ปะทะอีก!!.ทหารผาเมืองยิงสนั่นป่าสกัดคาราวานขนยาบ้าชายแดนฝางยึด1ล้านเม็ด

บ่ายวันที่ 5 มิ.ย.65 พ.ท.ฐานพัฒน์ แสงนาค ผบ.บก.ควบคุมที่ 2 ฉก.ม.4 ได้รับแจ้งจาก ร.อ.อุดมศักดิ์ ลาภบริสุทธิ์ศักดิ์ ผบ.ร้อย.ม.4 ฉก.ม.4 ว่าได้จัดชุดปฏิบัติการออกลาดตะเวนในพื้นที่บริเวณ พิกัด NC 076028 ต.ม่อนปิ่นอ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ซึ่งขณะกำลังลาดตะเวนชุดปฏิบัติการตรวจพบคาราวานขนยาบ้าสะพานเป้อาวุธสงครามครบมือ จำนวน10 กว่าคน เดินลัดเลาะในป่า ข้ามมาจากชายแดนประเทศเมียนมาเข้ามาในพื้นที่ประเทศไทยจึงแสดงตัวส่งสัญญาณให้หยุดเพื่อทำการตรวจค้น แต่กลุ่มคนร้ายได้ใช้อาวุธสงครามระดมยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่ทหาก่อนรจึงเกิดการยิงปะทะกันนานร่วม10 นาที กลุ่มคาราวานดังกล่าวได้ถอยร่นข้ามไปยังฝั่งเมียนมาทิ้งเป้สีเขียวจำนวน10 เป้ไว้ตรวจสอบข้างในบรรจุยาบ้า 1 ล้านเม็ด จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลางต่อไป

หวยออนไลน์80บาทกระทบแผงขายหวยเงียบเครียดยอดขายตก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ทางรัฐบาล ได้มีการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลออนไลน์ผ่านแอปลิเคชั่นเป๋าตัง โดยได้มีการกำหนดให้จำหน่ายในราคา 80 บาท นักเสี่ยงโชคเลือกที่จะซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านทางระบบออนไลน์เป็นจำนวนมาก จนทำให้บรรยากาศตามแผงหวยต่างๆซบเซา โดยบรรยากาศที่แผงขายหวยทั่วเมืองเชียงใหม่พบว่ามีประชาชนมาเลือกซื้อหวยประปรายไม่คึกคักเหมือนแต่ก่อน

เจ้าของแผงหวยรายหนึ่งเปิดเผยว่าจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาทำให้หลายเดือนที่ผ่านมายอดขายลดลงมากและเชื่อว่าการเข้ามาของสลากดิจิทัลที่เปิดขายในราคา 80 บาท จะทำให้ยอดขายจะลดลงไปมากกว่านี้ แต่ก็ยังจะพอขายได้เนื่องจากยังมีกลุ่มผู้สูงอายุ และคนที่ไม่ถนัดในการใช้แอพลิเคชั่นต่าง ๆ ที่ยังต้องการเลือกซื้อล็อตเตอรี่ด้วยตัวเองและได้ล็อตเตอรี่กลับบ้านทันที ซึ่งส่วนตัวมองว่าการที่รัฐบาลได้เปิดจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ในราคา 80 บาท ถือว่าดี แต่ก็อยากจะให้มีการตัดโควตา หรือมาเฟียคนกลางถ้าทำได้จะเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะคนขายสามารถซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง หรือยี่ปั๊ว ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ราคาหวยแพง หากจะให้แม่ค้าขายในราคา 80 บาทยอมรับว่าเป็นไปได้ยาก เพราะที่รับมาขายในแต่ละงวดราคาต่อใบก็สูงกว่านี้หลายบาทแล้ว อยากให้เห็นใจผู้ค้าในส่วนของร้านค้าแผงขายและผู้ค้ารายย่อย เพราะต้องหาเลี้ยงชีพเลี้ยงและครอบครัวด้วยเช่นกัน

รพ.สวนปรุงเปิดคลินิกจิตเวชเด็กและวัยรุ่นเพิ่มการเข้าถึงการรักษา

แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต เป็นประธานเปิดคลินิกจิตเวชเด็กและวัยรุ่น แห่งใหม่ของโรงพยาบาลสวนปรุง พร้อมรับมอบผลงานศิลปะบำบัดณ ชั้น 2 อาคารผู้ป่วยนอกและจิตเวชฉุกเฉิน โดยมี นายศักดิ์ชัย คุณานุวัฒน์ชัยเดช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่, นายแพทย์สมฤกษ์ จึงสมาน ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 1 นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำพูน คณะผู้บริหารเขตการศึกษา และคณะผู้บริหารสาธารณสุข ร่วมเป็นเกียรติในงาน พร้อมด้วยนายโกวิท ผกามาศ ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย และกลุ่มศิลปินมอบผลงานศิลปะ, นายแพทย์กิตต์กวี โพธิ์โน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสวนปรุง กล่าวรายงาน

คลินิกจิตเวชเด็กและวัยรุ่นโรงพยาบาลสวนปรุง ได้เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2546 ให้บริการบำบัดรักษาผู้ป่วยจิตเวชเด็ก ช่วงอายุ 6-18 ปี ในเขตสุขภาพที่ 1 ในกลุ่มโรคจิตเวชเด็ก ภาวะซึมเศร้า โรคสมาธิสั้น ไบโพล่าร์ ออทิสติก และปัญหาพฤติกรรมทางอารมณ์ ชั้น 2 โดยมีทีมจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นให้การบำบัดรักษาร่วมกับทีมสหวิชาชีพที่ผ่านการอบรมเฉพาะทาง การรักษาด้วยยาควบคู่ไปกับการปรับพฤติกรรมทางอารมณ์ สังคม และการนำเทคโนโลยีมาให้บริการ อาทิเช่น การใช้ห้องกระตุ้นประสาทรับความรู้สึก เพื่อเพิ่มคุณภาพการรักษาช่วยให้เด็กมีสมาธิที่ดีขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวคุณแม่สมศรี วังทองคำ รวมถึงการใช้ศิลปะบำบัดโดยการวาดภาพบนฝาผนังทั้งแบบเหมือนจริงและแบบนามธรรม เป็นส่วนหนึ่งของการใช้หลักการเรื่องการมองเห็นที่นอกจากให้ความงดงามและเกิดสุนทรียภาพแล้ว ยังเป็นส่วนหนึ่งของการบำบัด ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากโครงการศิลปะร่วมสมัยเพื่อสุนทรีภาพในสังคม กองทุนส่งเสริมศิลปะร่วมสมัย สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม ประจำปีงบประมาณ 2565

ส่งไปลงนรก9ศพ!!ทหารฉก.ม.3ผาเมืองปะทะคาราวานขนยาบ้าชายแดนเชียงราย

พล.ต. ศุภฤกษ์ สถาพรผล ผบ.กองกำลังผาเมือง  พ.อ. สุทธิ์เขตต์ ศรีนิลทิน ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 พ.ท.จักรพงษ์ สอดสี ผู้บังคับกองบังคับการควบคุมที่ 1 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 ร.อ. กิตติเดช กันคล้อย ผู้บังคับทหารกองร้อยทหารม้าที่ 2 กองบังคับการควบคุมที่ 1 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันตรวจสอบพื้นที่เหตุการณ์ปะทะระหว่าง ทหารกองร้อยทหารม้าที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 กับ กลุ่มขบวนการค้ายาเสพติด โดยทางเจ้าหน้าที่ได้วิาสามัญฝ่ายตรงข้ามได้จำนวน 9ศพ ยึดของกลางเป็นยาบ้า 12 เป้ เหตุเกิด บ้านลิเซ ต.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ เวลา 22.15 น.วันที่ 27 พ.ค.2565 เจ้าหน้าที่ทหารสืบทราบว่าจะมีกลุ่มคารวานขนยาเสพติดจำนวนมากจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามายังพื้นที่ดังกล่าวจึงจัดกำลังเข้าทำการสกัดกั้นจับกุม พบคาราวานขนยาเสพติดประมาณ 10 คน จึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจค้นแต่กลุ่มคนดังลกล่าวไม่ยอมเปิดฉากยิงใส่เกิดการปะทะเสียงปืนดังลั่นสนั่นป่าราว 10 นาทีกระทั่งรุ่งเช้าจึงเข้าเคลียร์พื้นที่พบฝ่ายตรงข้ามเสียชีวิต 9 ศพ ยาบ้า 12 เป้ จำนวน 2,400,000 เม็ด

ยึดยาบ้า11ล้านเม็ดเครือข่าย”ป๋อลี”

ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 พล.ท.บุญยืน อินกว่าง มทน.3/ผบ.ศป.บส.ชน. พล.ต.ศุภฤกษ์ สถาพรผล ผบ.กกล.ผาเมือง นายไกรเลิศ ดาวเรือง ผอ.ป.ป.ส.ภาค 5 ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญของพื้นที่ โดยสามารถจับกุมยาบ้าได้มากถึง 11 ล้านเม็ด คดีแรกเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 26 พ.ค.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดเชียงราย ได้รับแจ้งว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดน เข้ามาในพื้นที่จึงนำกำลังตรวจสอบที่สามแยกไฟแดง บ้านหัวดอย หมู่ที่ 6 ต.ท่าสาย อ.เมือง จ.เชียงราย พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รีโว สีดำ ทะเบียน บพ 4398 พะเยา จอดติดไฟแดงลักษณะตรงตามที่สายรายงาน แต่คนขับไหวตัวทันทิ้งรถแล้ววิ่งหลบหนีเข้าป่าข้างทาง ตรวจค้นภายในรถก็พบยาบ้าจำนวน 4 ล้านเม็ด อีกคดีเวลาไล่เรี่ยกัน เจ้าหน้าที่อีกชุดก็พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ทะเบียน บน 6445 ตาก ขับมาบริเวณถนนสายเชียงของ เชียงราย ลักษณะต้องสงสัยจึงส่งสัญญาณให้หยุดเพื่อตรวจค้นแต่รถดังกล่าวก็พยายามขับหลบหนี และพุ่งไปจอดข้างทาง คนขับวิ่งหลบหนีเข้าป่า ค้นในรถพบยาบ้าอีก 7 ล้านเม็ด

พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 เปิดเผยว่าทั้งสองคดีทางเราสืบทราบว่าผู้บงการขนยาทั้งหมดคือนายบุญชัย  อายุ 55 ปี หรือ เสี่ยอ้วนวัวชน ชื่อในวงการยาเสพติดชายแดนไทย-ลาว เรียกว่า “ป๋อลี” ราชายาเสพติดภาคเหนือคนใหม่ การกวาดล้างเครือข่ายป๋อลี่ มียอดการจับกุมกว่า 90 ล้านเม็ด และมีการยึดทรัพย์ในเครือข่ายกว่า 500 ล้านบาท ตัวนายป๋อลี่ ก็ยังคงหลบหนีหมายจับกว่า 10 หมายในประเทศเพื่อนบ้านซึ่งทางเรากำลังติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีอยู่

ชุมชนไทใหญ่บ้านผาบ่องสืบสานประเพณี”ปอยจ่าตี่”บูชาเจดีย์ทรายถวายเป็นพุทธบูชาแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

นายอมร ศรีตระกูล กำนันตำบลผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ชุมชนผาบ่องได้จัดงานหลู่จ่าตี่ หรืองานประเพณีปอยจ่าตี่ ถือเป็นอีกหนึ่งประเพณี ที่มีความโดดเด่นทางวัฒนธรรมประเพณี และวิถีชีวิตของชุมชนไทใหญ่บ้านผาบ่อง ที่ควรร่วมกันสืบสานและรักษาไว้ให้คงอยู่อย่างยั่งยืนต่อไป

ปอยจ่าตี่ หรืองานประเพณีบูชาเจดีย์ทราย เป็นงานสำคัญประจำหมู่บ้าน เพื่อเป็นพุทธบูชาถวายแด่พระพุทธเจ้า เพื่อสะเดาะเคราะห์และเพื่อความเป็นสิริมงคล ต้นฤดูเพาะปลูก พี่น้องไทใหญ่มักทำกันทุกหมู่บ้าน โดยชาวบ้านจะร่วมกันนำทรายมาก่อเป็นพระเจดีย์ ตกแต่งประดับประดาให้เกิดความสวยงามและบูชาด้วยทราย น้ำพัด ดอกไม้ ธูปเทียน ตุงหรือธง จุดประทีปโคมไฟ ให้ความสว่างไสวเวลากลางคืน ถึงวันจัดงานมีการทำบุญอุทิศถวายแด่พระพุทธเจ้า ถวายอาหารแด่พระสงฆ์ เลี้ยงอาหารผู้มาร่วมงาน ประกอบพิธีถวายและฟังพระธรรมเทศนา เสร็จแล้วมีการจุดดอกไม้ไฟ ซึ่งมีความเชื่อว่าถ้าได้บูชาเจดีย์ทรายถวายพระพุทธเจ้าแล้ว เคราะห์กรรมในรอบปีนี้จะหมดไป และจะได้ความเป็นสิริมงคลสู่หมู่บ้าน และประกอบการเกษตรได้ผลดีในปีนั้น

กระหน่ำยิงช่างซ่อมมอเตอร์ไซค์4นัดซ้อนดับคาถนน

พ.ต.อ.ธงชัย กรรณิกา ผกก.สภ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิต เหตุเกิดถนนหน้าร้านขายของชำ หมู่ 5 บ้านแม่จ้องใต้ ต.ตลาดขวัญ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ จึงไปสอบสวนยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัย แพทย์เวรจากรพ.ดอยสะเก็ด และพวก พบร่างของนายกวีพันธ์ อายุ 41 ปี นอนจมกองเลือดหายใจรวยรินอยู่ ถูกยิงด้วยอาวุธปืน ขนาด 9 มม เข้าที่ ท้ายทอย และ กกหู เจ้าหน้าที่กู้ภัย เทศบาลตำบลตลาดใหญ่รีบนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลดอยสะเก็ด แต่คนเจ็บอาการสาหัสทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลา ในที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า สีเทา ทะเบียน 1กก2189 เชียงใหม่ ของคนตายจอดอยู่ และพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม. จำนวน 4 ปลอก ซองใส่อาวุธปืน ของคนร้ายตกอยู่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบ่า ผู้ตายเป็นคนในหมู่บ้าน อดีตทำงานเป็นพนักงานขับรถเรือนจำแห่งหนึ่ง ลาออกมาเปิดร้านรับซ่อมจักรยานยนต์ในหมู่บ้าน ดูแลครอบคัวและแม่ที่ป่วยติดเตียงอยู่ ก่อนเกิดได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์มาจอดไว้ที่หน้าร้านขาวของชำแล้วเข้าไปนั่งดื่มเบียร์ 2 ขวด พอเดินไปที่รถ เพื่อจะขับขี่กลับบ้าน คนร้ายขี่มาจอดคุยกับคนตายว่า “คิงยะหื้อฮายะหยัง” แปลเป็นภาษากลางว่า”มึงทำกับกูทำไม จากนั้นชักปืนออกมายิงใส่ 4 นัดซ้อนและหลบหนีไป ส่วนสาเหตุที่ถูกยิงจนเสียชีวิตในครั้งนี้ตำรวจกำลังสืบสวนและติดตามจับกุมมือปืนรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป ต่อมาตำรวจจับนายวิษณุชัยอายุ 38 ปี ได้ที่ อ แม่ริม เชียงใหม่ ผู้ต้องหายิงนายกวีพันธ์ ส่วนสาเหตุที่ลงมือก่อเหตุเพราะคิดว่าผู้ตายเป็นคนชี้เบาะแสให้ตำรวจว่าตัวเองพัวพันกับยาเสพติด

ตลาดยาบ้าระส่ำราคาหล่นฮวบ!!..สืบภาค5รวบ2ผัวเมียพร้อมของกลาง7.6พันเม็ดสารภาพรับตรงจากเอเยนต์ชายแดนเม็ดละไม่ถึง10บาทเท่านั้นขายฟันกำไรอื้อซ่าแต่ไม่ทันใช้เงินโดนจับเสียก่อน

พ.ต.ท.ธนัญชัย อาจชัยชาญ รอง ผกก.สส.2 บก.สส.ภ.5 พร้อมชุดสืบสวนภาค 5 จับกุมนายกฤต อายุ 38 ปี น.ส.อ้อม อายุ 42 ปี ทั้งคู่เป็นชาว จ.ลำพูน พร้อมของกลางยาบ้า 7,600 เม็ด นำตัวดำเนินดคีข้อหา”พยายามจำหน่ายยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรงประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า)จนก่อให้เกิดการแพร่กระจายในชุมชน ,ครอบครองยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรงประเภท 1 เพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันครอบครองยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรงประเภท 1 เพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต”

การจับกุมครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีสองสามีภรรยา ยึดอาชีพค้ายาบ้า ทางเจ้าหน้าที่จึงส่งสายไปติดต่อล่อซื้อ ผู้ต้องหาหลงกล นัดให้มารับยาที่บริเวณหน้าสวนลำไยไม่มีเลขที่พื้นที่ ต.เหมืองง่า จ.ลำพูน พอถึงเวลานัดหมายผู้ต้องหาทั้งสองคนได้ขับรถรถยนต์เก๋ง CHEVROLET สีเทา ทะเบียน ผจ 4250 เชียงใหม่ มาจอดเพื่อส่งยาบ้า ทางเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าทำการจับกุมตัวได้พร้อมของกลาง จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าช่วงยุคข้าวยากหมากแผง โรคระบาด จึงหันค้ายาเพื่อเลี้ยงชีพ โดยสั่งยาผ่านทางแอพพลิเคชั่นไลน์ ครั้งละ 8,000 เม็ด ในราคาเม็ดละไม่เกิน 10 บาทเท่านั้น และไปรับยาเองโดยพ่อค้ายาจะนำมาวางไว้ริมข้างถนน ที่อ.แม่แตง จากนั้นก็จะนำยามาปล่อยขายให้กลุ่มวัยรุ่นเม็ดละ 30-100 บาทจนถูกจับกุมตัวในที่สุด

ทลายแก๊งหลอกให้รักแล้วสูบเงินชาวจีนเช่ารีสอร์ทอ.ฝางเป็นฐานสร้างโปรไฟล์สาวสวยทักแชทจีบเหยื่อทั่วโลกตีสนิทแล้วชวนร่วมลงทุนเชิดเงินเหยื่อนับร้อยล้านบาท

พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จตช.ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปชก.ตร) พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พล.ต.ต.วริศร์สิริ ลีละสิริ ผบก.ทท.2 พล.ต.ต.ศุภณัฏฐ์ เจริญเรืองสกุล ผบก.ตม.5 พร้อมชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ และตำรวจ สภ.ฝาง จ.เชียงใหม่ จับกุมแก๊งล่อลวงชาวจีน(HYBRID SCAM) 24 คน เป็นชาย 22 คนหญิง 2 คนพร้อมของกลาง.เครื่องคอมพิวเตอร์กับโน๊ตบุ๊ค จำนวน 10 เครื่อง หน้าจอคอมพิวเตอร์ จำนวน 20 เครื่อง ซีพียูคอมพิวเตอร์ จำนวน 10 เครื่อง โทรศัพท์มือถือพร้อมซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือพร้อมใช้งาน จำนวน 244 เครื่อง

เจ้าหน้าที่สืบทราบว่ามีกลุ่มคนต่างชาติรวมตัวเปิดรีสอร์ทหรู แห่งหนึ่งพื้นที่ ต.แม่สูน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ จึงสนธิกำลังบุกเข้าตรวจค้นก็พบคนไทยและต่างชาติ จำนวน 24 คน เป็นชาย 22 คน และหญิง 2 คน สัญชาติจีน 20 คน ส่วน 4 คน เป็นคนไทย ขณะกำลังทำงานผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ และ โทรศัพท์มือถือ โดยใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ต โดยพบว่ามีการสร้างบัญชีผู้ใช้ปลอมในแอพลิเคชั่นหาคู่ และแอพลิเคชั่นไลน์ เป็นชื่อที่สมมติขึ้นมาเองและใช้ภาพโปรไฟล์หญิงสาวทั้งชาวไทยและต่างชาติหน้าตาสวย รูปร่างดี เพื่อใช้เป็นโปร์ไฟล์สนทนาหลอกลวงเหยื่อ ซึ่งมีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ โดยพฤติกรรมคือจะทักแชทพูดคุยกับเหยื่อตีสนิท เพื่อหลอกให้เหยื่อตกหลุมรักหรือไว้วางใจ แล้วจะวางกลอุบายให้เหยื่อร่วมลงทุนโดยให้เปิดบัญชีในแอพลิเคชั่น metatrader เพื่อเข้าสู่กระบวนการหลอกเอาเงินมาลงทุน โดยมีทีมที่สร้างข้อมูลบนแพลตฟอร์มที่สร้างปลอมขึ้นมา เพื่อหลอกให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่ามีการเทรดเงินได้จริง เมื่อผู้เสียหายหลงโอนเงินลงทุน ก็ตัดขาดการติดต่อทันที ซึ่งมีผู้เสียหายถูกหลอกทั้งคนไทยและคนต่างชาติสูญเงินถูกหลอกมีการแจ้งความที่ต่างประเทศและที่ประเทศไทยมูลค่าความเสียหายมากกว่า 100 ล้านบาท

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าทุกคนจะได้เงินเดือนคนละ 25,000 – 35,000 บาท ต่อเดือน โดยทำงานตั้งแต่เวลา 09.00-21.00 โดยมีหัวหน้าแก๊งคนจีนเป็นคนดำเนินการเช่าพื้นที่ และนำทุกคนมาทำงาน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้งหมดว่า”สมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปเป็นซ่องโจร เพื่อร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์โดยทุจริต หรือโดย หลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” และแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ในส่วนผู้ต้องหาชาวจีนว่า “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตด้วย

จับ3หนุ่มรับจ้างนายทุนแปรรูปไม้หวงห้ามในป่าสงวนแห่งชาติอมก๋อย

พ.ต.อ.ทักษิณ จันทะวงค์ ผกก.ปพ.บก.สส.ภ.5 นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภาค 5 สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อมก๋อย เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชม.22(ปางโอ้งโม้ง) จับกุมผู้ต้องหาจำนวน 3 คน อายุระหว่าง 28-35 ปี ชาวบ้าน อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลางไม้พลวงแปรรูป จำนวน 6 แผ่น เลื่อยโซ่ยนต์ จำนวน 3 เครื่อง นำตัวดำเนินดคีข้อหา”มีและแปรรูปไม้หวงห้ามไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต บุกรุกก่อสร้างแผ้วถางยึดถือครอบครองหรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต และมีหรือผลิตหรือนำเข้าเลื่อยโซ่ยนต์ โดยไม่ได้รับอนุญาต

เจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนว่ามีการทำไม้และแปรรูปไม้ในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าอมก๋อย ในเวลากลางคืน บริเวณท้องที่บ้านยางแก้ว หมู่ที่10 ต.อมก๋อย อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ เมื่อไปถึงก็พบกลุ่มคนกำลังเลื่อยไม้ จึงแสดงตัวเข้าทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไว้พร้อมของกลาง จากการสอบสวนให้การว่าได้รับว่าจ้างจากนายทุน มาทำการแรปรูปไม้โดยไม่รู้ว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าสงวนแห่งชาติและไม่รู้ว่าไม้เหล่านี้เป็นไม้หวงห้าม ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ และจะขยายผลถึงนายทุนผู้บงการต่อไป