เชียงใหม่ เปิดประสบการณ์การเรียนรู้ด้านการซื้อขายลิขสิทธิ์จากสำนักพิมพ์มืออาชีพจากทั่วโลก 29 พ.ย. – 2 ธ.ค.นี้เท่านั้น

เชียงใหม่ เปิดประสบการณ์การเรียนรู้ด้านการซื้อขายลิขสิทธิ์จากสำนักพิมพ์มืออาชีพจากทั่วโลก พร้อมกิจกรรมสุดสร้างสรรค์มากมาย ในงานเทศกาลลิขสิทธิ์และเนื้อหาสำหรับสื่อเพื่อเด็กและเยาวชนครั้งที่ 2 ระหว่าง 29 พ.ย. – 2 ธ.ค. 61 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่

เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2561 เวลา 18.30 น. ที่ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการในคณะกรรมการบริหารการ พัฒนาพิงคนคร ผู้บริหารจัดการศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ เปิดงานเทศกาลลิขสิทธิ์และเนื้อหาสำหรับสื่อเพื่อเด็กและเยาวชน (International Children’s Content Rights Fair: ICCRF) ครั้งที่ 2 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน-2 ธันวาคม 2561 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา (CMECC) จังหวัดเชียงใหม่

โดยจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Creativity Beyond the Page” เป็นเทศกาลแรกและหนึ่งเดียวในภูมิภาคอาเซียน ที่นํางานศิลป์มารวมกับงานด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม หรือ “art meets IT” เพื่อส่งเสริมให้เกิดเครือข่ายความร่วมมือ ระหว่างผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมสื่อสิ่งพิมพ์และเทคโนโลยีเพื่อเด็กและเยาวชน เจ้าของลิขสิทธิ์ และนักเขียน อีกทั้งยังเป็นเทศกาลซื้อขายลิขสิทธิ์ระดับนานาชาติที่จัดขึ้นใน ประเทศไทย เป็นโครงการสนับสนุน กระตุ้นการซื้อขายลิขสิทธิ์หนังสือและเนื้อหาเกี่ยวกับเด็กและเยาวชนใน ภูมิภาคอาเซียน ร่วมผลักดันให้อาเซียนเป็นภูมิภาคที่มีความคิดสร้างสรรค์ในทุกมิติ

ห้ามพลาดที่จะมาพบกันในงาน ICCRF อย่างจุใจ 4 วันเต็ม ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา (CMECC) จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 2 ธันวาคม 2561 สํานักพิมพ์ ชาวไทยและต่างชาติที่สนใจในการเข้าร่วมจัดแสดงงานในเทศกาลลิขสิทธิ์และเนื้อหาสําหรับสื่อเพื่อเด็กและเยาวชน รวมถึงผู้เข้าชมงานทั่วไป สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานนี้ได้ทางเว็บไซต์ https://iccrfthailand.com และ www.facebook.com/iccrfthailand

นักธุรกิจสาวทุ่มงบกว่า 30 ล้าน สร้างร้านกาแฟกลางสวนญี่ปุ่น หวังเป็นแลนด์มาร์กสถานที่ท่องเที่ยวของเชียงใหม่

ที่บริเวณท้องที่ตำบลชมภู อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีร้านกาแฟแนวความคิดสุดเจ๋ง โดยได้มีการตกแต่งบรรยากาศเลียนแบบให้คล้ายกับประเทศญี่ปุ่น ทำให้เป็นที่สนใจของประชาชนและนักท่องเที่ยว สิ่งไหนเดินทางกันมาเพื่อสัมผัสบรรยากาศ และถ้ายรูปเป็นที่ระลึกกันเป็นจำนวนมาก จนทำให้สารที่ดังกล่าวกลายเป็นแลนด์มาร์กสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ ทางผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปสำรวจ

โดยพบว่าร้านดังกล่าวคือร้านเนโกะเอม่อนคาเฟ่ เชียงใหม่ ตั้งอยู่ที่บริเวณ บ้านเลขที่ 107/3 หมู่ที่ 2 ตำบลชมพู อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีนางนฤณี กล้าหาญ อายุ 53 ปี เป็นเจ้าของร้าน โดยบรรยากาศภายในร้านได้มีการประดับตกแต่งให้คล้ายกับเมืองในประเทศญี่ปุ่น โดยได้มีการจัดสวนไผ่บริเวณด้านหน้าของร้าน ทั้งนี้ตัวร้านยังได้มีการแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 โซนคือ แบบ กลางแจ้ง ท่ามกลางสวน ที่จัดเรียงโต๊ะเก้าอี้ให้เลือกทั้งแบบโต๊ะเก้าอี้ไม้ ไปจนถึงสไตล์การนั่งเบาะแบบญี่ปุ่น

หรือถ้าใครชอบห้องแอร์ ก็มีไว้ให้เลือกใช้บริการ นอกจากนี้ที่บริเวณด้านหลังของร้านยังได้มีการตกแต่งเป็นสวนสไตล์ญี่ปุ่น เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก สำหรับเมนูอาหารมีทั้งแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม และฟิวชั่น รวมไปถึงเครื่องดื่มหลากหลายเมนูคอยต้อนรับลูกค้าท่ามกลางบรรยากาศกลิ่นไอของความเป็นญี่ปุ่นชวนประทับใจ

คงค้างเพียงสวนสไตล์คามิโคจิ ซึ่งเป็นป่าในเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น ซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลาประมาณ 1 เดือน จึงจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงสิ้นปีนี้ ทั้งนี้หากผู้ใดสนใจสามารถเดินทางมายังร้านดังกล่าวได้ โดยจะเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00 – 22.00 น. และจะหยุดในช่วงวันพุธ สนใจสามารถสำรองจองโต๊ะหรือติดต่อสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 098-585 2866

hdrpl

เชียงใหม่อากาศหนาวจัด ยอดดอยอินทนนท์อุณภูมิลบ 1 องศา ขณะที่อุตุเตือนอากาศจะยังคงหนาวอย่างต่อเนื่อง

เช้าวันนี้ วันที่ 28 พ.ย. 61 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีอากาศหนาวเย็นจัดอย่างต่อเนื่อง โดยทางด้านว่าที่ ร.ต.ปรีชา จอนต์ธนาวัตน์ เวรพยากรณ์อากาศ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ ได้เปิดเผยว่า ในช่วงนี้ได้มีบริเวณความกดอากาศสูง กำลังค่อนข้างแรจากประเทศจัน แผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอน บนมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง ส่วนบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่

ทั้งนี้จกาสภาพอากาศที่หนาวเย็น ส่งผลทำให้ที่บริเวณยอดดอยอินทนนท์ ได้มีอากาศหนาวจัด โดยในเช้าวันนี้อุณหภูมิต่ำสุดที่บริเวณยอดดอยได้ลดลงเหลือเพียง -1 องศาเซลเซียส ส่งผลทำให้ห้เกิดปรากฎการณ์น้ำค้างแข็งหรือเหมยขาบขึ้น บริเวณโดยรอบที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานดอยอินทนนท์ ซึ่งได้ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางขึ้นมาเทีายวชมความสวยงามของยอดดอยเป็นอย่างมาก โดยหลังจากนี้คาดว่าหลังจากนี้ภาคเหนือจะยังคงมีสภาพอากาศจะหนาวเย็น และจะส่งผลให้เกิดปรากฎการณ์น้ำค้างแข็งหรือเหมยขาบอย่างต่อเนื่อง

ท่องเที่ยวและกีฬาเชียงใหม่ จับมืออำเภอแม่ออน จัดแข่งปั่นจักรยานเสือภูเขา กระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในพื้นที่ตามปีท่องเที่ยววิถีไทยของรัฐบาล

นางปวีณวรรณ นิลกำแหง รักษาการท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดการแข่งขันปั่นจักรยาน Chiangmai Mountain Bike 2018 ที่บริเวณสามแยกน้ำพุร้อนสันกำแพง ต.บ้านสหกรณ์ อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ โดยมีนายพงศ์ศักดิ์ เพชรคงแก้ว ปลัดอาวุโสอำเภอแม่ออน นักปั่นทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่จำนวนมากเข้าร่วมในกิจกรรมครั้งนี้ โดยเริ่มปั่นตามเส้นทางจากน้ำพุร้อนสันกำแพง ผ่านพระเจ้าทันใจ ผ่านหลวงปู่ทวด ไปจนถึงจุดชมวิวแม่ตะไคร้ ระยะทางรวมกว่า 40.9 กิโลเมตร เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่

การท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับ ปีเที่ยววิถีไทย จัดการแข่งขันปั่นจักรยาน ChiangMai Mountain Bike ขึ้น เพื่อดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลที่ส่งเสริมให้เป็นปีท่องเทที่ยววิถีไทย และยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่ การส่งเสริมให้ประชาชนมาร่วมกันออกกำลังกาย เพื่อความแข็งแรงของสุขภาพ

โดยการแข่งขันนั้นจะมีเฉพาะผู้ที่ปั่นจักรยานเสือภูเขาเท่านั้น สำหรับผู้ที่ปั่นจักรยานเพื่อการท่องเที่ยวจะเป็นกลุ่มที่มาร่วมกิจกรรม ปั่นท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ โดยเส้นทางการปั่นนั้นระยะทางรวมทั้งหมดประมาณ 40.9 กิโลเมตร จุดเริ่มต้นตั้งแต่สามแยกน้ำพุร้อนสันกำแพง มุ่งหน้าไปทางบ้านสหกรณ์ 6 โดยบรรยากาศตามเส้นทางจะอยู่ในเขตธรรมชาติ ที่อุดมสมบูรณ์มีทิวทัศน์ที่สวยงามเส้นทางปั่นจะเป็นทางขึ้นเขาแหละลงสลับกัน อีกทั้งยังได้ผ่านจุดสำคัญ คือ หลวงพ่อทันใจ หลวงปู่ทวด และจุดชมวิวแม่ตะไคร้ เพื่อความปลอดภัยของนักปั่นที่เข้าแข่งขันจักรยานเสือภูเขา ก็ได้มีการปิดเส้นทางตลอดการแข่งขัน 1 เลน

สำหรับนักปั่นจักรยานก็จะได้รับเหรียญที่ระลึกทุกคน ส่วนผู้ที่ปั่นเข้าเส้นชัยใน 3 อันดับแรกของแต่ละประเภทจะได้รับถ้วยรางวัลพร้อมใบประกาศ ยกเว้นประเภทท่องเที่ยวที่มีการปั่นและใช้รถได้ทุกประเภทจะไม่มีถ้วยรางวัลและใบประกาศ

แสนสิริ เปิดตัว ดีคอนโด ริน มูลค่านับพันล้าน ตอกย้ำความสำเร็จ หลังปิดยอดขายเกลี้ยง 5 โครงการ

แสนสิริตอกย้ำความสำเร็จแบรนด์ “ดีคอนโด” ในจังหวัดเชียงใหม่ ปิดการขายไปแล้วถึง 5 โครงการ มูลค่ารวม 7,000 ล้านบาท ล่าสุดเปิดตัว “ดีคอนโด ริน” คอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ ดีคอนโด โครงการที่ 6 มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ชูจุดขายโลเคชันติดเซ็นทรัล เฟสติวัล เพียง 10 นาที จากถนนนิมมานเหมินทร์และดินทางสู่สนามบินได้สะดวกสบาย โดเด่นด้วยดีไซน์ภายใต้แนวคิด “ผสานดีไซน์และการใช้ชีวิต” สไตล์โมเดิร์น ล้านนา เข้าถึงการพักผ่อนด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและพื้นที่ส่วนกลางครบครัน เตรียมเปิดพรีเซลส์ 24 – 25 พฤศจิกายนนี้ ที่เซลล์ แกลลอรี ดีคอนโด ริน เชียงใหม่ ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.89 ล้านบาท

นายสมเกียรติ หงษ์ทรัพย์ภิญโญ รองกรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แสนสิริประสบความสำเร็จในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ “ดีคอนโด” ในจังหวัดเชียงใหม่มาต่อเนื่องรวม 5 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวม 7,000 ล้านบาท โดยในหลายโครงการยังสามารถปิดการขายได้ทันทีในวันพรีเซลล์ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในแบรนด์แสนสิริ จากการพัฒนาโครงการที่มีคุณภาพ แนวคิดการออกแบบโครงการ นวัตกรรมในที่อยู่อาศัย ตลอดจนการบริการหลังการขาย

รวมถึงความมั่นใจการพัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์ ดีคอนโด ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ทั้งในด้านศักยภาพทำเลที่ตั้งโครงการใมนแต่ละทำเล และฟังก์ชันการใช้งาทนที่พัฒนาขึ้นจากความต้องการของลูกค้า ในแนวคิดที่ทันสมัย สอดรับกับพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ จตึงออกมาเป็นพื้นที่ส่วนกลาง ที่สร้างสรรค์จิตนาการ ได้แก่ Co-Working Space และ Co-Kitchen Space

นอกจากนี้จากศักยภาพการเติบโตของเมืองเชียงใหม่ที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่องชจากโครงการเมกะโปรเจคต์ของภาครัฐในอนาคต อาทิ โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงกรุงเทพฯ – เชียงใหม่, โครงการขยายสนามบินเชียงใหม่แห่งที่ 2 รวมถึงโครงการรถไฟฟ้าในเชียงใหม่ บริษัทฯ จึงเปิดตัวโครงการ “ดีคอนโด ริน” คอนโดมิเนียมแบบโลว์ไรซ์ จำนวน 411 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท โดยเตรียมเปิดการขายในวันที่ 24 – 25 พฤศจิกายนนี้ ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.89 ล้านบาท

“ดีคอนโด ริน” มีความหมายถึง ทองที่ไหลรินที่ประกอบกับเส้นทางถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ซึ่งเป็นถนนเส้นหลักที่เข้าถึงโครงการ สามารถเชื่อมต่อได้ถึงแยกรินคำ ที่เป็นย่านการค้าและท่องเที่ยวที่คึกคักที่สุดของเมืองเชียงใหม่ จึงเป็นชื่อที่เหมาะสมสำหรับโครงการดีคอนโดโปรเจ็คต์ใหม่ของแสนสิริ ที่มีความเป็นพรีเมียม ทั้งนี้ โครงการยังตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ ติดเซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ และใช้เวลาเดินทางเพียง 10 นาทีจากถนนนิมมานเหมินทร์ และเดินทางสู่สนามบินได้สะดวกสบาย

โครงการให้ความเป็นส่วนตัวสูงด้วยจำนวนเพียง 411 ยูนิต โดดเด่นด้วยดีไซน์สไตล์โมเดิร์น ลานนา ภายใต้คอนเซ็ปต์โครงการ “ผสานดีไซน์และการใช้ชีวิต” ที่รวมเอกลักษณ์ของเชียงใหม่ถ่ายทอดสู่การพัฒนาโครงการ ผ่านการออกแบบสถาปัตยกรรม รวมถึงพื้นที่ใช้สอยภายในโครงการให้มีกลิ่นอายของเชียงใหม่ในแบบลงตัวกับรายละเอียดที่ตอบโจทย์ชีวิตทันสมัย รวมทั้งยังเข้าถึงการพักผ่อนด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและพื้นที่ส่วนกลางครบครัน

ภายใต้โครงการนี้ยังมีไฮไลท์ด้วย Co-Working Space พื้นที่สร้างสรรค์ทุกจินตนาการในการทำงาน และครั้งแรก!! กับดีคอนโดในจังหวัดเชียงใหม่ที่เปิดพื้นที่ Co-Kitchen Space ให้ลูกบ้านสนุกกับการประกอบอาหารและลิ้มรสชาติอาหารไปด้วยกัน รวมถึงทำกิจกรรมและพักผ่อนในพื้นที่ส่วนกลางร่วมกันอย่างเต็มที่

โครงการดีคอนโด ริน เป็นคอนโดมิเนียมแบบ Fully Furnished ความสูง 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร ประกอบด้วยห้องพัก 3 ฟังก์ชัน ตั้งแต่ห้องสตูดิโอ พื้นที่ประมาณ 28 ตารางเมตร แบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ประมาณ 32 ตารางเมตร และแบบ 2 ห้องนอน พื้นที่ประมาณ 52 ตารางเมตร ตั้งอยู่บนพื้นที่ 4 ไร่ ภายใมนโครงการยังประกอบด้วสย Private Walk Way ทางเดินส่วนตัวเฉพาะลูกบ้านดีคอนโดในทำเลนี้ อาทิ ดีคอนโด ซายน์, ดีคอนโด นิม และดีคอนโด พิงค์ ที่เชื่อมสู่เซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่ ได้อย่างง่ายดาย พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง มีกล้อง CCTV ประตูแบบ Digital Door Lock และลิฟต์แบบล็อคชั้น เพื่อเพิ่มความปลอดภัย และเป็นส่วนตัวมากขึ้น

รวมถึงความสะดวกสะบายแก่ลูกบ้านแสนสิริด้วย Home Service Application ช่องทางพิเศษเพื่อให้ลูกบ้านและนิติบุคคลของแต่ละโครงการได้ใช้งานบริการต่างๆ ผ่านระบบออนไลน์อย่างง่ายดาย เพิ่มความสะดวกสบายสูงสุดแก่ลูกบ้าน

“ความต้องการคอนโดมิเนียมในจังหวัดเชียงใหม่ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากการปิดการขายดีคอนโดทั้ง 5 โครงการที่ผ่านมา ที่ปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว จากความสำเร็จดังกล่าว ผสานกับจุดเด่นของดีคอนโดริน จึงเชื่อมั่นว่าจะเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าชาวจีนที่ชื่นชอบจังหวัดเชียงใหม่” นายสมเกียรติ กล่าวทิ้งท้าย

อบจ.เชียงใหม่ ร่วมจัดงานวันเกี่ยวข้าวหอมมะลิและของดีอำเภอพร้าว

อบจ.เชียงใหม่ ร่วมจัดงานวันเกี่ยวข้าวหอมมะลิและของดีอำเภอพร้าว

นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมคณะผู้บริหารอบจ.เชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันเกี่ยวข้าวหอมมะลิและของดีอำเภอพร้าว ประจำปี 2562 ณ สหกรณ์การเกษตรพร้าว อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายนิกร ทะกลกิจ ประธานกรรมการสหกรณ์การเกษตรพร้าว จำกัด กล่าวรายงาน โดยการจัดงานดังกล่าวนี้เพื่อรณรงค์ให้เกษตรกรรักษาคุณภาพการผลิตและชื่อเสียงข้าวหอมมะลิของอำเภอพร้าว และถ่ายทอดความรู้ในการปลูกข้าวให้แก่เกษตรกรได้มีความรู้เพิ่มมากขึ้นควบคู่ไปกับเทคโนโลยีสมัยใหม่

รวมถึงเป็นการฟื้นฟูประเพณีการเก็บเกี่ยวข้าวแบบดั้งเดิม และขับเคลื่อนการดำเนินงานตามมาตรการลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มโอกาสในการแข่งขันสินค้าการเกษตร ด้วยระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง พร้อมทั้งถ่ายทอดวิถีชีวิตและวัฒนธรรมพื้นบ้านและสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกด้วย

สวนสัตว์เชียงใหม่ ยืนยันฟันหมีแพนด้าหลินฮุ่ยสึก ไม่ได้เกิดจากการกินไผ่ แต่เปลี่ยนไปตามสภาพปกติของอายุ

สวนสัตว์เชียงใหม่ ยืนยันฟันหมีแพนด้าหลินฮุ่ยสึก ไม่ได้เกิดจากการกินไผ่ แต่เปลี่ยนไปตามสภาพปกติของอายุ และไผ่ที่ให้กินเป็นไผ่ที่มีคุณภาพแล้วหมีแพนด้าชื่นชอบ

ที่ห้องประชุมสโมสรแพนด้า ภายในสวนสัตว์เชียงใหม่ นายวุฒิชัย ม่วงมัน ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ พร้อมด้วย นางกรรณิการ์ จันทรังษี หัวหน้างานวางแผนและประเมินผล พร้อมเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลหมีแพนด้า ได้ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าหมีแพนด้าฟันผุ หลังมีกระแสโจมตีผ่านทางโลกโซเชียลให้เปลี่ยนไผ่ให้หมีแพนด้า

สืบเนื่องจากได้มีการกล่าวถึงหมีแพนด้าในสังคมโซเชียลเกี่ยวกับ การสึกของฟันแพนด้าหลินฮุ่ยที่อยู่ในสวนสัตว์เชียงใหม่ ในช่วงที่ผ่านมานั้น สวนสัตว์เชียงใหม่ขอเรียนให้ทราบว่า การสึกกร่อนของฟันเขี้ยวล่างของแพนด้าหลินฮุ่ย มีการสึกกร่อนจริง เนื่องจากเริ่มแรกในการนำแพนด้าหลินฮุ่ยเข้ามาเลี้ยงในโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2546 ทางทีมสัตวแพทย์พบว่า ฟันเขี้ยวล่างมีการเจริญไม่สมบูรณ์ คือเนื้อฟันด้านนอกที่ครอบเนื้อฟันชั้นในไม่ครอบคลุมทั้งหมด

หลังจากนั้น สวนสัตว์เชียงใหม่ ได้มีความห่วงใยมาโดยตลอด โดยได้ประสานขอความอนุเคราะห์ไปยังคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อส่งผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรมเข้ามาตรวจอย่างต่อเนื่อง

ผลการตรวจโดย รศ.ทพ.ดร.ปฐวี คงขุนเทียน บุคลากรสังกัดศูนย์ความเป็นเลิศทางทันตกรรมรากเทียมคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จากการตรวจพบว่า หลินฮุ่ยมีลักษณะฟันที่สึก แต่ยังไม่ถึงโพรงประสาทฟัน และการตรวจติดตามพบว่า มีสุขภาพฟันที่ดี ยังไม่ต้องทำการรักษาฟันแต่อย่างใด โดยการสึกของฟันนั้น ไม่ได้เกิดจากชนิดอาหาร หรือการดูแลที่ไม่ดี เป็นไปตามการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพตามปกติธรรมชาติของฟันและอายุขัยโดยทั่วไป

ยืนยันไผ่ที่ให้กินเป็นไผ่ที่มีคุณภาพและหมีแพนด้าชอบ ทั้งไผ่ตง ไผ่หวานเมืองเลย โดยทาง ดร.ถัง ชุงเซียง ผู้เชี่ยวชาญด้านหมีแพนด้าจากจีน ยืนยันว่าให้กินได้ และยังเป็นไผ่ในประเทศไทย มีการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกแล้วสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรด้วย ส่วนไผ่ลิโตเฟีย และไผ่มากินนอย ซึ่งเป็นไผ่สายพันธุ์เดียวกับที่ให้หมีแพนด้าที่ประเทศจีนกิน จะให้กินในช่วงฤดูผสมพันธุ์ เพื่อเพิ่มความหลากหลาย และการให้กินไผ่ก็จะเป็นการปลอกเพื่อเอาเนื้อด้านในไผ่ให้ ไม่ใช่การตัดไผ่และนำมาให้กินเลย แต่มีทางพี่เลี้ยงคอยดูแลด้านโภชนาการและสุขภาพอยู่ตลอด

องค์การสวนสัตว์ ได้มอบหมายให้สวนสัตว์เชียงใหม่จัดแสดงหมีแพนด้า 2 ตัว คือ ช่วงช่วง และหลินฮุ่ย ทูตสันถวไมตรีไทย-จีน ตั้งแต่ปี 2546 เป็นต้นมา โดยในปี 2552 คณะทำงานโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย ได้ทำการผสมเทียมหมีแพนด้าหลินฮุ่ยประสบความสำเร็จ ได้หมีแพนด้าน้อย “หลินปิง” เป็นขวัญใจชาวไทยขึ้นมาอีกตัวหนึ่ง และในปี 2556 องค์การสวนสัตว์ ได้จัดส่งหมีแพนด้าหลินปิงกลับสาธารณรัฐประชาชนจีน ปัจจุบันหมีแพนด้าช่วงช่วง และ หมีแพนด้าหลินฮุ่ย มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงปกติ

อนึ่ง สวนสัตว์เชียงใหม่ ได้ทำการปรับปรุงส่วนจัดแสดงหมีแพนด้าช่วงช่วง และหลินฮุ่ย ที่ผ่านมา โดยได้ปล่อยหมีแพนด้าทั้งสองในส่วนจัดแสดงที่ปรับปรุงใหม่ ทั้งนี้เพื่อเพิ่มการส่งเสริมพฤติกรรมให้มีความหลากหลายมากขึ้นต่อไป

ลอยกระทงเทศบาลเชิงดอย เชิญชวนเที่ยวงานประเพณียี่เป็งหนองบัวพระเจ้าหลวง “เทศกาลโกมล้านนา ปู่จาผางผะติ๊บ หนองบัวพระเจ้าหลวง ประจำปี 2561 “

ลอยกระทงเทศบาลเชิงดอย เชิญชวนเที่ยวงานประเพณียี่เป็งหนองบัวพระเจ้าหลวง “เทศกาลโกมล้านนา ปู่จาผางผะติ๊บ หนองบัวพระเจ้าหลวง ประจำปี 2561 “

เทศกาลลอยกระทง หรือทางภาคเหนือเรียกว่าประเพณียี่เป็ง นับว่าเป็นวันสำคัญวันหนึ่งของชาวไทยและชาวล้านนา จัดขึ้นตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ตามปฏิทินจันทรคติไทย ตามปฏิทินจันทรคติล้านนา ถือเป็นประเพณีนี้ชาวเหนือถือได้ว่าเป็นประเพณีเพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์และขอขมาต่อพระแม่คงคา ตลอดจนเป็นการบูชารอยพระพุทธบาทที่ริมฝั่งแม่น้ำนัมทามหานที และเป็นการบูชาพระอุปคุตอรหันต์หรือพระมหาสาวก

โดยประเพณีลอยกระทงนี้ เริ่มมีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย ในรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหง โดยมีนางนพมาศหรือท้าวศรีจุฬาลักษณ์ เป็นผู้ประดิษฐ์กระทงขึ้นครั้งแรก โดยแต่เดิมเรียกว่าพิธีจองเปรียง ที่ลอยเทียนประทีป และนางนพมาศได้นำดอกโคทม ซึ่งเป็นดอกบัวที่บานเฉพาะวันเพ็ญเดือนสิบสองมาใช้ใส่เทียนประทีป จากนั้นประเพณีนี้ก็สืบสานต่อๆกันมาจนเป็นประเพณีที่สำคัญของประชาชนชาวไทย และเกือบทุกพื้นที่ในประเทศไทยก็จะจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ มาตามวัตถุประสงค์ที่กล่าวมาข้างต้น นอกจากนั้นประเพณีลอยกระทงหรือยี่เป็งนี้ยังเป็นกิจกรรมสำคัญในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทยอีกด้วย

ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ นอกจากหลากหลายพื้นที่จะงานประเพณียี่เป็ง หรือประเพณีลอยกระทงเช่นงานประเพณียี่เป็งที่จัดขึ้นข้างแม่น้ำปิง ข่วงประตูท่าแพ ในพื้นที่เทศบาลนครเชียงใหม่ แต่ที่เทศบาลตำบลเชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ก็ได้จัดงานประเพณียี่เป็งหนองบัวพระเจ้าหลวง ขึ้นใช้ชื่องานว่า”เทศกาลโกมล้านนา ปู่จาผางผะติ๊บ หนองบัวพระเจ้าหลวง ประจำปี 2561 ” โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-23 พฤจิกายน ณ หนองบัวพระเจ้าหลวง

โดยงานเริ่มตั้งแต่เวลา 14.00-22.00 น.ทุกวัน โดยภายในงานจะเน้นรูปแบบการจัดงานให้เป็นแบบดั้งเดิมล้านนาดั้งเดิมแห่งเดียวของจังหวัดเชียงใหม่ โดยโชว์ศิลปะประเพณีและวัฒนธรรมของคนเมืองล้วนๆเพื่ออวดโแมและให้นักท่องเที่ยวมาสัมผัววิถีของคนล้านนาอย่างประทับใจ

นายชุติพนธ์ สารแปง นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเชิงดอย กล่าวว่า ตำบลเชิงดอย เป็นชุมชนที่ต้องการอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีที่สำคัญไว้ เพื่อสืบทอดให้เยาวชนรุ่นหลังได้ตระหนักถึงประเพณีอันงดงามและเก่าแก่ของบรรพบุรุษ และสืบสวนประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามของล้านนาให้ถาวรคงอยู่ รวมถึงการประชาสัมพันธ์หนองบัวพระเจ้าหลวงให้กลับมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดเชียงใหม่อีกครั้งหนึ่ง

ทางสภาวัฒนธรรมเชิงดอย ผู้นำชุมชน ผู้สูงอายุ กลุ่มสตรีแม่บ้าน เด็กและเยาวชนรวมถึงประชาชนในพื้นที่ จึงพร้อมใจกันจัดงานประเพณียี่เป็งหนองบัวพระเจ้าหลวง ประจำปี 2561 ขึ้นมา โดยใช้ชื่องานว่า”เทศกาลโกมล้านนา ปู่จาผางผะติ๊บ หนองบัวพระเจ้าหลวง ประจำปี 2561 ” ซึ่งปีนี้จัดยิ่งใหญ่กว่าทุกปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน

สิ่งที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสภายในงานของเรานั้นรังรองว่าประทับใจแน่นอน ด่านแรกที่ก้าวเข้ามาในพื้นที่จัดงานทุกท่านจะได้พบเห็น บ้านเรอนของชาวบ้าน ที่ตกแต่งสถานที่บ้านเรือน วัด ด้วยซุ้มประตูป่า โคมไฟ ต้นกล้วย ต้นอ้อย ทางมะพร้าว ดอกไม้ ตุง ช่อประทีป และชักโคมยี่เป็งแบบต่างๆขึ้นเป็นพุทธบูชา บริเวณหนองบัวพระเจ้าหลวงมีพิธีบรวงสรวงพญานาค กลางคืนจะมีมหรสพ และการละเล่นมากมาย โดยภายในหนองบัวพระเจ้าหลวง จะแยกเป็นสองโซน คือโซนประเพณี และโซนงานวัด โซนประเพณีจะมีประเพณีที่บงบอกถึงความเป็นล้านนา

โดยเจ้าหน้าที่ และชาวบ้านในพื้นที่จะร่วมกันแต่งกายด้วนชุดล้านนา โบราณ แบบต่างๆเข้ามาร่วมงาน มีขบวนแห่โคมล้านนา การจุดประทีปคืนละ 5,000 ดวงริมหนองบัวพระเจ้าหลวง การปล่อยโคมไฟลอยฟ้าคืนละ 5,000 ลูก การลอยกระทง การจัดแสดงโคมผัดยักษ์ ซึ่งกลีบของโคมผัดจะใหญ่กว่า 3.5 เมตร นอกจากนั้นยังงมีมหกรรมโคมไฟล้านนา การแสดงแสงสีเสียน ตำนานนางพญาก๋าเผือก การแสดงศิลปวัฒนธรรมของล้านนา การฟ้อนรำ การแสดงดนตรีพื้นบ้าน สำหรับโซนงานวัด ก็จะมีการจัดเครื่องเล่น อาหาร ดนตรี ซึ่งทุกอย่างภายในงานจะมีการย้อนยุคตามวิถีชีวิตของคนเมืองในสมัยก่อนซึ่วหาชมได้ยากในยุคนี้

ตนและเทศบาลเชิงดอย จึงอยากเชิญชวนประชาชน นักท่องเที่ยว ที่เดินทางมายังจังหวัดเชียงใหม่ แวะมาสัมผัสประเพณีแบบล้านนาที่แท้จริงในงานประเพณียี่เป็งหนองบัวพระเจ้าหลวง “เทศกาลโกมล้านนา ปู่จาผางผะติ๊บ หนองบัวพระเจ้าหลวง ประจำปี 2561 ” ระหว่างวันที่ 21-23 พฤจิกายน 2561 ณ หนองบัวพระเจ้าหลวง ต.เชิงดอย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่

รัฐบาลญี่ปุ่นให้การสนับสนุนโครงการจัดหารถดับเพลิงประจำเทศบาลตำบลหล่ายงาว อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย

นายคะซึโนริ คาวาดะ กงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ ได้มีการลงนามร่วมกับนายสมพงษ์ เทพไหว นายกเทศมนตรีตำบลหล่ายงาว จ.เชียงราย เพื่อให้การสนับสนุนโครงการจัดหารถดับเพลิงประจำ ผ่านโครงการความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจแบบให้เปล่าเพื่อพื้นฐานและความมั่นคงของมนุษย์ หรือโครงการคุซะโนะเนะ โดยทางรัฐบาลญี่ปุ่นได้มีมติให้การสนับสนุนด้านงบประมาณเป็นมูลค่า 3,016,000บาท แก่เทศบาลตำบลหล่ายงาว เพื่อจัดหารถดับเพลิงเอนกประสงค์ ไว้ใช้ในการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน

โดยการจัดโครงการในครั้งนี้สืบเนื่องจากตำบลหล่ายงาว ตั้งอยู่ในเขตชายแดนที่ติดต่อกับประเทศลาวทางทิศตะวันออกของจังหวัดเชียงราย ซึ่ง99%เป็นพื้นที่เกษตรกรรม และป่าไม้ ในฤคูแล้งมักเกิดไฟป่าและปัญหาการขาดแคลนน้ำบ่อยครั้ง ประชาชนส่วนใหญ่ใช้น้ำธรรมชาติที่ไหลมาจากภูเขา ซึ่งขึ้นอยู่กับปริมาณฝนที่ตกลงมา ทำให้ต้องมีการจัดส่งน้ำอุปโภคเพื่อช่วยเหลือประชาชน แต่รถดับเพลิงที่มีอยู่ มีสภาพชำรุดทรุดโทรมจากการใช้งานมานาน

ดังนั้นการพัฒนาศักยภาพการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงเป็นประเด็นสำคัญเร่งด่วนสำหรับท้องถิ่นนี้โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการสนับสนุนในครั้งนี้จะมีส่วนช่วยให้ประชาชนในตำบลหล่ายงาวมีความปลอดภัยในการดำรงชีวิต และมีน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคอย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น

ชาวเชียงใหม่พร้อมใจจัดงานวันสมเด็จย่า ประจำปี ๒๕๖๑ ภายใต้ชื่องาน “ตามรอยพระบารมี ๑๗ ปี สมเด็จย่า”

 

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม 2561 ที่โรงเรียนศรีสังวาลย์ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และประชาชนจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการจัดงาน “วันสมเด็จย่า” ประจำปี ๒๕๖๑ ภายใต้ชื่องาน “ตามรอยพระบารมี ๑๗ ปี สมเด็จย่า” เพื่อถวายเป็นราชสักการะ และรำลึกถึงดวงพระวิญญาณ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ขึ้น มี พระเทพปริยัติ เจ้าคณะ จ.เชียงใหม่ เป็นประธานสงฆ์ นายวิรุฬ พรรณเทวี รอง ผวจ.เชียงใหม่ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส

โดยมี นายนายอดุลย์ ฮวกนิล นอภ.สันทราย ในฐานะประธานคณะกรรมการดำเนินงานการจัดกิจกรรมวันสมเด็จย่า นำคณะครูผู้ปกครองพร้อมนักเรียน และข้าราชการประชาชน ร่วมทำบุญสืบชะตาหลวง ครบรอบ 17 ปี โรงเรียนศรีสังวาลย์เชียงใหม่

หลังจากนั้นตัวแทนหน่วยงาน องค์กร สถาบัน กลุ่มพลังมวลชน ได้วางพานพุ่ม เพื่อถวายเป็นราชสักการะแด่ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ต่อด้วยการแสดงของเด็กนักเรียนพิการของโรงเรียนศรีสังวาลย์ ขบวนแห่และฟ้อนของกลุ่มนักเรียนนักศึกษาและกลุ่มพลังมวลชน