ข่าวเด่น » เชียงใหม่ เปิดประมูลป้ายทะเบียนรถเลขสวย หมวด “ขล” พร้อมเปิดตัวรถแท็กซี่รุ่นใหม่เรียกผ่านแอพพลิเคชั่นได้

เชียงใหม่ เปิดประมูลป้ายทะเบียนรถเลขสวย หมวด “ขล” พร้อมเปิดตัวรถแท็กซี่รุ่นใหม่เรียกผ่านแอพพลิเคชั่นได้

10 กุมภาพันธ์ 2018
1650   0

Social Share

รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ขึ้นเหนือเปิดประมูลป้ายทะเบียนรถเลขสวย หมวด “ขล” มอบเป็นของขวัญให้ชาวเชียงใหม่ในวันวาเลนไทน์และช่วงเทศกาลตรุษจีน พร้อมเปิดตัวรถแท็กซี่รุ่นใหม่เรียกผ่านแอพพลิเคชั่นได้

นายเชิดชัย สนั่นศรีสาคร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ได้เป็นประธานเปิดการประมูลหมายเลขทะเบียนรถเลขสวย ครั้งที่ 21 จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายชาญชัย กีฬาแปง ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวรายงาน และมีผู้เข้าร่วมประมูลเป็นจำนวนมาก ซึ่งการประมูลครั้งนี้เป็นหมวดอักษร “ขล” จำนวน 301 เลขหมาย จัดขึ้นในห้วงระหว่างวันที่ 10 – 11 ก.พ. ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติเอ็มเพรส โรงแรมดิเอ็มเพรส จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากทำพิธีเปิดเสร็จแล้ว ก็ได้มอบอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการที่ประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนด้วย

สำหรับผลการประมูลครั้งนี้ผู้ที่ประมูลแผ่นป้ายที่ถือเป็นสุดยอดตัวเลข คือหมายเลข 9999 ไปครองคือ นายจิระพงศ์ กุลพฤทธานนท์ อายุ 52 ปี ประธานที่ปรึกษา ร้านจิปาถะ ซึ่งได้ประมูลไปในราคา 740,000 บาท และยังได้ประมูลอีก 3 ป้ายไปครองคือ หมายเลข 1111 ในราคา 330,000 บาท หมายเลข 2222 ในราคา 110,000 บาท และหมายเลข 9988 ในราคา 80,000 บาทด้วย

นายชาญชัย กีฬาแปง ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การประมูลรั้งนี้แม้ว่า หมายเลขทะเบียน 9999 จะเป็นหมายเลขสูงที่สุดในจำนวนเป้าหมายของการประมูลและครั้งนี้ก็มีผู้ประมูลไปไม่ถึง 1 ล้านบาทนั้น ซึ่งตรงจุดนี้ทางกรมการขนส่งไม่ได้บังคับว่าจะต้องประมูลได้ในราคาเท่าไหร่ หลักเท่าไหร่ จะถึงล้านหรือไม่ถึงล้านก็ได้ เพราะถือเป็นการร่วมกันทำบุญ นำเงินเข้ากองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน

โดยเงินที่ได้ก็นำไปใช้ในการรณรงค์ด้านความปลอดภัย การอบรมให้ความรู้กับเยาวชน จัดซื้อกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) การสร้างจิตสำนึกให้ประชาชน และจัดซื้ออุปกรณ์มอบให้กับผู้พิการที่ประสบอุบัติเหตุบนท้องถนน ดังนั้น จึงไม่ห่วงว่าจะประมูลได้ในราคาสูงหรือไม่ เพราะจังหวัดเชียงใหม่ก็ถือว่าเปิดประมูลหลายครั้งแล้ว และมากกว่าจังหวัดอื่นๆ ที่เปิดประมูล

นอกจากนี้ยังถือเป็นการประมูลก่อนห้วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ และเทศกาลตรุษจีนด้วย ซึ่งผู้เข้าร่วมประมูล สามารถนำแผ่นป้ายทะเบียนรถเลขสวยไปเป็นของขวัญในวันวาเลนไทน์ และเทศกาลตรุษจีนได้ด้วยแต่ดูจากบรรยากาศในวันนี้ เพียงแค่ช่วงเช้าก็มีการสู้การประมูลกันอย่างดุเดือด ยอดของการประมูลเมื่อครั้งที่ 20 ที่ผ่านมาได้ 14,857,000 บาท ซึ่งจากช่วงเช้าของการประมูลก็ได้ไป 4 ล้านกว่าบาทแล้ว คาดว่าในวันนี้ทั้งวันจะได้ถึง 7 ล้านบาท และยังเหลือแผ่นป้ายประมูลอีกในวันที่ 11 ก.พ. 61 ก็คาดว่าน่าจะได้ใกล้เคียงกับครั้งที่ผ่านมา และช่วงวันที่ 30 มิ.ย. – ก.ค. 61 ก็จะมีการเปิดประมูลครั้งที่ 22 และเป็นครั้งที่ 2 ประจำปี 61 ด้วย

นายเชิดชัย สนั่นศรีสาคร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ที่ผ่านมาจังหวัดเชียงใหม่ถือเป็นจังหวัดที่มีครั้งของการจัดประมูลมากที่สุด ครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่ 21 แล้ว ในหมวดอักษร “ขล” มีความหมายว่า “ขับรถเลขสวย ร่ำรวยโชคลาภ” และเงินรายได้ทั้งหมดจากการประมูลโดยไม่หักค่าใช้จ่ายเข้ากองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) เพื่อนำมาใช้ในด้านการรณรงค์ป้องกันอุบัติเหตุและช่วยเหลือผู้บาดเจ็บด้วย

หลังจากทำพิธีเปิดการประมูลเสร็จแล้ว ก็ได้ร่วมกันลงมาเปิดตัวรถแท็กซี่ที่ติดตั้งด้วยระบบแอพพลิเคชั่นแบบทันสมัย “Taxi OK” โดย นายเชิดชัย สนั่นศรีสาคร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า เพื่อให้เกิดการพัฒนารูปแบบการให้บริการแท็กซี่มิติใหม่อย่างเป็นรูปธรรม กรมการขนส่งทางบกได้เดินหน้าโครงการ “Taxi OK มิติใหม่แท็กซี่ไทย” ซึ่งถือเป็นการยกระดับการให้บริการรถแท็กซี่ไทยทั้งระบบเป็นครั้งแรก ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกำกับ ดูแล และควบคุมความปลอดภัยจากภาครัฐ เพิ่มศักยภาพการเข้าถึงบริการอย่างสะดวก รวดเร็ว

เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนในยุคดิจิทัล สร้างโอกาสในการประกอบอาชีพ ยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ขับรถแท็กซี่ ทั้งนี้ Taxi OK “แตกต่าง” จากแท็กซี่มิเตอร์ในปัจจุบัน เนื่องจากพัฒนาขึ้นโดยมุ่งไปยังสิ่งที่ผู้โดยสารต้องการอย่างแท้จริง เช่น การใช้เทคโนโลยี GPS Tracking ที่มีระบบยืนยันตัวตนผู้ขับรถ และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกความปลอดภัย กล้องบันทึกภาพในรถแบบ Snap Shot ปุ่มฉุกเฉิน SOS จะช่วยเพิ่มความมั่นใจในความปลอดภัยตลอดการเดินทาง และมีความแตกต่างชัดเจนด้วยแอพพลิเคชั่น Taxi OK

สำหรับเรียกใช้บริการรถแท็กซี่ได้สะดวกรวดเร็วผ่านโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของผู้โดยสาร ซึ่งจะเข้ามาแก้ไขความไม่สะดวกสบายด้านบริการแท็กซี่ที่มีอยู่ในปัจจุบันจากปัญหาต่างๆ เช่น ผู้ขับรถเลือกรับผู้โดยสาร ปฏิเสธการให้บริการทั้งที่ยังเปิดไฟสถานะว่าง ความเที่ยงตรงของมาตรค่าโดยสาร หรือการคิดค่าโดยสารเกินจริงจากอัตราที่ปรากฏบนมาตรค่าโดยสาร เป็นต้น นอกจากนี้ ยังสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพให้ผู้ขับรถแท็กซี่ เพิ่มความสามารถในการเข้าถึงผู้โดยสารได้มากยิ่งขึ้น