![](\"http://indytheme.com/govariety/banner/banner1.gif\")
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะได้เดินทางมายังจังหวัดเชียงใหม่เพื่อลงพื้นที่ ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 โดยได้มีการ สรุปสถานการณ์ที่บริเวณห้องประชุม สำนักงานเทศบาลนครเชียงใหม่ นอกจากนี้ยังได้มีการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมตลาดเมืองใหม่ เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว
นายอนุทิน เปิดเผยว่า การลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ในครั้งนี้เพื่อติดตามสถานการณ์และรับฟังปัญหาอุปสรรคต่างๆ รวมทั้งสำรวจว่ามีประเด็นใดที่น่าเป็นห่วงและสามารถให้การสนับสนุนเพิ่มเติมได้บ้าง ซึ่งภาพรวมต้องยอมรับว่าทุกภาคส่วนของจังหวัดเชียงใหม่สามารถบูรณาการการทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี และมั่นใจว่าจะทำให้สถานการณ์คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้นตามลำดับ ส่วนกรณีที่มีความเป็นห่วงกังวลกันเรื่องเตียงผู้ป่วยสีแดงของจังหวัดเชียงใหม่เต็มนั้น เป็นเพียงตัวเลขเท่านั้น แต่ที่จริงแล้วตามระบบของสาธารณสุขจะใช้การบริหารจัดการเป็นเขตสุขภาพ ซึ่งแม้ตัวเลขเตียงของจังหวัดเชียงใหม่จะเต็ม แต่สามารถส่งต่อผู้ป่วยไปยังจังหวัดข้างเคียงทั้งลำพูน,ลำปางและเชียงรายได้ อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าจะไม่เกิดสถานการณ์เช่นนั้นขึ้น
แนวโน้มสถานการณ์โควิด-19ของจังหวัดเชียงใหม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า จากการทำงานอย่างเต็มกำลังของเจ้าหน้าที่ ขอให้จับตามองว่าในช่วงสัปดาห์ต่อจากนี้ไปจำนวนผู้ติดเชื้อและอัตราการเสียชีวิตจะลดน้อยลง โดยในส่วนของจำนวนผู้ติดเชื้อนั้นาต้องยอมรับว่าจะยังมีอยู่เนื่องจากยังมีการเดินทางไปมาของผู้คน ทั้งนี้ในเดือน พ.ย.64 นี้ จะมีการจัดสรรวัคซีนให้จังหวัดเชียงใหม่อีก 7 แสนโดส เพื่อฉีดให้ประชาชนอย่างครอบคลุมทั่วถึง และจนครบ100%ของประชากร ให้เป็นจังหวัดตัวอย่างที่ประชาชนได้ฉีดวัคซีนถ้วนหน้า ซึ่งมั่นใจว่าเมื่อประชาชนได้รับวัคซีนทั่วถึงแล้วจะส่งผลให้สถานการณ์ดีขึ้นเรื่อยๆอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามประชาชนยังมีความจำเป็นต้องปฏิบัติตัวตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัดต่อเนื่องเช่นเดิม
ในช่วงบ่ายรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะ เดินทางไปที่มูลนิธิเด็กกำพร้า บ้านกิ่งแก้ว วิบูลสันติ เชียงใหม่ ย่านถนนวัวลาย ในตัวเมืองเชียงใหม่ เพื่อตรวจเยี่ยมการดำเนินงานโรงพยาบาลสนามเฉพาะกิจสำหรับเด็ก และโรงพยาบาลสวนปรุง เพื่อตรวจเยี่ยมการดูแลและรักษาติดเชื้อโควิด-19 แบบครอบครัวและการดำเนินงาน Community Isolation ของโรงพยาบาลด้วย