ปปส.ภาค 5 สนธิกำลังหลายหน่วยงาน ลุยตรวจปัสสาวะตามสถานบันเทิงเชียงใหม่

ปปส.ภาค 5 สนธิกำลังหลายหน่วยงาน ลุยตรวจปัสสาวะตามสถานบันเทิงเชียงใหม่

ช่วงดึกวันที่ 19 ต.ค.62 น.ส.สุกันยา ใหญ่วงศ์ ผอ.ส่วนประสานพื้นที่ สำนักงานปปส.ภาค 5 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ปปส.ภ.5 สนธิกำลังร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอเมืองเชียงใหม่ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ สถานีตำรวจภูธรช้างเผือก สถานพินิจจังหวัดเชียงใหม่ จำนวนประมาณ 60 นาย ดำเนินการจัดระเบียบสังคมตรวจสอบสถานบันเทิง ในพื้นที่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ หลายแห่งมีการตรวจปัสสาวะนักท่องเที่ยวต้องสังสัย 25 คน ไม่พบสารเสพติดใดๆ จึงได้เน้นย้ำให้สถานบันเทิงปฏิบัติตามกฏหมายในการควบคุมดูแลไม่ให้เยาชนอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้ามาใช้บริการ และปิดทำการให้ตรงเวลา รวมถึงควบคุมสอดส่องดูแลไม่ให้มีการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด

หมายเหตุภาพจากปปส.ภ.5

ผบช.5 เรียกทุกโรงพักประชุมแก้ปัญหาจราจรเชียงใหม่ เน้นเจ้าหน้าที่ต้องทำงานอย่างจริงจัง (คลิป)

ช่วงบ่ายวันที่ 18 ต.ค.62 พล.ต.ต.ประจวบ วงค์สุข ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรจังหวัดเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยใน สภ. พื้นที่รับผิดชอบ เพื่อระดมความคิดในการแก้ไขปัญหาการจราจรที่ติดขัดในจังหวัดเชียงใหม่ ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่

พล.ต.ต.ประจวบ วงค์สุข ผบช.ภ.5 เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงใหม่มีปัญหาการจราจรที่ติดขัดในช่วงเช้าและช่วงเย็น ทุกวัน มีประชาชนทำการร้องเรียนมาที่ตำรวจภูธรภาค 5 แถบทุกวัน วันนี้จึงเรียกประชุมทุก สภ. ที่เกี่ยวข้องร่วมกับกลุ่มงานจราจร เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาการจราจรอย่างเป็นรูปธรรมและเป็นระบบ เพื่อแก้ไขปัญหาในระยะยาว โดยเชียงใหม่หลักๆ จะมีจราจรที่หนาแน่นในช่วงเช้า และช่วงหัวค่ำในเส้นทางจากอำเภอรอบนอกเข้าสู่ตัวเมือง เช่น เส้นทางจากอำเภอหางดงเข้าสู่ตัวเมือง เส้นทางจากอำเภอสันกำแพง เข้าสู่ตัวเมือง เส้นทางจากอำเภอสันทรายเข้าสู่ตัวเมือง เส้นทางจากอำเภอแม่ริมเข้าสู่ตัวเมือง

การแก้ไขปัญหาทุกหน่วยงานต้องทำงานร่วมกันทั้งตำรวจพื้นที่ ตำรวจจราจร และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ตลอดเส้นทางต้องไม่มีการจอดรถหรือนำสิ่งของมากีดขวางการจราจร และไม่มีการตั้งด่านตลอดเส้นทาง เพื่อไม่ให้รถติด เจ้าหน้าที่ต้องลงทำงานตามเวลา และประสานงานอย่างมีระบบในการระบายรถตลอดช่วงเส้นทาง และมีการบังคับใช้กฏหมายอย่างจริงจังโดยการประชุมเพื่อระดมความคิดเห็นและหาแนวทางร่วมกัน เชื่อว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาการจราจรที่หนาแน่น ของเมืองเชียงใหม่ได้อย่างเป็นระบบตลอดไป

ม.แม่โจ้ เพาะ “เห็ดเผาะ” ได้สำเร็จ สร้างป่า ลดเผา สร้างรายได้ สลายฝุ่น

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เรืองชัย จูวัฒนสำราญ คณบดีคณะผลิตกรรมการเกษตร พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และทีมศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมเห็ดป่าแม่โจ้ ให้การต้อนรับ นายคมสันต์ สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในโอกาสเข้าชมผลการดำเนินงาน โครงการ “เห็ดป่าคืนถิ่น สร้างป่า สร้างรายได้ สลายฝุ่น” ณ อาคารรัตนโกสินทร์ 200 ปี คณะผลิตกรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้

โครงการ “เห็ดป่าคืนถิ่น สร้างป่า สร้างรายได้ สลายฝุ่น” เป็นโครงการที่ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมเห็ดป่าแม่โจ้ ได้ทำการวิจัยและทดลองจนสามารถเพาะเห็ดเผาะ ได้สำเร็จ ได้เห็ดเผาะคุณภาพ มีรสชาติดี มีขนาดเม็ดใหญ่กว่าเห็ดเผาะในป่าธรรมชาติทั่วไป เตรียมพัฒนาต่อยอดส่งเสริมให้กับเกษตรกรและชุมชนต่อไป ช่วยสร้างรายได้ให้เกษตรกร ลดการเผา ลดฝุ่นควัน ส่งเสริมการดูแลรักษาป่า และรักษาทรัพยากรธรรมชาติร่วมกัน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อาจารย์สันต์ชัย มุกดา หัวหน้าฐานเรียนรู้เห็ดแม่โจ้ คณะผลิตกรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โทร. 08 9554 2325

นักศึกษาทีม Mecha Robot Lanna คว้าแชมป์ การควบคุมหุ่นยนต์ระบบอัตโนมัติ ครองถ้วยพระราชทานฯ

ปิดฉากงาน world didactic asia ที่ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคบางนา กรุงเทพฯ ในเวทีการแข่งขันการควบคุมหุ่นยนต์ระบบอัตโนมัติด้วยเทคโนโลยีอุตสาหกรรม 4.0 ครั้งที่ 2 (Thailand Competition on Robotic and Automation Control using Industry 4.0 Technology 2nd) เป็นอีกหนึ่งเวทีการแข่งขันที่ ตัวแทนนักศึกษา มทร.ล้านนา ทีม Mecha Robot Lanna ประกอบด้วย นายเสกข์ ขอดแก้ว นายกัญจน์ นาคเอี่ยม นายคมสัน ทองบุญ โดยอาจารย์ธรายุทธ กิตติวรารัตน์และอาจารย์จักรินทร์ ถิ่นนคร อาจารย์ผู้ควบคุม สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศการแข่งขัน ประเภทการแข่งขันควบคุมระบบอัตโนมัติในอุตสาหกรรม 4.0 ครองถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี พร้อมทุนการศึกษา 40,000 บาท และได้รับอุปกรณ์สนับสนุนเครื่อง PLC จากบริษัท ทีดีเอส เทคโนโลยี(ประเทศไทย) จำกัด มูลค่า 50,000 บาท

อีกทั้งทีม Mecha Lanna ยังสามารถคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับสอง การแข่งขันควบคุมระบบอัตโนมัติแบบชาญฉลาด ( Smart Automation 4.0) ได้รับโล่พร้อมเงินรางวัล 10,000 บาท และอุปกรณ์ PLC จากบริษัทมิตซูบิชิ มูลค่ากว่าสองหมื่นบาท ซึ่งเป็นความร่วมมือของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา สถาบันเทคโนโลยีปทุมวันที่ร่วมกันจัดการแข่งขันขึ้นต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 2 โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็น 4 ประเภทได้แก่ การแข่งขันควบคุมระบบอัตโนมัติ 4.0 การแข่งขันควบคุมหุ่นยนต์แขนกลในงานเชื่อมอุตสาหกรรม 4.0 การแข่งขันออกแบบชิ้นส่วนยานยนต์ด้วยหุ่นยนต์อุตสาหกรรม 4.0 และการแข่งขันหุ่นยนต์ประกอบอาหาร(ผัดไทย) ซึ่งอีกสองประเภทนักศึกษา มทร.ล้านนา ที่เข้าร่วมการแข่งขันก็ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์เพื่อพัฒนาปรับปรุงวิธีการเพื่อเข้าร่วมแข่งขันในปีต่อไป

เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2562 อาจารย์ที่ปรึกษาและนักศึกษาที่ได้รับรางวัล ได้เข้าพบ รศ.ศีลศิริ สง่าจิตร ผู้ปฏิบัติหน้าที่อธิการบดี เพื่อรายงานผลการแข่งขันในโอกาสนี้ อธิการบดีได้กล่าวแสดงความชื่นชมยินดีและให้โอวาทแก่นักศึกษา “ขอให้รักษามาตรฐานในเวทีการแข่งขันแต่เหนือสิ่งอื่นใดขอให้พัฒนาฝึกฝนตนเองอยู่เสมอ และหมั่นศึกษาหาความรู้ด้านวิทยาการสมัยใหม่อย่างสม่ำเสมอ และถ่ายทอดประสบการณ์ที่ได้จากเวทีการแข่งขันไปสู่น้องๆรุ่นใหม่ต่อไป”

เวทีการแข่งขันอาจจะเป็นสิ่งสะท้อนความรู้ความสามารถของนักศึกษาที่จะบ่งบอกได้ส่วนหนึ่งว่า มีความเข้าใจในสิ่งที่ได้เรียนและสามารถนำไปประยุกต์ให้เข้ากับสถานการณ์จริงได้อย่างไรแต่เหนือสิ่งอื่นใดคือประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากห้องเรียน เพื่อในอนาคตนักศึกษากลุ่มนี้จะนำไปปรับใช้ในชีวิตการทำงานได้

นักธุรกิจเจ๋ง ผุดไอเดียเปิด รีสอร์ทกลางทุ่งนา หวังเป็นแลนด์มาร์คท่องเที่ยวแห่งใหม่ กระตุ้นการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่

ที่บริเวณบ้านถวาย ตำบลขุนคง อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการเปิดตัว โต้งนาคอทเทจรีสอร์ท ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดเชียงใหม่ โดยได้เปิดเป็นร้านกาแฟ และร้านอาหาร ท่ามกลางบรรยากาศของทุ่งนาแบบ 360 องศา มีการสร้างน้ำตกจำลอง เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้พักผ่อนหย่อนใจ นอกจากนี้ยังมีการสร้างรีสอร์ท  โดยจำลองที่พักในสไตล์มัลดีฟส์ อยู่กลางทุ่งนา เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติอีกด้วย

โดยทางด้านนางสาวอรัญญา ทะรินทร์ เจ้าของโต้งนาคอทเทจรีสอร์ท เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนได้ ทำกิจการจังเกิ้ล เดอ คาเฟ่ จนประสบความสำเร็จ ใครเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวสนใจให้การเดินทางมาเป็นจำนวนมาก แต่เนื่องจากตนได้ย้ายถิ่นฐานมาอาศัยอยู่ในพื้นที่ตำบลขุนคงมาเป็นเวลาระยะเวลากว่า 20 ปี ประกอบกับปัจจุบันการท่องเที่ยวในพื้นที่บ้านถวาย ซึ่งเป็นแหล่งแกะสลักไม้ที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดเชียงใหม่นั้น ค่อนข้างซบเซา

ตนจึงคิดอยากจะตอบแทน ประชาชนในท้องถิ่น จึงได้ทุ่มทุนกว่าสิบล้านบาท เนรมิตพื้นที่กลางทุ่งนา ซึ่งเป็นพื้นที่ของตนกว่า 10 ไร่ ให้เกิดเป็นรีสอร์ท และร้านกาแฟบรรยากาศสุดฟิน นอกจากนี้ตนนี้ยังได้มีการจ้างงานคนในพื้นที่ เข้ามาทำงานในธุรกิจของตน เพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้กับชุมชน โดยหวังว่าสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยว ให้กลับมาท่องเที่ยวในพื้นที่บ้านถวาย เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับชุมชนอีกครั้งหนึ่ง

บุญเลิศ เปิดตัวกำนันคำมูล เข้าทีมสจ. ลงสู้ศึกเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด

บุญเลิศ เปิดตัวกำนันคำมูล เข้าทีมสจ. ลงสู้ศึกเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด

ที่ห้องประชุมใหญ่ โรงแรมรติล้านนา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ได้ทำการเปิดตัวนายคำมูล กันทา หรือกันนันคำมูล กำนันตำบลสันกลาง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ที่เตรียมสละเก้าอี้กำนัน เข้าสู้ศึกเลือกตั้งเป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ หรือ สจ. ในนามกลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม โดยมีบรรดานายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แกนนำชาวบ้าน ในพื้นที่อำเภอสันป่าตองทั้งอำเภอมาร่วมให้กำลังใจ

นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่เปิดเผยว่าในวันนี้เราได้ทำการเปิดตัวกำนันคำมูล ที่คลุกคลีอยู่กับชาวบ้านในพื้นที่อำเภอสันป่าตองมาหลายสิบปี โดยนอกจากตำแหน่งกำนันตำบลสันกลาง แล้วยังมีตำแหน่งเป็นประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอสันป่าตอง มาช่วยในการลงเลือกตั้ง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เขต 1 อำเภอสันป่าตอง เพื่อช่วยกันพัฒนาอำเภอสันป่าตองในทุกๆด้วย

โดยเบื้องต้นตน ตัดสินใจจะลงสมัครเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ที่กำลังจะมาถึงในปี 2563 ตน ก็ต้องหาทีมงานที่จะมาเป็นสมาชิกสภา ที่มีความชำนาญ เชี่ยวชาญ และจริงจัง ทำงานเพื่อประชาชน เข้ามาในทีมของตน โดยใช้ชื่อว่ากลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม ที่เป็นกลุ่มการเมืองท้องถิ่นอิสระ ไม่ฝักใฝ่พรรคการเมืองใหญ่ๆทุกพรรค เราสามารถทำงานร่วมได้หมด ถ้าเป็นผลประโยชน์ของประชาชนชาวเชียงใหม่

เพราะกลุ่มเชียงใหม่คุณธรรมเราจะทำงานเพื่อประชาชน ไม่ผูกมัดกับพรรคใดยการเลือกตั้งท้องถิ่นนั้น ประชาชนจะใช้เหตุผลและพิจารณาจากตัวบุคคล ที่จะมาลงสมัครนายก และที่จะมาลงสมัครสมาชิกสภา มากกว่าการเลือกพรรค ไม่เหมือนระดับชาติที่ประชาชนมักจะเลือกพรรคมากกว่าตัวบุคคล

โดยตอนนี้เราก็เตรียมทีมงานไว้พร้อมหมดแล้วโดยทีมงานสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด มีทั้งหมด 42 เขต ซึ่งทีทีมงานของตนก็จะใช้ผู้สมัครคนเดิมราวๆ 35-36 คนและผู้สมัครหน้าใหม่อีก 6-7 คน โดยนโยบายจะมุ่งเน้นการสานต่องานที่ดำเนินการไว้และต่อยอดพัฒนาด้านอื่นๆ โดยนำสิ่งที่ประชาชนต้องการ สิ่งที่ประชาชนอยากให้หน่วยงานรัฐเข้าไปช่วยเหลือ และนำมาเป็นนโยบายในการดำเนินการเพื่อประชาชน

เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เปิดตัวสมาชิกใหม่ “ลูกยีราฟ” มอบเป็นของขวัญต้อนรับปิดเทอมนี้

นายอนุชา ดำรงมณี กรรมการบริหาร ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร เปิดเผยว่า เนื่องจากตอนนี้เป็นช่วงปิดเทอมของน้องๆ หนูๆ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีจึงได้มอบของขวัญพิเศษให้เป็นของขวัญวันปิดเทอม เป็นลูกยีราฟ (GIRAFFA) เพศเมีย จำนวน 1 ตัว เกิดเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2562 จาก “พ่อมอส” อายุ 17 ปี และ “แม่จอย” อายุ 16 ปี ขณะนี้ลูกยีราฟ มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ดี และแม่จอยก็ได้เลี้ยงลูกเองตามธรรมชาติ แต่อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด โดยก่อนหน้านี้เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีสามารถเพาะพันธุ์ยีราฟ สายพันธุ์ RETICULATE มาแล้ว จำนวน 4 ตัว ซึ่งทุกตัวเกิดจากพ่อ “มอส” และแม่ “จอย” ปัจจุบันเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีมียีราฟทั้งสิ้น จำนวน 9 ตัว

ยีราฟ (GIRAFFA) สายพันธุ์ RETICULATE นี้ เมื่อเทียบกับสายพันธุ์อื่นจะมีลักษณะและพฤติกรรมเหมือนกับยีราฟสายพันธุ์ทั่วไป แต่มีความแตกต่างกันที่ลวดลายมีขนาดใหญ่ มีเส้นสีขาวตัดเส้นอยู่รอบๆ และบางลายจะปรากฏเป็นสีแดงเข้ม ปัจจุบันยีราฟสายพันธุ์ RETICULATE นับว่ามีคงเหลืออยู่ในโลกจำนวนน้อยมาก โดยระยะเวลาการตั้งท้องที่นานถึง 400 วัน และเกิดลูกเพียงครั้งละ 1 ตัวเท่านั้น

และในช่วงปิดเทอมนี้ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีขอเชิญชวนคุณพ่อ คุณแม่ และน้องๆ หนูๆ มาสร้างเวลาแห่งความสุข สร้างประสบการณ์ดีๆ ร่วมกันได้ทั้งครอบครัว เพราะมาเที่ยวเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีนอกจากจะเป็นการพักผ่อนจากการเรียนแล้ว เชียงใหม่ไนท์ซาฟารียังมีกิจกรรมอีกหลากหลายไว้ให้น้องๆ หนูๆ ได้มาเที่ยวเล่น แต่ก็ยังแอบแฝงไปด้วยการเรียนรู้ที่หาไม่ได้ในห้องเรียน เช่น การให้อาหารสัตว์ด้วยตัวเองอย่างใกล้ชิด ได้สัมผัสสัตว์เล็กที่ไม่สามารถสัมผัสได้เองจากสถานที่ทั่วไป ได้เห็นพฤติกรรมของสัตว์นักล่า การแสดงโชว์จากเสือเบงกอล รวมถึงกิจกรรมและการแสดงต่างๆ เป็นต้น

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจชมความน่ารักของสมาชิกใหม่ “ลูกยีราฟ” ตัวน้อย สามารถเข้าชมได้ทุกวัน ณ บริเวณส่วนแสดง ร้านยีราฟ และสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์และเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) โทร. 053 – 999000, 053 – 999005

รัฐบาลญี่ปุ่นสนับสนุนโครงการจัดหารถดับเพลิงประจำเทศบาลตำบลหล่ายงาว เชียงราย

รัฐบาลญี่ปุ่นสนับสนุนโครงการจัดหารถดับเพลิงประจำเทศบาลตำบลหล่ายงาว เชียงราย

ที่บริเวณเทศบาลตำบลหล่ายงาว อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย นายฮิโรชิ มัทสึโมะโตะ กงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ ได้มาเป็นประธานพิธีส่งมอบรถดับเพลิงของ “โครงการจัดหารถดับเพลิงประจำเทศบาลตำบลหล่ายงาว อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย” ซึ่งสนับสนุนโดยรัฐบาลญี่ปุ่นผ่านโครงการความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจแบบให้เปล่าเพื่อพื้นฐานและความมั่นคงของมนุษย์ (หรือโครงการคุซะโนะเนะ) โดยมีนายสมพงษ์ เทพไหว นายกเทศมนตรีตำบลหล่ายงาว นำคณะผู้บริหารเทศบาลให้การต้อนรับและรับมอบรถดับเพลิง

ตำบลหล่ายงาว ตั้งอยู่ในพื้นที่ด้านทิศตะวันออกของจังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นเขตชายแดนติดกับประเทศลาว โดยพื้นที่ร้อยละ 99 เป็นพื้นที่เกษตรกรรม และป่าไม้ ในฤดูแล้งมักเกิดไฟป่าและปัญหาการขาดแคลนน้ำบ่อยครั้ง ประชาชนส่วนใหญ่ใช้น้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติที่ไหลมาจากภูเขา ซึ่งขึ้นอยู่กับปริมาณฝนที่ตกลงมา ทำให้ต้องมีการจัดส่งน้ำอุปโภคเพื่อช่วยเหลือประชาชน แต่รถดับเพลิงที่มีอยู่ มีสภาพชำรุดทรุดโทรมจากการใช้งานมานาน ดังนั้นการพัฒนาศักยภาพการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจึงเป็นประเด็นสำคัญเร่งด่วนสำหรับท้องถิ่นนี้

จากสถานการณ์ดังกล่าว รัฐบาลญี่ปุ่นจึงได้ให้การสนับสนุนโครงการจัดซื้อรถดับเพลิงเอนกประสงค์ ขนาดบรรจุน้ำ 4,000 ลิตร พร้อมเครนกระเช้าไฟฟ้า 1 คันให้แก่เทศบาลตำบลหล่ายงาวเป็นงบประมาณมูลค่า 3,016,000 บาท ซึ่งการจัดหารถได้เสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว รัฐบาลญี่ปุ่นหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการสนับสนุนในครั้งนี้จะมีส่วนช่วยให้ประชาชนในตำบลหล่ายงาวมีความปลอดภัยในการดำรงชีวิต และมีน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคอย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้นทั้งนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นมีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการจัดการกับความมั่นคงของมนุษย์โดยผ่านโครงการความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจแบบให้เปล่าเพื่อพื้นฐานและความมั่นคงของมนุษย์ (คุซะโนะเนะ) ต่อไป

ดอยสะเก็ดเชิญชวนเที่ยวงานโกมยี่เป็ง “นายกเหลิม” เทศบาลเชิงดอยจัดยิ่งใหญ่ ณ หนองบังพระเจ้าหลวง

ดอยสะเก็ดเชิญชวนเที่ยวงานโกมยี่เป็ง “นายกเหลิม” เทศบาลเชิงดอยจัดยิ่งใหญ่ ณ หนองบังพระเจ้าหลวง

ขึ้นชื่อว่าเทศกาลลอยกระทง หรือประเพณียี่เป็ง จังหวัดเชียงใหม่นั้นมีการจัดเทศกาลนี้อย่างยิ่งใหญ่ในทุกๆปี จนมีชื่อเสียงร่ำลือไปทั่วโลก ทุกพื้นที่ทั้งจังหวัดมีการจัดกันหลากหลายพื้นที่ แต่ที่ไม่มาไม่ได้คือสถานที่จัดงานเทศกาลลอยกระทง หนองบัวพระเจ้าหลวง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ที่มีการจัดงานแปลกแตกต่างจากสถานที่อื่นๆ นั้นคือเน้นประเพณีแบบโบราณที่สืบทอดกันมาแต่อดีต

นายชุติพนธ์ สารแปง นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเชิงดอย เปิดเผยว่าตำบลเชิงดอย เป็นชุมชนที่ต้องการอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีที่สำคัญไว้ เพื่อสืบทอดให้เยาวชนรุ่นหลังได้ตระหนักถึงประเพณีอันงดงามและเก่าแก่ของบรรพบุรุษ และสืบสวนประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามของล้านนาให้ถาวรคงอยู่ เพื่อให้คนรุ่นลูกรุ่นหลาน ได้รับรู้ถึงประเพณีลอยกระทงแบบล้านนา ว่าเป็นมาอย่างไร รวมถึงการประชาสัมพันธ์หนองบัวพระเจ้าหลวงให้กลับมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดเชียงใหม่อีกครั้งหนึ่ง

ทางสภาวัฒนธรรมเชิงดอย ผู้นำชุมชน ผู้สูงอายุ กลุ่มสตรีแม่บ้าน เด็กและเยาวชนรวมถึงประชาชนในพื้นที่ จึงพร้อมใจกันจัดงานประเพณียี่เป็งหนองบัวพระเจ้าหลวง ประจำปี 2562 ขึ้นมา โดยใช้ชื่องานว่า”เทศกาลโกมล้านนา ปู่จาผางผะติ๊บ หนองบัวพระเจ้าหลวง ประจำปี 2562″ โดยจะเริ่มกิจกรรมตั้งแต่วันที่ 10-12 พฤจิกายน 2562 ณ หนองบัวพระเจ้าหลวง ต.เชิงดอย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่

งานปีนี้บริเวณโดยรอบของพื้นที่ตำบลเชิงดอย บ้านเรือนประชาชน วัด ถนน เส้นทางต่างๆ จะถูกตกแต่งด้วยซุ้มประตูป่า โคมไฟ ต้นไม้ ตุง ช่อประทีป รวมถึงบริเวณที่จัดงานคือหนองบัวพระเจ้าหลวง ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำที่เต็มไปด้วยดอกบัว ภายในงานจะมีมหรสพ มากมาย โดยประชาชนในพื้นที่ที่เข้ามาช่วยงาน หรือเข้ามาท่องเที่ยว จะแต่งกายด้วยชุดไทย รูปแบบต่างๆ และอยากขอให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวชม แต่งกายด้วยชุดไทยด้วยเพื่อเข้ากับบรรยากาศ

ซึ่งทุกวันจะมีการแสดงกลองพื้นเมืองล้านนา การฟ้อนจีน การฟ้อนจ้อง การฟ้อนล้านนา การฟ้อนไทยลื้อ การแสดงจากกลุ่มชาติพันธ์ทั้งชนเผ่าม้ง ชนเผ่าปากะญอ ชนเผ่าลาหู่ ชนเผ่าลีซู ชนเผ่ากะฉิ่น การแสดงโคมผัดยักษ์ การแสดงแสงสีเสียง ดอกบัวยักษ์ ขบวนแห่โคมล้านนา การจุดประตี๊บ หรือผางประทีปคืนละ 5,000 ดวงริมหนองบัวพระเจ้าหลวง การปล่อยโคมไฟลอยฟ้าคืนละ 5,000 ลูก การลอยกระทง และการจัดงานทั้งหมดจะเน้นรูปแบบงานวัดในสมัยอดีต

อาหารการกินของพื้นที่เมืองทุกอย่างจะถูกจัดมารวมไว้ที่นี้ ทำให้ทุกคนที่เข้ามาท่องเที่ยวจะเหมือนย้อนยุคไปในสมัยอดีต ซึ่งตนอยากเชิญชวนให้บรรดานักท่องเที่ยว ประชาชนชาวเชียงใหม่ และนักท่องเที่ยว แวะมาสัมผัสการจัดการรื่นเริงตามประเพณีลอยกระทง หรือประเพณียี่เป็ง แบบล้านนาที่แท้จริง ได้ที่หนองบัวพระเจ้าหลวง ต.เชิงดอย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่

เทศกาลลอยกระทงหรือประเพณียี่เป็ง นับว่าเป็นเทศกาลที่สำคัญ ที่สุดของประชาชนชาวไทย โดยเฉพาะคนภาคเหนือ ซึ่งในทุกๆปีจะจัดขึ้นในตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 ตามปฏิทินจันทรคดีไทย ถือเป็นประเพณีสะเดาะเคราะห์และขอขมาต่อพระแม่คงคา ตลอดจนเป็นการบูชารอยพระพุทธบาทที่ริมฝั่งแม่น้ำนัมทามหานที และเป็นการบูชาพระอุปคุตอรหันต์หรือพระมหาสาวก ซึ่งปีนี้ก็ตรงกับวันที่ 10-12 พฤจิกายน 2562

เชื่อว่าประเพณีนี้ได้สืบต่อกันมายาวนานตั้งแต่สมัยสุโขทัย โดยในรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหง เรียกประเพณีลอยกระทงนี้ว่า “พิธีจองเปรียญ” หรือ “การลอยพระประทีป” และมีหลักฐานจากศิลาจารึกหลักที่ 1 กล่าวถึงงานเผาเทียนเล่นไฟว่าเป็นงานรื่นเริงที่ใหญ่ที่สุดของกรุงสุโขทัย ทำให้เชื่อกันว่างานดังกล่าวน่าจะเป็นงานลอยกระทง โดยมีนางนพมาศหรือท้าวศรีจุฬาลักษณ์ เป็นผู้ประดิษฐ์กระทงขึ้นครั้งแรกจากนั้นประเพณีนี้ก็สืบสานต่อๆกันมาจนเป็นประเพณีที่สำคัญของประชาชนชาวไทย

ทีมข่าว MeeDee Media News

บางกอกแอร์เวย์ส จับมือกะทิชาวเกาะ จัดกิจกรรมปลูกต้นไม้รอบเกาะสมุย

อ. เกาะสมุย – บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส โดยนายวรงค์ อิศรเสนา ณ อยุธยา รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายการตลาด (ที่ 3 จากขวา) และบริษัท เทพผดุงพรมะพร้าว จำกัด ผู้ผลิตกะทิภายใต้แบรนด์ชาวเกาะ โดยนางจรีพร เทพผดุงพร ประธานกรรมการ (ที่ 4 จากซ้าย) ร่วมกันจัดกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) “ปลูกมะพร้าวเพื่อเกาะสมุย ปี 5” ภายใต้โครงการ “Love Earth, Save Earth: Love Samui, Save the Coconut Tree” แจกหน่อมะพร้าว 1,000 หน่อและ ชวนปลูกต้นมะพร้าวบนพื้นที่เกาะสมุย

เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนในเกาะสมุยหันมาใส่ใจและอนุรักษ์ต้นมะพร้าว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญทางการท่องเที่ยวของเกาะสมุย ณ เจดีย์ศรีสุคตคีรี (เจดีย์เขาหัวจุก) อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมี ว่าที่ร้อยตรี กิตติภพ รอดดอน นายอำเภอเกาะสมุย (ที่ 5 จากซ้าย) นายนพดล ขาวมะลิ ปลัดอำเภอเกาะสมุย นายเกียรติศักดิ์ เทพผดุงพร กรรมการบริหาร บริษัท เทพผดุงพรมะพร้าว จำกัด (กะทิชาวเกาะ) นายชวพล เทพผดุงพร ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เทพผดุงพรมะพร้าว จำกัด (กะทิชาวเกาะ) นายสิริชัย เจริญรัถ ที่ปรึกษาส่วนรับผิดชอบต่อสังคม สนามบินสมุย และนายศิริชัย อิ่มดำ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร ร่วมเป็นเกียรติในงาน โดยบริษัท เทพผดุงพรมะพร้าว จำกัด ได้ให้การสนับสนุนหน่อมะพร้าวจากมะพร้าวพันธุ์ดีในการจัดกิจกรรม พร้อมนำวิทยากรที่มีความเชี่ยวชาญมาถ่ายทอดองค์ความรู้ และร่วมกับชุมชนบริเวณรอบเกาะสมุยนำหน่อมะพร้าวลงปลูกบนพื้นที่เกาะสมุย