัฐทั้งทางบกและทางน้ำ ทั้งรัฐฉาน รัฐกะเหรี่ยง และ รัฐกะยา ซึ่งในอดีตก็มีเหตุการณ์เข้ามาลักลอบเผาในพื้นที่ฝั่งไทย ในปีนี้ทุกพื้นที่ได้มีการยกระดับความร่วมมือกับพี่น้องทั้งสองฝั่ง ทั้ง 3 รัฐ ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าข้ามแดน ที่ชัดเจนที่สุด คือ ความร่วมมือกับพี่น้องรัฐกะเหรี่ยง ซึ่งในปีนี้ทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวิน อุทยานแห่งชาติสาละวิน โดยท่าน ผอ.สำนักพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 สาขาแม่สะเรียง ประสานความร่วมมือกับทาง ทหารพราน 36 อบต.แม่คง ตชด.337 ร่วมกับพี่น้องฝั่งประเทศเพื่อนบ้านซึ่งมีทางส่วนราชการ ทหาร ผู้ประกอบการค้าและชาวบ้านฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเดินทางมาทำ MOU ทำแนวกันไฟสองแผนดิน การลาดตระเวนร่วมกัน และขอความร่วมมือไม่เข้ามาเผาในพื้นที่ป่าฝั่งไทย ทำให้ขนาดนี้ตามแนวตะเข็บชายแดน ยังไม่มีไฟจากประเทศเพื่อนบ้านข้ามมายังฝั่งไทย เชื่อว่าหากมีการควบคุมและให้ความร่วมมือกันระหว่างสองแผ่นดินจะไม่เกิดปัญหาไฟป่าข้ามแดนแน่นอน

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

เชียงรายอ่วม พายุฤดูร้อนถล่มหลายอำเภอ

เชียงรายอ่วม พายุฤดูร้อนถล่มหลายอำเภอ

ภาพที่เห็นเป็นความรุนแรงของพายุฤดูร้อนที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงราย ความแรงของลมจากภาพจะเห็นว่ารุนแรงมาก หลังจากพายุสงบลงเจ้าของคลิปยังได้พาตระเวณดูความเสียหายจากความรุนแรงของพายุด้วย นายอำเภอแม่ลาวเปิดเผยว่า อำเภอแม่ลาวได้รับความเสียหนักสุด อาทิ หอพักผู้ป่วยในโรงพยาบาลแม่ลาวหลังคาเปิด ต้องย้ายผู้ป่วยส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลอื่น

จากภาพวงจรปิด เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 18.20 น. ของวันที่ 18มีค68 ที่บริเวณสามแยกปากทางแม่สรวย พื้นที่อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย แรงลมทำให้มีต้นไม้กิ่งไม้หักโค่นบางจุดขวางถนน อาคารบ้านเรือนหลายหลังได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะส่วนของหลังคาบ้าน ที่โรงเรียนอนุบาลจอมหมอกแก้วเวทีมาตรฐานของโรงเรียนถึงกับพังลงมา มีป้ายด้านหน้าปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงพัง ถนนบางสายไม่สามารถสัญจรไปมาได้โดยสะดวก บางจุดนอกจากจะมีฝนและพายุลมกระโชกแรงแล้วยังมีลูกเห็บตกลงมาอีกด้วย ทั้งนี้เหตุพายุกระโชกแรงดังกล่าวนี้ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 4 ราย และบาดเจ็บสาหัส 2 ราย มีสถานที่ราชการได้รับความเสียหายทั้งโรงเรียน โรงพยาบาล และวัด

นายรุ่งโรจน์ ตันวุฒิ นายอำเภอแม่ลาว เปิดเผยว่า พายุเกิดนาน 30 นาที อำเภอแม่ลาวมีความเสียหาย 15 หมู่บ้านใน 4 ตำบลคือ ตำบลจอมหมอกแก้ว, ป่าก่อดำ, บัวสลี และตำบลดงมะดะ ตำบลที่ได้รับความเสียหายหนักสุดคือตำบลจอมหมอกแก้วและตำบลป่าก่อดำ สถานที่ราชการได้รับความเสียหาย3แห่งคือ โรงเรียนอนุบาลจอมหมอกแก้ว โรงเรียนป่าก่อดำ โรงพยาบาลแม่ลาว วัดได้รับความเสียหาย 1 แห่งคือวัดห้วยส้านดอนจั่น มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย แขนหัก 1 ราย หน้าต่างพัดใส่จนสลบ 1 ราย ส่งไปรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โรงพยาบาลแม่ลาวตึกผู้ป่วยในหลังคาได้รับความเสียหาย ไม่สามารถให้บริการประชาชนได้ ต้องใช้เวลาปรับปรุงฟื้นฟู 3-5 วัน ส่วนผู้ป่วยได้ส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์และโรงพยาบาลสมเด็จพระญาณสังวร ที่อำเภอเวียงชัย

หลังเกิดเหตุ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย รายงานว่า เหตุการณ์พายุฝนและลมกระโชกแรงจากพายุฤดูร้อนได้เกิดขึ้นช่วงเวลา 18.00-19.30 น. มีพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากพายุลมกระโชกแรงรวม 2 อำเภอ 5 ตำบล คือ ตำบลจอมหมอกแก้ว, ตำบลป่าก่อดำ, ตำบลบัวสลี, ตำบลดงมะดะ อำเภอแม่ลาว ตำบลธารทอง อำเภอพาน ส่วนพื้นที่ที่มีฝนตกมี 7 อำเภอคือ อำเภอเมืองเชียงราย, อำเภอแม่จัน, อำเภอเทิง, อำเภอพาน, อำเภอแม่ลาว, อำเภอเวียงชัย และอำเภอพญาเม็งราย

ทั้งนี้หลังเกิดเหตุ นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้สั่งการให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย ประสานกับฝ่ายปกครองอำเภอต่างๆ รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่ที่มีฝนตกและพายุลมกระโชกแรง ให้ทำการสำรวจความเสียหายและเร่งพิจารณาให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนโดยเร็ว

เชียงราย รวบ 2 หนุ่มขนยาบ้า 3 ล้านเม็ดริมน้ำโขงเชียงแสน

เชียงราย รวบ 2 หนุ่มขนยาบ้า 3 ล้านเม็ดริมน้ำโขงเชียงแสน

เวลา 13.00 น.วันที่ 18 มี.ค.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ นปส.เชียงราย กก.2 บก.ปส.3 นำโดย พ.ต.ท.ทรงพล อาวพิทักษ์ รอง ผกก.2 บก.ปส.3 ,พ.ต.ท.วีรศักดิ์ รัตนประยูร สว.กก.2 บก.ปส.3 ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ทหาร นบ.ยส.35 นำตัว นายวัฒนา (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปีชาว ต.นาโบสถ์ อ.วังเจ้า จ.ตาก และ นายธนภูมิ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ชาว ต.แม่เงิน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ไปขยายผลติดค้นที่บ้านพักของนาย ธนภูมิ ในพื้นที่ ต.แม่เงิน หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมทั้ง 2 คน ได้พร้อมของกลางยาบ้าจำนวนประมาณ 3 ล้านเม็ด

โดยการจับกุมดังกล่าวเกิดขึค้นเมื่อเวลาประมาณ 22.15 น.วันที่ 17 มี.ค. 68 ที่ผ่านมา ทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ นปส.เชียงราย กก.2 บก.ปส.3 เจ้าหน้าที่ ทหาร นบ.ยส.35 ได้สืบทราบว่าจะมีเครือข่ายยาเสพติดนำโดย นายวัฒนา ซึ่งเป็นชาวเขาเผ่าม้ง จ.ตาก มีพฤติกรรมลำเลียงยาเสพติด จากพื้นที่ อ.เชียงแสน จว.เชียงราย เพื่อนำส่งให้กับเครือข่ายผู้ค้าในพื้นที่ตอนในของประเทศ ได้เดินทางเข้ามาในพื้นที่ จ.เชียงราย ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ออกติดตามจนกระทั้ง พบนายวัฒนา ใช้รถยนต์ ทะเบียน กบ 67xx เชียงราย มารอรับยาเสพติดจากกลุ่มเครือข่ายในพื้นที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย

เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ออกติดตามจนพบรถยนต์โตโยต้า สีดำ ทะเบียน กบ 67xx เชียงราย จอดอยู่บริเวณหน้าห้องพักรายวัน อยู่ภายในซอย ถนนริมโขง ซอย 4 ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่จึงเฝ้าสังเกตการณ์พบ นายธนภูมิ ขับขี่ จักรยานยนต์ โดยมี นายวัฒนา ซ้อนท้าย จากนั้น นายวัฒนา ได้เดินไปที่รถยนต์รถยนต์โตโยต้า สีดำ ทะเบียน กบ 67xx เชียงราย เปิดประตูและขึ้นไปนั่งด้านคนขับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้แสดงตัวขอตรวจค้น

โดยผลการตรวจคัน พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) อยู่ภายในห้องโดยสารและ กระโปรงท้ายรถ ส่วน นายธนภูมิ ได้ขับรถจักรยานยนต์ หลบหนี แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถติดตามจับกุมตัวได้ที่ บริเวณ ริมทางหลวง 1129 ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย

จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหา มาสอบปากคำ และได้นำตัวไปขยายผลการจับกุมโดยได้นำตัวไปตรวจค้นที่บ้านพักของนายธนูมิ แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายเพิ่มเติม โดยเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชนอันเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป” ก่อนจะนำตัว ส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.3 ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

เชียงราย ตำรวจเร่งติดตามคนร้ายชิงทัพรย์ในสถานปฏิบัติธรรม

เชียงราย ตำรวจเร่งติดตามคนร้ายชิงทัพรย์ในสถานปฏิบัติธรรม

จากกรณีเมื่อวันที่ 17 มี.ค. 68 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ศันย์ชัย พานิชกุล ผกก.สภ.บ้านดู่ เข้าตรวจสอบ ที่สำนักสงฆ์ รัศมีมณีโชติ(หลวงปู่ กิจ) ภายหลังรับแจ้งเหตุจี้ชิงทรัพย์ ทำร้ายร่างกายชีพรามหณ์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนคนร้ายหลบหนีไปได้ โดย ป้าปี ขอสงวนชื่อ นามสกุลจริง อายุ 65 ปี เป็นชีพราหมณ์ ผู้เสียหาย ถูกคนร้ายใช้มีดแทงทะลุผ้ากันเปื้อโดนบริเวณท้องน้อยด้านขวามีบาดแผลถลอก ใกล้กันพบอาวุธมีดสั้นปลายแหลมยาว 7 นิ้วตกอยู่ โดยคนร้ายได้เงินไปประมาณ 1,000 กว่าบาท

โดยวันนี้ (18 มี.ค.68) พ.ต.อ.ศันย์ชัย พานิชกุล ผกก.สภ.บ้านดู่ ได้มอบหมายให้ พ.ต.ต.ณัฐวุฒิ แก้วสืบ สารัวตรสืบสวน สภ.บ้านดู่ติดตามความคืบหน้าของคดี และติดตามตัวคนร่ายมาดำเนินคดี โดย พ.ต.ต.ณัฐวุฒิ ได้เปิดเผยว่า ปัจจุบัน มีความคืบหน้าโดยเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ที่เกิดเหตุ ตรวจสอบพยานหลักฐานพูดคุยกับผู้เสียหาย ได้ข้อมูลบางส่วนว่าคนร้ายน่าจะเป็นใคร โดยชุดสืบสวนได้รวบรวมข้อมูลหลักฐานเพื่อติดตามตัว ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามรารถเปิดเผยได้

“ตอนนี้ชุดสืบสวนก็ได้ลงพื้นที่เพื่อไล้กล้องวงจรปิด ติดตามหลักฐานกับพยานบุคคลต่างๆ ในการจับกุมคนร้าย ซึ่งคาดว่าจะสามารถจับตัวผู้กระทำผิดได้” สารวัตร สืบสวน สภ.บ้านดู่ กล่าว

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์