สลดยายพาหลาน6ขวบซ้อนท้ายจยย.จะเลี้ยวเข้าซอยปิ๊กอัพวิ่งตามมาหักหลบไม่ทันชนท้ายร่างกระเด็นดับทั้งคู่

2 มี.ค.64 ร.ต.อ.ทรงศักดิ์ ปัญญาดี ร้อยเวร สภ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ รับแจ้งเหตุรถยนต์ชนจักรยานยนต์มีคนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เหตุเกิดถนนสาย แม่ออน-ดอนจั่น บ้านดงขี้เหล็ก ต.แช่ช้าง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปสอบสวนยังที่เกิดเหตุพร้อมกับพวกและเจ้าหน้าที่กู้ภัย

จุดเกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า สีดำแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สภาพล้มอยู่กลางถนน มีร่องรอยถูกชนบริเวณด้านท้ายได้รับความเสียหาย ห่างออกพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีดำ หมายเลขทะเบียน ยค 1628 นครราชสีมา จอดอยู่กลางถนน สภาพกันชนและด้านหน้าพังยับเยิน ริมถนนพบศพ ด.ช..ดาว (นามสมมุติ) อายุ 6 ปี ถูกแรงอัดของการชนกระเด็นเสียชีวิตเลือดไหลนองพื้น ส่วนคนเจ็บอีกรายชื่อนางรสริน อายุ 56 ปี ชาวอำเภอสันกำแพง ได้รับบาดเจ็บสาหัสเจ้าหน้าที่กู้ภัยรีบนำร่างส่งโรงพยาบาลแต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตระหว่างทาง ส่วนคนขับรถยนต์คือนายศรายุธ อายุ 23 ปี ชาวจังหวัดนครราชสีมา ยืนรอให้การกับกับเจ้าหน้าที่ด้วยอาการตกใจ

จากการสอบสวนเบื้อต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุนางรสริน ได้พาหลานชายซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์กลับจากไปทำธุระข้างนอกขณะขับขี่รถจักรยานยนต์มาตามถนนและกำลังจะเลี้ยวข้ามถนนเข้าซอยในหมู่บ้านรถยนต์วิ่งตามหลังมาหักหลบไม่ทันพุ่งชนท้ายเป็นเหตุให้สองยายหลานเสียชีวิตดังกล่าว ส่วนสาเหตุที่แท้จริงเจ้าหน้าที่จะสอบสวนคนขับรถยนต์และพยานแวดล้อมเพื่อความแน่ชัดอีกครั้งหนึ่ง

ตร.สืบสวนภาค5ทลายเครือข่ายพนันออนไลน์รายใหญ่กลางเมืองเชียงราย

2 มี.ค.64 พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี ผบก.สส.ภ.5 ได้รับรางานจากพ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง.ผบก.สส.ภ.5 ว่าได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค 5 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตำรวจภูธรภาค 5 ได้บุกจับนายทัธนา อายุ 21 น.ส.ปณิดา อายุ 22 ปี และนายบัณฑิต อายุ 24 ปี ทั้งหมดเป็นชาวเชียงราย พร้อมของกลาง ชุดคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ จำนวน 3 ชุด โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง นำตัวดำเนินดคีข้อหา ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดย ทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานหรือรับ อนุญาตแล้วแต่เล่นพลิกแพลง หรือผู้ใดเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นอันขัดต่อบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ หรือกฎกระทรวง หรือข้อความในใบอนุญาต ตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 12″

การจับกุมครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีแก๊งพนันออนไลน์ มาเช่าบ้านหรู เปิดเป็นฐานแหล่งพนันออนไลน์ จึงขอหมายค้นต่อศาลจังหวัดเชียงราย บุกเข้าค้นที่บ้านเลขที่ 388/43 ม.16 ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย จ.เชียงราย เมื่อเข้าไปถึงก็พบผู้ต้องหาจำนวน 3 คนกำลังนั่งทำโปรโมชั่นต่างๆกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นเว็บไซต์การเล่นพนันออนไลน์รูปแบบต่างๆเช่นไพ่เสือมังกร ไพ่บาคาร่า ฟุตบอล หวย สล็อต และการละเล่นอื่นๆอีกมากกว่า 50 ชนิด มีสมาชิกจำนวน 2,000 คน มีเงินหมุนเวียนการเล่นวันละไม่ต่ำกว่า 30,000 บาท เดือนหนึ่งมีการโอนเงินเล่นมากกว่า 1 ล้านบาท จึงจับกุมตัวทั้ง 3 คนไว้พร้อมของกลาง จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ารับจ้างจากเจ้ บ. เอเยนต์เว็บไซต์รายใหญ่ ว่าจ้างพวกตนคนละ 12,000 บาท เปิดมาได้ 3 เดือน ส่วนบ้านหลังนี้ทางเจ้ บ. ได้มาเช่าในราคาเดือนละ 10,000 บาท เพื่อใช้เป็นที่ทำงาน ซึ่งจะขยายผลการจับกุมไปยังกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องต่อไป

สืบชะตาป่าบงน้ำล้อมประกาศปฏิญญาป่าฮิมอิงนักอนุรักษ์เสนอเป็น“แรมซาร์ไซต์”อัตลักษณ์พื้นที่ชุ่มน้ำริมน้ำอิง

ที่ป่าชุ่มน้ำบ้านป่าบงน้ำล้อม ชาวบ้านหมู่ 1 ต.ยางฮอม อ.ขุนตาล จ.เชียงราย ได้จัดกิจกรรม “สืบชะตาป่าชุ่มน้ำ แม่น้ำอิง” โดยชาวบ้านหลายหมู่บ้านในตำบลยางฮอมและชาวบ้านในพื้นที่ป่าชุ่มน้ำอิง กว่า 200 คนเข้าร่วม โดยนายอิทธิมนต์ สุขศรี ผู้ใหญ่บ้านป่าบง กล่าวว่าชาวบ้านป่าบงอพยพมาจากเมืองน่านตั้งแต่สมัยอยุธยานำโดยแสนหลวงอินทรเรืองฤทธิพร้อมชาวบ้าน 16 ครอบครัว ได้พบเห็นที่รบลุ่มเขาดอยยาวมีความเหมาะสมกับการสร้างชุมชนริมที่ราบแม่น้ำอิง โดยในฤดูน้ำหลากน้ำมักท่วมหมู่บ้าน

นายทรรศักดิ์ เมืองแก่น ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านป่าบง กล่าวว่า ตนเกิดมาก็เจอป่าผืนนี้แล้ว ซึ่งปัจจุบันมี 229 ไร่ โดยเป็นป่าชุ่มน้ำที่เกิดขึ้นเองธรรมชาติและชุมชนช่วยกันรักษาเอาไว้ ส่วนมากเป็นต้นข่อย ในฤดูน้ำหลากน้ำในแม่น้ำอิงจะเอ่อท่วมแต่ต้นไม้แต่ไม่ตายและกลายเป็นพื้นที่หากินและวางไข่ของปลาราวเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน แต่น้ำไม่หลากท่วมมาแล้ว 3 ปี อย่างไรก็ตามชาวบ้านยังได้ใช้ประโยชน์จากป่าผืนนี้ร่วมกัน ทั้งหาผัก หาปลา เอาไม้ตายมาทำฟืน โดยมีกติการ่วมกัน เช่น ใครล่าสัตว์ถูกปรับ 1 หมื่นบาท เพราะที่นี่ยังมีสัตว์ป่าหลายชนิด เช่น ไก่ป่า นก อีเห็น

เมื่อสมัยผมเด็กๆป่าชุ่มน้ำแห่งนี้ผืนใหญ่กว่านี้มาก แต่มีคนอยากแบ่งไปเป็นที่ทำกิน จนกระทั่วราวปี 2517 คนเฒ่าคนแก่จึงห้ามโค่นและแผ้วถางป่าเพราะต้องการรักษาเอาไว้ให้ลูกหลาน เราจึงร่างกติกาการใช้ร่วมกัน เราต้องการให้ป่าผืนนี้ได้ขึ้นทะเบียนป่าชุ่มน้ำเพื่อที่จะได้อนุรักษ์สืบต่อไปและไม่ให้ใครมาบุกรุก โดยปัจจุบัน เด็กๆลูกๆหลานๆ ได้มาหาปลา เล่นน้ำ นักเรียนมาสำรวจป่าศึกษาธรรมชาติ สมัยก่อนผมก็เลี้ยงควายในป่านี้ สนุกมาก เล่นน้ำกับควายตั้งแต่เช้าจนเย็น สมัยนั้นทุกบ้านต่างมีควายไว้ไถนา แต่ตอนหลังพอมีเครื่องจักรกล ควายเริ่มหายไปจนเดี๋ยวนี้ไม่มีบ้านไหนเลี้ยงควายอีกแล้ว อยากให้มีการสำรวจป่าผืนนี้และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศเพราะประชาชนจะได้ร่วมกันเรียนรู้เรื่องสัตว์ป่า สัตว์น้ำและกล้วยไม้ ที่ผ่านมาเคยมีภัยถูกคุกคามเพราะมีความพยายามขยายเขตนาเข้ามาในป่า แต่ตอนนี้ผืนป่ากลายเป็นพื้นที่สาธารณะแล้วภัยดังกล่าวจึงหมดไป ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านป่าบง กล่าว

ในช่วงท้ายของกิจกรรมชาวบ้านได้ร่วมกันประกาศ “ปฏิญญาป่าฮิมอิง” ว่า 1.เราจะร่วมกันรักษา ฟื้นฟูและใช้ประโยชน์ป่าฮิมอิง รวมทั้งพื้นที่ชุ่มน้ำอื่นๆ เช่น หนอก บวก อย่างยั่งยืน 2.เราจะเคารพสิทธิในการจัดการทรัพยากรของชุมชนที่ตั้งอยู่บนภูมิปัญญาท้องถิ่น 3.เราจะร่วมกันปกป้องพื้นที่ป่าอัตลักษณ์พิเศษสู้นโยบายการคุ้มครองพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ(แรมซ่าไซต์) 4.เราจะประสานงานร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อการจัดการพื้นที่ชุ่มน้ำอย่างบูรณาการ สอดคล้องต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

ด้านนายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา นายกสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต กล่าวว่าป่าผืนนี้เป็นส่วนหนึ่งใน 26 แปลงของป่าชุ่มน้ำอิงที่มีคุณสมบัติเป็นป่าอัตลักษณ์พิเศษซึ่งได้มีการประเมินโดยคณะวิชาการของกรมส่งเสริมคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อขอขึ้นทะเบียนเป็น “แรมซาร์ไซด์” หรือพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ ซึ่งเราได้ทำเรื่องผ่านจังหวัดไปแล้ว ขั้นต่อไปรอให้ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เพื่อขึ้นทะเบียนอย่างเป็นทางการต่อไป

โจรแสบเจาะตู้เอทีเอ็มแบงก์ไทยพาณิชย์กวาดเงินสดกว่า2ล้านบาทหนีลอยนวล

25 ก.พ.64 พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้รับรายงานจากพ.ต.อ.ชัชวรินทร์ บุนนาค ผกก.สภ.จอมทองจ.เชียงใหม่ ว่า เกิดเหตุคนร้ายบุกเผาและเจาะตู้เอทีเอ็มของธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาจอมทอง ตั้งอยู่หมู่ 5 ถนนสายเชียงใหม่-ฮอด ต.ข่วงเปา อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ฉกเงินสดไปได้กว่า 2 ล้านบาท

จึงเดินทางไปสอบสวน โดยตู้เอทีเอ็มดังกล่าว ตั้งอยู่ใต้ตึกธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งธนาคารดังกล่าวได้ปิดสาขาไปเมื่อเดือน กรกฏาคม 63 แต่ยังเปิดตู้เอทีเอ็มให้บริการประชาชอยู่ คนร้ายน่าจะเข้ามาก่อเหตุในช่วงคืนวันที่ 24 ก.พ. โดยงัดกระจก และแอบเข้าไปในตัวอาคาร ตรงเข้าไปด้านหลังของตู้เอทีเอ็ม ใช้ไฟเผาด้านหลังของตู้เอทีเอ็มแล้วเจาะกวาดเอาเงินสดไปไม่ต่ำกว่า 2.1 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าธนาคารที่ได้นำเงินสดจำนวนกว่า 6.2 ล้านบาท มาใส่ไว้ในตู้เอทีเอ็มจำนวน 2 ตู้ที่ธนาคารดังกล่าวเพื่อให้ประชาชนได้ใช้กดเงินสด ก่อนถูกคนร้ายคาดว่ามาด้วยกันไม่ต่ำกว่าสองคนลงมือในครั้งนี้ซึ่ง ผู้การตำรวจภูธร จ.เชียงใหม่ สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่และเพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

รวบแล้วแก๊งเงินกู้ดอกโหดข่มขู่ทวงหนี้แม่บ้านปั๊มน้ำมันจนเครียดแขวนคอตายหนีหนี้

 

วันที่ 23 ก.พ.64 พ.ต.ท.นฤทธิ์ เกิดดี รอง ผกก.วข.สส.ภ.5 พ.ต.ท.โชติพัฒน์ แสงโรจน์ สว.สส.สภ.สารภี พร้อมชุดสืบสวนภาค 5 และสืบสวนสภ.สารภี ได้ทำการจับกุมตัวนายพรพิทักษ์ อายุ 43 ปี ชาว จ.ระยอง พร้อมของกลาง แผ่นกระดาษจดบัญชีรายชื่อลูกค้าที่เรียกเก็บรายวัน 1 เล่ม โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่องรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าดรีมสีดำ หมายเลขทะเบียน 1 กพ 2403 เชียงใหม่ จำนวน 1 คันนามบัตรเงินกู้ จำนวน 3 ใบเงินสดจำนวน 700 บาท นำตัวดำเนินคดีข้อหา”ประกอบธุรกิจให้สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับในทางการค้าปกติโดยไม่ได้อนุญาตจาก รมต.กระทรวงการคลัง,ให้บุคคลอื่นยืมเงินโดยเรียกอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ”

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อ22 ก.พ.64 ที่ผ่านมา เกิดเหตุนาง ก.(นามสมมุติ) อายุ 48 อยู่บ้านกู่แดง หมู่ 6 ต.หนองแฝก อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ผูกคอตายหนีแก๊งท้องหนี้ดอกโหดกับต้นลำไยหลังบ้าน หลังเกิดเหตุทางตำรวจได้ลงพื้นที่เพื่อสืบสวนทราบว่าผู้ตายแต่เดิมมีอาชีพขายผัดไทย แต่ด้วยพิศเศรษฐกิจซบเซาขายไม่ค่อยได้จึงหันไป กู้เงินดอกเบี้ยโหดมาจำนวน 7 เจ้าด้วยกันโดยพยามหมุนเงินต้องผ่อนรายวันเป็นดอกลอยสูงถึง วันละ 2,100 บาท และพอหมุนเงินไม่ทัน จึงไปทำงานพิเศษเป็นแม่บ้านปั๊มน้ำมันเพื่อหาเงินมาจ่ายแต่ก็ยังไม่พออยู่ดีถูกแก๊งดอกโหดทวงทั้งกลางวันและกลางคือจึงเกิดความเครียดผูกคอตายหนหนี้ดังกล่าว

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนก็พบว่านายพรพิทักษ์ เป็นหนึ่งในเจ้าหนี้เงินกู้มีพฤติกรรมข่มขู่ผู้ตาย จึงสืบสวนสอบสวนและติดตามจับกุมได้ขณะไปเก็บเงินกู้ลูกค้าย่านถนนเลียบรถไฟ ต.หนองผึ้ง นำตัวมาสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าปล่อยเงินกู้ให้ผู้ตาย โดยผู้ตายกู้เงินของตนเองไปจำนวน 6,000 บาทตนมาเก็บดอกลอยวันละ 120 บาท แต่ผู้ตายบ่ายเบี่ยงไม่ยอมจ่ายมาหลายวันแล้วติดต่อไปก็ติดต่อไม่รับ แต่ตนไม่เคยข่มขู่ แค่ทวงบ่อย ทวงทุกทาง ไม่คาดผู้ตายจะฆ่าตัวตาย

นายเลอยศ พุทธชิโนรสสกุล นายอำเภอสารภี พ.ต.อ.บัญชา อินถา ผกก.สภ.สารภี พร้อมคณะได้เดินทางไปที่วัดกู่แดง หมู่ 6 ต.หนองแฝก อ.สารภี จ.เชียงใหม่ เพื่อไปเยี่ยมให้กำลังใจญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตพร้อมให้กำลังใจครอบครัว โดยทางนายอำเภอ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจระดมกวาดล้างเครือข่ายแก๊งเงินกู้ดอกเบี้ยโหด มาดำเนินดคีให้ได้ทั้งหมด และสั่งการให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เข้าพื้นที่ทุกหมู่บ้าน รับฟังชาวบ้านหากพบแก๊งเงินกู้เข้ามาหรือใครปล่อยกู้ในหมู่บ้านให้แจ้งตำรวจ หรืออำเภอ เพื่อดำเนินการจับกุมอย่างเด็ดขาดต่อไปเพราะเป็นการกระทำที่ผิดกฏหมาย

แม่บ้านปั๊มน้ำมันแขวนคอตายหนีหนี้แก๊งเงินกู้ดอกโหด

บ่ายวันที่ 22 ก.พ.2564  พ.ต.อ.บัญชา อินถา ผกก. สภ.สารภี จ.เชียงใหม่ รับแจ้งมีเหตุผู้หญิงแขวนคอเสียชีวิต บนต้นลำไย หลังบ้านเลขที่ 84 หมู่ 6 บ้านกู่แดง ต.หนองแฝก อ.สารภี จ.เชียงใหม่ จึงรุดไปสอบสวนพร้อมกัด้วยแพทย์เวร รพ.สารภี และเจ้าหน้าที่กู้ภัยเทศบาลตำบลหนองแฝก

ที่เกิดเหตุบนต้นลำไยหลังบ้านพบร่างนาง ก.(นามสมมุติ) อายุ 48 ปี  ใช้เชือกผูกคอตัวเองติดกับกิ่งลำไยเสียชีวิต ตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างไร สอบสวนเบื้องต้นนางก.ทำงานเป็นพนักงานแม่บ้านปั้มน้ำมันแห่งหนึ่ง ย่าน ต.หนองผึ้ง อ.สารภี ก่อนหน้านี้ได้กู้เงินจากแก๊งเงินกู้ดอกโหดร้อยละ 20 ในวงเงิน 6,000 บาทโดย เริ่มต้นถูกหักล่วงหน้า 300 บาท และค่าเอกสาร 300 บาท จะได้รับเงินจริงเพียง แก๊งเงินกู้อีกสาย และเพิ่มสายขึ้นเรื่อยๆไม่ต่ำกว่า 4-5สาย เพื่อจะนำเงินส่งรายวันสายอื่นๆจนหนี้ทั้งต้นและดอกทับถมกันมากขึ้นและต้องหาเงินส่งไม่ต่ำกว่า 1,500 บาทต่อวัน ทั้งที่ตนเองมีรายวันละ 350 บาท เท่านั้น บางวันไม่มีเงินส่งแก๊งทวงหนี้หมุนเวียนเข้าออกบ้านทั้งกลางวันและกลางคืนเพื่อทวงหนี้เป็นเหตุให้เกิดความเครียดตัดสินใจผูกคอตัวเองตายดังกล่าว

เปิดหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาวบ้านห้วยเสือเฒ่าและบ้านห้วยปูแกงต้อนรับนักท่องเที่ยวหลังปิดยาวช่วงควิด19ระบาดหนัก

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2564 นายหน่อง ไม่มีชื่อสกุล ผู้นำชุมชนบ้านห้วยปูแกง(หมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว) ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ประกาศเปิดหมู่บ้านห้วยปูแกง ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมได้ตามปกติ ภายหลังจากที่ประกาศปิดหมู่บ้านไปเมื่อช่วงต้นเดือนมกราคม 2564 ที่ผ่านมา เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 นายหน่อง กล่าวว่า ช่วงที่ปิดการท่องเที่ยวของหมู่บ้าน ชาวบ้านไม่มีรายได้จากการท่องเที่ยวเลย นอกจากการทำไร่ทำนา ทอผ้า แกะสลักตุ๊กตาไม้ และการเก็บใบตองตึงมาไพเก็บไว้ เพื่อขายให้กับพ่อค้าและไว้ใช้มุงหลังคาบ้านตนเอง


และในช่วงนี้ มีการประกาศผ่อนคลายสถานการณ์โควิด 19 แล้ว จึงประกาศเปิดหมู่บ้านรับนักท่องเที่ยวเช่นเดิม หวังให้ชาวบ้านมีรายได้จากการจำหน่ายของที่ระลึกให้กับผู้มาเยือน โดยบรรยากาศทั่วไปของหมู่บ้านห้วยปูแกงในวันนี้ ชาวบ้านทำการเก็บกวาดบ้าน ทำความสะอาดและจัดร้าน เพื่อรอต้อนรับนักท่องเที่ยวแล้ว เช่นเดียวกันกับที่หมู่บ้านห้วยเสือเฒ่า ก็ได้เปิดรับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการแล้ว หมู่บ้านห้วยเสือเฒ่า และห้วยปูแกง นั้น ถือว่าเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวเป็นประจำไม่ขาดสายในทุกฤดูกาล ซึ่ง หมู่บ้านห้วยปูแกง และ หมู่บ้านห้วยเสือเฒ่านั้น เป็นชุมชนวัฒนธรรมของชาว “กะยัน” หรือ “กะเหรี่ยงคอยาว” ซึ่งอยู่อาศัยร่วมกันกับ ชาวกะยอ (กะเหรี่ยงหูใหญ่) กะแย (ชาวกะเหรี่ยงแดง) และชาวไต (ไทใหญ่)

ม.แม่โจ้”ชวนยิ้ม ชิมกัญ(ชา)”ต่อยอดงานวิจัยการใช้ชิ้นส่วนกัญชาอย่างเหมาะสมและปลอดภัยพร้อมสาธิตการปรุงเมนูอาหารรสเด็ดกว่า40ร้านดังเข้าร่วม

20 ก.พ.64 ที่โรงปลูกกัญชาทางการแพทย์ 16,700 ต้น ศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ นายสำเริง ไชยเสน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย ดร.อำนวย ยศสุข นายกสภามหาวิทยาลัยแม่โจ้ รศ. ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และ ศ. ดร.อานัฐ ตันโช ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ร่วมกันเปิดงานโครงการ “แม่โจ้ชวนยิ้ม ชิมกัญ(ชา)” ซึ่งเป็นกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้จัดขึ้นเพื่อสาธิตการนำชิ้นส่วนกัญชา ได้แก่ ใบ ต้นและราก ที่ใช้ได้อย่างถูกกฎหมายมาปรุงอาหาร โดย มีร้านอาหารทุกระดับทั้งสตรีทฟู้ดส์และร้านอาหารชื่อดังในจังหวัดเชียงใหม่ รอบๆเชียงใหม่ กทม.และจังหวัดอื่นๆ เข้าร่วมโครงการจำนวน45 ราย ได้สาธิตการปรุงอาหารและนำเสนอเมนูอาหารอย่างหลากหลายทั้งอาหาร ขนมและเครื่องดื่ม ให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับชมการปรุงอาหารและชิมฟรีตลอดการจัดงาน โดยผู้ร่วมงานทุกคนจะสามารถเลือกรายการอาหารที่ตนเองสนใจได้เพียงห้ารายการ ซึ่งเป็นมาตรการการป้องกันอันตรายกับผู้บริโภคที่อาจมีอาการแพ้สารสำคัญในพืชกัญชาซึ่งแขกรับเชิญและประชาชนจำนวนมากเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ที่จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมเพียง500คน ตามมาตรการสาธารณสุขในการป้องกันเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19

ศ.ดร.อานัฐ ตันโช ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้มหาวิทยาลัยแม่โจ้มอบหมายให้ศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรธรรมชาติ รับผิดชอบดำเนินการ เพื่อเป็นการต่อยอดจากงานวิจัยจากโครงการปลูกและเก็บเกี่ยวกัญชาเพื่อทางการแพทย์ในระบบอินทรีย์ระดับอุตสาหกรรม ที่ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ในการที่จะนำชิ้นส่วนของกัญชานอกจากช่อดอกมาใช้ประโยชน์และทำให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ โดยมีโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นต้นแบบในเรื่องการนำมาใช้ปรุงเป็นเมนูอาหาร และได้รับการสนับสนุนจากองค์การอาหารและยา(อย.)ด้วย ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้จะเป็นการทดสอบและทำให้ทราบถึงคุณสมบัติที่ดีของกัญชาในการนำมาใช้ปรุงอาหาร ตลอดจน เป็นการประเมินผลข้อมูลที่นำไปสู่การวางหลักเกณฑ์ ทั้งวิธีการและปริมาณการใช้ที่เหมาะสมเพื่อหน่วยงานรับผิดชอบจะประกาศบังคับใช้เป็นกฎระเบียบตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการนั้น มีทุกระดับตั้งแต่ร้านอาหารตามสั่งในมหาวิทยาลัยแม่โจ้หรือสตรีทฟู้ดส์ทั่วไป,ร้านอาหารชื่อดังในจังหวัดเชียงใหม่ และบริษัทเอกชนผู้ผลิตอาหารเครื่องดื่ม โดยทางมหาวิทยาลัยแม่โจ้จะสนับสนุนใบกัญชาสดให้ร้านละ 200 กรัม พร้อมปริมาณแนะนำการใช้เป็นส่วนผสมในการปรุงอาหารเฉลี่ยจานละ1ใบ รวมทั้งชิ้นส่วนของต้นและราก อีกจำนวนหนึ่งตามความเหมาะสมและตามสูตรอาหารของแต่ละร้าน เป็นส่วนผสมในการปรุงอาหารและนำเสนอเมนูอาหารอย่างหลากหลายทั้งอาหาร ขนมและเครื่องดื่ม โดยแต่ละร้านทำการปรุงร้านละ3เมนู ให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับชมการปรุงอาหารและชิมฟรีด้วย ซึ่งการจัดงานครั้งนี้น่าจะถือได้ว่าเป็นหนึ่งในกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวด้วย เพราะมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นแหล่งปลูกที่ถูกต้องตามกฎหมายและมีคุณภาพดีเป็นที่ยอมรับจากผลงานวิจัย ที่พร้อมใช้ชิ้นส่วนของกัญชาสนับสนุนและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่อีกทางหนึ่ง

ขณะเดียวกัน ศ. ดร.อานัฐ กล่าวย้ำว่า แม้ว่าขณะนี้ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขจะปลดล็อคให้ชิ้นส่วนกัญชาทั้งใบ ต้นและราก สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้โดยไม่จัดเป็นยาเสพติด อย่างไรก็ตามชิ้นส่วนที่จะนำไปใช้ประโยชน์ได้นั้น ต้องนำมาจากแหล่งที่ผู้ปลูกได้รับการอนุญาตให้ปลูกถูกต้องตามกฎหมายด้วย ไม่เช่นนั้นแล้วยังถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย ซึ่งหากมีการได้มาจากแหล่งที่ถูกต้องตามกฎหมายและถูกต้องตามกระบวนการก็สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในครัวเรือนได้ เช่น นำไปใช้เป็นส่วนผสมในการปรุงอาหารหรือเครื่องดื่ม เป็นต้น ส่วนในกรณีถ้าหากมีผู้ประกอบการจะนำไปเป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องดื่ม หรือเครื่องสำอาง เพื่อจำหน่ายนั้น จะต้องมีการแจ้งและขอนุญาตกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ด้วย

ขอบคุณ-ภาพข่าวฝ่ายสื่อสารองค์กร ม.แม่โจ้

ตร.ทลายเครือข่ายขายยาทำแท้งเถื่อนกลางเมืองเชียงใหม่

18 ก.พ.64 พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบก.ปคบ. นำกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกับ เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา นำหมายจับศาลอาญาที่ 318/2564 เข้าตรวจค้นในห้องพักภายในคอนโดมีเนียมแห่งหนึ่งย่านถนนห้วยแก้ว อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จับกุม นส.ลิน(นามสมมุติ) ชาว จ.เชียงใหม่พร้อมของกลางยาแผนปัจจุบันหลายยี่ห้อที่มีการแกะเม็ดยาออกจากแผงและแผงยาที่ยังไม่ได้แกะ รวม 47 แผง ซองซิปสำหรับบรรจุยา 700 ซอง ซองกันกระแทก 1,150 แผ่น กล่องสำหรับส่งพัสดุไปรษณีย์ 9 กล่อง ตราสัญลักษณ์ร้านค้า 3 ตรา ควบคุมตัวดำเนินคดีในข้อหา” ร่วมกันขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันขายยาที่ไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา , ร่วมกันโฆษณาขายยาโดยทำให้เข้าใจว่าเป็นยาทำให้แท้งลูกหรือยาขับระดูอย่างแรง , ร่วมกันโฆษณาขายยาทางวิทยุกระจายเสียง เครื่องขยายเสียง วิทยุโทรทัศน์ ทางฉายภาพหรือภาพยนตร์หรือทางสิ่งพิมพ์ โดยไม่ได้รับอนุญาต”

ผู้ต้องหารับสารภาพว่า สั่งซื้อยามาจากต่างประเทศ แผงละ 10 เม็ด ในราคาแผงละ 2,500 นำมาแกะแผงแบ่งขายเม็ดละ 500 บาท โดยใช้ช่องทางออนไลน์ขายทุกวัน เมื่อมีลูกค้าสั่งซื้อจะจ้างให้คนไปส่งพัสดุไปรษณีย์ให้กับลูกค้า นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังกระจายกำลังออกติดตามจับกุมผู้ต้องหาร่วมเครือข่ายรวมทั้งหมด 6 จุด ในท้องที่ อ.เมือง และ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ จับกุมผู้ต้องหาร่วมเครือข่ายได้อีก 4 คนนอกจากนี้ยังขยายผลขยายผลในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สมุทรสาคร กาญจนบุรี และ นนทบุรี จับกุมผู้ต้องหาร่วมเครือข่ายได้อีก 2 คน โดยเครือข่ายขายยาทำแท้งเถื่อนรายนี้เป็นเครือข่ายใหญ่ที่มีการลักลอบจำหน่ายผ่านทางออนไลน์ มีลูกค้าสั่งซื้อหลายจังหวัดทั่วประเทศตำรวจติดตามพฤติกรรมมานานกว่า 1 ปี พบว่ามีลูกค้าสั่งซื้อจำนวนมากทุกวัน มีบางวันยอดขายสูงถึง 5 หมื่นบาทด้วย

จับยาเสพติดล็อตใหญ่ยาบ้า8ล้านเม็ดเฮโรอีน551กิโลกรัมผบ.ตร.บินแถลงข่าวด้วยตัวเอง

16 ก.พ.64 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พล.ต.อ.มนู เฆมหมอก รองผบ.ตร. พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมคดียาเสพติดรายใหญ่ 2 ราย ผู้ต้องหา 2 คนของกลาง เฮโรอีน 1,400 แท่ง น้ำหนัก 551 กิโลกรัม ยาบ้า 8,000,000 เม็ด รถยนต์บรรทุก 10 ล้อจำนวน 2 คัน

คดีแรกเมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมาชุดสืบสวนภาค 5 ร่วมกับตำรวจด่านตรวจห้วยไร่ จ.แพร่ จับกุมตัว นายปรีดา สงวนหงส์ อายุ 29 ชาว จ.ตราด พร้อมของกลาเฮโรอีนจำนวน 1,400 แท่ง น้ำหนักรวม 551 กก. รถยนต์บรรทุก 10 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ เลขทะเบียน 70 9612โดยเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าจะมีการ ลอบขนยาเสพติดล็อตใหญ่จากพื้นที่ชายแดนภาคเหนือไปส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ จ.ปทุมธานี จึงนำกำลังตั้งด่านสกัดที่ด่านห้วยไร่ พบรถบรรทุกขนมะม่วงตามสายรายงานจึงตรวจค้นพบเฮโรอีนดังกล่าวซุกช่อนมาด้วย รายที่สองวันที่ 15 ก.พ.64 เจ้าหน้าที่ชุดเดิท จับนายวุฒิชัย นวลเกตุ อายุ 34 ชาว จ.เพชรบูรณ์ พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 8 ล้านเม็ด ยนต์บรรทุก 10 ล้อ หมายเลขทะเบียน 70-1966 ชัยภูมิ จำนวน 1 ขณะที่ผู้ต้องหาผู้ต้องหาขับรถบบรทุกถ่านมาเต็มคันรถค้นพบยาบ้าดังกล่าวซุกซ่อนมาด้วย

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่าคดีทั้งสองเกี่ยวข้องกันเพราะคนว่าจ้างเป็นคนเดียวกันออกเงินซื้อรถสิบล้อให้ โดยให้ค่าจ้างขนคนละ 1 แสนบาท ขับรถมาจอดที่ จ.พะเยา มีขบวนการขนยาเสพติดขึ้นรถและอำพรางด้วยสินค้าทางการเกษตรอาศัยขนช่วงวันวาเลนไทน์หรือวันแห่งความรักคิดว่าตำรวจไม่ทำงาน ยาเสพติดล็อตนี้เป็นล็อตใหญ่จะขนไปส่งที่ จ.ปทุมธานี ซึ่งจะได้มีการขยายผลติดตามจับกุมเครือข่ายแก๊งนี้ต่อไป