ตรวจยึดยาบ้า!!..นบ.ยส.35ลาดตระเวนพื้นที่อ.แม่อายจ.เชียงใหม่สกัดจับยาบ้า460,000เม็ด

27 มิ.ย.68 พล.ท. กิตติพงศ์ ชื่นใจชน แม่ทัพน้อยที่ 3 ในฐานะผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคเหนือ (ผบ.นบ.ยส.35) เปิดเผยว่าจากการจัดชุดลาดตระวนตามแนวชายแดนเพื่อป้องกันการลักลอบค้ายาเสพติดในพื้นที่ของชุดสกัดกั้นที่ 2 เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมาที่บริเวณ บ้านป่าโหล ต.แม่สาว อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ตรวจพบกลุ่มคนขับจักรยานยนต์จำนวน 3 คัน บรรทุกกระสอบต้องสงสัยขับผ่าน เข้ามามายังบริเวณพื้นที่เฝ้าตรวจ แต่เมื่อกลุ่มคนดังกล่าวพบเจ้าหน้าที่ได้ทำการขับจักรยานยนต์หลบหนีตามเส้นทางลัดเลาะ จึงจัดกำลังไล่ติดตามกลุ่มบุคคลดังกล่าว จนถึงบริเวณ บ้านกาวิละ ต.แม่สาว อ.แม่อาย และพบรถจักรยานยนต์ถูกจอดทิ้งไว้ จำนวน 2 คัน พร้อมกับกระสอบจำนวน 2 ใบ จึงได้ประสานกำลังจากกองกำลังผาเมือง กก.2 บก.ปส.3 บช.ปส. และ ตชด.334 เข้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว

ผลการปฏิบัติในครั้งนี้ ตรวจพบยาบ้า 460,000 เม็ด พร้อมรถจักรยานยนต์ 2 คันจึงได้ส่งมอบของกลางดังกล่าวให้ สภ.แม่อาย ในการดำเนินคดีและเตรียมขยายผลในพื้นที่ โดยที่ผ่านมา นบ.ยส.35 ได้มีการลงพื้นที่เพื่อขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่แนวชายแดนภาคเหนือ เพื่อประเมินสถานการณ์จริงในพื้นที่ พร้อมปรับการทำงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์มากขึ้น ทั้งนี้เพื่อให้การทำงานเกิดประสิทธิภาพขณะเดียวกันได้มีการเข้าตรวจสอบโกดังเก็บสารเคมีและสารตั้งต้น ซึ่งอาจถูกนำไปใช้ในการผลิตยาเสพติด โดยได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการควบคุมและติดตามอย่างเข้มงวดต่อไป

ตำรวจภาค5โชว์ผลงาน!!..รวบหนุ่มใหญ่คาด่านลอบขนไอซ์ 20 กก.ยาบ้าอีก6ล้านเม็ด

29 เม.ย.68 ที่ตำรวจภาค5 จ.เชียงใหม่ พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.พงษ์เดช คำใจสู้ ผบก ภ.จ.แพร่ เจ้าหน้าที่ทหาร ฝ่ายปกครอง ปปส. ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมขบวนการลักลอบขนยาเสพติดรายใหญ่ โดยเจ้าหน้าที่บูรณาการตั้งด่านตรวจห้วยไร่ อ.เด่นชัย จ.แพร่ เพื่อตรวจสกัดกั้นยาเสพติดต่อมาได้มีรถยนต์บรรทุก 6 ล้อ ทะเบียน 71-2199 เชียงใหม่ บรรทุกสิ่งของผ่านมาโดยใช้ผ้าใบคลุมอย่างมิดชิด จึงเรียกให้หยุด นำรถบรรทุกเข้าตรวจเครื่อง x-ray พบว่ากระสอบพลาสติกหลาบใบ มียาบ้าจำนวน 6 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 20 กิโลกรัม ห่อหุ้มด้วยเสื้อผ้ามือสอง จึงจับกุมคนขับ นายสุดใจ อายุ 36 ปี ชาว จ.เชียงราย ให้การว่ารับจ้างจากนายทุน 9,000 บาทให้ขนส่งเสื้อผ้ามือสองไปส่ง’ที่ อ.บ้านแผ้ว จ.สมุทรสาคร ทำมาแล้ว 3 ครั้งโดยไม่รู้ข้างในเป็นยาเสพติด จึงควบคุมตัวไว้และขยายผลเพื่อสาวหาตัวผู้ว่าจ้างมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

ธนาธร!!..หนุน“เหมา-ธีรวุฒิ”ชิงนายกฯเล็กเชียงใหม่ ชูผลงานลำพูนพิสูจน์ศักยภาพทีมประชาชน

“ธนาธร” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมให้กำลังใจ “เหมา-ธีรวุฒิ” ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เบอร์ 2 จากพรรคประชาชน พร้อมรายงานความคืบหน้าการทำงานของ อบจ.ลำพูน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานมูลนิธิคณะก้าวหน้า เดินทางมายังตลาดนัดฟิวชั่น ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ หลังเสร็จสิ้นภารกิจหารือกับทีม อบจ.ลำพูน ก่อนขึ้นเวทีปราศรัยเพื่อสนับสนุนนายธีรวุฒิ แก้วฟอง ชี้ มีความเหมาะสมตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ พร้อมย้ำบทบาทของพรรคประชาชนและคณะก้าวหน้าในการขับเคลื่อนนโยบายท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง

บนเวที ธนาธรได้อัปเดตความคืบหน้าของโครงการรถเมล์ไฟฟ้า (EV Bus) ที่ อบจ.ลำพูนเตรียมเปิดให้บริการ 1 มกราคม 2569 เชื่อมย่านนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือเข้าสู่ตัวเมืองลำพูน ครอบคลุมระยะทางกว่า 19 กิโลเมตร พร้อมทั้งแผนพัฒนาหลักสูตรและสื่อการเรียนรู้ดิจิทัลในโรงเรียนสังกัด อบจ.ลำพูน ทั้ง 5 แห่งให้ทันสมัยยิ่งขึ้น — โดยทั้งหมดนี้เริ่มเป็นรูปธรรม แม้ “นายกเฮง” วีรเดช ภู่พิสิฐ นายก อบจ.ลำพูน จากพรรคประชาชน จะเพิ่งรับตำแหน่งได้เพียงเดือนเศษเท่านั้น แม้ อบจ.ลำพูนจะมีพื้นที่ครอบคลุมถึง 4,500 ตารางกิโลเมตร ซึ่งใหญ่กว่าเทศบาลนครเชียงใหม่ที่มีเพียง 40 ตารางกิโลเมตรอย่างเทียบกันไม่ติด แต่กลับได้รับงบประมาณประจำปีเพียง 500 ล้านบาท ขณะที่เทศบาลนครเชียงใหม่มีงบสูงถึงกว่า 2,000 ล้านบาท หรือมากกว่ากันถึง 4 เท่า เขาจึงมั่นใจว่า หากพรรคประชาชนได้รับโอกาสเข้ามาบริหารเทศบาลนครเชียงใหม่ จะสามารถขับเคลื่อนนโยบายและพัฒนาเมืองให้ก้าวหน้าได้ยิ่งกว่าที่เป็นอยู่ พรรคประชาชนพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ภายในเวลาเพียงเดือนเศษ อบจ.ลำพูนสามารถผลักดันแผนพัฒนาเมืองที่เป็นรูปธรรมได้ ผมเชื่อว่า หากพี่น้องชาวเชียงใหม่ให้โอกาสพี่เหมา–ธีรวุฒิ เทศบาลนครเชียงใหม่จะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นแน่นอน” ฝากถึงชาวเชียงใหม่ ให้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งนายกเทศมนตรีในวันที่ 11 พฤษภาคม 2568 โดยเน้นว่าเสียงของประชาชนคือพลังสำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงเมือง“เทศบาลนครเชียงใหม่มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งกว่า 90,000 คน แต่ที่ผ่านมากลับมีผู้มาใช้สิทธิน้อยกว่าครึ่ง แตกต่างกับการเลือกตั้งระดับชาติ ที่มีผู้ออกมาใช้สิทธิสูงถึง 70 กว่าเปอร์เซ็นต์ ทั้งที่เทศบาลคือหน่วยงานใกล้ตัวที่สุด ดูแลสวัสดิการขั้นพื้นฐานในชีวิตประจำวัน ไม่ว่านายกรัฐมนตรีของประเทศเราจะเป็นใครหรือมาจากพรรคไหน แต่ถ้าเราเลือกผู้นำท้องถิ่นที่มีวิสัยทัศน์และโปร่งใส คุณภาพชีวิตของเราจะดีขึ้นอย่างจับต้องได้ เพราะเรื่องใกล้ตัวต่างๆของเรา เป็นเรื่องของนายกเทศมนตรีทั้งนั้น นายธนาธร กล่าวในที่สุด

สำหรับ เหมา-ธีรวุฒิ แก้วฟอง ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ หมายเลข 2 ผู้มาพร้อมแคมเปญ “รับเหมา สร้างเมือง” ได้เสนอวิสัยทัศน์ “อยู่ม่วน กิ๋นดี มีสุข” ผ่านนโยบายพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสวัสดิการของประชาชนอย่างรอบด้าน ครอบคลุมทั้งการส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก การดูแลสุขภาพประชาชนทุกช่วงวัย การสนับสนุนสวัสดิการผู้สูงอายุ การจัดการระบบขนส่งมวลชนใหม่ รวมถึงการรับมือปัญหาน้ำท่วมและฝุ่น PM2.5 อย่างเป็นระบบ เหมา-ธีรวุฒิยังเน้นว่า หากมีการจัดการงบประมาณของเทศบาลใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ และออกแบบกลไกการใช้จ่ายให้โปร่งใสและตอบโจทย์ เทศบาลนครเชียงใหม่จะสามารถนำงบประมาณที่มีอยู่ไปพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนได้อย่างยั่งยืนกว่าที่เป็น ทำให้เมืองน่าอยู่ น่าเที่ยว และเป็นพื้นที่ที่เอื้อต่อการลงทุนมากยิ่งขึ้น เป็นเมืองของทุกคนอย่างแท้จริง

รับ “เหมา” สร้างเมือง!!.. พรรคประชาชนส่ง เหมา-ธีรวุฒิ แก้วฟอง แก้มือ ท้าชิงตำแหน่งนายกเล็กเชียงใหม่

พรรคประชาชนต่อยอดจากความสำเร็จในเวที อบจ.ลำพูน พรรคประชาชนเดินหน้าสู่สมรภูมินายกเล็ก ขับเคลื่อนแคมเปญ “เทศบาลเพื่อประชาชน” ส่งผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรี 16 เทศบาลนคร จาก 14 จังหวัดทั่วประเทศ ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล-นายกเทศมนตรี วันที่ 11 พฤษภาคม 2568 นี้ ปักหมุดเชียงใหม่ หนึ่งในสมรภูมิสำคัญของภาคเหนือ ส่ง “เหมา” ธีรวุฒิ แก้วฟอง นักธุรกิจและอดีตข้าราชการนักประสานสิบทิศลงชิงชัย

สำหรับประวัติของ เหมา-ธีรวุฒิ แก้วฟอง (48 ปี) หรือที่หลายคนคุ้นหูในชื่อ “พี่เหมา” จากการเป็น “นักประสานมือทอง” ผู้คร่ำหวอดในวงการราชการ มากว่า 20 ปี และโลดแล่นอยู่ในวงการธุรกิจและกิจกรรมเพื่อสังคมมากว่า 10 ปี จบการศึกษาปริญญาตรีคณะรัฐศาสตร์ (การเมืองการปกครอง) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (สิงห์ขาว 32) และปริญญาโทสาขาและมหาวิทยาลัยเดียวกัน เหมา-ธีรวุฒิ เริ่มต้นทำงานที่สำนักงานจังหวัดเชียงใหม่ กระทรวงมหาดไทย เมื่อปี 2544 ทั้งยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์คราฟท์เบียร์แบรนด์แรกของภาคเหนือ My Beer Friend (2560) และดำรงตำแหน่งอนุกรรมาธิการ ในคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร (2564) โดยในศึกเลือกตั้ง อบจ.เชียงใหม่ ได้รับมอบหมายจาก “พันธุ์อาจ ชัยรัตน์” ให้ดูแลสมรภูมิเลือกตั้งในเขตอำเภอเมืองเชียงใหม่ ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของพรรคประชาชน (2568)

ความที่มีประสบการณ์แบบคลุกวงในทั้งในฐานะข้าราชการและนักธุรกิจ ไม่เพียงเหมาจะเข้าใจกลไกการบริหารงานระดับท้องถิ่น และช่ำชองในการประสานงานร่วมระหว่างภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชน หากยังทำให้เขาตระหนักถึงข้อจำกัดและความท้าทายของระบบราชการที่ผ่านมา จึงตัดสินใจนำประสบการณ์ที่มีมาตั้งกลุ่ม “เชียงใหม่กว่า” ร่วมกับคณะก้าวหน้า เมื่อปี 2564 เพื่อร่วมขับเคลื่อนข้อเสนอจากภาคประชาชนสู่รัฐ และหาวิธีการทำงานร่วมกันเพื่อการพัฒนาเมือง และลงสมัครท้าชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เมื่อปี 2564 แต่เนื่องจากเป็นการลงชิงชัยครั้งแรก เขาพบกับความพ่ายแพ้ ได้เพียงลำดับที่ 3 ไม่มีโอกาสได้เข้าไปบริหาร “เทศบาลเจดีย์ขาว” ในการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ปี 2568 นี้ เหมากลับมาอีกครั้งในเสื้อสีส้มของ “พรรคประชาชน” เขาหมายมั่นนำประสบการณ์ของเขามาช่วยพัฒนาเมือง ภายใต้แคมเปญ “รับ ‘เหมา’ สร้างเมือง” โดยตั้งใจทำให้เมืองเชียงใหม่ “อยู่ม่วน” ผ่านการสร้างเมืองให้เป็นเมืองสิ่งแวดล้อมดี พร้อมรับมือกับฝุ่น pm2.5 เมืองจัดการขยะ เมืองจัดการน้ำ และเมืองที่ปลอดภัย

ขณะเดียวกัน เชียงใหม่ ต้อง “กิ๋นดี” ขึ้น โดยสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ดันธุรกิจใหม่ ส่งเสริมผู้ประกอบการ ปรับปรุงและสร้างพื้นที่สาธารณะที่ตอบโจทย์ทุกกลุ่มคน และที่ขาดไม่ได้คือการแก้ไขปัญหาถนน ทางเท้า และตรอกซอกซอย รวมทั้งจัดทำระบบขนส่งมวลชนของเมือง ให้เป็นเมืองที่คล่องตัว สุดท้ายคือ เชียงใหม่ต้องอยู่อย่าง “มีสุข” เป็นเมืองสุขภาพดี ดูแลเด็กและผู้สูงอายุ ส่งเสริมการศึกษาที่หลากหลายตอบโจทย์เมือง และได้รับสวัสดิการต่างๆ ที่ครอบคลุม ตามอำนาจหน้าที่ของเทศบาล ทั้งนี้จะสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมทุกระดับ ที่ทำให้เมืองเชียงใหม่ “อยู่ม่วน-กิ๋นดี-มีสุข” และ เป็นของประชาชนชาวเทศบาลนครเชียงใหม่ทุกคนอย่างแท้จริงต่อไป.

เปิดปฏิบัติการ”ฟ้าสาง นครพิงค์” ตำรวจไซเบอร์กวากล้างอาชญกรรมทางเทคโลยี.ในจ.เชียงใหม่จับผู้ต้องหาพร้อมกลางอื้อ.

31 มี.ค.68 พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. นำเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดสืบสวนเปิดปฏิบัติการ “ฟ้าสาง นครพิงค์” กวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยี มีผลการปฏิบัติการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับจำนวน 112 หมาย เป็นหมายจับใน บช.สอท. 49 หมาย หมายจับนอก จำนวน 63 หมาย โดยมีผู้ต้องหาที่จับกุมทั้งสิ้น 90 ราย จับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนและเครื่องกระสุน จำนวน 22 รายสามารถยึด ปืนไม่มีทะเบียน จำนวน 26 กระบอก ปืนมีทะเบียน จำนวน 14 กระบอก กระสุนปืน จำนวน 1,283 นัด วัตถุระเบิดแบบมาตรฐาน 2 ลูก

สำหรับรายสำคัญเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่ามีการลอบจำหน่ายปืนออนไลน์ในจังหวัดเชียงใหม่จึงส่งสายลับทำการสั่งซื้อผ่านไลน์ก่อนได้หลักฐานและขยายผลบุกเข้าค้นบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ที่ 5 ต.หนองหาร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ จับกุมผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลางอาวุธปืนพกสั้น จำนวน 5 กระบอก, ปืนยาว 1 กระบอก และ กระสุนปืนจำนวน 805 นัด จุดที่สองบุกค้นบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ที่ 7 ต.ร้องวัวแดง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่จับกุมผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลางอาวุธปืนพกสั้นไทยประดิษฐ์ (ปืนดัดแปลง) ขนาด .380 จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนจำนวน 2 นัด จุดที่สามบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ที่ 14 ต.สันปูเลย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ จับกุมผู้ต้องหา พร้อมด้วยของกลางอาวุธปืนพกสั้น จำนวน 2 กระบอก, ปืนยาว 2 กระบอก รวมตรวจยึดปืนจำนวน 10 กระบอก เครื่องกระสุนจำนวน 807 นัด

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบว่ามีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ “Setthaphong” มีการโพสต์เกี่ยวกับอาวุธปืน และจากสายข่าวพบว่า จะเป็นคนกลางในการจัดหาอาวุธปืนชนิดต่างๆ ให้กับกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และจังหวัดพื้นที่ใกล้เคียง เป็นเหตุให้กลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่นำอาวุธปืนมาก่อเหตุบ่อยครั้ง ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายค้นบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 3 ต.ลิปะน้อย อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี สามารถจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลาง โครงปืน, เสื้อเกราะกันกระสุน, ซองกระสุนปืน และกระสุนปืนขนาดต่างๆกว่า 36 นัด

ปะทะ!!..ชายแดนเหนือเดือดเชียงใหม่-เชียงรายยิงสนั่นป่าวันเดียว2ครั้งแก๊งขนยานรกดับ1ศพยึดของกลางอื้อ.

.

กองบังคับการควบคุมทหารพราน ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 ได้รับรายงานจากแหล่งข่าวว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ผ่านเข้าในพื้นที่รับผิดชอบ จึงจัดกำลังพลจาก กองร้อยทหารพรานที่ 3207 จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ ออกลาดตระเวนเฝ้าตรวจ เพื่อป้องกันและสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายอื่น ๆ บริเวณช่องทางธรรมชาติ บ้านหล่ายอาย หมู่ที่ 9 ต.แม่อาย อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ กระทั่งเวลา 08.30 น.19 มี.ค.พบกลุ่มบุคคลต้องสงสัย จำนวน 3 – 5 คน สะพายกระเป๋าเป้ดัดแปลงไว้ด้านหลัง เดินผ่านเข้ามาในพื้นที่วางกำลัง จึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ใช้อาวุธปืน ไม่ทราบชนิดยิงใส่ฝ่ายทหารเก่อน จึงเกิดการยิงปะทะกันลั่นป่า ร่วม 10 นาที สิ้นเสียงอาวุธปืน ฝ่ายทหารปลอดภัย จากการตรวจพบกลุ่มขบวนการเสียชีวิต จำนวน 1 ราย และกระเป๋าเป้สัมภาระดัดแปลง จำนวน 2 เป้ ภายในบรรจุยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) รวมทั้งสิ้น 300,000 เม็ด อาวุธปืน 1 กระบอก จากนั้นจึงได้วางกำลังควบคุมพื้นที่เกิดเหตุไว้ พร้อมทั้งจัดกำลังเพิ่มเติมเพื่อไล่ล่ากลุ่มขบวนการนี้ต่อไป

และก่อนหน้านี้ เวลา 02.00 น.วันเดียวกัน กองร้อยทหารม้าที่ 3 หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก จัดกำลัง จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ ทำการเฝ้าตรวจเพื่อป้องกันและสกัดกั้นการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติประมวลกฎหมายยาเสพติด บริเวณ ท่าข้ามดอยเวา บ้านแม่สาย หมู่ 1 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย พบกลุ่มบุคคลต้องสงสัย ประมาณ 10 – 12 คน แบกกระสอบดัดแปลงเป็นเป้สะพาย เดินเท้าข้ามแม่น้ำสายเข้ามายังเขตไทย จึงแสดงตัวขอตรวจค้น แต่กล่มบุคคลดังกล่าวได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิด และขนาดยิงใส่ฝ่ายทหาร จึงเกิดการปะทะกัน นานประมาณ 10 นาที ผลการปะทะฝ่ายเราปลอดภัย ส่วนฝ่ายตรงขข้ามทิ้งเป้หลบหนีไป ตรวจสอบพบกระสอบดัดแปลงเป็นเป้สะพาย ภายในบรรจุยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) จำนวน 9 กระสอบ น้ำหนักรวม 323 กก.จึงยืดไว้เป็นของกลางและจัดกำลังไล่ล่ากลุ่มคนร้ายที่หลยหนีค่อไป

นับตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2567 ถึงปัจจุบัน กองกำลังผาเมือง สามารถสกัดกั้นยาเสพติดได้ 194 ครั้ง จับกุมผู้ต้องหาได้ 208 คน ตรวจยึดยาบ้าได้ 76,990,120 เม็ด, เฮโรอีน 145 กิโลกรัม, ไอซ์ 7,141 กิโลกรัม, ฝิ่น 1.2 กก. และ คีตามีน 235 กิโลกรัม ปะทะกับคาราวานขนยาเสพติด 30 ครั้ง กลุ่มขบวนการฯ เสียชีวิต 9 ศพ

โค้งสุดท้าย!!..กกต.เปิดกิจกรรม Big Day รณรงค์ให้ประชาชนชาวเชียงใหม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.และ สจ.

28 ม.ค. 68 นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมโค้งสุดท้ายการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (Big Day) ณ ลานด้านหน้าหอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายมงคล สุกใส ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำ อบจ.เชียงใหม่ นายธัชพล อภิรติมัย ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยนักเรียน นักศึกษา กลุ่มชาติพันธุ์ เจ้าหน้าที่ กกต.เชียงใหม่ หน่วยงานภาครัฐ เข้าร่วมกิจกรรม Big Day จัดขึ้นเพื่อประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ซึ่งจะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 พร้อมกระตุ้นให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ลดจำนวนบัตรเสีย และส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมืองในทุกภาคส่วน เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นไปด้วยความสุจริต เที่ยงธรรม และชอบด้วยกฎหมาย ภายใต้แนวคิด “สร้างสรรค์ประเทศไทย พร้อมใจไปเลือกตั้ง” จะมีการจัดการเลือกตั้งในวันที่ 1 ก.พ. 68 ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น. สามารถตรวจสอบสิทธิการลงคะแนน สถานที่เลือกตั้งและข้อมูลผู้สมัคร ซึ่งสามารถตรวจสอบได้จากเอกสารแจ้งเจ้าบ้านที่ทุกบ้านได้รับแล้ว หรือทางแอปพลิเคชั่น Smart Vote

 

นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวว่า ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องก็ได้ประชาสัมพันธ์งานเต็มที่ ผู้มาร่วมงานก็ได้มีการตื่นตัว ซึ่งจะเห็นได้จากการจัดกิจกรรมในวันนี้ที่เป็นโค้งสุดท้าย ทั่วประเทศทาง กกต.ได้ตั้งไว้ว่าจะมีผู้มาใช้สิทธิ์ 65 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งได้นำไปเทียบกับปี 63 ที่มีผู้มาใช้สิทธิ์ 62.86 เปอร์เซ็นต์ และจังหวัดเชียงใหม่ครั้งที่ผ่านมาอยู่อันดับ 5 ของประเทศ มีผู้มาใช้สิทธิ์ 71.95 ในปีนี้จึงตั้งเป้าไว้ 75 เปอร์เซ็นต์ ปัจจุบันมีการร้องเรียนมาแล้ว 104 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการทุจริต เรื่องซื้อสิทธิขายเสียง เทียบกับตัวเลขปี 63 มี 718 เรื่อง ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีที่เห็นพัฒนาทางการเมืองที่ดีขึ้น ตัวเลขการร้องเรียนน้อยลง ผู้สมัครได้ดำเนินการตามกฎหมายทุกประการ ก็หวังว่าตัวเลขจะไม่สูงมากกว่าไปนี้เท่าไหร่ ช่วง 3 วันสุดท้ายนี้ ได้มีการเข้มงวดเป็นอย่างมาก โดยมีผู้ตรวจการเลือกตั้ง ชุดเคลื่อนที่เร็วทั้ง กกต.จังหวัด และตำรวจภูธรจังหวัด จะเพิ่มความเข้มข้นในการหาข่าว การตั้งจุดตรวจ ส่วนการสืบสวนไต่สวนของ กกต. เมื่อมีคำร้องเข้ามาก็ต้องดูว่า ผู้ร้องมีสิทธิร้องเรียนหรือไม่ หรือคำร้องมีข้อเท็จจริง พยานหลักฐานเพียงพอหรือไม่ หากมีข้อมูลครบถ้วนก็เข้าสู่คณะกรรมการสืบสวนไต่สวนของ กกต. ซึ่งมีระยะเวลาไม่นาน หากมีพยานหลักฐานที่ชัดเจน และต้องดูว่าเรื่องที่ร้องเรียนมาจะดำเนินคดีได้มากน้อยเพียงใด ซึ่งจังหวัดมี 1 รายในการประกาศถอนรายชื่อ โดยทาง กกต.ได้มีการประกาศรับสมัคร ตั้งแต่วันที่ 23 – 27 ธ.ค. 67 จากนั้นก็ประกาศรายชื่อผู้สมัครที่มีคุณสมบัติและไม่มีคุณสมบัติต้องห้าม หลังจากนั้นก็มีการตรวจสอบว่ามีผู้ร้องเรียนเข้ามาหรือไม่ หากพบว่าผิดก็จะแจ้งให้กับผู้สมัครท่านนั้นทราบว่าท่านไม่มีสิทธิอีกต่อไป และมีการประกาศให้กับประชาชนผู้มีสิทธิได้รับทราบด้วย ในปีนี้ก็อยากให้จังหวัดเชียงใหม่ก้าวขึ้นไปสูงกว่าอันดับ 5 ของประเทศ ในครั้งที่แล้ว จังหวัดพัทลุงได้อันดับ 1 ที่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 78 เปอร์เซ็นต์

ปะทะเดือด!!..ทหารกองกำลังผาเมืองปะทะคาราวานขนไอซ์ส่งไปลงนรก4ศพยึดของกลาง1,155กก.ชายแดนแม่ฟ้าหลวงเชียงราย

 

พลตรี กิดากร จันทรา ผบ.กองกำลังผาเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุและตรวจนับของกลาง พร้อมทั้งชี้แจงให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนบริเวณพื้นที่เกิดเหตุ กรณี เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2568 เวลา 22.15 นาฬิกา กองร้อยทหารม้าที่ 1 หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก จัดกำลังพล จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนเฝ้าตรวจเพื่อป้องกัน และสกัดกั้นการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติด บริเวณ บ้านปางมะหัน หมู่ 8 ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวงจ.เชียงราย ตรวจพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยสะพายเป้ จำนวนประมาณ 30 – 35 คน เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจค้น แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ใช้อาวุธไม่ทราบชนิด และขนาดยิงใส่ฝ่ายเรา ทำให้เกิดการปะทะกันประมาณ 20 นาที ผลการปฏิบัติ ฝ่ายเราปลอดภัย หน่วยจึงได้จัดกำลังพล จำนวน 2 ชุดปฏิบัติการ เข้าลาดตระเวนพิสูจน์ทราบพื้นที่เกิดเหตุ จากการตรวจสอบพื้นที่ พบกระสอบดัดแปลงเป็นเป้สะพาย จำนวน 35 กระสอบ ภายในบรรจุยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) น้ำหนัก เป้ละประมาณ 35 กิโลกรัม รวมน้ำหนักประมาณ 1,155 กิโลกรัม กลุ่มขบวนการเสียชีวิต 4 ศพ ปัจจุบันหน่วยได้นำของกลางทั้งหมดส่ง สถานีตำรวจภูธรแม่ฟ้าหลวง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ศึกช้างชนช้าง!!..สนามเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงใหม่ พิชัย สว.ก๊อง พรรคเพื่อไทยจับได้เบอร์2 พันธุ์อาจ พรรคประชาชน เบอร์1 ทักษิณ-พิธา ลงพื้นที่อ้อนขอคะแนนคนเชียงใหม่

08.00 น.วันที่ 23 ธ.ค.67 ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่(อบจ.เชียงใหม่) วันแรกของการรับสมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และสมาชิกสภาฯ (สจ) ระหว่างวันที่ 23-27 พ.ย.โดยจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 1 ก.พ.2568 นี้ ในการเปิดรับสมัครวันแรกบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก เมื่อนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ สว.ก๊อง  ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ จากพรรคเพื่อไทย อดีตนายกอบจ.เชียงใหม่นำทีมสมาชิกสจ. มาลงสมัคร ชนกับนายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ อดีตผู้อำนวยการสถาบันนวตรรมแห่งชาติ จากพรรคประชาชน ที่นำทีมสจ.มาลงครบทุกเขต เช่นกัน

โดยจากการจับสลากปรากฏว่านายพันธุ์อาจ ได้หมายเลข 1 นายพิชัย ได้ หมายเลข 2 ท่ามกลางบรรยากาศเสียงกองเชียร์ของทั้งสองฝ่ายดังกระหึ่มทั่วบริเวณสถานที่รับสมัคร หลังจากได้เบอร์แล้ว ทั้งคู่ได้ออกหาเสียงกับพี่น้องประชาชนชาวเชียงใหม่ทันที สำหรับการหาเสียงในวันนี้ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาช่วยนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ สว.ก๊อง ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย หาเสียงโดยเปิดเวทีปราศรัย ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเชียงใหม่และอีกหลายเวทีทั่วจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แกนนำพรรคประชาชน ก็เดินทางเชียงใหม่ โดยช่วยหาเสียงให้กับ นายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ เดินหาเสียงพบปะประชาชนตลาดวโรรส และสถานที่สำคัญๆต่างๆในจังหวัดเชียงใหม่ด้วยยเช่นกัน

นายพิชีย กล่าวว่าการลงสมัครในวันนี้มั่นใจมาก เชื่อชาวเชียงใหม่. จะเลือกตนเองให้รับใช้ต่ออีกสมัย ส่วนกระแสความรุนแรงการเลือกตั้งท้องถิ่นในหลายจังหวัด สำหรับในเชียงใหม่ไม่มีแบบนั้น ใช้นโยบายสู้กัน ครั้งที่แล้วที่ตนลงสมัครนายก อบจ. ดร.ทักษิณ เขียนจดหมายพร้อทวีดีโอคอลมาช่วยตนหาเสียง ครั้งนี้ท่านมาด้วยตนเองเชื่อว่าตนจะชนะแน่นอน ด้านนายพันธุ์อาจ เปิดเผยว่าพรรคประชาชนเราเน้นนโยบายพรรคเพื่อประชาชน เพิ่มคุณภาพชีวิตแบบอยู่ยั่งยื่น แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมหมอกควันไฟป่า ไม่หนักใจกับการต่อสู้สนามนี้เชื่อปรชาชนจะเลือกตนเองเข้ามาทำหน้าที่ นายกอบจ. แม้ฝ่ายนั้นจะเอา คุณทักษิณ มาช่วยหาเสียงแต่ตนเองก็มี คุณพิธา มาช่วยเช่นกัน

หนาวปากสั่น!!..ยอดดอยอินทนนท์สวยมากในช่วงฤดูหนาวนี้

บรรยากาศยามเช้าบนอุทยานแห่งชาติดอยอินทนน์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เช้าวันที่ 11 ธ.ค 2567 เวลา 7.00 น. วันนี้ยอดดอยและกิ่วแม่ปานอากาศเปิด คุณภาพอากาศดีมาก อุณหภูมิต่ำสุดยอดดอย 8 c กิ่วแม่ปาน 18 c ที่ทำการอุทยานฯ 12 c ยอดดอย ค่า pm 2.5= 0 และที่ทำการ ค่า pm 2.5 = 0 การขับขี่รถบนดอยยังคงต้องระมัดระวังในการขับรถขึ้นและลงดอยใช้เกียร์ต่ำและระมัดระวังในการขับขี่เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นด้วย…ขอบคุณภาพจาก.เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์