นางสาวแทมมี่ ชาร์ป ผู้แทนสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาติ (United Nations High Commissioner for Refugee : UNHCR) ประจำประเทศไทย และคณะในการเดินทางมาปฏิบัติภารกิจในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมเข้าเยี่ยมพบปะผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อหารือช่วยเหลือผู้ลี้ภัย
7 พ.ค.68 นายเอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ได้ให้การต้อนรับ นางสาวแทมมี่ ชาร์ป ผู้แทนสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (The United Nations High Commissioner for Refugees: UNHCR) ประจำประเทศไทย นายคัตสิโนริ โคอิเกะ หัวหน้าสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ สำนักงานภาคสนามจังหวัดแม่ฮ่องสอน และคณะ ที่เข้าพบเยี่ยมคารวะ เพื่อหารือข้อปัญหาการช่วยเหลือผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมา ณ ห้องอุดมชาวนิเทศ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ได้รับการสนับสนุนการดำเนินการให้ความช่วยเหลือกิจกรรมในการดูแลผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบจากรัฐบาลไทย และจังหวัดแม่ฮ่องสอนมาโดยตลอด โดยมี ปลัดจังหวัดแม่ฮ่องสอน ป้องกันจังหวัดแม่ฮ่องสอน ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับ
ในการนี้ ผู้แทนสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย และคณะได้เดินทางไปเยี่ยมชการดำเนินงานในพื้นที่พักพิงชั่วคราวบ้านแม่ลามาหลวง บ้านแม่ละอูน อำเภอสบเมยและบ้านในสอย อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ในช่วงระหว่างวันที่ 5-7 พฤษภาคม 2568
ทั้งนี้ ในการร่วมหารือข้อราชการกับผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน และหัวหน้าส่วนราชการ นอกจากมีการแนะนำสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ สำนักงานภาคสนามจังหวัดแม่ฮ่องสอน (UNHCR) และภารกิจที่ดำเนินการในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนแล้ว นางสาวแทมมี่ ชาร์ป ผู้แทนสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทยและคณะ ยังได้หารือแนวทางการช่วยเหลือผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบในอนาคต กว่า 55,746 คน หลังจากสหรัฐอเมริกา ยุติการให้ความช่วยเหลือชุดใหม่ หยุดสนับสนุนงบประมาณโครงการด้านการดูแลสุขภาพและการคุ้มครองในพื้นที่พักพิงชั่วคราวฯ ชายแดนไทย-เมียนมา ผ่านองค์กร International Rescue Committee (IRC) เป็นระยะเวลา 3 เดือน เพื่อทบทวนนโยบายต่างประเทศ จนทำให้เกิดผลกระทบต่อพื้นที่พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยการสู้รบฯ โดยปัจจุบันสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ UNHCR ได้ให้การคุ้มครอง ช่วยเหลือ และปกป้องสิทธิของกลุ่มคนดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง
เบื้องต้นในการหารือข้อราชการตลอดจนการรับฟังปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ได้มีการติดตามในด้านการดูแลผู้อพยพในพื้นที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว อาทิ ด้านความต้องการขั้นพื้นฐาน ด้านสิทธิมนุษยชน ความต้องการในด้านการเกษตรเพื่อสร้างอาหาร สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่ครอบครัว เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีในระหว่างที่อาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงฯ
ผู้แทนสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทยยังได้ชื่มชมรัฐบาลไทยในการแก้ไขปัญหาการพิจารณาพิสูจน์สัญชาติที่ลดระยะเวลาการดำเนินงานจาก 100 วัน เป็น 5 วัน ขณะเดียวกันยังมีข้อห่วงใยในการตัดงบประมาณของสหรัฐฯ ในการให้ความช่วยเหลือผู้หนีภัยการสู้รบฯ ที่จะเกิดปัญหาในอนาคต โดยเฉพาะการรักษาพยาบาล การดำรงชีพ พร้อมกันนี้ได้ขอบคุณทางจังหวัดแม่ฮ่องสอนที่ได้ให้ความร่วมมือด้วยดีเสมอมา และขอให้ทางจังหวัดพิจารณาให้ความช่วยเหลือทั้งด้านการรักษาพยาบาลและการจ้างแรงงานผู้อพยพ
ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ในส่วนของการดำเนินการของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องยังคงให้การสนับสนุนและช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้หนีภัยการสู้รบฯ อย่างต่อเนื่องทั้ง 4 พื้นที่ แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะมีการยุติการให้ความช่วยเหลือด้านงบประมาณโครงการด้านการดูแลสุขภาพและการคุ้มครองในพื้นที่พักพิงชั่วคราวฯ ทั้งนี้ เป็นการดำเนินการภายใต้นโยบายของกระทรวงมหาดไทย และตามแนวทางของรัฐบาลและสภาความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งจังหวัดยังคงรอมาตรการที่ชัดเจนจากส่วนกลางในส่วนที่เกี่ยวข้อง ต่อไป
สำหรับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย – เมียนมา นับตั้งแต่ปี 2527 ได้มีการสู้รบระหว่างรัฐบาลพม่ากับชนกลุ่มน้อยบ่อยครั้ง เป็นเหตุให้มีผู้หลบหนีภัยการสู้รบเดินทางเข้ามาในเขตประเทศไทยตามสภาวการณ์ที่เกิดขึ้น โดยรัฐบาลไทยได้อนุญาตให้ผู้อพยพหนีภัยดังกล่าวอาศัยอยู่ในพื้นที่พักพิงชั่วคราวบริเวณชายแดนไทย – เมียนมา ตามหลักมนุษยธรรม
ปัจจุบันจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีพื้นที่พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมา จำนวน 4 แห่ง ในพื้นที่อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน อำเภอขุนยวม และอำเภอสบเมย ประกอบด้วย พื้นที่พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยการสู้รบฯ บ้านในสอย อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 6,663 คน พื้นที่พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยการสู้รบฯ บ้านแม่สุริน อำเภอขุนยวม อยู่ในพื้นที่หมู่บ้านห้วยฟาน มีผู้อพยพหนีภัยการสู้รบอาศัย จำนวน 1,846 คน พื้นที่พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยการสู้รบฯ บ้านแม่ลามาหลวง อำเภอสบเมย มีผู้อพยพหนีภัยการสู้รบ จำนวน 9,108 คน และ พื้นที่พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยการสู้รบฯ บ้านแม่ละอูน อำเภอสบเมย โดยผู้อพยพอยู่ที่หมู่บ้านแม่ตอละ ตำบลแม่สามแลบ อำเภอสบสบเมย มีผู้อพยพหนีภัยการสู้รบฯ อาศัยอยู่ จำนวน 8,074 คน รวมมีผู้หนีภัยจากการสู้รบ ทั้ง 4 แห่ง จำนวน 25,746 คน (ข้อมูล ณ 25 เม.ย. 2568)
Cr. ฉลอง หมั่นสกุล จ.แม่ฮ่องสอน