ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่จัดพิธีรดน้ำดำหัว ผู้บังคับบัญชา สืบทอดประเพณีโบราณ

ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่จัดพิธีรดน้ำดำหัว ผู้บังคับบัญชา สืบทอดประเพณีโบราณ

ที่บ้านพักผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ได้มีจัดพิธีรดน้ำดำหัว พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย ผู้บังคังการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ และภริยาพร้อมทั้งรองผู้การจังหวัดเชียงใหม่ และภริยา เพื่อเป็นการแสดงการคารวะและขอพรจากผู้น้อย ที่กระทำต่อผู้ใหญ่ รวมทั้งเป็นการสืบสานประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามของล้านนาให้คงอยู่สืบต่อไป

โดยก่อนพิธีได้มีขบวนแห่จากเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดภูธรจังหวัดเชียงใหม่จำนวนกว่า 500 คน ริ้วขบวนเป็นแบบล้านนามีการแห่เครื่องสักการะ การฟ้อนแบบล้านนา การสรงน้ำพระพุทธประทานยศบารมี ก่อนที่จะรดน้ำดำหัวบรรยากาศเต็มไปด้วยความรักสามัคคีและการขอขมาลาโทษต่อกัน ระหว่างผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชา

บีเอ็มดับเบิลยู เปิดตัว BMW X2 อย่างยิ่งใหญ่ ครั้งแรกในเชียงใหม่ (มีคลิป)

บีเอ็มดับเบิลยู สร้างความตื่นตาอีกครั้ง กับการเปิดตัว The First-Ever BMW X2 ครั้งแรกในจังหวัดเชียงใหม่

ที่ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 ภายในศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่ นายกฤษณ์ ธนาวณิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เป็นประธานเปิดงาน The First-Ever BMW X2 ครั้งแรกในจังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้แนวคิด “Be The One Who Dares” โดยมีนายกวิน ลีนุตพงษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท บาเซโลนา มอเตอร์ จำกัด กล่าวรายงาน มร.ลาร์ส นีลเซ่น ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย กล่าวต้อนรับ มีประชาชนและผู้สนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก สำหรับงานครั้งนี้จัดขึ้นในห้วงระหว่างวันที่ 21 – 22 เม.ย. 61

โดยภายในงานได้มีการนำรถมา BMW X2 มาโชว์ พร้อมกับการเดินแฟชั่นโชว์ จากนางสาวสุภาภรณ์ ฤทธิพฤกษ์ รองอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017 และทีมนางสาวเชียงใหม่ พร้อมด้วยนายแบบ และนางแบบชั้นนำ มาร่วมเดินแฟชั่นและการเปิดตัวในครั้งนี้

นายกวิน ลีนุตพงษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท บาเซโลนา มอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า การบริหารงานในส่วนของพื้นที่ภาคเหนือ บริษัทฯ มีโชว์รูมแห่งแรกคือ บาเซโลนา มอเตอร์ เชียงใหม่ ที่รองรับลูกค้าที่มีฐานกำลังซื้อค่อนข้างสูง ในเขตพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ทั้งผู้ประกอบการ นักธุรกิจ พ่อค้า รวมไปถึงนักท่องเที่ยว โดยเปิดบริการมาแล้ว 9 ปี บนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ถนนสายเชียงใหม่ – ดอยสะเก็ด ตรงข้ามศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่ และล่าสุดกับสตูดิโอในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ บริเวณชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล เชียใหม่ ที่จะช่วยตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น

สำหรับตลาดรถยนต์หรูในเขตพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ถือว่าเป็นตลาดใหญ่ที่น่าจับตามอง เนื่องจากมีอัตราการเติบโตสูงมาโดยตลอด บริษัทฯ ได้ทำการศึกษาพื้นที่ ตลอดจนกำลังซื้อและความต้องการของลูกค้าจนมั่นใจว่า สามารถตอบสนองความต้องการลูกค้ากลุ่มนี้ได้อย่างดี เนื่องจากพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าในเขตพื้นที่เป็นกลุ่มนักธุรกิจที่ทันสมัย และชื่นชอบสมรรถนะของรถยนต์ที่เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีล้ำยุค มีรูปลักษณ์อันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ จึงเชื่อมั่นในศักยภาพอัตราการเติบโตของตลาดยนตรกรรมหรูในเขตพื้นที่ภาคเหนือตอนบนว่า จะเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ชี้ให้เห็นถึงการเติบโตภาพรวมของเศรษฐกิจประเทศอย่างชัดเจน

มร.ลาร์ส นีสเซ่น ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย กล่าวว่า ภาคเหนือถือเป็นอีกหนึ่งจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย มีความมุ่งมั่ที่จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอย่างครอบคลุม บาเซโลนา มอเตอร์ ได้พิสูจน์ถึงความสำเร็จอันน่าภาคภูมิใจอีกครั้งด้วยการขยายการเข้าถึงของบีเอ็มดับเบิลยู ทั้งในรูปแบบโชว์รูม ศูนย์บริการ และสตูดิโอ ในทั้งภาคเหนือและภาคกลาง ด้วยความเชี่ยวชาญในการให้บริการระดับพรีเมียมและความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า จึงมั่นใจว่าจะสามารถครองความเป็นผู้นำตลาดรถยต์ระดับพรีเมียมในตลาดี้ร่วมกันได้อย่างแน่นอน

“ไอติมข้าวซอย” เคยกินกันไหม

ร้านไอศกรีมโฮมเมดเชียงใหม่ไอเดียเจ๋ง ผุดไอศกรีมข้าวซอยล้านนา ออกวางขาย แถมด้วยไอศกรีม“เขียวหวาน-กะเพรา-ต้มยำ-ส้มตำ-ผัดไทย”หวังชูเอกลักษณ์อาหารไทย

จากกระแสโซเชียลที่ได้มีการกล่าวถึงร้านไอศกรีมโฮมเมด ย่านหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งได้มีการคิดค้นและประยุกต์นำรสชาติของอาหารคาวที่เป็นอาหารขึ้นชื่อของไทยและภาคเหนือ มาทำเป็นไอศกรีมที่มีรสชาติแสดงความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น จนเป็นที่ฮือฮา สร้างความสนใจให้กับกลุ่มวัยรุ่น ได้เดินทางไปลิ้มลองรสชาติ ทางผู้สื่อข่าจึงได้เดินทางไปสำรวจ โดยพบว่าร้านดังกล่าวคือร้านD’CUP ICE CREAM” (ดีคัพ ไอศกรีม) ร้านไอศกรีมโฮมเมด ชื่อดังของจังหวัดเชียงใหม่

โดยพบว่าที่ร้านได้มีการวางจำหน่ายไอศกรีมโฮมเมดจำหน่ายกว่า 30 รสชาติ โดยที่น่าสนใจที่สุดจะเป็นอศกรีมข้าวซอยล้านนา แกงเขียวหวาน ผัดกะเพรา ต้มยำ ส้มตำ และผัดไทย ซึ่งเป็นอาหารที่ขึ้นชื่อของประเทศไทย ก็ได้มีการดัดแปลงมาเป้นของหวานได้อย่างลงตัว

โดยจากการสอบถามทางด้านนางสาวเนตรนภา กันธะอุดม อายุ 30 ปี และนายกรกฎ แก้วชา อายุ 33 ปี หุ้นส่วน“D’CUP ICE CREAM” เปิดเผยว่า ในช่วงแรกเริ่มของการธุรกิจทำไอศกรีมโฮมเมดออกขาย ทั้งหมดเป็นรสชาติพื้นฐานเหมือนไอศกรีมที่วางขายทั่วไป ซึ่งก็พบว่าประชาชนยังไม่ให้ความสนใจมากมายเท่าไหร่ จึงได้ผุดไอเดียในการนำวัตถุดิบสมุนไพรและอาหารไทยมาทำให้เป็นรสชาติไอศกรีม จึงได้มีการพัฒนานำเอารสชาติของอาหารคาวที่เป็นเมนูอาหารไทยขึ้นชื่อทั้งแกงเขียวหวาน,ผัดกะเพรา,ส้มตำ,ต้มยำ และผัดไทย มาทำเป็นไอศกรีมเพื่อจำหน่าย โดยที่ได้รับความสนใจมากที่สุกคือ“ไอศกรีมข้าวซอยล้านนา”

ซึ่งมีรสชาติหวาน หอม กลิ่นข้าวซอยจริง และจะได้รสเผ็ดในตอนสุดท้ายของแต่ละคำ สามารถนำออกวางขายได้ ซึ่งปัจจุบันมีขายเฉพาะที่หน้าร้าน โดยจะเสิร์ฟในจานที่จัดตกแต่งด้วยเส้นข้าวซอยทอดกรอบเหมือนข้าวซอยจริง ขายในราคา 90 บาท

ขณะเดียวกันนอกจากจะมีไอศกรีมสชาติอาหารไทยขึ้นชื่อแล้ว ยังมีไอศกรีมรสชาติต่างๆ ที่น่าสนใจอีก เช่น ไอศกรีมน้ำเต้าหู้,ไอศกรีมน้ำผึ้งมะนาว,ไอศกรีมมะนาวอัญชัน,ไอศกรีมทุเรียน,ไอศกรีมมะขาม,ไอศกรีมเสาวรส,ไอศกรีมมะม่วง หรือไอศกรีมวาซาบิ เป็นต้น ซึ่งยังไม่นับรวมไอศกรีมรสชาติพิเศษจากวัตถุดิบตามฤดูกาลหรือเทศกาลต่างๆ อีกด้วย ทั้งนี้ผุ้ที่สนใจสามารถเดินทางไปลองสัมผัสรสชาติของไอศกรีมที่ร้านกันได้ โดยร้านตั้งอยู่ตรงข้ามมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตรงปากทางเข้าโครงการเชียงใหม่คอมเพล็กซ์ ซึ่งจะเปิดให้บริการทุกวัน 11.00-22.00 น.

กรมหม่อนไหมจัดงานยิ่งใหญ่ เฉลิมพระเกียรติฯ และส่งเสริมการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม สร้างรายได้

กรมหม่อนไหมจัดงานยิ่งใหญ่ เฉลิมพระเกียรติฯ และส่งเสริมการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม สร้างรายได้ และให้คนไทยหันมาสนใจผ้าไหมของไทยที่มีความสวยงาม

ที่บริเวณชั้น G ลานวิดีโอวอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิด “งานมหัศจรรย์หม่อนไหม และผลิตภัณฑ์ 2018 : Wonderful Of Mulberrry, Slilk ans Poducts 2018” โดยมีนายไพโรจน์ เฮงแสงชัย รออธิบดีกรมหม่อนไหม กล่าวรายงาน มีนายสำราญ สุขใจ ผู้อำนวยการสำนักงานหม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ เขต 1 จังหวัดแพร่ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และพ่อค้า แม่ค้าที่จำหน่ายผ้าไหม ผลิตภัณฑ์จากใยไหม ผลิตภัณฑ์จากมัมเบอรี่ เข้าร่วมงานในครั้งนี้

โดยภายในงานมีการแสดงชุด มิ่งนฤมิตรม่อนฟ้ารอยไหมสหลีครีหัตถกรรม จากนั้นจึงได้ทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ มีการมอบรางวัลและประกาศนียบัตรให้กับผู้ชนะการประกวดเกษตรกรดีเด่นสาขาอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ประจำปี 2561 และการแสดงแฟชั่นโชว์แบบผ้าไหมจากรองมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017 และทีมนางสาวเชียงใหม่ ปี 2561

การจัดขึ้นครั้งนี้ ได้เริ่มจัดตั้งแต่วันที่ 20 – 22 เมษายน 2561 โดยภายในงานนอกจากการได้เลือกซื้อผ้าไหม และผลิตภัณฑ์จากหม่อนไหมที่มาจากมือผู้ผลิตโดยตรงแล้ว ยังมีนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ที่มีต่อวงการหม่อนไหม อย่างสมพระเกียรติฯ การจัดแสดงประวัติความเป็นมาของกรมหม่อนไหม นิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับหม่อนไหม การเลี้ยงไหมต่างๆ ให้ประชาชนได้ศึกษา และมีไฮไลท์เป็นสัญลักษณ์นกยูงไทย ที่หางนกยูงตกแต่งด้วยผ้าไหมอย่างสวยงามให้ประชาชนได้ถ่ายภาพ หรือเซลฟี่ภาพตัวเองภายในงานด้วย

สำหรับอาชีพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม เป็นภูมิปัญญาไทยที่เป็นเอกลักษณ์ที่ทรงคุณค่า ควรอนุรักษ์ให้ดำรงอยู่คู่แผ่นดินไทยตามพระราชดำริของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ซึ่งการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมในเขตภาคเหนือ ส่วนใหญ่เป็นชาวอีสานที่อพยพมาเมื่อประมาณ 50 ปีที่ผ่านมา ได้นำภูมิปัญญาด้านหม่อนไหมและอาชีพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมมาด้วย ซึ่งในปัจจุบันยังคงแพร่หลาย ประกอบกับภาคเหนือมีหลากหลายชนเผ่า จึงเกิดการผสมผสานระหว่างลวดลายผ้าของชาวอีสานและชาวล้านนา

ผืนผ้าไหมจึงมีลวดลายความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันในแต่ละท้องถิ่น มีความสวยงามคงความเป็นไทยอย่างชัดเจน เช่น ผ้าไหมยกดอกลำพูน ผ้าจกเมืองลอง ผ้าจกลับแล และผ้าลายน้ำไหลจังหวัดน่าน เป็นต้น ภูมิประเทศในภาคเหนือเป็นพื้นที่สูงอากาศหนาวเย็นตลอดปี การปลูกหม่อนผลสดในเขตภาคเหนือจึงมีคุณภาพดี หม่อนผลสดสามารถแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ได้หลายอย่าง เช่น น้ำหม่อนพร้อมดื่ม น้ำหม่อนเข้มข้น แยมหม่อน ไอศกรีมหม่อน หม่อนหยี ฯลฯ

นอกจากนี้ยังมีผู้ประกอบการได้นำผลผลิตจากหม่อนไหม ไปแปรรูป เพื่อเพิ่มมูลค่าเป็นผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพ เวชสำอาง และอื่นๆ อีกหลายชนิด แต่ยังขาดประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักแก่บุคคลทั่วไป

ดังนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจด้านหม่อนไหมของประเทศให้มีความก้าวหน้ามั่นคง ยั่งยืน และเป็นที่รู้จัก และสร้างรายได้แก่เกษตรกร สำนักงานหม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ เขต 1 จังหวัดแพร่ และศูนย์เครือข่าย จึงเห็นควรจัดงานในครั้งนี้ขึ้น เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับสมาชิกสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร ชุมชนที่ผลิตสินค้าและผลิตภัณฑ์หม่อนไหมในภาคเหนือ การเพิ่มช่องทางการจำหน่ายผ้าไหมไทยตรานกยูงพระราชทาน ผลิตภัณฑ์จากหม่อนและไหมของเกษตรกรให้ถึงมือผู้บริโภคโดยตรง เพิ่มรายได้แก่เกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมมากขึ้น

แม้ว่าในอดีตจังหวัดเชียงใหม่ จะไม่มีการเลี้ยงหม่อนไหม แต่ปัจจุบันเริ่มมีผู้สนใจและเลี้ยงหม่อนไหมมากขึ้น ซึ่งจำนวนการเลี้ยงหม่อนไหมในอดีตมีจำนวน 2 แสนกว่าราย ปัจจุบันเหลือเพียง 80,000 กว่าราย ดังนั้น จึงต้องมีการเร่งประชาสัมพันธ์และผลักดันให้คนมาเลี้ยงหม่อนไหมกันมากขึ้น เพื่อรองรับตลาดในอนาคต และเผยแพร่ไหมไทยให้ก้าวไกลทั่วโลก

ไทย-เยอรมัน ลงนามความร่วมมือพัฒนาชุดอุปกรณ์เครื่องรับและประมวลผลสัญญาณวิทยุของกล้องโทรทรรศน์วิทยุแห่งชาติ

ไทย-เยอรมัน ลงนามความร่วมมือพัฒนาชุดอุปกรณ์เครื่องรับและประมวลผลสัญญาณวิทยุของกล้องโทรทรรศน์วิทยุแห่งชาติ

สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้ร่วมลงนามความร่วมมือกับสถาบันดาราศาสตร์วิทยุมักซ์พลังค์ (Max Planck Institute for Radio Astronomy: MPIfR) เพื่อพัฒนาชุดอุปกรณ์เครื่องรับสัญญาณวิทยุและซอฟต์แวร์ในการรับและประมวลผลสัญญาณวิทยุสำหรับกล้องโทรทรรศน์วิทยุขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 40 เมตร ที่ สดร. กำลังเตรียมการก่อสร้าง ณ บริเวณศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ในพระราชดำริ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่

โดยมีดร. สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และดร.มาณพ สิทธิเดช อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) ณ กรุงบรัสเซลลส์ ประเทศเบลเยี่ยม ร่วมเป็นสักขีพยาน

ดร. ศรัณย์ โปษยะจินดา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือครั้งนี้ เพื่อร่วมกันพัฒนาชุดอุปกรณ์เครื่องรับสัญญาณวิทยุและซอฟต์แวร์ในการรับและประมวลผลสัญญาณวิทยุ สำหรับกล้องโทรทรรศน์วิทยุขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 40 เมตร (Thai National Radio Telescope: TNRT) ของหอสังเกตการณ์ดาราศาสตร์วิทยุแห่งชาติ (Thai National Radio Telescope : TNRO) การดำเนินงายภายใต้กรอบความร่วมมือฯ ดังกล่าว ประกอบด้วย การพัฒนาอุปกรณ์เครื่องรับสัญญาณในย่านความถี่แอลแบนด์ (1.0-1.8 กิกะเฮิร์ต) และ เคแบนด์ (18.0-26.0 กิกะเฮิร์ต)

รวมทั้งการพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อการรับและประมวลผลสัญญาณวิทยุเอนกประสงค์ ที่สามารถใช้งานได้ทั้งโหมดการใช้งานแบบจานเดี่ยว และแบบเชื่อมต่อกับเครือข่ายกล้องโทรทรรศน์วิทยุจากทั่วโลก วิศวกรและนักวิจัยของ สดร. ยังจะมีโอกาสเข้าร่วมฝึกอบรม ร่วมออกแบบ พัฒนา และทดสอบการทำงานของชุดอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ดังกล่าวอีกด้วย นอกจากนี้สถาบันดาราศาสตร์วิทยุมักซ์พลังค์ยังจะให้คำปรึกษาในการติดตั้งและทดสอบการทำงานของชุดอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ดังกล่าว ณ หอสังเกตการณ์ดาราศาสตร์วิทยุแห่งชาติอีกด้วย

ดร. ศรัณย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สดร. มีแผนดำเนินการสร้าง “กล้องโทรทรรศน์วิทยุแห่งชาติ” ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 40 เมตร และ 13 เมตร ภายใต้โครงการพัฒนาเครือข่ายดาราศาสตร์วิทยุและยีออเดซี่ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์พื้นฐานและเทคโนโลยีวิศวกรรมขั้นสูง ซึ่งถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานดาราศาสตร์ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของประเทศ ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ กำหนดแผนดำเนินการระหว่างปี 2560-2563 คาดว่าจะติดตั้งแล้วเสร็จ เริ่มใช้งานประมาณปี 2564


ดร. สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือดังกล่าว จะเป็นประโยชน์ต่อการวิจัยดาราศาสตร์และฟิสิกส์ระดับรากฐาน เป็นเทคโนโลยีต้นน้ำ ที่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์เครื่องมือที่ใช้เทคโนโลยีระดับสูง การพัฒนาเทคโนโลยีด้วยตนเอง จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ปัจจุบันข้อจำกัดส่วนมากสำหรับงานวิจัยทางวิศวกรรม คือไม่มีโจทย์ที่ท้าทายและเวทีสำหรับการนำไปใช้งานจริง

โจทย์ดาราศาสตร์ จึงเข้ามามีบทบาทเพื่อท้าทายเทคโนโลยีขั้นสูงต่าง ๆ เทคโนโลยีด้านคลื่นวิทยุ นับเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในโลก จะเปิดโอกาสให้เทคโนโลยีขั้นสูงหลากหลายด้านได้รับการพัฒนาขึ้น เช่น วิศวกรรม โทรคมนาคม อิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ อีกทั้งสามารถพัฒนาต่อยอดไปสู่ภาคอุตสาหกรรม โทรคมนาคม วิศวกรรม การแพทย์ และ วิทยาศาสตร์สาขาอื่น ๆ สอดรับนโยบายการพัฒนากำลังคนด้าน STEM ของประเทศ และตอบโจทย์ Thailand 4.0 ในอนาคต

รองผู้ว่าเชียงใหม่เร่งสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถอดบทเรียนหลังช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อกําหนดมาตรการในการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน

 

นายประจวบ กันธิยะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ร่วมกับคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2561 ใน ช่วง 7 วัน อันตราย จัดการประชุมสรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงสงกรานต์ โดยพบว่าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2561 ตั้งแค่วันที่11 – 17 เม.ย.61ที่ผ่านมา จังหวัดเชียงใหม่ได้มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุรวมทั้งสิ้น 133 ครั้ง ลดลงจากปีที่ผ่านมา 25 ครั้ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 142 คน ลดลงจากปีที่ผ่านมา 22 คน และมีผู้เสียชีวิต 11 คน เทียบเท่ากับปีที่ผ่านมา โดยสาเหตุหลัก คือ การเมาสุรา ส่วนประเภทของยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ รถจักรยานยนต์

โดยทางด้านนายประจวบ กันธิยะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถอดบทเรียนผลการดําเนินงานในช่วงเทศกาลสงกรานต์เพื่อกําหนดแผนงาน แนวทาง และมาตรการในการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนให้เกิดผลเป็นรูปธรรม และสอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งหากพื้นที่อำเภอใดมีสถิติความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูง ก็จะได้มีการกําหนดมาตรการเพิ่มเติมเพื่อดําเนินงานในพื้นที่อย่างเข้มข้น

นอกจากนี้ยังได้มีการประสานให้ทุกอําเภอบูรณาการร่วมกับตํารวจ ทหาร สาธารณสุข และสรรพสามิตกํากับ ดูแลสถานบริการ และเข้มงวดกวดขันการจําหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เป็นไปตามที่กฎหมายกําหนดโดยเฉพาะการจําหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี หากเกิดอุบัติเหตุทางถนนให้สืบสวนถึงแหล่งที่มาของการจําหน่ายและดําเนินคดีอย่างถึงที่สุด อีกทั้งยังจะได้มีการบูรณาการร่วมกันในการรณรงค์ประชาสัมพันธ์อย่างจริงจัง และต่อเนื่องตลอดทั้งปี

เพื่อสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ และความตระหนักในการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย ปรับเปลี่ยนทัศนคติ ค่านิยมเกี่ยวกับการป้องกันอุบัติเหตุและสร้างสํานึกรับผิดชอบต่อสังคม อันจะเป็นรากฐานที่สําคัญในการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนต่อไป

เชียงใหม่ ซ้อมการแสดง แสง สี เสียง เรื่อง “จักรีวงศ์-หว่านฟ้า-ดารารัศมี”

เชียงใหม่ ซ้อมการแสดง แสง สี เสียง เรื่อง “จักรีวงศ์-หว่านฟ้า-ดารารัศมี”

นางมลสุดา ชำนิประศาสน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงใหม่ เข้าร่วมซ้อมการแสดง แสง สี เสียง เรื่อง “จักรีวงศ์-หว่านฟ้า-ดารารัศมี” โดยมี นายอภิวัฒน์ ธีระวาสน์ พัฒนาการจังหวัดเชียงใหม่ นายชาญชัย กีฬาแปง ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ นายเกรียงไกร พานดอกไม้ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ ได้เข้าร่วมซ้อมการแสดงในครั้งนี้ด้วย

ในการนี้ วิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่ สถาบันบัณฑิตพัฒน์ศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม ได้กำหนดการแสดง แสง สี เสียง เรื่อง “จักรีวงศ์-หว่านฟ้า-ดารารัศมี” ในวันอังคารที่ 17 เมษายน 2561 เวลา 19.00 น. ณ วัดสวนดอก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

เพื่อเทิดพระเกียรติและแสดงความกตัญญูกตเวทิตาที่เจ้าหลวงผู้ครองนครเชียงใหม่สร้างเมืองเชียงใหม่ ให้ลูกหลานได้อยู่อาศัยมาจนตราบทุกวันนี้ อีกทั้งเพื่อเทิดพระเกียรติพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 นอกจากนี้ ยังเป็นการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามให้เป็นประจักษ์ต่อประชาชนชาวไทย ชาวต่างประเทศ ตลอดจนสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมที่ดีงามสืบไป

ผู้ว่าชียงใหม่ นำคณะ ร่วมสรงน้ำดำหัวพระเถระผู้ใหญ่และสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง เพื่อความเป็นสิริมงคล เนื่องในประเพณีปี๋ใหม่เมือง

ผู้ว่าชียงใหม่ นำคณะ ร่วมสรงน้ำดำหัวพระเถระผู้ใหญ่และสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง เพื่อความเป็นสิริมงคล เนื่องในประเพณีปี๋ใหม่เมือง

นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นางมลสุดา ชำนิประศาสน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ ร่วมทำพิธีสระเกล้าดำหัวพระเถระชั้นผู้ใหญ่ และสรงน้ำสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ ตามจารีตประเพณีที่ปฏิบัติต่อเนื่องกันมา เพื่อความเป็นสิริมงคล สืบทอดประเพณีที่ดีงามเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ หรือ ปี๋ใหม่เมือง

โดยได้เดินทางเข้ากราบนมัสการรดน้ำขอพร และดำหัวพระเถระชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ พระเทพมังคลาจารย์ รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ วัดเชตวัน , นมัสการพระราชเจติยาจารย์ เจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร สรงน้ำาเสาอินทขิล (วัดเจดีย์หลวงฯ) , พระเทพสิงหวราจารย์ รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าอาวาสวัดพระสิงห์ วรมหาวิหาร , สักการะอนุสาวรีย์พระราชชายาเจ้าดารารัศมี อําเภอแม่ริม , นมัสการพระราชวิสุทธิญาณ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่-ลําพูน-แม่ฮ่องสอน (ธรรมยุต) วัดป่าดาราภิรมย์ ตําบลริมใต้ อําเภอแม่ริม

พระเทพปริยัติ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ วัดเจ็ดยอด พระอารามหลวง , สักการะอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย นมัสการพระเทพโกศล ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 7 วัดศรีโสดา พระอารามหลวง , สักการะและสรงน้ำพระบรมธาตุดอยสุเทพ พระธรรมเสนาบดี รองเจ้าคณะภาค 7 วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร จากนั้นในช่วงบ่ายเดินทางไป คณะผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เดินทางไปนมัสการ พระเทพมงคลโมลี รองเจ้าคณะภาค 4-5-6-7 (ฝ่ายธรรมยุต) วัดล้านนาญาณสังวราราม อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ สักการะและสรงน้ำพระธาตุศรีจอมทอง นมัสการพระพรหมมงคล ว. (หลวงปู่ทอง) ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่

สงกรานต์วันที่สองเชียงใหม่สุดคึกคัก

สงกรานต์วันที่สองเชียงใหม่สุดคึกคัก

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเล่นน้ำในประเพณีสงกรานต์ของจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งวันนี้เป็นวันที่สองก็ยังคงคึกคักมีประชาชนและนักท่องเที่ยวหลายหมื่นคนหลั่งไหลกันเดินทางมาเล่นน้ำสงกรานต์ที่รอบคูเมืองเชียงใหม่ โดยส่วนใหญ่ก็มักจะพกปืนฉีดน้ำมาฉีดเล่นน้ำ แทนการใส่ถังสาดน้ำเพื่อประหยัดน้ำในช่วงนี้แต่ก็ยังคงความสนุกสนานตามประเพณี เพราะบริเวณโดยรอบคูเมือง ทางจังหวัดเชียงใหม่เตรียมน้ำในคูเมืองมากถึง 200,000 ลูกบาก์คเมตร ไว้รองรับนักท่องเที่ยว
โดยบริเวณโดเยรอบคุเมืองทั้งหมด จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ อส. รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ทหาร ออกมายืนประจำตามจุดต่างๆ เพื่อคอยดูแลความปลอดภัย และเตือนนักท่องเที่ยวที่ถอดเสื้อ ให้ใส่เสื้อตามวัฒนธรรมล้านนา และตามที่กฏหมายบังคับ นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็วคอยออกตรวจตราโดยรอบบริเวณคูเมืองเชียงใหม่เพื่อป้องกันไม่ให้มีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และคอยตักเตือนประชาชนที่ดื่มแอลกอฮอล์บริเวณรอบคูเมืองอีกด้วย นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็มีการประกาศเสียงตามสาย เพื่อขอความร่วมมือประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ออกมาเล่นน้ำสงกรานต์ ให้เล่นน้ำกันอย่างระมัดระวัง ไม่ใช้อุปกรณ์ที่เป็นอันตรายด้วย

จังหวัดเชียงใหม่ ชวนนักท่องเที่ยวร่วมสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งล้านนา สืบสานประเพณีปี๋ใหม่เมืองในงาน “Water Festival เทศกาลวิถีน้ำ….วิถีไทย”

จังหวัดเชียงใหม่ ชวนนักท่องเที่ยวร่วมสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งล้านนา สืบสานประเพณีปี๋ใหม่เมืองในงาน “Water Festival เทศกาลวิถีน้ำ….วิถีไทย”

ที่บริเวณพิพิธภัณฑ์เรือนโบราณล้านนา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นายปวิณ ชำนิประศาสน์ เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “Water Festival 2018 เทศกาลวิถีน้ำ…วิถีไทย” โดยจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และภาคีเครือข่าย จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “รื่นเริง เถลิงศก…ย้อนยุคสู่วัฒนธรรมโบราณล้านนาสืบสานประเพณีปี๋ใหม่เมือง” ระหว่างวันที่ 13 – 15 เมษายน 2561

เพื่อตอกย้ำแนวคิดเรื่องการท่องเที่ยววิถีไทยให้คนรุ่นใหม่ได้ร่วมเรียนรู้ และร่วมกันส่งเสริม สืบสานมรดกไทย สู่คนไทยและสากล ด้วยการบอกเล่าประเพณีอันดีงามอันเป็นเอกลักษณ์ของความเป็นไทยไปทั่วโลก ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 พร้อมกันทั้ง 4 ภาค ของประเทศไทย

สำหรับ กิจกรรมภายในงานจะมีการนำวิถีชีวิต สถาปัตยกรรม ประเพณี วัฒนธรรม สงกรานต์ล้านนาวิถีโบราณอันดีงาน ประกอบด้วย ลานทรายข่วงหลวง ที่จะได้สรงน้ำพระพุทธรูปประจำวันเกิด ก่อเจดีย์ทราย ตานตุงราศีประจำวันเกิด , กาดหมั้วครัวฮอม ซึ่งจะมีอาหารพื้นเมืองหลากหลายเมนู และเมนูอาหารมงคลเถิงศก ทั้งยังได้ร่วมประดิษฐ์ของใช้ที่นำมาประกอบพิธีหรืองานบุญต่างๆ ด้วยตนเอง เช่น การตัดช่อ ตัดตุง ทำหมากสุ่ม หมากเบ็ง เพื่อเป็นเครื่องสักการะในวันสงกรานต์