ตลาดสัตว์เลี้ยงเชียงใหม่ซบเซา คนซื้อน้องหมาไปเลี้ยงเป็นเพื่อคู่ใจยังหวั่นโรคพิษสุนัขบ้าระบาด

หลังจากที่ได้มีข่าวการแพร่ระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าอย่างหนัก จนทางด้านกรมปศุสัตว์ต้องประกาศให้ 13 จังหวัด ได้แก่สุรินทร์ ชลบุรี สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา น่าน บุรีรัมย์ อุบลราชธานี เชียงราย ร้อยเอ็ด สงขลา ระยอง ตาก และศรีสะเกษ เป็นพื้นที่สีแดง นอกจากนี้ยะงมีผู้ที่ได้รับเชื้อดังกล่าวเสียชีวิตแล้ว 3 คน จนหลายหน่วยงานต้องมีการเฝ้าระวังโรคระบาดพิษสุนัขบ้าเพื่อเป้นการป้องกันและควบคุมโรค

 

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสำรวจยังตลาดสัตว์เลี้ยง ย่านประตูหายยา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เพื่อตรวจสอบผลกระทบหลังจากที่ได้มีข่าวการแพร่ระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าพบว่าบรรยารกาศการซื้อขายสัตว์เลี้ยงเป็นไปอย่างเงียบเหงา เนื่องจากส่วนใหญ่คนที่กำลังมองหาน้องหมาสัตว์เลี้ยงคู่ใจไปเลี้ยง ยังคงรู้สึกหวาดกลัว และยังไม่กล้าตัดสินใจที่จะซื้อสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ไปเลี้ยงที่บ้าน ทำให้ยอดการจำหน่ายสุนัขสายพันธุ์ต่างๆลดลงเกือบครึ่งจากที่เคยขายได้

นายกมล คำแก้ว อายุ 34 ปี ผู้ค้าสัตว์เลี้ยง ได้เปิดเผยว่า หลังจากที่มีข่าวของการแพร่ระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าก็ทำให้ยอดจำหน่ายสัตว์เลี้ยงที่ร้านลดลง ซึ่งตนอยากให้ประชาชนเข้าใจว่าสัตว์เลี้ยงที่มาจำหน่ายในร้านของตนนั้น ได้มีการคอยดูแลเป็นอย่างดีและมีการฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า รวมไปถึงวัคซีนป้องกันโรคต่างๆให้กับสัตว์เลี้ยงทุกตัวอยู่แล้ว แต่ที่น่าเป็นห่วงจะเป็นเพียงน้องหมาจรจัด ที่ไม่มีเจ้าของดูแล ซึ่งไม่ได้รับการฉีดวัคซีนและสุนัขเหล่านี้บางตัวจะมีนิสัยดุร้าย และมักจะกัดกันจึงทำให้เกิดการระบาดอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้อยากฝากเตือนให้กลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิดไม่ว่าจะเป็น สุนัข แมว หรือสัตว์เลี้ยงชนิดต่างๆ ควรที่จะนำสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีนป้องกันพิษศุนัขบ้า รวมไปถึงวัคซีนป้องกันโรคต่างๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค และจะทำให้สัตว์เลี้ยงมีภูมิคุ้มกัน และอยู่กับเจ้าของไปนาน

สำหรับโรคพิษสุนัขบ้านั้นถือเป็นโรคติดต่อร้ายแรง เกิดจากเชื้อไวรัสชื่อ เรบีส์ ไวรัส (Rabies) ทำให้เกิดโรคได้ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิด เช่น คน สุนัข แมว และอื่นๆอีกหลายชนิด โดยสัตว์เลี้ยงที่เป็นโรคพิษสุนัขบ้าจะมีการแสดงอาการแบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ ในระยะเริ่มแรก สัตว์จะซึม หวาดระแวง หงุดหงิด ซ่อนตัว ม่านตาขยาย ไม่ค่อยตอบสนองต่อแสง จากนั้นในระยะที่สองสัตว์จะมีอาการกระวนกระวาย งับกัดสิ่งเคลื่อนไหวใกล้ตัวพบกล้ามเนื้อที่กล่องเสียงเป็นอัมพาต สัตว์จะกลืนน้ำไม่ได้แม้อยากกิน ลิ้นห้อย น้ำลายไหล

และระยะที่สามระยะอัมพาต พบกล้ามเนื้ออ่อนเปลี้ย การอัมพาตจะเริ่มจากส่วนท้าย และกระจายไปทั่วตัว สัตว์จะเสียชีวิต เนื่องจากอัมพาตที่ระบบหายใจ ซึ่งถ้าหากเชื้อดังกล่าวเข้าสู่คนแล้วจะทำให้มีอาการทางประสาท โดยเฉพาะระบบประสาทส่วนกลาง โดยผู้ที่ได้รับเชื้อดังกล่าวจะมีอาการไข้ต่ำ เจ็บคอ เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย คันหรือปวดแสบปวดร้อนตรงบริเวณแผลที่ถูกกัด ทั้ง ๆ ที่แผลอาจหายเป็นปกติแล้ว เจ็บเวลากลืนอาหาร สุดท้ายอาจมีอาการชัก เป็นอัมพาต หมดสติ และเสียชีวิต ซึ่งหากใครถูกสัตว์กัด ควรจะล้างแผลทันทีด้วยน้ำสะอาด ทายา แล้วรีบไปพบแพทย์ในทันที

สำนักงาน กสทช. เปิดแอพ “2 แชะอัตลักษณ์” มั่นใจจะสามารถป้องกันการขโมยบัตรผู้อื่นมาเปิดซิมใหม่ได้

สำนักงาน กสทช. เปิดแอพ “2 แชะอัตลักษณ์” มั่นใจจะสามารถป้องกันการขโมยบัตรผู้อื่นมาเปิดซิมใหม่ได้ ด้วยการใช้ระบบตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคล

นางสาวจิตสถา ศรีประเสริฐสุข ผู้อำนวยการสำนักบริหารและจัดการเลขหมายโทรคมนาคม สำนักงาน กสทช. พร้อมด้วยผู้ประกอบการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือเคลื่อนที่ เข้าร่วมแถลงข่าวแอพพลิเคชัน “2 แชะ อัตลักษณ์” ด้วยการลงทะเบียนแบบใหม่ ที่ใช้อัตลักษณ์บุคคลมายืนยันการลงทะเบียน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการขโมยบัตรประชาชนของผู้อื่นไปเปิดซิมมือถือใหม่ ที่ชั้น 5 นิมมาน คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ อ.เมืองเชียงใหม่

นางสาวจิตสถา ศรีประเสริฐสุข ผู้อำนวยการสำนักบริหารและจัดการเลขหมายโทรคมนาคม สำนักงาน คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) กล่าวว่า ตามที่สำนักงาน กสทช. ได้ออกประกาศและแจ้งไปยังผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (โอเปอเรเตอร์) ทุกรายให้จัดทำระบบการลงทะเบียนผู้ใช้บริการด้วยระบบการตรวจสอบอัตลักษณ์ ทั้งการตรวจสอบใบหน้า หรือสแกนลายนิ้วมือ โดยเริ่มให้บริการลงทะเบียนที่ศูนย์ให้บริการของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั่วประเทศ กว่า 55,000 จุด รวมถึงตัวแทนจำหน่าย และลูกตู้ เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับความสะดวก

นางสาวจิตสถา ศรีประเสริฐสุข กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้ง 5 ค่าย ประกอบด้วย AIS DTAC TRUE TOT และ CAT ร่วมกับสำนักงาน กสทช. ในการให้บริการในครั้งนี้ สำหรับขั้นตอนการลงทะเบียนแบ่งเป็น 1. ใช้บัตรประชาชนฉบับจริงอ่านในเครื่องอ่านบัตร (card reader) และ 2. ทำการตรวจสอบใบหน้าจากการถ่ายภาพหรือตรวจสอบลายนิ้วมือหากใช้วิธีสแกนลายนิ้วมือเพื่อเปรียบเทียบกับข้อมูลในบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงโดยหากข้อมูลอัตลักษณ์ของผู้ซื้อซิมการ์ดใหม่ตรงกับข้อมูลในบัตรประชาชนจะสามารถลงทะเบียนและเปิดใช้งานซิมการ์ดได้

“การลงทะเบียนซิมการ์ดด้วยวิธี 2 แชะอัตลักษณ์จะปกป้องข้อมูลของท่านได้อย่างปลอดภัย ผู้ที่ซื้อซิมการ์ดใหม่ทั้งแบบเติมเงินและแบบรายเดือนที่ผ่านการตรวจสอบอัตลักษณ์แล้วระบบจะทำการลงทะเบียนโดยส่งข้อมูลตรงไปยังฐานข้อมูลกลางเพื่อเปิดใช้งานซิมการ์ดและจัดเก็บข้อมูลของผู้ใช้บริการทันทีโดยผู้ให้บริการมีหน้าที่ดูแลและเก็บรักษาข้อมูลตามกฎหมาย” นางสาวจิตสถากล่าวในที่สุด

โรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่ จัดโปรโมชั่นพิเศษช่วงเทศกาลอีสเตอร์ เอาใจคนชอบฉลอง 30 มี.ค. – 1 เม.ย. นี้

โรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่ จัดโปรโมชั่นพิเศษช่วงเทศกาลอีสเตอร์ เอาใจคนชอบฉลอง 30 มี.ค. – 1 เม.ย. นี้

คุณธันยวันต์ สินสดวก ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาด โรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่ เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองช่วงเทศกาลอิสเตอร์ ที่จะมาถึง ทางโรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่ จึงได้จัดโปรโมชั่นพิเศษเอาใจลูกค้าและนักท่องเที่ยว เพื่อร่วมฉลองในช่วงเทศกาล

โดยเริ่มแรกตั้งแต่คืนก่อนวันอีสเตอร์ หรือ Good Friday พร้อมกับครอบครัวและคนที่คุณรัก กับบุฟเฟต์บาร์บีคิวทะเลและหอยนางรม ในวันศุกร์ที่ 30 มี.ค. 2561 ณ ไรซ์เทอเรส โรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่ เริ่มตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ด้วยบุฟเฟต์อาหารนานาชาติ อาทิ สลัดผักจากโครงการหลวง ซุปกุ้งล็อบสเตอร์ พาสต้านานาชนิด ขนมหวาน และเมนูอื่นๆ อีกมากมายหลายรายการ โดยเฉพาะดาวเด่นของค่ำคืนนี้ด้วยบาร์บีคิวอาหารทะเลคัดคุณภาพ ทั้งกุ้งล็อบสเตอร์ ปลาซาดีน ปลากระพง ปลาหมึก สเต็กปลาแซลมอน กุ้งลายเสือ และ หอยนางรมสด ราคา 1,800 บาทต่อท่าน (ไม่รวมเครื่องดื่ม) สำรองที่ล่วงหน้า โทร 053-888888 ต่อ 0

โปรโมชั่นที่สอง ฉลองเทศกาลแห่งความสุขกับอีสเตอร์บรันช์ ณ ห้องอกาลิโก กับบุฟเฟ่ต์ซันเดย์บรันช์ ในวันอาทิตย์ที่ 1 เมษายน นี้ ตั้งแต่เวลา 12.00-15.00 น. พบกับอาหารหลากหลายรายการ อาทิ แซลมอนรมควัน ตับเป็ดบดและช็อคโกแลตคาร์เวียร์ อกเป็ดรมควัน ไข่ดาวน้ำและแซลมอนรมควัน ดิ่มซำ ซูชิ ซาชิมิ พาสต้า แฮมสไลด์ สเต็กปลาแซลมอน เนื้อแกะตุ๋นเครื่องเทศ สเต็กเนื้อ เป็นต้น ราคา 1,600 บาทต่อท่าน และราคา 2,477 บาทต่อท่าน รวมฟรีโฟลว์ไวน์และค็อกเทล สำรองที่ล่วงหน้า โทร 053-888888 ต่อ 8621

โปรโมชั่นสุดท้ายคือ สุขสันต์วันอีสเตอร์กับบุฟเฟต์ขนมหวาน สำหรับท่านที่ชื่นชอบขนมหวาน ร่วมฉลองเทศกาลอีสเตอร์กับครอบครัว ด้วยบุฟเฟต์ขนมหวาน ที่ กาสะลอง ในวันเสาร์ที่ 31 มีนาคม และ อาทิตย์ที่ 1 เมษายน ที่จะทำให้วันอีสเตอร์ของคุณและเด็กๆ พิเศษกว่าที่เคย ด้วยขนมทั้งคาวและหวานมากมาย อาทิ มาการองรสชาติต่างๆ ขนมปัง เค้ก คานาเป้ แซนวิช รวมทั้งขนมอีสเตอร์ที่ตกแต่งเป็นรูปไข่และกระต่าย

นอกจากนี้ คุณหนูๆ ยังจะได้ทำกิจกรรมสนุกๆ เช่น ระบายสีไข่อีสเตอร์ ระบายร่ม และเกมส์ต่างๆ ราคา 550 บาทสุทธิต่อท่าน เด็กอายุระหว่าง 6-12 ปี ราคา 225 บาทสุทธิต่อคน (ฟรีสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี)
สำรองที่ล่วงหน้า โทร 053-888888 ต่อ 8834

พลาดไม่ได้กับไฮไลท์ ช็อคโกแลตอีสเตอร์ ซึ่งจะเริ่มระหว่างวันที่ 24 มีนาคม ถึง 1 เมษายน 2561 ด้วยช็อคโกแลตอีสเตอร์ รูปไข่อีสเตอร์และกระต่ายลวดลายต่างๆ มีจัดจำหน่ายที่ร้านดาราเทวีเค้กช็อป โรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่, สาขาสนามบินนานาชาติเชียงใหม่, สาขาเซ็นทรัลเฟสติวัล และ ร้านดาราเทวีพาทิสเซอรี่ ห้างเมญ่า สอบถามข้อมูล โทร 053-888888 ต่อ 8834

*ราคาโปรโมชั่นบางรายการยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าบริการ

เชิญชมไม้กลุ่มสีออกดอกบานสะพรั่งที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์

เชิญชมไม้กลุ่มสีออกดอกบานสะพรั่งที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์

“อุทยานหลวงราชพฤกษ์” อุทยานแห่งการเรียนรู้ขนาดใหญ่ พรั่งพร้อมด้วยพรรณไม้นานาพรรณ กว่า 5,000 ชนิด และในช่วงเดือน มีนาคม –เมษายน นี้ ซึ่งเข้าสู่ฤดูร้อน ทางอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ก็อยากเชิญชวนประชาชนชาวเชียงใหม่ รวมถึงนักท่องเที่ยว ให้แวะเวียน เข้ามาเที่ยวชมความสวยงามของสวนต่างๆภายในอุทยาน

โดยประชาชนจะได้ชมไม้กลุ่มสีที่จะออกดอกบานสะพรั่งสลับกัน อาทิ ประดู่แดง ราชพฤกษ์ กาสะลองคำ หางนกยุงฝรั่ง อินทนินน้ำ และกัลปพฤกษ์ ที่กำลังเริ่มทยอยออกดอกสีขาวอมชมพูบานสะพรั่งเต็มถนนหน้าอาคารพืชทะเลทราย ยาวจนกลายเป็น”ถนนอุโมงค์ดอกกัลปพฤกษ์” รับรอง นักท่องเที่ยวจะได้ฟินกันตลอดทั้งเดือนมีนาคมนี้ และยังมีที่”สนามเด็กเล่น”จุดชมดอกกัลปพฤกษ์บานอีกหนึ่งจุดที่ให้นักท่องเที่ยวได้ชมยาวถึงช่วงกลางเดือนเมษายนเลยทีเดียว

DSI จับมือสาธารณสุขฯ เชียงใหม่และตำรวจ จับอาหารเสริมลดอ้วนอันตรายเสี่ยงตาย มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท

DSI จับมือสาธารณสุขฯ เชียงใหม่และตำรวจ จับอาหารเสริมลดอ้วนอันตรายเสี่ยงตาย มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท

พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย ร.ต.อ.สุรวุฒิ ผู้อำนวยการกองคดีคุ้มครองผู้บริโภค กรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ท.สมพร ชื่นโกมล ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 5 (เชียงใหม่) นายอิศรา นานาวิชิต หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ พ.ต.ท.ภาดล กะนะลัย สว.กก.สส.ภ.จว.เชียงใหม่ ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย พร้อมยึดของกลางเป็นยาลดความอ้วนในรูปแบบผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ซึ่งมีส่วนผสมของสายไซบูทรามีน ยาควบคุมพิเศษ ซึ่งผลิตและจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ยึดของกลางได้จำนวนมาก มูลค่ารวมกว่า 10 ล้านบาท

จากการแพร่ระบาดของยาลดความอ้วนในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอ้างสรรพคุณลดความอ้วนโดยผู้ผลิตได้ลักลอบนำสารไซบูทรามีน ยาควบคุมพิเศษตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เป็นส่วนผสมสำคัญและผลิตออกจำหน่ายอย่างแพร่หลายกระจายรวดเร็วในหลายจังหวัด

เมื่อรับประทานจะส่งผลต่อระบบประสาท ทำให้นอนไม่หลับ ไม่อยากอาหาร ปากแห้ง ทำให้น้ำหนักลดลง เพราะสารเคมีดังกล่าวจะไปกดประสาททำให้ไม่อยากอาหาร มีผลข้างเคียงทำให้เกิดภาวะผิดปกติเกี่ยวกับทางเดินอาหาร เสี่ยงต่อโรคหัวใจขาดเลือด หลอดเลือดตีบและทำให้เสียชีวิต จากข้อมูลของ อย.มีคู่บริโภคเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวหลายราย จนนำมาสู่การเข้าตรวจค้น 3 จุดในพื้นที่เชียงใหม่ ยึดอาหารเสริมได้จำนวนมาก มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท

นายอิศรา นานาวิชิต หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า สารเคมีภัณฑ์ ไซบูทรามีน ปกติแล้วจะใช้ในทางการแพทย์ แต่ต่อมาเคมีภัณฑ์หรือตัวสารไซบูทรามีนนี้ ได้มีการลักลอบเข้ามาและถูกนำมาผสมเข้ากับอาหารเสริมหลากหลายชนิด เมื่อผสมในปริมาณมาก ก็จะส่งผลให้เกิดผลกระทบต่อร่างกาย บางรายกินยาเพื่อลดความอ้วน เมื่อกินเข้าไปจำนวนมากก็ทำให้เกิดอาการประสาทหลอน หนักสุดก็เสียชีวิต

จึงอยากขอให้ประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิงควรระมัดระวังผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่แอบอ้างสรรพคุณเหล่านี้ไว้ด้วย และพ่อแม่ ผู้ปกครองควรดูแลลูกหลานของตนเองด้วย เพราะเด็กส่วนใหญ่กลัวว่าหุ่นตัวเองจะไม่ดีก็กินเข้าไปหลากหลายยี่ห้อ ส่งผลกระทบกับร่างกายหรือถึงขั้นเสียชีวิตได้

ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ จัดบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ลดค่าฝุ่นละอองแก้ปัญหาหมอกควัน ยืนยันเรื่องเป็นจังหวัดอากาศแย่ไม่เป็นความจริง

ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ จัดบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ลดค่าฝุ่นละอองแก้ปัญหาหมอกควัน พร้อมชี้แจงเรื่องเป็นจังหวัดอากาศแย่สุดในโลกว่าไม่เป็นความจริง อ้างอิงค่าจากกรมควบคุมอากาศที่เป็นมาตรฐานสากลของหน่วยงานรัฐ และจับกุมผู้กระทำผิดไปแล้ว 3 รายจากการเผาป่า

นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานจัดกิจกรรมบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ ที่บริเวณวงเวียนด้านหน้าอาคารศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายไพรินทร์ ลิ่มเจริญ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ทหาร มทบ.33 กว่า 40 นาย และนำหุ่นยนต์โรบอทพ่นน้ำระยะไกล 1 เครื่อง รถน้ำดับเพลิง จำนวน 10 คัน มาร่วมในการจัดกิจกรรมครั้งนี้

กิจกรรมที่ทำในครั้งนี้ได้จัดทำพร้อมกันทุกอำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ มีการฉีดพ่นละอองน้ำขึ้นไปในอากาศ เพื่อเพิ่มความชื้นในอากาศ ลดค่าหมอกควัน และมีการฉีดพ่นล้างทำความสะอาดพื้น กวาดถนน เพื่อกำจัดฝุ่นละอองโดยรอบศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ที่เป็นส่วนหนึ่งในการเกิดปัญหาด้านมลพิษทางอากาศ มีการกวาดเศษใบไม้ที่ร่วงบนพื้นจำนวนมาก ที่เป็นความเสี่ยงอาจเกิดไฟไหม้และลุกลามได้

ขณะที่มีกระแสข่าวออกมาว่าเป็นจังหวัดที่มีอากาศแย่ที่สุด ยืนยันว่าทางจังหวัดอ้างอิงจากค่าของกรมควบคุมมลพิษ ซึ่งเป็นค่าที่ได้รับการรับรองและทางราชการใช้เป็นค่าตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบมาตรฐาน ซึ่งค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM10) ของจังหวัดเชียงใหม่ ยังถือว่าน้อยกว่าของจังหวัดอื่น ดังนั้น จึงไม่ใช่ความจริงว่าเป็นจังหวัดที่มีอากาศแย่ที่สุด

ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ ที่ 10 จังหวัดเชียงใหม่ เชิญทุกท่านร่วมทำบุญด้วยการบริจาคโลหิต

เทคนิคการแพทย์หญิง วัชรี ประสิงห์ รักษาการหัวหน้าภาคบริการโลหิตแห่งชาติ ที่ 10 จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงใหม่ถือเป็นจังหวัดที่มีประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เดินทางมาท่องเที่ยวและพักอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก จึงส่งผลทำให้เกิดอุบัติเหตุ และมีผู้ป่วยที่มีความต้องการโลหิตจำนวนมาก ซึ่งที่ผ่านมาในเชียงใหม่ มีความต้องการโลหิตกว่า 85,000 ยูนิต/ปี แต่หาโลหิตได้เพียง 54,000 ยูนิต/ปี ซึ่งยังไม่เพียงพอ ต่อความต้องการ

ดังนั้นทางภาคบริการโลหิตแห่งชาติ ที่ 10 จังหวัดเชียงใหม่ จึงได้ร่วมกับเครือเจริญโภคภัณฑ์ จัดโครงการ เครือเจริญโภคภัณฑ์มุ่งสู่ 100 ปี ทำความดี ด้วยการบริจาคโลหิต ปี 2561 เพื่อเป็นการงรณรงค์ให้ประชาชนออกมาบริจาคให้มากขึ้นทั้งนี้กิจกรรมดังก่าวจะจัดขึ้นนในวันเสาร์ ที่ 10 มีนาคม 2561 เวลา 09.00-15.30 น. ณ ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 10 จังหวัดเชียงใหม่ จึงอยากขอเชิญชวนให้ประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 17-60 ปี มีสุขภาพแข็งแรง ให้มาร่วมบริจาคโลหิตได้เป็นประจำ นอกจากจะได้บุญแล้วยังช่วยเหลือชีวิตผู้อื่น

 

ซึ่งหากผู้ใดสนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โทร.053-418389 ต่อ 17 , 089-4810111 หรือ ติดตามข่าวสารทุกความเคลื่อนไหวกิจกรรมต่าง ๆ และหน่วยรับบริจาคโลหิตของภาคบริการโลหิตฯได้ที่ facebook.com/RBC10

กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 7 กองพลทหารราบที่ 7 แม่ริมจัดพิธีทำบุญวันคล้ายวันสถาปนา ครบรอบ 77 ปี

กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 7 กองพลทหารราบที่ 7 แม่ริมจัดพิธีทำบุญวันคล้ายวันสถาปนา ครบรอบ 77 ปี ที่ได้รับพระราชทานธงชัยเฉลิมพล

ที่ กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 7 กองพลทหารราบที่ 7 อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ พลเอก เจน คีรีทวีป อดีตผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 เป็นประธานในพิธีทำบุญวันคล้ายวันสถาปนา ครบรอบปีที่ 7 โดยมี นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยหน่วยงานราชการ และกำลังพล เข้าร่วมในพิธี เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับอดีตข้าราชการในสังกัด และเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่หน่วยงานข้าราชการและครอบครัว

ทั้งนี้ พิธีทำบุญวันคล้ายวันสถาปนากองพันครบรอบปีที่ 77 ซึ่งตรงกับวันที่กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 7 กองพลทหารราบที่ 7 ได้รับพระราชทานธงชัยเฉลิมพล เป็นเกียรติประวัติและได้ปฏิบัติสืบเนื่องติดต่อเป็นประจำทุกปี และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามค่ายทหารว่า “ค่ายพระปิ่นเกล้า” สำหรับค่ายพระปิ่นเกล้า ตั้งอยู่ที่ บ้านเลขที่ 163 หมู่ 6 บ้านชะเยือง ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 7

อีกทั้งเป็นหน่วยที่จัดตั้งขึ้นมา ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ภายหลังที่ญี่ปุ่นบุกเข้าถึงประเทศไทยแล้ว โดยแยกหน่วยออกมาจาก ป.พัน.10 จังหวัดนครสวรรค์ และใช้ชื่อหน่วยในสมัยนั้นว่า “ป.พัน.11” ซึ่งเป็นหน่วยปฏิบัติราชการสนามการประกอบกำลังและอาวุธยุทโธปกรณ์ โดยเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2495 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้พระราชทานธงชัยเฉลิมพล แก่ ป.พัน.2 โดย พ.ท.เจริญ วัฒนวงศ์คีรี ผบ.ป.พัน.2 (ในขณะนั้น) เป็นผู้รับพระราชทานธงชัยเฉลิมพล

เทศบาลเชิงดอยจัดกีฬาคนชรา

เทศบาลเชิงดอยจัดกีฬาคนชรา

ที่สนามกีฬาเทศบาลตำบลดอยสะเก็ด อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ นายแพทย์ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นประธานเปิดการแข่งขันกีฬาเชิงดอยเกมส์ ครั้งที่ 20 ประจำปี 2561 ซึ่งเทศบาลตำบลเชิงดอยได้ร่วมกับศูนย์กีฬาเทศบาลเชิงดอย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กลุ่มพลังมวลชน และกลุ่มผู้สูงอายุ ในพื้นที่ตำบล เชิงดอย และตำบลดอยสะเก็ด ทั้ง 13 หมู่บ้าน ได้ร่วมแรงร่วมใจ สมัครสมานสามัคคีของทุกฝ่าย ในการจัดการแข่งขันกีฬา เชิงดอยเกมส์ขึ้น

โดยมีวัตถุเพื่อสร้างความรักความสามัคคีในหมู่คณะ ส่งเสริมสุขภาพและพลานามัยให้แข็งแรงสมบูรณ์ โดยมีนายชุติพล สารแปง นายกเทศมนตรีตำบลเชิงดอยกล่าวรายงาน มีกีฬาที่ใช้ในการแข่งขันส่วนใหญ่เป็นกีฬาพื้นบ้าน 8 ชนิด เช่น เดินกะลา วิ่งผลัดเต้าหู้ เตะปี๊บ ยิงหนังยาง วิ่งเลี้ยงไข่ เป็นต้น

โดยก่อนเริ่มงานมีการจัดขบวนพลังมวลชนแต่ละหมู่บ้านแต่งแฟนซีสวยงาม ทั้งเด็กรุ่นเล็กจนถึงผู้สูงอายุเดินเข้าสู่สนาม พร้อมการแสดงต่างๆ โดยไฮไลน์เป็นการจุดคบเพลิงของนักกีฬาดีเด่นของตำบลเชิงดอย และการจุดคบเพลิงก็แหวกแนวไม่เหมือนใคร ด้วยการใช้หนุมานพ่นไฟจึดกระถางคบเพลิง ไม่เหมือนกับการเปิดกีฬาทั่วไป เปิดท้ายด้วยด้วยการเต้นของนักเรียนชราบาลด้วยการเต้นคุกกีเเสี่ยงท้ายแบบผู้สูงอายุ ก่อนที่บรรดาผู้สูงอายุในพื้นที่กว่า 500 คนจะร่วมเล่นกีฬาพื้นบ้านนาๆชนิด กันอย่างสนุกสนาน

เชียงใหม่เร่งก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดแม่โจ้(เทพปัญญา) และสะพานข้ามน้ำปิง พร้อมเปิดให้ใช้งานในช่วงเทศกาลสงกรานต์

นายรัฐพงษ์ เลิศสุวรรณไพศาล หัวหน้าช่างผู้ควบคุมโครงการทางลอดหมายเลข 11 จุดตัดทางหลวงหมายเลข 1001 ได้เปิดเผยถึง ความก้าวหน้าการก่อสร้างทางลอดแม่โจ้(เทพปัญญา) ว่าล่าสุดได้มีการก่อสร้างแล้วเสร็จกว่าร้อยละ 80 แล้ว ขณะที่กลุ่มรักษ์บ้าน รักษ์เมืองและทางสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ได้มีหนังสือมาถึงโครงการฯ ขอให้มีการตั้งชื่อทางลอดและสะพานใหม่ โดยเปลี่ยนชื่อทางลอดจากทาง “ทางลอดแม่โจ้”โดยเปลี่ยนมาเป็น “ทางแยกฟ้าฮ่าม”แทน

ส่วนสะพานข้ามแม่น้ำปิงว่า ให้ตั้งชื่อสะพาน“ขัวสรีเวียงพิงค์” (ขัว-สะ-หรี-เวียง-พิงค์) ซึ่งขัว ภาษาล้านนาหมายถึง สะพาน , สรี หมายถึง ความสง่างาม/ความดี/ความเจริญ/ความสำเร็จ และ เวียงพิงค์ หมายถึง เมืองเชียงใหม่ เพื่อเป็นการอนุรักษ์ส่งเสริมวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งทางผู้รับเหมาก็ได้มีการตกแต่งสะพานด้วยศิลปกรรมล้านนาเพื่อให้เกิดความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของล้านนา

ทั้งนี้โครงการดังกล่าวได้เริ่มสัญญาเมื่อ 9 มีนาคม 2558 วงเงินก่อสร้าง 1,172.771 บาท ระยะทาง 3.04 กิโลเมตร ขนาด 10 ช่องทางจราจร ซึ่งเดิมระยะสิ้นสุดสัญญาในวันที่ 2 มีนาคม 2561 แต่ได้มีการขยายเวลาให้กับผู้รับเหมาออกไปครั้งแรก เนื่องจากรอให้การประปาส่วนภูมิภาคย้ายท่อประปาขนาดใหญ่โดยขยายถึงวันที่ 17 เมษายน 2561นอกจากนี้ยังได้มีการแก้ไขแบบเดิมและปรับเพิ่มงบประมาณจากเดิมล้านกว่าบาท เป็น 3 ล้านกว่าบาท

อย่างไรก็ตามในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จะพยายามเปิดให้ใช้งานอุโมงค์ทางลอดฟ้าฮ่ามทั้งสองด้าน เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรในช่วงถนนสายเชียงใหม่-ลำปาง และการก่อสร้างภายในอุโมงค์ทางลอด ซึ่งอยู่ระหว่างการตกแต่งกำลังดำเนินการอยู่ โดยคาดว่างานก่อสร้างทั้งหมดจะเสร็จทันตามสัญญา