ผู้เขียน: admin

15 ก.พ.64 พ.ต.อ.สุธี จำปา ผกก.สภ.แม่แฝก จ.เชียงใหม่ พร้อมพวก จับกุมนายเชียร  อายุ 37ปี ชาวจังหวัดเชียงราย ดำเนินคดีข้อหา กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบสามปีซึ่งเป็นผู้อยู่ในความปกครองซึ่งมิใช่ภริยา หรือสามีของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม”โดยมีโทษจำคุกตั้งแต่7ปีถึง20ปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนสี่หมื่นบาทถึงสี่แสนบาทหรือจำคุกตลอดชีวิต

โดยก่อนหน้านี้ได้มียาย แดง (นามสมมุติ) อายุ 67 ปี บ้านอยู่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ได้นำ ด.ญ. ข (นามสมมุติ) อายุ 12 ปี ซึ่งเป็นหลานสาวถูกนายวิเชียร พ่อเลี้ยงข่มขืน โดยด.ญ. ข (นามสมมุติ) ให้การว่าตนอาศัยอยู่บ้านเดียวกับยายส่วนพ่อเลี้ยงกับแม่อยู่อีกห้อง ภายในบ้านเดียวกันเมื่อวันที่ 29 ม.ค.64 ที่ผ่านมา เวลาเที่ยงวันตนอยู่บ้าน พ่อเลี้ยงก็เข้ามาโดยที่บ้านไม่มีคนอยู่ ก่อนจะบอกว่าขอมีอะไรด้วย โดยซื้อโทรศัพท์มือถือไอโฟนรุ่นใหม่ให้ ตนบอกว่าไม่เอา แต่พ่อเลี้ยงก็ใช้กำลังปลุกปล้ำข่มขืนจนสำเร็จความไคร่ 1 ครั้ง และได้กำชับข่มขู่ว่าห้ามนำเรื่องนี้ไปบอกใคร หากมีคนรู้จะฆ่าให้หมดบ้าน จากนั้นช่วงต้นเดือนก.พ.64 พ่อเลี้ยงก็อาศัยช่วงไม่มีคนอยู่บ้าน ลากตนเองไปข่มขืนที่โซฟาของบ้านอีก 2 ครั้งด้วยกัน ซึ่งหลังรับแจ้งแล้วจึง ด.ญ.ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลสันทราย เบื้องต้นผลการตรวจระบุว่ามีร่องรอยการถูกกระทำชำเรา

ส่วนยาย แดง (นามสมมุติ) กล่าวว่าเดิมหลานเป็นคนนิสัยดีตั้งใจเรียน แต่ช่วงหลังซึมเศร้า และมักหายตัวไป ด้วยความสงสัยจึงคาดคั้นเอากับหลาน จนรู้ว่าถูกลูกเขยคนใหม่ข่มขืน ตนเสียใจถึงกับเป็นลม และจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ด้านนายวิเชียร หลังถูกตำรวจควบคุมตัวมาสอบสวน โดยผู้ต้องหาให้การปฏิเสธไม่ได้เป็นคนทำอะไรเด็กเลย ถูกใส่ร้าย และจะขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น

 

 

 

 

 

 

 

 

เมื่อเวลา 15.00 น วันที่ 29 มกราคม 2564 ได้เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงปะทะ กับกลุ่มคนร้าย จนทำให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณบ้านห้วยเตารู ตำบลสะลวง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พร้อมด้วยพ.ต.อ.สุคนธ์ ศรี อรุณ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ พร้อมทั้งประสานเจ้าหน้าที่ หน่วยปฏิบัติการพิเศษ พร้อมอาวุธและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำการปิดล้อมพื้นที่บริเวณดังกล่าว

โดยในเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ทางด้านร้อยตำรวจตรีทนงศักดิ์ สะอาดเอี่ยม รอง สว.สส.สภ.แม่ริม ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจตราบริเวณพื้นที่อำเภอแม่ริม โดยเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุมีลักษณะเป็นสวนลำไย ทางเจ้าหน้าที่ได้พบกลุ่มคนประมาณ 4 คนจับกลุ่มกัน และมีท่าทางมีพิรุธ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้จอดรถเพื่อจะเข้าไปตรวจสอบ โดยระหว่างที่กำลังจะลงจากรถ หนึ่งในกลุ่มคนดังกล่าวได้ใช้อาวุธปืนลูกซองยิงใส่เจ้าหน้าที่ ทำให้กระสุนถูกร้อยตำรวจตรีทนงศักดิ์ สะอาดเอี่ยม ผบ. หมู่งานสืบสวนสภ.แม่ริม บริเวณบั้นท้ายด้านขวา จนทำให้ได้รับบาดเจ็บ

ล่าสุดได้มีการสั่งการณ์ให้เจ้าหน้าที่ปิดล้อมพื้นที่ในรัศมี 2 กิโลเมตร รวมทั้งใช้เฮลิคอปเตอร์บินกดดัน เพื่อจะจับกุมคนร้ายกลุ่มนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คนร้าย พกปืนยิงขู่ ปล้นร้านทอง กวาดไป 35 บาทมูลค่านับล้าน

ช่วงเย็นวันนี้ ร.ต.อ.ชัยศักดิ์ เขื่อนขัน ร้อยเวรสภบ้านดู่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงรายได้รับแจ้งเหตุคนร้าย 2 คนใช้ อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ร้านทอง ที่ร้านห้างทองเยาวราชสินทวี เลขที่ 149/1 บ้านต้นลุง ม.11 ตำบลบ้านดู่อำเภอเมืองจังหวัดเชียงราย จึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.ภาสกร ณ พิกุล ผกก.สภ.บ้านดู่ ทราบก่อนจะประสานเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนพร้อมทั้งเจ้าหน้าที่สายตรวจออกติดตามคนร้าย

โดยเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งติดตามภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อหาเส้นทางการหลบหนีของคนร้ายดังกล่าวจากการสอบถามพนักงานที่อยู่ภายในร้านประมาณ 5-6 คนให้การว่าคนร้ายได้สวม หมวกกันน็อคแบบเต็มใบขับรถจักรยานยนต์มาจอดที่บริเวณหน้าร้านแล้วได้ใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้า 2 นัดกระสุนถูกกันสาดของร้านก่อนจะเข้ามาในร้านแล้วกวาดเอาทองในตู้โชว์ออกไปจากนั้นได้หลบหนีโดยใช้เส้นทางเข้าหมู่บ้านต้นลุงจากนั้นได้ใช้ความชำนาญพื้นที่ลัดเลาะตามเส้นทางวัดบ้านดู่ ซึ่งอาจจะเชื่อมต่อไปยังถนนบายพาสเลี่ยงเมืองเชียงรายได้

โดยทาง พ.ต.ท.เทคนิค จันสี รอง ผกก.สืบสวน สภ.บ้านดู่ ได้นำเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ในที่เกิเหตุ และตามจุดต่างๆ รวมถึงเส้นทางหลบหนีของคนร้าย ในส่วนทรัพย์สินที่หายไปเป็นทองรูปพรรณรวมแล้วประมาณ 35 บาทมีมูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเก็บรอยนิ้วมือแฝงในที่เกิดเหตุทั้งปลอกกระสุนและที่เคาน์เตอร์เพื่อสืบหาตัวคนร้ายในคดีนี้ดำเนินคดีต่อไป

 

ทางผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสำรวจยังร้านก๋วยเตี๋ยวตาไก่ บริเวณริมถนนศรีดอนไชย ตำบลหายยา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ หลังมากระแสว่าร้านดังกล่าวเปิดขายก๋วยเตี๋ยวในราคาเพียงชามละ 20 บาท เพื่อหวังช่วยเหลือคนตกงานว่างงาน โดยพบว่าร้านดังกล่าวตั้งอยู่บริเวณข้างวัดพวงช้าง ก่อนถึงสามแยกแจ่งแจ่งขะต๊ำ ซึ่งร้านดังกล่าวได้มีการเปิดได้เกือบ 3 เดือนแล้ว ซึ่งก็ได้มีลูฏค้าสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันใสรับประทานตลอดทั้งวัน

ทั้งนี้จากการสอบถามทางด้านนายกฤษดา ยศถาวร เจ้าของร้านได้เปิดเผยว่า แต่เดิมร้านของต้นได้เปิดขายก๋วยเตี๋ยวในราคาติด โดยช่วงแรกๆนั้นขายดีมาก แต่ช่วงหลังด้วยการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลทำให้มรคนตกงานเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มลูฏค้าของตนซึ่งเป็นพนักงานสถานบันเทิง ตนจึงได้ลดราคาก๋วยเตี๋ยวลงเหลือเพียงชามละ 20 บาท เพื่อเป็นการช่วยเหลือคนที่ตกงาน ว่างงาน รวมถึงลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับคนวัยทำงาน

และถ้าหากใครมีสิทธิ์ของโครงการคนละครึ่งก็จ่ายเพียง 10 บาทเท่านั้น แต่ถ้าหากใส่ถุงกลับบ้านทางร้านจะจำหน่ายในราคา 25 บาท เนื่องจากมีต้นทุนเพิ่ม ทั้งนี้ตนตั้งใจจะขายในราคานี้ไปจนกว่าจะแบกรับรายจ่ายไม่ไหว เพราะ ในยามนี้หากจะมาหวังแต่ผลกำไรมากๆ อย่างเดียวก็ไม่ไหว เราคนไทย คนเชียงใหม่ด้วยกันหันมาช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ถึงจะกำไรเล็กๆน้อยๆ ก็ตามก็จะขายไปจนกว่าสถานการณ์โควิด-19 จะดีขึ้น

ทหารจัดวันเด็ก แบบนิวนอร์มอล ไลฟ์สด แจกของรางวัลเด็ก

เช้าวันนี้ พ.ท.กตัญญู หงษ์โต ผบ.ป.พัน7 พล.ร.7 พร้อมเจ้าหน้าที่ทหารกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 7 กองพลทหารราบที่ 7 ค่ายพระปิ่นเกล้า จ.เชียงใหม่ ได้จัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ ออนไลน์ ขึ้นที่บริเวณสนามบาสเก็ตบอลภายในค่าย โดยการจัดกิจกรรมนี้ได้มีการติดป้ายวันเด็กและมีเพียงพิธีกร สองท่านและทหารที่เกี่ยวข้อง เท่านั้น หลังการแพร่ระบาด โควิด 19 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ทางค่ายจึงได้จัดวันเด็กออนไลน์โดยมีการไลฟ์ผ่านฟซบุ๊ก โดยมีการนำลูกทหารภายในค่าย มาร่วมกิจการเล่นสนุก และแจกของรางวัลผ่านทางเฟสบุ๊คของค่าย เปิดให้เด็กๆทางบ้านได้รับชม และให้เด็กๆร่วมลงชื่อ เพื่อมารับของรางวัลเป็นของเล่นนานาชนิด โดยเด็กๆทุกคนมีสิทธิรับรางวัลทุกคน โดยให้มารับรางวัลที่บริเวณหน้าค่ายทหาร แบบเว้นระยะห่าง

ซึ่งการจัดกิจกรรมนี้นับว่าเป็นการบรรเทาความเหงาของบรรดาเด็กๆในจังหวัดเชียงใหม่ได้เป็นอย่างดี เพราะกิจกรรมวันเด็กทุกปีที่ผ่านมาเด็กๆจะได้ไปเล่นทั้งในค่ายทหาร กองบิน 41 สวนสัตว์ และส่วนราชการอื่นๆทุกแห่งในจังหวัดเชียงใหม่ แต่ปีนี้เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด 19 ทำให้ทุกหน่วยงานงดการจัดงาน สร้างความเศร้าให้แก่เด็กๆในจังหวัดเชียงใหม่เป็นอย่างมาก โดยกิจกรรมไลฟ์สดทางเฟสของทหาร ในครั้งนี้มีเด็กๆชาวเชียงใหม่เข้ารับชมเกือบแสนคนและยอดแชร์มากกว่า 6 พันแชร์

เมือ่เวลา 14.00 น. วันที่ 24 ธันวาคม 2563 ทางด้าน พ.ต.อ.สุวิทย์ ห่วงทอง ผกก.สภ.แม่กา อ.ดอยเต่า ได้รับแจ้งว่า มีผู้พบศพถูกชำแหละ ยัดใส่ถัง ภายในบริเวณ สุสานบ้านสันบ่อเย็น หมู่ 2 บ้านสันบ่อเย็น ต.โปงทุ่ง อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ พร้อมทั้งประสานแพทย์เวรและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าทำการเก็บหาหลักฐานในที่เกิดเหตุ เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงก็พบกับถังพลาสติกสีน้ำงิน ขนาด 200 ลิตร วางอยู่บริเวเมรุภายในสุสาน โดยภายในทางเจ้าหน้าที่ตรวจพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิง ทราบชื่อภายหลังคือนางอาคร สมคำ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 หมู่ที่ 2 บ้านสันบ่อเย็น ต.โปงทุ่ง อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ ถูกฆาตรกรรมและจับยัดใส่ถัง มาวางในเมรุ ซึ่งลักษณะเหมือนเตรียมเผาเพื่ออำพรางคดี โดยจากการชันสูตรพลิกศพเจ้าหน้าที่พบเพียงบาดแผลฟกช้ำที่บริเวณคาง

จากการตรวจสอบพบว่าหญิงคนดังกล่าวได้หายออกจากบ้านตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งตอนแรกชาวบ้านก็นึกว่าจะเดินทางไปหาญาติ อต่พอประสานกับทางญาติก็ยไม่มีใครพบเห็น และไม่สามารถติดต่อกับผู้ตายได้ ซึ่งทางญาติไม่สามารถติดต่อได้และแจ้งความไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนกระทั่งในช่วงสายวันนี้ได้มีชาวบ้านมา ได้เดินผ่นเมรุดังกล่าว และได้สังเหตุเห็นว่ามีถังพลาสติกวางอยู่ในเมรุ จึงได้เดินเข้าไปตรวจสอบก็พบร่างผู้เสียชีวิต เป็นศพถูกฆาตรกรรมและยัดถังดังกล่าว จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบในที่เกิดเหตุดังกล่าว

โดยในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่คาดว่าสาเหตุของการฆารกรรมในครั้งนี้น่าจะเกิดจากปัญหาความแค้น หรืออาจจะขัดแย้งผลประโยชน์ทางธุรกิจ จึงได้ทำการฆาตรกรรมอย่างทารุณกรรม ก่อนยัดใส่ถัง และขนมาไว้บนเมรุเพื่อเตรียมเผาทำลายหลักฐาน แต่ทางตำรวจก็ยังไม่ตัดประเด็นเรื่องชู้สาวและหึงหวงเนื่องจากผู้เสียชีวิต ถือเป็นหญิงที่มาฐานะดี และหน้าตาดี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้มีการสอบสวนเพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดและจะได้ติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนร่างผู้เสียชีวิต ทางเจ้าหน้าที่จะได้ส่งไปยังผแนกนิติเวช เพื่อทำการชันสูตรพลิกศพโดยละเอียดอีกครั้งก่อนจะได้ติดต่อญาติให้มารับศพไปบำเพ็ญกุศลตามพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 10 ธันวาคม 2563 ที่บริเวณห้องประชุม โรงแรมเพนเนซูล่า ได้มีการจัดแถลงข่าวการเตรียมความพร้อมการจัดกิจกรรมเดินวิ่งเทิดพระเกียรติ “เชียงใหม่มินิมาราธอน” โดยมีน.ส.ธนพร ศรีบานเย็น เป็นประธานในการแถลงข่าว พร้อมด้วยรองศาสตราจารย์ธนกร ช้างน้อย ประธานที่ปรึกษาการจัดกิจกรรม ,น.ส.ภัคนันท์ วินิจชัย ผู้อำนวยการการ ท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่ และตัวแทนจากหลายภาคส่วนได้ร่วมกันแถลงข่าวในครั้งนี้

สำหรับกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นโดย กลุ่มสยามอยู่ดีกินดี ได้ร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยภาค 5 ตลอดจนสถาบันการศึกษา ชมรมสุขภาพนักวิ่งผู้รักสุขภาพในพื้นที่ และบริษัทห้างร้านต่างๆ จะขึ้นเพื่อเป็นการ เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิระเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ซึ่งถือเป็นศูนย์รวมจิตใจและเป็นที่เคารพของปวงชนชาวไทยที่มีต่อพระองค์ท่านในสถาบันพระมหากษัตริย์ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว รวมถึงรณรงค์ให้สังคมหันมาสนใจรักสุขภาพด้วยการออกกำลังกาย ซึ่งงานนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 27 ธันวาคม 2563 ที่บริเวณกองพลทหารราบที่ 7 อำเภอแม่ริมจังหวัดเชียงใหม่ ครั้งนี้จึงอยากเชิญชวนประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวไดฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

ที่ลานอเนกประสงค์ ด้านหลังอาคารโรงพยาบาลเทศบาลตำบลหนองป่าครั่ง อ.เมืองเชียงใหม่ นายสมคิด เลิศเกียรติดำรงค์ นายกเทศมนตรีตำบลหนองป่าครั่ง เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันรวมพลคนรักษ์สุขภาพ “หนองป่าครั่งรอบรู้สุขภาพ ห่างไกล โรคหลอดเลือดสมอง” พร้อมด้วย นายกญาดา ธรรมประเสริฐ นายกสโมสรโรตารีเชียงใหม่ โดยมีนายนิรันดร์ ชุมภู รองปลัดเทศบาลตำบลหนองป่าครั่ง (รักษาการในตำแหน่งปลัดเทศบาลตำบลหนองป่าครั่ง) กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์การจัดงานวันรวมพลคนรักสุขภาพ “หนองป่าครั่งรอบรู้สุขภาพ ห่างไกล โรคหลอดเลือดสมอง” โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ สมาชิกสโมสรโรตารี่เชียงใหม่ ประชาชน เยาวชน ห้างร้าน หน่วยงานทุกภาคส่วน เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสุขภาพในครั้งนี้กันอย่างคับคั่ง

นายสมคิด เลิศเกียรติดำรงค์ นายกเทศมนตรีตำบลหนองป่าครั่ง เปิดเผยว่า โครงการรวมพลคนรักสุขภาพ “หนองป่าครั่งรอบรู้สุขภาพ ห่างไกล โรคหลอดเลือดสมอง” เป็นโครงการที่จัดขึ้นตามความร่วมมือของชมรมรักสุขภาพตำบลหนองป่าครั่ง, ชมรมอสม.ตำบลหนองป่าครั่ง กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมเทศบาลตำบลหนองป่าครั่ง และโครงการยกระดับความรอบรู้ทางสุขภาพสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ โดยคณะพยาบาลศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และสำนักกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพสสส.โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรณรงค์สร้างความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนในการป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจ ทั้งทางด้านการส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรคและฟื้นฟูสมรรถภาพโดยกลุ่มเป้าหมายผู้ร่วมงานประกอบไปด้วยเยาวชนประชาชนทั่วไปกลุ่มแกนนำสุขภาพในชุมชนองค์กรชุมชนญาติหรือผู้ดูแลผู้ป่วยผู้พิการหรือผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลด้านสาธารณสุขระยะยาว จำนวน 500 คน

และในวันนี้ได้มีพิธีมอบครุภัณฑ์ทางการแพทย์ สำหรับศูนย์กายภาพบำบัดและฟื้นฟูสุขภาพเทศบาลตำบลหนองป่าครั่ง โดยสโมสรโรตารีจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งได้มอบครุภัณฑ์ทางการแพทย์เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของคลินิกชุมชนอบอุ่นศูนย์กายภาพบำบัดและฟื้นฟูสภาพเทศบาลตำบลหนองป่าครั่งจำนวน 13 รายการประกอบไปด้วยที่นอนลมจำนวน 10 ตัว, เครื่องผลิตออกซิเจนจำนวน 10 เครื่อง, เครื่องมือรักษาด้วยการช่วยการเคลื่อนไหวทั้งมือและเท้า จำนวน 1 เครื่อง, รถเข็นวีลแชร์ จำนวน 5 ตัว, Software ฝึกการเคลื่อนไหวเสมือนจริงจำนวน 1 เครื่อง, Board folds flat for storage จำนวน 1 เครื่อง, Tall Stacker Pegs Building Set จำนวน 1 เครื่อง, โต๊ะสำหรับบริหารมือข้อมือและแขนจำนวน 1 เครื่องโต๊ะสำหรับฝึกกิจกรรมชนิดปรับและพับได้จำนวน 1 เครื่อง, ฝึกการทรงตัวจำนวน 1 ตัว, เตียงผู้ป่วยเฟาเลอร์ สามไก จำนวน 3 ตัวและเครื่องวัดความดันแบบตั้งพื้นดิจิตอลจำนวน 1 เครื่อง รวมมูลค่าทั้งสิ้น 1,123,930 บาท พร้อมทั้งสนับสนุนงบประมาณในการจัดงานในวันนี้อีกด้วย

ซึ่งกิจกรรม ในวันนี้ประกอบไปด้วย กิจกรรมเดินเพื่อสุขภาพ การจัดซุ้มนิทรรศการให้ความรู้ในเรื่องต่างๆประกอบไปด้วยความรู้เรื่องหลอดเลือดสมองเบาหวานความดันโลหิตสูงโดยโรงพยาบาลเทศบาลตำบลหนองป่าครั่ง 2 โครงการยกระดับความรู้ทางสุขภาพสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพโดยสำนักงานสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพสสสและคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กิจกรรมความรู้เรื่องอาหารเพื่อสุขภาพป้องกันโรค ncd โดยคณะพยาบาลศาสตร์โรงพยาบาลแมคคอร์มิคเชียงใหม่กิจกรรมฟื้นฟูสมรรถภาพผู้สูงอายุผู้พิการหรือผู้ป่วยเรื้อรังการจัดสิ่งแวดล้อมสำหรับผู้สูงอายุผู้พิการโดยภาควิชาการบำบัดคณะเทคนิคการแพทย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่และศูนย์กายภาพบำบัดและฟื้นฟูสภาพเทศบาลตำบลหนองป่าครั่ง, การช่วยฟื้นคืนชีพและการช่วยเหลือเบื้องต้นสำหรับผู้ประสบอุบัติเหตุโดยศูนย์กู้ชีพเวียงพิงค์และมีการจำหน่ายพืชผักอินทรีย์โดยสภาเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ด้วย

เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2563 รองศาสตราจารย์ ศีลศิริ สง่าจิตร ผู้ปฏิบัติหน้าที่อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมคลล้านนา พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและคณาจารย์ ให้การต้อนรับนายปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พร้อมคณะ ในการประชุมบูรณาการความร่วมมือเครือข่าย การส่งเสริมระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านคุณภาพของประเทศ เพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่ตามแนวคิดการขับเคลื่อนประเทศไปด้วยกัน ณ ห้องประชุมสภามหาวิทยาลัย อาคาร C1 ชั้น 5 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา (ดอยสะเก็ด) ในการนี้ได้เยี่ยมชมห้องปฏิบัติการด้านวิศวกรรม ดังนี้

• ห้องปฏิบัติการ Meterial Testing นำเสนอโดย ผศ.ดร.นิวัตร มูลปา
• ห้องปฎิบัติการ หน่วยวิจัยสนามไฟฟ้าประยุกต์ในงานวิศวกรรม นำเสนอโดย รศ.ดร.พาณิช อินต๊ะ
• ห้องปฏิบัติการ หน่วยวิจัยพลังงานสะอาดและพลังงานทดแทน นำเสนอโดย ดร.ธีระศักดิ์ สมศักดิ์
• ห้องปฏิบัติการ ศูนย์วิจัยพัฒนาทดสอบผลิตภัณฑ์ ระบบขนส่งทางราง นำเสนอโดย ผศ.ดร.แมน ตุ้ยแพร่

สำหรับการประชุมดังกล่าวฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อหาแนวทางในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนากับกรมวิทยาศาสตร์บริการ เพื่อให้บริการด้านการควบคุมคุณภาพมาตรฐาน เครื่องมือวัดแก่ภาคอุตสาหกรรม ตลอดจนผู้ประกอบการรายย่อยในภาคธุรกิจ ควบคู่กับการสร้างโอกาสให้นักวิชาการ อาจารย์ นักศึกษา บุคลากรของมหาวิทยาลัย ได้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนประเทศชาติเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป

ตามที่เจ้าพนักงานจราจรตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้ออกประกาศเจ้าพนักงานตำรวจจังหวัดเชียงใหม่ เรื่อง ห้ามรถโดยสารขนาดใหญ่ขึ้นดอยสุเทพ เฉพาะวันเสาร์ – วันอาทิตย์ เมื่อวันที่ 14 เดือนมีนาคม 2555 ตามมติเห็นชอบของคณะอนุกรรมการจัดระบบการจราจรทางบกจังหวัดเชียงใหม่ ครั้งที่ 1/2555 นั้น เนื่องจากในช่วงเวลาที่ผ่านมามีวันหยุดราชการหรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ ติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน มีปริมาณการจราจรติดขัด และมีรถโดยสารขนาดใหญ่วิ่งขึ้นไปบนดอยสุเทพ ซึ่งสภาพเส้นทางดังกล่าวมีลักษณะกายภาพเป็นภูเขาสูง บางจุดเป็นทางแคบ คดเคี้ยว ประกอบกับรถโดยสารขนาดใหญ่ไม่มีความเหมาะสมในการเดินทางในสภาพดังกล่าว และที่จอดรถบนดอยสุเทพมีพื้นที่จำกัด อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ เพื่อป้องกันมิให้เกิดอุบัติเหตุจราจรขึ้น จึงมีความจำเป็นต้องดำเนินการควบคุมการจราจร เพื่อให้เกิดความสะดวก และปลอดภัยในการสัญจรของประชาชน ตลอดจนมีความเหมาะสมสอดคล้องกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน

ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 4 (37) มาตรา 138 (1) และ (15) คำสั่งกระทรวงมหาดไทยที่ 529/2555 ลงวันที่ 7 กันยายน 2555 แต่งตั้งผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด เป็นเจ้าพนักงานจราจรในเขตอำนาจการรับผิดชอบ และเขตพื้นที่การปกครองของแต่ละตำรวจภูธรจังหวัด จึงกำหนดให้

• ห้ามรถโดยสารขนาดหใญ่และรถโดยสารสองชั้น เดินบนถนนศรีวิชัย เส้นทางหมายเลข 1004 ตั้งแต่อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ถึงดอยสุเทพ ในวันหยุดราชการหรือวันหยุดนักขัตฤกษ์
• เจ้าพนักงานจราจร หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ จะทำการขีดเส้นหรือทำเครื่องหมายจราจรบนผิวทาง หรือติดตั้งสัญญาณจราจรหรือเครื่องหมายจราจรกำกับไว้ตามความเหมาะสมหรือเห็นสมควรหรือกระทำด้วยประการใดๆ ตามอำนาจหน้าที่เพื่อให้เกิดความสะดวก และปลอดภัยในการจราจร
• ประกาศนี้มิให้ใช้บังคับแก่รถของพนักงานเจ้าหน้าที่ รถเจ้าพนักงานตำรวจในขณะปฏิบัติหน้าที่ รถพยาบาล รถฉุกเฉิน และรถที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย

#จราจรเชียงใหม่
#ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่
#ตำรวจภูธรภาค5
#วันหยุดต่อเนื่องเชียงใหม่