มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ.ฯ มอบทุนการศึกษา 2568 ให้เด็กและเยาวชนด้อยโอกาส 33,980 ทุน

มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ.ฯ มอบทุนการศึกษา 2568 ให้เด็กและเยาวชนด้อยโอกาส 33,980 ทุน

วันที่ 25 มิถุนายน 2568  ที่ผ่านมา มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชน ฯ พื้นที่การดำเนินงานจังหวัดน่าน ได้จัดพิธีมอบทุนการศึกษาประจำปี 2568  ให้กับเด็กนักเรียนในพื้นที่โครงการพัฒนาเด็ก ซี.ซี.เอฟ.จังหวัดน่าน จำนวน 1,143 ทุน   เป็นทุนการศึกษา จำนวน  3,239,100 บาท   เพื่อเพิ่มโอกาสทางการศึกษาให้กับเด็กและเยาวชนด้อยโอกาส โดยนายชัยนรงค์  วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ได้มอบหมายให้ นางวิไลวรรณ  บุดาสา  รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน  เป็นประธานในพิธีมอบทุนในครั้งนี้

ประธานในพิธีกล่าว ให้โอวาทเด็ก โดยเชื่อมโยงถึงหลักอิทธิบาท 4  ฉันทะ  วิริยะ  จิตตะ และวิมังสา ซึ่งจะช่วยให้ประสบความสำเร็จในชีวิตและการงานได้ โดยการมีความรักในสิ่งที่ทำ เพียรพยายาม เอาใจใส่ และใช้ปัญญาในการทำงาน  ขอให้เด็ก็กๆตั้งใจเรียน  เรียนให้ถึงที่สุด ไปให้สุด  เรียนให้จบ เมื่อเรียนจบให้เด็ก ๆ ตระหนักถึงความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ พ่อ แม่ ครูอาจารย์ สถาบัน มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ.

กองทุนการศึกษา ซี.ซี.เอฟ. เป็นกองทุนที่ช่วยแบ่งเบาภาระครอบครัวเด็กด้อยโอกาสในด้านการศึกษา ค่าเทอม ค่าใช้จ่ายสำหรับซื้ออุปกรณ์และของใช้ที่จำเป็นในการเรียน เช่น  ชุดนักเรียน ค่าเดินทาง ชุดดูแลสุขอนามัย  รวมถึงการสนับสนุนแหล่งอาหารในครัวเรือนตามความต้องการและเหมาะสมของเด็กในแต่ละพื้นที่ เพื่อสร้างแหล่งอาหารและสนับสนุนให้เด็กมีสุขภาพที่ดี มีพลัง พร้อมพัฒนาตนเองอย่างเต็มศัักยภาพ  นอกจากนี้ทุนการศึกษาประจำปีนี้ยังช่วยสร้างโอกาส ลดช่องว่างในด้านการศึกษาให้เด็กในกลุ่มเปราะบาง เด็กชาติพันธุ์ เด็กจากครอบครัวแหว่งกลางหรือเด็กที่อยู่กับผู้สูงอายุที่เสี่ยงหลุดออกจากระบบการศึกษา ได้มีโอกาสศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นตามสติปัญญา ความถนัดของตนเองและมีอาชีพที่สามารถเลี้ยงตนเองและครอบครัวต่อไปในอนาคต

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

มวลน้ำหลากซัดแม่เปา บ้านพัง-รถจมหาย ตชด.327 ลงพื้นที่ช่วยเหลือเร่งด่วน

มวลน้ำหลากซัดแม่เปา บ้านพัง-รถจมหาย ตชด.327 ลงพื้นที่ช่วยเหลือเร่งด่วน

เชียงราย – วันที่ 27 มิ.ย. 2568 เวลา 08.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หน่วยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 327 แม่จัน จังหวัดเชียงราย ได้จัดชุดปฏิบัติการลงพื้นที่บ้านแม่เปา หมู่ 1, 3, 12 และ 16 ตำบลแม่เปา อำเภอพญาเม็งราย เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลาก หลังเกิดฝนตกหนักตั้งแต่ช่วงตี 4

จากการลงพื้นที่พบว่า ช่วงเวลาประมาณ 07.00 น. มวลน้ำจากป่าต้นน้ำไหลทะลักลงแม่น้ำเปาและน้ำแม่ต๊าก ก่อนล้นเข้าท่วมชุมชนอย่างรวดเร็ว บ้านเรือนริมแม่น้ำเสียหายหลายสิบหลังคาเรือน รถจักรยานยนต์ถูกน้ำพัดไปกว่า 20 คัน และรถยนต์อีกอย่างน้อย 4 คันได้รับความเสียหาย

วัดและโรงเรียนบ้านแม่เปาได้รับความเสียหายจากแรงกระแทกของกระแสน้ำ โดยเฉพาะกำแพงวัดที่พังถล่มลงมา ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปยอดความเสียหายทั้งหมดได้

ร.ต.ท. สายยนร์ ใจยารัตน์ หัวหน้าชุดบรรเทาสาธารณภัยฯ ได้นำกำลังพล 7 นาย เข้าให้ความช่วยเหลือในพื้นที่ทันที พร้อมประสานหน่วยงานท้องถิ่นและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย (ปภ.) หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ายังมีรถยนต์ถูกน้ำพัดจมหายอยู่ในจุดที่น้ำยังท่วมขัง โดยเฉพาะรถยนต์หมายเลขทะเบียน บห 3426 เชียงราย ของนางกา แซ่ลี ซึ่งยังไม่สามารถกู้ขึ้นมาได้ ต้องรอให้ระดับน้ำลดลงก่อน

หลังการสำรวจเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ได้นำอาหารและน้ำดื่มแจกจ่ายประชาชนในพื้นที่ พร้อมประสานศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเพื่อเตรียมแผนฟื้นฟูและให้ความช่วยเหลือระยะต่อไป

สถานการณ์ในพื้นที่ยังต้องเฝ้าระวัง หากมีฝนตกลงมาเพิ่มเติมอาจส่งผลให้ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอีก

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

เชียงราย ผบ.มทบ.37 ลงพื้นที่ช่วยผู้ประสบอุทกภัย มอบอาหารยังชีพ ฟาร์มไก่ชนจมน้ำ ชาวบ้านได้รับผลกระทบ 4,405 ครัวเรือน ถนนขาด 3 จุด

เชียงราย ผบ.มทบ.37 เชียงราย ลงพื้นที่ช่วยผู้ประสบอุทกภัย มอบอาหารยังชีพ ฟาร์มไก่ชนจมน้ำ ชาวบ้านได้รับผลกระทบ 4,405 ครัวเรือน ถนนขาด 3 จุด

วันที่ 27 มิ.ย. 68 เวลา 13.30 น.พลตรี จักรวีร์ เสนีย์วรยุทธ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 ได้ลงพื้นที่ บ้านสบเปา ต.แม่เปา อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย หลังจากที่เกิด น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงราย ทั้งในพื้นที่ อ.พญาเม็งราย และ อ.เวียงชัย

โดยทาง พลตรี จักรวีร์ เสนีย์วรยุทธ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 ได้นำกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน พร้อมทั้งมอบข้าวสาร น้ำดื่ม อาหารกึ่งสำเร็จรูป เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึ่งแม้ว่าปริมาณน้ำจะเริ่มลดลงแล้วทางเจ้าหน้าที่ ยัฝคงให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง ทั้งการทำความสะอาดบ้านเรือนที่มีดินโคลนตกค้างจากน้ำท่วมจำนวนมาก

ที่บ้านแม่เปาใต้ หมู่ที่ 16 ต.แม่เปา อ.พญาเม็งราย อีกหนึ่งหมู่บ้านที่ถูกน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลัน มีฟาร์มไก่ชนขนาดใหญ่ถูกน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมอย่างฉับพลันได้รับความเสียหายอย่างหนัก เพราะว่าไก่ชนที่เลี้ยงไว้มีทั้งจมน้ำตายและบางส่วนก็ไหลไปกับน้ำ รวมแล้วกว่า 1,000 ตัว แต่ละตัวมีมูลค่ามากกว่า 2,000 บาท และบางตัวที่เป็นตัวท็อปหรือตัวเก่งมูลค่าหลักแสนก็มี

สำหรับพื้นที่น้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลันใน 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพญาเม็งราย เวียงชัย เชียงแสน เวียงเชียงรุ้ง และเทิง โดยเฉพาะในตำบลแม่เปา อำเภอพญาเม็งราย มีปริมาณฝนสะสมสูงถึง 317.5 มิลลิเมตร ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนกว่า 3,700 หลังคาเรือนได้รับผลกระทบ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลแม่เปาถูกน้ำท่วม และถนนหลายสายไม่สามารถสัญจรได้

ในตำบลตาดควัน หมู่ที่ 4 น้ำป่าได้ไหลเข้าท่วมโรงเรียนและบ้านเรือนกว่า 200 ครัวเรือน พร้อมทั้งตัดขาดสะพานทำให้ไม่สามารถใช้การได้ ส่วนในตำบลแม่ต๋ำ หมู่ที่ 2,7,8 และ 10 มีบ้านเรือนราษฎรได้รับผลกระทบอีกกว่า 500 หลัง

อำเภอเวียงชัย ตำบลผางามและดอนศิลา มีน้ำท่วมพื้นที่การเกษตร โดยเฉพาะบริเวณถนนทางหลวงหมายเลข 1326 ช่วง กม.12+875 ถึง กม.13+300 ถูกน้ำท่วมสูงจนรถไม่สามารถผ่านได้ รวมถึงพื้นที่นาข้าวเสียหายประมาณ 500 ไร่

อำเภอเชียงแสน ตำบลบ้านแซว หมู่ที่ 4 11 และ 12 น้ำท่วมถนนไม่สามารถสัญจรได้ ส่วนในอำเภอเวียงเชียงรุ้ง น้ำได้เข้าท่วมโรงพยาบาลเวียงเชียงรุ้ง รวมถึงพื้นที่เกษตรและบ้านเรือนในตำบลทุ่งก่อ ป่าซาง และดงมหาวัน บางส่วนได้รับผลกระทบเช่นกัน ขณะที่อำเภอเทิง ตำบลเวียง หมู่ที่ 20 มีน้ำท่วมถนนบริเวณใกล้โรงพยาบาลเทิง

เบื้องต้นมีบ้านเรือนราษฎรได้รับผลกระทบรวม 4,405 ครัวเรือน ถนน 3 จุดถูกตัดขาด สถานพยาบาลได้รับผลกระทบ 2 แห่ง และพื้นที่เกษตรเสียหายประมาณ 500 ไร่ ขณะนี้ยังมีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้สถานการณ์ยังไม่สิ้นสุด และต้องติดตามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

เชียงราย ทหารมาแล้ว มทบ.37 ส่งกำลังช่วยประชาน้ำป่าท่วมหมู่บ้าน

เชียงราย ทหารมาแล้ว มทบ.37 ส่งกำลังช่วยประชาน้ำป่าท่วมหมู่บ้าน

หลังจากที่เกิด น้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่ของ อ.พญาเม็งราย และ อ.เวียงชัย จ.เชียงราย โดยมวลน้ำปริมาณมากจากป่าเขาสูงชันได้ไหลผ่านลงมายังพื้นที่ราบ ในพื้นที่ หมู่บ้านเย้าแม่ต๋ำ หมู่ 4 ต.ตาดควัน อ.พญาเม็งราย ซึ่งเป็นพื้นที่เชิงเขาสูง มวลน้ำได้ไหลบ่าผ่านบ้านเรือนและถนนภายในหมู่บ้านจนกลายเป็นลำธารกลางหมู่บ้าน

พลตรี จักรวีร์ เสนีย์วรยุทธ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 ได้สั่งการให้ ศูนย์ป้องกันน้ำบรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 37 นำกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน โดยเร่งด่วนเนื่องจากมวลน้ำยังทะลักเข้าท่วมพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

โดยได้ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หน่วยกู้ภัย ในพื้นที่ และใกล้เคียง ระดมกำลัง ลำเลียงผู้ป่วย คนชรา และประชาชนออกจากพื้นที่ โดยเร่งด่วน

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

เชียงราย เร่งช่วยเหลือผู้ติดอยู่ในบ้านกว่า 10 ราย ฝนยังหนักน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมหลายพื้นที่

เชียงราย เร่งช่วยเหลือผู้ติดอยู่ในบ้านกว่า 10 ราย ฝนยังหนักน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมหลายพื้นที่

เช้าวันที่ 27 มิ.ย. 2568 จากฝนที่ตกหนักต่อเนื่องตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่ของ อ.พญาเม็งราย และ อ.เวียงชัย จ.เชียงราย โดยมวลน้ำปริมาณมากจากป่าเขาสูงชันได้ไหลผ่านลงมายังพื้นที่ราบ แม้เป็นบริเวณที่ไม่ได้อยู่ใกล้แหล่งน้ำโดยตรงก็ตาม

พื้นที่ได้รับผลกระทบหนัก ได้แก่ หมู่บ้านเย้าแม่ต๋ำ หมู่ 4 ต.ตาดควัน อ.พญาเม็งราย ซึ่งเป็นพื้นที่เชิงเขาสูง มวลน้ำได้ไหลบ่าผ่านบ้านเรือนและถนนภายในหมู่บ้านจนกลายเป็นลำธารกลางหมู่บ้าน นอกจากนี้ น้ำยังได้ทะลักเข้าท่วมบริเวณสนามและอาคารบางส่วนของโรงเรียนบ้านใหม่สุขสันต์ ต.ตาดควัน จนต้องปิดการเรียนการสอนชั่วคราว ถนนและสะพานทางเข้าโรงเรียนถูกตัดขาด ขณะเดียวกันชาวบ้านต่างรีบขนย้ายข้าวของขึ้นสู่พื้นที่สูง พร้อมพาบุตรหลานไปอยู่ในที่ปลอดภัย ท่ามกลางฝนที่ยังคงตกอย่างต่อเนื่อง

องค์การบริหารส่วนตำบลตาดควัน ได้แจ้งเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวังระดับน้ำที่อาจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และเตรียมพร้อมยกของขึ้นที่สูงโดยทันที

นอกจากนี้ยังมีรายงานน้ำป่าไหลหลากในอีกหลายหมู่บ้านของ ต.แม่เปา อ.พญาเม็งราย ได้แก่ บ้านสันเจริญ หมู่ 1, บ้านสบเปา หมู่ 2, บ้านแม่เปา หมู่ 3, บ้านสันติคีรี หมู่ 6, บ้านแม่เปาเหนือ หมู่ 12, บ้านสบเปาใหม่ หมู่ 14, บ้านแม่เปาใต้ หมู่ 16 และบ้านสบเปา หมู่ 20 โดยน้ำได้ท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรเป็นบริเวณกว้าง สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย (ปภ.จ.เชียงราย) ร่วมกับฝ่ายปกครอง อ.พญาเม็งราย อบต.ตาดควัน และ อบต.แม่เปา ได้ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือเร่งด่วน โดยเฉพาะการขนย้ายทรัพย์สินของชาวบ้านออกจากเส้นทางน้ำหลาก

ขณะเดียวกันที่หมู่บ้านห้วยกว๊าน หมู่ 8 ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากเช่นกัน ทางฝ่ายปกครองได้แจ้งเตือนประชาชนริมลำห้วยให้เก็บของมีค่าขึ้นที่สูง พร้อมเฝ้าระวังดินถล่มเนื่องจากลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาสูง นอกจากนี้ใน ต.ผางาม อ.เวียงชัย น้ำได้ไหลทะลักจากพื้นที่สูงเข้าสู่หมู่บ้านทุ่งยั้ง หมู่ 2 และหมู่บ้านหัวฝาย หมู่ 3 ส่งผลให้หน่วยงานในพื้นที่เร่งประกาศเตือนภัยในทันที

ด้าน มณฑลทหารบกที่ 37 ได้นำกำลังพลจำนวน 30 นาย สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย กู้ชีพกู้ภัยในพื้นที่ ได้ร่วมกันลงพื้นที่สนับสนุนการช่วยเหลือประชาชน ทั้งการขนย้ายผู้ประสบภัย การตั้งจุดปลอดภัยชั่วคราว รวมถึงการจัดเตรียมเส้นทางเข้าออกในพื้นที่ที่ถูกตัดขาด เพื่อให้ความช่วยเหลือเข้าถึงประชาชนได้เร็วที่สุด โดยเบื้องต้นพบว่าผู้ป่วยติดเตียง ผู้ที่ติดอยู่ในบ้านประมาณ 10 ราย เจ้าหน้าที่เร่งให้การช่วยเหลือ

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

เชียงราย ฝนถล่มพญาเม็งราย น้ำหลากท่วมหมู่บ้าน ปภ. เตือนแม่เปา-ตาดควันเสี่ยง

เชียงราย ฝนถล่มพญาเม็งราย น้ำหลากท่วมหมู่บ้าน ปภ. เตือนแม่เปา-ตาดควันเสี่ยง

วันที่ 27 มิถุนายน 2568 พื้นที่อำเภอพญาเม็งราย จังหวัดเชียงราย เผชิญฝนตกหนักต่อเนื่อง ส่งผลให้บ้านเรือนในหมู่บ้านผาแลและสบเปา ตำบลเม็งราย ถูกน้ำป่าจากลำห้วยแม่เปาและลำห้วยสาขาเอ่อล้นเข้าท่วมตั้งแต่ช่วงเช้ามืด ที่ผ่านมา ระดับน้ำบางจุดสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านหลายรายต้องอพยพหนีขึ้นที่สูงกลางดึก

เบื้องต้นมีรายงานว่า บ้านเรือนเสียหายแล้วกว่า 150 หลังคาเรือน พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมประมาณ 200 ไร่ โรงเรียนบ้านผาแลประกาศหยุดเรียนชั่วคราวเพื่อความปลอดภัยของนักเรียน ขณะเดียวกัน ถนนบางสายถูกน้ำกัดเซาะจนรถไม่สามารถสัญจรได้

ขณะเดียวกัน สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย (ปภ.จ.เชียงราย) ได้ติดตามสถานการณ์ฝนจากสถานีอุตุนิยมวิทยาในพื้นที่ และรายงานว่า อำเภอพญาเม็งรายยังคงมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ตำบลแม่เปา และตำบลตาดควัน มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากเพิ่มเติมในช่วงเย็นถึงค่ำของวันที่ 27 มิถุนายน

ปภ.จ.เชียงรายจึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำเร่งยกของขึ้นที่สูง พร้อมดูแลกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และผู้ป่วยติดเตียง โดยขอให้ติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิดผ่านช่องทางทางการของจังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

โดยทางเจ้าหน้าที่ทหารจาก ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 37 ได้เรงนำกำลังลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนโดยเร่งด่วน

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

เชียงราย กวาดล้างอาชญากรรม-ยึดของกลางเพียบ ทำลายท่อรถเสียงดัง

เชียงราย กวาดล้างอาชญากรรม-ยึดของกลางเพียบ ทำลายท่อรถเสียงดัง

วันที่ 26 มิ.ย.2568 ที่ ภ.จว.เชียงราย นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย พล.ต.ต.มานพ เสนากุล ผบก.ภ.จว.เชียงราย มณฑลทหารบกที่ 37 กอ.รมน.จว.เชียงราย และที่เกี่ยวข้องแถลงผลการปฏิบัติการระดมกวาดล้างอาชญากรรม “ปิดเมือง สยบโจร โคนอิทธิพล” ในระหว่างวันที่ 14 มิ.ย.2568 จนถึงป้จจุบัน

โดยช่วงเวลาดังกล่าวเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายยาเสพติด สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 126 คดี ผู้ต้องหา 105 คน เป็นข้อหาจำนวนยาเสพติด 70 คดี และข้อหาเสพ 56 คดี ยึดยาบ้าได้จำนวน 8,088,233 เม็ด ไอซ์ 11.53 กรัม ฝิ่น 116.66 กรัม เฮโรอีน 10.1 กรัม

ดำเนินคดีเกี่ยวกับอาวุธปืนโดยจับกุมผู้ต้องหาได้ 71 คดี ผู้ต้องหาจำนวน 71 คน ของกลางประกอบด้วยอาวุธปืนได้จำนวน 68 กระบอก เป็นอาวุธปืนมีทะเบียน จำนวน 4 กระบอก เป็น ปืนพกสั้น ขนาด 9 มม.จำนวน 2 กรบะอก และ ปืนพกสั้น .22 จำนวน 2 กระบอก และอาวุธปืนไม่มีทะเบียน (ไทยประดิษฐ์) จำนวน 64 กระบอก เป็นลูกซองหรือแก๊ปนั้น 12 กระบอก และแบบปืนยาว 52 กระบอก เครื่องกระสุน จำนวน 225 นัด

นอกจากนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้จำนวน 177 ราย ผู้ต้องหา 177 คน ฐานความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ จำนวน 62 ราย อาชญากรรมออนไลน์ (บัญชีม้า) 39 ราย อาชญากรรมทั่วไป 31 ราย ความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ 5 ราย คดียาเสพติด 36 ราย และคดีอุกฉกรรรจ์ 4 ราย รวมทั้งมีการตรวจยึดรถจักรยานยนต์และอุปกรณ์ส่วนควบจำนวน 512 ราย เป็นรถจักรยานยนต์ดัดแปลงจำนวน 335 คัน และท่อไอเสียดัดแปลงจำนวน 620 ชิ้น

นายชรินทร์ กล่าวว่า การแถลงข่าวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากช่วงที่ผ่านมา มักจะมีการก่ออาชญากรรมที่ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ซึ่งมีผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมทั้งมักมีวัยรุ่นรวมตัวกันเพื่อก่อเหตุทะเลาะวิวาท ขับขี่รถจักรยานยนต์เสียงดัง ดักทำร้ายกลุ่มวัยรุ่นอื่น ทำให้เกิดความหวาดกลัวในหมู่ชาวบ้านที่ไม่กล้าออกไปไหนในยามวิกาล การระดมกำลังกวาดล้างอาชญากรรมจึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยลดปัญหาอาชญากรรม ป้องกันและระงับยับยั้งไม่ให้เกิดเหตุได้

ทางด้าน พล.ต.ต.มานพ กล่าวว่า ในสัปดาห์จากนี้ทางตำรวจจะทำข้อตกลงหรือ MOU กับฝ่ายปกครอง ทั้งระดับตำบล หมู่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ ให้ดูแลในเรื่องกลุ่มวัยรุ่นที่มีพฤติกรรมขับขี่รถจักรยานยนต์ดังกล่าว หากยังคงมีอยูในพื้นที่ใดก็จะต้องร่วมกันรับผิดชอบเพื่อให้ปัญหาหมดไปต่อไป

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

กองทัพบกลงพื้นที่เชียงราย-พะเยา ติดตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และขยายผล “ทหารพันธุ์ดี” เพื่อความมั่นคงยั่งยืน

กองทัพบกลงพื้นที่เชียงราย-พะเยา ติดตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และขยายผล “ทหารพันธุ์ดี” เพื่อความมั่นคงยั่งยืน

เมื่อวันที่ 25-26 มิถุนายน 2568 คณะสำนักงานประสานราชการในพระองค์ กองทัพบก (สปร.ทบ.) นำโดย พลเอก พรมงคล พึ่งเสมา ผู้อำนวยการสำนักงานประสานงาน โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และความมั่นคงกองทัพบก เป็นหัวหน้าคณะ ได้เดินทางไปราชการในพื้นที่กองทัพภาคที่ 3 จังหวัดเชียงราย และจังหวัดพะเยา เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และโครงการทหารพันธุ์ดี ตลอดจนโครงการตามแนวพระราชดำริอื่น ๆ ในพื้นที่รับผิดชอบของหน่วยทหารในพื้นที่ โดยมี พล.ต.จักรวีร์ เสนีย์วรยุทธ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 ได้ให้การต้อนรับคณะ ณ ค่ายเม็งรายมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย

โดยภารกิจสำคัญในการเดินทางครั้งนี้ ครอบคลุมการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อาทิ โครงการดอยยาว ดอยผาหม่น ดอยผาจิ จังหวัดพะเยาและเชียงราย, โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่อันเนื่องมาจากพระราชดำริ บ้านหนองห้า อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา, โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงบ้านสันติสุข อำเภอปง จังหวัดพะเยา รวมถึงโครงการทดลองเลี้ยงแกะและสัตว์ปีก บ้านร่มฟ้าทอง อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย

นอกจากนี้ คณะฯ ยังได้เยี่ยมชมโครงการทหารพันธุ์ดี และโครงการผลิตแพะพระราชทานพันธุ์แบล็คเบงกอล “เพื่อนช่วยเพื่อน” ซึ่งดำเนินการโดยมณฑลทหารบกที่ 37 (มทบ.37) และกองพันทหารราบที่ 17 กรมทหารราบที่ 17 (ร.17 พัน.3) เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหาร และส่งเสริมอาชีพแก่ประชาชนในพื้นที่ห่างไกล

ในการนี้ คณะ สปร.ทบ. ได้รับฟังการบรรยายสรุปผลการดำเนินงานจากหน่วยที่รับผิดชอบในพื้นที่ ก่อนเดินทางลงพื้นที่เยี่ยมชมโครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริบ้านปางขอน อำเภอเมืองเชียงราย พร้อมพบปะประชาชนในพื้นที่และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับทราบปัญหาและข้อเสนอแนะในการพัฒนาและขยายผลโครงการฯ ไปยังพื้นที่ใกล้เคียง

สำหรับโครงการต่าง ๆ ที่อยู่ในการติดตามครั้งนี้ นับเป็นการต่อยอดพระราชดำริด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต การเกษตรบนพื้นที่สูง การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และการส่งเสริมอาชีพอย่างยั่งยืน ซึ่งกองทัพบกโดย สปร.ทบ. ให้ความสำคัญในการประสานเครือข่ายความร่วมมือระหว่างหน่วยงานรัฐ ภาคประชาชน และชุมชนท้องถิ่น เพื่อสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ตามแนวทาง “ประชาชนอยู่ดี มีสุข”

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

มณฑลทหารบกที่ 37 โดย โรงพยาบาลค่ายเม็งรายมหาราช รวมพลังทหาร พลังต้านยาเสพติดในหน่วยทหาร

มณฑลทหารบกที่ 37 โดย โรงพยาบาลค่ายเม็งรายมหาราช รวมพลังทหาร พลังต้านยาเสพติดในหน่วยทหาร

พ.อ. โรมรัม ชูก้าน รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 เป็นประธานฯ โครงการรณรงค์ต่อต้านยาเสพติดในหน่วยทหาร ณ อาคารเสนาบันเทิง ค่ายเม็งรายมหาราช เพื่อทำให้ทุกคนได้ร่วมกันตระหนักถึงโทษของยาเสพติด ซึ่งเป็นสารเคมีที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท มีผลต่ออารมณ์ ความคิด และพฤติกรรม พร้อมทั้งจัดกิจกรรมประกวดคำขวัญในหัวข้อ “วันต่อต้านยาเสพติดโลก พลังทหาร พลังต้านยาเสพติด” โดย โรงพยาบาลค่ายเม็งรายมหาราช จัดขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงโทษของยาเสพติด และการแก้ปัญหา ดังนี้

1. เพื่อให้กำลังพล รับรู้และเห็นถึงความสำคัญของวันต่อต้านยาเสพติด ในการที่จะร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด
2. เพื่อแสดงให้เห็นถึงพลังความสามัคคีของคนในชาติ ที่ร่วมเป็น “พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด”
3. เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายในทุกภาคส่วนของสังคมเกิดความตระหนักถึงภัยจากยาเสพติดและเข้าร่วมในการ แก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อการเอาชนะยาเสพติดให้ได้ผลอย่างยั่งยืน
4. เพื่อให้วันที่ 26 มิถุนายน เป็นวันที่แสดงถึงสัญลักษณ์ของการผนึกกำลังของคนในชาติ เพื่อร่วมแก้ไข ปัญหายาเสพติดให้หมด

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์

เชียงราย เหม็นหึ่ง ผาเมืองยึดยาบ้า 3 ล้าน ซุกขี้ไก่รวบชาวแม่แจ่มรับจ้างขนยา 2 แสนบาท

เชียงราย เหม็นหึ่ง ผาเมืองยึดยาบ้า 3 ล้าน ซุกขี้ไก่รวบชาวแม่แจ่มรับจ้างขนยา 2 แสนบาท

วันที่ 24 มิถุนายน 2568 เวลา 15.30 น. พลตรี กิดากร จันทรา ได้มอบหมายให้พันเอก สหชัย พรหมตรุษ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก เจ้าหน้าที่ หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 31 พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบการตรวจยึด ยาบ้าจำนวน 13 กระสอบ รวมประมาณ 3,000,000 เม็ด ผู้ต้องหา 1 คนคือนาย ปรีดี สงวนนามสกุล อายุ 51 ปี ชาว บ้านแม่นาจร ต.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ พร้อมยึดรถยนต์กระบะ 2 คัน ที่บ้านห้วยอ้มใหม่ ตำบลแม่ข้าวต้ม อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย สามารถตรวจยึดยาบ้าจำนวน 13 กระสอบ รวมประมาณ 3,000,000 เม็ด พร้อมยึดรถยนต์กระบะ 2 คันได้สำเร็จ

โดยการตรวจยึดยาบ้าภารกิจครั้งนี้เป็นไปตามนโยบาย“Seal Stop Safe” ผนึกกำลัง 51 อำเภอชายแดนทั่วประเทศ เพื่อสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดนอย่างเข้มข้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รับรายงายจากแหล่งข่าวว่ากลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดยังคงพยายามลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าสู่ประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย เพื่อกระจายต่อไปยังพื้นที่ตอนในของประเทศ จนกระทั่งเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 24 มิถุนายน หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 31 ได้จัดกำลังชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว 1 ชุด ออกลาดตระเวนตามเส้นทางในพื้นที่อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ต่อมาในเวลา 12.50 น. ขณะลาดตระเวนถึงบริเวณบ้านห้วยอ้มใหม่ ตำบลแม่ข้าวต้ม อำเภอเมืองเชียงราย พบรถยนต์ 2 คันจอดหันท้ายเข้าหากัน มีบุคคลต้องสงสัย 3 คน กำลังขนถ่ายกระสอบ

เจ้าหน้าที่แสดงตัวขอเข้าตรวจค้น กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้หลบหนี โดยสามารถควบคุมผู้ต้องสงสัยไว้ได้ 1 คน จากการตรวจค้นท้ายรถพบกระสอบขี้ไก่ที่ใช้ในการเกษตรด้านบน ทับกระสอบฟางหลากสี ภายในพบยาบ้าทั้งหมด 13 กระสอบ แบ่งเป็นกระสอบละ 150,000 เม็ด จำนวน 6 กระสอบ และกระสอบละ 300,000 เม็ด จำนวน 7 กระสอบ รวมประมาณ 3,000,000 เม็ด พร้อมของกลางรถยนต์กระบะจำนวน 2 คัน

จากการสอบสวนในเบื้องต้นนาย ปรีดี ให้การว่าได้รับจ้างให้มา ขนยาบ้า ดังกล่าวโดยได้ค่าจ้าง 200,000 บาท ให้มารับยาบ้าดังกล่าวไปส่งที่ จังหวัดเชียงใหม่ ในเบื้องต้นได้รับมาแล้ว 150,000 บาทแล้วจะได้ที่เหลือหลังจากทำงานเสร็จ ซึ่งการมารับจ้างครั้งนี้เป็นครั้งแรกโดยได้รับการติดต่อจากคนที่รู้จักที่ตลาดเมืองใหม่ อำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่ ให้มารับยาบ้าในพื้นที่ ที่ถูกจับกุม เมื่อมาถึงได้มีรถกระบะอีกคันขับตามมา ซึ่งขณะกำลังทำการลำเลียงย้ายยาบ้ามาใส่รถของตนเอง ทางเจ้าหน้าที่ได้มาพบและถูกจับกุมดังกล่าวสวนอีก 2 คนได้วิ่งหลบหนีไป

หลังจากทำการตรวจยึดและสอบปากคำเบื้องต้นแล้วทางเจ้าหน้าที่ได้นำของกลางทั้งหมดส่งให้สถานีตำรวจภูธรบ้านดู่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

โดย พลตรี กิดากร จันทรา ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในพื้นที่เพิ่มความเข้มงวดในการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยของประชาชนในพื้นที่ชายแดน

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์