เพลิงไหม้กลางดึก!!…เผาวอดอู่สีรถยนต์เสียหาย9คันมูลค่าไม่ต่ำกว่า5ล้านบาท

คืนวันที่ 20 มิ.ย. 66 ร.ต.อ.เจษฎา พันธุ์แก้ว ร้อยเวร สภ.หางดง จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้อู่ เคาะ พ่น สีรถยนต์ ตั้งอยู่ ต.สันผักหวาน อ.หางดง จ.เชียงใหม่ หลังได้รับแจ้งจึงได้ประสานรถน้ำดับเพลิงจากเทศบาลตำบลสันผักหวาน และในพื้นที่กว่า 5 คัน และรถอุปกรณ์ส่องสว่าง รวมถึงเจ้าหน้าที่กู้ภัย ระดมเข้ามาช่วยเหลือในจุดเกิดเหตุพบว่าเพลิงได้ลุกไหม้รถยนต์ที่จอดอยู่ภายในอู่ รวมถึงทรัพย์สินอื่นๆ อย่างหนัก ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงได้รีบกันประชาชนออกจากพื้นที่และเข้าระงับเหตุเพลิงไหม้ ซึ่งใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ในวงจำกัด และตรวจพบว่ามีรถยนต์ถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งคันรวม 9 คัน จากการสอสวนเบื้องต้นทราบว่าอู่ปิดเวลา 20.00 น.พบว่าเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็วและมาติดรถของลูกค้าที่มาทำสี ต้นเพลิงน่าจะมาจากห้องช่างที่เก็บของหรือเปล่ายังไม่แน่ใจ ทางเจ้าหน้าที่ได้บันทึกข้อมูลไว้เป็นเบื้องต้น ก่อนจะประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเชียงใหม่มาตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ที่แน่ชัดอีกครั้ง ส่วนค่าเสียหายเบื้องต้นไม่น่าจะต่ำกว่า 5 ล้านบาท

ยิงกันลั่นสนั่นป่า!!…ทหารพรานผาเมืองปะทะคาราวานขนฝิ่นดิบชายแดนแม่อายจ.เชียงใหม่

บ่ายวันที่ 16 มิ.ย. 66 กองกำลังผาเมือง โดย กองบังคับการควบคุมทหารพรานศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 จัดกำลังพล จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนเฝ้าตรวจเพื่อป้องกันและสกัดกั้นการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติด บริเวณ บ้านปางต้นเดื่อ ต.แม่อาย อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ได้ตรวจพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยสะพายเป้กระสอบดัดแปลง จำนวน 6 คน จึงได้แสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจค้นแต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงใส่เจ้าหน้าที่ จึงเกิดการปะทะกันเสียงปืนดังสนั่นป่า ร่วม 5 นาที ผลการปะทะฝ่ายเราปลอดภัย กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้หลบหนีข้ามแดนไปยังฝั่งสหภาพเมียนมา จากการตรวจสอบพบกระสอบ จำนวน 4 กระสอบ ที่กลุ่มคนร้ายทิ้งไว้ ภายในบรรจุยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (ฝิ่นดิบ) จำนวน 51 ก้อน รวมน้ำหนัก 81.6 กก. จึงได้ตรวจยึดของกลางยาเสพติดไว้ ณ กองบังคับการควบคุมทหารพรานศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 ต.มะลิกา อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เพื่อขยายผลและติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

บุหรีเถื่อนทะลัก!!…ลอบขนเข้าชายแดนเชียงดาวทหาร-ตำรวจสกัดจับได้ค่าด่านแก่งปันเต๊า

กลางดึกคืนวันที่ 16 มิ.ย. 66 กองบังคับการควบคุมสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดที่ 1 กองกำลังผาเมือง ร่วมกับตำรวจ สภ.เชียงดาว ปฏิบัติภารกิจตั้งจุดตรวจเพื่อป้องกันและสกัดกั้นการกระทำผิดตาม พ.ร.บ. ศุลกากร บริเวณ ด่านตรวจแก่งปันเต๊า ต.แม่นะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ได้ตรวจพบรถกระบะตู้ทึบต้องสงสัย จึงขอทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบบุหรี่หนีภาษี ยี่ห้อ ATLANTA จำนวน 28 คอตตอน หน่วยจึงได้นำผู้ต้องหาชาย 1 คน พร้อมของกลางส่ง สภ.เชียงดาว ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

มอดไม้เหิม!!..ลักลอบตัดไม้ในอุทยานแห่งชาติผาแดงเชียงดาว

เย็นวันที่ 12 มิ.ย. 66 กองบังคับการควบคุมผาดง หน่วยเฉพาะกิจไชยานุภาพ กองกำลังผาเมือง จัดกำลังพล ร่วมกับอุทยานแห่งชาติผาแดง ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนเพื่อป้องกันและสกัดกั้นการกระทำผิดตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ ตรวจพบการลักลอบตัดไม้ประดู่ จำนวน 2 ท่อน และ ไม้แปรรูป จำนวน 4 แผ่น บริเวณป่าชุมชนบ้านน้ำรู ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ หน่วยจึงส่งมอบของกลางให้กับ อุทยานแห่งชาติผาแดง เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานและติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทหารไทย-เมียนมาลาดตระเวนป้องปรามการกระทำความผิดกฎหมายแนวชายแดนเวียงแหงจ.เชียงใหม

กองร้อยทหารม้าที่ 1 หน่วยเฉพาะกิจไชยานุภาพ กองกำลังผาเมือง จัดกำลังพล ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ร่วมกับทหารเมียนมา (กองพันเคลื่อนที่เร็วที่ 330) เพื่อเป็นการป้องกันและสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมายตามแนวชายแดน บริเวณแนวชายแดน ต.เปียงหลวง อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ ร่วมทั้งได้ประสานการปฏิบัติแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง 2 ประเทศ

ไฟใหม้หวิดลุกลามเผากาดหลวงเชียงใหม่!!..ต้นเพลิงร้านลูกปัดและพวงกุญแจปิดทิ้งไว้ไม่มีคนเฝ้าโชคดีชาวบ้านเจอแจ้งเจ้าหน้าที่ดับทัน

02.30 น. 8 พ.ค. 2566 เจ้าหน้าที่ดับเพลิงศูนย์วิทยุเจดีย์งาม เทศบาลนครเชียงใหม่ ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้บริเวณร้านจำหน่ายลูกปัดและพวงกุญแจ ปากทางเข้ากาดหลวง ถนนช้างม่อย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จึงได้จัดรถดับเพลิงเข้าตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น โดยเพลิงได้ลุกไหม้บริเวณชั้นล่าง ซึ่งปิดล็อคไว้จึงได้ช่วยกันเปิดประตู และทำการใช้น้ำฉีดน้ำเพื่อระงับเหตุ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาทีถึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ไม่ลุกลามไปติดร้านอื่น

จากการตรวจสอบพบว่าเพลิงได้ลุกไหม้ตัวอาคารสินค้าภายในร้านซึ่งเป็นสร้อยข้อมือและพวงกุญแจต่างๆที่ทำมาจากพลาสติก รวมไปถึงพัดลมและแอร์ซึ่งติดตั้งอยู่ภายในตัวอาคาร ก่อนเกิดเหตุร้านดังกล่าวปิดทิ้งไว้ไม่มีคนเฝ้า เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุน่าเกิดจากสภาพอากาศร้อนไฟฟ้าลัดวงจร ส่วนค่าเสียหายในเบื้องต้นนั้นทางเจ้าหน้าที่ประเมินเอาไว้ประมาณ 100,000 บาท

แย่แล้ว!!!…เชียงใหม่แชมป์ค่าคุณภาพอากาศแย่อันดับ1ของโลกติดต่อกัน6วันแล้วต้องแจกหน้ากากหน้ากากN.95ให้ประชาชนป้องกันPM2.5กระทบสุขภาพ

30 มี.ค. 66 ที่ด้านหน้าองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมแจกหน้ากากป้องกันฝุ่นควัน โดยทาง อบจ.เชียงใหม่ ได้ตั้งโต๊ะทำการแจกหน้ากาก N.95 ป้องกันฝุ่นควัน PM 2.5 ให้กับประชาชนที่สัญจรผ่านไปมา หลังจากพบว่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ มีค่าคุณภาพแย่และมีค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน ส่งผลกระทบกับพี่น้องประชาชน ซึ่งจะทำการแจกหน้ากากทั้งหมดจำนวน 20,000 ชิ้น และจะดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่องทุกวัน ซึ่งประชาชนสามารถเข้ามารับ หน้ากาก N.95 ได้ บริเวณ ด้านหน้าองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป

จากข้อมูลผ่านเว็บไซต์ IQAir ตรวจพบว่า จังหวัดเชียงใหม่ ติดดัชนีคุณภาพแย่เป็นอันดับ 1 ของโลก ซึ่งวันนี้ถือเป็นวันที่ 6 แล้ว ในขณะที่ข้อมูลของ GISTDA ได้ตรวจพบจุดความร้อนในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ดังนี้ แม่อาย 16 จุด, แม่แตง 11 จุด, สะเมิง 8 จุด, แม่วาง 8 จุด, สันกำแพง 5 จุด, ดอยสะเก็ด 4 จุด, เชียงดาว 4 จุด, แม่ออน 4 จุด, ไชยปราการ 3 จุด, แม่แจ่ม 2 จุด, ฝาง 2 จุด, ดอยเต่า 1 จุด, เวียงแหง 1 จุด ในเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์ : เชียงดาว 48 จุด, สะเมิง 26 จุด, พร้าว 22 จุด, แม่แตง 12 จุด, ไชยปราการ 8 จุด, จอมทอง 7 จุด, ฝาง 7 จุด, แม่วาง 6 จุด, สันกำแพง 4 จุด, ดอยเต่า 4 จุด, หางดง 4 จุด, เวียงแหง 4 จุด, ฮอด 2 จุด, แม่อาย 2 จุด, แม่แจ่ม 1 จุด, ดอยหล่อ 1 จุด, แม่ออน 1 จุด ขต สปก. : แม่แจ่ม 1 จุด และจุดความร้อนสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2566 ถึงปัจจุบัน ทั้งหมด จำนวน 6,373 จุด

ในขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ประชุมหัวหน้าส่วนราชการที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า ดำเนินการอย่างเข้มงวดทุกอำเภอ และให้บูรณาการกันทุกหน่วยงาน หากพื้นที่ไหนเกิดไฟป่าเป็นวงกว้าง และไม่สามารถดำเนินการดับไฟป่าได้ ให้ประสานมาทางจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อจะได้ทราบเหตุการณ์และจัดกำลังเข้าไปสนับสนุน พร้อมกับให้ดำเนินการสืบสวน ขยายผลหาตัวผู้กระทำผิด ในการเผาป่า หรือพื้นที่เกษตร และดำเนินคดีตามกฎหมายโดยฉียบขาด และรายงานผลให้จังหวัดทราบ พร้อมจัดหาหน้ากากอนามัย โดยประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอในพื้นที่ นำไปแจกจ่ายให้กับประชาชน โดยเน้นแจกจ่ายให้กับกลุ่มเปราะบาง เด็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยเรื้อรัง ก่อน

ซุ่มจับ!!.แก๊งค้ายาซุกยาบ้าร่วมแสนเม็ดในกองขยะ

19 มี.ค.66 พ.ต.อ.ไกรศรี จุฬพรรค์ ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.5 พร้อมชุดสืบสวนภาค 5 ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลักลอบขนยาบ้าจำนวนมาก จากชายแดน จ.เชียงราย มาส่งให้ลูกค้าในพื้นที่อำเภอสันทราย จ.เชียงใหม่ จึงสืบสวนหาข่าว ทราบว่าคนร้าย ได้ลักลอบขนยามาซุกซ่อนไว้ที่บริเวณกองขยะน้าศาลา หมู่ที่ 9 ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จึงนำกำลังซุ่มจับกุมคนร้ายไหวตัวทันไม่มารับของตามนัด จึงตรวจสอบพบถุงบรรจุยาบ้า จำนวนกว่า 90,698 เม็ด จึงยึดไว้เป็นของกลางเพื่อสืบสวนจับกุมมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

โครงการหลวงเจ๋ง!!..ประสบความสำเร็จพัฒนาเครื่องเพาะกล้าผักประสิทธิภาพเยี่ยมทดแทนแรงงานลดต้นทุนผลผลิตสูง

นายศิริชัย แซ่เจียม หัวหน้าศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่แฮ บ้านแม่แฮเหนือ ต.แม่นาจร อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากความนิยมและแนวโน้มความต้องการของตลาดในการบริโภค พริก มะเขือ และผักสลัด ที่สูงขึ้นประกอบกับการเพาะกล้าพริก มะเขือ และกลุ่มผักสลัด ซึ่งเมล็ดมีขนาดเล็ก มีรูปทรงทั้งแบบแบนและกลม ทำให้การหยอดเมล็ดลงถาดหลุมเพื่อเพาะกล้า ต้องใช้เวลานาน และเสียเวลามาก อีกทั้งในปัจจุบันการหาจ้างแรงงานในพื้นที่เป็นไปได้ยาก อัตราค่าจ้างแรงงานมีการปรับสูงขึ้น ร่วมกับการจำกัดการจ้างแรงงานของศูนย์/สถานี ส่งผลทำให้ไม่สามารถจัดการผลผลิตได้ทันต่อความต้องการ ทีมงานจากมูลนิธิโครงการหลวง ซึ่งตนเป็นหัวน้าศูนย์พัฒนาฯ ได้ร่วมกับ นายศีลวัต พัฒโนดม นักวิชาการงานวิจัยและพัฒนาส่งเสริมผักและสมุนไพร และ นายวิทูรย์ บุญสง่า นักวิทยาศาสตร์ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่สาใหม่ จึงได้ร่วมกันพัฒนาเครื่องมือทางการเกษตร ”เครื่องเพาะกล้าพริก มะเขือและสลัด เพื่อลดต้นทุนการเพาะกล้าให้แก่ศูนย์/สถานี” ลดระยะเวลาในการทำงาน เพิ่มความแม่นยำถูกต้องตามแผนการผลิต และทดแทนกำลังพลที่ไม่เพียงพอต่อการปฏิบัติงานและเหมาะสมต่อบริบทการทำงานในแต่ละพื้นที่

จากการศึกษาค้นคว้าทดลองผลิตเครื่องเพาะกล้าพริก มะเขือและสลัด ทั้งพัฒนาให้เหมาะสมต่อบริบทการใช้งานในพื้นที่ ณ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่แฮ จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตผักที่สำคัญ ของมูลนิธิโครงการหลวง ช่วงเดือนมกราคม – กรกฎาคม สามารถสร้างเครื่องเพาะกล้าพริก มะเขือเทศและสลัด ขนาดกว้าง 60 เซนติเมตร ยาว 1.80 เมตร ใช้ระบบเข็มดูดเมล็ด และสายพานลำเลียงถาด ทำงานด้วยระบบอัตโนมัติ ใช้แรงงานคนป้อนถาดและควบคุมเครื่อง 1 คน ความเร็วในการเพาะ 40 วินาที ต่อ 1 ถาด หรือ 1 ชั่วโมง 90 ถาด หรือ 1 วัน 720 ถาด หากใช้แรงงานคนในการเพาะจะใช้เวลา 4 นาทีต่อถาด หรือ 15 ถาดต่อ 1 ชั่วโมง หรือ 1 วัน 120 ถาด เปรียบเทียบค่าแรงในการเพาะกล้าจำนวน 720 ถาด ใช้แรงงานคน 6 คน ใช้ค่าจ้างแรงงาน 1,800 บาท/วัน หากใช้ เครื่องเพาะจะใช้แรงงาน 1 คน ค่าจ้างแรงงาน 300 บาท/วัน สามารถลดค่าแรงงานและลดเวลาในการเพาะกล้า ได้ไม่น้อยกว่า 80 % และแม่นยำได้ถูกต้องมากกว่า 80 % ทั้งนี้ยังมีแผนที่จะได้พัฒนาเครื่องให้เหมาะสมต่อบริบทการใช้งานในพื้นที่ต่างๆ ของมูลนิธิโครงการหลวง ต่อไป ทั้งนี้ ยังได้ดำเนินการพัฒนา เครื่องให้มีความเหมาะสมต่อบริบทการทำงานในแต่ละพื้นที่ และรูปลักษณ์ของเมล็ดพันธุ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสิทธิผล ในการผลิตให้มีปริมาณผลิตผลที่เพียงพอและตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง

โหดผิดมนุษย์!!..อุ้มฆ่าหนุ่มนิรนามเผานั่งยางเหลือแต่โครงกระดูก

06.00 น.วันที่ 8 มี.ค.66 พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รอง ผบช.ภ.5 ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.ชายชาญ เพ็ญไชยา ผกก.สภ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ ว่าพบศพคนถูกฆ่าและนำมาเผานั่งยางรถยนต์เพื่ออำพรางคดี เหตุเกิดในไร่บนดอย หมู่บ้านห้วยไคร้ใหม่ ต.เปียงหลวง อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมผู้เกี่ยวข้อง

ที่เกิดเหตุเป็นดอยสูงต้องเดินเท้าจากหมู่บ้านเข้าไปยังจุดเกิดเหตุร่วม 1 ชั่วโมง พบกองไฟที่ดับแล้วมีเศษยางรถยนต์ และถังน้ำมัน ในกองเถ่าถ่านพบโครงกระดูกมนุษย์ ถูกเผาจนเหลือแต่ซาก คาดว่าเป็นโครงกระดูกผู้ชาย น่าจะถูกอุ้มฆ่าแล้วนำเผานั่งยางอำพรางศพไม่เกิน 2 วันก่อนหน้านี้ บริเวณโดยรอบมีร่องรอยการลากศพขึ้นมา ไม่มีร่องรอยการต่อ ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกำลังสืบสวนอยู่ว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร และถูกฆ่าด้วยสาเหตุใด เพื่อจะได้ติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายที่ลงมือฆ่าอย่างโหดเหี้ยมในครั้งนี้มาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป