(คลิป) มาแล้ว แม่คะนิ้งแรกของปี ขาวเต็มยอดดอยอินทนนท์ นักท่องเที่ยวแห่รูปจำนวนมาก

เมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 18 พ.ย. 62 นายกริชสยาม คงสตรี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เชียงใหม่ เปิดเผยว่า วันนี้ที่ กม.42+300 บริเวณกิ่วแม่ปาน วัดอุณหภูมิต่ำสุดได้ 3 องศาเซลเซียส และที่ยอดดอยอินทนทนนท์ วัดอุณหภูมิต่ำสุดได้ 4 องศาเซลเซียส และเกิดปรากฏการณ์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความประทับใจอย่างมากคือ เช้านี้ได้เกิดแม่คะนิ้งแรกของปี 62 เริ่มต้นฤดูหนาวและฤดูกาลท่องเที่ยวแล้ว

สถิตินักท่องเที่ยวขึ้นมาในห้วงวันหยุดที่ 17 พ.ย. 62 มีจำนวน 4,871 คน เป็นนักท่องเที่ยวคนไทยมากกว่าชาวต่างชาติ เชื่อว่าในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นมา เพื่อรอชมแม่คะนิ้ง หรือเหมยขาบขาวบนยอดดอยอีกเป็นจำนวนมาก

ขอบคุณภาพจาก อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์

นายกริชสยาม กล่าวต่อว่า ในวันนี้แม้ว่าจะเกิดแม่คะนิ้งขึ้นบนยอดหญ้า แต่ทางอุทยานฯ ยังการันตีไม่ได้ว่าจะเกิดต่อเนื่องหรือไม่ เพราะขึ้นอยู่กับอุณหภูมิในแต่ละวัน แต่หากสภาพอากาศยังคงหนาวเย็น รวมถึงทางอุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ ได้คาดการณ์ว่า อุณหภูมิจะลดต่ำลงอีก หากเป็นเช่นนั้นก็อาจมีแม่คะนิ้งเกิดขึ้นต่อเนื่องบนยอดดอยให้นักท่องเที่ยวได้เห็นก็เป็นได้

ช่วงเช้านี้วันเดียว เชียงใหม่เกิดแผ่นดินไหว 2 ครั้ง พื้นที่ดอยสะเก็ด 2.2 และแม่อาย 3.0

เมื่อเวลา 07.31 น.วันที่ 17 พ.ย. 62 กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ตรวจพบแผ่นดินไหวในพื้นที่ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ความแรง 2.2 แมกนิจูด ละติจูด 18.883 ลองจิจูด 99.24 ความลึก 5 กิโลเมตร

ต่อมาในเวลา 09.59 น.ได้ตรวจพบแผ่นดินไหวในพื้นที่อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ความแรง 3.0 แมกนิจูด ละติจูด 20.117 ลองจิจูด 99.516 ความลึก 4 กิโลเมตร เบื้องต้นเหตุแผ่นดินไหวทั้งสองครั้ง เป็นเพียงแผ่นดินไหวที่รู้สึกตัวได้ ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้รับรายงานความเสียหายในพื้นที่แต่อย่างใด

จังหวัดเชียงใหม่ บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมประชาชนจิตอาสาเร่งจัดเก็บขยะจากกระทงหลังเสร็จสิ้นประเพณียี่เป็ง

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 ที่บริเวณประตูระบายน้ำป่าแดด ตำบลป่าแดด อำเภอเมืองเชียงใหม่ ได้มีการจัดกิจกรรม จิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจ โดยมีนายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เดินทางมาเป็นประธานในการเปิดพิธี ในการนำโดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ตัวแทนหน่วยงานเกี่ยวของ นักเรียน เยาวชน กลุ่มจิดอาสาทำความดี และประชาชนในพื้นที่ จำนวนกว่า 100 คน ช่วยกันในการจัดเก็บกระทงทั้งหมดไปคัดแยก ก่อนนำไปทำปุ๋ยและบางส่วนที่ใช้ไม่ได้ก็นำไปทำลาย เป็นการช่วยรักษาระดับน้ำและความสมดุลย์ระบบนิเวศ

สำหรับบรรยากาศในปีนี้พบว่ามีประชาชน นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เข้ามาร่วมงานประเพณีกันอย่างเนืองแน่น แต่เมื่อมาดูในส่วนของกระทงที่ถูกลอยลงสู่ลำน้ำปิงแล้วพบว่าในปีนี้มีปริมาณลดลงน้อยลง ทั้งนี้จากสถิติ 3 ปีย้อนหลัง ปี 2559 จำนวน 300 ตัน ปี 2560 จำนวน 120 ตัน และปี 2561 จำนวน 70 ตัน แต่มาในปีนี้มีไม่ถึง 40 ตัน

ซึ่งถือว่าในปีนี้ จำนวนกระทงลดลงไปเป็นอย่างมาก ส่วนหนึ่งมาจากการที่ประชาชนให้ความร่วมมือในการลดจำนวนกระทงโดยการรณรงค์ในเรื่องของ 1 ครอบครัว 1 กระทง อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ทางชลประทานเชียงใหม่ ได้นำเครื่องจักรมาทำการจัดเก็บกระทงออกไป ไม่ให้มีตกค้าง พร้อมจัดเรือออกตรวจสอบ ตลอดลำน้ำปิงตั้งแต่เหนือลงมาจนถึงประตูระบาย เพื่อจัดเก็บกระทงตกค้าง เพื่อไม่ให้เกิดเน่าเสียในลำน้ำ ซึ่งคาคว่าจะใช้เวลากำจัดเศษซากกระทงและขยะมูลฝอยอื่นๆ ให้แล้วเสร็จประมาณ 2 วัน

ม.แม่โจ้อาสา เก็บขยะกระทงไปทำปุ๋ยหมัก

เช้าวันพุธที่ 13 พฤศจิกายน 2562 รศ.ดร.อภินันท์ สุวรรณรักษ์ อาจารย์คณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ. และอาจารย์ที่ปรึกษาองค์กรนักศึกษา มหาวิทยาลัยแม่โจ้ แจ้งว่า ทางมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้นำนักศึกษา จากคณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ และองค์การนักศึกษา จำนวน 50 คน ซึ่งเป็นนักศึกษาจิตอาสา พร้อมด้วย ทีมงานของ คุณพีระวัตร โค้วตระกลู NG River GUIDES เจ้าของเรือคายัค และทีมงาน ร่วมกันพายเรือคายัค เก็บกระทงที่จะไปมีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม เป็นอีกภารกิจของแม่โจ้ที่เราจะช่วยดูแลสังคม ที่ประตูน้ำแม่น้ำปิง ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ หลังงานเทศกาลลอยกระทงของจังหวัดเชียงใหม่

โดยขยะกระทงเหล่านี้จะส่งมอบให้กับเทศบาลนำไปทำเป็นปุ๋ยหมักโดยวิธี การทำปุ๋ยหมักแบบไม่พลิกกลับกอง ผลงานวิจัยคณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ซึ่งเป็นการบูรณาการร่วมกัน ทั้งการสืบสานประเพณี ช่วยดูแลรักษาทรัพยากรน้ำ และนำขยะกลับมาใช้ประโยชน์ทางการเกษตรต่อไป

จังหวัดเชียงใหม่ แจงเหรียญมีสองด้าน จากเหตุการณ์นักท่องเที่ยวปิดถนนปล่อยโคม ฝ่าฝืนประกาศคำสั่งห้ามปล่อยในตัวเมืองเชียงใหม่

รองผู้ว่าฯ เชียงใหม่ แจงเหรียญมีสองด้าน จากเหตุการณ์นักท่องเที่ยวปิดถนนปล่อยโคม ฝ่าฝืนประกาศคำสั่งห้ามปล่อยในตัวเมืองเชียงใหม่ เตรียมนำบทเรียนแก้ไขในปีถัดไป

เมื่อคืนวันที่ 11 พ.ย. 62 บนถนนท่าแพ ไปจนถึงสะพานนวรัฐ เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มางานลอยกระทง แต่ปีนี้จังหวัดเชียงใหม่ ออกประกาศชัดเจน ห้ามปล่อยโคม แต่ดูเหมือนจะห้ามนักท่องเที่ยวไม่ได้ เพราะกลัวกระทบกับการท่องเที่ยว ทำได้แต่ไล่จับคนขายโคมบริเวณงานไม่ให้นำมาขาย แต่นักท่องเที่ยวก็เดินถือเข้ามาแล้วยืนกันเต็มถนน ก่อนจะพร้อมใจกันจุดลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าจำนวนมาก

เช้านี้ 12 พ.ย. 62 ที่ห้องประชุม 4 ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้พูดถึงเรื่องการปล่อยโคมว่า ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ไม่มีเที่ยวบินตั้งแต่ 19.00 น.แล้ว แต่ที่ควบคุมคือก่อนช่วงเวลาดังกล่าว ที่จะไม่ให้มีการปล่อย เพราะเกรงว่าจะกระทบกับการบิน ส่วนเรื่องการจับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ปล่อยโคม เพราะฝ่าฝืน นั้น จะทำให้ส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยวได้

เหรียญมีสองด้าน คนที่เคยถูกโคมไฟตกลงที่บ้านแล้วเกิดเพลิงไหม้ ก็จะคิดไปอีกแบบ และคนที่ไม่เคยเกิดเพลิงไหม้กับบ้าน หรือทรัพย์สินตนเองก็จะคิดไปอีกแบบ แต่จะทำอย่างไรให้เกิดการลงตัวและไม่เกิดปัญหา ในปีนี้ยอมรับว่า ภาคธุรกิจได้ตกลงกับลูกค้าไปก่อนแล้ว ทำได้แต่เพียงไม่ให้มาปล่อยในพื้นที่ตัวเมือง และในรัศมีที่กำหนด ยอมรับว่าปีนี้มีการปล่อย แต่ก็ถือว่าการควบคุมและให้มีการปล่อยน้อยกว่าที่ผ่านอย่างเห็นได้ชัด แต่ในปีหน้า ก็จะต้องมาทำกติกากันให้ชัดเจน หาจุดลงตัวว่าจะทำอย่างไรร่วมกันได้บ้างระหว่างภาคธุรกิจ กับประเพณี วัฒนธรรม และความปลอดภัยในด้านการบิน ด้านอัคคีภัย เพื่อให้เกิดความเหมาะสม และจังหวัดเชียงใหม่ ควรต้องรณรงค์ให้มากขึ้น ประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น แล้วนำเอาวัฒนธรรมจุดผางประทีป และวัฒนธรรมล้านนามาส่งเสริมการท่องเที่ยวแทนการปล่อยโคม

ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ยกเลิกและเปลี่ยนแปลงเที่ยวบิน 151 เที่ยวบิน กลัวโคมลอยช่วงจัดงานยี่เป็ง

เรืออากาศโท ธนันท์รัฐ ประเสริฐศรี รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลยี่เป็ง ระหว่างวันที่ 10-12 พฤศจิกายน 2562 (ข้อมูล ณ วันที่ 6 พฤศจิกายน 2562) ในช่วงเทศกาลลอยกระทงตามพระราชบัญญัติการเดินอากาศ (ฉบับที่ 14) พ.ศ.2562 อย่างเคร่งครัด ขณะที่สายการบินยกเลิกและเปลี่ยนแปลงเวลาทำการบินหลังเวลา 18.00 น.จำนวนทั้งสิ้น 151 เที่ยวบิน ลดความเสี่ยงอันตรายที่อาจเกิดกับอากาศยาน คิดเป็นร้อยละ 22.63 ของเที่ยวบินที่ทำการบินทั้งหมดในช่วงเวลาดังกล่าว โดยเที่ยวบินที่ยกเลิก จำนวน 96 เที่ยวบิน แบ่งเป็นเที่ยวบินในประเทศ 66 เที่ยวบิน และเที่ยวบินระหว่างประเทศ 30 เที่ยวบิน และเที่ยวบินที่เปลี่ยนแปลงเวลาทำการบินจำนวนทั้งสิ้น 55 เที่ยวบิน เป็นเที่ยวบินภายในประเทศ 41 เที่ยวบิน และเที่ยวบินระหว่างประเทศ 14 เที่ยวบิน

ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงและยกเลิกเที่ยวบินดังกล่าว คาดว่าน่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการประชาชน เนื่องจากสายการบินได้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวทราบล่วงหน้า เพื่อวางแผนการเดินทางที่เหมาะสมแล้ว พร้อมกันนี้ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้เข้มงวดมาตรการรักษาความปลอดภัย เพิ่มความเข้มข้นในการดำเนินการรักษาความปลอดภัย อาทิ เพิ่มวงรอบการตรวจการณ์ ทั้งภายในอาคารผู้โดยสาร และบริเวณพื้นที่รอบท่าอากาศยาน ตั้งจุดสุ่มตรวจยานพาหนะ ที่ผ่านเข้ามาในพื้นที่ท่าอากาศยานเป็นระยะ สุ่มตรวจสัมภาระและผู้โดยสารตามมาตรฐานที่กำหนด สุ่มตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ของพนักงานที่ปฏิบัติงานในเขตการบิน รวมทั้งห้ามจอดยานพาหนะบริเวณชานชาลา หน้าอาคารผู้โดยสารอย่างเด็ดขาด เพื่อดูแลความปลอดภัยและป้องปรามกลุ่มผิดกฎหมายที่อาจฉวยโอกาสกระทำการในช่วงผู้โดยสารคับคั่ง พร้อมกันนี้ขอให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาในการเดินทางมายังท่าอากาศยานมากกว่าปกติ เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าว จะมีผู้โดยสารคับคั่งแออัดตลอดทั้งวัน

สำหรับการรณรงค์เรื่องการปล่อยโคมลอยให้ปลอดภัย ก่อนหน้านี้ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้มีหนังสือขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานราชการและเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น วัด สถานศึกษาและชุมชนที่อยู่ในเขตความปลอดภัยในการเดินอากาศ ประชาสัมพันธ์แก่ประชาชนให้รับทราบถึงแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการปล่อยโคมลอยในช่วงเทศกาลลอยกระทง โดยเน้นย้ำให้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการเดินอากาศ (ฉบับที่ 14) พ.ศ.2562 มาตรา 33 อย่างเคร่งครัด คือห้ามมิให้บุคคลใดจุดและปล่อยหรือกระทำการใด เพื่อให้บั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นไปสู่อากาศ ซึ่งเป็นการรบกวนหรือก่อให้เกิดอันตรายต่อการเดินอากาศหรือการปฏิบัติการของอากาศยาน อย่างไรก็ตามหากการกระทำดังกล่าวอยู่นอกเขตปลอดภัยการเดินอากาศขอให้ปฏิบัติตามประกาศ

จังหวัดเชียงใหม่ ในเรื่องมาตรการป้องกันและการรักษาความปลอดภัยและการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชนในการจุดและปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน (ว่าวฮม) หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นสู่อากาศ พ.ศ.2559 ต่อไป

นอกจากนี้ยังได้ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชน กำนันผู้ใหญ่บ้าน และช่องทาง Social Media และเปิดช่องทางให้สอบถาม และตรวจสอบพื้นที่ปล่อยโคมลอยจังหวัดเชียงใหม่ ผ่าน Application Line ซึ่งมีผู้สอบเข้ามาจำนวนมาก ขณะเดียวกัน ยังได้เพิ่มรอบความถี่ในการตรวจทางวิ่งทางขับจากเดิมวันละ 4 ครั้ง เป็น 10 ครั้ง เพื่อตรวจเก็บซากโคมที่อาจถูกกระแสลมพัดมาตกในพื้นที่เขตการบิน พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังการเก็บโคมลอยและโคมควัน โดยพร้อมออกไปเก็บซากโคมลอยได้ทันที หากได้รับแจ้งจากหอบังคับการบินหรือจากนักบิน

ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมและสืบสานประเพณีลอยกระทง โดยได้ประดับ โคมไฟและโคมแขวนภายในอาคารผู้โดยสาร ซึ่งเป็นรูปแบบกิจกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และอัตลักษณ์เฉพาะตามวิธีพุทธ และประเพณีเดือนยี่เป็ง เพื่อสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวในฐานะประตูสู่วัฒนธรรมล้านนา (Gateway to Lanna Heritage) อีกด้วย

ขอบคุณภาพจาก ท่าอากาศยานเชียงใหม่

เปิดงาน Money Expo Chiangmai 2019 มหกรรมการเงินเชียงใหม่ ครั้งที่ 14 กระตุ้นเศรษฐกิจการลงทุน

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 8 พ.ย. 62 ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดงานมหกรรมการเงินเชียงใหม่ ครั้งที่ 14 Money Expo Chiangmai 2019 ภายใต้แนวคิด Digital Orchestra ซึ่งวารสารการเงินการธนาคารจัดขึ้น โดย นายวิรุฬ พรรณเทวี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมให้การต้อนรับ ที่เชียงใหม่ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต

ภายในงานมีธนาคาร สถาบันการเงิน องค์กรภาครัฐและเอกชน รวม 38 แห่ง มาให้บริการอย่างครบวงจร ซึ่งลูกค้า ประชาชน และผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สามารถตัดสินใจใช้บริการได้ทันที ทั้งสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อส่วนบุคคล บัตรเครดิต สินเชื่อเอสเอ็มอี สินเชื่อเพื่อเริ่มต้นธุรกิจ สินเชื่อเพื่อการส่งออก สินเชื่อเพื่อการนำเข้า เงินฝากทุกประเภท รวมทั้งประกันชีวิต/ประกันภัย/ประกันสุขภาพ พร้อมทั้งธนาคารและสถาบันการเงินที่เข้าร่วมงานยังได้เตรียมโปรโมชั่นพร้อมเงื่อนไขที่ดีที่สุด ทั้งอัตราดอกเบี้ยต่ำที่สุดและผลตอบแทนที่คุ้มค่าที่สุด

ด้านบริการทางการลงทุน ตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย ได้ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน นำเสนอทางเลือกลงทุนหลากหลายช่องทาง ทั้งหุ้น อนุพันธ์ ทองคำ/โกลด์ฟิวเจอร์ส กองทุนรวม ด้วยแนวคิด “สร้างโอกาสทำกำไร สู่เป้าหมายเงินล้าน” ให้กับประชาชนนักลงทุนชาวเชียงใหม่ พร้อมมีทีมที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญมาให้คำแนะนำกลยุทธ์ในการลงทุนที่เหมาะสม และยังมีการสัมมนาจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน ซึ่งวันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายนนี้ เวลา 13.00-16.00 น. สัมมนาหัวข้อ “เลือกช้อนหุ้นดี เล็งทำกำไรท้ายปี” วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน เวลา 13.00-16.00 น.สัมมนาหัวข้อ “DIY เกษียณแบบเศรษฐี แค่บริหารเงินให้เป็น” และยังมีความบันทิงจากศิลปินดารา ที่จะมาร่วมสนุกและเปิดการแสดงมินิคอนเสิร์ตให้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด

ขอบคุณภาพจาก ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่

สวนสัตว์เชียงใหม่ จัดลอยกระทงเล่นสไลด์เดอร์ในโดมหิมะ อุณหภูมิติดลบ 7 องศา แห่งแรกของประเทศ

สวนสัตว์เชียงใหม่ จัดกิจกรรมลอยกระทงเย็นสุดขั้ว -7 องศา ที่โดมหิมะ เชียงใหม่ ซู สโนว์โดม ภายในสวนสัตว์เชียงใหม่ แห่งเดียวในประเทศไทย พร้อมตกแต่งบรรยากาศภายในสวนสัตว์เชียงใหม่ให้เข้ากับเทศกาลยี่เป็งของล้านนา ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-12 พฤศจิกายน 2562 นี้ ณ เชียงใหม่ ซู สโนว์โดม ภายในสวนสัตว์เชียงใหม่

เวลา 10.00 น.วันที่ 8 พ.ย. 62 นายวุฒิชัย ม่วงมัน อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ กล่าวถึงการจัดกิจกรรมพิเศษต้องรับเทศกาลลอยกระทงภายในสวนสัตว์เชียงใหม่ บริเวณด้านหน้าทางเข้าสวนสัตว์เชียงใหม่ได้มีการจัดซุ้มประตูป่าโดยใช้วัสดุธรรมชาติ พร้อมประดับด้วยโคมล้านนา และภายในเชียงใหม่ ซู สโนว์โดม บริเวณส่วนจัดแสดงได้มีการตกแต่งสถานที่ให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมลอยกระทงที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ และถ่ายภาพเป็นที่ระลึกซึ่งเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศไทย

พร้อมแจกฟรี! กระทงใบตองให้แก่นักท่องเที่ยว เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและบรรยากาศเทศกาลลอยกระทงของจังหวัดเชียงใหม่ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังจะได้ร่วมสนุกกับกิจกรรม สไลเดอร์บนลานน้ำแข็ง อีกด้วย ในช่วงเทศกาลลอยกระทงนี้ นักท่องเที่ยวสามารถมาสัมผัสอากาศหนาวเย็นแบบติดลบ 7 องศา กับบรรยากาศยี่เป็งล้านนาภายในเชียงใหม่ ซู สโนว์โดม ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนถึง วันที่ 12 พฤศจิกายน นี้เท่านั้น

องคมนตรี เปิดงานเกษตรภาคเหนือครั้งที่ 9 มุ่งเน้นนำนวัตกรรม เทคโนโลยีสมัยใหม่มาปรับใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

เมื่อเวลา 16.45 น.วันที่ 7 พ.ย. 62 พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี และประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง เป็นปรธานเปิดงานเกษตรภาคเหนือ ครั้งที่ 9 “นวัตกรรมเกษตรอัจฉริยะสำหรับคนรุ่นใหม่: Smart Agricultural Innovation for Next Generation” โดยมี นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์ นิเวศน์ นันทจิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รองศาสตราจารย์ ดร.ณัฐา โพธาภรณ์ คณบดีคณะเกษตรศาสตร์ และสถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ โดยภายในงานได้มีการจัดแสดงนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับทางด้านการทำเกษตรแนวใหม่ แนวคิดการทำเกษตร การออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร จาก 23 หน่วยงานมาร่วมจัดแสดงสินค้า และให้บริการ

พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ กล่าวว่า การจัดงานเกษตรภาคเหนือ เป็นกิจกรรมบริการวิชาการ ที่ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมากทั้งต่อหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่ร่วมจัดงาน รวมทั้งเป็นประโยชน์ต่อสังคม ชุมชน และที่สำคัญคือ ต่อตัวของเกษตรกรโดยตรง ที่จะได้เรียนรู้และรับทราบข้อมูลข่าวสารการพัฒนาเทคโนโลยี การเกษตรที่ทันสมัย และสามารถที่จะนำองค์ความรู้ต่างๆ ไปพัฒนาระบบการผลิตให้ดีและมีมาตรฐาน ซึ่งจะทำให้ผลผลิตมีคุณภาพ มีความปลอดภัย สามารถพัฒนาไปสู่การเป็น Smart Agriculture เป็นที่ยอมรับของตลาดและประชาคมโลก ในขณะเดียวกันเกษตรกรก็จะมีคุณภาพชีวิตและฐานะทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น

งานเกษตรภาคเหนือ ครั้งที่ 9 จัดโดยคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรอิสระ และกลุ่มเกษตรกร ภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมเกษตรอัจฉริยะสําหรับคนรุ่นใหม่ : Smart Agricultural Innovation for Next Generation รวมพลังสร้างสรรค์องค์ความรู้สู่ชุมชน” ภายในงานมีการนำเสนอผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่มีความโดดเด่น ทั้งทางด้านพืช ปศุสัตว์ ประมง คุณภาพดิน สิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีชีวภาพ เทคโนโลยีอาหาร เทคโนโลยีการเกษตร และเทคโนโลยีพลังงาน ในรูปแบบเชิงสาธิต ที่ให้ผู้เข้าชมงานได้รับความรู้และตัวอย่างที่สามารถสัมผัสได้จริง มีการจัดนิทรรศการนวัตกรรมเทคโนโลยีเกษตรสมัยใหม่ นิทรรศการจากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ มูลนิธิโครงการหลวงและโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดาริ นิทรรศการจากองค์กรอิสระและเครือข่ายเกษตรกร นิทรรศการคณะเกษตรศาสตร์ และหน่วยงานในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และนิทรรศการนวัตกรรมแห่งเอเชียโดยบริษัทด้านการเกษตรจากต่างประเทศกว่า 50 บริษัท

นอกจากนี้ ยังจัดการประชุมและเสวนาวิชาการอีกมากมาย อาทิ เทคโนโลยีโรงเรือน ระบบน้ำ เกษตรออนไลน์ เกษตรแม่นยำ แมลงอุตสาหกรรมใหม่ และกัญชาในอนาคต การจัดประกวดพันธุ์ข้าวพื้นเมือง กล้วยไม้ ไม้ประดับ การประกวดปลากัด ปลาหมอสี ปลาหางนกยูงระดับนานาชาติ และงูสวยงาม พร้อมทั้งการฝึกอบรมวิชาชีพระยะสั้นกว่า 20 หลักสูตร และยังมีร้านค้าสินค้าเกษตร สินค้าพรีเมี่ยม กาดวัฒนธรรม Smart market และคาราวาน Food truck กว่า 20 คัน มาร่วมจำหน่ายสินค้าให้กับผู้มาเข้าชมงานในครั้งนี้อีกด้วย

ผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมงานเกษตรภาคเหนือ ครั้งที่ 9 ได้ระหว่างวันที่ 7-11 พฤศจิกายนนี้ เวลา 09.00 – 21.00 น. ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ เฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่

เชียงใหม่จัดกิจกรรมจิตอาสาทำความดีด้วยหัวใจ กำจัดวัชพืช และพัฒนาริมตลิ่งแม่น้ำปิง เตรียมรับเทศกาลลอยกระทงที่จะถึงนี้

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 7 พฤศจิกายน 2562 ที่บริเวณหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เชิงสะพานนวรัฐ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการจัดกิจกรรมจิตอาสา เราทำความดีด้วยหัวใจ โดยมีนายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในการจัดกิจกรรมดังกล่าว

ซึ่งได้มี ประชาชนจิตอาสา เจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 5 ตัวแทนส่วนราชการ และกำลังทหารจากมณฑลทหารบกที่ 33 จำนวนกว่า 300 คน มาร่วมกันกำจัดวัชพืช และพัฒนาริมตลิ่งแม่น้ำปิง เตรียมรับเทศกาลลอยกระทงที่จะถึงนี้

โดยกิจกรรมในครั้งนี้เป็นการดำเนินงานตามโครงการจิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” ซึ่งได้มีการร่วมกันหลายๆหน่วยงาน ในการออกกำจัดวัชพืชและพัฒนาริมตลิ่งสองฝั่งแม่น้ำปิง เพื่อความสวยงาม เตรียมรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาเที่ยวยังจังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงเทศกาลลอยกระทง เป็นการสร้างจิตสำนึกให้กับประชาชนได้ตระหนักถึงการรักษาความสะอาด เพื่อให้เมืองเชียงใหม่เป็นเมืองที่สะอาดและน่าอยู่ เกิดความสวยงาม ทำให้นักท่องเที่ยวอยากมาเที่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่