เชียงราย โจ๋ถีบรถพยาบาลหวังข่มขืนก่อเหตุแล้วรวม 3 ครั้ง เพิ่งพ้นโทษ 5 เดือน
วันที่ 14 มิ.ย. 68 เวลา 17.30 น. ที่ สภ.เมืองเชียงราย พลตำรวจตรี มานพ เสนากูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย ได้นำตัวนายภัคพงษ์ หรือต่อ อายุ 27 ปี ชาว ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาล จ.เชียงราย ที่ จ.406/2568 ลงวันที่ 13 มิ.ย.2568 ในข้อหา “กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยขู่เข็บด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ และข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจและทำให้เสียทรัพย์” หลังจากได้ก่อเหตุขับขี่รถจักรยานยนต์ไล่ถีบรถของ น.ส.ริน อายุ 23 ปี พยาบาลฝึกงานโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ที่กำลังขับขี่รถจักรยานยนต์ออกเวรจากโรงพยาบาลจะกลับหอพักบริเวณแยกฮ่องอ้อ ต.ดอยฮาง อ.เมืองเชียงราย ในช่วงเวลาเกือบเที่ยงคืน จากนั้นยังฉุดลากหญิงสาวลงไปในพงหญ้าข้างทางเพื่อพยายามจะข่มขืนถึง 2 ครั้งแต่ไม่สำเร็จเพราะมีพลเมืองดีที่ขับมาพบ
การจับกุมในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ออกติดตามหาตัวโดยติดตามเส้นทางจากกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ และลักษณะของคนร้าย จนพบว่าได้ไปหลบซ่อนอยู่ในบ้านไม่มีเลขที่พื้นที่หมู่บ้านโล๊ะป่าตุ้ม หมู่ 7 ต.ดอยลาน อ.เมืองเชียงราย ห่างจากตัวเมืองเชียงรายออกไปประมาณ 30 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่จึงได้นำกำลังเข้าไปปิดล้อมเอาไว้ก็พบตัวนายภัคพงษ์ จึงจับกุมตัวได้ จากการตรวจในบ้านพบอาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์จำนวน 1 กระบอก เมื่อตรวจร่างกายพบสารเสพติดในร่างกายจึงตั้งข้อหาเพิ่มเติมคือ “มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ,เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย
โดยพลตำรวจตรีมานพ ได้ทำการสอบปากคำ ผู้ต้องหาโดยนายต่อ ได้ให้การว่าในวันที่เกิดเหตุ วันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตนได้เดินทางไปหาเพื่อนแต่จำซอยเข้าบ้านเพื่อนไม่ได้จึงได้ขับรถวนไปมาจนกระทั่งมาถึงแยกไฟแดงสันโค้งหลวงเห็นผู้เสียหายขับรถผ่านมา จึงได้ติดตามไปเป็นระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร กระทั่งก่อนถึงจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตรเป็นที่เปลี่ยว จึงได้ไล่ถีบรถผู้เสียหายจนล้มลงและพยายามล่วงละเมิดทางเพศแต่ไม่สำเร็จเพราะมีรถยนต์ผ่านมาจึงได้หลบหนีไป
นาย ต่อให้การอีกว่า เคยก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศมาแล้วก่อนหน้านี้ 2 ครั้ง ครั้งแรกเป็นอดีตภรรยาที่เลิกรากันไป ได้ก่อเหตุหลังจากทีมีปากเสียงกัน ครั้งที่ 2 ก่อเหตุกับหลานสาวของร้านค้าที่รู้จักกัน พาไปที่กระท่อมข้างทางแล้วก่อเหตุ และครั้งที่ 3 คือครั้งนี้เป็นผู้เสียหายทีเป็นพยาบาลแต่ไม่สำเร็จ นอกจากนี้ยังให้การอีกว่า เพิ่งเคยต้องโทษคดียาเสพติดจำนวน 200 เม็ด ถูกศาลพิพากษาจำคุกได้ 3 ปีเศษ พ้นโทษออกจากเรือนจำมาในเดือน ม.ค.68 ที่ผ่านมา หรือได้เพียง 5 เดือนก็มาก่อเหตุในคดีนี้อีก
จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายต่อ มาที่รถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุเพื่อประกอบหลักฐานการกระทำผิดพร้อมกับหมอกกันน็อค เสื้อและกระเป๋าที่สะพายในวันก่อเหตุ โดยนายต่อรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา หลังจากนั้นได้มี น.ส.ริน และญาติ ได้มาขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้เร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี ซึ่งทางพลตำรวจตรีมานพ ก็ได้กล่าวกับผู้เสียหายว่าหลังก่อเหตุก็ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ทุกสรรพกำลังในการติดตามตัวคนร้าย แต่เนื่องจากเป็นที่เปลี่ยวและมองไม่เห็นป้ายทะเบียนของรถที่ใช้เป็นพาหนะทำให้การจับกุมได้ยากจึงต้องใช้เวลา ทางพลตำรวจตรีมานพ จึงได้กล่าวขอโทษผู้เสียหายที่ใช้เวลาในการติดตามตัวคนร้ายนาน
พลตำรวจตรีมานพ กล่าวอีกว่า นายภัคพงษ์ หรือต่อ น่าจะก่อเหตุในลักษณะนี้หลายครั้ง ซึ่งหากใครที่ตกเป็นผู้เสียหายให้เข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ที่เกิดเหตุ เพื่อจะได้แจ้งข้อกำล่าวหาเพิ่มเติมกับผู้ต้องหา ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เสียหายอีกจำนวนหนึ่งเนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติกรรมที่ก่อเหตุซ้ำในลักษณะเดียวกัน
Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์