คณะกรรมาธิการการพาณิชย์การอุตสาหกรรมและแรงงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติลุยศึกษาดูงานบริษัท ซันสวีท ตามโครงการ Northern Food Valley Food Safety

พลเอกสิงห์ศึก สิงห์ไพร ประธานคณะกรรมาธิการการพาณิชย์ การอุตสาหกรรมและการแรงงาน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ พร้อมด้วยคณะกรรมาธิการการพาณิชย์ การอุตสาหกรรม ได้เดินทางไปยังบริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) หมู่ที่ 1 ตำบลทุ่งสะโตก อำเภอสันป่าตอง เชียงใหม่ เพื่อศึกษาดูงานเกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในอุตสาหกรรมการเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร รวมถึงรับฟังบรรยายสรุปจากผู้บริหารและสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เกี่ยวกับการดำเนินงาน ตามโครงการ Northern Food Valley Food Safety รวมทั้งปัญหาและอุปสรรค รวมถึงแนวทางการปรับปรุงและแก้ไขปัญหา

สำหรับโครงการ Northern Food Valley Food Safety นั้นถือเป็นโครงการที่กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้ลงนามบันทึกความร่วมมือเพื่อร่วมกันบูรณาการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันภาคอุตสาหกรรมของไทย โดยผลักดันให้เกิดการพัฒนาฐานข้อมูลการตลาดเชิงยุทธศาสตร์โดยเป็นการยกระดับมาตรฐานในทุกส่วนของห่วงโซ่อุปทานอาหารในกลุ่มภาคเหนือตอนบน 1 ตั้งแต่ต้นทางการผลิตไปจนถึงการบริโภค ผ่านการพัฒนาฐานข้อมูลการตลาดเชิงยุทธศาสตร์เพื่อนวัตกรรมอาหาร

พัฒนาให้เกิดห่วงโซ่คุณค่าและนวัตกรรม ผ่านการใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัยและเข้าถึงได้ง่าย การจัดการฐานข้อมูลการใช้ประโยชน์จากสารสนเทศ และยังมองถึงกลไกการสร้างเครือข่ายและการขับเคลื่อน เพื่อความยั่งยืนของโซ่อุปทานอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งจะทำให้เกษตรกรต้นน้ำ ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมกลางน้ำและปลายน้ำ และภาครัฐ สามารถใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลที่สมบูรณ์ที่สุด และถูกรวบรวมไว้ในที่เดียว รวมทั้งส่งเสริมให้เกิดการค้าการลงทุนใหม่ๆ ผ่านการจัดการข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำ และสามารถนำไปใช้ต่อยอดได้ง่ายต่อไป

สันกำแพง ต้นแบบศูนย์เรียนรู้ฯ เทศบาลเมืองคูคต จ.ปทุมธานี แห่ดูงานสร้างรายได้สู่ชุมชนเกือบแสนบาท

สันกำแพง ต้นแบบศูนย์เรียนรู้ฯ เทศบาลเมืองคูคต จ.ปทุมธานี แห่ดูงานสร้างรายได้สู่ชุมชนเกือบแสนบาท

นายสมพล แสนคำ เกษตรจังหวัดเชียงใหม่ มอบหมายให้นางแจ่มจันทร์ ล่ามช้าง เกษตรอำเภอสันกำแพง ต้อนรับคณะเจ้าหน้าที่พร้อมประชาชน เทศบาลเมืองคูคต จังหวัดปทุมธานี จำนวนกว่า 360 คน เข้าศึกษาดูงานศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร และเครือข่ายศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรสันกำแพง กลุ่มวิสาหกิจ กลุ่ม Young Smart Farmer ณ ศูนย์เครือข่ายศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรบ้านม่วงเขียว ตำบลร้องวัวแดง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่

สำหรับกิจกรรมครั้งนี้ ได้มีการจัดตลาดนัดวิสาหกิจชุมชน เพื่อจำหน่ายสินค้าในแก่ผู้มาเยี่ยมชมด้วย มีกลุ่มวิสาหกิจและกลุ่ม Young Smart Farmer มาร่วมจัดตลาดกว่า 25 กลุ่ม มียอดจำหน่ายสินค้ากว่า 90,000 บาท ซึ่งศูนย์เครือข่ายศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรบ้านม่วงเขียว ถือเป็นอีกหนึ่งต้นแบบในการพัฒนาสินค้าและการตลาด ที่ควรนำมาเป็นแบบอย่างอีกแห่งหนึ่ง ที่ทำให้เกษตรกรในพื้นที่ สามารถมีรายได้นำมาเลี้ยงครอบครัว และสามารถนำมาต่อยอดทางด้านธุรกิจได้สำเร็จ

9 พฤษภาคม สดร. ชวนชม ดาวพฤหัสบดีใกล้โลกที่สุดในรอบปี

9 พฤษภาคม สดร. ชวนชม ดาวพฤหัสบดีใกล้โลกที่สุดในรอบปี

ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ เปิดเผยว่า ดาวพฤหัสบดีจะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตรงข้ามกับดวงอาทิตย์ ซึ่งจะอยู่ในตำแหน่งใกล้โลกมากที่สุดในรอบปี ในช่วงรุ่งเช้าวันที่ 9 พฤษภาคม 2561 เวลาประมาณ 07:10 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ที่ระยะทางประมาณ 658 ล้านกิโลเมตร หรือ 4.40 หน่วยดาราศาสตร์ วันดังกล่าวดาวพฤหัสบดีจะปรากฏบนท้องฟ้ายาวนานตลอดคืน ตั้งแต่ดวงอาทิตย์ตกดินจนถึงรุ่งเช้า สว่างสุกใส สังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่าอย่างชัดเจนทางทิศตะวันออกเฉียงใต้

 

ดาวพฤหัสบดีอยู่ในตำแหน่งตรงข้ามดวงอาทิตย์ (Jupiter Opposition) หมายถึง ตำแหน่งที่ดวงอาทิตย์ โลก และดาวพฤหัสบดี เรียงอยู่ในเส้นตรงเดียวกัน มีโลกอยู่ตรงกลาง จึงเป็นตำแหน่งที่ใกล้โลกที่สุด นอกจากนี้การที่ดาวพฤหัสบดีอยู่ในตำแหน่งตรงข้ามกับดวงอาทิตย์ หมายถึงเมื่อดวงอาทิตย์ตกลับขอบฟ้า ดาวพฤหัสบดีก็จะโผล่พ้นขอบฟ้าทางทิศตะวันออก และจะปรากฏบนท้องฟ้าให้เรายลโฉมเป็นเวลายาวนานตลอดทั้งคืน จนถึงดวงอาทิตย์ขึ้นในเช้าวันถัดไป

ดร.ศรัณย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า วันที่ 9 พฤษภาคม 2561 ดาวพฤหัสบดีจะขึ้นจากขอบฟ้าทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ บริเวณกลุ่มดาวคันชั่ง (Libra) ตั้งแต่เวลาประมาณ 19:00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) สามารถสังเกตเห็นดาวพฤหัสบดีด้วยตาเปล่าอย่างชัดเจนในทุกพื้นที่ของประเทศไทย และจะตกลับขอบฟ้าทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ เวลาประมาณ 06.00 น.

ในเช้าวันที่ 10 พฤษภาคม 2561 หากสังเกตด้วยกล้องสองตาหรือกล้องโทรทรรศน์ขนาดเล็ก จะเห็นดวงจันทร์บริวารหลักทั้ง 4 ดวงของดาวพฤหัสบดี หรือที่เรียกว่า ดวงจันทร์ของกาลิเลียน (Galilean Moons) ได้แก่ ไอโอ (Io) ยูโรปา (Europa) แกนิมีด (Ganymead) และคัลลิสโต (Callisto) รวมถึงแถบเมฆบนดาวพฤหัสบดีได้อีกด้วย และหากใช้กล้องโทรทรรศน์ที่มีหน้ากล้องตั้งแต่ 8 นิ้ว กำลังขยายตั้งแต่ 50 เท่าขึ้นไป จะมองเห็นจุดแดงใหญ่บนดาวพฤหัสบดี ได้อย่างชัดเจน ซึ่งคืนวันที่ 9 พฤษภาคม จะสังเกตเห็นจุดแดงใหญ่ได้ตั้งแต่เวลาประมาณ 19:00 – 20:00 น.

และจะปรากฏอีกครั้งในเวลาประมาณ 02:00 – 06:00 น. ของวันที่ 10 พฤษภาคม 2561 นอกจากการสังเกตการณ์ดาวพฤหัสบดีที่ใกล้โลกที่สุดในรอบปีแล้ว วันดังกล่าวยังมีปรากฏการณ์สุริยุปราคาบนดาวพฤหัสบดีให้ได้ติดตามกันด้วย โดยดวงจันทร์ยูโรปาจะโคจรผ่านหน้าดาวพฤหัสบดี เกิดเป็นปรากฏการณ์สุริยุปราคาบนดาวพฤหัสบดี ในช่วงเวลาประมาณ 18:20-20:36 น. นับเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่น่าติดตามอย่างยิ่ง และยังถือเป็นโอกาสดีในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ดาราศาสตร์นอกห้องเรียนแก่นักเรียนและประชาชนในชุมชนใกล้เคียงได้

สดร. เตรียมจัดกิจกรรมสังเกตการณ์ตั้งกล้องโทรทรรศน์บริการประชาชนร่วมชม “ดาวพฤหัสบดีใกล้โลกที่สุดในรอบปี” และ “ปรากฏการณ์สุริยุปราคาบนดาวพฤหัสบดี” ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2561 ตั้งแต่เวลาประมาณ 18:00-22:00 น. เชิญชวนผู้สนใจร่วมกิจกรรมได้ ณ จุดสังเกตการณ์หลัก 4 แห่ง ได้แก่ 1.เชียงใหม่ ที่อุทยานดาราศาสตร์สิรินธร อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ 2.นครราชสีมา ที่หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา นครราชสีมา 3.ฉะเชิงเทรา ที่หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ฉะเชิงเทรา และ 4.สงขลา ที่ลานชมวิวนางเลือก หาดสมิหลา อ.เมือง จ.สงขลา

อบจ.เชียงใหม่ จัดอบรมกู้ภัยทางสูงขั้นต้น รุ่นที่ 4

อบจ.เชียงใหม่ จัดอบรมกู้ภัยทางสูงขั้นต้น รุ่นที่ 4

นายไพรัช ใหม่ชมภู รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด รักษาราชการแทนนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกอบรมกู้ภัยทางสูงขั้นต้น ประจำปีงบประมาณ 2561 รุ่นที่ 4 โดยมีเจ้าหน้าที่ศูนย์กู้ภัยและมวลชนสัมพันธ์ภาคเหนือตอนบน ศูนย์กู้ภัยและมวลชนสัมพันธ์ภาคเหนือตอนล่าง ศูนย์กู้ภัยและมวลชนสัมพันธ์ภาคตะวันตก อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ และอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก เข้ารับการอบรม จำนวน 80 คน

เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพกู้ภัยทางสูงให้แก่ทีมกู้ภัยให้สามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย ได้อย่างถูกต้องตามหลักสากล เพื่อลดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สิน สร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติในการเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ณ ศูนย์การเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริฯ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่

เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เปิดโลกกว้าง มอบโอกาส เด็กเรียนรู้นอกห้องเรียน ศึกษาทรัพยากรธรรมชาติและสัตว์ป่าในสถานที่จริง

เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เปิดโลกกว้าง มอบโอกาส เด็กเรียนรู้นอกห้องเรียน ศึกษาทรัพยากรธรรมชาติและสัตว์ป่าในสถานที่จริง

นางเนตรนภา สุทธิธรรมดำรง ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร เชิญชวนเยาวชนร่วมเรียนรู้นอกห้องเรียนปลูกฝังรากฐานของการรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในโครงการ “ปลูกปัญญาสร้างองค์ความรู้อย่างยั่งยืนกับเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี” เพื่อสร้างโอกาสทางการเรียนรู้แก่เยาวชนอย่างทั่วถึง ทั้งโรงเรียนภาครัฐ รวมถึงสถาบัน หน่วยงาน สถานสงเคราะห์เด็ก ฯลฯ ที่มีงบประมาณจำกัด

มาร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ในด้านทรัพยากรธรรมชาติและสัตว์ป่าในสถานที่จริง ประสบการณ์จริง มีอิสระที่จะเรียนรู้ในสิ่งที่ตนเองสนใจ มีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมรอบตัว ได้เรียนรู้ชีวิตสัตว์ป่าและได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด รวมถึงการพัฒนาด้านจินตนาการของน้องๆ เยาวชนได้เป็นอย่างดี อีกทั้งเชียงใหม่ไนท์ซาฟารียังมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมายที่ไม่เพียงแต่ให้ความบันเทิงเท่านั้น แต่ยังให้ประโยชน์ให้ความรู้ในด้านสิ่งแวดล้อมและศิลปวัฒนธรรม อีกด้วย

ที่ผ่านมาโครงการดังกล่าว ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ที่ร่วมมอบโอกาสในการเรียนรู้ อาทิ บริษัทเมืองไทยประกันชีวิตจำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารออมสิน บริษัทปตท.จำกัด (มหาชน) สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นต้น ทั้งนี้ สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) จึงขอเชิญชวนหน่วยงานที่มีงบประมาณจำกัด ที่สนใจเข้าร่วมโครงการ “ปลูกปัญญาสร้างองค์ความรู้อย่างยั่งยืนกับเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี”

สามารถติดต่อได้ที่ สำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เลขที่ 33 หมู่ 12 ต.หนองควาย อ.หางดง จ.เชียงใหม่ โทรศัพท์ 053 – 999000 โทรสาร 053 – 999099 โดยจัดส่งหนังสือแจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน โดยระบุวัน เวลา จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม และหมายเลขโทรศัพท์มือถือในการติดต่อกลับ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือติดต่อร่วมสนับสนุนโครงการฯ ได้ที่ ฝ่ายงานประชาสัมพันธ์ฯ สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) โทร. 053 – 920000

อาจารย์แพทย์ มช. สุดเจ๋ง ได้รับคัดเลือกจากสมาคมโรคเอดส์สากลให้เป็น 1 ใน 5 นักวิทยาศาสตร์หญิง ที่ทำงานด้าน เอช.ไอ.วี

อ.ดร.พญ.ทวิติยา สุจริตรักษ์ อาจารย์ประจำหน่วยโรคติดเชื้อ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นักวิทยาศาสตร์หญิงรุ่นใหม่ ซึ่งได้ทำงานเป็นอาจารย์แพทย์ที่ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ รับผิดชอบงานสอนสำหรับนักศึกษาแพทย์ณ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ นอกจากนี้ยังมีความสนใจทางด้านงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับโรคติดเชื้อเอชไอวี จนเป็นที่ยอมรับของสมาคมโรคเอดส์สากล และได้รับคัดเลือกเป็น 1 ใน 5 นักวิทยาศาสตร์หญิงรุ่นใหม่ ที่ทำงานด้านโรคติดเชื้อเอช.ไอ.วี เนื่องในวัน International Day of Women and Girls in Science เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2561

อ.ดร.พญ.ทวิติยา สุจริตรักษ์ อาจารย์ประจำหน่วยโรคติดเชื้อ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สำหรับแรงบันดาลใจที่ทำให้ตนสนใจที่จะทำงานด้านโรคติดเชื้อเอชไอวีในเด็กและวัยรุ่นนั้น เริ่มต้นจากเมื่อครั้งตนเป็นนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 4 ที่ได้หมุนเวียนมาปฏิบัติงานที่ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ ซึ่งในช่วงเวลานั้นมีผู้ป่วยเด็กด้วยโรคติดเชื้อเอชไอวีและโรคเอดส์เป็นจำนวนมากที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล เนื่องจากมีโรคติดเชื้อฉวยโอกาสแทรกซ้อนจากภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องอย่างมาก เด็กเหล่านี้บางรายมีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต

ดังนั้นจึงเป็นที่มาของความสนใจที่จะทำงานวิจัยทางด้านนี้โดยมุ่งหวังว่าองค์ความรู้ที่ได้จากงานวิจัยเหล่านี้จะช่วยหาแนวทางป้องกันและรักษาความผิดปกติต่างๆ ที่เกิดขึ้น และท้ายที่สุดจะสามารถช่วยให้เด็กและวัยรุ่นเหล่านี้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพชีวิตดี ใกล้เคียงกับผู้ที่ไม่ติดเชื้อเอชไอวีได้ในอนาคต โดยผลงานวิจัยเหล่านี้บางส่วนได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติ และบางส่วนได้ถูกนำไปเสนอผลงานในงานประชุมวิชาการระดับนานาชาติเรียบร้อยแล้ว ซึ่งผลงานเหล่านี้ทำให้ได้รับรางวัลทางการวิจัยหลายรางวัลในช่วงเวลาที่ผ่านมา

เทศบาลเชิงดอย ชวนประชาชน ร่วมทอดผ้าป่าต้นไม้

เทศบาลเชิงดอย ชวนประชาชน ร่วมทอดผ้าป่าต้นไม้

นายชุติพนธ์ สารแปง นายกเทศมนตรีตำบลเชิงดอย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่าทางเทศบาลตำบลเชิงดอย ได้มีโครงการที่จะทำให้พื้นที่โดยรอบหนองบัวพระเจ้าหลวง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะหนองบัวพระเจ้าหลวง ในอดีตเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ หนองบัวพระเจ้าหลวง เป็นหนองน้ำธรรมชาติที่มีเนื้อที่ 102 ไร่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของอำเภอดอยสะเก็ดและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดเชียงใหม่

ในอดีต ในช่วงปี พ.ศ. 2500 หนองน้ำแห่งนี้มีดอกบัวและนกเป็ดน้ำอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้มีประชาชนนักท่องเที่ยวในอดีตเดินทางมาท่องเที่ยวและพักผ่อนชมความสวยงามเป็นจำนวนมาก แต่เวลาก็กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ถูกลืม จนตนเองเข้ามารับตำแหน่งนายกเทศมนตรีที่นี่ก็แนวคิดที่จะพลิกฟื้น ให้กลับมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกครั้งของจังหวัดเชียงใหม่

ตนจึงมีแนวคิดจะปรับปรุงพื้นที่ให้สวยงาม ด้วยต้นไม้ที่เป็นสีเหลือง ซึ่งต้นไม้ดอกเหลืองปรีดียธร เป็นไม้ยืนต้น ออกดอกสีเหลือสวยงาม รวมถึงพรรณไม้อื่นๆ แต่ติดปัญหาด้านงบประมาณจะนำมาใช้ จึงจัดทำผ้าป่าปลูกต้นไม้ขึ้นมา โดยขอบอกบุญทอดผ้าป่าต้นไม้ดอกเหลืองปรีดียธร เพื่อปลูกโดยรอบหนองบัวพระเจ้าหลวงให้สวยงามเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของเชียงใหม่เหมือนอดีตที่ผ่านมา

ดอกเหลืองปรีดียธร ที่จะใช้ปลูก 2 ฝั่งจำนวนฝั่งละ 700 ต้นรวม 1,400 ต้น ราคาขนาด 3-4 นิ้วต้นละ 500 บาท ส่วนขนาด 6-8 นิ้ว ราคา 3,000 บาท และ ต้นไม้ดอกชมภูพันธ์ทิพ จำนวน 60 ต้นที่จะนำมาปลูกรอบศาลาเก้าเหลี่ยมและทางเข้า ราคาต้นละ 5,000 บาท จึงขอเชิญร่วมบริจาคทอดผ้าป่าต้นไม้เพื่อปลูกรอบหนองบัวพระเจ้าหลวง ในวันที่ 27 ก.ค.61

สามารถติดต่อได้ที่ โทร 104900 ต่อ 11 หรือ 0856958303-4 หรือโอนเงินเข้าบัญชีชื่อ กองทุนทอดผ้าป่าต้นไม้ เลขที่บัญชี 989-7-89996-0 ธนาคารกรุงไทย สำหรับผู้ที่โอนแล้วกรุณาโทรแจ้งตามหมายเลข ส่วนผู้ที่ร่วมเป็นเจ้าภาพทางเทศบาลจะเตรียมขุดหลุมไว้ให้ท่านมาปลูกพร้อมทำป้ายชื่อไว้ที่ต้นดอกนี้ใครเป็นผู้บริจาคไว้ที่ต้นไม้ให้ด้วย

เชียงใหม่ ซู อควาเรียม เตรียมจับเอานางเงือก มาว่ายน้ำโชว์ เพื่อเอาใจเด็กๆในช่วงปิดเทอมหน้าร้อน

นายนฤทัต เจริญเศรษฐศิลป์ ประธานบริหารเชียงใหม่ ซูอควาเรียม ได้เปิดเผยว่า ในช่วงนี้ถือเป็นช่วงปิดเทอมของเด็กๆนักเรียน ทางเชียงใหม่ ซูอควาเรียม จึงได้มีการจัดกิจกรรมเพื่อเอาใจคุณหนูๆ ในช่วงปิดเทอมหน้าร้อนนี้ ด้วยการนำพันธุปลาหลากชนิดมาให้ชมเพื่อให้เด็กนักเรียน นักศึกษา เยาวชน ได้เดินทางมาศึกษาหาความรู้

นอกจากนี้ยังได้ร่วมมือกับ Mermaid Star Thailand จัดการแสดงชุดพิเศษ ” The Real Life Mermaid ” โดยได้มีการนำเหล่านางเงือก มาแหวกว่ายน้ำร่วมกับปลาสายพันธุ์ต่างๆ และป้อนให้อาหารปลาเพื่อโชว์ให้กับน้องๆได้ชมกันอย่างจุใจ ในอุโมงค์น้ำตืดและน้ำเค็มที่มีความยาวกว่า 133 เมตร ระหว่างวันที่ 11 – 12 พ.ค. 61

นอกจากนี้ยังได้จัดโปรโมชั่นเพื่อเอาใจนักท่องเที่ยวและยังลดราคาบัตรเข้าชมครั้งใหญ่ จากปกติ ผู้ใหญ่ 290 บาท เหลือเพียง 220 บาท เด็กราคา 190 บาท เหลือเพียง 150 บาท รวมค่าเข้าสวนสัตว์ ดังนั้นจึงอยากเชิญวนมาเที่ยวซูอควาเรียมในช่วงปิดเทอมกันมากๆ

ชาวเชียงใหม่พิธีวางพวงมาลาถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต

ชาวเชียงใหม่พิธีวางพวงมาลาถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต

ที่บริเวณสถูปเจดีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชานุสรณ์ ตำบลเมืองงาย อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธาน ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลและวางพวงมาลาถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ประจำปี 2561 โดยมี เจ้านายฝ่ายเหนือ หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการพลเรือน ตุลาการ อัยการ ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้แทนองค์กรเอกชน และประชาชนทั่วไป ร่วมถวายเครื่องราชสักการะตามลำดับ

ทั้งนี้ จังหวัดเชียงใหม่ จะประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลและวางพวงมาลาถวายแด่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ในวันที่ 25 เมษายนของทุกปี ณ บริเวณสถูปเจดีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชานุสรณ์ เพื่อสำนักในพระมหากรุณาธิคุณ และแสดงความกตัญญูกตเวทิตา ที่พระองค์ทรงกอบกู้เอกราชของชาติไทย และทรงสถาปนาความเข้มแข็ง มั่นคง แก่ประเทศไทยมาในอดีตกาล อันนำมาซึ่งความสงบสุขร่มเย็น และเกียรติคุณภูมิของราชอาณาจักรไทยมาจนถึงปัจจุบัน

สำหรับ พระสถูปเจดีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชแห่งนี้ ประชาชนเมืองงายและชาวเชียงใหม่ ได้ร่วมกันก่อสร้างขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2508 ในบริเวณที่เชื่อกันว่าเป็นเส้นทางที่พระองค์กรีฑาทัพ และพักแรมก่อนเข้าทำศึกกับพระเจ้าอังวะ เมื่อปีมะเส็ง พุทธศักราช 2148 สมเด็จพระนเรศวรทรงประชวรเป็นฝีละลอกขึ้นที่พระพักตร์กลายเป็นพิษ และเสด็จสวรรคตที่เมืองหาง เมื่อวันจันทร์ ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 6 ตรงกับวันที่ 25 เมษายน ขณะพระชนมายุได้ 50 พรรษา รวมเวลาอยู่ในราชสมบัติได้ 15 ปี

จังหวัดเชียงใหม่เร่งตรวจสอบ มาตรฐานความปลอดภัยและอาชีวอนามัย เพื่อความปลอดภัยในการทำงาน

นายประจวบ กันธิยะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เดิทางไปเป็นประธานในการมอบใบประกาศเกียรติคุณโครงการขับเคลื่อนความปลอดภัยและอาชีวอนามัยของประเทศไทย ซึ่งจัดขึ้นที่โรงแรมเดอะปาร์ค เชียงใหม่ อําเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเป็นการแสดงถึงมาตรฐานความปลอดภัยในการทำงาน ในสถานประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดย่อม ที่มีการจัดระบบการบริหารและการจัดการด้านความด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมอย่างมีมาตรฐาน  โดยได้มีตัวแทนจากสถานประกอบการที่เข้าร่วมกิจกรรมในการรับใบประกาศเกียรติคุณทั้งสิ้น จํานวน 36 แห่ง

โดยทางด้าน นายประจวบ กันธิยะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จากสถิติการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยจากการทํางานจําแนกตาม ความรุนแรงและขนาดสถานประกอบกิจการปี 2558 ของสํานักงานกองทุนเงินทดแทน สํานักงานประกันสังคม พบว่าสถานประกอบกิจการที่มีลูกจ้าง ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยจากการทํางานจํานวนมาก ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่ก็ได้มี สถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมเป็นจำนวนมาก และที่ผ่านมาก็ประสบปัญหาในเรื่องของการขาดการบริหารและการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม ในการทํางาน อย่างมีประสิทธิภาพและต่อเนื่อง

เนื่องจากขาดความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับอันตรายในสถานประกอบกิจการดังนั้นทางงสํานักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการดําเนินโครงการความปลอดภัยและอาชีวอนามัยของประเทศไทยในระดับ จังหวัด เพื่อรณรงค์มาตรการเชิงป้องกันด้านความปลอดภัยในการทํางาน โดยได้มีการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยตามปัจจัยเสี่ยง ด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน เพื่อสร้างความปลอดภัยในการทํางานให้กับลูกจ้าง ส่งผลทำให้ มีสุขภาพ และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยปลูกจิตสํานึกด้านความปลอดภัยให้กับลูกจ้าง

 

ส่วนนายจ้างก็จะได้รับประโยชน์จากการที่ลูกจ้างทั้งหมดปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นการตอบแทน ซึ่งจะทําให้นายจ้างมีผลประกอบการที่ดีขึ้น และเกิดความปลอดภัย โดยภาพรวมของสถานประกอบกิจการ ส่งผลต่อความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในที่สุด ซึ่งหลังจากนี้ก็จะได้มีการดําเนินการสุ่มตรวจสอบสถารประกอบการต่างๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อให้การบริหารและการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางานในสถานประกอบกิจการเป็นไปอย่าง ยั่งยืนสืบไป