ปปส.ภาค 5 และ ครูปฐมวัยจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมใจ สร้างพลเมืองคนรุ่นใหม่ห่างไกลยาเสพติด

ปปส.ภาค 5 และ ครูปฐมวัยจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมใจ สร้างพลเมืองคนรุ่นใหม่ห่างไกลยาเสพติด

สำนักงาน ปปส.ภาค 5 จัดโครงการฝึกอบรมหลักสูตรเสริมศักยภาพวิทยากรครูต้นแบบเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดในเด็กปฐมวัย จังหวัดเชียงใหม่ รุ่นที่ 1 ณ โรงแรมโลตัสปางสวนแก้ว จังหวัดเชียงใหม่ โดยนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีเปิด และ นายศานิต อ่อนเปี่ยม ผู้อำนวยการส่วนยุทธศาสตร์และอำนวยการ ปปส.ภ.5 นางนริศรา เลิศล้ำ ผู้แทนศึกษาธิการจังหวัดเชียงใหม่ และนางสาวอารีรัตน์ ฟองศักดิ์ ผู้แทนท้องถิ่นจังหวัดเชียงใหม่ เข้าร่วมในพิธีเปิดโครงการฯ

ทั้งนี้ ผู้เข้ารับการอบรมฯ ประกอบด้วย ครูผู้สอนในโรงเรียนอนุบาล รัฐและเอกชน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเชียงใหม่ เขต 1-6 จำนวนทั้งสิ้น 600 คน โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดโครงการคือ การสร้างความรู้ ความเข้าใจ แนวคิดทฤษฎีเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดในเด็กปฐมวัย (EF) และการเขียนแผนจัดประสบการณ์ ((EF Guideline) เพื่อนำไปสู่การสอนเด็กปฐมวัยให้มีภูมิคุ้มกันยาเสพติด และปัญหาอื่นในสังคมไทย

สำหรับ โครงการฝึกอบรมหลักสูตรเสริมศักยภาพวิทยากรครูต้นแบบเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดในเด็กปฐมวัย สำนักงาน ปปส.ภาค 5 ดำเนินการจัดทั้งสิ้น 10 รุ่น ในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ตามนโยบายของสำนักงาน ป.ป.ส. ในการขับเคลื่อนงานด้านการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดในเด็กปฐมวัย ด้วยการพัฒนาทักษะสมองด้านการจัดการ หรือ Executive Functions (EF) ซึ่งจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้เยาวชนห่างไกลจากยาเสพติดได้อย่างยั่งยืน

โดยในวันที่ 15 กรกฏาคม 2561 จะมีการจัดโครงการฝึกอบรมหลักสูตรเสริมศักยภาพวิทยากรครูต้นแบบเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดในเด็กปฐมวัย จังหวัดเชียงใหม่ รุ่นที่ 2 ณ โรงแรมโลตัสปางสวนแก้ว จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นครูผู้สอนในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดเชียงใหม่

ส่งมอบคลองแม่ข่า โรงพยาบาลลานนา สนับสนุนงบประมาณโครงการพัฒนาคลองแม่ข่า

ส่งมอบคลองแม่ข่า โรงพยาบาลลานนา สนับสนุนงบประมาณโครงการพัฒนาคลองแม่ข่า

นพ.ศิริพงศ์ เหลืองวารินทร์กุล กรรมการบริหาร โรงพยาบาลเครือรามคำแหง ในนามของผู้บริหารโรงพยาบาลลานนา มอบเงินสนับสนุนน้ำมันเชื้อเพลิง จำนวน 100,000 บาท เพื่อใช้ในโครงการอนุรักษ์ และฟื้นฟูคลองแม่ข่า โดยมี พล.ต.อภิสิทธิ์ นุชบุษษา ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาภาคที่ 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา เป็นผู้รับมอบ เพื่อใช้ในโครงการพัฒนาครองแม่ข่า ต่อไป

โดยคลองแม่ข่านี้ เป็นคลองสาธารณะธรรมชาติที่ไหลพาดผ่านโรงพยาบาลลานนา ซึ่งมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และถือเป็น 1 ใน 7 ชัยมงคลของการสร้างเมืองเชียงใหม่ โดยมีความยาวประมาณ 30 กิโลเมตร ไหลผ่านพื้นที่ครอบคลุมถึง 3 อำเภอ โดยจากสภาพคลองแม่ข่าในปัจจุบันอยู่ในสภาพวิกฤต ประสบกับปัญหาน้ำเน่าเสีย และสิ่งปฏิกูลจากการบุกรุกพื้นที่ริมคลองแม่ข่า โดยเทศบาลนครเชียงใหม่ ร่วมกับกองบัญชาการกองทัพไทย นำโดยสำนักงานพัฒนาภาคที่ 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา จึงได้ดำเนินการฟื้นฟูคลองแม่ข่า เพื่อแก้ไขปัญหาของคลองแม่ข่าในครั้งนี้ ณ ซอยสุขเกษม 1 ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่

จังหวัดเชียงใหม่ จัดประมูลป้ายทะเบียนรถเลขสวย หาเงินเข้ากองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 30 มิ.ย. 61 ที่บริเวณ ศูนย์ประชุมนานาชาติ เอ็มเพรส โรงแรมดิเอ็มเพรส จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการจัดการเปิดประมูลป้ายทะเบียนเลขสวยหมวดอักษร ขว ครั้งที่ 22 จำนวน 301 หมายเลข เพื่อหาเงินสมทบทุนกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน โดยมีนายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ได้ให้เกียรติเดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดงาน พร้อมยังได้มอบอุปกรณ์เพื่อช่วยเหลือผู้พิการให้กับผู้พิการที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางท้องถนน อีกด้วย

สำหรับบรรยากาศของการประมูลป้ายเป็นไปอย่างคึกคักประชาชนส่วนใหญ่ต่างยกป้ายเรียกราคาประมูลกันอย่างสนุกสนานท่ามกลางกองเชียร์และผู้ที่เข้าร่วมการประมูลด้วยกันเอง โดยมีการแข่งขันราคากันอย่างตื่นเต้นและลุ้นระทึกตลอดเวลาว่าราคาของป้ายทะเบียนเลขสวยจะจบที่ราคาเท่าไรและใครได้เป็นผู้ครอบครองซึ่งทุกคนที่เข้าร่วมงานต่างก็เต็มใจในการยกป้ายประมูลเพราะต้องการที่จะร่วมทำบุญเพื่อนำเงินเข้ากองทุน และต้องการที่จะเป็นเจ้าของครอบครองป้ายทะเบียนเลยสวยไปติดรถอีกด้วย

โดยนายชาญชัย กีฬาแปง ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สำหรับการประมูลในครั้งนี้จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 30มิถุนายน – 1กรกฎาคม โดยได้มีการนำป้ายสวยหมวดอักษร ขว ซึ่งมีความหมายว่า ขับรถเลยสวย ร่ำรวยโชคดี มีวาสนา มาประมูล จำนวนทั้งสิ้น 301 หมายเลข ซึ่งวัดนี้ถือเป็นวันแรกของการประมูล ทำให้มีนักธุรกิจ พ่อค้า ประชาชนชาวเชียงใหม่และประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงที่สนใจหลั่งไหลเดินทางมาร่วมการประมูลในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก ซึ่งการประมูลในครั้งนี้จะสามารถหารายได้เข้ากองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาทอย่างแน่นอน

กฟผ. จับมือ 4 สถาบันการศึกษา ลงนามความร่วมมือทางวิชาการด้านการทำเหมืองแร่

กฟผ. จับมือ 4 สถาบันการศึกษา ลงนามความร่วมมือทางวิชาการด้านการทำเหมืองแร่

นายถาวร งามกนกวรรณ รองผู้ว่าการเชื้อเพลิง กฟผ. รองศาสตราจารย์ ดร.สุพจน์ เตชวรสินสกุล คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รองศาสตราจารย์ ดร. ธนิต เฉลิมยานนท์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณัฐ วรยศ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ดร.กิจจา ไชยทนุ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ร่วมกันจัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจเรื่อง ความร่วมมือทางวิชาการด้านการทำเหมืองแร่ สี่สถาบันการศึกษา

นายถาวร งามกนกวรรณ รองผู้ว่าการเชื้อเพลิง กฟผ. กล่าวว่า กฟผ. เหมืองแม่เมาะ มีภารกิจในการผลิตถ่านหินลิกไนต์ปีละ 16 ล้านตัน และหินปูนปีละ 1.4 ล้านตัน ส่งให้โรงไฟฟ้าแม่เมาะ ซึ่งมีกำลังผลิตไฟฟ้ารวม 2,400 เมกะวัตต์ ถือเป็นหน่วยงานภาครัฐที่มีการดำเนินงานทำเหมืองแร่ถ่านหินแบบเหมืองเปิดขนาดใหญ่และเหมืองหินปูน มีระบบและกระบวนการตามหลักวิชาการ คำนึงถึงการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย อาชีวอนามัย สภาพแวดล้อมในการทำงาน การฟื้นฟูสภาพพื้นที่การทำเหมืองทั้งในระหว่างทำเหมืองและภายหลังการปิดเหมืองในอนาคต ตลอดจนการดูแล และพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนโดยรอบ ทำให้เหมือง

แม่เมาะมีศักยภาพเหมาะสมที่จะเป็นแหล่งเรียนรู้ของสถาบันการศึกษา ซึ่งความร่วมมือทางวิชาการในครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างให้เกิดการถ่ายทอดองค์ความรู้และนำไปสู่การพัฒนาการทำเหมืองแร่ของประเทศไทยให้ก้าวหน้าไปพร้อมกันในทุกภาคส่วน” ภายใต้กรอบความร่วมมือทางวิชาการดังกล่าว กฟผ. และสถาบันการศึกษา ร่วมกันจัดกิจกรรมค่ายวิชาการ Mining Camp เพื่อพัฒนา และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางด้านการทำเหมืองแร่ระหว่างผู้ปฏิบัติงาน กฟผ. เหมืองแม่เมาะ อาจารย์ และนิสิตนักศึกษา อาทิเช่น งานวางแผนและออกแบบหน้าเหมือง งานปฏิบัติการขุดขน งานเจาะระเบิด

งานระบบสายพานลำเลียงวัสดุ งานบำรุงรักษาเครื่องจักรกล งานระบายน้ำ และงานวิเคราะห์เสถียรภาพความลาดของผนังบ่อเหมือง เป็นต้น นอกจากนี้ยังร่วมกันดำเนินงานวิจัยและพัฒนาด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของเหมืองแม่เมาะในปัจจุบันและอนาคต เช่น งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการทำเหมืองในระดับลึก ได้แก่ งานวิเคราะห์เสถียรภาพของผนังบ่อเหมือง งานความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ฯลฯ

เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์และประสิทธิภาพในการทำเหมืองแร่ต่อไป ซึ่งความร่วมมือทางวิชาการเหมืองแร่ในครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างให้เกิดการแลกเปลี่ยนและถ่ายทอดองค์ความรู้ ระหว่าง กฟผ. และสถาบันการศึกษา นำไปสู่การพัฒนาบุคลากรและเทคโนโลยีด้านการทำเหมือง ให้มีความก้าวหน้า ทันสมัย เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและอุตสาหกรรมเหมืองแร่ในอนาคต

สำหรับการลงนามบันทึกความเข้าใจ “สี่สถาบันการศึกษา” เป็นการลงนามต่อเนื่อง ฉบับที่ 3 โดยมีเจตนารมณ์เพื่อสนับสนุนการจัดการอบรมในรูปแบบค่ายวิชาการเหมืองแร่ ให้กับนิสิต นักศึกษาและบุคลากรทางด้านเหมืองแร่ ทำให้เกิดการพัฒนาทางการศึกษา และวิจัยทางด้านเหมืองแร่ รวมทั้งเสริมสร้างศักยภาพให้ กฟผ. เหมืองแม่เมาะ ให้กลายเป็นแหล่งเรียนรู้และฝึกอบรมทางด้านเหมืองแร่ แก่สถาบันทางการศึกษาของภาครัฐและเอกชน ทั้งภายในและต่างประเทศ นำไปสู่การพัฒนาบุคลากรและเทคโนโลยีด้านการทำเหมืองเพื่อรองรับอุตสาหกรรมด้านเหมืองแร่ต่อไป

สโมสรโรตารี่ ธนบุรี มอบเครื่องฟอกไต พร้อมเปิดศูนย์รักษาโรคไตให้กับโรงพยาบาลสันทราย เพื่อช่วยเหลือประชาชน

นายวิชัย ชีวกนิษฐ์ นายกสโมสรโรตารี่ ธนบุรี พร้อมคณะได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลสันทราย เพื่อส่งมอบเครื่อง และเปิดศูนย์ไตเทียม ให้กับโรงพยาบาล สันทราย เชียงใหม่ โดยมี นายวรวุฒิ โฆวัชรกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสันทราย เป็นผู้รับมอบ เครื่องมือไตเทียม เพื่อนำไปใช้ช่วยเหลือผู้ป่วยโรคไตในพื้นที่รับผิดชอบของโรงพยาบาลสันทราย นอกจากนี้ยังได้มีการอบรมให้ความรู้เรื่องโรคไต การตรวจร่างกาย การตรวจวัดสายตา และยังได้มีการมอบแว่นสายตาให้กับผู้ที่มีสายตายาว ที่มาร่วมกิจกรรมดังกล่าวอีกด้วย

โดย นายวิชัย ชีวกนิษฐ์ นายกสโมสรโรตารี่ ธนบุรี เปิดเผยว่า เนื่องด้วยสโมสรโรตารี่ธนบุรี ได้ครบรอบ 60 ปีการก่อตั้ง ซึ่งทางสโมสรได้เล็งเห็นความสำคัญในการช่วยเหลือชีวิตคน ประกอบกับได้รับข้อมูบข่าวสารมาว่าที่โรงพยาบาลสันทราย จ.เชียงใหม่ ยังขาดแคลนอุปกรณ์ด้านการแพทย์ โดยเฉพาะเครื่องไตเทียม ที่มีไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้งานของผู้ป่วย ดังนั้นทาง สโมสรโรตารี่ธนบุรีจึงได้จัดโครงการในการจัดหาทุนเพื่อซื้อเครื่องไตเทียมเพื่อมอบให้กับโรงพยาบาลสันทราย เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ป่วย อีกทั้งยังเป็นอนุสรณ์แก่สโมสรโรตารี่ธนบุรีในโอกาสก่อตั้งครบ 60 ปี

โดยทางสโมสรแม่ทำแคมซื้อเครื่องไตเทียมจำนวน 13 เครื่องและเครื่องไตเทียมสำหรับผู้ป่วยไตวายเฉียบพลันจำนวน 1 เครื่องรวมมูลค่าทั้งสิ้น 6,855,000 บาท ซึ่งหวังว่าจะช่วยให้ทางโรงพยาบาลสันทราย สามารถรับผู้ป่วยโรคไตเข้ารับการรักษาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น

ด้าน นายวรวุฒิ โฆวัชรกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสันทราย จากสถิติพบว่า ในปัจจุบันได้มีผู้ป่วยโรคไตที่ต้องรับการรักษาด้วยการล้างไต กับทางโรงพยาบาลสันทรายมีจำนวน 231 คน นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยโรคไตระยะที่ 4 และระยะที่ 5 รวมจำนวน 1,387 คน ซึ่งผู้ป่วยกลุ่มนี้มีความเสี่ยงที่จะต้องใช้เครื่องไตเทียม

ดังนั้นเครื่องไตเทียมที่ได้รับมอบจากสโมสรโรตารี่ธนบุรี เมื่อรวมกับเครื่องไตเทียมที่โรงพยาบาลมีอยู่เดิม จะสมารถยกระดับในการบริการในการรักษาผู้ป่วยโรคไต จัดตั้งเป็นศูนย์ไตเทียม เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ป่วยสามารถเข้ารับการรักษาได้อย่างครอบคลุมแล้วอย่างพอ รวมถึงลดเวลาและลดค่าใช้จ่ายให้กับผู้ป่วยที่อยู่ในพื้นที่อำเภอสันทรายลและอำเภอใกล้เคียงในการเดินทางเข้าไปรักษาในตัวจังหวัดอีกด้วย

มทร.ล้านนา ร่วมกับ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์และนาโนเทค-สวทช. จัดเวทีประกวดการสื่อสารวิทยาศาสตร์

มทร.ล้านนา ร่วมกับ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์และนาโนเทค-สวทช. จัดเวทีประกวดการสื่อสารวิทยาศาสตร์ “ความปลอดภัยนาโนเทคโนโลยี” NCY2018 เฟ้นหานักสื่อสารวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ รอบ master class ในเขตภาคเหนือ


มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ร่วมกับคณะวิทย์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมจัดเวทีประกวดการสื่อสารวิทยาศาสตร์ เรื่อง “ความปลอดภัยนาโนเทคโนโลยี” รอบ Master class ระดับภูมิภาค (ภาคเหนือ) เพื่อเฟ้นหานักสื่อสารวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ ตามโครงการพัฒนาอัจฉริยภาพเยาวชนด้านการสื่อสารวิทยาศาสตร์ เรื่อง ความปลอดภัยนาโนเทคโนโลยี (NCY2018)

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เยาวชนที่ได้รับการคัดเลือกจาก ทั่วประเทศ ได้เข้าร่วมพัฒนาทักษะทางวิทยาศาสตร์และเป็นตัวแทนนำเสนอข้อมูลข่าวสาร และองค์ความรู้ทางด้านความปลอดภัยนาโนเทคโนโลยี ผ่านสื่อคลิปวิดีโอ หรือช่องทางออนไลน์ต่างๆ โดยมีเนื้อหาที่ถูกต้องเหมาะสมสู่สังคม สามารถทำให้ประชาชนรู้เท่าทันและรู้จักเลือกใช้ผลิตภัณฑ์นาโนเทคโนโลยี รู้จักการนำวิทยาศาสตร์ด้านนาโนเทคโนโลยีไปใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุดและเกิดความยั่งยืน ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา (จังหวัดเชียงใหม่)

ได้รับเกียรติจาก ผศ.ประพัฒน์ เชื้อไทย รักษาราชการแทนอธิการบดี มทร.ล้านนา กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมการแข่งขัน และดร.ภาวดี อังค์วัฒนะ รองผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติกล่าวเปิดงาน


ผศ.ประพัฒน์ เชื้อไทย รักษาราชการแทนอธิการบดี มทร.ล้านนา กล่าวว่า “นับโอกาสที่ดีที่มหาวิทยาลัยได้รับเกียรติให้เป็นสถานที่ในการจัดการประกวดในครั้งนี้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีถือเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตประจำวันไม่ว่าจะเกี่ยวข้องโดยตรงหรือทางอ้อมซึ่งการประกวดครั้งนี้ถือว่าได้สนับสนุนให้เยาวชนมีความรู้ในเรื่อง นาโนเทคโนโลยีและในส่วนของเทคโนโลยีนาโนนั้น มทร.ล้านนาได้ศึกษาและพัฒนาจนสร้างเป็นศูนย์นาโนไมโครบับเบิลซึ่งจะได้พัฒนานำไปใช้ในโครงการเกษตรอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออกซึ่งเป็นโครงการของมหาวิทยาลัยที่จะนำความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมต่อไป

สำหรับในวันนี้เป็น การแข่งขันรอบคัดเลือกระดับภูมิภาค(Master class) เพื่อคัดเลือกเยาวชนคนเก่งตัวแทนระดับภาคเหนือ 10 ทีมได้แก่ นางสาวสุทธิดา ใจบุญ และนางสาวณิชาภา บัวสัมฤทธิ์ ตัวแทนโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย เชียงรายนางสาววรรษชล คำมีมูลและนางสาวชนิสรา สินล่ำซำ ตัวแทนโรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย นางสาวพรพิงค์ จิตรงาม นางสาวณัฐชยา มะโนคำ นางสาวจิตตินาถ ใหม่ศรี ตัวแทนโรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ นางสาวฐิติมา ยวงคำ นายธงชัยชนะ กันธิรา นายพาสุกรี คำปาปัว ตัวแทนโรงเรียนนวมินทราชูทิศ พายัพ

โดยทั้ง 10 ทีมจะได้สิทธิ์ในการเข้าร่วม NCY Camp 2018 เพื่อพัฒนาทักษะและศักยภาพด้านการสื่อสารและการทำสื่อวิดีโอแบบสั้น ระหว่างวันที่ 7-9 กันยายน 2561 ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย

โรงพยาบาลลานนา ร่วมมือตำรวจจัดอบรม “ระวังภัย!!! จากโลกออนไลน์”

ที่ห้องประชุมใหญ่โรงพยาบาลลานนา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ คณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน โรงพยาบาลลานนา (คปอ.) ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ จัดการอบรมเรื่อง “ระวังภัย!!! จากโลกออนไลน์” ภัยใกล้ตัวในยุคไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งเนื้อหาในการบรรยายนั้นจะพูดถึงกลลวงของแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ แก๊งค์มิจฉาชีพที่มากับสื่อออนไลน์ และการกระทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ที่ควรรู้ โดยมี พ.ต.ท.มนัสชัย อินทร์เถื่อน รองผู้กำกับการสืบสวน สถานีตำรวจภูธรอำเภอแม่ริม เป็นวิทยากร

วัตถุประสงค์ของการจัดการอบรมในครั้งนี้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ และพนักงานของโรงพยาบาลลานนา ที่เข้าร่วมอบรม ได้รับความรู้ และเป็นข้อเตือนใจ สำหรับการป้องกันตนเองจากแก๊งค์มิจฉาชีพในโลกออนไลน์ อีกทั้งหวังผลให้ถ่ายทอดความรู้นี้แก่คนรอบตัวผู้ใกล้ชิดไม่ให้หลงเป็นเหยื่อต่อไป

นายกเชิงดอยนำคณะเจ้าหน้าที่ปลูกต้นไม้ให้แผ่นดิน

นายกเชิงดอยนำคณะเจ้าหน้าที่ปลูกต้นไม้ให้แผ่นดิน

นายชุติพนธ์ สารแปง นายกเทศมนตรีตำบลเชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดโครงการประชารัฐร่วมใจ ปลูกต้นไม้ให้แผ่นดิน โดยมีพนักงานเจ้าหน้าที่ของเทศบาลตำบลเชิงดอย ทหารชุดปฏิบัติการผาลาด หน่วยงานป้องกันรักษาป่าเชียงใหม่ที่ 9 สถานีควบคุมไฟป่าห้วยฮ่องไคร้ขุนแม่กวง คณะครูและนักเรียนโรงเรียนดอยสะเก็ดวิทยาคม เยาวชนต้นกล้าเทศบาลตำบลเชิงดอย บริษัทนิ่มซี่เส็ง และประชาชนในพื้นที่ กว่า 300 คน

โดยได้ร่วมกันสร้างฝายชะลอน้ำ และปลูกป่า บนพื้นที่ 5 ไร่ ในพื้นที่ป่าชุมชนบ้านศาลาปางสัก หมู่ที่ 1 บ้านแม่ดอกแดง ตำบลเชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ทั้งนี้เพื่อเป็นการอนุรักษ์และฟื้นฟูพื้นที่ป่าไม้ให้มีความอุดมสมบูรณ์อย่างยั่งยืน พร้อมทั้งเป็นการเป็นการเพิ่มคุณภาพชีวิตสร้างรายได้ของประชาชนในชุมชน

มช.นำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่และจิตอาสาลงพื้นที่ตรวจและรักษาโรคชาวบ้าน อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย

มช.นำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่และจิตอาสาลงพื้นที่ตรวจและรักษาโรคชาวบ้าน อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย

ดร.นายแพทย์พงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิตมงคล รักษาการแทนรองอธิการบดีฝ่ายแผนงาน บริหารการเงินและทรัพย์สิน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับ มูลนิธิพัฒนามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มูลนิธิโรงพยาบาลสวนดอก คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หน่วยทันตกรรมพระราชทาน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมูลนิธิโครงการหลวง พร้อมจิตอาสา ประกอบด้วย คณะแพทย์ ทันตแพทย์ พยาบาล เภสัชกร และบุคลากรจากหน่วยงานต่างๆ ปฏิบัติงานบริการหน่วยแพทย์ ทันตแพทย์เคลื่อนที่ ให้แก่ ราษฎรชนเผ่าม้งและจีนยูนาน ณ โรงเรียนสอนภาษาจีนเฟยอิง ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงผาตั้ง ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย

โดยมีการออกให้บริการตรวจรักษา จ่ายยาและให้คำปรึกษาในการดูแลสุขภาพอนามัย จำนวน 65 ราย ฝังเข็มรักษาตามอาการโรค จำนวน 47 ราย ตรวจมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม จำนวน 34 ราย ทันตกรรม จำนวน 56 ราย ตัดผม จำนวน 56 ราย แจกแว่นสายตายาวสำหรับผู้สูงอายุ จำนวน 55 ราย มอบชุดยาสามัญประจำบ้าน จำนวน 5 ชุด ให้แก่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงผาตั้ง และโรงเรียนในพื้นที่ พร้อมทั้งอุปกรณ์การกีฬาให้แก่โรงเรียนสอนภาษาจีนเฟยอิงจำนวน 1 ชุด

การท่องเที่ยวมาเลเซีย ชวนบินลัดฟ้า ไปสัมผัสสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ และพร้อมเรียนรู้วัฒนธรรมพื้นบ้านของมาเลเซีย ที่เมือง‘บาเจาะ’

การท่องเที่ยวมาเลเซีย เชิญชวนนักท่องเที่ยวที่อยากหลีกหนีจากความวุ่นวาย ให้เดินทางไปเที่ยวยังเมืองบาเจาะ ประเทศมาเลเซีย โดยเมืองแห่งนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองโกตาบารูประมาณ 25 กิโลเมตร ถือเป็นอีกเมืองหนึ่งที่มีคงามเงียบสงบ และแฝงด้วยเสน่ห์ของวิถีชีวิตชนบท มีสีฟ้าของน้ำทะเล เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวสายชิล ที่อยากจะพักผ่อน และสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ พร้อมเรียนรู้วัฒนธรรมพื้นบ้านของมาเลเซีย เพียงแค่เดินทางจากในเมืองไม่กี่นาที คุณก็จะได้สัมผัสกับเสน่ห์ของมาเลเซียในอีกรูปแบบที่หลายคนอาจยังไม่เคยรู้

ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจของเมืองแห่งนี้นอกจากทะเลและชายหาดที่สวยงามแล้ว ยังมีพิพิธภัณฑ์ไม้แกะสลัก Akademi Nik Rashiddin เป็นสถานที่รวบรวมงานไม้แกะสลักพื้นเมืองฝีมือดี มีทั้งแผ่นไม้สลักโบราณ ด้ามกริช ไม้เท้า เครื่องใช้ในครัว กรงดักนก ไม้หอมแกะสลัก หรือแม้กระทั้งบ้านไม้ทั้งหลัง ที่ได้ถูกแกะสลักด้วยลวดลายตามแบบฉบับของมาเลย์เซีย เปรียบเสมือนขุมสมบัติของงานไม้แกะสลักแบบมาเลย์

นอกจากนี้ ยังจะได้พบกับวัดของชาวพุทธในต่างแดน ซึ่งเป็นสถานที่หลอมรวมจิตใจและศรัทธาของผู้คน ที่ถึงแม้ประชากรส่วนใหญ่จะนับถือศาสนาอิศลาม แต่ก็เปิดกว้างให้กับทุกศาสนา โดยที่วัดแห่งนี้ยัง โดดเด่นด้วยพระพุทธรูปยืนสีขาวขนาดใหญ่มีความสูงกว่า 108 ฟุต ที่สามารถมองเห็นได้จากระยะไกล สะท้อนถึงศิลปวัฒนธรรมประจำท้องถิ่นอีกด้วย

และที่สำคัญ หมู่บ้านแห่งนี้ยังได้มีผลิตภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผา ที่ได้แสดงให้เห็นถึงภูมิปัญญา วัฒนธรรม วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของรัฐกลันตัน โดยเมืองแห่งนี้นั้นนับเป็นหนึ่งในผู้ผลิตกระเบื้องเซรามิก และกระเบื้องดินเผาที่ทำด้วยมือรายใหญ่ของประเทศมาเลเซีย ซึ่งประชาชนมักจะนิยมนำไปใช้ในการปูหลังคา และด้วยคุณสมบัติของดินที่สามารถเก็บความเย็นได้ดี กระเบื้องดินเผาจึงยังคงเป็นที่นิยมของชาวบ้านกันอยู่

สำหรับการเดินทางไปท่องเที่ยวยังเมืองแห่งนี้ก็ไม่ได้ยากลำบากอย่างที่คิด โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังประเทศมาเลเซีย จากนั้นสามารถโดยสารเครื่องบินกับสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์และแอร์เอเชีย ในการบินจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ เพื่อมุ่งหน้าสู่สนามบินSultan Ismail Petra ซึ่งเป็นสนามบินแห่งเดียวของรัฐกลันตัน จากนั้นจะต้องเดินทางด้วยรถโดยสารเพื่อมุ่งหน้าสู่เมือง บาเจาะ

ส่วนใครที่ต้องการโดยสารด้วยรถยนต์ส่วนบุคคลก็สามารถเดินทางไปได้ โดยใช้ช่องทางผ่านอําเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ข้ามสะพานใหม่ Bukit Bunga, Jeli ผ่านแม่น้ำโก-ลกเพื่อเข้าสู่เมืองรันเตาปันจังรัฐกลันตัน ซึ่งการเดินทางโดยรถยนต์ส่วนบุคคลนั้น ผุ้ที่เดินทางจะต้องซื้อกรมธรรม์ประกันภัยของมาเลเซีย ซึ่งมีขายตั้งแต่ระยะ 1 เดือน จนถึง 1 ปี ราคาเริ่มตั้นประมาณ 500 บาท และจะต้องติดต่อหน่วยงานของมาเลเซีย เพื่อทำ ICP หรือป้ายวงกลมชั่วคราว ติดไว้ที่กระจกหน้ารถ ซึ่งอาจจะเสียเวลาและยุ่งยากเล็กน้อยที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง แต่ท่านจะได้พบกับความสงบ และได้พักผ่อนอย่างสบายใจเมื่อเดินทางมายังเมืองแห่งนี้