บุกทลายโต๊ะพนันบอลออนไลน์รายใหญ่สันกำแพงจ.เชียงใหม่

พ.ต.อ.จิรัฏฐ์ จึงภัทรนิษฐ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าว บก.สอท.4 พ.ต.ท.ศิโรจน์ สิงห์ทอง รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าว บก.สอท.4 พร้อมชุดปฏิบัติการ ทำการสืบทราบว่าที่ห้องเช่าเลขที่ 1/8 หมู่ 7 ถนนราษฏร์บำรุง ต.ทรายมูล อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ มีกลุ่มนายทุนมาเช่าและเปิดเป็นแหล่งรับพนันฟุตบอลออนไลน์ รายใหญ่ในพื้นที่อำเภอสันกำแพง มีลูกค้าผีพนันฟุตบอลแทงพนันกันเป็นจำนวนมาก

จึงนำหมายค้นของศาลจังหวัดเชียงใหม่ บุกเข้าตรวจค้นพบผู้ต้องหาชาย-หญิง จำนวน 7 คนอยู่ภายในห้องเช่ากำลังนั่งควบคุมคอมพิวเตอร์ รับแทงพนันฟุตบอลอยู่ จึงจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมยึดของกลางคอมพิวเตอร์ PC ตั้งโต๊ะ จำนวน 7 ชุดเครื่องปริ้นสลิป จำนวน 1 เครื่องเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดพร้อมจอแสดงผล จำนวน 1 ชุด เงินสดจำนวน 1,920 บาทโพยทายผลฟุตบอลต่างประเทศ จำนวน 20 ใบ สลิปทายผลฟุตบอลต่างประเทศ จำนวน 14 แผ่น ควบคุมตัวทั้งหมดทั้งส่งพนักงานสอบสวน สภ.สันกำแพง ดำเนินดคีข้อหา”ลักลอบเล่นการพนัน (ทายผลฟุตบอลต่างประเทศ) เพื่อพนันเอาทรัพย์สินกันโดยผิดกฎหมาย”พร้อมทั้งขยายผลถึงตัวการและนายทุนใหญ่เจ้าของโต๊ะพนันรับแทงผลบอลรายนี้มาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

รุกป่าสงวนแห่งชาติแม่ออนเจ้าหน้าที่บุกตรวจสอบพบถูกแผ้วถางหลายไร่ชี้ทำลายทรัพยากรของชาติเร่งตามจับมาดำเนินคดี

พ.ต.ต.ยศวัฒน์ เอกกุล สว.กก.4 บก.ปทส. สนธิกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส.ชุดปฏิบัติการสืบสวนปราบปรามประจำจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.33 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ออน และฝ่ายปกครอง อ.แม่ออน เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย บริเวณป่าข้างลำห้วยสาขาห้วยแม่ลาย ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ออน ท้องที่บ้านห้วยแก้ว ต.ห้วยแก้ว อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ ขณะที่เจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงพบชายฉกรรจ์ กำลังใช้เครื่องมือแผ้วถางป่า เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม แต่ชายคนดังกล่าวไหวตัวทันทิ้งมีด จอบ และรถจักรยานยนต์หลบหนีไปได้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพื้นที่อย่างละเอียดพบว่าบริเวณดังกล่าวเป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ ใกล้กับชุมชน นอกจากนี้ยังพบกระท่อมเพิงพัก ที่ชายคนดังกล่าวได้ก่อสร้างไว้ และพบปืนยาวไทยประดิษฐ์ ลูกกระสูนปืนจำนวนหนึ่ง ส่วนบริเวณรอบๆพบต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกโค่น ตอไม้หลายจุด และไม้แปรรูปจำนวนหนึ่ง จากการตรวจสอบพบพื้นที่ป่าถูกบุกรุกประมาณ 2 ไร่ ซึ่งจะได้ติดตามจับกุมผู้บุกรุกมาดำเนินคดีต่อไป

ไฟไหม้บ้านกลางดึกวอดทั้งหลัง

พ.ต.ต.จิตติพงศ์ จินาเคียน สว.(สอบสวน) สภ.แม่โจ้ จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเลขที่ 57 ม.4 ต.หนองหาร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ จึงรายงานให้ผู้บังคบบัญชาทราบพร้อมประสานรถดังเพลิงเข้าช่วยเหลือที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ โดยต้นเพลิงอยู่บริเวณชั้นที่ 2 ของตัวบ้านเพลิงไหม้อย่างหนักและลุกลามอย่างรวดเร็วใช้เวลานานกว่า 30 นาทีจึงจะสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่าขณะเกิดเหตุมีคนพักอาศัยอยู่ในบ้านจำนวน 3 คน เป็นผู้หญิงทั้งหมด พักชั้นล่างของตัวบ้าน เกิดเสียดังระเบิดคล้ายกับประทัดที่บริเวณชั้น 2 ของตัวบ้าน ก่อนไฟลุกไหม้ที่แผงไฟฟ้า แต่ไม่สามารถดับและควบคุมได้ จึงได้พากันวิ่งหนีตายออกจากบ้าน ก่อนจะแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาให้การช่วยเหลือดังกล่าว ส่วนสาเหตุที่แท้จริงและค่าเสียหายจะได้สอบสวนและประเมินความเสียหายอีกครั้ง

 

ฝนตกถนนลื่นรถบรรทุกของซิ่งแหกโค้งโชว์เฟอร์ดับคาซากรถ

ร.ต.ท.อนุพันธ์ สมภารวงค์ ร้อยเวร สภ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกเสียหลักพลิกคว่ำบนถนนสาย เชียงใหม่-ฝาง กม.ที่ 48-49 ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดภายในรถ จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยแลอุปกรณ์ตัดถ่างจากสมาคมกุศลสงเคราะห์เชียงใหม่ พร้อมด้วย กู้ภัยเหยี่ยวแดง กู้ภัยอินทขิล และเจ้าหน้าที่กู้ภัยใกล้เคียง ในที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกของ อีซูซุ สีขาว สภาพล้มตะแคงอยู่ริมทางด้านหน้าตัวรถพังยับเยิน ภายในตัวรถฝั่งคนขับ พบศพ นายเปี่ยมศักดิ์ อายุ 47 ปี ชาว จ.ลำพูน เสียชีวิตสภาพศพที่บริเวณศรีษะถูกรถทับอยู่ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้ใช้เครื่องคัดถ่างงัดเอาร่างผู้เสียชีวิตออกจากซากรถจากการสอบเบื้องต้น ทราบว่าก่อนเกิดเหตุถบรรทุกคันเกิดเหตุได้ขับมาตามเส้นทางมุ่งหน้ามายังตัวเมือง โดยมาถึงที่เกิดเหตุ บริเวณดังกล่าวเป็นทางโค้ง ประกอบกับในช่วงระหว่างนั้นมีฝนตกลงมาถนนลื่นขณะเข้าโค้งรถได้เกิดเสียหลักทำให้หลุดโค้งพลิกคว่ำพุ่งตกลงไปข้างทางเป็นเหตุให้คนขับเสียชีวิตดังกล่าว

อย่าหาทำสาวใหญ่ซื้อรถเก๋งเถื่อนราคาถูกมาขับติดป้ายทะเบียนปลอมขับโชว์ทั่วเมืองเจอกล้องตร.จราจรจับภาพขับผิดกฏใบสั่งส่งไปเรียกปรับกับเจ้าของตัวจริงแจ้งตำรวจตามรวบคอตกโดนดำเนินคดี

พ.ต.อ.ไพโรจน์ ทองขาว ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.5 พร้อมชุดสืบสวนภาค 5 จับกุม น.ส.สวย (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี ชาว จ.ลำพูน พร้อมของกลางรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว ติดแผ่นป้ายทะเบียนหน้า-หลัง หมายเลข 8กช 1178 กทม จำนวน1 คัน ดำเนินคดีในข้อหา”ปลอมแปลงและใช้เอกสารราชการปลอม”

การจับกุมครั้งนี้ ตำรวจได้รับการร้องเรียนจากเจ้าของทะเบียนรถยนต์ 8 กช 1178 อยู่ที่เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร ว่ารับใบสั่ง การกระทำผิดกฏหมาจราจรถ ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ หลายใบ ซึ่งเจ้าของรถเอง ไม่เคยขับรถยนต์ทะเบียนดังกล่าวออกจากกรุงเทพฯแม้แต่ครั้งเดียว จึงได้แจ้งความกับตำรวจไว้ว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิดและคาดว่าจะมีผู้ไม่ประสงค์ดีปลอมหมายเลขทะเบียนรถของตนใช้ที่เชียงใหม่ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค 5 ตรวจสอบก็พบว่ารถยนต์เก๋งป้ายทะเบียนรถดังกล่าวอยู่การครอบครองของ นส.สวย จึงเชิญตัวมาสอบสวนจากการสอบสวนให้การว่าเตนซื้อรถเก๋งคันดังกล่าวต่อจากคนอื่นมาแบบไม่มีป้ายทะเบียนในราคาถูกและได้สั่งซื้อป้ายทะเบียนรถและป้ายปลอมจากทางเฟซบุ๊กในราคา 15,000 บาท นำมาติดกับรถยนต์และใช้ขับขี่จนเกิดเรื่องราวดังกล่าวขึ้น ซึ่งทางสืบสวนภาค 5 จะได้ขยายผลติอตามจับกุมแก๊งปลอมทะเบียนรถยนต์นี้มาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

บช.ปส.ล่อซื้อยาบ้า5ล้านเม็ดยิงปะทะส่งแก๊งค้ายาไปเกิดใหม่อีก1ราย

 

เจ้าหน้าที่บช.ปส. ตำรวจ สภ.แม่อาย และเจ้าหน้าที่ทหาร ร่วมกันวางแผนล่อซื้อยาบ้าจำนวน 5 ล้านเม็ด จากกลุ่มพ่อค้ายาชาวเขาโดยนัดมอบส่งของกันที่ถนนสายฝาง-แม่จัน บ้านสันต้นดู่ หมู่ 6 ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ต่อมาได้มีรถรถยนต์ปิ๊กอัพยี่ห้อโตโยต้า สีบอร์น ทะเบียน ผก 5352 เชียงใหม่ ขับมาจอดยังที่นัดหมายจึงแสดงตัวเพื่อตรวจค้นและจับกุมคนร้าย 2 คนที่นั่งมาในรถ ใช้อาวุธปืนยิงเปิดทางหนีและพยามขับรถชนเจ้าหน้าที่ จึงเกิดการปะทะกันเสียงปืนดังลั่นหลายนัดนานกว่า 5 นาที

รถคนร้ายเสียหลักพุงตกข้างทางจ้าหน้าที่จึงเข้าเคลียร์พื้นที่ จับกุมคนขับคือนายปะแอ จะเยอ อายุ 35 ปี ชาว อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ได้รับบาดเจ็บยิงอาการสาหัสถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแม่อาย ส่วนอีกคนซึ่งนั่งมาในรถคือ นายยาสี หมื่อจ่า อายุ 45 ปีชาว อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าตามร่างกายหลายแห่งเสียชีวิต ตรวจค้นหลังรถพบยาบ้าจำนวน 5 ล้านเม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกระสอบปุ๋ย จึงยึดไว้เป็นของกลาง ขบวนการนี้เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมมาหลายเดือนแล้วเป็นขบวนการใหญ่กระทั่งสามารถติดต่อล่อซื้อได้แก๊งคนร้ายเสียรู้นำยาบ้ามาขายให้กับเจ้าหน้าที่ซึ่งจะได้ติดตามจับกุมตัวอพื่อนร่วมขบวนการและผู้อยู่เบื้องหลังมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

ค้นหาทั้งคืนเจอแล้วเด็กชายหญิง4คนหายเล่นเพลินกลับบ้านกลัวโดนดุชวนกันนอนในสวนพ่อแม่ดีใจทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะจ๊ะ

จากกรณีเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมาเด็กจำนวน 4 คนเป็นชาย 2 คนและหญิง 2 คนโดยทั้งหมดอายุระหว่าง 7-10 ปี หายออกจากบ้านไปอย่างไร้ร่องรอยและไม่มีใครทราบเบาะแสพ่อแม่และผู้ปกครองเป็นห่วงความปลอดภัยจึงแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฝาง และเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยออกค้นหา หตุเกิดพื้นที่บ้านม่วงชุม ต.ม่อนปิ่น อ.ฝาง จ.เชียงใหม่

เจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมกุศลสงเคราะห์เชียงใหม่ รวมทั้งกู้ภัยในพื้นที่ ตำรวจ และชาวบ้าน ได้ออกค้นหากันตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา กระทั่งเช้าของวันที่ 13 ก.ย.พบเด็กทั้งหมด อยู่ภายในสวนจึงได้ช่วยกันพาออกมาซึ่งเด็กทั้งหมดปลอดภัย โดยจากการสอบถามในเบื้องต้นทราบว่า ทั้งหมดได้ชวนไปเล่นอยู่บริเวณภายในสวน จนเกินเวลาจะกลับบ้านก็กลัวทางบ้านดุด่า จึงได้พากันพักอยู่ภายในสวนจนกระทั่งช่วงเช้าได้เดินมาตามทางและพบเจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือจนปลอดภัยในที่สุด

คลางแคลงใจคดีน้อง”จีน่า”หายเหมือนจัดฉากนำตัวมาส่งคืนสั่งรื้อคดีสอบปากคำคนอุ้มไปซ่อนใหม่หลังพบพิรุธหลายอย่างสาวถึงใครจอมบงการเจอดีแน่

จากกรณีน้อง” จีน่า” หรือด.ญ.พรศิริ วงศิลารุ่ง อายุ 1 ขวบ 8 เดือน หายตัวออกจากบ้านพัก บ้านห้วยฝักดาบ หมู่ที่ 16 ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่เวลาประมาณ 19 นาฬิกาของวันที่ 5 ที่ผ่านมาซึ่งมีการระดมกำลังทั้งชาวบ้าน เจ้าหน้าที่กู้ภัย ตำรวจ และท้องถิ่น ร่วมกันค้นหาก็ยังไม่พบร่องรอยของน้องจีน่า จนเวลาล่วงเลยมาแล้วหลายวันก็ยังไม่พบน้องจีน่า ต่อมาตำรวจชุดสืบสวนนำตัวนายเสี่ยว หรือนายอาผ่า อายุ 44 ปี เพื่อนของพ่อน้องจีน่า และเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาเมืองมาอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน มีความสนิทสนมกับน้องจีน่า สามารถอุ้มน้องจีน่าได้โดยพี่ชายน้องจีน่าบอกกับตำรวจว่านายเสี่ยว เป็นคนอุ้มน้องจีน่า ขี่รถจักรยานยนต์ออกไปจากบ้านโดยเค้นสอบปากคำนายเสี่ยว ข้ามคืนจนสุดท้าย นายเสี่ยว ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนอุ้มน้องจีน่า ไปเองโดยอาศัยจังหวะที่พ่อน้องจีน่า นำขยะไปทิ้งส่วนแม่กำลังทำกับข้าวอยู่ในบ้าน โดยสาเหตุที่ต้องทำเพราะถูกผีเข้าสิง แล้วบอกให้นำเด็กไปส่งให้ผีเจ้าป่าเจ้าเขาที่บนดอย ตนจึงนำน้องจีน่า ไปทิ้งไว้บนดอยบริเวณปากถ้ำโดยไม่ได้ทำร้ายหลังจากนำตัวเด็กไปให้ผีเจ้าป่าแล้วก็กลับลงมา

ต่อมาเช้าวันที่ 8 ก.ย.64 พล.ต.ท.ประจวบ วงค์สุข ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี ผบก.สส.ภ.5 พล.ต.ต.พิเชษฐ์ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ นายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายอรรถวุฒิ พึ่งเนียม นายอำเภอแม่แตง พ.ต.อ.ณฐภณ แก้วกำเนิด ผกก.สภ.แม่แตง ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปกครอง ทหาร ตชด. กู้ภัย และอื่นๆกว่า 200 นายไปปูพรมเพื่อตามหาน้องจีน่า ตามคำให้การและนำตัวนายเสี่ยว เดินขึ้นเขาห่างจากหมู่บ้านราวๆ 3 กิโลเมตร ไปจุดหุบเหว ที่นายเสี่ยว ให้การว่านำน้องจีน่ามาปล่อยทิ้งไว้ เจ้าหน้าที่ได้โรยตัวลงไปในถ้ำลึกกว่า 30 เมตร และปูพรมค้นหานานกว่า 1 ชั่วโมงแต่ก็ไม่พบตัว

ขณะกำลังค้นหาน้องจีน่า อยู่นั้นมีชาวบ้านซึ่งเป็นญาติของมารดาน้องจีน่า ที่ได้เดินป่าค้นหาน้อง แจ้งมาว่าพบน้องจีน่า อยู่ในกระท่อมชาวป่าข้าวโพด ห่างจากหมู่บ้าน 2 กิโลเมตร ทางเจ้าหน้าที่จึงรุดไปยังจุดที่ได้รับแจ้งพบน้องจีน่า นอนเล่นสภาพอ่อนเพลียอยู่ในกระท่อมดังกล่าว จึงปฐมพยาบาลเบื้องต้น ให้น้ำและนมรวมทั้งน้ำเกลือ ก่อนจะอุ้มน้องเดินลงจากดอยขึ้นรถตู้กู้ชีพนำตัวส่ง ส่งรพ.นครพิงค์ เพื่อตรวจเช็คร่างกายและให้พักผ่อนอย่างเต็มที่ต่อไป ส่วนทางด้านคดีหลังจากพบตัวน้องจีน่า ทางตำรวจ ปกครอง ได้ร่วมประชุมกันที่สภ.แม่แตง โดยในที่ประชุม ผบช.ภ.5 ได้สั่งการให้การสอบสวนปากคำนายเสี่ยว ใหม่ทั้งหมดเพราะเชื่อว่าจะมีผู้ร่วมขบวนการ โดยเรื่องนี้อาจจะเป็นการลักพาตัว เรียกค่าไถ่ หรือแค้นส่วนตัว ต้องคลี่ปมให้ละเอียด เพราะแผนตอนแรกของตำรวจจะดำเนินการในวันนี้คือ ปูพรมค้นทุกบ้านในหมู่บ้านแห่งนี้ เพราะเชื่อว่าน้องยังอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ แต่ก็มีคนไปเดินป่าแล้วไปเจอน้อง แล้วน้องก็ปลอดภัยสุขภาพแข็งแรง ใส่เสื้อผ้าชุดเดิมในวันที่หาตัวไป ไม่มีอาการหิว เหมือนมีคนดูแลตลอด แม้ร่างกายน้องจะมีร่อยรอยขีดข่วนของการเดินป่าก็เป็นแค่แผลเล็กน้อย ทุกอย่างเหมือนมีการจัดฉากนำเด็กมาคืน ซึ่งประเด็นการสงสัยทั้งหมดตั้งถูกคลี่คายและตอบสังคมได้ ว่าเกิดอะรไรขึ้นการหายตัวไปของน้องจีน่าครั้งนี้มีเบื้อหน้าเบื้อหลังหรือไม่

ทางด้านพล.ต.ท.ประจวบ วงค์สุข ผบช.ภ.5 เปิดเผยว่า คดีนี้นายเสี่ยว ให้การรับสารภาพว่าว่าถูกผีเข้าสิงให้นำเด็กไปสังเวยเจ้าป่าเจ้าเขา ตรงนี้ก็เป็นคำให้การของผู้ต้องหาที่ให้การไว้ เราได้นำกำลังไปตรวจค้นจุดที่นายเสี่ยว บอกก็ไม่พบน้องจีน่า แต่ไปพบเจอน้องอีกจุดหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างออกไปอีก 2 กิโลเมตร ซึ่งในฐานะเจ้าหน้าที่ที่ร่วมกันทำงานทุกคนก็ดีใจและมีความสุขที่เด็กปลอดภัยส่วนการหายตัวไปของน้องจีน่า ยังต้องมีการสืบสวนสอบสวนต่อเพราะเชื่อว่าคดีนี้ยังมีเงือนงำอยู่ ผบช.ภ.5 กล่าวในที่สุด

ตำรวจจ่อแจ้งหลายข้อหาหนักเน็ตไอดอลเซ็กซี่เปิดนมให้FCดูดข้างถนน

บุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอสันทราย จ.เชียงใหม่ ได้ออกมาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ที่ผ่านมาได้มีกระแสเกี่ยวกับคลิ๊ปที่มีหญิงสาวผมสั้นหน้าตาดี สวมหน้ากากอนามัย สวมเสื้อชั้นในสีดำตัวเดียว ได้จอดรถริมทางแล้วเปิดหน้าอกให้เอฟซีได้ดูดนมริมถนน โดยมีชายคนที่ขับรถมาให้เป็นผู้ถ่ายคลิป ซึ่งคลิปดังกล่าว ได้มีเสียงพูดคุยสนทนากันว่าชายคนดังกล่าวมาจากที่ ไหนโดยชายคนที่ยืนอยู่บอกว่ามาจาก รพ.แห่งหนึ่งในอำเภอสันทราย แล้วชายคนดังกล่าวถามชายหญิงที่อยู่ในรถว่า มาจากที่ไหนกัน ก่อนที่คนในรถจะบอกว่า มาจากอำเภอฝาง โดยจะไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าและมาอยู่จังหวัดเชียงใหม่ได้สองเดือนแล้วหนีโควิดมา ก่อนที่หญิงคนดังกล่าวจะให้ชายคนที่ยืนอยู่ดูดนม โดยหญิงที่อยู่ในคลิปบอกว่าทำตามสัญญาคืนความสุขให้เอฟซี ซึ่งคลิป๊ดังกล่าวกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม

ดังนั้นทางอำเภอสันทรายได้มอบหมาย ให้ตนในฐานะปลัดอำเภอสันทราย ทำการรวบรวมหลักฐานเพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับหญิงสาวคนดังกล่าวและชายสองคนที่อยู่ในคลิป เนื่องจาการกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีต่อเด็กและเยาวชนนอกจากนี้ยังทำให้ภาพลักษณ์ของจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเป็นเมืองวัฒนธรรมล้านนาที่ดีงามเสียหาย ตนจะแจ้งความในข้อหาพรบ. คอมพิวเตอร์ เผยแพร่ภาพลามกอนาจาร และข้อหา พรบ.ควบคุมโรคติดต่อ ไม่สวมหน้ากากอนามัย และข้อหา สร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของอำเภอสันทรายและ จังหวัดเชียงใหม่ ในวันพรุ่งนี้ ที่ สภ. สันทรายเพื่อให้ออกหมายเรียกหญิงคนดังกล่าวและชายอีกสองคนในคลิปมารับทราบข้อกล่าวหาและจะขยายผลว่า มีบุคคลใดเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องก็จะดำเนินคดีตามกฏหมายทุกคนด้วย

ต่อมา พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากกรณีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบตัวผู้กระทำผิดแล้ว และได้ติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยให้พนักงานสอบสวนสภ.แม่โจ้เ อ.สันทราย เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษด้วย ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายการกระทำผิดกฎหมายอาญา มาตรา 287 (1) “ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้า ส่งออก หรือเผยแพร่สื่อลามกอนาจารเพื่อการค้า เพื่อจ่ายแจก หรือเพื่อแสดงอวดแก่ประชาชน” มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (4) “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ กล่าวในที่สุด

ล่านายทุนเหิมจ้างชาวบ้านบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติแม่ท่าช้าง-แม่คะนินสร้างบ้านพักตากอากาศขายชาวต่างชาติ

พ.ต.อ.ศุภฤษ์ ยอดคำ ผกก.ปพ.สส.ภ.5 นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภาค 5 สนธิกำลังเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กก.4 บก.ปทส.) เจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรหางดง เข้าตรวจสอบผู้บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ท่าช้างและป่าแม่ขนิน ข้างห้วยช้างตาย บ้านท่าไม้ลุง ต.น้ำแพร่ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ระหว่างกำลังเดินทางเข้าตรวจสอบพบมีการจุดพลุขึ้นบนฟ้าเพื่อให้พรรคพวกที่กำลังบุกรุกป่าหลบหนีด้วย

จากการตรวจสอบพบผืนป่าบริเวณมีการล้อมรั้วลวดหนาม ลักษณะจับจองพื้นที่และมีการก่อสร้างตัวบ้านไว้ด้วย พบพื้นที่ป่าถูกบุกรุกรวม 4 ไร่ 0 งาน 01 ตารางวา จึงติดป้ายและตรวจยึดพื้นที่ดังกล่าวคืนและควบคุมตัวนายชาติ ชาว อ.หางดง ไว้ดำเนินคดี ส่วนกำลังเจ้าหน้าที่อีกชุดได้ตรวจสอบผืนป่าบริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ท่าช้างและป่าแม่ขนิน ใกล้กับจุดแรกพบมีการบุกรุกพื้นที่ป่าด้วยการแผ้วถางรวมทั้งหมด 3 ไร่ 3 งาน 14 ตารางวา และพบไม้สักและไม้ประดู่ ที่ถูกตัดจากบริเวณดังกล่าวกว่า 20 ท่อนและมีการกานโคนต้นไม้ให้ยืนต้นตายด้วย จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่ามีกลุ่มนายทุนเข้าไปว่าจ้างชาวบ้านในพื้นที่ให้ทำการแผ้วถางบุกรุกป่าสงวนดังกล่าวหวังจะก่อสร้างบ้านพักตากอากาศ ขายให้กับชาวต่างชาติ ซึ่งจะได้ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป