ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่แนวชายแดน แม่น้ำสาละวิน สำรวจ แหล่งท่องเที่ยว

ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่แนวชายแดน แม่น้ำสาละวิน สำรวจ แหล่งท่องเที่ยว

วันที่ 11 พ.ค. 68 นายเอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วย พ.อ.ยอดชาย พวงวรินทร์ ผบ.ฉก.สิงหนาท นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายบุญลือ ธรรมธรานุรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด พ.อ. ภูมิรัชต์ ดุษฏี รอง ผอ.รมน.จ.แม่ฮ่องสอน นายวรศักดิ์ พานทอง นายอำเภอแม่สะเรียง ว่าที่ร้อยตรี ภานุวัฒน์ ขัดนาค ผอ.ททท.สำนักงานแม่ฮ่องสอน นายภานุเดช ไชยสกูล นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอน ฉก.ทพ.36 นายก อบต.แม่คง และส่วนราชการในพื้นที่ เดินทางไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของ กำลังพลฐานปฏิบัติการ ฉก.ทพ.36 และเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักป่าไแนวชายแดนแม่น้ำสาละวิน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อติดตามสถานการณ์ รับทราบข้อมูลข่าวสาร พบปะประชาชนชุมชนแพน้ำ และมอบเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อบำรุงขวัญกำลังใจ รวมถึงมอบนโยบายในการปฎิบัติงานให้เจ้าหน้าที่ทหาร ป่าไม้ ฝ่ายปกครอง ที่ดูแลป้องกันแนวชายแดนไทยสาละวิน จากนั้นได้ร่วมทำการลาดตระเวณทางน้ำโดยเรือยนต์ ตรวจชายแดนไทยด้านทิศใต้ อ.สบเมย แม่สะเรียง และสำรวจ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง บ่อกินนรี

บ่อน้ำกินรี หรือสระน้ำมรกต ตั้งอยู่หมู่ที่ 9 ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวิน การเดินทางไปยังสระน้ำกินรี ต้องนั่งเรือจากบ้านแม่สามแลบ ไปตามน้ำสาละวิน ใช้เวลาการเดินทางโดยประมาณ 6 ชั่วโมง เนื่องจากต้องขับเรือทวนน้ำลัดเลาะตามแนวชายแดน ไทย-เมียนมาร์ บริเวณสระน้ำกินรีตั้งอยู่ในแผ่นดินไทยที่เป็นแหลมยื่นเข้าไปในพม่ามีธรรมชาติที่สวยงามมาก น้ำในสระน้ำกินรี จะมีความใส แวววาว สีมรกต อยู่ติดริมแม่น้ำสาละวิน นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปถึงสระน้ำกินรี จะมองเห็นทิวทัศน์ ธรรมชาติที่สวยงามตระการตาน่าหลงไหล

นายเอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน การเดินทางไปตรวจพื้นที่ เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย – เมียนมา สร้างความมั่นคงให้ประชาชนตามแนวชายแดนแม่น้ำสาละวินด้าน อ.สบเมย และ อ.แม่สะเรียง จากการตรวจติดตามพื้นที่ชายแดนมีความสงบ ไม่มีการสู้รบที่จะทำให้เกิดผลกระทบกับประชาชนชายแดน นอกจากตรวจเยี่ยมดูสถานการณ์ชายแดนแล้ว ส่วนหนึ่งหาแนวทางเปิดแหล่งท่องเที่ยวให้กับจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาเที่ยวในพื้นที่ด้าน อ.แม่สะเรียง อ.สบเมย ให้มากขึ้น โดยเฉพาะบ่อกินรีบริเวณริมแม่น้ำสาละวิน ซึ่งการเดินทางอาจจะลำบากบ้างแต่ก็เป็นการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ จะพยายามปรับปรุงเส้นทางเพื่อให้การเดินทางเข้ามาแหล่งท่องเที่ยวบ่อกินรีสะดวกขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาได้มีการทำถ่ายทำภาพยนตร์โฆษณาหลายเรื่อง โดยจังหวัดแม่ฮ่อง ททท.สมาคมท่องเที่ยว จะได้ร่วมกันสร้างเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันซีล เรื่องความมั่นคงไม่น่ากังวลเพราะฝ่ายความมั่นคงได้ร่วมกันดูแลเป็นอย่างดีตลอดแนวชายแดน

ฉลอง หมั่นสกุล จ.แม่ฮ่องสอน

เชียงราย ภาคประชาชนร่วมตัวเคลื่อนไหวเร่งรัดจัดการสารปนเปื้อนในแม่น้ำกก

เชียงราย ภาคประชาชนร่วมตัวเคลื่อนไหวเร่งรัดจัดการสารปนเปื้อนในแม่น้ำกก

เวลา 10.00 น.วันที่ 5 พ.ค.68 ที่ลานใต้สะพาน ขัวพญามังราย เขตเทศบาลนครเชียงราย กลุ่มศิลปินขัวศิลปะ ประมาณ 30 คน ได้รวมตัวกันเพื่อจัดกิจกรรม WORKSHOPวาดภาพแม่น้ำกก ที่ไม่เหมือนเดิม หลังพบสารปนเปื้อนในแม่น้ำกก ทำให้ประชาชนชาวเชียงรายไม่กล้าใช้น้ำจากแม่น้ำกก มาอุปโภคบริโภค โดยต่างวาดภาพโดยใช้เทคนิคต่างๆ เฉพาะตัว เพื่อสื่อสารให้คนภายนอกได้เห็นแม่น้ำกกที่เปลี่ยนไปผ่านผลงานศิลปะ

โดยมีคำประกาศ ศิลปินเชียงราย ภาคประชาสังคมด้านสิ่งแวดล้อม และประชาชน กรณีแม่น้ำกกปนเปื้อนสารพิษ ว่า

1.เรียกร้อง ให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ ตลอดจนองค์กรระหว่างประเทศ ดำเนินการตรวจสอบ ค้นหาสาเหตุ และแหล่งที่มาของการปนเปื้อนอย่างโปร่งใสและเร่งด่วน พร้อมทั้งเปิดเผยข้อมูลให้สาธารณชนรับทราบอย่างต่อเนื่อง
2.เรียกร้อง ให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังต่อผู้ที่ก่อให้เกิดมลพิษ และกำหนดมาตรการป้องกันระยะยาวเพื่อมิให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย ทั้งในพื้นที่ต้นน้ำและตลอดลำน้ำกก
3. เรียกร้อง ให้มีการฟื้นฟูแม่น้ำกกอย่างเร่งด่วนและยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ทั้งภาคประชาชน นักวิชาการ ศิลปิน และผู้ได้รับผลกระทบ เพื่อให้การฟื้นฟูตอบสนองต่อความต้องการและภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างแท้จริง
4. พวกเรา ศิลปิน ภาคประชาสังคม และประชาชนชาวเชียงราย ขอประกาศว่าจะร่วมกันทำทุกวิถีทาง เพื่อติดตาม ตรวจสอบ และผลักดันให้เกิดการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม เราจะใช้ความรู้ ความสามารถ สรรพกำลัง และพลังแห่งศิลปะ เพื่อสร้างความตระหนักรู้ รณรงค์ และขับเคลื่อนให้แม่น้ำกกกลับมามีชีวิต ไหลใสสะอาดอีกครั้ง
5. เราขอเชิญชวนให้พี่น้องชาวเชียงรายและคนไทยทั้งประเทศ ร่วมกันเป็นหูเป็นตา ปกป้อง ดูแล และฟื้นฟูแม่น้ำกก เพื่อธำรงไว้ซึ่งระบบนิเวศ วิถีชีวิต และวัฒนธรรมอันดีงามของเชียงรายให้กลับคืนมาอย่างสมบูรณ์

นายไกรทอง เหง้าน้อย จากสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต กล่าวว่า วันนี้เป็นงานศิลปะ ในบทบาทของศิลปินเชียงราย ที่มีบทบาทสำคัญที่จะเยียวยาจิตใจและสร้างสรรค์งาน วันนี้น้ำในแม่น้ำกก ที่ปนเปื้อนสารพิษ เป็นแม่น้ำที่กำลังหายใจแบบโรยริน ซึ่งมันถึงเวลาที่ทุกคน ทุกภาคส่วนในจังหวัดเชียงราย ออกมาร่วมกันปกป้องแม่น้ำสายนี้ร่วมกัน โดยศิลปินจากขัวศิลปะเชียงราย และภาคประชาสังคมที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งทุกคนต่างให้ความสนใจแม่น้ำกก ว่าพวกเราจะอยู่ในสถานการณ์นี้ยังไง และจะรอดจากมันได้อย่างไร การจัดงานในครั้งนี้เป็นการส่งเสียงออกไปว่าพวกเราได้รับความเดือดร้อน อยากให้เมืองนี้วันนี้ถูกทำร้ายจากสารพิษ และในอนาคตภัยพิบัติกำลังจะเราจะเตรียมพร้อมยังไง ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ เพราะแม่น้ำสายนี้ทำให้ผู้คนเกือบทั้งจังหวัดเชียงรายได้รับผลกระทบกันทั้งหมด ไม่ว่าเศรษฐกิจสังคม ระบบนิเวศที่เสื่อมไป ปลาที่เราเคยกินได้ก็ไม่กล้ากิน น้ำที่เราเคยบริโภคกำลังจะฆ่าเรา จากสิ่งที่เราไม่ได้ทำ เราต้องการเรียกร้องให้ภาคส่วนต่างๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง

“งานศิลปะที่เกิดขึ้นในวันนี้เพื่อเป็นการบอกเล่าโดยใช้ศิลปะ เพื่อให้เกิดกลไกลในการจัดการปัญหา แม้ว่ามันจะเป็นปัญหาข้ามแดนก็ตามแต่เชียงรายก็เคยผ่านปัญหาอุปสรรค์ใหญ่ๆมาได้ อย่างเช่นถ้ำหลวงเพราะทุกคนร่วมไม้ร่วมมือกัน ครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้ง เมื่อเมืองเกิดภัยพิบัติคนเชียงรายคนทั่วประเทศก็จะเข้ามาช่วยเหลือกันอีกครั้งเพื่อให้มีกลไกด้านความรู้ การบริหารจัดการ เพื่อไปสู้ส่วนที่เกี่ยวข้องที่จะต้องจัดการโดยใช้ทุกวิถีทางเพื่อจะฟื้นเมืองจากภัยพิบัติให้ได้ วันนี้ศิลปะจะบอกเราว่าตอนนี้แม่น้ำเป็นยังไง ซึ่งแม่น้ำมีชีวิต จะต้องฟื้นมามีชีวิตอีกครั้ง” นายไกรทอง กล่าว

นายนิพรธ์ ใจนนท์ถี นายกสมาคมขัวศิลปะ กล่าวว่า วัตประสงค์ในการจัดงานในครั้งนี้คือเราอยากจะวาดรูปที่เป็นภาพแม่น้ำกกในจินตนาการของเรา อยากให้คนเชียงรายใส่ใจสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อเราทุกวันนี้ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องตระหนัก ทำให้เกิดการจัดงานวาดรูปในวันนี้เพื่อต้องการให้แม่น้ำกกกลับมาเป็นเหมือนเดิม โดยหลังจากวาดรูปเสร็จแล้วจะนำไปจัดแสดงที่หอศิลปะร่วมสมัยเมืองเชียงราย

จากนั้นในช่วงบ่ายที่ลานกิจกรรมสะพานริมกก-เวียงเหนือรวมใจ ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย ได้มีกิจกรรม ฮอมปอยนิทรรศการบทสนทนา “ธาราไร้พรมแดน:เสียงจากแม่น้ำกกและชุมชน” โดยนางเตือนใจ ดีเทศน์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา กล่าวเปิดงานว่า แม่น้ำกกคือหัวใจของคนเชียงรายและเชียงใหม่ จึงควรได้รับการอนุรักษ์รักษาไว้และแม่น้ำสายนี้เป็นแม่น้ำแห่งอารยะธรรมเพราะอยู่ร่วมกันหลากหลายชาติพันธุ์ โดยทุกๆปีแม่น้ำกกใส แต่ปีนี้ขุ่นข้น เมื่อทราบสาเหตุจากการบอกเล่าของชาวไทใหญ่ที่ต้นน้ำว่าถูกทำลายจากการปลูกพืชเชิงเดี่ยวและการทำเหมืองที่ไม่มีมาตรฐาน โดยพบสารพิษปนเปื้อนโดยเฉพาะสารหนู

นางเตือนใจกล่าวว่าการแก้ปัญหาคือต้องแก้ที่ต้นเหตุ และปัญหานี้เป็นปัญหายิ่งใหญ่ที่รัฐบาลต้องเร่งเจรจากับผู้ที่สร้างเหตุของมลพิษครั้งนี้ การจัดกิจกรรมรณรงค์ครั้งนี้จะต้องจัดกันอย่างต่อเนื่องจนกว่าปัญหาจะได้รับการแก้ไข

ทั้งนี้ภายในงานได้มีการจัดเวทีเสวนาเรื่องอนาคตแม่น้ำกกโดย นายสายยัณน์ ข้ามหนึ่ง ผู้อำนวยการสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิตกล่าวว่า ขณะนี้การปนเปื้อนสารหนูในแม่น้ำกก ส่งผลกระทบทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม เราพบว่าปลาในแม่น้ำกกบางชนิดมีความผิดปกติ จากการเก็บตัวอย่าง 4 ชนิด พบว่าปลาหนัง 2 ชนิดมีความผิดปกติและติดโรค ตอนนี้เรารู้ว่าค่าต่างๆเกินมาตรฐาน หน่วยงานต่างๆต้องเข้าร่วมตรวจแล้ว กรมประมงต้องตรวจปลาในลำน้ำกก ลำน้ำสาย ลำน้ำรวก รวมทั้งน้ำอิง น้ำงาวและน้ำโขง โดยตลอดสายแม่น้ำกกจากท่าตอนมาถึงปลายน้ำมีลำน้ำสาขา 28 สาย ซึ่งอนาคตจำเป็นต้องตรวจปลาในลำน้ำสาขาเหล่านี้ด้วย ดังนั้นจึงควรมีศูนย์ตรวจอยู่ที่เชียงราย

“ควรมีการตรวจเลือดประชาชนด้วยเพื่อวิเคราะห์สารที่ตกค้าง แต่ตอนนี้ยังไม่ได้เริ่มต้นตรวจเลย ขณะเดียวกันคนเชียงรายต้องรวมตัวกันให้มากๆ เพราะมิเช่นนั้น รัฐบาลก็ไม่ให้ความสนใจในปัญหานี้เท่าที่ควร โดยในวันที่ 5 มิถุนายนซึ่งเป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก ควรนัดเจอกันหน้าศาลากลาง หากรวมตั้วกันเป็นหมื่นคน เชื่อว่ารัฐบาลคงต้องรีบแก้ปัญหา”นายสายัณน์ กล่าว

นายชิตวัน ชินอนุวัฒน์ สส.เชียงราย พรรคประชาชน กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนได้พาหลานไปเล่นน้ำกก ปรากฏว่าเกิดผื่นขึ้นเต็มตัว จึงได้ลงพื้นที่และนำเรื่องสารปนเปื้อนในแม่น้ำกกเข้าไปหารือในสภา ขณะนี้ประชาชนต่างได้รับความเดือดร้อนกันถ้วนหน้า

“ผมผลักดันในสภาและติดตามเรื่องกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ คณะกรรมาธิการความมั่นคงฯจะตั้งคณะทำงานขึ้นมาติดตามเรื่องนี้โดยมี สส.จุฬาลักษณ์ ขันสุธรรม เป็นประธาน”นายชิตวัน กล่าว

น.ส.เพียรพร ดีเทศน์ ผู้อำนวยการฝ่ายรณรงค์ องค์การแม่น้ำนานาชาติ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีแม่น้ำไหนในประเทศไทยที่น้ำปนเปื้อนสารหนูตั้งแต่ต้นจนถึงปลายน้ำเหมือนแม่น้ำกก ดังนั้นจึงเป็นปัญหาร้ายแรงและวิกฤตของชาวเชียงราย ทุกวันนี้เขาก็ยังกำลังเปิดเหมืองเถื่อนและเปิดหน้าดิน โดยคนไทยกำลังได้รับสารพิษ การแก้ปัญหาคือยุติที่ต้นตอที่ปล่อยสารพิษ ซึ่งในหลักการระหว่างประเทศ ที่สามารถนำมาใช้ได้คือ ปฏิญญาริโอว่าด้วยสิ่งแวดล้อม 1992 เช่น No Harm Principle หลักการไม่ก่อความเสียหาย Public Participation and Access to Information การมีส่วนร่วมของประชาชนและการเข้าถึงข้อมูล รวมทั้งข้อชี้แนะของสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจและสิทธิมนุษยชน UNGP on Business and Human Right ที่มีหลักการป้องกัน เคารพ และเยียวยา

คนเชียงรายต้องโกรธมากกว่านี้ ออกมา เพราะแม่น้ำกกเป็นแม่น้ำของเราที่ใช้และดื่มกิน เขาทำให้แม่น้ำเราขุ่นขุ้นและเต็มไปด้วยสารโลหะหนัก รัฐบาลปล่อยให้เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร จำเป็นต้องไปคุยกับฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นจีน พม่า หรือว้า อนาคตหากมีการสร้างเขื่อนปากแบงกั้นแม่น้ำโขง ต่อไปสารโลหะหนักก็ต้องไปกองตามปากแม่น้ำและที่นั่น ดังนั้นรัฐบาลควรเร่งแก้ไขปัญหาด่วน

“มีน้ำแต่ใช้ไม่ได้ ไม่เคยคิดว่าจะเกิดกับชาวเชียงราย ถ้าเกิดในพม่าที่ไม่มีรัฐบาลก็พอรับได้ แต่นี่เกิดในประเทศไทยมที่มีรัฐบาล ดังนั้นวันที่ 5 มิถุนายน ของคนที่ห่วยใยแม่น้ำกกมาเจอกัน”ผู้อำนวยการฝ่ายรณรงค์ องค์การแม่น้ำนานาชาติ กล่าว

ในช่วงท้ายการเสวนาได้เปิดโอกาสให้ผู้ร่วมงานแสดงความคิดเห็นโดย วรัญญา พรหมสาขา ณ สกลนคร อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย กล่าวว่า พื้นที่ ต.ริมกก ไม่ใช้ประปาภูมิภาค แต่ใช้ประปาหมู่บ้าน เราเห็นความตั้งใจของ อบต.ริมกก ที่พัฒนาให้น้ำคุณภาพดี แต่พื้นที่อื่นเกิดการตั้งคำถามว่ามีระบบอย่างไร หลายคนคิดง่ายๆว่าไม่ใช้น้ำประปาจากแม่น้ำกก แต่ใช้น้ำบาดาลแทน แต่รู้ได้อย่างไรว่าน้ำบาดาลมีคุณภาพดี ที่สำคัญคือเราไม่รู้ว่าน้ำจะท่วมอีกหรือไม่ หากน้ำท่วมด้วยปริมาณสารพิษที่เป็นอยู่มาก ความเสียหายจะแค่ไหน

นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ตนเคยเป็นวัฒนธรรมกาญจนบุรี เคยเข้าไปพบชุมชนคลิตี้ซึ่งสภาพธรรมชาติของเขาได้รับสารโลหะหนักเกิดค่ามาตรฐาน จนประชาชนเกิดความพิการ แม่เด็กเกิดใหม่ก็พิการซึ่งน่ากลัวมาก แต่เชียงราย 2 ลำน้ำ ได้รับผลกระทบหมดเลยซึ่งร้ายแรงกว่านั้น อยากให้ตระหนักกันทุกคนและลุกขึ้นมา เพราะแม่น้ำทั้ง 2สายยังไหลลงแม่น้ำโขงด้วย เราต้องมีมาตรการอย่างจริงจังและมียุทธศาสตร์โดยเอาปัญหาเป็นที่ตั้งและวางแผนอย่างเป็นระบบ อยากให้ทุกองค์กรบูรณาการร่วมกัน

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

เชียงราย เริ่มรื้ออาคารริมแม่น้ำสายทำพนังกันน้ำท่วม

เชียงราย เริ่มรื้ออาคารริมแม่น้ำสายทำพนังกันน้ำท่วม

วันที่ 10 พ.ค. 68 นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายประสงค์ หล้าอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย มอบหมายให้ นายวรายุทธ ค่อมบุญ นายอำเภอแม่สาย จ.เชียงราย พร้อมด้วยปลัดอำเภอ, เจ้าหน้าที่ทหารของกรมการทหารช่าง เทศบาลตำบลแม่สาย พร้อมด้วยผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้ช่วยกันรื้อถอนอาคารสิ่งปลูกสร้าง ตั้งอยู่ในพื้นที่ตลาดสายลมจอยติดกับลำน้ำสาย แม่น้ำพรมแดนไทย-เมียนมา

สำหรับการรื้อถอนอาคารสิ่งปลูกสร้างครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจาก นายกานน สายสินธ์ อดีตผู้เช่าที่ดินของราชพัสดุแปลงที่มีการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง โดยพื้นที่ที่ได้หลังจากการรื้อถอนอาคารสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวแล้ว จะมีการนำไปใช้เป็นพื้นที่เพื่อเร่งดำเนินการก่อสร้างพนังป้องกันน้ำท่วม ป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับชุมชน

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

เชียงราย รวบหนุ่มใหญ่อาศัยรีสอร์ทร้างขายยาบ้า

เชียงราย รวบหนุ่มใหญ่อาศัยรีสอร์ทร้างขายยาบ้า

วันที่ 10 พ.ค.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจงานสืบสวน สภ.แม่จัน ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ จิตรประสาร ผกก.สภ.แม่จัน ,พ.ต.ท.ศุภกรณ์ชัย เดชายิ้มสวัสดิ์ รอง ผกก.สส.สภ.แม่จัน ชุดจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.แม่จัน นำโดย พ.ต.ต.ผดุง ท้ายเรือคำ รรท.สว.สส.สภ.แม่จัน นำกำลังหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.แม่จัน ร่วมกันจับกุม นายสามารถ สงวนนามสกุล อายุ 52 ปี ชาว ตำบลป่าซาง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ในข้อกล่าวหาว่า “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย” พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้าจำนวน 162 เม็ด

โดยการจับกุมในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่สืบทราบว่ามีการมั่วสุมและจำหน่ายยาเสพติดภายในรีสอร์ทร้าง พื้นที่ หมู่ 10 ตำบลป่าซาง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย จึงได้นำกำลังเข้าตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบ นายสามารถ นอนอยู่ภายใน มีอุปกรณ์เสพยา วางอยู่กระจัดกระจายทั่วบริเวณ ทางเจ้าหน้าจึงได้ทำการควบคุมตัวนายสามารถเอาไว้ และทำการตรวจค้นในพื้นที่ โดยพบยาบ้าจำนวนหนึ่งวางอยู่ใกล้ตัว เมื่อตรวจสอบพบว่ามีจำนวน 162 เม็ด

ในเบื้องต้นนายสามารถ ให้การว่าได้ได้นำยาบ้ามาจากชายแดน เพื่อจำหน่ายให้กับกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ โดยได้เสพยาบ้ามาก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาตรวจพบ 2 เม็ด โดยทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการควบคุมตัวนายสามารถเอาไว้ พร้อมของกลางส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฏหมายต่อไป

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

ศอ.จอส.พระราชทาน มทบ.37/ศบภ.มทบ.37 โดย ร.17 พัน.3 ในพระองค์ฯ ช่วยเหลือประชาชน ที่ประสบวาตภัย ในพื้นที่ อ.แม่สรวย

ศอ.จอส.พระราชทาน มทบ.37/ศบภ.มทบ.37 โดย ร.17 พัน.3 ในพระองค์ฯ ช่วยเหลือประชาชน ที่ประสบวาตภัย ในพื้นที่ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

วันที่ 10 พ.ค.68 เวลา 10.00 น. พล.ต.จักรวีร์ เสนีย์วรยุทธ์ ศอ.จอส.พระราชทาน มทบ.37/ผบ.ศบภ.มทบ.37 มอบหมายให้ พ.อ. ชยุต จันทะวงค์ รอง เสธ.ศบภ.มทบ.37 นำกำลังพลจิตอาสาพระราชทาน ร.17 พัน.3 ในพระองค์ฯ พร้อมด้วย กอ.รมน.จว.เชียงราย , สด.อ.แม่สรวย , ชุดแพทย์เคลื่อนที่ รพ.ค่ายเม็งรายมหาราช และส่วนราชการในพื้นที่ เข้าให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบวาตภัย ในพื้นที่ อ.แม่สรวย ที่ผ่านมาซึ่งได้รับความเสียหาย ถึง 119 ครัวเรือน จึงได้ประสานงานและบูรณาการส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าให้การช่วยเหลือโดยทำการซ่อมแซมบ้านที่ได้รับความเสียหายหนัก จำนวน 3 หลังคาเรือน ได้เปลี่ยนกระเบื้องหลังคามุงหลังคาใหม่ และเก็บกวาดสิ่งของที่เสียหาย พร้อมทั้งพบปะเยี่ยมเยือนให้กำลังใจผู้ประสบวาตภัย และผู้ป่วยกลุ่มเปราะบาง ทั้งนี้ได้มอบเครื่องอุปโภค – บริโภค เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ผลลัพธ์ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบรู้สึกขอบคุณและอบอุ่นใจ

#ทหารไม่ทอดทิ้งประชาชน#

แม่ฮ่องสอน อากาศร้อน เมาเหล้าลงเล่นน้ำจมดับ

แม่ฮ่องสอน อากาศร้อน เมาเหล้าลงเล่นน้ำจมดับ

วันที่ 10 พ.ค. 68 เวลา 08.30 น. ร.ต.อ. สุวรรณ เจริญสุข พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน รับแจ้งเหตุมีคนจมน้ำเสียชีวิตในบ่อปลาเขตพื้นที่บ้านในสอย ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปสอบสวนที่เกิดเหตุร่วมกับแพทย์เวร รพ.ศรีสังวาลย์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิบรรเทาสาธารณภัยแม่ฮ่องสอน

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบศพชายลอยโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำภายในบ่อปลา ติดกับกับถนนทางเข้าหมู่บ้านก่อนถึงบ้านในสอยประมาณ 400 เมตร เจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำมูลนิธิบรรเทาสาธารณภัยแม่ฮ่องสอนจึงลงไปกู้ศพขึ้นมาเพื่อทำการชันสูตร ทราบชื่อผู้ตายคือนายจรูญ พรวรุณศิลป์ อายุ 56 ปี เป็นราษฎรบ้านในสอย สภาพสวมเสื้อเชิ้ตคอปกแขนสั้นสีน้ำเงิน สวมกางเกงวอร์มขาสั้นสีดำ ตามร่างกายไม่มีบาดแผลหรือร่องรอยจากการถูกทำร้ายแต่อย่างใด แพทย์ระบุเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง ตรวจสอบบริเวณกระท่อมพักริมบ่อ พบมีชาย 2 คน อายุประมาณไล่เลี่ยกับผู้ตาย มีอาการมึนเมาสุรา

สอบสวนนายต่อ อายุ 54 ปี เพื่อนของผู้ตาย ซึ่งมีอาการเริ่มส่างเมาให้การณ์ว่า ช่วงบ่าย 2 โมง ของวันที่ 9 พ.ค ที่ผ่านมา นายจรูญ ผู้ตายได้มาตั้งวงดื่มเหล้าขาวกับตนและนายทุน ที่กระท่อมริมบ่อปลาเหมือนทุกครั้ง จนเริ่มมืดคว่ำต่างคนต่างเมา ต่อมานายจรูญ บ่นว่าอากาศร้อน จะไปอาบน้ำ ตนจึงเข้าใจว่านายจรูญคงจะกลับไปบ้านเพื่ออาบน้ำนอน จากนั้นตนและนายทุนจึงนั่งดื่มเหล้ากันต่อสองคน จนเมาและฟุบหลับไปคาวงเหล้า จนถึงตอนเช้าวันถัดมาทราบว่านายจรูญ หายตัวไปไม่ได้กลับเข้าบ้านแต่อย่างใด จนมาพบเป็นศพลอยโผล่เหนือน้ำภายในบ่อปลาข้างกระท่อม จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบเพื่อทำการกู้ศพและชันสูตร

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ขณะดื่มกับเพื่อนจนมึนเมา จากสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวในช่วงมืดคว่ำ นายจรูญคงจะลงไปแช่น้ำในบ่อปลาเพื่อคลายความร้อน แต่เนื่องจากน้ำในบ่อค่อนข้างลึก ประกอบกับมีอาการมึนเมา จึงอาจเกิดเป็นตะคริวจมน้ำเสียชีวิตไปเอง ไม่น่าจะมีคนทำร้ายแต่อย่างใด ซึ่งจะได้สอบสวนถึงสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้นได้นำศพไปเก็บไว้ที่ รพ.ศรีสังวาลแม่ฮ่องสอน เพื่อรอญาติผู้ตายว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

Cr. ฉลอง หมั่นสกุล จ.แม่ฮ่องสอน

กปน.โรงเรียนแม่กองคา รับหีบบัตรเลือกตั้ง นายกฯ และ สท. จนท.คุมเข้มรักษาความปลอดภัย หลังนายพรานฆ่า 2 ศพ ยังลอยนวล

กปน.โรงเรียนแม่กองคา รับหีบบัตรเลือกตั้ง นายกฯ และ สท. เจ้าหน้าที่คุมเข้มรักษาความปลอดภัย หลังคนร้ายฆ่าราษฏรสองศพยังลอยนวล

วันที่ 9 พฤษภาคม 2568 ณ เทศบาลตำบลแม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง 13 หน่วย ของ ทต.แม่ยวม ได้ทยอยเดินทางมารับหีบบัตรเลือกตั้งบรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยเฉพาะ หน่วยเลือกตั้งที่ 13 เขต 2 โรงเรียนบ้านแม่กองคา ซึ่งเป็นหน่วยที่ทุกคนจับตา เนื่องจากยังไม่สามารถจับคนร้ายที่ฆ่าราษฏรแม่กองคาเสียชีวิต 2 ศพได้ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่ง โรงเรียนบ้านแม่กองคา เป็นอีกหนึ่งแห่งที่เป็นสถานที่เลือกตั้งนายกเทศมนตรี และ สมาชิกสภาเทศบาล โดยมี นายภัควัฒน์ สุปินโน ผอ.รร.บ้านแม่กองคา ในฐานะ ประธาน.กปน.พร้อมด้วยคณะกรรมการได้เดินทางมารับหีบบัตรเลือกตั้ง เพื่อเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้ง วันที่ 11 พ.ค 2568 ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่หลายภาคส่วนที่บูรณาการร่วมกัน เพื่อให้การเลือกตั้งผ่านไปด้วยดี ซึ่งจากการสอบถาม เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง เผย มีความกลัว แต่ก็ยังอุ่นใจที่มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด

ด้าน นางนภัสวรรณ ยาทา ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเทศบาลตำบลแม่ยวม ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางเทศบาลแม่ยวมได้เข้าไปพบปะพูดคุยกับทางผู้นำชุมชนและเยี่ยมให้กำลังใจทั้งผู้ใหญ่บ้าน และ เจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ 36 ที่ทำหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยในหมู่บ้าน พร้อมทั้งได้เตรียมความพร้อมในการจัดหน่วยเลือกตั้ง ซึ่ง บ้านแม่กองคา ในการเลือกตั้งนายกเทศมนตรี และ สมาชิกสภาเทศบาล ซึ่งเป็น หน่วยเลือกตั้ง ที่ 13 ณ โรงเรียนบ้านแม่กองคา มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งอยู่ 430 คน ซึ่งการเตรียมความพร้อมของการเลือกตั้งเป็นไปตามปกติ ภายใต้การดูแลรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่บูรณาการกำลังในการรักษาความปลอดภัยให้กับราษฏรบ้านแม่กองคา ที่ยังคงมีความหวาดกลัวผู้ต้องหาที่ยังไม่สามารถจับกุมได้ในขณะนี้ ซึ่งจากการพูดคุยกับผู้นำชุมชน ทราบว่า เบื้องต้นชาวบ้านที่ย้ายครอบครัวลงมาอยู่ในพื้น อ.แม่สะเรียง ได้มีการทยอยเดินทางกลับขี้นหมู่บ้านบ้างแล้วบางส่วน และ คาดว่าในวันเลือกตั้งผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจะเดินทางมาใช้สิทธิ์ตามปกติ

การรักษาความปลอดภัย ในวันที่ 11 พ.ค 2568 ณ หน่วยเลือกตั้งที่ 13 โรงเรียนบ้านแม่กองคา เขต2 ของ ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ทาง สภ.ท่าตาฝั่ง ได้จัดตั้ง ศูนย์อำนวยการร่วมสนธิกำลังในการรักษาความปลอดภัย ซึ่งประกอบไปด้วย เจ้าหน้าที่ สภ.ท่าตาฝั่ง สภ.สบเมย เจ้าหน้าที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 337 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 อส.แม่สะเรียง โดยจัดแบ่งกำลังเป็น 2 ส่วนในการรักษาความปลอดภัยทั้งพื้นที่ชั้นในและพื้นที่ชั้นนอกให้แก่เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง และ พี่น้องประชาชนที่จะเดินทางมาใช้สิทธิ์ เพื่อสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยให้แก่เจ้าหน้าที่และผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง เพื่อให้การเลือกตั้งสมาชิกสภาและนายกเทศมนตรี เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

ทต.แม่ยวม พร้อมจัดการเลือกตั้งบ้านแม่กองคา แม้คนร้ายยังจับไม่ได้ เจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมรักษาความปลอดภัย

เทศบาลตำบลแม่ยวม พร้อมจัดการเลือกตั้งบ้านแม่กองคา แม้คนร้ายยังจับไม่ได้ เจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมรักษาความปลอดภัย

วันที่ 9 พฤษภาคม 2568 นายสมบัติ ยาวิชัย ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเทศบาลตำบลแม่ยวม พร้อมด้วยคณะกรรมการฯ และนางนภัสวรรณ ยาทา ผู้อำนวยการการเลือกตั้งเทศบาลตำบลแม่ยวม ออกตรวจหน่วยเลือกตั้งเขต 2 หน่วยเลือกตั้งที่ 13 บ้านแม่กองคา ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เป็นอีกหนึ่งหมู่บ้านที่ต้องทำการเลือกตั้ง นายกเทศมนตรี และ สมาชิกสภาเทศบาล ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2568 ท่ามกลางความวิตกกังวลของชาวบ้านที่ยังไม่สามารถจับกุมผู้ต้องหาก่อเหตุฆ่าราษฏรบ้านแม่กองคาเสียชีวิต 2 ศพ เหตุเกิด เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา

โดย นางนภัสวรรณ ยาทา ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเทศบาลตำบลแม่ยวม ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางเทศบาลแม่ยวมได้เข้าไปพบปะพูดคุยกับทางผู้นำชุมชนและเยี่ยมให้กำลังใจทั้งผู้ใหญ่บ้าน และ เจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ 36 ที่ทำหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยในหมู่บ้าน พร้อมทั้งได้เตรียมความพร้อมในการจัดหน่วยเลือกตั้ง ซึ่ง บ้านแม่กองคา ในการเลือกตั้งนายกเทศมนตี และ สมาชิกสภาเทศบาล ซึ่งเป็น หน่วยเลือกตั้ง ที่ 13 ณ โรงเรียนบ้านแม่กองคา มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งอยู่ 430 คน ซึ่งการเตรียมความพร้อมของการเลือกตั้งเป็นไปตามปกติ ภายใต้การดูแลรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่บูรณาการกำลังในการรักษาความปลอดภัยให้กับราษฏรบ้านแม่กองคา ที่ยังคงมีความหวาดกลัวผู้ต้องหาที่ยังไม่สามารถจับกุมได้ในขณะนี้ ซึ่งจากการพูดคุยกับผู้นำชุมชน ทราบว่า เบื้องต้นชาวบ้านที่ย้ายครอบครัวลงมาอยู่ในพื้น อ.แม่สะเรียง ได้มีการทยอยเดินทางกลับขี้นหมู่บ้านบ้างแล้วบางส่วน และคาดว่าในวันเลือกตั้งผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจะเดินทางมาใช้สิทธิ์ตามปกติ

ด้าน การรักษาความปลอดภัย ในวันที่ 11 พ.ค 2568 ณ หน่วยเลือกตั้งบ้านแม่กองคา หน่วยที่ 13 เขต2 ของ ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ทาง สภ.ท่าตาฝั่ง ได้จัดตั้ง ศูนย์อำนวยการร่วมสนธิกำลังในการรักษาความปลอดภัย ซึ่งประกอบไปด้วย เจ้าหน้าที่ สภ.ท่าตาฝั่ง เจ้าหน้าที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 337 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 อส.แม่สะเรียง โดยจัดแบ่งกำลังเป็น 2 ส่วนในการรักษาความปลอดภัยทั้งพื้นที่ชั้นในและพื้นที่ชั้นนอกให้แก่เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง และ พี่น้องประชาชนที่จะเดินทางมาใช้สิทธิ์ เพื่อสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยให้แก่เจ้าหน้าที่และผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง เพื่อให้การเลือกตั้งสมาชิกสภาและนายกเทศมนตรี เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

สมาชิกกลุ่มออมทรัพย์ เพื่อการผลิตบ้านป่างิ้ว อำเภอเวียงป่าเป้า ร้องศูนย์ดำรงธรรมช่วยเหลือถูกโกงหลายล้านบาท

สมาชิกกลุ่มออมทรัพย์ เพื่อการผลิตบ้านป่างิ้ว อำเภอเวียงป่าเป้า รวมตัวยื่นร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงราย วอนเห็นใจขอช่วยติดตามเงินออมคืนกรณีถูกฉ้อโกงหลายล้านบาท

วันที่ 9 พ.ค. 68 ที่ด้านหน้าศาลากลางจังหวัดเชียงราย นางพนิดา รัตนสุภา แม่หลวงบ้านป่างิ้ว หมู่ 1 ต.ป่างิ้ว อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยกลุ่มสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์ เพื่อการผลิตบ้านป่างิ้ว ตำบลป่างิ้ว อำเภอเวียงป่าเป้า จำนวนกว่า 50 คน เดินทางมายังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงราย เพื่อติดตามและทวงถามจากที่เคยมายื่นร้องเรียนขอความเป็นธรรมให้กับสมาชิก หลายคนที่ได้รับความเดือดร้อนถูกฉ้อโกงเงินออมทรัพย์ สูญเงินไปหลายล้านบาท สมาชิกบางรายถึงกับเครียด ซึมเศร้า เนื่องจากเงินทั้งหมดนี้ได้เก็บสะสมรวบรวมมาไว้เพื่อจะนำไปใช้ยามแก่เฒ่า เจ็บป่วย หรือใช้จ่ายยามจำเป็น ซึ่งก่อนหน้านี้เคยไปติดต่อขอเบิกเงินที่เคยสะสมไว้แต่ว่ากลับไม่ได้เงินตามที่ตัวเองยื่นเบิกถอน ทำให้สมาชิกเดือดร้อนจึงได้มาร้องเรียนยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงราย ให้ช่วยติดตามทวงถามไปยังกลุ่มออมทรัพย์ เพื่อการผลิต โดยมีนายลิขิต มีเสรี ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงราย เป็นผู้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวไว้ ซึ่งจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

อย่างไรก็ตาม นางพนิดา รัตนสุภา แม่หลวงบ้านป่างิ้ว ซึ่งเป็นตัวแทนพี่น้องชาวบ้านที่เป็นสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์ เพื่อการผลิต กล่าวว่า ขอฝากสื่อมวลชนอีกทางหนึ่งช่วยกระตุ้นเรื่องของการยื่นเรื่องร้องเรียน เพื่อขอเงินคืนจากคณะกรรมการกลุ่มออมทรัพย์ จำนวนเงินหลายล้านบาทคืนมาให้สมาชิกอีกทางหนึ่งด้วย จึงขอวิงวินฝากไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องและคณะกรรมการกลุ่มออมทรัพย์ นำเงินมาคืนให้กับสมาชิกโดยด่วน

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

แม่สะเรียง กักบริเวณควบคุมโรค หลังพบ แรงงานต่างด้าว ป่วยเป็นวัณโรคดื้อยาหลายขนาน

แม่สะเรียง กักบริเวณควบคุมโรค หลังพบ แรงงานต่างด้าว ป่วยเป็นวัณโรคดื้อยาหลายขนาน

วันที่ 9 พฤษภาคม 2568 นายวรศักดิ์ พานทอง นายอำเภอแม่สะเรียง นายสงกรานต์ สันติกูล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่คง พร้อม ผู้นำชุมชน เจ้าหน้าที่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพแม่คง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอแม่สะเรียง เจ้าหน้าที่คลินิกวัณโรคโรงพยาบาลแม่สะเรียง และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามหลังได้รับแจ้งตรวจพบผู้ป่วยวัณโรคดื้อยาหลายขนาน โดยผู้ป่วยรายดังกล่าวมีสถานะสิทธิ์เป็นบุคคลต่างชาติ สัญชาติเมียนมา เข้าเมืองมารับการรักษาอาการป่วยและเป็นบุคคลที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฏหมาย โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่เพื่อดำเนินการกักตัวผู้ป่วยวัณโรคเชื้อ ดื้อยา(บุคคลต่างด้าว) จำนวน 1 ราย ซึ่งอยู่ในระยะแพร่เชื้อ ท้องที่บ้านทุ่งแล้ง ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน โดยทางเจ้าหน้าที่ได้กำหนดสถานที่กักตัวผู้ป่วยพร้อมออกประกาศสถานที่กักตัวผู้ป่วย ตาม พรบ.ควบคุมโรคติดต่อ พ.ศ.2558 เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ

จากการตรวจสอบที่อยู่อาศัย พบบุคคลต้องสงสัยที่เป็นแรงงานต่างด้าว จำนวน 5 ราย เป็นผู้ป่วย ติดเชื้อโรควัณโรค 1ราย มีประวัติการรักษากับโรงพยาบาลแม่สะเรียง และ 4 ราย แบ่งเป็นแรงงานต่างด้าว ขึ้นทะเบียนในท้องที่จังหวัดเชียงใหม่ 2 ราย และ เป็นแรงงานต่างด้าวที่แจ้งที่อยู่ ในพื้นที่ตำบลบ้านกาศ 2 ราย โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบประวัตินายจ้างพบมีเอกสารถูกต้อง และ ตรวจสอบประวัติแรงงานต่างด้าว ทั้ง 5 คน มีเอกสารเข้ามาทำงานถูกต้องตามกฏหมายแรงงานต่างด้าว

ทั้งนี้ โรคดังกล่าวเป็นโรคติดต่ออันตรายที่ต้องมีการรักษาต่อเนื่องและเฝ้าระวังเป็นกรณีพิเศษ เบื้องต้นสั่งกักพื้นที่ ห้ามออกเดินทางไปไหน พร้อม ให้แยกกันอยู่ แยกของใช้ส่วนตัว วัณโรคเป็นโรคติดต่ออันตราย ที่ต้องมีการรักษาและการเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เจ้าพนักงานควบคุมโรคได้ออกคำสั่งควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโรคเบื้องต้นแล้ว

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน