ทหารผาเมืองจับหนุ่มปายขนยาบ้า1,252,000 เม็ดเฮโรอีน8.75กก.ที่ชายแดนเชียงดาว

พล.ต. นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผบ.กองกำลังผาเมือง เปิดเผยว่า กองกำลังผาเมือง โดยกองร้อยทหารม้าที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 4 จัดกำลัง 1 ชุดปฏิบัติการร่วมกับ ขกท.กกล.ผาเมือง, นฝด.1, ป.ส.ส.ภาค 5 และ กองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 3 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ตั้งจุดตรวจสกัดกั้น บริเวณ ถนนหมายเลข 1178 บ้านโล๊ะป่าหาญ ม.4 ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ได้ตรวจพบรถยนต์ยี่ห้อ อีซูซุ ทะเบียน ผฉ 4560 เชียงราย จึงได้ส่งสัญญาณให้หยุดเพื่อขอตรวจค้น ผลการปฏิบัติสามารถจับกุมผู้ต้องหา ได้จำนวน 1 คน คือ นายนาวิน พิศาลวัฒนา อายุ 52 ปี ที่อยู่ ม.7 ต.เวียงใต้ อ.ปาย จแม่ฮ่องสอน พร้อมของกลางยาบ้า 1,252,000 เม็ด และเฮโรอีน 8.75 กิโลกรัม จึงควบคุมตัวไว้เพื่อสอบสวนขยายผลถึงผู้ร่วมบงการมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

สืบสวนภาค5บุกค้นหมู่บ้านเป้าหมายรวบ6ผู้ต้องหาพร้อมของกลางอาวุธปืนและยาบ้า

พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 พ.ต.อ.ไพโรจน์ ทองขาว ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.5 พร้อมชุดสืบสวนภาค 5 ระดมกำลังตำรวจกว่า 50 นาย ปฏิบัติตามนโยบายของ ผบ.ตร. และ ผบช.ภาค5 กวาดล้างอาญชกรรมและยาเสพติด โดยร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ทำการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 6 คนพร้อมของกลางอาวุธปืนแก๊ปยาว จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนสั้น จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืนแก๊ป จำนวน 1 ชุด อาวุธปืนลูกโม่สั้น ยี่ห้อ CADIX ขนาด .22 มม. จำนวน 1 กระบอก ซองพกปืนสั้นสำดำ จำนวน 1 ซอง อาวุธปืนลูกซองยาวเบอร์ 12 ไม่มีหมายเลขทะเบียน จำนวน 1 กระบอกอาวุธปืนแก๊ปยาวไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนลูกซอง ขนาดเบอร์ 12 จำนวน 8 นัด และยาบ้าจำนวน 154 เม็ด นำตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนสภ.ฮอด ดำเนินดคีตามกฏหมายต่อไป

กู้ภัยชาวบ้านช่วยกันจับจระเข้ขนาดใหญ่หลุดจากบ่อเลี้ยงซุกตัวพงหญ้าข้างทางเดชะบุญยังไม่กัดทำร้ายใคร

 

เจ้าหน้าที่กู้ภัยเทศบาลเมืองแม่โจ้ ได้รับแจ้ง พบจระเข้ในป่าหญ้า ใกล้ฟาร์มแห่งหนึ่ง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ จึงไปตรวจสอบ พบจระเข้ขนาดใหญ่ ยาวประมาณ 2 เมตร นอนอยู่บริเวณพงหญ้าข้างทาง จึงใช้อุปกรณ์พยายามช่วยกันจับโดยใช้เวลานานกว่า 20 นาทีจึงจะสามารถจับจระเข้ดังกล่าวไว้ได้ เบื้องต้นคาดว่าจระเข้ตัวดังกล่าวน่าจะหลุดมาจากบ่อเลี้ยงบริเวณที่อยู่ใกล้ๆกับที่พบตัว โชดดีที่ชาวบ้านพบตัวก่อนโดยที่ยังไม่ได้กัดทำร้ายใคร ซึ่งจะได้นำไปมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการต่อไป

จับยกแก๊งเสื้อฮู้ดรวบหัวหน้าและลูกสมุนหลังก่อเหตุซิ่งยามค่ำคืนไล่ทุบชาวบ้านทั่วเมืองเชียงใหม่-ลำพูน

ที่ห้องประชุมใหญ่ กองบัญชาการจตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.สส.ภ.5 พ.ต.อ.นพฤทธิ์ กันทา ผกก.สส.ภ.จว. เชียงใหม่ พ.ต.อ.พงษ์ธรรศ เจริญปรีชญาพงษ์ ผกก.สภ.สันป่าตอง ร่วมการแถลงข่าวการจับแก๊งวัยรุ่นแก๊งซีซาร์-เฮอริเคน หรือกลุ่มเสื้อฮู้ด จำนวน 10 คน โดยนายปฏิภาณ หรือซีซ่า อายุ 24 ปี ชาว จ.ลำพูน เหัวหน้าแก๊ง และสมาชิกแก๊งเป็นเยาวชน อายุ 15-16 ปี จำนวน 9 คน ดำเนินคดีข้อหา” ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการวิ่งราวทรัพย์ ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และ มั่วสุมตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือ ทำการอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง”คดีนี้สืบเนื่อง เมื่อต้นเดือนตุลาคม ที่ผ่านมามีกลุ่มวัยรุ่นร่วมณ 20 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกตระเวนทำร้ายร่างกายประชาชนที่สัญจรไปมา ในพื้นที่ จ.ลำพูน และ อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ในยามค่ำคืน มีชาวบ้านประชาชนถูกแก๊งนี้ทำร้ายได้รับบาดเจ็บและถูกชิงทรัพย์ร่วม 10 กว่ารายสร้างความเดือดร้อนและหวาดกลัวจนชาวบ้านไม่กล้าออกจากบ้านในยามค่ำคืน และหลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ติดตามจับกมตัวมาดำเนินคดี

พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 เปิดเผยว่า แก๊งนี้มีนายปฏิภาณ เป็นหัวหน้าครอบครัวมีฐานะส่งเงินให้ใช้เดือนละเป็นแสนบาท แต่นำมาเลี้ยงดู กลุ่มวัยรุ่นและขับขี่รถเล่นกัน พอนานไปกลุ่มก็มีสมาชิกกว่า 100 คน และเริ่มรวมตัวไปตามสถานที่ต่างๆ เวลาเจอคนอื่นก็ไปไล่ทำร้ายร่างกาย จนได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งชิงทรัพย์เช่นโทรศัพท์มือถือของเหยื่อไปด้วย เมื่อวันที่ 24 เม.ย.64 พื้นที่อ.สารภี จ.เชียงใหม่ รวมกลุ่มกัน 35 คนไล่ทำร้ายประชาชนมีผู้บาดเจ็บ วันที่ 4 ส.ค.64 รวมกลุ่มกัน 14 คนไล่ทำร้ายร่างกายประชาชนในพื้นที่อ.เมือง จ.ลำพูน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ วันที่ 8 ต.ค.64 รวมกลุ่มกัน 20 คนไล่ทำร้ายประชาชนในพื้นที่อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ มีประชาชนได้รับบาดเจ็บ 5 คน จากการสอบสวนทำไปเพราะความคึกคะนอง มีคนมาก ถือเป็นภัยสังคมเป็นแบบอย่างที่ไม่ดี ส่วนเพื่อนร่วมแก๊งที่เหลือก็จะสืบสวนติดตามจับกุมต่อไป จึงอยากฝากเตือนพ่อแม่ผู้ปกครองให้ดูแลบุตรหลานให้ดีหากออกมาก่อเหตุ สร้างความเดือดร้อน ผู้ปกครองจะมีความผิดตามกฏหมายไปด้วย

ผบช.ภาค5แถลงโชว์ผลงานจับกุมแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่

ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.ชินวิช วิชัยธนพัฒน์ ผบก.ภ.จว.เซียงราย พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร ปปส. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญ ผู้ต้องหา 9 คนของกลางยาบ้า 2,006,000 เม็ดยาไอซ์ 67 ก.ก. เฮโรอีน 7 ก.ก.

ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 สืบทราบว่าว่านายเรวัต อายุ 37 ปี ชาว จ.กาญจนบุรี ผู้ต้องหาตามจับคดียาเสพติด ของศาลจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมกับพวกลักลอบยาเสพติดล็อดใหญ่จากชายแดนอ.แม่สาย จ.เชียงราย ใช้รถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า สีขาว ทะเบียน 1ขฬ 7383 กรุงเทพมหานคร เข้าสู่พื้นที่ จ.นครปฐม โดยมีรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า สีดำ ติดแผ่นป้ายทะเบียน สีแดง ก 4369 เชียงใหม่ ขับติดตามมา กระทั่งมาถึงด่านตรวจท่าก้อ สภ.แม่สรวย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่จึงสกัดไว้ ค้นรถก็พบผู้ต้องหาคือนายเรวัต นายธีรวัฒน์ อายุ 23 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ น.ส.รุ่งทิวา อายุ 34 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ และ น.ส.นารีรัตน์ อายุ 25 ปี ชาวจ.ลำพูน และนายสงกรานต์ อายุ 22 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ ตรวจค้นภายในรถ พบยาบ้า 310,000 เม็ด ยาไอซ์ 58 กิโลกรัม เฮโรอีน 7 กิโลกรัม

นำตัวมาสอบสวนทราบว่ายังมีว่ามีรถยนต์ ยี่ห้อเกียร์ ทะเบียน ชฎ 4095 กรุงเทพมหานคร อีกคันขนยาเสพติดมาในล็อตเดียวกันจึงสกัดจับได้ที่ สามแยกสันทราย ต.สันทราย อ.เมือง จ.เชียงราย พร้อมนายอาทิตย์ทอง อายุ 37 ปี ชาวกรุงเทพฯ นายชัยพร อายุ 29 ปี ชาวจ.กาญจนบุรี ค้นในรถพบยาไอซ์ จำนวน 9 กก. ยาบ้า 1,696,000 เม็ด โดยรับสารภาพว่าไปรับรถกับยามาจากแหล่งพักยาใน อ.ดอยหลวง จ.เชียงราย จึงขยายผลไปจับกุมตัว นายบรรจง อายุ 64 ปี และนายธีราวุฒิอายุ 39 ปี ทั้งคู่เป็นชาว จ.เชียงราย จตึงควบคุมตัวทั้งหมดพร้อมของกลางไว้ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

 

ปลายฝนต้นหนาวเปิดประเทศเยือนถิ่น”เวียงพิงค์”เที่ยวเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีสุขใจปลอดภัยทั้งครอบครัว

นายสายสิทธิ์ เจตสิกทัต ปฏิบัติหน้าที่แทน ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร เปิดเผยว่า สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) โดย เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ซึ่งในเดือนตุลาคมนี้ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีจะเปิดให้บริการทุกวัน ประชาชนทุกคนจะได้รับส่วนลดพิเศษ 50% ตลอดเดือนตุลาคม โดยยังคงจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว และให้บริการตามมาตรการป้องกัน การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายใต้มาตรฐาน SHA อย่างเข้มงวด ซึ่งจะเปิดให้บริการสำหรับกิจกรรมการนั่งรถชมสัตว์ และกิจกรรมการแสดงต่างๆ ลงทะเบียนจองเข้าชมออนไลน์เท่านั้น ที่ https://faceticket.net/queues/nightsafari/ หรือ http://www.chiangmainightsafari.com

ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถมั่นใจได้ถึงความปลอดภัย ในการเข้าใช้บริการ ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวสัสโควิ- 19 จากผู้ให้บริการที่ได้รับการฉีดวัคซีนจำนวนครบ 2 เข็มแล้ว รวมทั้งขอความร่วมมือนักท่องเที่ยว สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดการเข้าเที่ยวชม รวมทั้งปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่าง และการตรวจวัดอุณหภูมิ ด้วยกล้องโทรทัศน์ตรวจจับความร้อน ก่อนการเข้าใช้บริการทุกครั้ง

นายสายสิทธิ์ ยังเปิดเผยว่า หลังจากที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้ปิดปรับปรุงโซนจากัวร์เทรล ซึ่งเป็นเส้นทางเดินชมสัตว์ธรรมชาติ ในระยะทางกว่า 1.2 กิโลเมตร เพื่อปรับปรุงพื้นที่และส่วนแสดงต่างๆ ให้มีความปลอดภัยกับนักท่องเทีี่ยว รวมทั้งเป็นการฟื้นฟูธรรมชาติในโซนนี้ด้วย และขณะนี้พร้อมเปิดให้บริการแล้ว ซึ่งเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาวที่เส้นทางเดินชมสัตว์จะมีความสวยงามที่สุดจากความเขียวขจี และสภาพอากาศที่เริ่มเย็นลง สร้างความรู้สึกผ่อนคลายและสดชื่นตลอดเส้นทาง โดยในเส้นทางเดินชมสัตว์นี้จะได้พบกับสมาชิกสัตว์กว่า 57 ชนิด จากทั่วโลก รวมทั้งเสือทั้ง 8 สายพันธุ์ที่หายาก ประกอบด้วย คาราเคิล, เสือจากัวร์, เซอวอล, แมวดาว, เสือดำ, เสือปลา, เสือไฟ และเสือลายเมฆ ให้นักท่องเที่ยวได้ทำความรู้จักกับเหล่าเสือเล็กและแมวใหญ่เหล่านี้อย่างใกล้ชิดด้วย

นอกจากนี้ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้เปิดให้บริการพิเศษเฉพาะวันหยุดยาวในวันที่ 21 – 24 ตุลาคม 2564 โดยเพิ่มรอบให้บริการ ตั้งแต่เวลา 10.00 – 22.00 น. (ปิดจำหน่ายบัตร เวลา 21.00 น.) จากปกติ เวลา 13.00 – 21.00 น. เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ อีกทั้งยังได้มอบส่วนลด 50% สำหรับบัตรเข้าชม ตลอดเดือนตุลาคมนี้ และเพื่อเป็นการให้บริการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน SHA ยังคงจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว และจะต้องลงทะเบียนจองการเข้าชมล่วงหน้าผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น พร้อมทั้งมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยในการเข้าใช้บริการจากผู้ให้บริการที่ได้รับการฉีดวัคซีนจำนวนครบ 2 เข็มแล้ว และขอความร่วมมือนักท่องเที่ยว สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดการเข้าเที่ยวชม

สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าเที่ยวชม เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี สามารถลงทะเบียนจองออนไลน์ ได้ที่ www.chiangmainightsafari.com หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 053 – 99900 หรือ Facebook : https://www.facebook.com/chiangmainightsafarifanclub, IG: https://bit.ly/3nhUqs0, LINE: https://lin.ee/h0yOnXF และ TIKTOK: https://vt.tiktok.com

ตร.ภาค5บุกจับแหล่งพนันออนไลน์เชียงใหม่

พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตำรวจภูธรภาค 5 จับกุมตัวนายณัฐวุฒิ อายุ 25 ปีชาว จ.เชียงราย และเยาวชนหญิง 1 ราย พร้อมของกลางคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คจำนวน 3 เครื่อง นำตัวดำเนินดคีข้อหา”ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดย ทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานหรือรับ อนุญาตแล้วแต่เล่นพลิกแพลง หรือผู้ใดเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นอันขัดต่อบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ หรือกฎกระทรวง หรือข้อความในใบอนุญาต ตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 12″

เจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตำรวจภูธรภาค 5 สืบทราบว่าที่บ้านเลขที่ 105 หมู่ 9 ต.สันผีเสื้อ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ มีกลุ่มบุคคลเช่าบ้านหลังนี้เป็นบ่อนพนันออนไลน์ จึงเข้าตรวจสอบก็พบผู้ต้องหาทั้งสองกำลังนั่งจัดโปรโมชั่นทางคอมพิวเตอร์ และเชิญชวนให้คนเข้ามาเล่นเว็ปพนัน สอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพว่าทำหน้าที่เป็นการตลาดของเวปไซด์ พึ่งเปิดได้ราวๆ 2 เดือนมีสมาชิกกว่า 100 คน ได้เงินเดือนคนละ 1 หมื่นบาท โดยมีหน้าที่จัดโปรโมชั่น เชิญชวนลูกค้าตามเฟสบุ๊ก เวปไซด์ต่างๆ โดยมีนายทุน ว่าจ้างให้ทำงานอีกทีซึ้งเจ้าหน้าที่จะได้ขยายผลการจับกุมกวาดล้างเครือข่ายที่เกี่ยวข้องต่อไป

นักศึกษาสาวโร่ร้องทุกข์โดนจิ้งจอกสังคมปลอมตัวเป็นกระเทยหลอกถ่ายพอได้คลิปโป๊เผยตัวตนเป็นชายทั้งแท่งขู่ขอร่วมหลับนอนด้วยหากไม่ยอมจะถูกแชร์คลิปว่อนโลกออนไลน์

ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่  น.ส. สวย (นามสมมุติ) อายุ 19 ปีนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เข้าร้องทุกข์กับ พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พ.ต.อ.นพฤทธิ์ กันทา ผกก.สส.ภ.จว.เชียงใหม่ หลังถูกชายที่ทำโปรไฟล์ในเฟสบุ๊คเป็นกระเทย อ้างเป็นโมเดลลิ่งดัง หลอกถ่ายโป๊ท่อนบนในชุดนักศึกษา อ้างว่าจะจ้างทำงานให้ค่าตอบแทนสูง พอได้รูปไป กลับเป็นผู้ชายข่มขู่ขอร่วมหลับนอนด้วย และขอถ่ายท่อนล่างเพิ่ม ถ้าไม่ยอมจะถูกนำภาพไปเผยแพร่ในโลกออนไลน์

น.ส.สวย ร้องทุกข์ว่า ตนถูกมิจฉาชีพใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Gunyaporn Srisuwan” มีรูปโฟรไฟล์ เป็นสาวประเภทสอง ติดต่อเข้ามาพูดคุยทางวิดีโอคอล แต่ไม่ยอมเปิดกล้องฝั่งตัวเอง โดยทำทีอ้างเป็นโมเดลลิ่งใหญ่ มีสมาชิกสาวๆที่ทำงานกับตนเองจำนวนมาก และต้องการว่าจ้างให้ไปถ่ายแบบชุดนักศึกษาแล้วหลอกล่อให้ถอดเสื้อผ้าอ้างว่าเพื่อดูรูปร่างสัดส่วน ซึ่งตัวเองหลงเชื่อ เพราะคิดว่าเป็นกระเทย คงไม่เป็นไร อีกทั้งอยากได้งาน ได้เงิน เพราะต้องส่งตัวเองเรียนหนังสือ จึงเปิดกล้องให้ดูสัดส่วนท่อนบน แต่กลับถูกแอบบันทึกคลิปวาบหวิวท่อนบนไว้ จากนั้นมิจฉาชีพได้ข่มขู่ให้ถอดทั้งหมด และขอมีเพศสัมพันธ์ด้วย และเปิดเผยตัวตนว่าเป็นผู้ชายแท้ ไม่ใช่กระเทย หากตนยอมทำตาม ก็จะลบคลิปที่ได้มาทิ้ง หากไม่ยอมก็จะนำคลิปที่บันทึกไว้ไปเผยแพร่ ตนยอมรับว่าอยากได้เงินเพราะเขาหลอกว่าจะให้ค่าตอบแทนหลักหมื่น แต่กลับโดนหลอก และขอดำเนินดคีกับคนร้ายให้ถึงที่สุด

พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เปิดเผยว่าเรื่องที่เกิดขึ้นตนได้ให้พนักงานสอบสวนลงบันทึกรับแจ้งความไว้ และมอบหมายให้ชุดสืบสวนเร่งติดตามไล่ล่าตัวคนร้ายมาคดีมาดำเนินดคี เพราะถือเป็นภัยสังคมและจากการสอบถามผู้เสียหาย น่าจะมีเหยื่อที่ถูกหลอกลวงลักษณะนี้อีกหลายราย และไม่ยอมมาแจ้งความเพราะอาย จึงอยากให้ออกมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการเอาผิดกับคนร้ายเพิ่ม คดีนี้มั่นใจจับตัวคนร้ายได้ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ กล่าวในที่สุด

หนุ่มไต้หวันพ่ายปัญหาชีวิตรมควันดับคาเก๋ง

พ.ต.ท.เด่นดวง ศรีคำ พนักงานสอบสวน สภ.แม่ปิงจ.เชียงใหม่ รับแจ้งเหตุมีคนรมควันเสียชีวิตภายในรถ เหตุเกิดด้านหน้าอาบอบนวดแพนโดร่า ต.วัดเกตุ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จึงรายงานให้ผู้บังคบบัญชาทราบแล้วรุดไปสอบสวนยังที่เหิกดเหตุพร้อมพวก

พบรถยนต์เก๋งมาสด้า 3 สีขาว ทะเบียน งล 5349 เชียงใหม่ บริเวณที่นั่งคนขับพบศพชาย ชาวไต้หวัน อายุ 31 ปีสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้นสีครีม มีการสักยันต์ทั่วตัว ตามร่างกายไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย ที่วางเท้าด้านหน้าเบาะข้างคนขับ พบเตาย่าง 1 เตา มีร่องรอยของการจุดไฟและเศษขี้เถ้า คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 12 – 24 ชั่วโมง สอบสวนเบื้องต้นทราบว่าผู้เสียชีวิต มีภรรยาเป็นคนไทยและมีลูกน้อยด้วยกันอายุ 1 เดือนเศษ ผู้ตายเปิดร้านจำหน่ายวัตถุมงคลอยู่ที่ประเทศใต้หวัน และเดินทางไปมาระหว่างเชียงใหม่กับใต้หวันเป็นประจำ ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้บ่นหรือเล่าปัญหาชีวิตให้ใครฟัง จนกระทั่งมาก่อเหตุฆ่าตัวตายในครั้งนี้ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนหาสาเหตุที่ตัดสินใจรมควันฆ่าตัวตายที่แน่ชัดอีกครั้ง

ไฟไหม้ร้านค้ากลางดึกเสียหายหลายแสนบาท

ร.ต.อ.อำนวย บริคุต ร้อยเวร สภ.แม่โจ้ จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ บ้านเลขที่ 180/1 หมู่ 10 บ้านเกษตรใหม่พัฒนา ต.หนองหาร  อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปสอบสวนพร้อมพวก พบเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังฉีดน้ำสกัดไฟที่กำลังลุกไหม้ส่วนด้านหน้าของบ้าน ซึ่งเปิดเป็นร้านค้าขายของชํา ใช้เวลานานกว่า 30 นาทีที่จะสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้

จากสอบสวนเจ้าของบ้านเปิดเผยว่า ก่อนเกิดได้พักอาศัยอยู่ในบ้านพร้อมครอบครัว ได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิดบริเวณส่วนหน้าของบ้านที่เปิดเป็นร้านค้า จึงวิ่งออกมาดูพบเพลิงลุกไหม้พร้อมตะโกนเรียกให้ชาวบ้านมาช่วยกันดับ ก่อนจะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้ามาให้การช่วยเหลือดังกล่าว เบื้องต้นสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้น่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ส่วนค่าเสียหายคาดว่าจำนวนหลายแสนบาท ซึ่งจะได้ประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการเข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ที่แน่ชัดอีกครั้ง