ข่าวเด่น » โลกเปลี่ยน ตุ๊กตุ๊ก เชียงใหม่ต้องปรับเปลี่ยนด้วยไม่อย่างงั้นอยู่ลำบาก

โลกเปลี่ยน ตุ๊กตุ๊ก เชียงใหม่ต้องปรับเปลี่ยนด้วยไม่อย่างงั้นอยู่ลำบาก

18 มกราคม 2018
2227   0

Social Share

หากพูดถึงรถตุ๊กตุ๊ก หรือชื่อเรียกทางราชการว่า สามล้อเครื่อง หลายคนอาจจะทราบกันดีว่าเป็นรถโดยสารสาธารณะที่มีลักษณะเป็น รถบรรทุกสามล้อ มีไฟหน้าหนึ่งดวงมีหลังคาผ้าใบ และมีที่จับบังคับเหมือนรถจักรยานยนต์ ด้านหัลงจะมีเบาะนั่งไว้คอยรับส่งผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของการท่องเที่ยวของประเทศไทย ที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหากเดินทางมายังประเทศไทยเมื่อไหร่ ก็ต้องขอลองใช้บริการรถตุ๊กตุ๊กไทยสักครั้งหนึ่ง

สำหรับประวัติความเป็นมาของเจ้ารถประเภทนี้นั้น เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อปีพ.ศ. 2503 เมื่อได้มีประกาศห้าม รถสามล้อถีบวิ่งในเขตกรุงเทพมหานครเนื่องจากเห็นว่าเป็นรถที่แล่นช้า เกะกะกีดขวางทางจราจร ทำให้เกิดวิวัฒนาการในการนำเอารถสามล้อเครื่องกระบะบรรทุกจากญี่ปุ่น เข้ามาดัดแปลง โดยเอามาต่อหลังคาเพิ่มไว้สำหรับนั่งโดยสารและขนของได้ โดยเรียกชื่อว่า สามล้อเครื่อง แต่ชาวต่างชาติที่มาเที่ยวเมืองไทยไม่รู้จะเรียกรถสามล้อเครื่องว่า อะไร เลยอาศัยเรียกชื่อตามเสียงท่อไอเสียของรถ กลายเป็นชื่อ “รถตุ๊กตุ๊ก” ซึ่งเป็นชื่อเรียกที่ติดปากมาถึงวันนี้

นายศุภกิต สงวนทรัพย์ หนึ่งในคนขับ รถตุ๊กตุ๊ก ในจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า รถตุ๊กตุ๊ก ถือเป็น สัญลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทย เนื่องด้วยเอกลักษณ์ และความแปลก จึงทำให้นักท่องเที่ยวนิยมใช้บริการและมักจะถ่ายรูปไปโชว์ให้กับเพื่อนๆชาวต่างชาติ จนทำให้รถตุ๊กตุ๊กเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เมื่อมาเที่ยวเชียงใหม่ หรือเมืองไทยก็ขอลองนั่งสักครั้งในชีวิต โดยราคาจะขึ้นอยู่กับระยะทาง ในการเดินทาง โดยในแต่ละวันสามารถสร้างรายได้มากถึงวันละ 500-1,000 บาท และยิ่งถ้ายิ่งเป็นในช่วงเทศกาลที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก จะสามารถสร้างรายได้มากถึงวันละ1,000-3,000 บาท

แต่ในปัจจุบันกลับพบว่าจำนวนรถสามล้อเครื่องรับจ้างกลับลดลง เนื่องจกาหลายสาเหตุโดยสาเหตุหลักเกิดจากในปัจจุบันได้มีระบบขนส่งมวลชนทางเลือกอย่าง อูเบอร์ และแกร็บคาร์ ส่งผลทำให้นักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการลดลง จากที่เคยมีรายได้กว่าวันละพันบาท กลับลดลงเหลือเพียงไม่กี่ร้อยบาท จนหลายคนต้องเลิกขับรถตุ๊กตุ๊กไปเนื่องจากรายได้ไม่เพียงพอที่จะไปจุนเจือครอบครัว และต้องได้หาประกอบอาชีพใหม่ในที่สุด

ด้านนายศุภกิจ ลอมจิตต์ ประธานสหกรณ์สามล้อเครื่องลานนา ได้เปิดเผยถึงสาเหตุว่า แต่เดิมรถสามล้อเครื่องรับจ้างในจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการขึ้นทเบียนกับกรมการขนส่งทางบกมากถึงกว่า 1,400 คัน แต่ภายหลังเมื่อปี 2535 กระทรวงคมนาคมได้มีการประกาศงดจดทะเบียนรถสามล้อเครื่องรับจ้าง ทำให้ปริมาณรถสามล้อเครื่องรับจ้างลดลง สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากบางคันมีสภาพทรุดโทรมจนไม่สามารถนำไปวิ่งได้ และสาเหตุอีกส่วนหนึ่งนั้นเกิดจากในปัจจุบันได้มีระบบขนส่งมวลชนทางเลือก ซึ่งได้แย่งส่วนแบ่งของลูกค้าจากรถในระบบขนส่งมวลชนสาธารณะไป แม้จะมีการป้องกันและปราบปราม ยังไม่ได้ผลมากนัก

จึงส่งผลทำให้ผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะมีรายได้ลดลงเกินกว่าครึ่ง หลายคนจึงเลิกประกอบกิจการขับรถสามล้อเครื่องรับจ้างเนื่องจากรายได้ไม่สามารถจุนเจือครอบครัวได้ ทำให้จำนวนรถสามล้อเครื่องรับจ้าง ในปัจจุบันลดลงเหลือเพียงประมาณ 1,100 คัน ซึ่งหลังจากที่ได้มีการศึกษาปัญหา ทางสหกรณ์สามล้อเครื่องลานนา ก็ได้พยายามดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย ทั้งในเรื่องของการปรับลดราคา รวมไปถึงการจัดระเบียบรถ หากผู้ขับขี่รถแสดงมารยาทที่ไม่ดีต่อผู้โดยสารหรือผู้ใช้รถใช้ถนนก็จะได้มีบทลงโทษตามความเหมาะสม

 

นอกจากนี้ยังได้มีการนำรถสามล้อไฟฟ้า หรือรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า มาใช้ในการรับส่งผู้โดยสารแทนสามล้อคเรื่องรูปแบบเดิม เพื่อเป็นการลดมลพิษ อีกทั้งยังเป็นการลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการ ให้สามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้น และเป็นการนำเอาเอกลักษณ์ของรถตุ๊กตุ๊กมาผสมผสานเทคโนโลยี เพื่อประยุกต์ใช้ให้เขากับยุคสมัยใหม่ให้ทันกับโลกเพื่อจะยื้อต่อลมหายใจสร้างรายได้ให้กับคนขับรุตุ๊กตุ๊กในเชียงใหม่ต่อไป