ผู้เขียน: admin

ที่จังหวัดเชียงใหม่ได้มีการรจัดกิจกรรมเทศกาลเชียงใหม่ดีไซน์วีค 2017 โดยได้มีการจัดพิธีเปิดที่บริเวณพิพิธภัณฑ์พื้นถิ่นล้านนา ตำบล ศรีภูมิ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยได้รับเกียรติจาก พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาเป็นประธาน ซึ่งภายในงานได้มีการนำเสนอนวัตกรรมงานออกแบบ และโปรเจ็กต์ใหม่ๆ ของผู้ประกอบการธุรกิจ นักออกแบบ นักสร้างสรรค์ ศิลปิน และช่างฝีมือ ที่สร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตปัจจุบัน โดยการนำเสนอผ่านกิจกรรมต่างๆ อาทิ งานจัดแสดงผลงาน การจัดแสดงผลงานนานาชาติ งานเสวนาและเวิร์คช็อป ป๊อบมาร์เก็ต และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย

สำหรับเทศกาลเชียงใหม่ดีไซน์วีค ถือเป็นเทศกาลงานออกแบบประจำปีที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ ที่รวมตัวกันผู้ประกอบการธุรกิจ นักออกแบบ นักสร้างสรรค์ ศิลปิน และช่างฝีมือ นำผลงานต่างๆมารวมกันเพื่อเสนอนวัตกรรมงานออกแบบ และโปรเจ็กต์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตปัจจุบัน พร้อมเชิญชวนนักสร้างสรรค์ โดยหวังที่จะกระตุ้นแรงบันดาลใจ ต่อยอดความคิด สร้างสรรค์ สู่การปลุกกระแสการสร้างธุรกิจมูลค่าเพิ่มด้วยการใช้การออกแบบและความคิดสร้างสรรค์ อนุรักษ์ทักษะฝีมือช่าง และทุนทางศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นให้คงอยู่ รวมไปถึงการนำไปต่อยอดสู่ธุรกิจ พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์และบริการสู่สายตาประชาคมโลก

โดยในปีนี้เป็นการจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “Crafted Life” เป็นการผสมผสานงานฝีมือและวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่นเข้ากับการออกแบบสร้างสรรค์สมัยใหม่ โดยใช้การนำเสนอออกมาในรูปแบบของนวัตกรรมงานออกแบบหรือโปรเจ็กต์ต่างๆ เพื่อผลักดันการเติบโตของวงการและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในช่วงปลายปี เป็นการปักหมุดให้เทศกาลดังกล่าวเป็นเทศกาลประจำปี เพื่อตอกย้ำความเป็นเมืองสร้างสรรค์ของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งความยิ่งใหญ่ของเทศกาลครั้งคือเกิดจากความร่วมมือหลายฝ่ายทำให้กิจกรรมเกิดขึ้นทั่วทั้งจังหวัดเชียงใหม่

ทั้งบริเวณย่านอนุเสาวรีย์ 3 กษัตริย์ บริเวณ TCDC เชียงใหม่ และที่อื่นๆ อีกมากมาย โดยงานดังกล่าวจะจัดขึ้นเพียงแค่ 5 วันเท่านั้น ตั้งแต่วันที่ 6 – 10 ธันวาคม 2560 จึงอยากเชิญชวนผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมชมเทศกาลดังกล่าว

พลโทวิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 และผู้บัญชาการกองบัญชาการเฉพาะกิจศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองทัพภาคที่ 3 ได้มอบหมายให้ พลโทสมพงษ์ แจ้งจำรัส แม่ทัพน้อยที่ 3 และรองผู้บัญชาการกองบัญชาการเฉพาะกิจศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองทัพภาคที่ 3 เป็นประธานการประชุมแถลงแผนการควบคุมพื้นที่ปลูกฝิ่นและการตัดทำลายไร่ฝิ่น ประจำปีงบประมาณ 2561 ณ ห้องประชุมทองจัตุ กองกำลังผาเมือง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่มีหน่วยงาน ปปส.ภาค 5 , ผอ.สถาบันสำรวจและติดตามการปลูกพืชเสพติด ( สพส. ) , เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5 , เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง สำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 9 จังหวัด เข้าร่วมการประชุม เพื่อวางแผนอำนวยการ ควบคุม กำกับดูแลการปฏิบัติงานหน่วยในโครงการกำจัดพืชเสพติด ให้เป็นไปตามแผนการควบคุมพื้นที่ปลูกฝิ่นและการตัดทำลายไร่ฝิ่น

ด้านพลโท สมพงษ์ แจ้งจำรัส แม่ทัพน้อยที่ 3 กล่าวว่า ปีนี้ผลผลิตราคาสูงเพราะมีฝนตกเยอะ ทำให้ฝิ่นออกน้อยมูลค่าจึงสูงกว่าปีที่ผ่านมา ประกอบกับปีนี้ทางเจ้าหน้าที่ควบคุมอย่างเข้มงวด ทำให้ลดพื้นที่ปลูกฝิ่นลงไปได้มากด้วย และในวันนี้ทางคณะก็จะได้ลงพื้นที่บ้านปางวัว ซึ่งเป็นบ้านบริวารของบ้านป่าโหล ตั้งอยู่ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เพื่อตัดทำลายไร่ฝิ่น จำนวน 2 ไร่ และมอบเครื่ออุปโภคบริโภคให้ชาวบ้าน ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ชนเผ่าลาหู่หรือมูเซอ จำนวน 50 ชุด เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ประชาชนในพื้นที่และขอความร่วมมือชาวบ้านไม่ปลูกฝิ่น และร่วมตัดทำลายไร่ฝิ่นในครั้งนี้

สวนสัตว์เชียงใหม่ เอาแมสคอร์ตมาเต้นโชว์เพลง “ปานามา” ต้อนรับไฮซีซั่น พร้อมนำแสงสีเสียง และขบวนสัตว์ป่า เตรียมออกมาโชว์ตัวให้นักท่องเที่ยวชมยามค่ำคืนนายเบญจพล นาคประเสริฐ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัต์ นายวุฒิชัย ม่วงมัน รักษาการผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ นายสมบัติ อนันตรัมพร ประธานคณะอนุกรรมการดิจิทัล เพื่อพัฒนาธุรกิจและบริหารจัดการ (DEM) และนายพิสุทธิ์ ทรัพย์วิจิตร อนุกรรมการดิจิทัลฯ ได้เปิดแถลงข่าวการจัดกิจกรรมการประกวดขบวนเชียงใหม่ ซู คานิวัล (Chiangmai Zoo Canival) ที่ห้องประชุมชั้น 5 อาคารโสภณ ดำนุ้ย ภายในสวนสัตว์เชียงใหม่ พร้อมกับจัดแสดงโชว์แมสคอร์ทเต้นเพลง ปานามา ในการแถลงข่าวครั้งนี้อีกด้วย

สำหรับงานครั้งนี้จะจัดขึ้นในห้วงระหว่างวันที่ วันที่ 15 ธ.ค. 60 ถึง 15 ม.ค. 61 ที่ถือว่าเป็นช่วงไฮซีซั่น ด้วยขบวนรถพาเหรดกับสัตว์ป่าแสนน่ารักและแสง สี เสียง สุดอลังการที่จัดขึ้นภายในสวนสัตว์เชียงใหม่ โดยจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมตั้งแต่เวลา 18.00 – 21.00 น.เป็นต้นไป และยังเป็นครั้งแรกของสวนสัตว์ที่มีการจัดในรูปแบบนี้ด้วย ซึ่งในกิจกรรมก็จะมีการประกวดขบวนพาเหรดชิงเงินรางวัลกว่า 120,000 บาท การจัดกาดหมั้วคัวฮอมแบบล้านนา การตกแต่งแสง สี เสียงตั้งแต่ประตูทางเข้าสวนสัตว์จนถึงสวนแสดงไฟ และคืนวันคริสต์มาสก็เตรียมนำขบวนแมสคอร์ตและพาเหรดสัตว์ไปโชว์ตามถนนนิมมานเหมินทร์เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วย

นายบัญชา รามศิริ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ได้ให้ข้อมูลว่า มีนักท่องเที่ยวขึ้นไปสัมผัสอากาศหนาวและนอนกางเต้นท์บริเวณลานกางเต้นท์ของอุทยานฯ กว่า 332 คน เพื่อที่จะรอชมพระอาทิตย์ตกดินในตอนเย็น กระทั่งตอนเช้าก็รอชมพระอาทิตย์ขึ้นโผล่พ้นขอบฟ้า และยังได้เห็นทะเลหมอกในตอนเช้าด้วย

นอกจากนี้ยังมีไฮไลท์เรื่องของดอกซากุระบาน นักท่องเที่ยวต่างพากันถ่ายภาพและเซลฟี่กันจำนวนมาก คาดว่าหลังจากนี้นักท่องเที่ยวจะเดินทางมาเที่ยวในอุทยานฯ มากขึ้นอย่างแน่นอน ทางอุทยานฯ ก็เตรียมความพร้อมไว้ทุกด้านเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวแล้ว

เครดิตภาพจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง

ทีมคณาจารย์จากคณะสัตวแพทยศาสตร์ และคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญด้านดูแลช้างกว่า 50 ชีวิต ร่วมช่วยรักษาช้างพลายบุญพัตร จากปางช้างภัทรเอเลเฟ่นฟาร์ม ที่เกิดสิ่งแปลกปลอมติดคอในหลอดอาหาร ณ โรงพยาบาลช้าง สถาบันคชบาลแห่งชาติ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ อ.ห้างฉัตร จ.ลำปางคณาจารย์จากคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นำโดย ผศ.น.สพ.ดร. วีระพงศ์ ตั้งจิตเจริญ ผศ.น.สพ.ดร. ฉัตรโชติ ทิตาราม ผศ.น.สพ. ตุลยวรรธ สุทธิแพทย์ อ.น.สพ.ดร. เฉลิมชาติ สมเกิด อ.น.สพ.ดร. นิธิดล บูรณพิมพ์ และ สัตวแพทย์ จากภาควิชาคลินิกสัตว์เลี้ยงและสัตว์ป่า ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการวิจัยช้างและสัตว์ป่า และ โรงพยาบาลสัตว์ใหญ่ ร่วมกับ คณาจารย์จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ โดย รศ.ดร. ธีระพงษ์ ว่องรัตนะไพศาล และ ทีมงาน จากภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับ

ทีมงานสัตวแพทย์ สัตวบาลและเจ้าหน้าที่จาก สถาบันคชบาลแห่งชาติ องค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปางช้างภัทรเอเลเฟ่นฟาร์ม ปางช้างแม่สา ปางช้างแม่แตง กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช รวมกันกว่า 50 ชีวิตร่วมช่วยกันรักษาช้างพลายบุญพัตร จากปางช้างภัทรเอเลเฟ่นฟาร์มที่เกิดสิ่งแปลกปลอมติดคอ ทำให้ต้องมีการระดมทีมสัตวแพทย์ และ ผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆ มาช่วยกันนำสิ่งแปลกปลอมที่ติดคาในหลอดอาหารนี้ออก ณ โรงพยาบาลช้าง สถาบันคชบาลแห่งชาติ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ อ.ห้างฉัตร จ.ลำปางโดยสิ่งแปลกปลอมอุดตันเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2560 ช้างกินอาหารอย่างเร่งรีบ เนื่องจากมีช้างเชือกอื่นเดินมาใกล้ หลังจากนั้นมีอาการพยายามขย้อนอาหารออก กินอาหารและน้ำเข้าไปก็ขย้อนออกมาทุกครั้ง

ทางทีมงานได้ทำการวางยาสลบ 4 ครั้งในท่านอน และวางยาซึม 1 ครั้งในท่ายืน โดยได้ใช้เครื่องมือคีบยาว 3 เมตร ที่ผลิตพิเศษโดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งในช่วงเวลา 20 วันนี้ ช้างมีการอยากกินน้ำ และ อาหาร แต่ไม่สามารถกลืนได้ ขย้อนสิ่งที่กินเข้าไปออกมาหมด เนื่องจากมีสิ่งแปลกปลอมอุดตันในหลอดอาหารในการวางยาสลบครั้งสุดท้ายวันที่ 7 ตุลาคม 2560 ทางทีมงานได้ประสบความสำเร็จในการนำก้อนสิ่งแปลกปลอมนี้ออกมา โดยเป็นก้อนอ้อยและหญ้าขนาด 10 x 20 เซนติเมตร

ซึ่งช้างเป็นสัตว์ที่มีหลอดอาหารเล็กมาก เมื่อเทียบกับขนาดตัว มีช้างหลายเชือกเสียชีวิตจากอาหารอุดตันในหลอดอาหาร โชคดีที่ช้างพลายบุญพัตรได้ทีมงานที่ร่วมมือร่วมแรงในการรักษาอย่างเต็มที่ และไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยในการช่วยรักษาชีวิตช้าง ปัจจุบันพลายบุญพัตรยังคงรักษาอยู่ ณ โรงพยาบาลช้าง สถาบันคชบาลแห่งชาติ เพื่อเฝ้าดูอาการและความผิดปกติอีกระยะหนึ่งจึงจะได้กลับบ้านทั้งนี้จากการรักษาพลายบุญพัตรด้วยความร่วมมือร่วมใจจากหลายฝ่าย ทำให้มีการพัฒนาทางการรักษาสัตว์ใหญ่อย่างช้างเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งต้องมีการผลิตเครื่องมือพิเศษต่างๆ สำหรับช้าง ถือเป็นการบูรณาการระหว่างหน่วยงานที่จะอนุรักษ์ช้าง สัตว์สัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ ประเทศไทยต่อไป

เครดิตภาพจาก : ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการวิจัยช้างและสัตว์ป่า

สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เผยคืนวันที่ 3 ธันวาคม 2560 ดวงจันทร์เต็มดวงปรากฏในตำแหน่งใกล้โลก ที่ระยะห่าง 357,973 กิโลเมตร จะมองเห็นดวงจันทร์เต็มดวงมีขนาดปรากฏใหญ่กว่าปกติเล็กน้อย หรือมักเรียกว่า “ซูเปอร์ฟูลมูน” (Super Full Moon) ดูได้ด้วยตาเปล่าทั่วประเทศ ทางทิศตะวันออก ตั้งแต่เวลาประมาณ 18:00 น. เป็นต้นไป

เชิญชวนผู้สนใจเฝ้ารอชมความสวยงามของดวงจันทร์ในคืนดังกล่าว หนุนโรงเรียนในโครงการกระจายโอกาสเรียนรู้ดาราศาสตร์ 77 จังหวัดฯ ที่รับมอบกล้องจากสดร. จัดกิจกรรมสังเกตการณ์ดาราศาสตร์แก่นักเรียนและชุมชน “ส่องจันทร์เพ็ญดวงโต” แบบเต็มตาผ่านกล้องโทรทรรศน์

ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ เปิดเผยว่า ในคืนวันที่ 3 ธันวาคม 2560 ดวงจันทร์เต็มดวงจะปรากฏในตำแหน่งใกล้โลกที่ระยะห่างประมาณ 357,973 กิโลเมตร คืนดังกล่าวจะสังเกตเห็นดวงจันทร์เต็มดวงมีขนาดปรากฏใหญ่กว่าปกติเล็กน้อย นอกจากนี้ยังมีขนาดปรากฏใหญ่กว่าขณะอยู่ไกลโลกมากที่สุดประมาณ 14% และมีความสว่างมากกว่าประมาณ 30% หรือเรียกว่า “ซูเปอร์ฟูลมูน” (Super Full Moon) สังเกตได้ด้วยตาเปล่าทางทิศตะวันออก หลังดวงอาทิตย์ตก ตั้งแต่เวลาประมาณ 18:00 น. เป็นต้นไป

ตามปกติดวงจันทร์โคจรรอบโลกเป็นรูปวงรี 1 รอบใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ดังนั้นในแต่ละเดือนจะมีตำแหน่งที่ดวงจันทร์ใกล้โลกที่สุดเรียกว่า เปริจี (Perigee) มีระยะทางเฉลี่ย 356,400 กิโลเมตรและตำแหน่งที่ไกลโลกที่สุดเรียกว่า อะโปจี (Apogee) มีระยะทางเฉลี่ยประมาณ 406,700 กิโลเมตร การที่ผู้คนบนโลกสามารถมองเห็นดวงจันทร์เต็มดวงที่โตกว่าปกติเล็กน้อยในคืนที่ดวงจันทร์โคจรเข้ามาใกล้โลก นับเป็นเหตุการณ์ปกติที่สามารถอธิบายได้ตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ และแม้ว่าดวงจันทร์จะมีตำแหน่งโคจรเข้าใกล้โลกทุกเดือน แต่ดวงจันทร์ไม่ได้ปรากฏเต็มดวงทุกครั้ง

แม้ว่าในครั้งนี้จะเป็นดวงจันทร์เต็มดวงที่ใหญ่ที่สุดในปี 2560 แต่ในวันที่ 2 มกราคม 2561 อีกหนึ่งเดือนนับจากนี้ ดวงจันทร์เต็มดวงจะอยู่ใกล้โลกกว่านี้ที่ระยะห่างประมาณ 356,595 กิโลเมตร ทำให้มีขนาดปรากฏใหญ่กว่าครั้งนี้อีกเล็กน้อย วันดังกล่าวจะเป็นซูเปอร์ฟูลมูนที่ใหญ่ที่สุดในปี 2561 ดร.ศรัณย์กล่าว

การที่เรามองเห็นดวงจันทร์ขณะอยู่บริเวณใกล้ขอบฟ้าแล้วรู้สึกว่ามีขนาดปรากฏใหญ่กว่าตำแหน่งอื่น ๆ บนท้องฟ้า แท้จริงแล้วเป็นเพียงภาพลวงตาที่เรียกว่า“Moon Illusion” เนื่องจากบริเวณขอบฟ้ามีวัตถุให้เปรียบเทียบขนาด เช่น ภูเขา ต้นไม้ อาคาร เป็นต้น แต่บริเวณกลางท้องฟ้าไม่มีวัตถุใดมาเปรียบเทียบขนาด ทำให้ความรู้สึกในการมองดวงจันทร์บริเวณกลางฟ้าดูมีขนาดเล็กกว่าปกติ

ขอเชิญชวนผู้สนใจร่วมชมความสวยงามของดวงจันทร์ในคืนดังกล่าว โดยเฉพาะโรงเรียนในโครงการกระจายโอกาสการเรียนรู้ดาราศาสตร์ 77 จังหวัด เปิดฟ้าส่องโลกดาราศาสตร์ เปิดโอกาสเรียนรู้ทั่วหล้า ที่รับมอบกล้องโทรทรรศน์จาก สดร. รวมถึงโรงเรียนอื่น ๆ ที่สนใจใช้โอกาสนี้จัดกิจกรรมเรียนรู้นอกห้องเรียน เชิญชวนนักเรียนและชุมชนรอบข้างร่วมสังเกตการณ์ดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลก ส่องจันทร์ดวงโตแบบเต็มตาผ่านกล้องโทรทรรศน์ ในคืนดังกล่าว ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ สร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ดาราศาสตร์และวิทยาศาสตร์ได้เป็นอย่างดี ดร.ศรัณย์กล่าวปิดท้าย