รวบหนุ่มใหญ่อ้างเศรษฐกิจแย่ฉกมือถือสาวรุ่นหน้าตาเฉย

วันที่ 12 มิ.ย.63 พ.ต.อ.ชลเทพ ใหม่ไชย ผกก.สภ.แม่อาย พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน จับกุมตัวนายแอโบ อายุ 28 ปี ชาว อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลาง โทรศัพท์ ยี่ห้อ VIVO รุ่น Y81i สีดำจำนวน 1 เครี่องรถจักรยานยนต์ ยี่ฮอนด้า เวป สีน้ำเงิน ทะเบียน จนบ 946 เชียงใหม่ จำนวน 1 คันควบคุมดำเนินดคีข้อหา”ลักทรัพย์ของผู้อื่นโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม”

การจับกุมครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ ได้รับแจ้งจากนางสาวแดง อายุ 21 ปี ชาว อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ว่าได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปซื้อของร้านขายของชำแห่งหนึ่ง ถนนสาย ฝาง-ท่าตอน หมู่ 8 ต.แม่สาว โดยลืม วางโทรศัพท์ของกลางไว้บริเวณตะกร้าหน้ารถ พอกลับออกมาโทรศัพท์หายมือถือไปเสียแล้ว

จึงสืบสวนจนทราบว่าก่อนเกิดเหตุผู้ต้องหา ได้ขี่รถจักรยานยนต์ มาจอดแล้วหยิบโทรศัพท์ไปหลังถูกจับรับสารภาพว่าช่วงนี้เศรษฐกิจแย่ บังเอิญมาเห็นโทรศัพท์ราคาแพงจึงหยิบมาหวังจะนำไปขายนำเงินมาใช้จนถูกจับดังกล่าว

เจอตัวแล้วแม่เฒ่าหาเห็ดเผาะหลงป่า 5 วัน

 

จากกรณีที่นางอัมพร ตาคำ อายุ 69 ปีชาวบ้านหมู่ 7 ต.โหล่งขอด อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ที่ออกเดินเข้าป่าหาเห็บถอบ ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย.63 แล้วหายสาบสูญไปในป่าพื้นที่บ้านป่าห้วยไร่ หมู่ 7 ต.โหล่งขอด อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ทางญาติพี่น้องได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และมีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ปกครอง ทหาร ตำรวจ และชาวบ้านเดินเข้าค้นหาในป่านานกว่า 4 วันแต่ไร้วี่แววจนมีการเสริมโดรนบิน และอื่นๆเพื่อการตามหา ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 12 มิ.ย.63 นายวิเศษ​ ผง​นอก​ ปลัดอำเภอ​ฝ่าย​ความมั่นคง​ อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ นายเกรียงศักดิ์ ถนอมพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 ได้รับรายงานความคืบหน้า จาก นายภูพิชิต ช่วยบำรุง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติศรีลานนา ว่า เวลา 05.30 น. ทางเจ้าหน้าที่ได้พบตัว นางอัมพร ตาคำ อายุ 69 ปีอยู่บ้านเลขที่ 38 หมู่ 7 ต.โหล่งขอด อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ แล้ว บริเวณป่าห้วยตองหนาม เขตติดต่อระหว่าง ท้องที่ บ้านป่าห้า หมู่ 5 และบ้านหลวง หมู่ 6 ต.โหล่งขอด อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ในเขตอุทยานแห่งชาติศรีลานนาจากการตรวจสอบสุขภาพเบื้องต้น นางอัมพร มีอาการอิดโรยเล็กน้อย แต่สุขภาพร่างกายปกติดี จากการสอบถาม นางอัมพร ให้การว่า ตนเองได้ออกไปหาของป่า ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย.63 โดยเดินไปเรื่อยตามลำห้วย เหนื่อยก็หาที่พักตามพื้นต้นไม้ใหญ่ และอยู่ๆก็ไปเจอคลายๆวัดร้างในป่า และพักอาศัยอยู่ที่นั้น และก็กลับออกมาไม่ได้เพราะจำทางกลับบ้านไม่ได้ ทุกวันอาศํยผลไม้ป่าเด็ดกินประทังชีวิตรอคอยการช่วยเหลือ จนกระทั่งเมื่อคืนเหมือนเห็นแสงนำทาง จึงเดินมาเรื่อยๆ จนกระทั่งเจอชาวบ้านเข้ามาช่วยเหลือนำมาพักที่เพิงพักกลางป่า และเจ้าหน้าที่ก็ตามมานำตัวส่งโรงพยาบาล ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนในการช่วยเหลือในครั้งนี้

 

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมชาวบ้านมีความเชื่อตามโบราณสำหรับการหลงป่า หากหลงป่าแล้วจะเจอผี เจ้าที่เจ้าทาง บังทางไม่ให้กลับ แต่หลังจากเจ้าหน้าที่ได้นิมนต์พระมาทำพิธีเปิดป่า และออกทำการค้นหา จึงสามารถเจอตัวและทำการช่วยเหลือกลับมาได้อย่างปลอดภัย

กู้ภัยช่วยชายมุดซอกประตูรั้วเพื่อจะไปจ่ายตลาด แต่ตัวเกิดติดออกไม่ได้ ต้องใช้เครื่องตัดถ่างงัดนำตัวออกมาออกมา

 

05.00 น. วันที่ 12 มิ.ย.63 เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพ-กู้ภัย เทศบาลเมืองแม่โจ้ จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งว่า ได้เกิดเหตุ คนติดอยู่บริเวณซอกรั้วไม่สามารถออกได้ เหตุเกิดบริเวณบ้านเลขที่ 44 หมู่ 13 ต.แม่แฝกใหม่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ พบผู้ประสบเหตุเป็น ชาย อายุประมาณ 45-50 ปี สภาพร่างติดอยู่บริเวณซอกรั้วประตูบ้าน มีอาการอ่อนเพลีย อิดโรย

ทางเจ้าหน้าที่จึงพยายามช่วยกันดึงร่างชายคนดังกล่าวออกมาจากซอกรั้วที่ติดอยู่ แต่ไม่สามารถช่วยเหลือได้ จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัย สมาคมกุศลสงเคราะห์เชียงใหม่ ให้นำเครื่องตัดถ่างเข้าให้การช่วยเหลือในการนำผู้ได้รับบาดเจ็บออกจากซอกรั้วดังกล่าว โดยต้องใช้เวลากว่า 20 นาที จึงสามารถนำตัวชายผู้ประสบเหตุออกมาได้ โดยทางผู้ได้รับบาดเจ็บมีอาการอ่อนแรงเนื่องจากหายใจลำบาก และยังพูดวกไปวนมา ทางเจ้าหน้าที่จึงทำการปฐมพยาบาล และส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาล

ชายคนดังกล่าวได้พักอาศัยอยู่บ้านที่เกิดเหตุ โดยช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาเจ้าตัวจะไปซื้อของที่ตลาด แต่เดินมาถึงหน้าบ้าน ได้ลืมกุญแจเปิดประตูรั้ว จึงได้พยายามมุดช่องบริเวณรั้วบ้าน เพื่อที่จะออกไป แต่ระหว่างที่เจ้าตัวพยายามสอดตัวเพื่อที่จะลอดผ่านช่องประตูนั้น ปรากฎว่าลำตัวเกิดติด ไม่สามารถขยับได้ จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยเหลือ

ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่เชียงใหม่ตรวจตลาดสด คุมเข้มการแพร่ระบาดไวรัสโคโรน่า

นายนิตพล ไชยนันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยคณะ ได้เดินทางไปตรวจสอบยังบริเวณตลาดสด ตลาดประตูเชียงใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อตรวจเยี่ยมการดำเนินงานตามมาตรการ การป้องกันการแพร่ระบาดจากไวรัสโคโรน่า และการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม โดยจากการตรวจสอบพบว่าทางผู้ประกอบการตลาดสดได้มีการควบคุมทางเข้าออกและลงทะเบียน รวมถึงการบังคับให้มีการสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า ทั้งผู้ให้และผู้รับบริการ การจัดให้มีแอลกอฮอล์ล้างมือ การตรวจวัดไข้ผู้ที่เข้ามาใช้บริการ ซึ่งเป็นไปตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขได้มีการระบุเอาไว้อย่างชัดเจน

โดยทางด้านนายนิตพล ไชยนันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เปิดเผยว่า ตนได้เดินทางมาเชียงใหม่ในครั้งนี้เพื่อตรวจเยี่ยมสถานประกอบการต่างๆ ที่ได้รับการผ่อนปรน ว่าได้มีการดำเนินการตามมาตรการ การป้องกันการแพร่ระบาดจากไวรัสโคโรน่าหรือไม่ ซึ่งจากการตรวจสอบที่ผ่านมาก็พบว่าสถานบริการต่างๆ รวมไปถึงผู้ประกอบการต่างให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขได้มีการระบุไว้เป็นอย่างดี แต่บางรายยังมีข้อผิดพลาดอยู่บ้าง ซึ่งตนก็ได้มีการให้คำแนะนำให้ผู้ประกอบการนำไปปรับปรุงแล้ว ทั้งนี้ในช่วงบ่ายทางคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะได้มีการเดินทางไปตรวจ ตามร้านนวดสปาต่างๆ เพื่อให้ผู้ประกอบการ ที่ได้รับการผ่อนปรนในระยะที่ 3 ให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด เป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า19ต่อไป