ปิดตำนานสิ้นแล้วกระเทยประตูท่าแพเชียงใหม่ หลายฝ่ายดีใจภาพลักษณ์การท่องเที่ยวดีขึ้น

ปิดตำนานสิ้นแล้วกระเทยประตูท่าแพ จ.เชียงใหม่ เศรษฐกิจซบเซา ตำรวจไล่จับ หันไปทำผ่านออนไลน์แทนการยืนเรียกแขกจนภาพออกมาฉาวโฉ่ หลายฝ่ายดีใจภาพลักษณ์การท่องเที่ยวดีขึ้น

ลานเอนกประสงค์ข่วงประตูท่าแพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นแลนด์มาร์กอีกจุดหนึ่งที่ใครมาก็ต้องมาถ่ายภาพบริเวณประตู และป้ายประตูท่าแพ ซึ่งมีความสวยงาม รวมถึงเป็นสถานที่จัดกิจกรรมต่างๆ มากมาย แต่สิ่งที่ตามมาคือ กลายเป็นแหล่งทำเงินให้กับหลายอาชีพ โดยเฉพาะทางด้านธุรกิจทัวร์ ที่มีนักท่องเที่ยวมาเดินบริเวณลานเอนกประสงค์ข่วงประตูท่าแพกันมากขึ้น แต่สิ่งที่อยู่เบื้องหลังก็คือ “กลุ่มสาวประเภทสอง” หรือเรียกว่า กระเทยท่าแพ เป็นกลุ่มหนึ่งที่ได้แฝงตัวออกมา โดยจะแต่งกายเป็นเหมือนผู้หญิง ออกมายืนในช่วงยามค่ำคืน เพื่อชักชวนให้นักท่องเที่ยวไปในเชิงด้านค้าประเวณีทำให้เกิดภาพลบในด้านการท่องเที่ยวของเมืองเชียงใหม่

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ออกมากวาดล้าง ไล่จับกุม จนกระทั่งกลุ่มเหล่านี้ได้เคลื่อนออกจากประตูท่าแพ ไปอยู่ตามมุมตึก ตามปากซอยที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกับลานประตูท่าแพแทน

แต่ปัจจุบันหากนักท่องเที่ยวไปก็จะพบว่ากลุ่มสาวประเภทสองเหล่านี้ที่ ได้เริ่มสูญหายไปมากแล้ว ด้วยสาเหตุหลายอย่าง และจากการสอบถามข้อมูลก็ทำให้รู้ว่า หลายคนไม่อยากออกมายืนแล้ว เพราะปัจจุบันทางด้านเศรษฐกิจก็ไม่ค่อยดี ไม่มีลูกค้ามา บางวันก็ได้บางวันก็ไม่ได้ และยังเสี่ยงหากถูกจับด้วย เมื่อถูกจับก็ต้องเสียค่าปรับ ก็ตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักพัน

หลายคนก็เคยถูกจับกุมทำประวัติมาก่อน แต่ก็ต้องกลับมาทำอีกเพราะไม่รู้จะไปทำงานอะไร แต่ก็มีเหมือนกันที่บางคนเลิกทำแล้วไปลองทำอาชีพอื่น บางคนก็ไปจับกลุ่มกันขึ้นมา แล้วทำเฉพาะกลุ่มแบบออนไลน์ มีลูกค้าประจำ ลูกค้าขาจรติดต่อผ่านเข้ามา เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ต้องถูกจับ แต่ก็มีบ้างที่บางครั้งออกมายืนอยู่บริเวณริมถนน แต่ก็ไม่ได้ทุกวัน

 

นายวัลลภ นามวงศ์พรหม คณะกรรมการสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ในมุมมองส่วนตัวคิดว่า เรื่องที่กลุ่มกระเทยท่าแพหายไปเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะประตูท่าแพนั้นขึ้นกับทางกรมศิลปกากร ถือเป็นมรดกของจังหวัดเชียงใหม่ หากใครไปทำสิ่งไม่ดีไม่งาม ก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควร ส่วนทางด้านเศรษฐกิจนั้นก็อาจจะเป็นปัจจัยส่วนหนึ่ง แต่ก็น้อย ซึ่งคิดว่าเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่หลายๆ ฝ่าย รวมถึงประชาชน มีความร่วมมือที่เข้มแข็ง ทำให้ลานท่าแพ เป็นลานกิจกรรม เป็นลานท่องเที่ยว

หลายภาคส่วนจับตาดูตลอดเวลา ทำให้กลุ่มเหล่านี้หายไปจากตรงนี้มากกว่า และหลายคนก็อาจจะมีช่องทางที่ไปติดต่อกันทางอื่นด้วย ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนเหล่านี้หายไป หากกลับมายืนบริเวณลานท่าแพ หรือใกล้กับลานท่าแพ ก็อาจถูกมองเหมือนเป็นสิ่งไม่ดี และเป็นการรบกวนนักท่องเที่ยว หากคนเหล่านี้ยังมีอยู่ นักท่องเที่ยวถูกรบกวน ก็จะส่งผลกระทบด้านการท่องเที่ยวไม่มีใครอยากมาเดิน แต่ปัจจุบันคนเหล่านี้หายไป จะเห็นว่านักท่องเที่ยวออกมาเดินบนลานท่าแพทั้งตอนเช้าและตอนกลางคืนมากขึ้น เห็นว่าเป็นสิ่งที่ดีมากที่มีชุมชนและเจ้าหน้าที่ที่เข้มแข็ง ทำให้คนเหล่านี้ไม่ออกมายืนและสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีให้กับเมืองเชียงใหม่อีก

ชิวชิว ผ่อนคลายสบายๆ รับลมหนาวบนขัวเหล็กยามค่ำคืนบรรยากาศสุดฟิน คุณลองสัมผัสแล้วหรือยัง

ขัวเหล็ก” หรือสะพานเหล็ก ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวนิยม รวมไปถึงตากล้องทั้งงมือสมัครเล่นและมืออาชีพแวะเวียนกันมาเพื่อที่จะถ่ายภาพบรรยากาศ เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกอยู่เสมอ นอกจากนี้สะพานแห่งนี้ยังถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่สำคัญ เนื่องจากที่นี่เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ หลายต่อหลายเรื่อง ซึ่งหลังจากภาพยนตร์ออกฉาย มีนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะหนุ่มสาวชาวไทย ให้ความสนใจและเดินทางมาถ่ายภาพกันเป็นจำนวนมาก จนถูกจัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดอีกแห่งหนึ่งที่เป็นนิยมของนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมความสวยงาม

สำหรับ“ขัวเหล็ก” หรือสะพานเหล็ก ตั้งอยู่บนถนนสายเชียงใหม่-ลำพูน โดยคำว่า “ขัว” มีความหมายแปลว่า “สะพาน” ส่วน “เหล็ก” ก็แปลว่า “เหล็ก”ที่นำมาใช้ในการทำโครงสร้างสะพาน ซึ่งสะพานแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นการจำลองสะพานนวรัฐเก่าที่ได้ถูกใช้งานในปี พ.ศ. 2466 จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2510 จังหวัดเชียงใหม่ได้มีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีการรื้อสะพานเหล็กที่สร้างขึ้น แล้วก่อสร้างเป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กขึ้นแทน จากนั้นจึงได้มีการสร้างสะพานเหล็กขึ้นมาใหม่ โดยการจำลองและยังคงรักษารูปแบบเดิม ที่โครงสร้างของสะพานทำด้วยโครงเหล็ก ทอดตัวผ่านข้ามแม่น้ำปิง ถือเป็นเอกลักษณ์ ดูมีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยว

ปัจจุบันสะพานเหล็ก ได้มีการปรับภูมิทัศน์ และได้มีการติดตั้งไฟส่องสว่าง ประดับตกแต่งสะพานเหล็กให้มีความสวยงาม ทำให้ทุกค่ำคืน จะมีนักท่องเที่ยวมาเดินเล่น นั่งเล่นพูดคุยกันชมวิว บรรยากาศสวยๆ ริมฝั่งแม่น้ำปิง จนทำให้สถานที่แห่งหนี้กลับมาเป็นเอกลักษณ์หรือเป็นแลนด์มาร์กของชาวเชียงใหม่

เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม เพราะนอกจากตัว “ขัวเหล็ก” จะสวยเป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังแฝงไปด้วยกลิ่นอายเรื่องราวประวัติศาสตร์ในอดีตของชาวเชียงใหม่ เมืองที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันดีงามมาอย่างยาวนาน ไว้ให้คนรุ่นหลังได้รำลึกอีกด้วย หนาวนี้ลองสัมผัสสักครั้งเมื่อมาเยือนเมืองเวียงพิงค์

อุทยานหลวงราชพฤกษ์จัดทิวลิปลอตสุดท้าย พร้อมลิลลี่สีชมพูมาจัดให้นักท่องเที่ยวชม หากพลาดต้องรอชมปีนี้

อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จัดทิวลิปลอตสุดท้าย พร้อมลิลลี่สีชมพู มาจัดให้นักท่องเที่ยวชมแล้ว..พลาดชมปีนี้ ได้ชมอีกทีปีหน้า..แถมยังได้ฟินกับดอกลิลลี่สีชมพู สีขาวที่กำลังบานสวยงามและส่งกลิ่นหอมไปทั่วสวนเนเธอร์แลนด์อีกด้วย

นายภูธาดล ธีรอธิยุต รองผู้อำนวยการอุทยานหลวงราชพฤกษ์ เปิดเผยว่า อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เปิดสัมผัสช่วงเวลาแห่งความประทับใจในเทศกาลชมสวน (Flora Festival 2017) ภายใต้แนวคิด “สุขสราญ งามบุปผา ใต้หล้าพระบารมี (Floral Beauty Bliss THE ROYAL BLESSINGS)” ซึ่งมีการจัดกิจกรรมขึ้นจนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561 ในห้วงเวลา วันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 08.00–18.00 น. และวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.00–19.30 น.

นายภูธาดล กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทางอุทยานฯ ได้นำดอกทิวลิปล็อตสุดท้าย พร้อมกับดอกลิลลี่ ซึ่งเป็นดอกไม้เมืองหนาว รวมกันแล้วกว่า 8,000 ต้น ลงจัดแสดงภายในสวนเนเธอร์แลนด์ ให้กับนักท่องเที่ยวถ่ายภาพเก็บความประทับใจ กับความงามของดอกทิวลิปสีแดงสดใส และดอกลิลลี่สีชมพู สีขาว ที่กำลังบานอย่างสวยงาม และส่งกลิ่นหอมไปทั่วทั้งสวน และหากนักท่องเที่ยวพลาดการเข้าชมในห้วงนี้ ก็ต้องรออีกครั้งในปีหน้า

นักท่องเที่ยวที่สนใจ ก็สามารสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 053-114110-5 หรือ www.royalparkrajapruek.org

 

****เครดิตภาพ จากอุทยานหลวงราชพฤกษ์*****

ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ฝึกซ้อมรับแผนวางระเบิด เพื่อเตรียมพร้อมและสร้างความมั่นใจให้กับให้ผู้โดยสาร

ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ฝึกซ้อมรับแผนป้องกันเหตุวางระเบิด เพื่อเตรียมพร้อมและสร้างความมั่นใจให้กับให้ผู้โดยสาร ที่จะเดินทางเข้าและออกในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่

 

นาวาอากาศตรี มณธนิก รักงาม ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เพื่อความปลอดภัยทางด้านการท่องเที่ยวและของผู้โดยสาร ทางด้านงานทำลายวัตถุระเบิด ส่วนรักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้ฝึกซ้อมทบทวนการ พิสูจน์ทราบสัมภาระหลงลืม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำลายวัตถุระเบิด (EOD) มีความชำนาญในการใช้เครื่องมือ เพื่อเตรียมพร้อมและสร้างความเชื่อมั่นในการรักษาความปลอดภัยให้แก่ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการ

ทั้งนี้การฝึกทบทวนดังกล่าวกำหนดจัดขึ้นปีละ 4 ครั้ง ขณะที่ส่วนดับเพลิงและกู้ภัยท่าอากาศยานเชียงใหม่ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้จัดการฝึกซ้อมดับเพลิงด้วยไฟจริง ครั้งที่ 1/61 เพื่อฝึกทบทวนการดับเพลิงและกู้ภัย ซักซ้อมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ให้มีทักษะและประสบการณ์ในการทำงานเป็นทีม สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ปฏิบัติงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ซึ่งนอกจากจะเป็นไปตามหลักการ หรือมาตรฐานที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) กำหนดไว้แล้ว ยังสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้บริการอีกด้วย

 

ททท.ดึงเยาวชนเกาหลีและเยาวชนอาเซียนจัดกิจกรรมเข้าค่ายเยาวชนนานาชาติ “ASEAN Community Based Tourism Program 2018”

ททท.ดึงเยาวชนเกาหลีและเยาวชนอาเซียนจัดกิจกรรมเข้าค่ายเยาวชนนานาชาติ “ASEAN Community Based Tourism Program 2018” ณ หมู่บ้านแม่กำปอง จ.เชียงใหม่

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่ร่วมกับ ททท. สำนักงานโซล และ บริษัท ASEAN Korea Center ประเทศเกาหลีใต้ จัดกิจกรรมเข้าค่ายเยาวชนระดับนานาชาติ “ASEAN Community Based Tourism Program 2018” ที่ดำเนินการต่อเนื่องมาทุกปี โดยปี 2561 นี้

บริษัท ASEAN Korea Center ประเทศเกาหลีใต้ ผู้จัดกิจกรรม ได้เลือกหมู่บ้านแม่กำปอง จ.เชียงใหม่ เป็นสถานที่จัดกิจกรรม ระหว่างวันที่ 3 – 8 มกราคม 2561 ณ หมู่บ้านแม่กำปอง จ.เชียงใหม่ โดยนำนักศึกษาอาเซียน จำนวนทั้งสิ้น 30 คน แบ่งเป็น นักศึกษาที่เดินทางมาจากประเทศเกาหลีใต้ 15 คน และนักศึกษาอาเซียนที่ศึกษาอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ 15 คน ทำกิจกรรมร่วมกันตลอดระยะเวลา 6 วัน 5 คืน ที่จ.เชียงใหม่ โดยมีนายประจวบ กันธิยะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมดังกล่าว

นายประจวบ กันธิยะ เปิดเผยว่ากิจกรรมดังกล่าวเพื่อส่งเสริมให้เยาวชนอาเซียนมีส่วนร่วมการเรียนรู้การท่องเที่ยวชุมชนและสร้างอัตลักษณ์ร่วมกัน เรียนรู้ประสบการณ์ ตลอดจนสร้างเสริมมิตรภาพในหมู่เยาวชนอาเซียน ซึ่งเยาวชนนับเป็นทรัพยากรบุคคลที่จะเป็นกำลังสำคัญในอนาคต พร้อมเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ความรู้ ที่เดินทางไปยังสถานที่สำคัญ ๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ ได้พบเจอ สัมผัส และได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคนท้องถิ่นด้วยตัวเองและมิตรภาพจากเพื่อนร่วมกิจกรรมจากนานาประเทศ ตลอดระยะเวลา 6 วัน 5 คืน นับว่าเป็นสิ่งที่มีค่าอย่างยิ่ง

นายสันติ ชูดินธรา รองผู้ว่าการการ ท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ กล่าวว่า ประเทศไทยและประเทศเกาหลีใต้ มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งในปีนี้ จะฉลองครบรอบ 60 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตโดยกำหนดจัดงานกระชับความสัมพันธ์ต่างๆ ตลอด ปี 2561 หนึ่งในนั้นก็คือ กิจกรรม ASEAN Community Based Tourism Program 2018 ซึ่งประเทศ ในกลุ่มอาเซียน รวมไปถึงประเทศเกาหลีใต้ มีความสำคัญต่อการท่องเที่ยวของไทยเป็นอย่างมาก จากสถิติในปี 2559 มีนักท่องเที่ยว เดินทางเข้ามายังประเทศไทย 32.59 ล้านคน เทียบเป็น 8.91 % เพิ่มขึ้นจากปี 2558

นอกจากนี้ ในปี 2560 ประเทศไทยมีจำนวน นักท่องเที่ยวกว่า 35 ล้านคน หรือ เพิ่มขึ้น 7.39 % แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวจากเกาหลีใต้ 1.46 ล้านคน และนักท่องเที่ยวในกลุ่ม ประเทศอาเซียน 8.89 ล้านคน เลยทีเดียว ซึ่งจะเห็นได้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศอาเซียนมีจำนวนเพิ่มแทบทุกปี ในปัจจุบัน ททท.มุ่งเน้นส่งเสริมการท่องเที่ยว ชุมชนในประเทศไทยมากขึ้น

เนื่องจาก ต้องการให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวิถีชีวิต วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณี ของชุมชนต่างๆ อย่างลึกซึ้ง เพราะในแต่ละ ชุมชนก็จะมีความน่าสนใจที่แตกต่างกัน บ้างก็โดดเด่นแต่มีความเรียบง่ายแฝงอยู่ หมู่บ้านแม่กำปอง จ.เชียงใหม่ ก็เป็นสถานที่ที่สามารถตอบโจทย์การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นด้าน แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม การเรียนรู้วิถีชีวิตแบบคนในชุมชุม เรียนรู้วัฒนธรรม ประเพณี ได้ในเวลาเดียวกัน ททท.เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการนี้ จะนำมาซึ่งผลในเชิงบวกมากมายซึ่งจะช่วยให้เราสามารถพัฒนาการเที่ยวอย่างยั่งยืนได้ต่อไปในอนาคต.

บางกอกแอร์เวย์เปิดห้องรับรองผู้โดยสารแห่งใหม่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ รองรับคลื่นนักท่องเที่ยงช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

บางกอกแอร์เวย์เปิดห้องรับรองผู้โดยสารแห่งใหม่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ รองรับคลื่นนักท่องเที่ยงช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

 

บริษัทการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ สายการบินบางกอกแอร์เวย์สเปิดให้บริการห้องรับรองผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศแห่งใหม่ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อรองรับเทศกาลท่องเที่ยวปลายปี โดยห้องรับรองผู้โดยสารระหว่างประเทศแห่งใหม่นี้ตั้งอยู่บริเวณชั้น 3 ของอาคารผู้โดยสาร Concourse D ตรงข้ามกับประตูขึ้นเครื่องหมายเลข D7 ซึ่งผู้โดยสารของสายการบินฯ สามารถเข้าใช้บริการได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ห้องรับรองผู้โดยสารแห่งใหม่นี้ถูกตกแต่งอย่างสวยงามและมีเอกลักษณ์ซึ่งสะท้อนความเป็น “บูทีค” ของสายการบินฯ ได้อย่างลงตัว ห้องรับรองผู้โดยสารดังกล่าวมีขนาด 450 ตารางเมตร แบ่งเป็น บูทีคเลาจน์ สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 120 ท่าน และ บลูริบบ้อนคลับเลาจน์ สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 50 ท่านห้องรับรองผู้โดยสารระหว่างประเทศแห่งใหม่เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 04.30น.–22.00น. ซึ่งผู้โดยสารสามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ www.bangkokair.com หรือที่ศูนย์บริการข้อมูล

ผศ.ประพัฒน์ เชื้อไทย รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ได้รับเกียรติเข้าร่วมประชุมและนำเสนอผลงาน โครงการเกษตรอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออกภาคเหนือ

ผศ.ประพัฒน์ เชื้อไทย รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ได้รับเกียรติเข้าร่วมประชุมและนำเสนอผลงาน โครงการเกษตรอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออกภาคเหนือ ตามแผนยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัย ในการตรวจราชการและการประชุมคณะรัฐมนตรีโดยมี ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ความสนใจเยี่ยมชมบูธนิทรรศการ ณ มหาวิทยาลัยราชภัฎพิบูลสงคราม จ.พิษณุโลก

ตำรวจปราบปรามยาเสพติดปิดล้อมตรวจค้นกดดันหมู่บ้านเป้าหมายเครือข่ายค้ายาเสพใน จ.เชียงใหม่ อย่างต่อเนื่อง

ตำรวจปราบปรามยาเสพติดปิดล้อมตรวจค้นกดดันหมู่บ้านเป้าหมายเครือข่ายค้ายาเสพใน จ.เชียงใหม่ อย่างต่อเนื่อง

พ.ต.ท.จิรพงษ์ คำมี ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาความสงบ จ.เชียงใหม่ จำนวนกว่า 100 คน ได้ทำการปิดล้อมตรวจค้น บ้านเป้าหมายยาเสพติด ในพื้นที่บ้านแม่สาใหม่ หมู่ 6 และแม่สาน้อย หมู่ 10 ต.โป่งแยง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ โดยได้ทำการตรวจค้นเป้าหมาย ตามหมายค้นและหมายจับ จำนวน 4 ราย จากการขยายผลจากการจับกุมผู้ต้องหาในคดียาเสพติด ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยผลการตรวจค้นไม่พบเจ้าของบ้าน และสิ่งผิดกฏหมายแต่อย่างใด

ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังได้มีการสุ่มตรวจภายกลุ่มวัยรุ่นภายในชุมชน โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 4 ราย โดยผู้ต้องหาทั้งหมดได้ยอมรับว่าเป็นผู้เสพยาเสพติดจริงทางเจ้าหน้าที่จึงได้ดำเนินการควบคุมตัวเพื่อไปสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมพร้อมทั้งจะได้ส่งตัวผู้ต้องหาให้ทาง พนักงานสอบสวน สภ.แม่ริม ดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้สำหรับพื้นที่บ้านแม่สาน้อย และแม่สาใหม่ ถือเป็นพื้นที่อยู่อาศัยของขาวเขาเผ่าม้ง ที่ยังคงมีการระบาดของยาเสพติดอยู่ นอกจากนี้ยังเป็นจุดพักยาของขบวนการค้ายาเสพติด อย่างไรก็ตามหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะเข้มงวดในการตรวจสอบ และจะสั่งให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเป็นประจำเพื่อกดดันทั้งผู้เสพผู้ค้ายาเสพติดที่อยู่ในพื้นที่นอกจากนี้เจ้าหน้ายังมีแผนที่จะจู่โจมเข้าตรวจค้นอีกหลายหมู่บ้านโดยเฉพาะที่ตั้งอยู่ตามแนวตะเข็บชายแดนซึ่งเป็นแหล่งพักยาเสพติดเพื่อรอโอกาสขนเข้ามาจำหน่ายในพื้นที่ชั้นใน

นทท.ชาวต่างชาติหลงรักเชียงใหม่ จัดตั้งกลุ่มจิตอาสาพร้อมใจจัดเก็บขยะทั่วเมืองเชียงใหม่

ที่บริเวณ ลานอเนกประสงค์ข่วงประตูท่าแพ เชียงใหม่ นายเชน รอชฟอรธ์ ผู้ก่อตั้งกลุ่มแทชฮีโร่ ได้นำกลุ่มประชาชนและ นักท่องเที่ยวจิตอาสา พร้อมใจกันจัดกิจกรรม “Chiang Mai Clean City-เชียงใหม่เมืองสะอาด” โดยได้ร่วมกันเก็บขยะทั่วเมือง ตามถนน ตรอก ซอก ซอยต่างๆ ในตัวเมืองเชียงใหม่ เพื่อช่วยลดปัญหาขยะที่ถูกทิ้งเกลือนกลาดตามท้องถนนจำนวนมาก

 

นายเชน รอชฟอรธ์ ผู้ก่อตั้งกลุ่มแทชฮีโร่ กล่าวว่า ตนเป็นชาวออสเตรเรีย มาท่องเที่ยวยังจังหวัดเชียงใหม่ และได้เกิดตกหลุมรักเชียงใหม่ จึงตัดสินใจย้ายภูมิลำเนามาพำนักและอาศัยอยู่เมื่อหลายปีก่อน แต่ภายหลังกลับพบว่า กลับพบว่ามีเศษขยะอยู่เกลื่อนกลาด ไม่ว่าจะเป็นหลอดพลาสติก แก้วน้ำ ขวดเปล่า ถุงพลาสติก ก้นบุหรี่ และเศษขยะอีกมากมายที่ถูกทิ้งไว้อยู่ทุกๆ ที่ ทั่วเมือง ตนจึงริเริ่มกิจกรรมทำความสะอาดเมืองเชียงใหม่ครั้งแรกเมื่อกลางเดือนธันวาคม พ.ศ. 2559 ที่ผ่านมา

 

โดยมีชาวต่างประเทศที่พำนักในเชียงใหม่ 25 คน และชาวไทยอีก 15 คนช่วยกันเดินเก็บขยะบริเวณรอบคูเมืองเชียงใหม่ และได้สานต่อแนวคิดทำความสะอาดเมืองเชียงใหม่มาอย่างต่อเนื่อง โดยในวันนี้ตนจึงได้ร่วมกับ ประชาชนและ นักท่องเที่ยวจิตอาสา ในการจัด กิจกรรม “Chiang Mai Clean City-เชียงใหม่เมืองสะอาด” เพื่อร่วมกันเก็บขยะทั่วเมือง ตามถนน ตรอก ซอก ซอยต่างๆ ภายในตัวเมืองเชียงใหม่

ทั้งนี้ตนอยากขอเชิญชวนทุกคนให้ช่วยกันคนละไม้คนละมือ ในการ ออกมาทำความสะอาด เก็บกวาดขยะ บนถนน ตรอก ซอก ซอย ใกล้ๆ บ้าน หรือ พื้นที่สาธารณะที่ใช้เป็นประจำ พร้อมเชิญชวนทุกคนแชร์ภาพถ่าย และวีดีโอ การทำความสะอาดของตนเองผ่านทาง เฟสบุ๊ค หรือ Instagram พร้อมติดแฮชแท็ค #ChiangMai CleanCity #เชียงใหม่เมืองสะอาด เพื่อแสดงให้ผู้คนทั่วโลกได้เห็นว่าชาวเชียงใหม่ทุกคนมีความตระหนักและพร้อมช่วยกันทำความสะอาดเมืองเชียงใหม่ให้น่าอยู่

รัฐมนตรีช่วยฯ กระทรวงคมนาคม ตรวจความพร้อมรถโดยสารที่เชียงใหม่ในห้วงเทศกาลปีใหม่

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ตรวจความพร้อมรถโดยสารที่เชียงใหม่ในห้วงเทศกาลปีใหม่ พร้อมสำรองเที่ยวรถกว่า 150 เที่ยวต่อวัน มั่นใจไม่มีผู้โดยสารตกค้างที่สถานีอย่างแน่นอน

ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เดินทางมาตรวจความพร้อมในช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่สถานีขนส่งเชียงใหม่อาเขตแห่งที่ 3 อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยมีนายชาญชัย กีฬาแปง ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมคณะให้การต้อนรับ และนำตรวจสอบความพร้อมของพนักงานคนขับรถ ตรวจวัดแอลกอฮอล์สำหรับคนขับรถ และได้ขึ้นตรวจอุปกรณ์ที่นั่งบนรถ เข็มขัดนิรภัย ฆ้อนทุบกระจกรถ ซึ่งก็พบว่าในวันนี้มีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางเป็นจำนวนมาก

ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ทางขนส่งเชียงใหม่ได้เตรียมพร้อมไว้เป็นอย่างดีแล้ว เรื่องของคนขับรถที่ต้องปลอดสารเสพติด ไม่มีแอลกอฮอล์ บนรถก็เตรียมความพร้อมไว้ทุกอย่าง ปลอดภัย มีการจองระบบผ่านออนไลน์เพื่อสะดวกกับผู้ที่จะเดินทาง มีการเปิดศูนย์รับแจ้งเหตุไว้ 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยเหลือผู้โดยสาร มีการเสริมรถไว้รองรับแล้ว ปีนี้ทางกระทรวงคมนาคมก็มีนโยบายเรื่องของ “ขับช้า เปิดไฟหน้า คาดเข็มขัด” ซึ่งสามารถช่วยเหลือและป้องกันอุบัติเหตุลดลงได้

ขณะที่ นายชาญชัย กีฬาแปง ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้ได้เพิ่มเที่ยวรถอีก 150 เที่ยวต่อวันในโซนพื้นที่ภาคเหนือและอีก 30 – 40 คัน ในสายกรุงเทพฯ เพื่อให้เพียงพอต่อผู้เดินทาง โดยมั่นใจว่า ผู้โดยสารจะไม่ตกค้างอยู่ที่สถานีขนส่งอย่างแน่นอน