เชียงราย หาหรือกับเมียนมา เร่งหารือทุกหน่วยงาน ติดตามการขุดลอกแม่น้ำสาย – แม่น้ำรวก แก้ปัญหาสารพิษปนเปื้อนในแม่น้ำ

เชียงราย หาหรือกับเมียนมา เร่งหารือทุกหน่วยงาน ติดตามการขุดลอกแม่น้ำสาย – แม่น้ำรวก แก้ปัญหาสารพิษปนเปื้อนในแม่น้ำ

วันที่ 9 พฤษภาคม 2568 เวลา 10.00 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้มอบหมายให้ นายประสงค์ หล้าอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าหารือและติดตามการขุดลอกในแม่น้ำสาย – แม่น้ำรวก การแก้ไขปัญหาสารปนเปื้อนในแม่น้ำสาย แม่น้ำรวก และแม่น้ำกก และประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมกับ ผู้ว่าราชการจังหวัดท่าขี้เหล็ก สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา โดยผลการหารือสรุปได้ดังนี้

1. ในประเด็นการขุดลอกในแม่น้ำสาย แม่น้ำรวก ฝ่ายไทยได้ดำเนินการ ขุดลอกในแม่น้ำรวกแล้วและยังคงค้างในส่วนของการขุดลอกในแม่น้ำสายซึ่งฝ่ายเมียนมา รับผิดชอบ ทั้งนี้ ฝ่ายเมียนมาแจ้งว่า ได้ดำเนินการจัดเตรียมงบประมาณไว้เรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องและจะสามารถขุดลอก ได้ตามห้วงเวลาที่กำหนด
2. ในประเด็นการแก้ไขปัญหาสารปนเปื้อนในแม่น้ำสาย แม่น้ำรวกและแม่น้ำกก ซึ่ง ฝ่ายไทยได้สอบ ถามแนวทางแก้ไขปัญหาใน ประเด็นดังกล่าว ทางฝ่ายเมียนมา แจ้งว่าการทำอุตสาหกรรม เหมืองแร่ อยู่ในจังหวัดเมืองสาก ทั้งนี้จังหวัดท่าขี้เหล็กจะหารือร่วมกับจังหวัดเมืองสากเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป
3. ฝ่ายไทยได้สอบถามถึงผลกระทบในมาตรการ 3 ตัดเพื่อแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีซึ่งฝ่ายเมียนมาแจ้งว่าจากมาตรการของฝ่ายไทยฝ่ายเมียนมาได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากและอยากให้ฝ่ายไทยยกเลิกมาตรการดังกล่าวทั้งนี้ทางจังหวัดท่าขี้เหล็กรายงานว่าในพื้นที่จังหวัดท่าขี้เหล็กได้ดำเนินการจับกุมปราบรามและไม่มีการตั้งฐานของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในจังหวัดท่าขี้เหล็กแล้ว
4. ในประเด็นอื่นๆฝ่ายไทยได้หารือกรณี ขอเปลี่ยนแปลงเวลาการเปิดจุดผ่านแดนถาวร ณ บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 1 โดยเปลี่ยนแปลงเวลาปิดจากเดิมเวลา 18.30 น.เป็นเวลา 21.00 น. และ การขอความร่วมมือให้ฝ่ายเมียนมาเปิดจุดผ่อนปรนการค้า บ้านปางห้า และบ้านท่าดินดำ ตำบลเกาะช้าง อำเภอแม่สาย ซึ่ง ฝ่ายเมียมาแจ้งว่าจะนำเรียนให้ทางหน่วยเหนือของฝ่ายเมียนมาทราบเพื่อพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

เชียงราย รวบ 2 หนุ่ม ส่ง คีตามีน ผ่านบริษัทขนส่ง

เชียงราย รวบ 2 หนุ่ม ส่ง คีตามีน ผ่านบริษัทขนส่ง

เวลาประมาณ 14.00 น วันที่ 7 พ.ค.2568 เจ้าหน้าที่สืบสวน สภ. แม่สาย ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.มานพ เสนากุล ผบก.ภ.จว.เชียงราย , พ.ต.อ.เทคนิค จันสี ผกก.สภ.แม่สาย, พ.ต.ท.จิรพัชร ผู้มีทรัพย์ รอง ผกก.สส.สภ.แม่สาย,พ.ต.ท.ธนากร ธินะ รอง ผกก.ป.สภ.แม่สาย, พ.ต.ท.รณกฤต รหัทสุวรรณ สวป.สภ.แม่สาย,พ.ต.ต.วงศกร ธนานนทพันธ์.สว.สส.สภ.แม่สาย ได้ร่วมกันจับกุม นายฌะณน หรือณน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ชาว ต.บ้านแหลม อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี และ นายธีรการต์ หรือกาน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ชาว แขวงนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร พร้อมของกลาง คีตามีน จำนวน 11 ถุง รวมน้ำหนักทั้งหมดประมาณ 11 กิโลกรัม ในข้อกล่าวหาว่า “จำหน่ายโดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (คีตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน”

โดยการจับกุมในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.แม่สาย ได้สืบทาทบว่ากลุ่มผู้ค้ายาเสพติดว่าจะมีการนำยาเสพติดใส่กล่องพัสดุ ส่งยังจุดรับฝากส่งของบริเวณบริษัทขนส่งเอกชน แห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบจากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.แม่สาย เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ เมื่อเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุได้ พบกล่องพัสดุสีน้ำตาล โดยปลายทางอยู่ที่ แคมป์คนงาน ราชาเทวะ บางพลี สมุทรปราการ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ขอความร่วมมือพนักงานรับสินค้าขอเปิดบรรจุภัณฑ์ดังกล่าว

เมื่อทำการตรวจสอบภายในกล่องพบ คีตามีน อยู่ในถุงชาสีเขียวจำนวน 3 ห่อ น้ำหนักรวมประมาณ 3 กิโลกรัม จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบชายขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซูมเมอร์เอ็กซ์ สีแดงดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน รูปร่างผอม สวมหมวกสีดำ สวมเสื้อสีดำกางเกงสีดำสวมรองเท้าแตะ สะพายกระเป๋าถือกล่องพัสดุเข้ามาส่งจากนั้นได้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวออกไป เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน จนกระทั่งพบชายคนดังกล่าวขับขี่รถจักรยานยนต์ไปตามถนนบ้านป่ายาง จึงได้ทำการขยายผลการตรวจยึดจับกุมต่อเนื่องกัน

โดยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เดินทางไปยังบ้านเช่าหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ที่ 8 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อทำการตรวจสอบยังบ้านเลขที่ดังกล่าว และได้เรียกให้บุคคลที่พักอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวเปิดประตูเพื่อตรวจสอบได้มี นายฌะณน อายุ 34 ปี ออกมาเปิดประตูให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจพบรูปพรรณสันฐานใกล้เคียงกับที่ตรวจพบในกล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและแสดงบัตรประจำตัวเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. เข้าทำการตรวจสอบและตรวจค้นภายในบ้านเลขที่ดังกล่าว ซึ่งมีนายฌะณน ฯ อายุ 34 ปี ชาวจังหวัดเพชรบุรี, นายธีรการต์ ฯ อายุ 26 ปี ชาวกรุงเทพ อยู่ภายในบ้านเช่าเลขที่ดังกล่าว

จากการตรวจสอบภายในบ้านพักพบกล่องพัสดุจำนวน 2 กล่อง กล่องแรกบรรจุคีตามีน จำนวน 5 ถุง กล่องที่ 2 บรรจุคีตามีน จำนวน 3 ถุง ทั้งสองกล่องซ่อนอยู่ในตู้เก็บของบริเวณห้องครัวของบ้านเช่าเลขที่ดังกล่าว จึงได้จับกุมตัวทั้ง 2 คน พร้อมของกลางทั้งหมด ก่อนจะควบคุมตัวนำส่ง พงส.สภ.แม่สาย ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

เตือน! ประชาชน พบโค กระบือตายหรือป่วยตายผิดปกติ แจ้งปศุสัตว์ทันที อย่าชำแหละเพื่อบริโภคโดยเด็ดขาด

เตือน! ประชาชน พบโค กระบือตายหรือป่วยตายผิดปกติ แจ้งปศุสัตว์ทันที อย่าชำแหละเพื่อบริโภคโดยเด็ดขาด

ภายหลังจากมีการเผยแพร่ข้อความและภาพในกลุ่ม แม่สะเรียง ว่า “สอบถาม วัวตายแบบนี้ กลัวเป็นโรคแอนแทรกซ์ เราควรทำไงดีคะ ไม่รู้จริง ๆ” ซึ่งได้มีผู้แสดงความคิดเห็นจำนวนมากนั้น

วันที่ 8 พฤษภาคม 2568 นายวรศักดิ์ พานทอง นายอำเภอแม่สะเรียง มอบหมายให้ สำนักงานปศุสัตว์อำเภอแม่สะเรียง ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีมีโคตาย ที่ บ้านแม่สะลาบ ตำบลแม่คง อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ทราบว่าเจ้าของชื่อ นางลัดดาวัลย์ ที่อยู่ บ้านแม่สะลาบ ตำบลแม่คง อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน จากการสอบถามอาการของสัตว์ก่อนตาย คาดว่าน่าจะเกิดจากแก๊สในกระเพาะอาหาร ทำให้สัตว์ท้องอืด หายใจไม่ออก และตายในเวลาต่อมา ไม่ใช่เกิดจากโรคระบาดสัตว์แต่อย่างใด ทั้งนี้ ชาวบ้านได้ทำการผ่าซากชำแหละ และนำเนื้อไปกินตั้งแต่เมื่อวานนี้ (7 พฤษภาคม 2568)

อย่างไรก็ตาม สำนักงานปศุสัตว์อำเภอแม่สะเรียง ขอประชาสัมพันธ์ หากพบสัตว์ตายหรือป่วยตายผิดปกติ อย่าชำแหละสัตว์ดังกล่าวมาปรุงอาหารรับประทาน ขายหรือนำไปให้สัตว์อื่นกินเด็ดขาด ขอให้รีบแจ้งปศุสัตว์ในพื้นที่หรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทันที หากจำเป็นต้องสัมผัสให้สวมถุงมือยางและหน้ากากอนามัยทุกครั้ง ถ้ามีอาการป่วยสงสัยให้รีบพบแพทย์

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน

ศอ.จอส.พระราชทาน มทบ.37 ร่วมบริจาคโลหิตเนื่องในโอกาส วันกาชาดโลก (World Red Cross Day 2025)

ศอ.จอส.พระราชทาน มทบ.37 ร่วมบริจาคโลหิตเนื่องในโอกาส วันกาชาดโลก (World Red Cross Day 2025)

วันที่ 8 พ.ค. 68 เวลา 13.00 น. พล.ต.จักรวีร์ เสนีย์วรยุทธ์ ผอ.ศอ.จอส.พระราชทาน มทบ.37 มอบหมายให้ พ.ต.หญิง ณัฐฐินันท์ กิมภากรณ์ ชรก.กกร.มทบ.37 พร้อมด้วยกำลังพลจิตอาสาพระราชทานจาก มทบ.37 และ รพ.ค่ายเม็งรายมหาราช ร่วมกิจกรรมบริจาคโลหิต ดวงตา และ อวัยวะ เนื่องในโอกาสวันกาชาดโลก (World Red Cross Day 2025) 8 พ.ค. 68 เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนที่เจ็บป่วยรอรับการรักษาและผู้ป่วยฉุกเฉินที่ต้องการใช้โลหิตเป็นการเร่งด่วนในพื้นที่ จ.เชียงราย

ทั้งนี้กำลังพลสามารถร่วมบริจาคโลหิตได้จำนวนทั้งสิ้น 1,850 ซีซี ณ ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน เชียงราย อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

มทบ.37 ประกอบพิธีเวียนเทียนเนื่องในวันวิสาขบูชา ประจำปี 2568

มทบ.37 ประกอบพิธีเวียนเทียนเนื่องในวันวิสาขบูชา ประจำปี 2568

วันที่ 8 พ.ค.68 พล.ต.จักรวีร์ เสนีย์วรยุทธ์ ผบ.มทบ.37 เป็นประธานประกอบพิธีเวียนเทียนเนื่องในวันวิสาขบูชา ประจำปี 2568 พร้อมด้วยข้าราชการและครอบครัว มทบ.37 พร้อมทั้งหน่วยในพื้นที่ค่ายเม็งรายมหาราช เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาและรำลึก แด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ได้ทรงประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน ในวันขึ้น 15 เดือน 6 เพื่อความเป็นศาสนิกชนที่ธำรงไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมไทยที่ดีงาม อันเป็นแบบอย่างแก่อนุชนคนรุ่นหลัง ในการนี้ ได้รับความเมตตานุเคราะห์จาก พระครูเขมสุทธิธรรม เจ้าอาวาสวัดเม็งรายมหาราช นำเวียนประทักษิณ 3 รอบ ณ พุทธสถาน ดอยเจดีย์ ค่ายเม็งรายมหาราช ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย จว.ช.ร. ผลการปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

เชียงราย โรม จี้สาวลึกทุนจีนขุดเหมืองแร่ในว้าปล่อยสารพิษเข้าไทย

เชียงราย โรม จี้สาวลึกทุนจีนขุดเหมืองแร่ในว้าปล่อยสารพิษเข้าไทย

วันที่ 8 พ.ค.68 ที่ห้องประชุมพญาพิภักดิ์ ศาลากลาง จังหวัดเชียงราย นายรังสิมนต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.) นายจรินร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ สถาบันการศึกษาและองค์กรเอกชน ร่วมให้ข้อมูล ได้ประชุมเรื่องปัญหาผลกระทบกรณีมีสารหนูปนเปื้อนในแม่น้ำกกและแม่น้ำสายด้าน จ.เชียงราย หลังเกิดกรณีแม่น้ำกกและแม่น้ำสายที่ไหลมาจากเขตปกครองพิเศษที่ 2 (สหรัฐว้า) ประเทศเมียนมา

สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 กรมควบคุมมลพิษ ได้รายงานถึงผลตรวจคุณภาพน้ำและตะกอนดินหลายครั้งก็พบว่ามีสารหนูปนเปื้อนเกินมาตรฐานหรือมากกว่า 0.01 มิลลิกรัมต่อลิตร แต่เมื่อตรวจในลำน้ำสาขาของแม่น้ำกกคือน้ำแม่ฝางกลับพบคุณภาพอยู่ในเกณฑ์ดีมากแสดงว่าสาเหตุมาจากทางต้นน้ำเป็นสำคัญ ปัจจุบันเจ้าหน้าที่จึงมีกำหนดเก็บตัวอย่างน้ำไปตรวจเดือนละ 2 ครั้ง ขณะที่การประปาทั้งที่ จ.เชียงราย แจ้งว่าได้ใช้น้ำจากแม่น้ำกกวันละ 48,000 ลูกบาศก์มตร มีผู้ใช้ 41,300 กว่าคน และการประปาแม่สายใช้น้ำวันละ 9,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน มีผู้ใช้น้ำประมาณ 9,500 คน และจากน้ำรวกวันละ 7,200 ลูกบาศก์เมตร มีคนใช้ 5,850 คน ได้มีการเติมโปรคอลลีน,Gavifloc 333,และโซเดียมไฮดรอกไซด์เพื่อกำจัดโลหะหนักและมีขุ่นไม่เกิน 2 NTU ซึ่งปลอดภัยต่อการบริโภค ทางด้านประมง จ.เชียงราย ได้มีการเก็บตัวอย่างสัตว์น้ำทั้งกินพืชและนักล่าตลอดแนวแม่น้ำ ปัจจุบันได้ส่งตัวอย่างไปตรวจที่ห้องแล็ปที่ จ.เชียงใหม่ โดยกำลังรอผลอยู่นอกจากนี้ปรากฎข่าวมีคนพบปลาแค้ในลักษณมีตุ่มแดงที่เหงือก ครีป หนวด ใต้คาง ก็ได้ส่งไปตรวจแล้วเช่นกัน

 

ด้านนักวิชาการมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาระบุว่าคาดการณ์ว่าต้นเหตุอยู่ในเขตประเทศเพื่อนบ้าน 2 จุดโดยห่างจากประเทศไทยเข้าไป 8.6 กิโลเมตร และ 44.9 กิโลเมตร ทำให้มีสารหนูเพิ่มขึ้น 15-28% และถ้าเป็นฤดูแล้งจะมีปริมาณมากขึ้น จึงเสนอให้มีการทำฝายดักเอาไว้ที่ อ.แม่อาย เพื่อบำบัดตะกอนก่อนไหลลงสู่ท้ายน้ำ

ด้าน ดร.สืบสกุล กิจนุกร สำนักวิชานวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กล่าวว่าเดิมในเขตประเทศเพื่อนบ้านติดกับ จ.เชียงราย มีการทำเหมืองแมงกานีสแล้วปล่อยลงสู่แม่น้ำโขงโดยตรงและนำเข้าผ่านด่านศุลกากรแม่สายเฉลี่ยเดือนละหลายล้านบาท มีรายชื่อกลุ่มทุนต่างๆ เข้าไปลงทุนมากมาย ดังนั้นจึงขอให้คณะกรรมาธิการฯ ได้ตรวจสอบด้วยว่ากรณีเหมืองทองคำต้นแม่น้ำกกและน้ำสายมีกลุ่มทุนใดลงทุน มีการส่งออกมายังประเทศไทยหรือไม่อย่างไร มีเอกชนไทยด้วยหรือไม่เพื่อจะได้นำมาแก้ไขปัญหาได้ต่อไป

นางเตือนใจ ดีเทศน์ หรือครูแดงอดีตสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวว่าตนเชื่อว่าหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ได้แก้ไขปัญหากันอย่างเต็มที่แล้วแต่ต้นเหตุของปัญหาอยู่นอกประเทศ จึงต้องขอให้รัฐบาลได้ขับเคลื่อนเพื่อแก้ไขปัญหาที่ได้รับทั้งๆ ที่ไม่ใช่ผู้ที่ก่อขึ้น

น.ส.เพียรพร ดีเทศน์ เลขาธิการมูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา กล่าวว่าปัญหาแม่น้ำกกปนเปื้อนสารหนูพึ่งเกิดขึ้นเป็นปีแรก ดังนั้นจึงควรแก้ไขปัญหาโดยเร็วหากปล่อยให้ผ่านพ้นไป 2-10 ปีจะมีผลกระทบมากยิ่งขึ้น

โดยหลังการประชุมมีมติ จะมีการตั้งคณะทำงานเพื่อประสานงานกับทางจังหวัดในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ส่วนประเด็นปัญหาที่สรุปได้ก็จะนำเสนอไปยังรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้จัดการ โดยจะได้ขอให้ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) และคณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมา ระดับท้องถิ่น (TBC) ได้ช่วยตรวจข้อมูลพื้นที่ได้สัมปทานเหมืองทองในเขตว้า กลุ่มหรือเอกชนที่ได้รับสัมปทาน โดยอาจจะร่วมมือกับสำนักข่าวกรองแห่งชาติเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลเพื่อจะนำไปเจรจากับทั้งในและต่างประเทศ

นายุติพงษ์ กล่าวว่ากลุ่มทุนจีนไม่รู้พื้นที่การจะเข้าไปลงทุนต้องเข้าหาผู้มีอิทธิพล จึงขอให้ทาง กอ.รมน.และหน่วยงานต่างๆ ได้หาข้อมูล สุดท้ายแล้วอาจจะใช้มาตรการเดียวกันกับการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นต์ที่มีการงดส่งกระแสไฟฟ้าและน้ำมันเชื้อเพลิง

ขณะที่ทางฝ่ายทหารแจ้งว่าจะการประชุมคณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมา ระดับภาค (RBC) ซึ่งฝ่ายไทยมีแม่ทัพภาคที่ 3 เป็นประธานกับ RBC ฝ่ายเมียนมา ระหว่างวันที่ 2-4 ก.ค.2568 นี้ ซึ่งมีการบรรจุวาระเรื่องของการปนเปื้อนสานหนูในแม่น้ำให้กับทางการเมียนมาได้รับทราบด้วยแล้ว

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

เชียงราย ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกทหารใหม่ รุ่นปี 2568 ผลัดที่ 1

เชียงราย ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกทหารใหม่ รุ่นปี 2568 ผลัดที่ 1

วันที่ 8 พฤษภาคม 2568 ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกทหารใหม่ รุ่นปี 2568 ผลัดที่ 1 และมอบธงประจำหน่วยฝึกทหารใหม่ โดยในการประกอบพิธีฯ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 ได้ให้โอวาทแก่ กำลังพลของหน่วยฝึกทหารใหม่ ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการฝึกทหารใหม่ทุกนาย ให้ดูแลเอาใจใส่น้องทหารใหม่ทุกนายเป็นอย่างดี ตลอดจนให้ส่วนที่เกี่ยวข้องให้การสนับสนุนแก่หน่วยฝึกทหารใหม่อย่างเต็มความสามารถ เพื่อเป็นเกียรติและสร้างขวัญกำลังใจให้กับกำลังพลหน่วยฝึกทหารใหม่ ในการสร้างน้องคนเล็กของกองทัพบก ให้เป็นทหารที่ดีมีมาตรฐานตามที่กองทัพบกต้องการ

พร้อมกันนี้ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 ได้นำคณะ เดินทางตรวจเยี่ยม พบปะ และให้กำลังใจ หน่วยฝึกทหารใหม่ ผลัดที่ 1/68 พร้อมมอบเครื่องดื่ม เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ โดยได้ข้อเน้นย้ำว่าการดำเนินการฝึกทุกขั้นตอนจะเป็นไปตามระเบียบที่ทาง ยศ.ทบ. กำหนด และ เจตนารมณ์ของผู้บังคับบัญชา ในการกำกับดูแลทหารใหม่ หากทหารใหม่นายใดเจ็บป่วยไม่สบาย มีความไม่สบายใจให้แจ้งครูฝึกได้ทันที ผู้ฝึกทุกคนพร้อมจะดูแลและช่วยเหลืออย่างเต็มที่ สิ่งที่จะได้จากการพัฒนาตนเองจากการฝึกทหารใหม่ ทั้งสภาพร่างกายและจิตใจ ก็ขอให้ทหารใหม่ทุกนายมีความพยายามให้เต็มขีดความสามารถ ในเรื่องการได้รับอบรมสำหรับการแนะนำความรู้ในการรักษาพยาบาล ประวัติศาสตร์ ความเป็นมาของหน่วย รวมถึงด้านความมั่นคง ที่จะส่งผลกระทบในพื้นที่ จะให้ผู้บังคับบัญชาและส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้เข้ามาแนะนำให้โอกาสต่อไป ในส่วนด้านการศึกษาต่อในระดับชั้นที่สูงขึ้น รวมถึง โอกาสในการสอบ นนส.ทบ. หน่วยจะส่งเสริมให้ทหารใหม่ทุกนายได้เข้าสู่แนวทางที่ถูกต้อง และจะเตรียมผู้ที่มีความชำนาญมาส่งเสริมให้ประสบความสำเร็จอย่างเต็มความสามารถ ทั้งนี้ ขอให้ทหารใหม่ทุกนาย รู้จักหน้าที่ของตนเองและเป็นทหารที่มีวินัย

ทั้งนี้การพบปะน้องทหารใหม่ของผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 พร้อมคณะ โดยได้เน้นย้ำครูฝึกให้มีการดูแลน้องทหารใหม่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเรื่องสิทธิสวัสดิการและความเป็นอยู่ เน้นย้ำมาตรการความปลอดภัยตลอดการฝึก โดยเฉพาะให้ผู้ฝึก ครูฝึก ได้ดูแลเรื่องสถานที่สำหรับการฝึก ต้องหลีกเลี่ยงแดดที่จัด เพื่อลดความเสี่ยงการเจ็บป่วยจากโรคลมร้อน (Heat Stroke) พร้อมสอบถามความเป็นอยู่ ปัญหาข้อขัดข้องในระหว่างการฝึก และเน้นย้ำการพัฒนาร่างกายของน้องทหารใหม่ให้มีความแข็งแรง เพื่อที่จะสร้างน้องทหารใหม่ให้เป็นทหารอาชีพ พร้อมที่จะปฏิบัติภารกิจต่างๆ ของกองทัพบก และพร้อมจะเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาสต่อไป

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

เชียงราย จับคาราโอเกะพื้นที่แม่จัน จ้างเด็ก 15 นั่งดริ๊งค์ เข้าข่ายค้ามนุษย์

เชียงราย จับคาราโอเกะพื้นที่แม่จัน จ้างเด็ก 15 นั่งดริ๊งค์ เข้าข่ายค้ามนุษย์

กลางดึกคืนที่ผ่านมา ตำรวจแม่จัน ร่วมกับฝ่ายปกครอง จ.เชียงราย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บุกจับร้านคาราโอเกะริมถนนพหลโยธิน หลังได้รับแจ้งว่ามีการใช้เด็กหญิงอายุ 15 ปีให้บริการลูกค้า โดยพบเด็กสาว 2 คนนั่งปรนนิบัติ ชงเหล้า และร้องเพลงกับแขกในร้าน จากการสอบสวนเจ้าของร้านให้การรับสารภาพว่าจ้างเด็กจริง โดยให้ค่าจ้างวันละ 100 บาท และเพิ่มให้อีกชั่วโมงละ 150 บาท หากเด็กให้บริการลูกค้า

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้ง 4 ข้อหาหนักแก่เจ้าของร้าน ได้แก่ ตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต, ส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร, จ้างเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีโดยไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ และให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีทำงานในเวลากลางคืนโดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ หากทีมสหวิชาชีพพิจารณาแล้วพบว่าเข้าข่ายการค้ามนุษย์ จะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป และคุมตัวเจ้าของร้านเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

เชียงราย ตำรวจแม่จันรวบ 2 นักค้ายารายย่อย สารภาพรับยาบ้าจากชายแดน

เชียงราย ตำรวจแม่จันรวบ 2 นักค้ายารายย่อย สารภาพรับยาบ้าจากชายแดน

เวลาประมาณ 12.00 น. วันที่ 7 พฤษภาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.แม่จัน จังหวัดเชียงราย ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ จิตรปะสาร ผกก.สภ.แม่จัน สั่งการให้ พ.ต.ท.วีระพล มีบุญ รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.ผดุง ท้ายเรือนคำ รรท.สว.สส.สภ.แม่จัน นำกำลังตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย หลังได้รับรายงานว่ามีการลักลอบจำหน่ายยาเสพติดที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 4 ตำบลแม่ไร่ อำเภอแม่จัน จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น ทราบชื่อต่อมาคือ นายกิจเจริญ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ชาวอำเภอแม่จัน และ นางสาวดลณพร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ชาวอำเภอแม่สาย

จากการตรวจค้นพบของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ชนิดเม็ดและชนิดผง ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพายสีดำที่นายกิจเจริญถืออยู่ตรวจสอบเบื้องต้นพบเป็นยาบ้าจำนวน 192 เม็ด บรรจุในถุงพลาสติก อาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์จำนวน 1 กระบอก

จากการสอบสวนในที่เกิดเหตุ ผู้ต้องหาทั้งสองรายให้การรับสารภาพว่า ได้รับการว่ารับยาบ้ามาจากชายแดน อ.แม่สาย เะื่อมาจำหน่ายให้กับลูกค้าในพื้นที่ อ.แม่จัน และใกล้เคียง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่จัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะได้ขยายผลติดตามจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

ศปภ.ทต.มร. จับมือ ศูนย์ ปภ.เขต 10 ลำปาง จิตอาสาเพื่อสังคม ร่วมด้วยช่วยกันป้องกันภัยทุกรูปแบบ

ศปภ.ทต.มร. จับมือ ศูนย์ ปภ.เขต 10 ลำปาง จิตอาสาเพื่อสังคม ร่วมด้วยช่วยกันป้องกันภัยทุกรูปแบบ

วันที่ 7 พฤษภาคม 2568 ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลแม่สะเรียง ร่วมกับศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 10 ลำปาง ได้ลงพื้นที่ทำความสะอาดพื้นผิวถนน เพื่อความปลอดภัยทางถนน ซึ่งในห้วงเวลาที่ผ่านมา ทางศูนย์ป้องกันเขต 10 ลำปาง ได้ร่วมสนับสนุนบุคลากร และอุปกรณ์ยานพาหนะ ช่วยเฝ้าระวังเตรียมความพร้อมในเรื่องของไฟป่าและอัคคีภัยภายในพื้นที่อำเภอแม่สะเรียง และ พื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งตอนนี้ใกล้ถึงเวลากำหนดกลับแล้ว จึงได้ร่วมดำเนินการจิตอาสาทำความสะอาดพื้นผิวถนนโดยรอบในเขตเทศบาลตำบลแม่สะเรียง

ทั้งนี้ เทศบาลตำบลแม่สะเรียง ขอขอบคุณศูนย์ป้องกันและบรรเทาภัยเขต 10 ลำปาง ที่ได้ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ในห้วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งในอนาคต ศปภ.ทต.มร. และ ศูนย์ ปภ.เขต 10 ลำปาง พร้อมเป็นเครือข่ายในการเฝ้าระวังเหตุสาธารณภัย เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนจากภัยทุกรูปแบบ

Cr. สุกัลยา / แม่ฮ่องสอน