ผู้เขียน: sanan

พ.อ. วิเชษฐ์ จันทร์สิงห์ ผู้บังคับกองบังคับการควบคุมทหารพราน ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 สั่งการให้ ร.ท.เทพฤทธิ์ สมัครเขตวิทย์ ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 3201 จัดกำลังลาดตระเวนเฝ้าขบวนการค้ายาเสพติด และแรงงานผิดกฎหมายลักลอบเข้าประเทศชายแดนช่องทาง บ้านป่ากุ๋ย หมู่ 3 ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ และได้ปะทะกับคาราวานลำเลียงยาเสพติดประมาณ 10 คนพร้อมอาวุธสงครามครบมือเสียงดังลั่นสนั่นป่ากินเวลานาน 10 นาที ผลการปฏิบัติพบกลุ่มขบวนการขนยาเสพติดถูกวิสามัญเสียชีวิต 1 ศพ ฝ่ายเราได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 1 นาย คือ อส.ทพ. วีระ รกไพร ถูกอาวุธปืนยิงบริเวณหัวไหล่ด้านขวา จึงนำผู้ได้รับบาดเจ็บส่ง รพ.แม่อาย อาการปลอดภัยแล้ว เข้าเคลียร์พื้นที่ ตรวจพบเป้ดัดแปลงภายในบรรจุยายาบ้า จำนวน 3 เป้ จำนวน 300,000 เม็ดด้วยกัน

นางรฎาวัญ วงศ์ศรีวงศ์ หัวหน้าพรรคเสมอภาค เป็นประธานจัดประชุมสมาชิกพรรคเสมอภาค ตั้งสาขาพรรคเสมอภาคประจำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปักธงที่จังหวัดขอนแก่น เรียบร้อยแล้วที่ประชุมลงมติเลือก ร.ต.ต.รับเสด็จ ยศติณเธียร เป็นหัวหน้าสาขาพรรคเสมอภาค ภาคอีสานส่วนภาคเหนือได้ ดร.ศิริพร สล่าปัน จินะนา เป็นหัวหน้าสาขาพรรคเสมอภาค ภาคเหนือ หัวหน้าพรรคเสมอภาค กล่าวว่าการเลือกจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดเชียงใหม่ เป็นที่ตั้งของสาขาพรรคเสมอภาคก็เนื่องจากมีความคุ้นเคยกับกลุ่มชมรมเสียงสตรีจังหวัดขอนแก่นจำนวนกว่า 300,000คน และรู้จักผูกพันกับชาวล้านนา ชาวไทยลื้อ กลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆในเชียงใหม่มานานกว่า20ปี และพบว่าชาวขอนแก่นและชาวเชียงใหม่ชื่นชอบพรรคเสมอภาคมาร่วมกันจัดตั้งพรรคของเราให้เข้มแข็งเพื่อเป็นสถาบันทางการเมืองที่ดี ประชาชนร่วมกันกำหนดนโยบายดีๆ เช่น นโยบายจัดตั้งกระทรวงการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ส่งเสริมการปลูก การแปรรูป การตลาด ตำรับยาแผนไทย ผลิตภัณท์สมุนไพรไทย ให้สมุนไพรไทยก้าวไกลสู่สากล ให้ประเทศไทยเป็น”คลังยาสมุนไพรของโลก” จะสร้างรายได้ให้เกษตรกร กลุ่มสตรี กลุ่มผู้สูงอายุ และช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศได้รวดเร็วเป็นรูปธรรม รวมทั้งนโยบายสร้างธนาคารน้ำใต้ดินทั่วประเทศ เก็บน้ำไว้ในฤดูฝน น้ำมาใช้ในฤดูแล้งจะสร้างความมั่นคงด้านน้ำเพื่อการเกษตรได้เป็นอย่างดี นโยบายแก้ไขปัญหาหนี้สินพรรคเสมอภาคมีแนวทางช่วยเหลือไม่ให้ที่นา ที่ทำกิน ที่อยู่อาศัย อาคารโรงงาน โรงแรม รีสอร์ทถูกยึดโดยสถาบันการเงิน เราจะช่วยรักษาทรัพย์สินของเกษตรกรและของประชาชนทุกคนให้เป็นเครื่องมือทำมาหากินไปตลอดชีวิต ซึ่งพรรคเสมอภาค มีนโยบายปรับปรุงการกระจายอำนาจให้มีประสิทธิภาพ มีศักยภาพให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถทำหน้าที่แก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนได้มากกว่าปัจจุบัน โดยเฉพาะกลุ่มสตรีจะต้องเพิ่มเงินกองทุนพัฒนาบมบาทสตรีให้ได้หมู่บ้านละ 1 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้สตรีไทยเก่งในการทำธุรกิจค้าขาย และยกระดับสตรีไทย เกษตรกรสตรีไทยขึ้นเป็นผู้ประกอบการสตรี ช่วยให้สตรีไทยมีอาชีพมีรายได้มั่นคง หลุดพ้นจากกลุ่มเปราะบางทางเศรษฐกิจและสังคม

แม้กติกาการเลือกตั้งครั้งหน้า จะเป็นบัตรลงคะแนน 2ใบ ก็จะไม่สร้างความหวาดวิตกต่อตนเองและสมาชิกพรรคเสมอภาค เพราะเรามั่นใจว่าประชาชนอยากมีส่วนร่วมทางการเมืองจริงๆคือทุกคนได้เป็นเจ้าของพรรคตัวจริง ได้ร่วมคิดร่วมเสนอร่วมสนับสนุนนโยบายพรรค และคนของพรรคที่เป็นคนเก่งคนดีมีคุณธรรมจริยธรรมให้ไปเป็นผู้นำทำหน้าที่บริหารบ้านเมืองด้วยความรู้ความสามารถและซื่อสัตย์สุจริต ประชาชนเข้าใจดีว่าคนเลือก ส.ส. เลือกรัฐบาลก็คือประชาชน พรรคเสมอภาคขอเชิญคนไทยทุกคนที่รักตัวเอง รักบ้านเมืองมาเปลี่ยนวัฒนธรรมการเมืองใหม่ที่เน้นใช้ “ความดี” นำหน้า “เงิน” ในการเลือกตั้งทุกระดับ ก็จะสามารถแก้ไข “ธุรกิจการเมือง” แก้ไขปัญหาความยากจน ได้แน่นอน” นางรฎาวัญกล่าว

พล.ต.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผบ.กองกำลังผาเมือง เปิดเผยว่า จากการที่กองกำลังผาเมืองปฏิบัติหน้าที่ด้านการป้องกันชายแดน ตามนโยบาย ของศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก เพื่อสกัดกั้นการลักลอบค้ายาเสพติด สิ่งผิดกฎหมาย สกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองของแรงงานผิดกฎหมาย ตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 13 ธค.กองบังคับการควบคุมสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดที่ 4 กองกำลังผาเมืองได้นำกำลัง 1 ชุดปฏิบัติการ ตั้งจุดตรวจจุดสกัดชั่วคราว ที่บ้านห้วยหาน หมู่ 9 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย พบรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่ สีบอร์นเงิน หมายทะเบียน ยต 8567 เชียงใหม่ ขับผ่านมา จึงได้ขอทำการตรวจค้น แต่รถยนต์คันดังกล่าว ได้พยายามหลบหนี เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจจึงได้ไล่ติดตาม จนสามารถจับกุมได้ที่บริเวณ บ้านสันติพัฒนา ต.ปอ อ.เวียงแก่น คนขับคือ นาย โชคอนันต์ สวาทชาติ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 150 หมู่ 6 ต.สันสลี อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ผลการตรวจค้นภายในรถพบยาบ้า จำนวน 5,000,000 เม็ด บรรจุอยู่ในกระสอบ จำนวน 25 ใบ บรรทุกอยู่ท้ายกระบะ นาย โชคอนันต์ฯ ได้ให้การรับสารภาพว่า มีผู้ว่าจ้างให้ทำการขนยาเสพติดดังกล่าว จึงควบคุมตัวขยายผลเพื่อติดตามจับกุมเพื่อนร่วมแก๊งนี้มาดำเนินคดีต่อไป

พบหนูน้อยมีความสามารถในการจำแนกงูชนิดต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ และสามารถใช้อุปกรณ์ในการจับงูได้อย่างคล่องแคล่ว แม้กระทั่งจับงูด้วยมือเปล่าราวกับว่าเป็นสัตว์เลี้ยง เคยร่วมทีมออกช่วยเหลือจับงูที่เข้าบ้านเรือนประชาชนมาแล้วหลายครั้ง ด.ช.เจ้าพระยา ปันตา หรือ “น้องบุญ” อายุ 6 ปี นักเรียนชั้น ป.1 และเป็นลูกชายของนายจักรพันธ์ ปันตา อายุ 46 ปี พนักงานการแพทย์ฉุกเฉิน “กู้ชีพเอื้องผึ้ง” เทศบาลตำบลหนองผึ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ โดยในแต่ละวันหากว่างเว้นจากการเรียนและมีเวลาว่างแล้ว พบว่า “น้องบุญ” จะมาประจำการและช่วยงานอยู่ที่หน่วยปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉิน “กู้ชีพเอื้องผึ้ง” คอยดูแลงูที่ช่วยจับมาจากบ้านชาวบ้าน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการนำไปปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติ

“น้องบุญ” เปิดเผยว่า จุดเริ่มต้นที่ทำให้มีใจรักและมาช่วยงานเป็นอาสาสมัครกู้ชีพกู้ภัยสืบเนื่องจากพ่อทำงานเป็นพนักงานการแพทย์ฉุกเฉิน ตั้งแต่จำความได้เห็นพ่อทุ่มเททำงานฃ่วยเหลือชาวบ้านมาตลอด ต่อมาได้ติดตามพ่อมาทำงานด้วยเป็นประจำ นอกจากการช่วยทำงานทั่วไปแล้ว ส่วนตัวมีความชอบสัตว์เลื้อยคลายอย่างงูเป็นพิเศษ ผู้เป็นพ่อจึงได้ช่วยฝึกฝนให้ รวมทั้งพาไปศึกษาเรียนรู้และฝึกฝนจากผู้เชี่ยวชาญด้วย จนมีความสามารถพิเศษระดับหนึ่งในการจำแนกชนิดของงูและสามารถจับงูได้อย่างคล่องแคล่วทั้งโดยการใช้อุปกรณ์หรือมือเปล่า ที่ผ่านมาเคยร่วมทีมออกไปช่วยเหลือประชาชนในการจับงูเข้าบ้านหลายครั้งแล้ว อย่างไรก็ตามยังทำหน้าที่เป็นเพียงลูกมือเป็นส่วนใหญ่ เพื่อความปลอดภัย รอให้โตขึ้นอีกสักหน่อยและถึงเวลาที่เหมาะสมเสียก่อน ตัวเองจึงจะสามารถทำหน้าที่ได้อย่างเต็มรูปแบบด้วยตัวเอง ทั้งนี้หากประชาชนประสบเหตุงูเข้าบ้าน แนะนำว่าอย่าจับเองและให้ร้องขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่จะดีที่สุดเพื่อความปลอดภัย สำหรับอนาคตของตัวเองนั้น เมื่อโตขึ้นอยากเป็นหมอเพื่อช่วยเหลือรักษาคนที่เจ็บไข้ได้ป่วย

ส่วนนายจักรพันธ์ ผู้เป็นพ่อของ “น้องบุญ” เปิดเผยว่า ด้วยความที่ตัวเองทำงานเป็นพนักงานกู้ชีพที่ลักษณะงานต้องเตรียมพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง และภรรยาเป็นอาสาสมัครภู้ชีพกู้ภัย ทำให้แทบจะใช้ชีวิตอยู่ที่ทำงานแทบจะตลอด 24 ชั่วโมง นับตั้งแต่ตอนที่ภรรยาตั้งท้อง “น้องบุญ” จนกระทั่งคลอดออกมาก็นำมาเลี้ยงอยู่ที่ทำงานด้วยตลอด จึงน่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ “น้องบุญ” ได้ซึมซับและมีความชื่นชอบการทำงานนี้ โดยตัวเองไม่เคยบังคับ แต่ “น้องบุญ” เลือกและชอบจะมาช่วยทำงานนี้มากกว่าจะออกไปเล่นกับเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกั้นตามประสาเด็ก โดยกิจวัตรประจำวันของ “น้องบุญ” หากไม่ได้ไปโรงเรียนก็จะมาประจำอยู่ที่หน่วยปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉิน”กู้ชีพเอื้องผึ้ง” เพี่อช่วยงานต่างๆ ทั้งการเก็บกวาดทำความสะอาด และจัดเตรียมอุปกรณ์เตรียมความพร้อมในการออกช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ และการฝึกฝนทักษะต่างๆของงานกู้ชีพกู้ภัย เช่น การปฐมพยาบาล เป็นต้น ส่วนการจับงูนั้น เป็นความชอบส่วนตัวและได้รับการฝึกฝนจากผู้เชี่ยวชาญซึ่งที่ผ่านมาเคยพาร่วมทีมออกไปช่วยเหลือจับงูที่เข้าบ้านชาวบ้านหลายครั้งแล้ว เพื่อสร้างเสริมประสบการณ์ แต่ยังไม่ปล่อยให้จับเพียงลำพังหรือด้วยตัวเอง เพราะอยากรอให้ “น้องบุญ” โตขึ้นมีประสบการณ์และถึงเวลาที่เหมาะสมมากกว่านี้ก่อน

พ่อค้าแม่ค้าที่ตลาดวโรรส อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ร้องเรียนผู้สื่อข่าวว่ามีลุงพิการน่าสงสารถูกผู้หญิงหลอกให้รัก แล้วเชิดเอาเงินไปกว่า 1.3 แสนบาทและล็อตเตอรี่ อีก 400 ใบ ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบ พบกับลุงอายุ 65 ปี พิการแขนและขาซีกขวา เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมด้วยน้ำตาว่า ก่อนหน้านี้ได้รู้จักผู้หญิงคนหนึ่งอายุราว 40 ปีต้นๆโดยมาซื้อหวยที่ตนและแวะเวียนมาหาอีกหลายครั้ง จนกระทั้งสนิทสนมและมีสัมพันธ์กัน 2 ครั้ง ต่อมาหญิงดังกล่ออกอุบายอาสานำล็อตเตอรี่งวดวันที่ 1 พฤศจิกายน 64 ไปขายให้เพราะสงสารที่ตนพิการ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้นำเงินที่ขายได้มาให้ตน นอกจากนั้นหญิงคนดังกล่าวได้แอบโอนเงินเก็บออกจากบัญชีของตนไปทั้งหมด 130,000 บาท เหลือยอดเงินไว้ให้ดูเพียง 35 บาท โดยแอบดูรหัสเข้าแอพลิเคชั่นธนาคารที่จดไว้ในสมุดวางไว้บนหัวเตียง ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นทำให้ตนเองถึงกับใจสลายเพราะเงินที่เอาไปเป็นเงินเก็บก้อนเดียวของชีวิต ไม่เคยคิดว่าคนที่คบหากันจะมาทำกันได้ลงคอ เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยบอกไปแล้วว่าเงินเก็บทั้งหมดที่มีจะมอบให้หลังจากที่ตนเองเสียชีวิต แต่ในช่วงที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ขอเก็บไว้เป็นทุนหมุนเวียนขายล็อตเติรี่ก่อน ส่วนที่หญิงคนดังกล่าวอ้างว่าเป็นภรรยาของตนนั้น ไม่เป็นความจริง เพียงแต่คบหากันเท่านั้น ซึ่งหากหญิงดังกล่าวนำหวยและเงินมาคืนก็จบๆกันไปจะไม่เอาความ เพราะมีคนทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นและได้พาไปแจ้งความที่สภ.เมืองเชียงใหม่แล้ว

ล่าสุด พล.ต.ต. ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการติดตามตัวผู้ต้องหาคือ นางสวย(นามสมมุติ) อายุ 40 ปี สัญชาติเมียนมาร์ มาพบตำรวจที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ โดยได้รับปากกับลุงว่าจะนำเงินมาคืนให้ในวันที่ 17 ธันวาคม ขณะที่ลุงบอกว่าหากนำเงินมาคืนให้ตามสัญญาจะไม่เอาเรื่องและไม่แจ้งความดำเนินคดี

นางสวย กล่าวว่าตนเองมีความสัมพันธ์เป็นภรรยาของลุง ก่อนหน้านี้ลุงบอกว่าหากเป็นเมียก็จะให้เงินทั้งหมดที่มีอยู่ เพราะอยากมีคนดูแล ก็คบหากันมาได้สี่เดือน ยืนยันว่าไม่ได้หลอกลวงแต่เป็นผัวเมียกันการให้เงินกันก็เป็นธรรมดาที่ผ่านมาดูแลมาตลอด ส่วนที่กลายเป็นข่าว เมื่อวันที่ 6 กันยายน ที่ผ่านมา ลุงเรียกให้ไปหาแต่ตนเองไม่ได้ไป ทำให้ลุงโมโหและมีคนยุให้ไปแจ้งความ ส่วนเรื่องล็อตเตอรี่ที่เอาไป เพราะอยากช่วยขาย ยอมรับว่าทั้งเงินขายหวยและเงินเก็บของลุงตนเป็นคนเอาไป เมื่อเกิดเรื่องก็จะคืนให้ แต่วันนี้ยังไม่มีเงิน จะคืนให้ในวันที่ 17 ธันวาคม และหลังจากจบเรื่องนี้ก็จะยังดูแลลุงต่อไปเพราะลุงก็เป็นคนดีและมีความผูกพันกัน แต่เมื่อตรวจสอบประวัติของนางสวย ก็พบว่ามีหมายจับค้างเก่าของ สภ.เมืองเชียงใหม่ ออกเมื่อวันที่ 30 กค 63  ข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปและเพื่อให้พ้นการจับกุม เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตามหมายจับและคุมตัวเข้าห้องคุมขังเพื่อดำเนินคดีต่อไป

พ.ต.อ.สง่า ศรีวิชัย ผกก.สภ.พร้าว จ.เชียงใหม่ พร้อมชุดสืบสวน จับกุมตัวนายผาสุข อายุ 57 ปีชาว ต.สันทราย อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ในข้อหา”ฆ่าผู้อื่น “พร้อมของกลางอาวุธปืนลูกซอง 5 นัด ทะเบียน กท 60702437 จำนวน 1 กระบอก ปลอกกระสุนขนาดเบอร์ 12 จำนวน 1 ปลอก และกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 44 นัด

สืบเนื่องมาจากเมื่อช่วงดึกวันที่ 4 ธ.ค.64 ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาได้โทรศัพท์ไปหาน.ส.สวย(นามสมมุติ) อายุ 37 ปี ทำให้นายดำรงค์พล ซึ่งเป็นสามีไม่พอใจจึงบุกไปหานายผาสุข ที่บ้านและมีปากเสียงเกือบมีการชกต่อยกันขึ้น นายผาสุข เข้าไปในบ้านคว้าปืนลูกซองยิงใส่ถูกลำคอนายดำรงค์พล จนล้มลงและเสียชีวิต นอกจากนั้นกระสุนได้กระจายไปถูกเพื่อบ้านและ น.ส.สวย ที่คอยห้ามปรามได้รับบาดเจ็บด้วย

ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 พล.ต.ต. ชินวิช วิชัยธนพัฒน์ ผบก.ภ.จว.เชียงราย พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 พล.ต.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผบ.กกล.ผาเมือง นายไกรเลิศ ดาวเรือง ผอ.ป.ป.ส.ภาค 5 ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญจำนวน 4 คดีได้ของกลางยาบ้ารวมกว่า 7,470,000 เม็ด และ ยาไอซ์ 74 กก.โดยคดีแรกชุดสืบสวนภาค 5 ร่วมกับตำรวจ สภ.วังเหนือ จ.ลำปาง ตั้งด่านสกัดจับขบวนการค้ายาเสพติดที่ถนนสายวังเหนือ-พะเยา หน้า สภ.วังเหนือ จ.ลำปาง หลังสืบทราบว่าเครือข่ายป๋อลี จะลำเลียงยาล็อตใหญ่ข้ามแม่น้ำโขง และนำยาส่งสู่ภาคใต้ ส่งออกประเทศที่ 3 จับนายบุญชัย แซ่หมี อายุ 29 ปี นายกล้า รักษ์แม่ละเมา อายุ 25 ปี ทั้งคู่เป็นชาว อ.พบพระ จ.ตาก ขณะขับรถยนต์ ทะเบียน 1 ฒฎ-7487 กทม. พอเจอด่านเร่งเครื่องรถพุ่งชนด่านตรวจ และเฉี่ยวชน ร.ต.อ.คมสันต์ ติดสนิท รอง สว.สส.สภ.วังเหนือ ได้รับบาดเจ็บ ก่อนรถคนร้ายเสียหลักลงข้างทางเจ้าหน้าที่จับกุมทั้งสองไว้ได้ ค้นในรถพบยาบ้าจำนวน 5,646,000 เม็ด จากการสอบสวนทั้งสองเคยต้องคดีค้ายา พึ่งพ้นโทษออกมาได้ 1 ปี ก็มาทำงานกับเครือข่ายป๋อลี่อีก จึงแจ้งข้อหา”ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน และขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ ” ต่อไป พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 เปิดเผยว่าสำหรับเครือข่ายนายบุญชัย หรือป๋อลี แซ่มัว ราชายาเสพติดภาคเหนือในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาทางตำรวจ เราสกัดจับยาในเครือข่ายของนายบุญชัย หรือป๋อลี ได้จำนวนกว่า 50 ล้านเม็ดแล้ว แม้ตัวนายป้อลี่ จะมีหมายจับกว่า 10 หมายและหลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน ทางเราก็ดำเนินการยึดทรัพย์นายป๋อลี ได้กว่า 500 ล้านแล้วและยังมีอีกมากกำลังดำเนินการเพิ่มเติม และจะประสานทางการต่างประเทศจับกุมตัวอยู่ ส่วนร.ต.อ.คมสันต์ ขณะนี้ผ่าตัดเสร็จเรียบร้อยอาการปลอดภัยซึ่งจะได้พิจารณาปูนบำเหน็จและให้การช่วยเหลือต่อไป

คดีที่สองทางชุดสืบสวนจ.เชียงราย ทราบว่าจะมีขบวนการค้ายา นำยาบ้าไปส่งที่บริษัทส่งของเอกชนใน อ.เมือง จ.เชียงราย จึงนำกำลังไปตรวจสอบก็พบ นายสุริยันห์ กันทะเนตร อายุ 38 ชาว อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา นำกล่องบรรจุยาบ้าจำนวน 1,000,000 เม็ดมาส่งปลายทางไปสงขลา ทางเจ้าหน้าที่จึงจับกุมพร้อมยึดของกลาง คดีที่สาม ชุดสืบสวนภาค 5 ร่วมกับตำรวจ สภ.เชียงแสน จ.เชียงราย และเจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังผาเมือง ตรวจยึดยาบ้าจำนวน 384,000 เม็ด และ ยาไอซ์  74 กก. โดยตั้งด่านตรวจบ้านแม่มะ หมู่ 1 ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน จ.เชียงราย  พบรถยนต์ ทะเบียน กม 490 นนทบุรี ขับมาจึงเรียกให้หยุดแต่คนขับรถกลับทิ้งรถวิ่งเข้าป่าหลบหนีไป และคดีที่สี่ ตำรวจสภ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ตั้งจุดสกัด บ้านสามแยกอาข่า หมู่ 24 ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ต่อมาได้มีนายสมาน แซ่หลู่ อายุ 27 ปี ชาว อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ขับขี่รถรถยนต์ ทะเบียน ขค 153 เชียงราย จึงเรียกตรวจก็พบยาบ้าจำนวน 4.4 แสนเม็ดซุกซ่อนในช่องดัดแปลงบริเวณเบาะหลังรถ จึงจับกุมตัวไว้ดำเนินคดีและขยายผลจับกุมต่อไป

4 ธ.ค. กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ลักษณะอากาศทั่วไป 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทย ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดกับมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-12 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วย สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลง

ที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างแม่สา อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ที่มีฃ้างมากถึง 70 เชือก และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ นางอัญชลี กัลมาพิจิตร ผู้บริหารปางช้างแม่สา ได้ให้ควาญช้างนำผ้าห่มที่ตัดเย็บต่อกันเป็นผืนใหญ่ ขนาดเท่าลำตัวช้าง ออกมาแจกจ่ายให้ควาญช้างเพื่อนำใส่คลุมให้บรรดาช้างในปางช้าง จำนวน 70 เชือกที่ยืนรอต้อนรับนักท่องเที่ยวเพื่อสร้างความอบอุ่น ท่ามกลางอุณหภูมิที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเช้าวันนี้วัดได้ 10 องศา และมีแนวโน้มจะหนาวเย็นลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ช้างไม่ลงอาบน้ำและบางเชือกไม่ยอมกินน้ำ ซึ่งถือเป็นอาการปกติเมื่อช้างต้องเจอกับความหนาวเย็น ส่วนช้างบางเชือกที่ไม่ยอมคลุมตัวด้วยผ้าห่ม ควาญช้างก็ต้องแก้ไขสถานการณ์ด้วยการก่อกองไฟให้ช้างผิงเพื่อสร้างความอบอุ่น

ส่วนที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เช้าวันนี้มีนักท่องเที่ยวเกือบ 3,000 คน แห่ขึ้นดอยไปสัมผัสอากาศหนาว ชมทะเลหมอกยามเช้าและแสงอาทิตย์แรกของวันใหม่ วันนี้อุณหภูมิยอดดอยลดลงเหลือแค่ 2 องศาเซลเซียส ทำให้เกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ”เหมยขาบ” หรือน้ำค้างแข็งหรือแม่คะนิ้ง สร้างความประทับใจให้กับบรรดานักท่องเที่ยวที่เดินทางขึ้นไปท่องเที่ยวสัมผัสอากาศหนาวในเช้าวันนี้เป็นอย่างมาก

ที่กองบัญชาการตำรวรภูธรภาค5พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 พร้อมด้วยทหารกองกำลังผาเมือง ฝ่ายปกครองจังหวัดเชียงราย และ เจ้าหน้าที่ ปปส.ภาค 5 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายอลงกรณ์ อายุ 53 ปี และนางกมลธร อายุ 51 ปี สองสามีภรรยา ชาว จ.นครปฐม พร้อมของกลางยาบ้า 2,664,000 เม็ด และ เคตามีน 1 กิโลกรัม รถยนต์ปิ๊กอัพ ยี่ห้อฮีซูซุ ทะเบียน 2 ฒว 7275 กทม. 1 คัน ดำเนินดคีข้อหา”มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าและเคตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”

สืบเนื่องตำรวจชุดสืบสวนภาค 5 สืบทราบจะมีขบวนการค้ายาเสพติดลักลอบลำเลียงยาเสพติดล็อตใหญ่จากโรงงานผลิตประเทศเมียนมา ขนมาส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ตอนกลางของประเทศ จึงตั้งด่านสกัดจับที่ด่านตรวจยาเสพติดป่าตึง อ.แม่ลาว จ.เชียงราย ต่อมาได้มีรถยนต์คันดังกล่าซึ่งดัดแปลงเป็นรถบบรทุกตู้แช่แข็ง จึงให้หยุดทำการตรวจค้นก็พบผู้ต้องหาทั้งสองนั่งมาในรถ ตรวจค้นด้านหลังห้องเก็บของพบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ สอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองคนรับสารภาพว่ารับจ้างนายทุนจากกรุงเทพฯราคา 120,000 บาท ให้ขับรถขนส่งอาหารทะเล ซึ่งพวกตนมีอาชีพขนของทะเลจากภาคตะวันออกมาส่งในพื้นที่ภาคเหนืออยู่แล้ว พอส่งของเสร็จให้นำรถไปจอดไว้ที่ชายแดน อ.แม่สาย ก่อนจะมีกลุ่มคนขนของขึ้นรถ และให้พวกตนขับนำของดังกล่าวไปส่งที่กรุงเทพฯแต่ถูกจับกุมดังกล่าว

สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) โดยสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี มอบของขวัญพ่อเที่ยวฟรี พร้อมสิทธิพิเศษสำหรับผู้ที่เกิด วันที่ 5 ธันวาคม รับส่วนลด 50% ในวันที่ 5 ธันวาคม 2564 นี้ โดยนายสายสิทธิ์ เจตสิกทัต ปฏิบัติหน้าที่แทน ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร เปิดเผยว่า เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้เล็งเห็นความสำคัญในการส่งเสริมบทบาทหน้าที่ของพ่อ และการสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว ให้ลูกได้มีโอกาสแสดงความกตัญญูต่อพ่อ โดยการใช้เวลาร่วมกัน ในการพาคุณพ่อเที่ยวเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ยังมอบสิทธิพิเศษให้กับผู้ที่เกิดวันที่ 5 ธันวาคม รับส่วนลด 50% ในวันที่ 5 ธันวาคม 2564 ตลอดทั้งวัน

สำหรับคุณพ่อและผู้ที่เกิดวันที่ 5 ธันวาคม สามารถรับสิทธิ์การเที่ยวชมเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ได้โดยจอผ่านwww.chiangmainightsafari.com ล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน และนำหลักฐานการจอง พร้อมหลักฐานสำหรับผู้ที่เกิดวันที่ 5 ธันวาคม มาแสดงรับสิทธิ์เที่ยวชมเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เมื่อมาใช้บริการเฉพาะในวันที่ 5 ธันวาคม เท่านั้น ซึ่งสามารถเข้าเที่ยวชมได้ ตั้งแต่เวลา 11.00 – 21.00 น. โดยการให้บริการนั่งรถชมสัตว์แบ่งออกเป็น 2 รอบ คือ รอบบ่าย เวลา 13.30 – 16.00 น. และรอบกลางคืน เวลา 17.30 -21.00 น. ทั้งนี้ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน SHA Plus จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และได้รับการรับรองมาตรฐานแหล่งท่องเที่ยวเพื่อนันทนาการระดับดีเยี่ยม ประจำปี 2564 จากกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นักท่องเที่ยวสามารถมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยในการเข้าใช้บริการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ โทร. 053-999000 หรือทุกช่องทางโซเชียลมีเดีย Facebook : เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี Chiang Mai Night Safari, LineOA : @nightsafari, Tiktok และ IG : chiangmainightsafari