การเมือง-การปกครอง » “ลดาวัลลิ์” แนะรัฐบาล ควรปลดล็อกสมุนไพรทั้ง13ชนิดอย่าขึ้นทะเบียนเป็นวัตถุอันตราย เพราะเป็นทั้งอาหารและยารักษาโรค ระวังเป็นกับดักของกลุ่มทุนสารเคมีหวังสะกัดเกษตรอินทรีย์ของไทย

“ลดาวัลลิ์” แนะรัฐบาล ควรปลดล็อกสมุนไพรทั้ง13ชนิดอย่าขึ้นทะเบียนเป็นวัตถุอันตราย เพราะเป็นทั้งอาหารและยารักษาโรค ระวังเป็นกับดักของกลุ่มทุนสารเคมีหวังสะกัดเกษตรอินทรีย์ของไทย

18 กรกฎาคม 2020
461   0

Social Share

นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงานและผู้ก่อตั้งว่าที่พรรคเสมอภาค กล่าวว่า รัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไม่ควรแค่ปลดล็อคสมุนไพรไทย 13 ชนิดที่เป็นวัตถุอันตรายจากประเภทที่สองมาเป็นประเภทที่หนึ่ง แต่ควรจะปลดล็อคจากการเป็นวัตถุอันตรายทั้งหมดไปเลย เพื่อไม่ให้เกิดความยุ่งยากในการนำสมุนไพรทั้ง 13 ชนิดมาใช้เพื่อป้องกันแมลงศัตรูพืชของประชาชนชาวไทย เพื่อให้สามารถรองรับมาตรการห้ามจำหน่ายและห้ามใช้สารเคมีอันตรายในการป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืชที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างรุนแรง ตนเห็นว่ารัฐบาลควรจะส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืชจากสมุนไพรไทยให้แพร่หลาย มีความสะดวกและประหยัดค่าใช้จ่าย และหากใครจะผลิตเพื่อขายรัฐบาลก็ควรสนับสนุนให้ง่าย รวดเร็วทุกขั้นตอนไม่ใช่มาควบคุมให้ยุ่งยากล่าช้า เมื่อพิจารณาข้อดำหนดวัตถุอันตรายชนิดที่ 1 ได้แก่ วัตถุอันตรายที่การผลิต การนำเข้า การส่งออก หรือการมีไว้ในครอบครอง ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนด ยิ่งเห็นชัดเจนว่าการครอบครองสมุนไพรทั้ง13 ชนิดก็ยังจะมีหลักเกณท์วิธีปฏิบัติมาควบคุมอีกใช่หรือไม่

การกำหนดให้สมุนไพรไทยทั้ง13ชนิดที่ให้ประโยชน์ต่อชีวิตและสุขภาพของคนไทยมาตั้งแต่บรรพบุรุษเป็นวัตถุอันตรายเช่นนี้ จะเป็นการสร้างความน่ากลัวขึ้นหรือไม่เพราะตนและสภาครูแพทย์แผนไทยกำลังจะนำตำรับยาสมุนไพรไทยที่มีส่วนผสมของสมุนไพรใน13ชนิดดังกล่าวมาใช้ป้องกันรักษาโรคไข้ปอดอักเสบที่เกิดจากเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูงฯลฯ และการควบคุมพืชที่เป็นอาหารและยาเช่นนี้จะเป็นการละเมิดสิทธิ์ของประชาชนหรือไม่ และที่สำคัญรัฐบาลควรมองในเชิงเศรษฐกิจการแข่งขันทางการค้าด้วยเพราะถ้าหากออกข้อกำหนดให้ยุ่งยากต่อการใช้การผลิตผลิตภัณท์จากสมุนไพรทั้ง13 ชนิดซึ่งนับว่ามีประสิทธิภาพดีที่สุดและปลอดภัยที่สุด ก็จะไม่เติบโตและแข่งขันกับผลิตภัณท์จากสารเคมีอันตรายได้เลย นางลดาวัลลิ์กล่าว