บสย.ช่วยSMEsเติมเงินหมื่นล้านบาทหนุนค้ำประกันส่งบสย.F.A.Center-สำนักงานสาขาให้คำปรึกษาตัวต่อตัว

นายธีรัชย์ อัตนวานิช รองปลัดกระทรวงการคลัง และ ประธานกรรมการบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) นำทีมผู้บริหาร นำโดย นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บสย. ทีมที่ปรึกษาทางการเงิน SMEs บสย. F.A. Center และ ทีมสำนักงานเขตนครหลวง ลงพื้นที่ตลาดนัด หลังกระทรวงการคลัง พบปะผู้ประกอบการร้านค้า พ่อค้าแม่ขาย และกลุ่มผู้ค้ารายย่อย กว่า 80 ร้านค้า พร้อมแนะนำ ศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน SMEs (บสย.F.A. Center) หนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก เติมเต็มศักยภาพทางการเงิน และเตรียมความพร้อมการพลิกฟื้นกิจการ หลังเปิดประเทศ ตามนโยบายกระทรวงการคลัง และ ธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งได้มอบหมายให้ บสย. ทำหน้าที่เป็นกลไกสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ช่วยผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งทุน เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

 

นายสิทธิกร กล่าวว่าวัตถุประสงค์ของการลงพื้นที่ครั้งนี้ เพื่อรับทราบข้อมูลในมิติต่างๆ ของผู้ประกอบการ SMEs และกลุ่มผู้ค้ารายย่อย ได้แก่เพื่อรับทราบสภาพปัญหาการค้าขายของกลุ่มผู้ค้ารายย่อยรับทราบความต้องการเข้าถึงสินเชื่อ หลังการเปิดประเทศ ให้ข้อแนะนำเตรียมความพร้อมให้ผู้ประกอบการที่ต้องการขอสินเชื่อ และแนะนำศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน SMEs (บสย.F.A. Center)สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการดำเนินธุรกิจที่เปลี่ยนไป การเข้าถึงสินเชื่อ สภาพคล่องทางการเงิน ปัญหาการเข้าถึงแหล่งทุน และสินเชื่อยากขึ้น บสย.จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในช่วงเศรษฐกิจกำลังกลับมาฟื้นต้ว ภายใต้แนวคิด TCG Fast & First รวดเร็ว รอบคอบ ที่ 1 ในใจ SMEs บสย. ตอกย้ำความมั่นใจพร้อมช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ทุกกลุ่ม และพร้อมเป็นหลักประกันทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการทุกราย โดยเฉพาะรายย่อย ที่ขอสินเชื่อจากสถานบันการเงิน และขอค้ำประกันสินเชื่อโดยเมื่อเร็วๆนี้ บสย. ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการ บสย. จัดสรรวงเงินอีกจำนวน 10,000 ล้านบาท ทำให้ บสย. มีวงเงินรองรับการค้ำประกันสินเชื่อ ในโครงการ บสย. SMEs สร้างชาติ (PGS 9) รวม 23,000 ล้านบาท จนถึง 30 พฤศจิกายน 2565 ปรึกษาการเข้าถึงสินเชื่อ และขอรับคำปรึกษาด้านการเงิน ศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน SMEs (บสย.F.A.Center) บสย. Call Center 02-890-9999

บสย.ผนึกส.อ.ท.ลงนามความร่วมมือ“การสนับสนุนผู้ประกอบการให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อการดำเนินธุรกิจ”ผสานกำลังขับเคลื่อนประเทศไทยติดปีกธุรกิจไทยสู่ความอย่างยั่งยืน

ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จ.เชียงใหม่ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมต.กระทรวงการคลัง ให้เกียรติร่วมงาน FTI EXPO 2022 และร่วมเป็นสักขีพยานความร่วมมือ “การสนับสนุนผู้ประกอบการให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อการดำเนินธุรกิจ” ระหว่าง บสย. และ ส.อ.ท. โดยขึ้นกล่าวปาฐกถาพิเศษ “การกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศไทยด้วยมาตรการการเงินและการคลัง” โดยส่วนหนึ่งของการบรรยายได้กล่าวถึง ในช่วงที่ผ่านมา ได้ออกมาตรการการช่วยเหลือประชาชนจากสถานการณ์ขัดแย้ง ยูเครน-รัสเซีย แล้วรวม 8 มาตรการ คือ 1.มาตรการตรึงราคาขายปลีกก๊าซ NGV 2.มาตรการบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมันดีเซล 3.มาตรการบริหารราคาน้ำมันดีเซล 4.มาตรการขอความร่วมมือกลุ่มโรงกลั่นน้ำมัน 5. มาตรการช่วยเหลือด้านราคาก๊าซ LPG 6.มาตรการประหยัดพลังงานทั้งภาครัฐและเอกชน 7.มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการจัดอบรมภายในประเทศ 8.มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการจัดนิทรรศการและงานแสดงสินค้าในประเทศไทย โดยหลังจากการกล่าวปาฐกถา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ให้เกียรติร่วมเป็นสักขีพยาน ในพิธีลงนามความร่วมมือ “การสนับสนุนผู้ประกอบการให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อการดำเนินธุรกิจ” ระหว่าง นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) และ นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ขานรับนโยบายเปิดประเทศร่วมขับเคลื่อนประเทศไทย สนับสนุนผู้ประกอบการทั้งระบบ

นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้ สอดรับกับนโยบายการเปิดประเทศ และการส่งเสริมการค้าการลงทุน โดยเฉพาะการเข้าถึงแหล่งทุน ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ภายใต้สังกัดกระทรวงการคลัง ภายใต้วิสัยทัศน์ “เป็นศูนย์กลาง การเชื่อมโยงเงินทุน และโอกาสทางธุรกิจให้ผู้ประกอบการ SMEs” ใน 2 บทบาท บทบาทแรก การเป็น Credit Enhancer ออกหนังสือค้ำประกันสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการ SMEs ใช้แทนหลักประกันในการยื่นกู้กับสถาบันการเงิน เป็นการลดต้นทุนด้าน Credit หรือ Credit Cost บทบาทที่สอง คือ การเป็นศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน F.A. Center และหมอหนี้ เพื่อให้คำปรึกษาทางการเงิน Financial Literacy ไม่ว่าจะเป็นด้านการขอสินเชื่อ ด้านการพัฒนาธุรกิจ ด้านการปรับโครงสร้างหนี้ และการแก้ไขหนี้ ตามนโยบายของกระทรวงการคลัง ซึ่งที่ผ่านมา F.A. Center ได้ให้คำปรึกษาและการช่วยเหลือ SMEs ไปแล้วมากกว่า 8,000 ราย นับเป็นความต้องการวงเงินสินเชื่อกว่า 10,000 ล้านบาท การลงนามความร่วมมือ “การสนับสนุนผู้ประกอบการ ในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อการดำเนินธุรกิจ” ระหว่าง สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และ บสย. ในวันนี้ จะเป็นอีกก้าวหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจตอบรับการเปิดประเทศ เพื่อผลักดันการเสริมสร้างให้ผู้ประกอบการกลุ่มอุตสาหกรรม โดยเฉพาะสมาชิกของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เล็งเห็นถึงความสำคัญในการเป็นผู้ผลักดันให้ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมสามารถรักษาเสถียรภาพของธุรกิจและดำเนินธุรกิจต่อไปได้ จึงเป็นที่มาของโครงการความร่วมมือกับ บสย. โดย บสย. จะสนับสนุนด้านความรู้ทางการเงินและธุรกิจ ดำเนินกิจกรรมให้ความช่วยเหลือแก่สมาชิก ส.อ.ท. ให้เข้าถึงแห่งทุนเพื่อการดำเนินธุรกิจ รวมถึงการพัฒนาศักยภาพยกระดับศักยภาพด้านต่างๆ ได้แก่ การให้คำปรึกษาด้านการเงิน ผ่านศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน SMEs หรือ บสย. F.A. Center ทั้งด้านการเตรียมความพร้อมก่อนขอสินเชื่อ การบริหารจัดการเงินทุน การปรับโครงสร้างหนี้ และการพัฒนาธุรกิจ ซึ่งในระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา มีสมาชิกของ ส.อ.ท. ให้ความสนใจรับคำปรึกษาด้านการเงินภายใต้ความร่วมมือดังกล่าวกว่า 200 บริษัท การอบรมให้ความรู้ “รู้ข้อดีบัญชีเดียว พร้อมตัวช่วย” และ “การวิเคราะห์งบการเงินสำหรับ CEO “ ซึ่งหลังจากนี้จะให้ความร่วมมือในกิจกรรมอื่นๆ ทั้งการช่วยเหลือด้านการค้ำประกันสินเชื่อแก่สมาชิก ส.อ.ท. การพัฒนาธุรกิจด้านต่างๆ อาทิ ด้านการตลาดและเทคโนโลยี การเพิ่มประสิทธิภาพและศักยภาพในกระบวนการผลิต การส่งเสริมและผลักดันสมาชิกสู่ BCG ECONOMY MODEL

จนมุมตำรวจ!!!.จับโจรย่องเบาบ้านจัดสรรเดือนเดียวลงมืองัดฉกทรัพย์นับสิบครั้ง

พ.ต.อ.นพฤทธิ์ กันทา ผกก.สส.ภ.จว.เชียงใหม่ พร้อมชุดสืบสวน ภ.จว.เชียงใหม่จับ นายวุธ อายุ 48 ปี ชาว จ.กาญจนบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ จ.500/2565 ลงวันที่ 21 มิถุนายน 2565 พร้อมของกลางแหวน พระเครื่อง และทรัพย์สินอื่นๆกว่า 100 รายการ นำตัวดำเนินคดีข้อหา”ลักทรัพย์ในเคหสถานเวลากลางคืน โดยเข้าทางช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า” สืบเนื่องมาจากในห้วง 1 เดือนที่ผ่านมาตำรวจ สภ.แม่โจ้ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในหมู่บ้านจัดสรร 4 หมู่บ้านในพื้นที่ อ.สันทราย โดยมีผู้เสียหายกว่า 10 หลังคาเรือน ว่าถูกคนร้าย ย่องเข้ามาตอนกลางคืนแล้วงัดหน้าต่างบ้านแล้วเข้าไปโจรกรรมทรัพย์สินภายในบ้านไปเป็นจำนวนมากสร้างความเดือดร้อนไปทั่ว โจรย่องเบาลงมือถี่ยิบชุดสืบสวนจึงแกะรอยจากกล้องวงจรปิดจนรู้ตัวคนร้ายแล้วขอศาลออกหมายจับและจับกุมตัวได้ขณะกบดานในห้องเช่าพื้นที่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้ในที่สุด

แม่บ้านขี้เหงา!!.ผัวออกไปทำงานชวนกันตั้งวงเล่น”ไฮโล”ตำรวจบุกรวบครบทีม12คน

พ.ต.อ.นพฤทธิ์ กันทา ผกก.สส.ภ.จว.เชียงใหม่ พ.ต.ท.ศรีพิงศ์ ไหวยะ รองผกก.สส.ภ.จว.เชียงใหม่ พร้อมชุดสืบสวน ภ.จว.เชียงใหม่ สืบทราบว่าว่าที่บ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 7 ต.เหมืองแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีการลักลอบเปิดบ้านเป็นแหล่งมั่วสุ่มของบรรดากลุ่มแม่บ้าน ที่สามีออกไปทำงานนอกบ้าน เล่นการพนันไฮโลเอาทรัพย์สินกัน จึงบุกเข้าตรวจค้นก็พบบรรดาแม่บ้านอายุระหว่าง 40-65 ปี จำนวน 12 คนกำลังมั่วสุ่มเล่นไฮโลกันอย่างสนุกสนาน เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ทุกคนแตกตื่นจะวิ่งหนีแต่ถูกจับกุมตัวได้ทั้งหมดเพราะวิ่งหนีไม่ไหวเนื่องจากอายุมากแล้ว จึงจับกุมตัวทั้งหมดพร้อมของกลางแผงไฮโล 1 แผง ลูกเต๋า 3 ลูก ฝาครอบพร้อมจานรอง 1 ชุด เงินสด 540 บาท ส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่ริม ดำเนินดคีข้อหา”ร่วมกันลักลอบเล่นการพนัน(ไฮโล) พนันเอาทรัพย์สินกันโดยผิดกฏหมาย ต่อไป

ตร.เชียงใหม่บุกจับบ่อนพนันออนไลน์

พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ นำกำลังเจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามอาชญกรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ จับนายวิน อายุ 26 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คจำนวน 1 เครื่อง กระดานจดรายชื่อลูกค้าและจำนวนเงินได้เสีย จำนวน 1 ชุด เอกสารสำหรับจดบัญชีรายชื่อลูกค้าจำนวน 16 แผ่น ไพ่ จำนวน 1 สำรับ นำตัวดำเนินคดีข้อหา”จัดให้มีการเล่นการพนัน(ไพ่เก๊าเก) พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต (เป็นเจ้ามือรับกินรับใช้) และทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่น หรือเข้าพนันในการเล่นซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานหรือรับอนุญาตแล้วแต่เล่นพลิกแพลง”

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากได้มีผู้เปิดบ่อนพนันออนไลน์ขึ้นโดยโฆษณาเชิญชวนนักพนันมาร่วมเล่นผ่านการไลฟ์สด ลูกค้าอยากจะเล่นก็โอนเงินเข้าบัญชีแล้วให้เล่นครั้งละ 100 บาทขึ้นไป สะสมยอดใครอยากถอนเงินก็ถอนได้ทันทีหากเล่นได้ หากเสียก็เติมเงินเข้ามาใหม่ มีการไลฟ์สดเล่ยพนันวันละ 1 รอบรอบละ 20-30 ครั้ง สามารถสร้างรายได้เดือนละเป็นแสนบาททางเจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบพบว่าสถานที่ตั้งการจัดให้มีการพนันอยู่ที่ห้องเช่าไม่มีเลขที่ ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จึงนำหมายค้นของศาลแขวงจังหวัดเชียงใหม่ บุกเข้าตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

รวบสองหนุ่มขนฝิ่นดิบ35.2กิโลคาด่านตรวจ

พล.ต.ต.วรพงษ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 พร้อมชุดสืบสวนภาค 5 จับนายอรพล อายุ 30 ปี ชาว จ.เชียงราย และนายพสุพล อายุ 26 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลางฝิ่นดิบจำนวน 35.2 กิโลกรัม รถยนต์ยี่อห้อมิตซูบิชิ สีขาว ทะเบียน กษ 7871 เชียงราย รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอร์ทอง ทะเบียน กอ 6141 เชียงราย นำตัวทั้งสองดำเนินดคีข้อหา”มียาเสพติดประเภท 2 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยไม่ได้รับอนุญาต ” ชุดสืบสวนภาค 5 สืบทราบว่าจะมีการลักลอบลำเลียงฝิ่นดิบจากประเทศเมียนมา เข้ามาในพื้นที่ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่จึงตั้งด่านสกัดจับที่ตู้ยามบ่อแก้ว ต.บ่อหลวง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ต่อมาได้มีผู้ต้องหาทั้งสองคน ขับรถยนต์ของกลางทั้งสองคันขนฝิ่นดิบจำนวนดังกล่าวมุ่งหน้า อ.กมก๋อย เพื่อนำไปส่งให้กับนายทุนและพ่อค้า จึงถูกจับกุมดังกล่าว

คุมตัวพ่อเฒ่าวัย71ทำแผนหลังแทงสาวคนสนิทดับคาร้านเหล้าตอง

จากกรณีเมื่อเย็นวันที่ 12 มิ.ย.65 ที่ผ่าน ตำรวจสภ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งว่ามีคนถูกฆ่าตายเหตุเกิดที่ร้านขายของชำบ้านป่าคา ต.ตลาดขวัญ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ที่เกิดเหตุ น.ส. เมย์ อายุ 39 ปี ถูกแทงด้วยมีดปลายแหลมตามร่างกาย รวมทั้งสิ้น 4 แผล เสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาล คนร้ายเป็นชายหลบหนีไป ต่อมาพ.ต.อ.ธงชัย กรรณิกา ผกก.สภ.ดอยสะเก็ด พร้อมชุดสืบสวนได้นำหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่เข้าควบคุมตัวนายศรีทน อายุ 71 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ นำตัวมาสอบสวนและไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่หน้าร้านเหล้าตอง ที่เกิดเหตุ โดยการทำแผนประกอบคำรับสารภาพเริ่มตั้งแต่ที่ทางนายศรีทน ผู้ต้องหาได้มีปากเสียงกับ น.ส.เมย์ ที่หน้าร้านซึ่งผู้ต้องหา สนิทกับผู้ตายก่อนเกิดเหตุผู้ตายโทรหาให้มาจ่ายค่าเหล้าให้และมีปากเสียงทะเลาะกันขึ้น ทำให้ฉุนขาดและบันดาลโทสะชักมีดปลายแหลมที่พกมาแทงไปหลายแผลจนเสียชีวิตแล้วหลบหนีไปที่บ้านและให้ญาติประสานมอบตัวกับตำรวจ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาต่อไป

ทหารพรานผาเมืองปะทะแก๊งยาเสพติดชายแดนแม่อายส่งไปลงนรกอีก1ราย

พล.ต.ศุภฤกษ์ สถาพรผล ผบ.กองกำลังผาเมือง ได้รับรายงานจากกองร้อยทหารพราน3201กองบังคับควบคุมทหารพรานศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาค3 กองกำลังผาเมือง ว่าได้ปะทะกับขบวนการค้ายาเสพติด และวิสามัญคนร้ายเสียชีวิตจำนวน 1 ราย เหตุเกิดแนวป่าเขาช่องทาง บ้านป่ากุ๋ย ม.3 ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ. เชียงใหม่ โดยเช้าวันนี้ 12 มิ.ย.65 เจ้าหน้าที่ทหารได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดข้ามชายแดนประเทศเมียนมาเข้ามาจำหน่ายในฝั่งประเทศไทยโดยใช้วิธีเดินลัดเลาะข้ามชายแดนทางช่องทางธรรมชาติบริเวณบ้านป่ากุ๋ย อ.แม่อาย จ. เชียงใหม่ จึงนำกำลังชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าทำการสกัดกั้นเพื่อจับกุม พบคนร้ายเป็นชายไม่ทราบชื่อและสัญชาติ ลักลอบข้ามแดนเข้ามาจึงให้หยุดเพื่อทำการตรวจค้นปรากฏว่าคนได้ได้เปิดฉากยิงใส่เจ้าหน้าที่ก่อนเพื่อเปิดทางหลบหนี จึงเกิดการยปะทะกันขึ้นพบคนร้านถูกยิงเข้าที่หน้าอกด้านขวาเสียชีวิต ส่วนฝ่ายทหารปลอดภัย ค้นในตัวพบปืนลูกซองสั้น 1กระบอก กระสุน 6 นัด ยาบ้า 6,007 เม็ด โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง จึงตรวจยึดไวเป็นของกลางต่อ

ซิ่งปิ๊กอัพบวกกลางลำชนบรรทุกเทรลเลอร์โชเฟอร์ดับคาซากรถ

เจ้าหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลดอยหล่อ ได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนรถบรรทุกเทรลเลอร์ เหตุเกิดก่อนถึงศูนย์การเรียนรู้สองแคว ถนนสายเชียงใหม่-ฮอด อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ จึงรุดไปตรวสอบและช่วยเหลือพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยใกล้เคียงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่เกิดเหตุพบรถปิ๊กอัพ ยี่ห้ออีซูซุ สีดำทะเบียน ยข 1398 เชียงใหม่ สภาพพังยับมุดอยู่ใต้ท้องรถบรรทุกเทรลเลอร์หมายเลขทะเบียน 70-9767 เชียงราย คนขับติดอยู่ในซากรถเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันใช้อุปกรณ์ตัดถ่างนำร่างออกมาเป็นชายยังไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 30-40 ปี และทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา เบื้อต้นทราบว่ารถยนต์ปิ๊กอัพคันดังกล่าวได้ขับมาตามถนนกระทั่งถึงที่เกิดเหตุมีรถบรรทุกเทรลเลอร์กำลังตีวงเลี้ยวเพื่อกลับรถแต่เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวค่อนข้างมืด ทำให้มองไม่เห็นประกอบกับผู้ตายอาจจะขับรถมาด้วยความเร็วไม่สามารถหยุดรถได้ จึงพุ่งชนอย่างจังเสียงดังสนั่นเป็นเหตุให้เสียชีวิตดังกล่าว

ตร.ภาค5บุกทลายโรงเรียนสอนเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์เปิดติวเข้มที่เชียงใหม่เก่งแล้วส่งไปทำงานที่เมียนมาโทรกลับหลอกตุ๋นทุกรูปแบบเหยื่อคนไทย-จีน

พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รองผบช.ภ.5 พร้อมกำลังชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามอาชญกรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตำรวจภูธรภาค 5นำหมายค้นของศาลจังหวัดเชียงใหม่ และกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 20 นาย บุกเข้าปิดล้อมตึกแถวขนาด 3 ชั้น ในพื้นที่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ หลังรับแจ้งว่ามีนายหัวชาวจีน มาเช่าเแล้วเปิดเป็นที่ทำการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ บริเวณชั้น 2 พบชายชาวจีนจำนวน 2 คนและหญิงสาวชาวไทยจำนวน 5 คนกำลังนั่งทำงานหน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ร่วม 10 ตัว โดยแต่ละเครื่องพนักงานมีการโพสต์เชิญชวนให้คนไทย มาสมัครงานโดยอ้างว่าได้เงินเดือนสูง โดยเริ่มแรกให้ฝึกงานที่เชียงใหม่ หากผ่านก็จะถูกส่งไปทำงานที่้ประเทศเมียนมา นอกจากนี้ยังมีการโพสต์เชิญชวนใครสนใจสามารถข้ามแดนไทย-เมียนมา สามารถพาข้ามได้โดยรับรองความปลอดภัยให้ 100 เปอร์เซ็น ทางเจ้าหน้าที่จึงจับกุมผู้ต้องทั้งหมดไว้ ดำเนินดคีข้อหาพรบ.คอมพิวเตอร์ นำข้อความอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบความพิวเตอร์ สำหรับพฤติกรรมของแก๊งนี้ เจ้าหน้าที่สืบทราบว่ามีหัวหน้าแก๊งเป็นคนจีนมาเช่าไว้หลายเดือนและรับบรรดาหญิงสาวมาทำงาน และโพสต์เชิญชวนคนตกงานจากภาวะโควิดระบาดมาสมัครงาน จากก็จะนำเข้าโรงเรียนสอนและวิธีการทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เมื่อผ่านการฝึกสอนจนเก่งก็จะส่งตัวไปทำงานที่ประเทศเมียนมา โทรกลับมาหลอกคนไทยและคนจีนทุกรูปแบบที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้หลอกเหยื่่อในปัจจุบันนี้