ตร.ภาค5ทลายบ่อนพนันออนไลน์รายใหญ่ในจ.เชียงใหม่

16 ก.พ.64 พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี ผบก.สส.ภ.5 พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบก.สส.ภ.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตำรวจภูธรภาค 5 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภาค 5 ได้ตรวจสอบพบว่ามีการลักลอบเปิดแหล่งพนันออนไลน์ โดยมีการมาเช่าบ้านหรู เปิดเป็นสำนักงานตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 555/67 ม.2 ต.หนองจ๊อม อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ และที่บ้านเลขที่ 99/283 หมู่บ้านพิมุกต์ 1 ซฮย 5 หมู่ 5 ต.สันทราย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ทางเจ้าหน้าที่จึงเสนอศาลขอหมายค้น และนำกำลังบุกเข้าไปค้นที่บ้านทั้งสองแห่ง โดยจุดแรกพบผู้ต้องหาทั้ง 5 คน จุดที่สองพบผู้ต้องหา 2 คน กำลังวุ่นกับการส่งโปรโมชั่น ให้กลุ่มลูกสมาชิกในเว็บไซต์การพนันที่ใช้ชื่อ s2kbet และเว็บไซต์พนันที่ใช้ชื่อ UFA188BET ซึ่งทั้งสองเว็บไซต์มีการพนันหลายหลายทั้งฟุตบอล หวย บาคาร่า ไฮโล และไพ่อื่นๆกว่า 50 ชนิด โดยมีสมาชิกเว็บไซต์ละ 40,000 คน มีเงินหมุนเวียนโอนเข้าออกทุกเดือนมากกว่า 15 ล้านบาท

ผู้ต้องหาทั้งหมดรับสารภาพว่าว่ารับจ้างทำงานมีรายได้เดือนละ 1หมื่นกว่าบาททำหน้าที่โปรโมทและเชิญชวนให้คนเข้ามาเล่นทำงานมาแล้วร่วม 5 เดือนแล้ว จึงจับกุมตัวทั้งหมดไว้ดำเนินคดีข้อหา”ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดย ทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานหรือรับ อนุญาตแล้วแต่เล่นพลิกแพลง หรือผู้ใดเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นอันขัดต่อบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ หรือกฎกระทรวง หรือข้อความในใบอนุญาต ตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 12 และจะมีการขยายผลถึงนายทุนที่อยู่เบื้องหลังมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

จับครูหนุ่มพานักเรียนสาว15เข้าม่านรูดโดนรวบอ้างรักชอบกันไม่ใช่หลับนอนแลกอัพเกรด

วันที่ 13 ก.พ.64 พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี ผบก.สส.ภ.5 ได้รับรายงานจากพ.ต.อ.วรพงศ์ คำลือ รอง ผบก.สส.ภ.5 ชุดสืบสวนภาค 5 และเจ้าหน้าที่ศูนย์พิทักษ์สิทธิสตรีและเด็กตำรวจภูธรภาค 5 จับกุมตัวนาย ก.(นามสมมุติ) อายุ 39 ปี เป็นครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง ดำเนินคดีในข้อหา”พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย”

สืบจากมูลนิธิช่วยเหลือเด็กและสตรีแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับการร้องเรียนจากเด็กนักเรียน ว่ามีครูมีพฤติกรรมชอบพานักเรียนที่ผลการเรียนไม่ดีพาไปร่วมหลับนอน เพื่อผลการเรียนที่ดีขึ้น ทางมูลนิธิจึงนำข้อมูลประสานร่วมทำงานกับตำรวจโดยติดตามพฤติกรรมของบุคคลดังกล่าวจนกระทั่งเมื่อวันที่ 13 ก.พ. ที่ผ่านมาพบต้องหาขับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่น วีออส สีเทามาจอดรับหญิงสาวคนหนึ่งหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่จึงสกดรอยติดตามไปพบว่ารถยนต์คันดังกล่าวเข้าไปจอดหน้าห้องพัก บี3 โรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่ง ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จึงบุกเข้าตรวจสอบ ก็พบผู้ต้องหาอยู่ภายในห้อง กับหญิงสาว อายุ 15 ปี ซึ่งเป็นเด็กนักเรียนโรงเรียนเดียวกันกับผู้ต้องหาที่เป็นครูสอนอยู่ จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้ปฏิเสธ แต่ให้การยอมรับยอมรับว่าได้คบหาเป็นแฟนกับเด็กนักเรียนหญิงคนดังกล่าวมาหลายปีแล้วโดยปกผิดสถานภาพไว้และพบกันบ่อยครั้งส่วนเรื่องช่วยเหลือเด็กเรื่องผลการเรียนแลกกับการหลับนอนนั้นไม่เป็นความจริง เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อการให้ปากคำ ซึ่งจะได้สอบสวนสืบสวนว่ามีเด็กนักเรียนหญิงคนอื่นตกเป็นเหยื่ออีกหรือไม่ต่อไป

สลดรถยนต์พุ่งจมอ่างเก็บน้ำครูภารโรงพร้อมเมียดับอนาถ

เช้าวันที่12 ก.พ.64 พ.ต.อ.ก่ำแก้ว สุยาติ ผกก.สภ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ รับแจ้งมีเหตุรถยนต์ตกจากดอยสูงแล้วพุ่งลงอ่างเก็บน้ำปางหินฝน บ้านทุ่งหญ้า หมู่ 10 ต.ปางหินฝน อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตหลายราย หลังรับแจ้งจึงรุดไปสอบสวนยังที่เกิดเหตุพร้อมพวกและเจ้าหน้าที่กู้ภัย

ที่เกิดเหตุเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่เนื้อที่กว่า 10 ไร่ พบรถยนต์โตโยต้า​ รุ่นรีโว่ สีเทาดำ​ ทะเบียน​ ยค- 8543 เชียงใหม่ สภาพหงายท้องจมอยู่ในน้ำ ภายในรถพบศพนายสุธรรม​ ฉัตรไทยรุ่ง​ นักการภารโรงโรงเรียนบ้านแม่ตูม​ หมู่ 4 ต.ปางหินฝน อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ และ​นางสีพร​ โชติธีระเดช ภรรยาจมน้ำเสียชีวิตติดอยู่ในรถ ส่วนน.ส.แก้วเรือน​ กันทะวัง ซึ่งเป็นครูอยู่โรงเรียบ้านแม่ตูม ได้กระเด็นออกจากตัวรถสูญหายไปคาดว่าน่าจะเสียชีวิตจมอยู่ในน้ำ เจ้าหน้าที่กู้ภัยและนักประดาน้ำกำลังช่วยกันงมหาร่างอยู่

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่ารถดังกล่าวซึ่งนายสุธรรม เป็นคนขับวิ่งลงทางโค้งจากดอย มาด้วยความเร็วแล้วก็พุ่งตัดโค้งและไม่มีรอยเบรค รถได้พุ่งลงอ่างเก็บน้ำดังกล่าวก่อนที่รถจะจมลงน้ำอย่างรวดเร็ว โดยทั้งหมดได้ออกเดินทางจากโรงเรียนบ้านตูมเพื่อจะเข้ามาทำธุระในตัวเมืองเชียงใหม่ แต่เกิดอุบัติเหตุขึ้นเสียก่อน

วันจ่ายตรุษจีนเชียงใหม่ยังคึกคักอยู่พี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนยังยึดมั่นประเพณีแห่ซื้อของไหว้เจ้าถึงแม้เศรษฐกิจจะไม่ดี

บรรยากาศที่จังหวัดเชียงใหม่ในช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีน พบว่าตามบริเวณต่างๆมีการประดับตกแต่งไฟด้วยโคมไฟสีแดง เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ โดยบรรดาพ่อค้าแม่ค้านำชุดกี่เพ้า ออกมาจำหน่ายกันเป็นจำนวนมาก ส่วนบรรยากาศวันจ่ายของเทศกาลตรุษจีนยังคงคึกคักเช่นทุกปี โดยในวันนี้ได้มีคนไทยเชื้อสายจีนออกมาซื้อของเพื่อเตรียมไปไหว้เจ้ากันเป็นจำนวนมาก ในเบื้องต้นพบว่าราคาอาหารบางอย่างมีการขยับราคาขึ้นเล็กน้อย โดยเฉพาะหมูต้ม จะขึ้นราคา 20-50 บาทจากเดิมขายอยู่ หมูกรอบจากกิโลกรัมละ 380 ขึ้นเป็น 400 บาท ส่วนหมูต้มในปีนี้ขายกิโลกรัมละ 350 บาท ส่วนราคาไก่ต้ม 250-300 บาท และเป็ดพะโล้ 350-400 บาท ซึ่งยังขายราคาเดิมจากปีที่ผ่านมา

นางสาวนิศารัตน์ ศรีบวรบุญ เจ้าของร้านเป็ดพะโล้ ตลาดวโรรส เปิดเผยว่า ในปีนี้ราคาเป็ดและไก่ที่นำมาใช้เป็นวัตถุดิบในช่วงนี้ยังถือว่าทรงตัวไม่แตกต่างจากปีที่ผ่านมามากนัก ส่งผลทำให้ยังคงมีชาวไทยเชื้อสายจีน เดินทางมาซื้อเป็นเพื่อไปไหว้เจ้ากันเป็นจำนวนมาก ซึ่งในปีนี้ยังมีลูกค้าประจำสั่งจองพอๆ กับปีที่ผ่านมา ส่วนลูกค้าปลีกจะซื้อในจำนวนที่น้อยลง เพราะผลพวงมาจากเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมามีการชลอตัว แต่ก็ยังถือได้ว่ายอดสั่งซื้อในปีนี้ไม่แตกต่างจากปีที่ผ่านมาเท่าใดนัก เนื่องจากประชาชนเชื้อสายจีนยังต้องใช้ของไหว้ให้ครบตามประเพณีที่ถูกต้องด้วย

ตร.ล่าตีนผีซิ่งชนคนปั่นจักรยานดับ

ร.ต.อ.เดชาวัต สมแก้ว ร้อยเวร สภ.หางดง จ.เชียงใหม่ รับแจ้งมีเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนคนปั่นจักรยานเสียชีวิต เหตุเกิดถนนสายคันคลองชลประทาน (ขาเข้าเมือง) ม.4 ต.น้ำแพร่ อ.หางดง หลังรับแจ้งจึงไปสอบสวนพร้อมกับพวกและเจ้าหน้าที่กู้ภัย

ที่เกิดเหตุพบรถจักรยานล้มอยู่ห่างออกไปพบศพนายประชัน ตั๋นแจ้ อายุประมาณ 40-50 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ ผู้เสียชีวิตมีที่อยู่อาศัยไม่เป็นหลักแหล่ง และมักจะปั่นจักรยานเก็บของเก่าตามริมถนนก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตปั่นรถจักรยานคันดังกล่าวมาตามเส้นทางซึ่งรถนั้นอยู่ทางเลนถนนด้านซ้าย แต่ขณะปั่นมานั้นได้มีรถยนต์ที่ขับตามมาซึ่งคาดว่าน่าจะไม่ทันสังเกตเห็นรถจักรยานของผู้เสียชีวิตเพราะเป็นเวลากลางคืนถนนมืด จึงพุ่งชนอย่างจังแล้วหลบหนีไป เจ้าหน้านำศพไปเก็บไว้ที่แผนกนิติเวศโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่เพื่อรอญาติมารับไปดำเนินการตามประเพณี และจะได้ติดตามรถคู่กรณีมาดำเนินคดีต่อไป

เมืองสามหมอกสนธิกำลังตรวจสถานบันเทิงหลังผ่อนคลายพ่อค้าแม่ค้ายิ้มรายได้ดีขึ้นเน้นย้ำทุกร้านปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิดอย่างเคร่งครัด

นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน มอบหมายให้ นายชนก มากพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วย นายพงษ์พีระ ชูชื่น นายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง สาธารณสุข ตำรวจ ทหาร อส.ออกตรวจสถานบริการ ผับ บาร์ สถานบันเทิง ในพื้นที่อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน เกือบ 20 ร้านจากการสังเกตเกือบทุกร้านมีประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งคนในพื้นที่และต่างจังหวัดมานักดื่มกินกันอย่างคึกคัก ทำให้ผู้ประกอบการพ่อค้าแม่ค้ายิ้มแย้มแจ่มใส่ สามารถทำมาค้าขายได้ตามปกติ ส่งผลต่อภาพรวมของเศรษฐกิจในจังหวัดแม่ฮ่องสอนเริ่มดีขึ้นในช่วงโควิด

นายชนก มากพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมากว่า 300 วัน จังหวัดแม่ฮ่องสอนไม่มีผู้ติดเชื้อโควิด แต่เราต้องเฝ้าระวังป้องกันทางจังหวัดจึงได้ออกมาตรการควบคุมสถานบริการ แต่หลังจากได้มีการผ่อนคลายให้เปิดบริการได้ถึงเที่ยงคืน นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ก็เป็นห่วง ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจดูความเรียบร้อยว่าสถานบริการแต่ละแห่งปฏิบัติตามมาตราการหรือไม่ โดยตรวจใบอนุญาตประกอบกิจการ , เด็กที่เข้ามาใช้บริการ , ยาเสพติด และอื่น ๆ มีจุดบริการล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ การทำความสะอาดฆ่าเชื้ออุปกรณ์ การตั้งจุดคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิ การกำหนดระยะห่างของโต๊ะนั่งอย่างน้อย 1 เมตร การให้ผู้มาใช้บริการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่นไทยชนะ หรือการจดบันทึกผู้มาใช้บริการ รวมการเก็บประวัติเจ้าของสถานประกอบการและแรงงานที่เป็นคนไทยและต่างด้าว

ซึ่งจะมีแผนการสุ่มตรวจอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคติดต่อ หากพบร้านใดไม่ปฏิบัติตามก็จะมีการลงโทษตามความเหมาะสม จากการตรวจทุกแห่งพบว่าทุกร้านปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด มีเจลล้างมือก่อนเข้าร้าน เว้นระยะห่างขณะนั่งทานอาหาร และไม่มีสิ่งผิดกฎหมาย ระหว่างตรวจทั้งผู้ประกอบการ ผู้มาใช้บริการให้ความร่วมมือดี ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใส่ที่ได้ทำมาค้าขาย มีรายได้จากธุรกิจ ซึ่งร้านค้าต่าง ๆ ก็เป็นส่วนที่ทำให้เศรษฐกิจแม่ฮ่องสอนดีขึ้น หลังจากที่ซบเซามานานในช่วงการแพร่ระบาดโควิดในประเทศไทย และก็เป็นสิ่งที่ดีของสถานบริการที่มีเจ้าหน้าที่มาคอยตรวจตราดูความเรียบร้อย ดูความสงบไม่มีเหตุการณ์ใด ๆ เพราะแม่ฮ่องสอนเป็นเมืองที่ใครมาแล้วมีความสุข ก็ขอเชิญนักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัดเข้ามาเที่ยวในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ไม่มีโควิด แต่ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการที่ทางจังหวัดได้วางไว้ ทุกคนสบายใจเที่ยวได้ทุกอำเภอ

จับเอเย่นต์ยาบ้าหลงกลตำรวจปลอมตัวเป็นคนขับแกร็บฟู้ดส่งอาหารล่อซื้อโดนรวบเข้าซังเต

พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบก.สส.ภ.5 รักษาราชการแทน ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.5 ร.ต.อ.พัฒนพงษ์พันธ์ บุษบง รอง สว.กก.สส.1 บก.สส.ภ.5 พร้อมชุดสืบสวน สภ.บ้านธิ จับนายนิวัฒน์ชนัย อายุ 35 ปี ชาวอ.บ้านธิ จ.ลำพูน พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 40 เม็ด ดำเนินดคีข้อหา”จำหน่ายและมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า)ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย

ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภาค 5 ได้จับกุมพ่อค้ายารายย่อยในพื้นที่ ต.ห้วยยาบ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน หลายคดี และมีการชัดทอดว่าซื้อมาจากผู้ต้องหาซึ่ง เป็นเอเย่นต์กระจายยาบ้า ในพื้นที่ชุดสืบสวนจึงปลอมเป็นคนขับแกร๊บฟู้ดส่งอาหารและติดต่อขอซื้อยาจากผู้ต้องหาในราคาเม็ดละ 70 บาทโดยนัดส่งของกันที่บริเวณริมถนนบ้าน หมู่ที่ 9 ต.ห้วยยาบ จำนวน 10 เม็ดค้นในตัวพบยาบ้าอีก 30 เม็ด รับสารภาพว่าช่วงนี้เศรษฐกิจแย่จึงหันมาค้าโดยรับมาเม็ดละ 40 บาทนำมาแบ่งขายในพื้นที่จนถูกจับกุมดังกล่าว

ตกงานเพราะโควิด19รับจ้างขนยา1.3แสนเม็ดโดนจับครวญเงินค่าจ้างก็ยังไม่ได้แถมติดคุกอีกต่างหาก

พ.ต.อ.ทรงกริช ออนตะไคร้ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พร้อมชุดปราบปรามยาเสพติด ภ.จว.เชียงใหม่ จับนายสมชาย อายุ 29 ปี ชาวบ้านโป่งป่าแขม ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 130,000 เม็ด รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า สีดำ-แดง ทะเบียน 2 กด 1144 เชียงใหม่ ดำเนินคดีข้อหา”ร่วมกันกับพวกที่หลบหนีมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”

การจับกุมครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่าจะมีเครือข่ายค้ายาเสพติด อาศัยจังหวะการคุมเข้มด้านชายแดนของเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ปกครอง เนื่องจากปัญหาในประเทศเพื่อนบ้าน และปัญหาลักลอบข้ามแดนช่วงโควิด19ระบาด อาศัยช่วงนี้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากที่พักตามแนวชายแดน เข้าสู่พื้นชั้นในของประเทศ จึงนำกำลังไปตรวจสอบดักซุ่ม ริมถนนสาย ท่าตอน-แม่จัน บ้านห้วยศาลา ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ต่อมาพบรถจักรยานยนค์ของคนร้าย จำนวน 2 คัน มีชายไม่ทราบชื่อขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีน้ำเงิน ไม่ติดหมายเลขทะเบียน และรถของนายสมชาย ผู้ต้องหา ขับขี่ตามกันมา โดยรถที่นายสมชาย ขับมามีกระสอบปุ๋ย วางไว้บริเวณที่พักเท้าด้านหน้ารถทางเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวออกมาเพื่อขอให้หยุดเพื่อตรวจค้น แต่รถของผู้ต้องหาอีกคัน ไหวตัวทันเร่งเครื่องอาศัยความมืดหลบหนีไปได้ ตรวจค้นก็พบยาบ้าจำนวน 1.3 แสนเม็ดซุกซ่อนอยู่ในกระสอบ ผู้ต้องหารับสารภาพรับจ้างขนยาบ้าจากขบวนการค้ายาจากที่พักยาฝั่งไทยเพื่อลำเลียงเข้าสู้พื้นที่ชั้นในของ จ.เชียงใหม่และเชียงราย สาเหตุที่ทำเพราะตกงานไม่มีเงินใช่ช่วงโควิด19ระบาด ในราคา 1หมื่นบาท เงินก็ยังไม่ได้เพราะเพื่อนที่รับงานมาหนีไปได้แถมถูกจับติดคุกอีก

จับหนุ่มใหญ่ยึดยาบ้า48,000เม็ดไอซ์3.8ก.ก.

พล.ต.ต.ชินวิช วิชัยธนพัฒน์ ผบก.ภ.จว.เชียงราย พ.ต.อ.โสภณ ม่วงเพื่อง ผกก.สภ.เมืองเชียงราย มอบหมายให้ชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงราย โดยการนำของ พ.ต.ท.เกียรติศักดิ์ จิตรประสาร รอง ผกก.สส.สภ.เมืองเชียงราย พ.ต.ท.เกรียงศักดิ์ มณีจันทร์สุข สว.สส.สภ.เมืองเชียงราย พร้อมพวก ตรวจสอบบ้านเช่าหลังหนึ่ง ในหมู่บ้านป่ายางมน หมู่ 2 ต.เวียง อ.เมือง จ.เชียงราย หลังจากได้รับแจ้งว่ามีการนำยาเสพติดจำนวนมากไว้ในบ้านหลังดังกล่าว

สืบเนื่องจากวันที่ 28 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา ตำรวจป้องกันปราบปรามยาเสพติด ภ.จว. สุราษฎร์ธานี จับกุมนายกฤตเมธ หรือปอ แก้วเจริญ พร้อมพวกที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยของกลางยาบ้า 400,000 เม็ด ทำการขยายผลทราบว่ารับยามาจากจังหวัดเชียงราย และยังมียาเสพติดอีกจำนวนหนึ่ง ซุกซ่อนไว้ที่บ้านเช่าหลังดังกล่าวจึงเข้าตรวจค้น พบไอซ์ น้ำหนัก 3.8 กิโลกรัม และยาบ้า จำนวน 24 มัด จำนวน 48,000 เม็ด อยู่ภายในกระเป๋าเดินทางยี่ห้อ PARADOX สีดำ ซุกซ่อนไว้อยู่บริเวณบนฝ้าเพดานในของน้ำของบ้านหลังดังกล่าว ขยายผลต่อจับกุมนายชนม์วิศิษฏ์ อายุ 39 ชาว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ซึ่งเป็นคนนำยาดังกล่าวมาส่งให้ผู้ต้องหาได้อีกคนหนึ่ง

รวบแล้วมือปืนยิงตำรวจเจ็บอ้างจำอะไรไม่ได้ป่วยเป็นประสาทเคยไปรักษาที่รพ.สวนปรุงมาแล้วตำรวจมั่นใจไม่ผิดตัวส่วนจะอ้างยังไงก็ได้มีหลักฐานมัดแน่นดิ้นไม่หลุด

เช้าวันที่ 2 ก.พ.64 พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภจว.เชียงใหม่ พ.ต.อ.มาโนช สุดสวาสดิ์ ผกก.สภ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ นำกำลังกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า20 นายเข้าปิดล้อมบ้านเลขที่ 3/2 หมู่ 8 บ้านห้วยเต่ารูต.สะลวง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ จับกุมตัวนายเหม่า เลาเทาะ อายุ 48 ปี ชาวเขาเผ่าม้ง ตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่เลขที่ จ.58/2564 พร้อมของกลางอาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอกคุมตัวดำเนินคดีในข้อหาพยามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำตามหน้าที่ หรือเพราะเหตุที่จะกระทำหรือได้กระทำตามหน้าที่ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาติ

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 มค.ที่ผ่านมาตำรวจสภ.แม่ริม โดยการนำของ ร.ต.ต.ทนงศักดิ์ สะอาดเอี่ยม รองสว.สืบสวน สภ.แม่ริม ที่นำกำลัง ออกลาดตระเวนในพื้นที่บ้านห้วยเต่ารู ตำบลลวง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ แต่ขณะเข้าตรวจค้น ถูกคนร้ายซุ่มยิง จนกระสุนปืนลูกซองยิงเข้าบริเวณบั้นท้ายด้านซ้ายจนทำให้ได้รับบาดเจ็บเหตุ ก่อนคนร้ายหลบหนีหายไร้ร่อยรอย ทาเงตำรวจได้ไล่ล่าและกดดันกระทั่งผู้ต้องหาหวลกลับมาที่บ้านจึงถูกจับกุมในวันนี้ หลังถูกจับนายเหม่า ให้การวกวนไปมาอ้างว่าจำเรื่องราวไม่ได้ และไม่ได้ใช้อาวุธปืนยิงตำรวจ รวมทั้งไม่ได้หลบหนีเข้าป่าไป แต่นอนอยู่บ้านทุกวัน พร้อมอ้างด้วยว่าตนเองมีประวัติรักษาโรคทางจิตประสาทที่โรงพยาบาลสวนปรุงเมื่อหลายปีก่อน จึงจำเหตุการณ์อะไรไม่ได้ และไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด

พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภจว.เชียงใหม่ เปิดเผยว่าหลังเกิดเหตุผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนยิงตำรวจ จึงจัดเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ออกปูพรมค้นหา ทำให้ผู้ต้องหาหลบหนีเข้าป่าไป กระทั่งช่วงเช้าวันนี้ผู้ต้องหาเริ่มอ่อนล่า และทนกับสภาพอากาศหนาวเย็นในป่าไม่ไหว จึงย้อนกลับมาที่บ้านจึงถูกจับกุม ส่วนคำให้การของผู้ต้องหาที่ปฎิเสธว่า จำอะไรไม่ได้และไม่ได้ใช้อาวุธปืนยิงตำรวจ ถือเป็นคำให้การที่ย้อนแย้งกับคำให้การที่จำได้ว่า มีประวัติรักษาตัวโรคอาการทางประสาทที่โรงพยาบาลสวนปรุง แต่ตำรวจมั่นใจในพยานหลักฐานที่มีอยู่ โดยเหตุการณ์นี้ยืนยันมีผู้ต้องหาเพียงคนเดียว แต่ในวันเกิดเหตุขณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ มีชาวบ้านอยู่ 3 -4 ราย เมื่อเกิดการยิงปะทะกัน จึงทำให้ชาวบ้านตกใจและวิ่งหนีซึ่งไม่ใช่พรรคพวกของคนร้ายแต่อย่างใด