แม่ทัพภาคที่3ลงพื้นที่คุมเข้มป้องกันโควิด19พื้นที่ชายแดนเชียงใหม่- เชียงราย

23 ธ.ค.63 พลโท อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 ได้เดินทางมาตรวจมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ในพื้นที่ชายแดนจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงราย โดยในพื้นที่อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ได้ตรวจเยี่ยมด่านคัดกรองชั่วคราวในระดับตำบล ที่บ้านห้วยปู ต.ท่าตอน ก่อนที่จะเดินทางไปตรวจเยี่ยมการตรวจประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัสโควิด 19 โดยรถพระราชทาน บริเวณ เทศบาลตำบลแม่อาย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนในอำเภอแม่อาย ได้ปฏิบัติตามมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 โดยการจำกัดการเดินทางของประชาชนในพื้นที่ ต.ท่าตอน ต.มัลลิกา และ ต.แม่อาย โดยการตั้งจุดตรวจในเขตติดต่อทั้ง 3 ตำบล การตรวจเชื้อโดยรถตรวจเชื้อโควิด 19 พระราชทาน ในประชาชนกลุ่มเสี่ยง ในห้วง 21 – 23 ธ.ค.63 รวมไปถึงการตรวจคัดกรองก่อนเข้าตามสถานที่ต่างๆ อย่างเข้มงวด

จากนั้นได้เดินทางไปตรวจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทหารของกองกำลังผาเมือง ซึ่งเป็นการปฏิบัติภารกิจในการสกัดกั้นผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ตามช่องทางท่าข้ามธรรมชาติในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.ชียงราย ซึ่งในช่วงเดือนที่ผ่านมา กองกำลังผาเมืองได้มีการยกระดับความเข้มข้นในการสกัดกั้น โดยการเพิ่มเติมกำลังจำนวน 2 กองร้อย ในพื้นที่ชายแดนอ.แม่สาย และอ.เชียงแสน จังหวัดเชียงราย รวมถึงการปฏิบัติการ Re X-ray ตาม บ้านเช่า หอพัก สถานประกอบการ หรือร้านค้า เพื่อตรวจสอบบุคคลต่างด้าวกลุ่มเสี่ยง นอกจากนี้ ยังได้ประสานงานกับประเทศเมียนมา ในการขอความร่วมมือในการอำนวยความสะดวกในการส่งตัวคนไทยกลับเข้าประเทศ และการสกัดกั้นผู้ลักลอบผ่านแดนโดยผิดกฎหมาย ผ่านกลไกคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย – เมียนมา หรือ TBC ซึ่งที่ผ่านมามียอดผู้ที่กลับเข้าประเทศและเข้าสู่กระบวนการกักตัวแล้ว จำนวน 204 คนแล้ว

เชียงใหม่อากาศหนาวเย็นบนดอยอินทนนท์ยิ่งยะเยือกอุณหภูมิ0องศา

เช้าวันนี้ 22 ธ.ค.63 ที่อุทยานแห่งชาติอินทนนท์ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ เช้าวันนี้ได้เกิดปรากฎการณ์เหมยขาบหรือน้ำค้างแข็งบนยอดหญ้าและหลังคารถที่จอดทิ้งไว้อีกซึ่งถือว่าเป็นการเกิดเหมยขาบครั้งที่ 13 ของฤดูหนาวปีนี้อุณหภูมิยอดดอยวัดได้ 0 องศาเซลเซียส นักท่องเที่ยวจำนวนกว่า 3,000 คนที่ขึ้นไปสัมผัสอากาศหนาวต่างตื่นเต้นที่ได้เห็นเหมยขาบ ที่เกิดขึ้นวันนี้ซึ่งไม่เพียงแต่ที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์เท่านั้นที่เย็นยะเยือก บริเวณพื้นราบหลายอำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ อุณหภูมิวัดได้ 8-14 องศาเซลเซียส นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับอากาศที่หนาวเย็น ดูปรากฏการณ์ธรรมชาติเหมยขาบ หรือน้ำค้างแข็งแล้วบรรดาดอกไม้เมืองหนาวทั้งดอกซากุระเมืองไทย หรือนางพญาเสือโคร่ง ดอกกุหลาบพันปี ก็เริ่มบานสะพรั่งไปทั่วดอยแล้วในขณะนี้

 

ขอบคุณภาพ-อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์

ครูสาวดวงดีถูกรางวัลที่1เป็นเศรษฐีใหม่เมืองสามหมอกรับ12ล้านบาท

ภายในตลาดสดเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน มีเสียงเล่าลือว่ามีครูสาวจากวิทยาลัยการอาชีพนวมินทราชินีแม่ฮ่องสอนถูกรางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 16 ธ.ค 63 จำนวน 2 ใบ รับเงินรางวัล 12 ล้านบาท ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปยังไปทางวิทยาลัยการอาชีพนวมินทร์ ฯ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตพื้นที่เทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน พบว่ามีครูสาวภายในวิทยาลัยถูกรางวัลที่ 1 จริง ทราบชื่อนางสาวจุฑามาศ บัวขาว หรือครูฝน อายุ 38 ปี เป็นหัวหน้าครูแผนกวิชาช่างก่อสร้าง ซึ่งเตรียมที่จะเดินทางลงไปกรุงเทพ ฯ เพื่อนำสลากซึ่งเป็นสลากชุด 2 ใบ หมายเลข 201303 ที่ถูกรางวัลที่ 1 ไปขึ้นเงินรางวัลที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล

นางสาวจุฑามาศ ครูสอนก่อสร้างผู้โชคดีกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “ โดยปกติแต่ละงวดจะซื้อสลากกินแบ่งรัฐเป็นประจำและในงวดวันที่ 16 ธ.ค 63 นี้ก็เช่นกันซื้อสลากที่แผงจำหน่ายบริเวณปากทางเข้าตลาดสดเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอนมาทั้งหมดจำนวน 10 ใบ หลังตนทราบว่ารางวัลเลขที่ออก คือ 201303 ก็มีความสังหรณ์ใจว่าเหมือนสลากที่ตนซื้อมาจะมีเลขที่ตรงกับรางวัลที่ 1 จึงรีบนำสลากออกมาตรวจดูก็พบว่าถูกรางวัลหนึ่งอยู่ 2 ใบ รับเงินรางวัลถึง 12 ล้านบาท ตนดีใจมาก ตนแรกคิดว่าจะปิดเงียบไม่บอกใคร เพราะกลัวจะมีปัญหาตามมา แต่ไม่นานก็มีกระแสเล่าลือว่าตนถูกรางวัลที่ 1กระจายออกไป จากนั้นตนจึงนำสลากไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน

ครูสาวกล่าวต่อไปอีกว่า “ ก่อนที่จะไปซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล ตนได้ฝันเห็นบ้าน เห็นโลงศพ เห็นพ่อ แม่และน้อง ที่จังหวัดยะลา จึงนำมาตีเป็นเลข 30 แต่เมื่อไปหาซื้อสลากกินแบ่งปรากฏมีแต่เลข 03 จึงได้ซื้อมาจำนวนหลายใบ และมีอยู่ 2 ใบที่ตรงกับรางวัลที่ 1 ซึ่งเงินรางวัลจำนวน 12 ล้านบาท ที่ได้มากับการเสี่ยงโชคในครั้งนี้เบื้องต้นจะนำไปใช้หนี้ให้กับพ่อแม่ และน้องสาว ที่กู้เงินมาซื้อบ้านจำนวน 2 หลัง เป็นเงินมูลค่ากว่า 6 ล้านบาท ส่วนที่เหลือก็จะนำไปทำบุญ และเก็บเอาไว้ใช้จ่ายในอนาคต และก็ยังจะรับราชการครูต่อไปจนจะเกษียณ

ตร.แม่สายออกหมายเรียกแก๊งสาว1G1ลักลอบข้ามแดนแล้วจ่อดำเนินคดี3ข้อหาหนักมีเพิ่มอีกรวมแล้ว10กว่าคนที่ลักลอบเข้ามาดำเนินคดีทุกคน

จากกรณีพล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 สั่งการ สภ.แม่สาย จ.เชียงราย ดำเนินคดีกับ 3 สาวไทยติดโรคโควิด 19 ลักลอบข้ามแดนกลับเข้ามาในประเทศไทยหลังจากไปทำงานที่โรงแรม 1G1 Hotel ใน จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา แล้วเข้ามาท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆในจ.เชียงใหม่ และจังหวัดอื่นๆ ในส่วนของจังหวัดเชียงราย พ.ต.อ.ณัฐวุฒิ แสงเดือน ผกก.ตม.จว.เชียงราย ได้ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษผู้หลบหนีข้ามแดนโดนผิดกฎหมายในส่วนของผู้ที่ติดเชื้อ โควิด – 19 ที่รักษาตัวหายแล้วในส่วนของจังหวัดเชียงราย และจังหวัดอื่นๆ ด้วย ต่อพนักงานสอบสวน สภ.แม่สาย รวมแล้วกว่า 10 ราย

ทางด้าน พ.ต.อ.เอกณสันต์ ศรีสองเมืองผกก.สภ.แม่สาย เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวน สภ.แม่สาย ดำเนินการออกหมายเรียก ผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดตามที่ได้รับร้องทุกข์ เพื่อให้มารับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งบางคนยังจะต้องอยู่ในระหว่างการกักตัวอยู่ที่บ้านเพื่อดูอาการ ต่ออีก 1 สัปดาห์ จึงจะถือว่าหายเป็นปกติ จึงจะสามารถเดินทางมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ได้ โดยทางพนักงานสอบสวนได้ตั้ง 3 ข้อกล่าวหาคือ 1.เป็นบุคคลที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไม่ได้เดินทางเข้ามาตามช่องทาง ด่านตรวจคนเข้าเมือง เขตท่า สถานี หรือท้องที่และตามกำหนดเวลา ตามที่รัฐมนตรีได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ‘’ ตาม มาตรา 11 แห่ง พ.ร.บ. คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 (ปรับไม่เกิน 2,000 บาท)

2.ข้อหา”ฝ่าฝืนข้อกำหนดที่ออกมาตามมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ประกอบกับข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1) ข้อ 3 เรื่องการเปิดช่องเข้ามาในราชอาณาจักร มีโทษ จำคุกไม่เกิน 2 ปีปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

3.ข้อหา “ไม่ปฏิบัติตามตคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อหรือผู้ว่าราชการจังหวัด (จังหวัดเชียงราย) ตามมาตรา 35 (1) แห่ง พ.ร.บ. โรคติดต่อ พ.ศ.2558 (คำสั่งจังหวัดเชียงรายที่ 1380/2563 เรื่องการระงับการเดินทางเข้า -ออกของบุคคล ยานพาหนะและสิ่งของ ณ จุดผ่านแดนถาวร จุดผ่อนปรนการค้าและช่องทางอื่นๆตลอดแนวชายแดนจังหวัดเชียงรายเป็นการชั่วคราว ลงวันที่ 21 มีนาคม 2563 (จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท ) หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งจะมีการพิจารณาเรียกตัวมาดำเนินดคีตามกฏหมายต่อไป

ผบช.ภาค5ชี้ต้องดำเนินคดีให้เป็นตัวอย่างจ่อแจ้ง3ข้อหาหนักสามสาวหลบหนีเข้าเมืองหลังรักษาโควิด19หายแล้วโทษทั้งจำทั้งปรับ

 

15ธ.ค.63 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ตำรวจภูธรภาค5  เข้าทำการตรวจหาเชื้อโควิด 19 โดยทางโรงพยาบาลลานนาได้ จัดทีมแพทย์ พยาบาล มาดำเนินการตรวจเชื้อโควิด-19 ให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจในกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 รวมถึงกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 จำนวนกว่า 500 นาย โดยการดำเนินการตรวจครั้งนี้เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นบุคคลกลุ่มเสี่ยงที่ต้องไปปฏิบัติหน้าที่ถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 ทำให้จำเป็นต้องมีการตรวจหาโรค เพื่อเป็นการป้องกันและเฝ้าระวังหากมีผู้ติดเชื้อขึ้นมา

พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 เปิดเผย กรณีของผู้ป่วยโควิด 19 เป็นหญิงจำนวน 3 รายที่ลักลอบหลบหนีจาก จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา เข้ามาทาง อ.แม่สาย จ.เชียงราย เข้ารักษาอาการป่วยที่โรงพยาบาลนครพิงค์ ที่ล่าสุดวันนี้ทางแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วนั้น ตนก็ได้สั่งการให้ตำรวจ สภ.แม่สาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเชียงราย ให้เรียกตัวคนที่มีความผิดมาดำเนินดคีให้เป็นคดีตัวอย่าง โดยตอนนี้พนักงานสอบสวนได้ทำการตั้งข้อกล่าวหารอแล้ว 3 ข้อหา คือ 1 เป็นบุคคลที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไม่ได้เดินทางเข้ามาตามช่องทาง ด่านตรวจคนเข้าเมือง เขตท่า สถานี หรือท้องที่และตามกำหนดเวลา ตามที่รัฐมนตรีได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ‘’ ตาม มาตรา 11 แห่ง พ.ร.บ. คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 (โทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท) 2. ข้อหา’’ ฝ่าฝืนข้อกำหนดที่ออกมาตามมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ประกอบกับข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1) ข้อ 3 เรื่องการเปิดช่องเข้ามาในราชอาณาจักร มีโทษ จำคุกไม่เกิน 2 ปีปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 3. ข้อหา ‘’ ไม่ปฏิบัติตามตคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อหรือผู้ว่าราชการจังหวัด (จังหวัดเชียงราย) ตามมาตรา 35 (1) แห่ง พ.ร.บ. โรคติดต่อ พ.ศ.2558 (คำสั่งจังหวัดเชียงรายที่ 1380/2563 เรื่องการระงับการเดินทางเข้า -ออกของบุคคล ยานพาหนะและสิ่งของ ณ จุดผ่านแดนถาวร จุดผ่อนปรนการค้าและช่องทางอื่นๆตลอดแนวชายแดนจังหวัดเชียงรายเป็นการชั่วคราว ลงวันที่ 21 มีนาคม 2563 (จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท ) หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งจะมีการพิจารณาเรียกตัวมาดำเนินดคีตามกฏหมายเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป

เชียงรายมั่นใจเอาอยู่คุมโควิด-19เป็นไปด้วยดีรักษาหายกลับบ้านได้11รายเหลือ41ยังรักษาอยู่ล้วนเป็นคนที่หนีตายจากท่าขี้เหล็กเข้ามาถูกต้องผ่านการคัดกรองกักตัวย้ำเที่ยวได้ไม่มีการระบาดในจังหวัด

14 ธันวาคม 2563 ที่ศาลากลาง จ.เชียงราย นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รอง.ผวจ.เชียงราย ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานสกัดกั้นโรคไว้รัสโควิด-19 ประชุมคณะทำงานโดยมีเนื้อส่วนใหญ่ในการดำเนินการกับผู้ที่เดินทางมาจากด่านพรมแดน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ผ่านเข้ามาทางศูนย์กักดูอาการหรือ Local state quarantine ซึ่งปัจจุบันมีกระจายอยู่ตามจุดต่างๆ ที่ได้จัดตั้งเอาไว้จำนวน 10 จุด ปัจจุบันมีผู้เข้าอยู่ใน LSQ จำนวน 262 ราย และมีผู้ครบกำหนดการดูอาการเป็นเวลา 14 วันทยอยกลับภูมิลำเนาอย่างต่อเนื่อง พบว่าในวันเดียวกันนี้ได้มีผู้ป่วยที่เคยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ใน จ.เชียงราย หายป่วยและกลับบ้านได้แล้วอีกจำนวน 4 ราย รวมผู้ที่รักษาจนหายและกลับบ้านได้แล้วจำนวน 11 ราย

นายวรวิทย์ กล่าวว่า วันนี้ได้ตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ใน LSQ เพิ่มจำนวน 6 ราย ซึ่งไม่น่าเป็นห่วงเพราะเดินทางผ่านเข้ามาทางด่านพรมแดน อ.แม่สาย และเข้าสู่กระบวนการกักตัวในทันทีส่วนภายในจังหวัดไม่พบผู้ติดเชื้ออีกเลยนับตั้งแต่รายล่าสุดเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ขณะเดียวกันก็พบมีผู้ที่แจ้งความประสงค์จะเดินทางจาก จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา เข้ามาทางด่านพรมแดน อ.แม่สาย อีกจำนวน 19 ราย แต่จะเดินทางเข้ามาจริงจำนวนเท่าใดนั้นจะต้องติดตามกันต่อไป ต้องช่วยกันประชาสัมพันธ์ว่าในเชียงรายไม่มีผู้ติดเชื้อ และคนเดินทางเข้าออกเชียงรายก็ไม่ต้องกักตัว คนเชียงรายเองก็สามารถเดินทางไปได้ทั่วประเทศ และคนจังหวัดอื่นก็สามารถไปมากันได้ และขอเชิญชวนให้นักท่อง

ส่วนทางด้านด้านสำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงราย แจ้งว่าผู้ที่ติดเชื้อ 6 รายล่าสุดเป็นหญิง 4 คนอายุ 33 ปี 34 ปี 36 ปีและ 37 ปีตามลำดับ และชาย 2 คน อายุ 26 และ 27 ปีตามลำดับ ทั้งหมดเดินทางจาก จ.ท่าขี้เหล็ก เข้ามาทางจุดผ่านแดนถาวร สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 อ.แม่สาย เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.และตรวจว่าติดเชื้อในวันที่ 12-13 ธ.ค.จึงไม่มีผู้ที่มีความเสี่ยงสัมผัสและถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ทำให้ตัวเลขสะสมผู้ติดเชื้อตั้งแต่วันที่ 29-14 ธ.ค.มีจำนวน 52 ราย หายป่วยและกลับบ้านได้แล้วจำนวน 11 ราย จึงคงเหลือยังรักษาอยู่จำนวน 41 รายขณะที่ผู้ติดเชื้อที่มีประวัติลักลอบหลบหนีเข้าเมืองในช่วงๆ แรกจำนวน 6 คน และคาดว่าติดเชื้อจากผู้ที่หลบหนีเข้ามาอีก 1 คน รวมเป็นจำนวน 7 คนนั้น พบว่าทั้งหมดได้รับการรักษาจนหายและออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว โดยรายล่าสุดออกจากโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา ส่วนผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงสัมผัสกับคนเหล่านี้ได้เข้าตรวจที่รถชีวนิรภัยพระราชทานและโรงพยาบาลเอกชน ตั้งแต่วันที่ 2-13 ธ.ค.รวมจำนวน 6,904 ราย พบผลเป็นลบทั้งหมดทำให้ในปัจจุบันไม่พบผู้ติดเชื้อและกลุ่มเสี่ยงสัมผัสใน จ.เชียงราย อีกเลยโดยผู้ที่พบการติดเชื้อส่วนใหญ่มาจากต่างประเทศและเข้าอยู่ใน state quarantine เท่านั้น

“นิกร แจ้งแสง”ศิลปินซอดังเชียงใหม่ชิงส.อบจ.แม่ริมเขตเลือกตั้งที่2ชูบทบาทพ่อครูภูมิปัญญาท้องถิ่นดึงคะแนน

นายนิกร แจ้งแสง ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ( ส.อบจ. ) เขตเลือกตั้งที่ 2 อ
.แม่ริม เปิดเผยว่า ในการลงสมัครครั้งนี้ ลงแบบอิสระ ซึ่งมั่นใจว่า หากมีโอกาส รับใช้พ่อแม่พี่น้องในพื้นที่จะสามารถ เป็นผู้ประสานงานกับกลุ่มการเมืองของผู้บริหารอบจ.เชียงใหม่ได้ ที่ผ่านๆมาได้ทำหน้าที่ ผู้ใหญ่บ้าน ทำงานจิตอาสาเพื่อชุมชนมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึง เปิดพื้นที่ทำฟาร์มเกษตรในรูปแบบเศรษฐกิจพอเพียง เป็นพื้นที่เรียนรู้ ดูงานของ ผู้สนใจ ที่เดินทางมาศึกษาดูงานจากทั่วประเทศ ทำให้มีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทักษะ ประสบการณ์ด้านต่างๆจากผู้คนหลากหลายสาขาอาชีพจนได้ข้อแนะ สู่แรงบันดาลใจ ที่จะขออาสา เป็นอีกทางเลือกของพ่อแม่พี่น้องในชุมชน พื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 2 อ.แม่ริมโดยเฉพาะ องค์ความรู้ ด้านวัฒนธรรม ที่มีด้านซอ จนเป็นได้รับการยกย่องเป็นพ่อครูด้านซอล้านนา เลยเกิดความคิดว่า ต้องขยายผล ทุนวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ควบคู่ไปกับต้นทุนภาคการเกษตร ที่อ.แม่ริม มีมากมาย ให้เกิดการเรียนรู้จากรุ่นสู่รุ่น

นายนิกร กล่าวเพิ่มเติมว่า เขตเลือกตั้งที่ 2 แม่ริมนั้น มี ผู้สมัครจาก 2 กลุ่มการเมือง ขับเคี่ยวกัน แต่ในการเลือกตั้ง
ครั้งนี้ ไม่มีใครคาดเดาได้ว่า ชาวบ้านจะตัดสินใจเลือกใครเป็นตัวแทนเท่าที่ลงพื้นที่ พบปะชาวบ้านทำกิจกรรมร่วมกัน แบบจิตอาสา ได้รับข้อเสนอแนะหลากหลาย ทั้งด้านภาคการเกษตร การท่องเที่ยวชุมชนวิถีใหม่ ซึ่งอ.แม่ริม มีเพียบพร้อม แต่ยังกระจุกตัวในบางพื้นที่ ซึ่งถ้าได้รับมอบความไว้วางใจจากชาวบ้่าน ได้มีโอกาสเข้าไปทำหน้าที่ ส.อบจ.จะนำเสนอ ผลักดันให้เกิดการกระจายกลุ่ม แหล่งท่องเที่ยวชุมชน ในเชียงใหม่ สืบสานต่อยอด ขยายผล ทุนวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น งานคุณภาพชีวิต นำรูปแบบฟาร์มความสุข เกษตรพอเพียง เกษตรปลอดสาร ปลอดภัย เข้ามาเป็นองค์ประกอบ เพื่อเสริมสร้างรายได้ชุมชน ผ่านกรรมวิธี จำหน่ายผลิตภัณฑ์ ทั้งผลผลิตจากแปลงเกษตร ที่มีมาตรฐาน การแปรรูปสินค้า ให้กลุ่มนักท่องเที่ยวผู้ที่สนใจมาเยี่ยมชม วิถีถิ่น ซึ่งในเขตเลือกตั้งที่ 2 มีหลากหลาย ไม่ด้อยกว่า พื้นที่อื่นๆในเชียงใหม่ ไม่ว่าจะพระพุทธบาทสี่รอย, สวนเกษตรชาวบ้าน ในแต่ละหมู่บ้าน สำหรับเขตเลือกตั้งที่ 2 อ.แม่ริม มีผู้สมัคร 4 คน โดยนายนิกร ผู้สมัครอิสระได้หมายเลข 3

สดร.โชว์ภาพสุดสวยงาม“ฝนดาวตกเจมินิดส์”

สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้เปิด เผยภาพ “ฝนดาวตกเจมินิดส์” เหนืออ่างเก็บน้ำห้วยลาน ต.ออนใต้ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ คืนวันที่ 13 ถึง รุ่งเช้า 14 ธันวาคม 2563 บันทึกในช่วงเวลาประมาณ 21:00 – 02:30 น. นับเป็นฝนดาวตกส่งท้ายปีนี้ อัตราการตกเฉลี่ยสูงสุดเป็นไปตามคาด มากถึงประมาณ 150 ดวงต่อชั่วโมง สามารถสังเกตเห็นดาวตกที่เป็นลูกไฟ (Fireball) และดาวตกชนิดระเบิด (Bolide) เป็นแนวยาวพาดผ่านท้องฟ้า

 

ฝนดาวตกเจมินิดส์ เกิดจากการที่โลกโคจรเข้าตัดกับสายธารเศษหินและฝุ่นของดาวเคราะห์น้อย 3200 เฟธอน (3200 Phaethon) ที่ทิ้งไว้ขณะเคลื่อนผ่านเข้ามาในระบบสุริยะชั้นใน เมื่อโลกโคจรผ่านเส้นทางดังกล่าว แรงดึงดูดของโลกจะดึงฝุ่นและหินเข้ามาเผาไหม้ในชั้นบรรยากาศโลกเกิดเป็นลำแสงวาบ หรือบางครั้งเกิดเป็นลูกไฟขนาดใหญ่ (Fireball) มีศูนย์กลางการกระจายบริเวณกลุ่มดาวคนคู่ เกิดขึ้นในช่วงวันที่ 4 – 17 ธันวาคมของทุกปี และจะมีอัตราการตกสูงสุดในช่วงวันที่ 13 – 14 ธันวาคม เฉลี่ยประมาณ 150 ดวงต่อชั่วโมง

ขอบคุณภาพ-ประชาสัมพันธ์ สดร.

หนุ่มใหญ่ตั้งวงก๊งเหล้าแก้หนาวพูดผิดหูถูกฟัน-แทงดับคาที่

10.00 น. วันที่ 12 ธันวาคม 2563 ร.ต.อ.สุรศักดิ์ ปัญญา ร้อยเวร สภ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ รับแจ้งเกิดเหตุฆ่ากันตายที่บ้านเลขที่ 184/1 ม.5 ต.บ้านกลาง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปสอบสวนพร้อมพวก พบศพนายบัญชา อายุ 40 ปี สภาพศพ ถูกมีดฟันเข้าที่บริเวณศีรษะจำนวนหลายแผล และถูกแทงที่บริเวณหน้าอกกับท้องอีกสองแผล

สอบสวนทราบว่ากลางดึกที่ผ่านมผู้เสียชีวิต ได้ตั้งวงกินเหล้ากับกลุ่มคนรู้จักกระทั่งช่วงเช้าพ่อและแม่ของผู้ตายซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกันได้ตื่นขึ้นมาพบร่างนอนเสียชีวิตจมกองเลือดจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบดังกล่าว เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าผู้ก่อเหตุนั้นน่าจะเป็นกลุ่มคนที่ผู้เสียชีวิตนั่งดื่มสุราด้วย โดยคาดว่าระหว่างที่ดื่มสุรากันนั้น ผู้เสียชีวิตกับคนร้ายน่าจะเกิดทะเลาะกัน จนกระทั่งถูกทำร้ายร่างกายเสียชีวิตดังกล่าวซึ่งจะได้สืบสวนจับกุมมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

พบคนไทยติดโควิด19ในท่าขี้เหล็กอีกเพียบเมียนมาประสานขอรถพยาบาลเข้าไปรับตัวเชียงรายเปิดปฏิบัติการS.C.R.สกัดกั้นเชื้อแนวชายแดนเข้มแห่ลงทะเบียนขอกลับอีก52คน

ที่หน้าที่ว่าการอำเภอแม่สาย จ.เชียงราย ว่าที่ร้อยตรี ณรงค์ โรจนโสทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีปล่อยชุดหน่วยปฏิบัติการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ออกปฏิบัติการยุทธกิจ ภายใต้แผนปฏิบัติการเชียงรายปลอดภัย Save Chiang Rai หรือ S.C.R. ในเส้นทางหรือพื้นที่ ที่อาจมีบุคคลลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยมีกำลังจาก ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สาย สภ.เกาะช้าง ทหารหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง ตชด.327 ชรบ. เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้วงร่วมปฏิบัติภารกิจ

โดยการปฏิบัตการดังกล่าวเนื่องจากมีผู้ลักลอบเข้าเมืองจากจังหวัดท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน เมียนมา และเป็นผู้ติดเชื้อโควิด 19 เดินลัดเลาะตามเส้นทางธรรมชาติเข้ามาในพื้นที่ ทำให้เกิดความกังวลของประชาชนในพท่นที่ โดยเฉพาะจากแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน และมีรายงานว่า พบเห็นแรงงานต่างด้าวเข้าไปดื่มสุราสังสรรค์กันในร้านอาหารโดยไม่ให้ความร่วมมือในการรักษามาตรฐานทางสาธารณสุข เกรงว่าจะเกิดการระบาดของโรค และอาจเป็นบุคคลหลบหนีเข้าเมืองมาโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือเป็นผู้ติดเชื้อโควิดที่อาจแพร่กระจายเชื้อไปสู่ผู้อื่นได้ ออกตรวจคัดกรองบุคคลในกลุ่มแรงงานข้ามชาติ ตรวจวัดอุณหภูมิ และตรวจเอกสารการเข้าเมือง ตลอดทั้งใบอนุญาตทำงาน พร้อมทั้งพบปะอธิบายการดำเนินชีวิตประจำวันที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย และการระวังป้องกันรักษาสุขภาพด้วยตนเองด้วยมาตรการทางสาธารณสุข โดยในจุดแรกที่สวนส้ม หมู่ที่ 6 บ้านผาหมี ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย ที่มีแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา ทำงานภาคการเกษตร 41 คน ซึ่งทุกคนมีหลักฐานประจำตัว ใบอนุญาตทำงาน และเอกสารเข้าเมืองโดยถูกกฎหมายครบทุกคน

ด้าน อ.เชียงแสน พ.อ.พักตร์พงษ์ เงสันเที๊ยะ หัวหน้ากลุ่มงานนโยบายแผนและการข่าว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเชียงราย เป็นประธานปล่อยชุดออกปฏิบัติภารกิจ พร้อมกับนายปกรณ์ สุริวรรณ นายอำเภอเชียงแสน พร้อมชุดกำลัง มีเป้าหมายออกตรวจสถานประกอบการและสถานที่ทำงานของแรงงานต่างด้าวผลการปฏิบัติได้ประชุมทำความเข้าใจแก่แรงงานต่างด้าวเกี่ยวกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา การปฏิบัติตนเพื่อเฝ้าระวังป้องกันโรค และการดำเนินชีวิตที่ดีและไม่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพและสุขอนามัย ซึ่งแรงงานให้ความร่วมมือดี

ที่ อ.เชียงของ พ.ต.อ. มานพ เสนากุล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีปล่อยชุดเจ้าหน้าที่สนธิกำลังกว่า 40 นาย โดยกำหนดจุดเป้าหมายเข้าตรวจที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง มีแรงงานต่างด้าวทำงานโดยถูกกฎหมาย 21 คน ผลการปฏิบัติได้ประชุมทำความเข้าใจแก่แรงงานต่างด้าวเกี่ยวกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา การปฏิบัติตนเพื่อเฝ้าระวังป้องกันโรค และการดำเนินชีวิตที่ดีและไม่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพและสุขอนามัย และการรับจ้างแรงงานภายใต้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งแรงงานให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

ว่าที่ร้อยตรี ณรงค์ โรจนโสทร กล่าวว่า จังหวัดเชียงรายให้ความสำคัญต่อการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะกับสถานการณ์การแพร่กระจายของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แม้ปัจจุบันประเทศไทยยังคงประสบปัญหาภัยคุกคามด้านความมั่นคงในรูปแบบใหม่อยู่เป็นระยะ เช่น ปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด ปัญหาการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปัญหาสาธารณภัย ปัญหาขบวนการค้ามนุษย์ รวมถึงปัญหาบุคคลต่างด้าวลักลอบหลบหนีเข้ามาทำงานในประเทศ ซึ่งหากภาครัฐทำการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าวล่าช้าย่อมจะทำให้เกิดปัญหาทางสังคมตามมา ดังนั้น หน่วยงานในพื้นที่ซึ่งเป็นองค์กรสำคัญลำดับแรกที่จะช่วยเหลือประชาชนในการป้องกันและแก้ไขปัญหาในระดับพื้นที่ จังหวัดเชียงรายจึงมีกำหนดให้ปล่อยชุดปฏิบัติการ S.C.R ในการตรวจสอบแรงงานต่างด้าว เพื่อสกัดกั้นการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง การทำงานโดยผิดกฎหมาย และเพื่อเป็นการป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดของของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รวมถึงป้องกันการแพร่ระบาดของยาเสพติด และการก่ออาชญากรรมควบคู่ขนานไปพร้อมกันด้วย

นอกจากนี้มีรายงานว่ามีคนไทยที่ตกค้างใน จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา เดินทางข้ามมายัง อ.แม่สาย จ.เชียงราย อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีผู้ที่กักตัวดูอาการอยู่ใน Local state quarantine ประมาณ 170 คน และพบมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 37 คนปัจจุบันรักษาหายไปและถูกส่งตัวกลับบ้านเกือบหมดแล้ว โดยล่าสุดทางการท้องถิ่น จ.ท่าขี้เหล็ก ได้ประสานงานผ่านคณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมา ระดับท้องถิ่น หรือTBC ฝ่ายไทยว่ามีคนไทยที่ลงทะเบียนขอกลับจำนวน 52 คน พร้อมที่จะเดินทางกลับประเทศไทย แต่พบปัญหาว่าหลังจากทางกระทรวงสาธารณสุขเมียนมาได้ส่งทีมงานพิเศษสาธารณสุขไประจำอยู่ที่่ จ.ท่าขี้เหล็ก ได้ตรวจพบคนไทยในกลุ่มดังกล่าวติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 3-4 คน ซึ่งตามขั้นตอนของประเทศเมียนมาเนื่องจากเกือบทั้งหมดเดินทางเข้าเมืองเมียนมาโดยผิดกฎหมาย โดยลักลอบผ่านช่องทางธรรมชาติดังนั้นจะต้องนำตัวไปขึ้นศาลเพื่อทำการเปรียบเทียบปรับก่อน จากนั้นจะนำตัวส่งข้ามแดนมายังฝั่งไทยโดยทันทีทางสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 ส่วนผู้ที่พบการติดเชื้อนั้นได้มีการประสานมายัง TBC ฝ่ายไทยเพื่อขอให้จัดรถพยาบาลข้ามไปรับตัวเป็นกรณีพิเศษต่อไป