20 ส.ค.68 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค5 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุม ข้าราชการฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ตามนโยบายปราบปรามยาเสพติด และได้ร่วมแถลงข่าวกาาจับกุมยาไอซ์ จำนวน 700 กิโลกรัม โดยการจับกุมสืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ตชด.33 ได้รับแจ้งว่าจะ มีกลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ใช้ พื้นที่ บ้านป่าบงงาม ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เป็นพื้นที่พักยา จากการลักลอบลำเลียงยาเสพติด จากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาพักเก็บรอขนส่งเข้าพื้นที่ชั้นในของประเทศ จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่ ต่อมาเจ้าหน้าที่พบนายดำรัส ชาวบ้านอำเภอเชียงดาว จ.เชียงใหม่ ขับรถยนต์ โตโยต้าไทเกอร์ สีบรอนทอง ติดโครงเหล็ก เข้ามาในพื้นที่และเข้าไปที่จุดลำห้วย และมีคนร้ายอีกหลายคนขับรถจักรยานยนต์ สองคันเข้ามาพยายามขนของขึ้นรถ เจ้าหน้าที่จุงได้แสดงตัวเข้าจับกุมแต่คนร้ายแตกตื่นอาศัยความมืดวิ่งหลบหนีเจ้าหน้าที่จับกุมตัวนานดำรัส ได้พบของกลางยาไอซ์บรรจุในกระสอบ 25 กระสอบ น้ำหนักกว่า 700 กิโลกรัม จากการสอบสวนทราบว่ามีกลุ่มกองกำลังติดอาวุธจากประเทศเพิ่อนบ้านลอบขนยาไอซ์ล็อตนี้เข้ามาเพื่อจะนำส่งพื้นที่กทม. และนำของมาพักไว้รอตนและพวก มาขนส่งไปให้ผู้ร่วมขบวนการอีกทอดหนึ่งซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนขยายผลต่อไป
รักษาการแทนนายกฯ เปิดเผยว่าขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ประสานกันทำงานในการปราบปรามยาเสพติดทำให้มีผลงานการจับกุมมากขึ้นในทุกพื้นที่ ก็ได้ให้นโยบายให้ทุกหน่วยงานเพิ่มควาทเข้มงวดในการทำงานเพื่อปราบปรามยาเสพติดให้หมดไป สังคมไทยวันนี้รับรู้ว่า “ยาเสพติดเป็นเรื่องเร่งด่วน เป็นภัยร้ายแรงต่อสังคมและประเทศชาติของเรา” เราต้องยอมรับกันอย่างชัดเจนว่า พี่น้องประชาชนทุกคนรู้สึกว่ามันเกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้า และมันทำให้เกิดความแตกแยกในสังคม ทำให้เกิดปัญหาที่มันพัวพันสังคมหลายส่วน ครอบครัวแตกแยก พ่อแม่ฆ่าลูก ลูกฆ่าพ่อแม่ พี่น้องฆ่ากันเพราะยาเสพติด รัฐบาลจึงกำหนดให้ยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ โดยบูรณาการทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย ป.ป.ส. กระทรวงกลาโหม เราบูรณาการทุกส่วนเพื่อแก้ไขปัญหา เพราะเรื่องการแก้ยาเสพติดเป็นเรื่องที่ทำคนเดียวหรือหน่วยใดหน่วยหนึ่งไม่ได้ต้องทำร่วมกันทุกภาคส่วน รักษาการแทนนายกรัฐมนตรีกล่าวในที่สุด
.