รวบแล้ว!!..ตำรวจภาค5จับแก๊งตุ๋นสาวใหญ่สูญเงิน5ล้านจนต้องฆ่าตัวตาย

24 ต.ค.66 พล.ต.ต.กฤตธาพล ยี่สาคร รรท.ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รอง ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้ร่วมกันแถลงข่าวการเสียชีวิตของสาวใหญ่อดีตข้าราชการเกษียณอายุราชการ ฆ่าตัวตายในบ้านพัก พื้นที่สถานีตำรวจภูธรแม่ริม ภายหลังการสืบสวนสอบสวนพบร่องรอยและพยานหลักฐานปรากฏในโทรศัพท์มือถือของผู้ตาย พบได้ถูกหลอกลวงจากกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ให้โอนเงินเพื่อร่วมลงทุนและทำธุรกิจโดยหลอกลวงว่าจะได้รับผลตอบแทนเป็นเงินจำนวนมาก ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ “MJINTONG” จนสูญเงินกว่า 5.2 ล้านบาท ทำให้ต้องฆ่าตัวตาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 ต.ค.66 ที่ผ่านมา

ในเรื่องที่เกิดขึ้นทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพบว่า คดีดังกล่าวเป็นการหลอกลวงให้ผู้เสียชีวิต โอนเงินร่วมลงทุน โอนเงินทำภารกิจเพื่อรับผลตอบแทนและโอนเงินเพื่อหารายได้พิเศษจากแพลตฟอร์มออนไลน์”MIJINTONG” อาทิเช่น เติมเงินครั้งแรก 30,000 บาท รับรางวัล 899 บาท ผู้เสียชีวิตจึงโอนเงินเติมไปเรื่อยๆ เพื่อหวังเพิ่มรายได้ให้ตัวเองจะได้มีเงินใช้ ซึ่งการหลอกลวงในลักษณะดังกล่าวนี้เป็นการหลอกลวงในรูปแบบผสมผสานไม่ว่าจะทั้งการหลอกให้ร่วมลงทุน หลอกให้ทำภารกิจ หลอกให้หารายได้พิเศษ และจากการสืบสวนพบว่าผู้เสียชีวิตได้ถูกหลอกให้โอนเงินไปยังบัญชีคนร้ายในชั้นที่ 1 และเงินถูกโอนต่อไปยังบัญชีชั้นที่ 2 จำนวนทั้งสิ้น 21 บัญชี ทางเจ้าหน้าที่จึงขยายผลและพบว่ามีผู้ต้องหาเกี่ยวข้องในคดีนี้ทั้งหมด21 ราย โดยแบ่งเป็นบัญชีชั้นที่ 1 จำนวน 10 บัญชี และเงินถูกโอนต่อไปยังบัญชีชั้นที่ 2 จำนวน 11 บัญชี อีกทั้งยังมีเงินของผู้เสียหายบางส่วนถูกโอนไปยังบัญชีชั้นที่ 3 ด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม

พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานและยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขออนุมัติหมายจับผู้กระทำความผิดที่ปรากฎทั้งหมด จำนวน 20 ราย ผู้ต้องหาถึงแก่ความตาย 1 รายต่อมาวันนี้ ศาลจังหวัดเขียงใหม่ได้อนุมัติหมายจับผู้ร่วมกระทำความผิดในคดีทั้งหมด ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนร่วมกันฟอกเงินและความผิดตามพระราชกำหนด มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี” โดยผู้ต้องหาแบ่งเป็นกลุ่มบัญชีชั้นที่ 1 ประกอบไปด้วยคนไทย จำนวน 10 ราย, กลุ่มบัญชีชั้นที่ 2 ประกอบไปด้วยคนไทย จำนวน 7 ราย และคนต่างชาติ จำนวน 3 ราย รวมทั้งสิ้น จำนวน 20 ราย เจ้าหน้าที่้ชุดสืบสวนภาค 5 สืบสวนจังหวัดเชียงใหม่ ได้ติดตามจับกุมกลุ่มผู้ต้องหามาได้ในวันนี้จำนวน 6 คน แบ่งเป็น กลุ่มบัญชีชั้นที่ 1 ซึ่งเป็นคนไทย จำนวน 3 ราย และกลุ่มบัญชีชั้นที่ 2 จำนวน 3 ราย (แบ่งเป็นคนไทย 2 ราย, คนต่างชาติ 1 ราย) ทั้งนี้ในส่วนของผู้ต้องหาตามหมายจับที่อยู่ระหว่างหลบหนีอีก 14 รายนั้น จะได้ดำเนินการระดมกำลังและติดตามจับกุมผู้ต้องหามาสืบสวนขยายผลและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.กฤตธาพล ยี่สาคร รรท.ผบช.ภ.5 เปิดเผยเพิ่มเติมว่าสำหรับในส่วนตำรวจภูธรภาค 5 มีประชาชนมาแจ้งความโดนหลอกลวงมีการโอนเงินเข้าบัญชีม้ากว่า 13,000 คดี ตอนนี้เราได้ทำการอายัดบัญชีม้ากว่า 5000 บัญชีแล้ว ส่วนตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ มีการรับแจ้งความคดีหลอกลวงทางเทคโนโลยีจำนวน 15000 คดี ตอนนี้ทำการอายัดบัญชีม้าไปแล้วกว่า 3600 บัญชี และเรากำลังดำเนินการในจังหวัดอื่นๆเพิ่มต่อไป

บิ๊กล็อต!!…ฉก.ไชยานุภาพกองกำลังผาเมืองจับยาบ้า12ล้านเม็ดชายแดนเวียงแหง

05.45 น.วันที่ 17 ต.ค. 66 เจ้าหน้าที่ ร้อย.ม.1 บก.ผาดง ฉก.ไชยานุภาพ กองกำลังผาเมือง จัดกำลังพล จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ จากฐานฯ หลักแต่ง ทำการตรวจลาดตระเวนเฝ้าตรวจ ตามแผนการสกัดกั้นยาเสพติดและการกระทำผิดกฏหมาย บริเวณเส้นทางบ้านใหม่เมืองจ้อด ต.เปียงหลวง อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ ภายหลังจากสืบทราบว่า จะมีขบวนการค้ายาเสพติดลักลอบลำเลียงนำยาเสพติดจากชายแดนผ่านเส้นทางดังกล่าวเพื่อขนเข้าพื้นที่ชั้นใน ต่อมาได้ตรวจพบรถกระบะต้องสงสัย จำนวน 2 คัน จอดอยู่บริเวณสวนท้ายหมู่บ้านและมีกลุ่มคนซึ่งเป็นแก๊งขนยาเสพติด ประมาณ 15-20 คน ทำการลำเลียงสิ่งของขึ้นบนรถ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ไหวตัวทัน อาศัยความมืดวิ่งหลบหนี ทางเจ้าหน้าที่ได้ไล่ติดตามไปและสามารถควบคุมผู้ต้องสงสัยไว้ได้ 1 คน ส่วนที่เหลือหลบหนีไปได้ จากนั้นจึงได้ตรวจสอบพบยาบ้า บรรจุในเป้จำนวน 61 เป้ๆ รวมประมาณ 12,200,000 เม็ด บริเวณหลังรถกระบะ จึงยึดไว้เป็นหลักฐานและจัดกำลังไล่ล่าติดตามจับกุมแก๊งขนยาบ้าที่หลบหนีมาดำเนินคดีต่อไป

ชวนเที่ยว”ปางอุ๋ง”ดินแดนเมืองสามหมอก!!!…สัมผัสบรรยากาศสุดฟินท่ามกลางไอหมอกและอากาศหนาวเย็นสบาย

นายเกียรติศักดิ์ วังวล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ปางอุ๋ง เปิดรับนักท่องเที่ยวแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 เป็นต้นมา โดยได้มีการจัดระเบียบลานจอดรถ ลดจำนวนเต๊นท์ให้น้อยลง เพื่อลดความแออัดของนักท่องเที่ยว รวมถึงเปิดให้จองผ่านทางระบบอินเตอร์เน็ต และระบบออนไลน์ของหน่วยงานอุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ สำหรับการจองเต็นท์ นักท่องเที่ยวสามารถจองเต็นท์ได้โดยตรง ที่อุทยาน ผ่านทางอินเตอร์เน็ตหรือทางออนไลน์ โดยทางอุทยานจะเป็นผู้กำหนดจุดกางเต็นท์ ให้เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย ด้านความปลอดภัยในปีนี้ จะได้จัดเจ้าหน้าที่ดูแลจำนวนมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับนักท่องเที่ยว

สำหรับแหล่งท่องเที่ยว “ปางอุ๋ง” มีสภาพภูมิประเทศเป็นทิวเขาสูงสลับซับซ้อน มีอ่างเก็บน้ำหรือทะเลสาบที่ล้อมรอบไปด้วยป่าสนสองใบ สนสามใบและดอกไม้เมืองหนาว ช่วงเช้าๆ จะเห็นหมอกหนาลอยอยู่บนผืนน้ำ มีหงส์ขาวและหงส์ดำเป็นฉากหลัง อากาศเย็นสบาย และบรรยากาศโรแมนติก สวยงามจนถูกขนานนามว่าสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยม คือการล่องแพชมวิวและบรรยากาศโดยรอบของปางอุ๋ง นอกจากปางอุ๋งแล้ว ยังมีแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงที่สวยงามน่าสนใจ เช่น ถ้ำปลา น้ำตกผาเสื่อ พระตำหนักปางตอง และบ้านรักไทย พิกัดปางอุ๋ง : https://shorturl.asia/c2PBW จองเต็นท์อุทยานฯและพื้นที่ลานกางเต็นท์ ได้ที่เว็บไซต์ : https://nps.dnp.go.th//index.php ติดต่อสอบถามโทร 082-1911746

ทหารพรานผาเมืองสนธิกำลังรวบ4ผู้ต้องหาแก๊งขนยาเสพติดพร้อมยึดไอซ์591กิโลกรัมในพื้นที่อ.เทิงจ.เชียงราย

1 ตุลาคม 2566 เวลา 22.00 น. ชุดปฏิบัติการข่าวพิเศษ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 31 กองกำลังผาเมือง จัดกำลังพล 1 ชุดปฏิบัติการ ร่วมกับ นปส.เชียงราย กก.2 บก.ปส.3 ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนเฝ้าตรวจเพื่อป้องกันและสกัดกั้นการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติ ประมวลกฎหมายยาเสพติด บริเวณ บ้านม่วงไพรวัลย์ ต.เวียง อ.เทิง จ.เชียงราย พบรถยนต์ ปิ๊กอัพยี่ห้อ นิสสันนาวาร่า สีส้ม ทะเบียน ผต 6426 เชียงราย รถยนต์ ปิ๊กอัพ ยี่ห้อฟอร์ดเรนเจอร์ สีขาว ทะเบียน 2 ฒบ 9325 กรุงเทพมหานคร และรถ จยย. ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ 110 ไอ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 1 กฬ 9426 เชียงราย ขับขี่ตามกันมา จึงได้แสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจค้น ผลการปฏิบัติสามารถจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 4 ราย ทราบชื่อ นายสุทธิศักดิ์ อายุ 22 ปี นายฉัตรชัย อายุ 19 ปี นายไพรัฐ อายุ 24 ปี และ นายทินภัทร อายุ 27 ปี พร้อมของกลางยาไอซ์ จำนวน 30 กระสอบ รวมน้ำหนัก 591 กิโลกรัม บรรทุกอยู่บริเวณท้ายกระบะรถยนต์ ยี่ห้อ นิสสัน ต่อมาเจ้าหน้าที่ทำการขยายผลเข้าตรวจค้น ณ บ้านเลขที่ 82/1 บ้านห้วยหาน หมู่ที่ 9 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ซึ่งเป็นบ้านของ นายอุดมศักดิ์ ซึ่งถูกซักทอดว่าเป็นผู้สั่งการ ผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย โดยในขณะตรวจค้นไม่พบเจ้าของบ้าน ซึ่งจะได้ขยายผลติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป

จับแก๊งขนยาบ้าล็อตใหญ่2ล้านเม็ดไอซ์30กก.กลางเมืองเชียงใหม่

เมื่อเวลา 00.10 น.วันที่ 1 ต.ค.66 พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เพชรมุณี ผกก.สภ.ช้างเผือก พร้อมชุดสืบสวน ได้รับแจ้งว่าจะมีเครือข่ายค้ายารายใหญ่ลักลอบขนยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนนำส่งลูกค้าตอนกลางของประเทศ จึงทำการติดตามสืบสวนหาข่าว ต่อมาเจ้าหน้าที่ก็พบรถอีซูซุดีแม็ก ติดป้ายทะเบียนเชียงใหม่ ขับเข้ามาตามถนนโชตนา มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ ลักษณะตรงตามที่สายรายงาน โดยรถดังกล่าวบรรทุกกะหล่ำปลีมาเต็มคันรถ ทางเจ้าหน้าที่จึงขับรถตามประกกและส่งสัญญาณให้รถดังกล่าวจอดข้างทาง แต่คนขับก็พยายามขับหลบหนี แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่สกัดจับไว้ได้ จากการตรวจสอบพบว่ารถดังกล่าวมีหนุ่มชาว อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ เป็นคนขับ ด้านหลังรถมีการคลุมผ้าใบไว้ เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดออกดูก็พบยาบ้าจำนวน 6 ล้านเม็ด และยาไอซ์อีก 30 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 600 ล้านบาท ซุกซ่อนไว้ในกองกระหล่ำปลี จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลางและควบคุมตัวคนขับเพื่อสอบสวนขยายผลการจับกุมเครือข่ายนี้ต่อไป

ตำรวจภาค5แถลงโชว์!!..จับแก๊งขนยาบ้า2รายของกลางร่วม2ล้านเม็ด

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 21 ส.ค.66 ที่ตำรวตภูธรภาค5 พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภาค5 พร้อมผู้เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงข่าว ผลการปราบปราบจุบกุมแก๊งค้ายาเสพติด 2 คดี จับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน ยึดยาบ้า 1970,000 เม็ด โดยคดีแรก เมื่อวันที่ 18 ส.ค.66 เจ้าหน้าที่ชุด กก.สส.ภ.จว.เชียงราย สภ.เมืองเชียงราย สภ.เชียงแสน และสำนักงาน ปปส. ได้รับแจ้งจากสายลับว่ารถยนต์กระบะ ด้านหลังมีโครงเหล็ก ขับมาจากทางบ้านม้งเก้าหลัง ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย มาตามถนนสายบายพาส อ.เชียงแสน มุ่งหน้าไปทาง อ.พญาเม็งราย แล้วรถยนต์คันดังกล่าวได้กลับขับมุ่งหน้าเข้าพื้นที่ อ.เมืองเชียงราย ลักษณะมีพิรุธ จึงทำการเรียกตรวจสอบบริเวณหน้าศาลากลางหลังเก่า พบนายสมพงษ์ สงวนนามสกุล เป็นคนขับโดยมี น.ส.ศรัญญา ซึ่งเป็นภรรยา นั่งมาด้วยกันนำรถยนต์มาตรวจสอบที่ กก.สส.ภ.จว.เชียงราย พบยาบ้า 200,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในยางอะไหล่รถยนต์คันดังกล่าว จึงไควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

คดีที่สอง เวลา 01.15 น.19 สิงหาคม 66 เจ้าหน้าที่ชุด กก.สส.ภ.จว.เชียงราย, สภ.แม่จัน และ สำนักงาน ปปส. พบรถยนต์รถยนต์กระบะ ด้านหลังมีโครงเหล็ก ขับผ่านเข้ามาในพื้นที่ ต.ป่าซาง อ.แม่จัน จ.เชียงราย มุ่งหน้าไปทางหมู่บ้านป่าเมี้ยง อ.แม่จัน แล้วขับกลับออกมา คาดว่าไปติดต่อรับยาเสพติดมาจึงติดตามรถคันดังกล่าวไป คนร้ายรู้ตัวว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตาม จึงขับหลบหนีเลี้ยวเข้าไปในซอยเขตบ้านร่องคี อ.แม่จัน แต่เป็นซอยตันจึงจอดทิ้งไว้ และวิ่งหลบหนีไปได้ ตรวจสอบภายในห้องโดยสารพบของกลางยาบ้า 1,770,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในกระเปาเป้สะพายหลัง 17 ใบ จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง และนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่จัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สรุปผลการจับกุมยาเสพติดของตำรวจภูธรภาค 5 เหตุห้วง ตั้งแต่ 1 ต.ค.65 – 19 ก.ค.66 จับกุมคดียาเสพติด จำนวน 28,094 คดี คดีรายสำคัญ 128 คดี ตรวจยึดของกลางยาบ้า 90,850,519 เม็ด ไอซ์ 2,719.66 กิโลกรัม เฮโรอีน 35.52 กิโลกรัม เคตามีน 435.85 กิโลกรัฝิ่น182.67กิโลกรัม
ตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับยาเสพติด – มูลค่าทรัพย์สินประมาณ 453 ล้านบาท

สาวญี่ปุ่นดับปริศนา!!…ถูกรัอคอด้วยสายชาร์จโทรศัพท์ดับคาห้องน้ำโรงแรมดังเชียงใหม่

11.30 น.วันที่ 31 ก.ค.66 พ.ต.อ.ภูวนาถ ดวงดี ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้รับแจ้งเหตุ พบหญิงสาวเสียชีวิตภายในห้องพักโรงแรมแห่งหนึ่งในย่าน ถ.มหิดล อ.เมืองเชียงใหม่ จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ภายในห้องพัก พบร่างผู้เสียชีวิตชื่อ เป็นหญิงสาวชาวญี่ปุ่น อายุ 25 ปี ที่ลำคอถูกสายชาร์จโทรศัพท์รัดแน่น เสียชีวิตไม่ต่ากว่า 6 ชั่วโมง ตรวจสอบในห้องพักไม่พบร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใด

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าผู้ตายเดินทางมาท่องเที่ยวที่ จ.เชียงใหม่ และเข้าพักโรงแรมดังกล่าวเมื่อวันที่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมา พร้อมด้วยสามี โดยสามีให้การว่าตนนอนเวลา 5 ทุ่ม และตื่นมาตอนตี 3 ก็ไม่พบภรรยาที่นอนอยู่บนเตียงเดียวกัน จึงออกไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อหน้าโรงแรมและกลับมานอนต่อ กระทั่งตอนเช้าก็เข้าห้องน้ำก็พบว่าภรรยาเสียชีวิตในห้องน้ำ โดยภรรยาป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ซึ่งทางตำรวจไม่ปักใจเชื่อคำให้การของสามี มากนัก ซึ่งจะได้สอบสวนสามีผู้ตายโดยละเอียดอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป

จับมอดไม้เชียงดาว!!..ตั้งแก๊งลักลอบแปรรูปไม้ในอุทยานศรีลานนา

นายอานนท์ กุลนิล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติศรีลานนา จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร ชุด ชป.13 บก.คปส.1 (จุดตรวจปางมะกง)ออกตรวจลาดตระเวน เพื่อป้องกัน และป้องปรามการกระทําผิดกฎหมายเกี่ยวกับป่าไม้ บริเวณป่าดอยถํ้าม่วง บ้านปางแดง หมู่ 9 ตําบลเชียงดาว อําเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ภายในเขตอุทยานแห่งชาติศรีลานนา พบชายกลุ่มหนึ่งกำลังใช้เลื่อยโซ่ยนต์แปรรูปไม้จึงจับกุมได้ 2 คน เป็นชาวบ้านในพื้นที่ ที่เหลืออีก 4 คน ได้อาศัยความชำนาญในพื้นที่วิ่งหลบหนีไปได้ ตรวจยึดไม้ประดู่แปรรูป จำนวน 2 กอง จำนวนน 5 เหลี่ยม/ชิ้น ปริมาตร 0.83 ลูกบาศก์เมตร ค่าเสียหายของรัฐ 58,100 บาท พร้อมอุปกรณ์ทำไม้ เลื่อยโซ่ยนต์ จำนวน 4 เครื่อง รถจักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน จึงนำตัวส่งตำรวจ สภ.เชียงด่ว ดำเนินคดีส่วนผู้ที่หลบหนีจะได้ติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป

รถยนต์ใครหายติดต่อด่วน!!…ทหารผาเมืองจับขบวนการลักลอบนำรถข้ามแดนพร้อมของกลาง3คันที่ชายแดนเวียงแหงจ.เชียงใหม่

กองกำลังผาเมือง โดย กองร้อยทหารม้าที่ 1 หน่วยเฉพาะกิจไชยานุภาพ จัดกำลังพล จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ ลาดตระเวนเฝ้าตรวจเพื่อป้องกันและสกัดกั้นการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร ในพื้นที่ ต.เปียงหลวง อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ หลังจากสืบทราบว่าจะมีกลุ่มขบวนการลักลอบนำรถยนต์ ออกนอกราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ได้ตรวจพบรถยนต์ปิ๊กอัพ จำนวน 3 คัน ขับเข้ามาในพื้นที่จึงได้แสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจสอบ จากการสอบถามให้การว่าได้รับการว่าจ้างให้นำรถยนต์ดังกล่าว มาจอดไว้ที่บริเวณแนวชายแดน จากนั้นจะมีกลุ่มบุคคลจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านมารับต่อไป โดยได้รับค่าจ้าง จำนวน 5,000 บาทต่อคัน หน่วยจึงได้นำผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเวียงแหง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

บิ๊กโจ๊ก!!…ขึ้นเหนือทลายแก๊งนอมินีกลุ่มทุนจีนกว้านซื้อที่ดินเชียงใหม่สร้างหมู่บ้านจัดสรรขายให้กับคนชาติเดียวกัน

 

6 ก.ค.66 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้เรีกยประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี กลุ่มทุนจีนกว้านซื้อที่ดินสร้างหมู่บ้านจัดสรรใน จ.เชียงใหม่ ทางชุดตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ และ พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ เข้าตรวจสอบและดำเนินคดีกับโครงการหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ที่ ต.สันกลาง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นการดำเนินกิจการในลักษณะให้คนไทยเป็นนอมินี ถือหุ้นแทนคนต่างด้าว (สัญชาติจีน) โดยในทางคดีพนักงานสอบสวน สภ.สันกำแพง และ พนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่ มีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวแล้วนั้น จำนวน 8 รายด้วยกัน

 

ต่อมาพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ตรวจสอบโครงการหมู่บ้านจัดสรรซึ่งมีลักษณะและพฤติการณ์คล้ายกัน โดยฝ่ายสืบสวน บก.ตม.5 และ ภ.จว.เชียงใหม่ ร่วมกันตรวจสอบหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ ต.บ้านแหวน อ.หางดง จ.เชียงใหม่ แบ่งออกเป็นที่ดินจำนวน 43 แปลง เนื้อที่รวม 22 ไร่ 1 งาน 1.7 ตารางวา โดยพบว่า โครงการหมู่บ้านดังกล่าวมีบริษัทเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดิน 2 บริษัท ซึ่งมีพฤติการณ์จัดตั้งบริษัทเพื่อกระทำนิติกรรมอำพรางในการถือครองที่ดิน โดยมีการจดทะเบียนสิทธิเหนือพื้นดินทั้งแบบระยะยาวและแบบตลอดชีพให้กับคนจีนเพื่อสามารถอยู่อาศัยในที่ดินดังกล่าวได้เสมือนเป็นเจ้าของที่ดินและบริหารกิจการโดยกลุ่มคนจีนที่พักอาศัยอยู่ด้วยกันเอง ส่วนบริษัทเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินทั้ง 2 บริษัท มีการใช้ชื่อคนไทยเป็นกรรมการบริษัท แต่ไม่มีอำนาจในการบริหารกิจการและการเงินของบริษัท โดยมีการจดทะเบียนบริษัทแห่งหนึ่งเพื่อใช้ในการถือหุ้นแทนคนจีนที่บริหาร ซึ่งฝ่ายสืบสวน บก.ตม.5 และ ภ.จว.เชียงใหม่ รวบรวมพยานหลักฐานและเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.หางดง เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหา จำนวน 13 ราย แบ่งเป็นนิติบุคคลจำนวน 3 บริษัท , กลุ่มบุคคลต่างด้าว สัญชาติจีน จำนวน 4 ราย , กลุ่มคนไทย จำนวน 6 รายแล้ว