เชียงราย คนร้ายบุกชิงทรัยพ์ในสำนังสงฆ์ พบก่อเหตุต่อเนื่อง วอน ตำรวจเร่งล่าตัว

เชียงราย คนร้ายบุกชิงทรัยพ์ในสำนังสงฆ์ พบก่อเหตุต่อเนื่อง วอน ตำรวจเร่งล่าตัว

วันที่ 17 มี.ค.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ศันย์ชัย พานิชกุล ผกก.สภ.บ้านดู่ เข้าตรวจสอบ ที่สำนักสงฆ์ รัศมีมณีโชติ(หลวงปู่ กิจ) ภายหลังรับแจ้งเหตุจี้ชิงทรัพย์ ทำร้ายร่างกายชีพรามหณ์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนคนร้ายหลบหนีไปได้

จาการสอบถามที่สำนักสงฆ์ ทราบว่า ป้าปี ขอสงวนชื่อ นามสกุลจริง อายุ 65 ปี เป็นชีพราหมณ์ สวมเสื้อขาวแขนสั้นสวมผ้ากันเปื้อนทับ อยู่ในอาการตกใจกลัว ที่ผ้ากันเปื้อนมีรอยรูขาดประมาณ 2 เซนติเมตร ทะลุเสื้อขาว และที่ท้องน้อยด้านขวามีบาดแผลถลอก ใกล้กันพบอาวุธมีดสั้นปลายแหลมยาว 7 นิ้วตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมหลักฐานและสอบปากคำผู้เสียหายและผู้อยู่ในเหตุการณ์ ส่วนป้าเล็กเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เพื่อตรวจร่างกาย

ป้าปี (นามสมมุติ ) เล่าให้ฟังว่า ขณะกำลังกวาดเศษใบไม้อยู่ มีชายลักษณะสูงสวมเสื้อกางเกง สวมหมวกไอ้โม่งสีดำปิดปังใบหน้าเข้ามาประชิดตัวด้านหลัง ใช้มีดจี้ที่หลังพร้อมกับพูดสำเนียงไม่ชัดว่าเอาเงินมา เอาเงินมาไม่งั้นจะแทงให้ตาย ตนขัดขืนยื้อแย่งมีดกับคนร้าย เป็นจังหวะที่คนร้ายล้วงเอาเงินในกระเป๋าผ้ากันเปื้อนไปประมาณ 1,000 กว่าบาท และใช้มีดแทง จึงร้องให้คนช่วย คนร้ายจึงได้ผลักจนล้มทิ้งมีดแล้ววิ่งหลบหนีไป

โดยคนร้ายสวมหมวกไหมพรมเห็นแต่ดวงตา มีกลิ่นสุรา แต่จำได้ว่าเป็นไอ้โม่งรายเดียวกับคนที่เข้ามายื้อแย่งชิงมือถือของตนหน้าห้องน้ำเมื่อหลายคืนก่อน อยากให้ตำรวจเร่งจับตัวคนร้ายโดยเร็วเพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย

ด้านนางสุมาลี คนงานในสำนักสงฆ์ เล่าให้ฟังว่า ขณะกำลังเทพื้นก่อสร้างอาคารห้องครัวอยู่กับสามี ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากป้าเล็ก ว่ามันมาอีกแล้ว จึงรีบวิ่งเข้าไปดูเห็นป้าเล็กนอนอยู่เอามือกุมท้องไว้ บอกว่าโดนแทง จึงโทรแจ้งตำรวจและกู้ภัย

“คนร้ายเคยก่อเหตุเข้ามาขโมยทรัพย์สินในสำนักสงฆ์แห่งนี้หลายครั้งแล้ว ครั้งแรกคืนวันที่ 28 ก.พ.68 เข้ามาขโมยอาหารของใช้ในห้องครัว และพระพุทธรูปปางนาคปรกขนาดหน้าตัก 9 นิ้วไป ครั้งที่2 วันที่ 1 มี.ค.68 เข้ามาขโมยถังแก๊ส และอีกอาทิตย์ต่อมาสวมหมวกไอ้โม่งเข้ามายื้อแย่งโทรศัพท์มือของป้าเล็กไป ล่าสุดวันนี้พกมีดจี้บังคับเอาเงินป้าเล็กอีก”นางสุมาลี กล่าว

โดยสำรวจภายในสำนักสงฆ์ มีกล้องวงจรปิดเพียง 2 จุด คือทางเข้าด้านหน้าสำนักสงฆ์ ที่บันทึกภาพขณะคนร้านเข้ามาขโมยของในช่วงเวลากลางคืนไว้ได้ ส่วนอีกจุดอยู่ตรงห้องครัวซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายมาเข้ามาขโมยอาหารแต่คนร้ายได้ดึงปลั๊กออกก่อนก่อเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบเส้นทางหลบหนีและติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

รองผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอน ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ไฟป่าพื้นที่ อช.สาละวิน บูรณาการอย่างเข้มงวด ส่งผลให้จุดความร้อนลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

รองผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอน ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ไฟป่าพื้นที่ อช.สาละวิน เผย จนท.บูรณาการตามมาตราการได้อย่างเข้มงวด ส่งผลให้จุดความร้อนลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

วันที่ 17 มีนาคม 2568 ณ ห้องประชุมอุทยานแห่งชาติสาละวิน นายบุญลือ ธรรมธรานุรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เดินทางตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติสาละวิน และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อม ติดตามสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ โดยมี นายวรศักดิ์ พานทอง นายอำเภอแม่สะเรียง นายลิขิต ไหวพรหม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสาละวิน นายสงกรานต์ สันติกูล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่คง นายจตุพล ยะจอม ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อ.แม่สะเรียง ร่วมประชุมหารือ และมีเจ้าหน้าที่ทหารสังกัด ร.7 พัน 5 หน่วยเสือไฟสกลนคร ที่เดินทางมาปฏิบัติงานช่วยในพื้นที่ เขตอุทยานแห่งชาติสาละวิน

นายบุญลือ ธรรมธรานุรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยกับสื่อมวลชน ว่า มาเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในพื้นที่อุทยานสาละวิน จะเห็นได้ว่าภาพรวมของอุทยานสาละวิน ปีนี้ถือว่าบริหารจัดการได้ดีเยี่ยมครอบคลุมทุกมิติ ด้วยการบูรณาการกับทุกภาคส่วนและสามารถดำเนินงานตามมาตรการต่างๆ ได้อย่างเข้มงวด ทั้งการประชาสัมพันธ์ การบริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่เกษตร และ พื้นที่ป่า การลาดตระเวนริทาง การยกระดับดูแลเรื่องสุขภาพและมาตราการอื่นๆ ต้องชื่นชมเจ้าหน้าที่ทุกนายทุกฝ่ายที่ทำงานกันอย่างเข้มแข็งและอดทน ทำให้จุดความร้อนในพื้นที่ ตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม ถึง ปัจจุบันมีจุดความร้อนเพิ่มขึ้นแค่ 3 จุด ส่งผลทำให้ คุณภาพอากาศโดยรวมของอำเภอแม่สะเรียงดีมาก แต่อาจจะมีบางวันที่คุณภาพเกินมาตราฐานมากแต่ก็ไม่สูงมาก ซึ่งเป็นผลของความร่วมมือของทุกภาคส่วนรวมถึงพี่น้องประชาชนด้วย

สำหรับพื้นที่อุทยานแห่งชาติสาละวิน มีพื้นที่รับผิดชอบทั้งหมด 460,007 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 8 หมู่บ้าน 4 ตำบล 2 อำเภอ มีจุดเฝ้าระวังไฟป่า 50 จุด จุดตรวจ/จุดสกัด รวม 10 จุด จัด 11 มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าในปี 2568 ทั้งนี้ สถิติไฟป่าในปี 2567 เกิดจุดความร้อยรวม 1,399 จุด พื้นที่เผาไหม้ 183,447 ไร่ สัดส่วนพื้นที่เผาไหม้ร้อยละ 39.88 และในปี 2568 เป้าหมายลดพื้นที่เผาไหม้ลง ร้อยละ 30 จากพื้นที่เผาไหม้เดิม 183,447 ไร่ ลดลงต้องไม่เกิน 128,412 ไร่ ซึ่งตั้งแต่เริ่มฤดูไฟป่ามา ในพื้นที่อุทยานสาละวิน เกิดจุดความร้อนขึ้น เพียง3 จุดเท่านั้น

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

แม่ฮ่องสอนจัดโครงการปลูกฝังจิตสำนึกรักสามัคคี-ส่งเสริมความปรองดองสมานฉันท์

แม่ฮ่องสอนจัดโครงการปลูกฝังจิตสำนึกรักสามัคคี-ส่งเสริมความปรองดองสมานฉันท์

วันที่ 17 มีนาคม 2568 ณ หอประชุมโรงเรียนสังวาลย์วิทยา ตำบลแม่เหาะ อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน นายเอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน มอบหมายให้ นายบุญลือ ธรรมธรานุรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการปลูกฝังจิตสำนึกรักสามัคคีและส่งเสริมความปรองดองสมานฉันท์ ประจำปี 2568 โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะปลูกฝังจิตสำนึกรักสามัคคีส่งเสริมความปรองดองสมานฉันท์ และตระหนักถึงผลประโยชน์ของส่วนรวม รวมถึงการธำรงรักษาสถาบันภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ตลอดจนส่งเสริมความรู้และเข้าใจในหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

การจัดงานในครั้งนี้ เพื่อให้กลุ่มเด็กและเยาวชนในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ธำรงรักษาไว้ซึ่งสถาบันหลักของชาติ ภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และเพื่อให้กลุ่มเด็กและเยาวชนในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยน เรียนรู้ เพื่อสร้างความสามัคคีและปรองดองสมานฉันท์ อีกทั้งเพื่อให้กลุ่มเด็กและเยาวชนในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีวิจารณญาณในการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร และการใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่างสร้างสรรค์ เพื่อสร้างความสามัคคีปรองดองให้เกิดขึ้นในสังคม ตลอดจนเพื่อให้กลุ่มเด็กและเยาวชนในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจในธรรมชาติ ปรากฏการณ์และสาเหตุของความขัดแย้ง รวมทั้งภาพรวมของหลักการจัดการความขัดแย้ง ตลอดจนถึงแนวทางและรูปแบบการจัดการความขัดแย้งด้วยสันติวิธีได้อย่างเป็นระบบ โดยมีกลุ่มเป้าหมาย คือเด็กและเยาวชนในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นนักเรียนจากโรงเรียนสังวาลย์วิทยา ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 120 คน

Cr. สุกัลยา / บัวงาม

รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ลงพื้นที่ติดตามตรวจเยี่ยมจุดเฝ้าระวังไฟป่า พื้นที่ อ.ปาย อ.ปางมะผ้า และ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน

รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ลงพื้นที่ติดตามตรวจเยี่ยมจุดเฝ้าระวังไฟป่า พื้นที่ อ.ปาย อ.ปางมะผ้า และ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน เพื่อติดตามการเฝ้าระวังสถานการณ์ไฟป่าในแต่ละพื้นที่

เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2568 นายเอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน มอบหมายให้ นายบุญลือ ธรรมธรานุรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ติดตามตรวจเยี่ยมจุดเฝ้าระวังไฟป่า พื้นที่ อ.ปาย อ.ปางมะผ้า และ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน เพื่อติดตามการเฝ้าระวังสถานการณ์ไฟป่าในแต่ละพื้นที่ โดยมีหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน หัวหน้าสำนักงานจังหวัดแม่ฮ่องสอน ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอน และผู้แทนประชาสัมพันธ์จังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมลงพื้นที่ในครั้งนี้

รองผู้ว่าราชการจังหวัด และคณะ เดินทางไปรับฟังบรรยายสรุปผลการดำเนินการป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย อ.ปางมะผ้า โดยมีนายนิกร แก้วโมรา หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย บรรยายสรุปพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปายมีเขตความรับผิดชอบ จำนวน 738,085 ไร่ ในปี 2568 พบจุดความร้อน จำนวน 59 จุด ขณะที่ปี 2567 ในช่วงเวลาเดียวกัน พบจุดความร้อนกว่า 1,095 จุด

จากนั้นรองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน และคณะ ตรวจเยี่ยมติดตามจุดเฝ้าระวังไฟป่าบ้านแม่นาเติงใน ตำบลแม่นาเติง อำปาย , จุดเฝ้าระวังไฟป่าบ้านแม่นะ ตำบลแม่นาเติง อำปาย , จุดเฝ้าระวังไฟป่าบ้านปางแปก ตำบลแม่นาเติง อำเภอปาย , จุดเฝ้าระวังไฟป่าบ้านน้ำริน ตำบลสบป่อง อำเภอปางมะผ้า , จุดเฝ้าระวังไฟป่าบ้านจ่าโบ ตำบลปางมะผ้า อำเภอปางมะผ้า , จุดเฝ้าระวังไฟป่าบ้านน้ำกัด ตำบลห้วยผา อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน , จุดเฝ้าระวังไฟป่าบ้านกุงไม้สัก ตำบลปางหมู อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน และจุดเฝ้าระวังไฟป่าเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน บริเวณทางขึ้นวัดพระธาตุดอยกองมู ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าในเขตตัวเมืองเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน

นายบุญลือ ธรรมธรานุรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เป็นการติดตามการเฝ้าระวังสถานการณ์ไฟป่า และให้กำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงาน นอกจากนี้นายเอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ฝากความห่วงใย ส่งกำลังใจ และสิ่งของอุปโภคบริโภคพร้อมน้ำดื่ม มอบให้แก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ในแต่ละจุดที่ได้เสียสละเวลาส่วนตัวของตนเอง เพื่อปฏิบัติหน้าที่แก่ส่วนรวมของจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดย รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ยังได้กล่าวต่อว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ไฟ่ป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (pm2.5) ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนอย่างเข้มข้นในห้วงเวลาต่อจากนี้ ซึ่งเป็นห้วงเวลาที่จะเกิดไฟ่ป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (pm2.5) มากขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนมากขึ้น และต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของตนเอง และเพื่อนร่วมงานในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อตนเองและครอบครัวของผู้ที่เสียสละในการปฏิบัติหน้าที่ และเพื่อลมหายใจที่สะอาดของประชาชนในทุกอำเภอของจังหวัดแม่ฮ่องสอน

ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ยังได้กล่าวอีกว่าขอความร่วมมือจากประชาชนชาวแม่ฮ่องสอนทุกคน งดเผาในที่โล่งทุกชนิด สำหรับพื้นที่การเกษตรที่จำเป็นต้องจัดการเชื้อเพลิง ทางจังหวัดฯ จะพิจารณาเป็นรายกรณี โดยมีกระบวนการ ขั้นตอน ที่จะอนุญาตตามความจำเป็น และขอให้ประชาชนได้ติดตามข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวกับปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองได้ที่ Facebook fan page สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแม่ฮ่องสอน Facebook fan page ที่ว่าการอำเภอต่าง ๆ ทั้ง 7 อำเภอของจังหวัดแม่ฮ่องสอน และ Facebook fan page สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อติดตามข้อมูลข่าวสารตามข้อเท็จจริง รอบด้าน อ้างอิงได้ และขอให้ประชาชนชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอนทุกคน ดูแลสุขภาพ ปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ การสวมใส่หน้ากากอนามัย การงดทำกิจกรรมกลางแจ้งในวันที่ค่าฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน รวมทั้งแนวทางการดูแลสุขภาพของตนเองอีกด้วย

สำหรับการแก้ไขปัญหาไฟป่าของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในปีนี้ พบว่า การเผาป่าลดลงอย่างมาก เนื่องจากการลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ประชาชนและการเน้นการทำแนวกันไฟป้องกันการลุกลาม รวมไปถึงการชิงเผาในพื้นที่เสี่ยง ทำให้จุดความร้อนลดน้อยกว่าปีที่ผ่านมาเป็นอย่างมาก

Cr. ฉลอง หมั่นสกุล จ.แม่ฮ่องสอน

เชียงราย เพลิงไหม้บ้านสองชั้น กลางเมือง ชื่นชมเจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงเร็ว

เชียงราย เพลิงไหม้บ้านสองชั้น กลางเมือง ชื่นชมเจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงเร็ว

วันที่ 16 มีนาคม 2568 เวลา 12.09 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านไม้สองชั้นเลขที่ 115 หมู่ 17 ชุมชนสันกลาง ตำบลรอบเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย เบื้องต้นเพลิงได้ลุกไหม้โหมตั้งแต่บริเวณชั้น1 ถึงชั้นที่2 เกิดเปลวเพลิง และกลุ่มควันขนาดใหญ่ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลนครเชียงราย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิสยามปู่อินทร์ เชียงราย เข้าระงับเหตุ ฉีดน้ำพร้อมรถดับเพลิงจำนวนสามคัน ใช้เวลาประมาณ 35 นาทีจึงควบคุมเพลิงไว้ได้ ซึ่งไฟได้สร้างความเสียหายในบริเวณชั้นหนึ่งและบริเวณชั้นสองทั้งหมด

จากการตรวจสอบพบเป็นบ้านไม้สองชั้นมีผู้อยู่อาศัย 1คนเป็นชาย อายุประมาณ 60 ปี อาศัยอยู่คนเดียว ภายในบริเวณบ้านได้สร้างเป็นหอพักเก่าซึ่งไม่มีผู้อยู่อาศัยแล้ว อีกทั้งบริเวณด้านข้างเป็นหอพักที่มีผู้อยู่อาศัยอยู่จำนวน 10 ห้อง รวมถึงในพื้นที่ เป็นชุมชนที่มีที่พักอาศัยค่อนข้างหนาแน่น และจากการสอบถามพบว่าชายเจ้าของบ้านได้จุดเทียนบริเวณภายในบ้านทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้ดังกล่าว

ด้านนายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ได้ลงพื้นที่ขณะเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน เพื่อตรวจสอบและได้ให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้อย่างรวดเร็ว ไม่เกิดความเสียหายลามไปยังพื้นที่ข้างเคียง ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ให้เทศบาลนครเชียงรายจะเข้าทำการตรวจสอบพื้นที่ และปิดกั้นเพื่อสำรวจความเสียหายต่อไป

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

เทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน เชิญร่วมงานประเพณีปอยส่างลอง

เทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน เชิญร่วมงานประเพณีปอยส่างลอง

นางสาวมัลลิกา จีนาคำ นายกเทศมนตรีเมืองแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า สำนักงานเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน ร่วมกับวัดหัวเวียง และศรัทธาชุใมชนกลางเวียง กำหนดจัดงานประเพณีปอยส่างลอง ประจำปี 2568 ขึ้นในระหว่างวันที่ 1 ถึง 3 เมษายน 2568 ณ วัดหัวเวียง ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อสืบสานประเพณีอันดีงามของชาวไทใหญ่ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้คงอยู่คู่กับท้องถิ่นสืบไป อีกทั้งเพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้ใช้เวลาว่างในช่วงปิดภาคเรียน ให้เกิดประโยชน์ด้วยการศึกษา พระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ห่างไกลยาเสพติด โดยมีกำหนดการจัดงานดังนี้

วันที่ 31 มีนาคม 2568 พิธีปลงผมส่างลอง ณ วัดหัวเวียง
วันที่ 1 เมษายน 2568 วันรับส่างลอง
วันที่ 2 เมษายน 2568 วันแห่โคหลู่ (แห่เครื่องไทยทาน)
วันที่ 3 เมษายน 2568 วันข่ามส่าง หรือวันหลู่ ( วันบรรพชาสามเณร )

สำหรับงานประเพณีปอยส่างลอง เป็นการรวบรวมอัตลักษณ์ วิถีวัฒนธรรม และงานศิลป์ต่าง ๆ ของชาวไทใหญ่เข้าไว้ด้วยกันอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ความเชื่อ พิธีกรรม การแต่งกาย เครื่องประดับ ขบวนแห่ การแสดง อาหารการกิน โดยจะจัดขึ้นปีละ 1 ครั้ง ทุกปี ระหว่างเดือนมีนาคม – เมษายน ซึ่งเป็นช่วงว่างเว้นจากการทำนา และมีความอุดมสมบูรณ์ในเรื่องของอาหาร และเป็นช่วงที่เด็ก ๆ ปิดเทอม ถือเป็นการใช้เวลาว่างช่วงปิดเทอมนี้ ศึกษาหาความรู้ และฝึกปฏิบัติตามรูปแบบชองชาวพุธ เป็นกลวิธีในการให้เด็กได้เรียนรู้ และสืบสานประเพณีดั้งเดิมของท้องถิ่นได้ดี

ผู้ที่สนใจ ส่ง บุตรหลาน เข้าร่วมการบวชส่างลอง สอบถามรายละเอียดได้ที่ กองการศึกษา เทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน อาคารชานกะเล ติดกับ ธนาคารกสิกรไทย โทร 052- 049680 ต่อ 102-103

Cr. ฉลอง หมั่นสกุล จ.แม่ฮ่องสอน

จับมือสองแผ่นดิน นายก.อบต.แม่สามแลบ ประสานความร่วมมือ ราษฏรสองฝั่งริมน้ำสาละวิน ร่วมป้องกันไฟป่า

จับมือสองแผ่นดิน นายก.อบต.แม่สามแลบ ประสานความร่วมมือ ราษฏรสองฝั่งริมน้ำสาละวิน ร่วมป้องกันไฟป่า

วันที่ 15 มีนาคม 2568 ณ บริเวณชายหาดบ้านสบเมย ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน นายพงษ์พิพัฒน์ มีเบญจมาศ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่สามแลบ ในฐานะ ผู้อำนวนการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันตำบลแม่สามแลบ ได้เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่พี่น้องฝั่งประเทศเพื่อนบ้านได้เดินทางมาร่วมกิจกรรมรณรงค์เนื่องในวันเขื่อนโลก เมื่อวานนี้ ทางศูนย์ปฏิบัติการป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่า และหมอกควัน ตำบลแม่สามแลบจึงได้พูดคุยหารือแลกเปลี่ยนแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าสองแผ่นดินร่วมกัน โดยมีมติร่วมกัน ในการจัดชุดลาดตระวนทางน้ำ และรณรงค์ประชาสัมพันธ์ในการขอความร่วมมือและสร้างความเข้าใจร่วมกัน ทั้งสองฝั่ง เพื่อช่วยกันในการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาไฟป่า และ หมอกควัน เนื่องจากตลอดแนวสาละวินชายแดนไทย-พม่า ชายแดนติดกัน มีชุมชนอาศัยอยู่ทั้งสองฝั่ง และ เป็นผืนป่าขนาดใหญ่เชื่อมทั้งสองฝั่ง จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องสร้างความร่วมมือ และความเข้าใจร่วมกัน เพราะปัญหาไฟป่า และหมอกควัน หากเกิดขึ้นฝั่งใดฝั่งหนึ่ง ย่อมส่งผลกระทบข้ามแดน อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โดยในฝั่งของประเทศไทยเราจะมีการลาดตระเวนเฝ้าระวัง ตั้งแต่เขตรอยต่อ บ้านท่าตาฝั่ง สบแม่แวน ลงผ่าน แม่สามแลบ – สบเมย แล้วย้อนขึ้นน้ำเมย – มาจนถึงสบยวม ขึ้นมาน้ำยวม ผ่านรอยต่อ สบเมย-ท่าสองยาง จ.ตาก ในส่วนฝั่งประเทศเพื่อนบ้านก็มีมาตรการในจัดการ ดูแลไฟป่า เช่น กัน คือ มีการทำแนวกัน ในพื้นที่เกษตรที่จะทำการเผา ซึ่งทางฝั่งประเทศเพื่อนบ้านได้ทำเป็นวิถีปกติอยู่แล้ว ส่วนในป่าก็เขาก็ไม่ให้เผาเช่นกัน

ที่ผ่านมาไฟที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่เกิดจากคนที่แอบเข้าป่าล่าสัตว์ แล้วจุดไฟ โดยไม่มีการป้องกัน. หรือประมาท ทำให้ไฟลุกหลามในวงกว้าง จนไม่สามารถควบคุมได้

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

มัสยิดญามีอาตุลอิสลาม มอบถุงยังชีพให้พี่น้องต่างศาสนิกในเดือนรอมฎอน เดือนแห่งการแบ่งปัน

มัสยิดญามีอาตุลอิสลาม มอบถุงยังชีพให้พี่น้องต่างศาสนิกในเดือนรอมฎอน เดือนแห่งการแบ่งปัน

วันที่ 15 มีนาคม 2568 ณ มัสยิดญามีอาตุลอิสลาม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน นายสุริยา อร่ามวงค์ รองประธานคณะกรรมกลางอิสลามแห่งประเทศไทย พร้อม พี่น้องมุสลิม อ.แม่สะเรียง ได้ จัดโครงมอบถุงยังชีพในเดือนรอมฏอน และ การให้ความรู้เรื่องการประกอบพิธีฮัจญ์ของมุสลิมจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งการมอบถุงยับชีพ เป็น การแบ่งปันเพื่อมนุษยชาติเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือนรอมฎอน เพื่อสนับสนุนให้ชาวมุสลิมได้ร่วมบริจาคทานโดยไม่จำกัดให้แต่ชาวมุสลิมด้วยกันเท่านั้น แต่ยังสามารถเผื่อแผ่ไปยังประชาชนศาสนาอื่นด้วย ในวาระแห่งรอมฎอน เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข

ในวันนี้ ได้ร่วมกันมอบถุงยังชีพให้กับกลุ่มเปราะบาง พี่น้องต่างศาสนิกที่อาศัยอยู่รอบ ๆ ชุมชนมุสลิม และ มอบถุงปันน้ำใจ ให้กับ คณะทำงานสมัชชาสตรีมุสลิมโซนใต้ จ.แม่ฮ่องสอน และ ชมรมพันธกิจ ตะอารูฟ ทั้งหมดรวม 150 ถุง บรรยากาศในวันนี้จึงเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความสุข ในเดือนรอมฎอน ทั้งผู้ให้และผู้รับ

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

รร.ไทยรัฐ 33 บ้านทุ่งพร้าว จัดกิจกรรม OPEN HOUSE TR 33 ชมนิทรรศการผลงานนักเรียน ชิมช้อป ม่วนใจ จ่ายกาด

รร.ไทยรัฐ 33 บ้านทุ่งพร้าว จัดกิจกรรม OPEN HOUSE TR 33 ชมนิทรรศการผลงานนักเรียน ชิมช้อป ม่วนใจ จ่ายกาด

วันที่ 14 มีนาคม 2568 ณ โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 33 (บ้านทุ่งพร้าว) อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ดร.กัญญาพัชร พงษ์ดี รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 2 เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดบ้านวิชาการ (OPEN HOUSE TR 33) โดย นายเรืองศักดิ์ ขาวสะอาด ผู้อำนวยการโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 33 (บ้านทุ่งพร้าว) หัวหน้าส่วนราชการ ท่านผู้บริหารโรเรียน ประธานและคณะกรรมการสถานศึกษาชั้นพื้นฐาน ท่านประธานมูลนิธิไทยรัฐวิทยา33 (บ้านพุ่งพร้าว) ผู้ปกครอง คณะครู และสวัสดีนักเรียนให้การต้อนรับและร่วมกิจกรรมในพิธีเปิด โครงการเปิดบ้านวิชาการครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้เรียนได้เข้าร่วมกิจกรรมที่ส่งเสริมให้บรรลุตามป้าหมาย วิสัยทัศน์ ปรัชญา และจุดเน้นของสถานศึกษา เปิดโอกาสให้ผู้เรียนหาประสบการณ์จากการปฏิบัติจริง เรียนรู้การทำงาน ฝึกฝนทักษะทางวิชาการ ทักษะอาชีพ และทักษะ สามารถนำความรู้ความสามารถไปใช้ เพื่อพัฒนาตนเอง สามารถดำรงตนอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข นักเรียนที่ร่วมกิจกรรมในวันนี้ประกอบด้วยนักเรียนชั้นอนุบาลศึกษาปีที่ 1 ถึง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวนทั้งสิ้นรวม 461 คน

การจัดโครงการเปิดบ้านวิชาการ (OPEN HOUSE TR 33) เป็นการจัดนิทรรศการการแสดงผลงานโรงเรียน ผลงานนักเรียน และสื่อการจัดการเรียนการสอนของครู โดยแบ่งเป็น 4 โซน ได้แก่ โซนที่ 1 หลักสูตรโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 33 (บ้านทุ่งพร้าว) เน้นหลักสูตรสื่อมวลชนศึกษา หลักสูตรประวัติศาสตร์ หลักสูตรท้องถิ่นร่วมสมัย “เมืองยวมใต้”หลักสูตรความเป็นพลเมือง โซนที่ 2 นิทรรศการแสดงผลงานนักเรียนและสื่อการจัดการเรียนการสอน ของครูแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ โซนที่ 3 นิทรรศการแสดงผลงานชุมนุมของนักเรียน โซนที่ 4 กิจกรรม “ม่วนใจ จ่ายกาด ไทยรัฐ สามสิบสาม”

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

NO DAM ไม่เอาเขื่อนตลอดชีวิต ปชช.สองแผ่นดิน ร่วมปกป้องแม่น้ำให้ไหลอย่างอิสระ ในวันหยุดเขื่อนโลก

NO DAM ไม่เอาเขื่อนตลอดชีวิต ปชช.สองแผ่นดิน ร่วมปกป้องแม่น้ำให้ไหลอย่างอิสระ ในวันหยุดเขื่อนโลก

วันที่ 14 มีนาคม 2568 ชาวบ้านและเครือข่ายหลายองค์กรในประเทศไทยในหลายๆพื้นที่ ได้มีการจัดกิจกรรมรณรงค์เพื่อปกป้องแม่น้ำเนื่องในวันหยุดเขื่อนโลก (International Day of Actions for Rivers) ในวันที่ 14 มีนาคม ของทุกๆ ปี เช่นเดียวกับ ณ บริเวณหาดทรายริมแม่น้ำสาละวิน บ้านสบเมย อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน เครือข่ายลุ่มน้ำสาละวิน สมาคมฟื้นฟูและพัฒนาลุ่มน้ำสาละวิน เครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำยวม เงา เมย ราษฎรสองฝากฝั่งลำน้ำสาละวิน และ ซูแมท่า ฝั่งรัฐกะเหรี่ยง ซึ่งมีชาวบ้านหลายร้อยคนมาร่วมงาน โดยมีเวทีสถานการณ์ลุ่มน้ำสาละวิน ดนตรีและวัฒนธรรม การสืบชะตาน้ำโดย ชุมชนชาติพันธุ์ ชาวบ้านสองแผ่นดิน ซึ่งแม่น้ำสาละวินเป็นแม่น้ำนานาชาติที่ยาวที่สุดสายสุดท้ายที่ยังคงไหลอย่างอิสระ จากต้นธารหิมะละลายบนเทือกเขาหิมาลัย สู่ทะเลอันดามัน

ทั้งนี้ พิธีเริ่มต้นโดยการจุดเทียนเพื่ออธิษฐานปกป้องแม่น้ำ จากนั้นได้มีตัวแทนจากภาคส่วนต่างๆเสนอมุมมองเกี่ยวกับการอนุรักษ์แม่น้ำและความสำคัญของแม่น้ำสาละวิน และ การปล่อยเรือรณรงค์ NO DAM ไม่เอาเขื่อนพร้อมกับการร่วมกันเดินขบวนของชาวบ้านที่ถือป้ายด้วยข้อความต่างๆ เช่น ไม่เอาเขื่อนตลอดชีวิต สาละวินลุ่มน้ำแห่งสันติภาพ ปล่อยให้สาละวินไหลอย่างอิสระ

จากการ จัดเวทีสรุปข้อมูลสถานการณ์แม่น้ำสาละวิน โดยมีวิทยากรทั้งจากฝั่งไทยและกะเหรี่ยง โดย นายพงศ์พิพัฒน์ มีเบญจมาศ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่สามแลบ อ.สบเมย กล่าวว่า แม่น้ำสาละวินเป็นสายน้ำที่เชื่อมพี่น้องสองฝั่ง ที่มีความผูกพันกันทั้งวิถีชีวิต วัฒนธรรมวิถี ตั้งแต่ธิเบตลงมา รัฐฉาน คะเรนนี รัฐกะเรี่ยง รัฐมอญ ไม่ใช่เป็นเพียงสายน้ำไหลไปสู่ทะเล การใช้แม่น้ำเป็นชีวิตของพี่น้องแถบนี้ อาศัยน้ำขึ้นน้ำลงตามฤดูกาล ชาวบ้านต้องอาศัย แม่น้ำ สิ่งแวดล้อม ความมั่นคงอาหาร การค้าขาย การเกษตร การลุกขึ้นมาปกป้องธรรมชาติของชาวบ้าน ต้องไม่ใช้อำนาจปกครองมากดไว้” นายก อบต.แม่สามแลบกล่าว

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน