สลดนายกเทศมนตรีพาเมียและญาติเที่ยวดอยอินทนนท์ขากลับลงดอยรถเสียหลักพลิกคว่ำดับ5ศพ

เวลาประมาณ 12.00น.เศษวันที่ 20 พย.63 พนักงานสอบสวน สภ.จอมทอว จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งเหตุรถพลิกคว่ำมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก บริเวณกิโลเมตรที่ 32 ถนนขึ้นดอยอินทนนท์ หมู่ที่ 7 ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่

ที่เกิดเหตุพบรถยนต์ปิคอัพยี่ห้อ Toyota Vigo หมายเลขทะเบียน ฆฐ 3307 กรุงเทพฯพลิกคว่ำสภาพพังยับเยิน มีนายสมพงษ์ ศรีอนันต์ นายกเทศมนตรีตำบลหลักหก จ.ปทุมธานี เป็นคนขับโดยก่อนหน้านี้ได้เดินทางมาท่องเที่ยวพร้อมภรรยาและญาติ เป็นผู้หญิง 4 คน ขณะเดินทางกลับ ขาลงดอย มาถึงบริเวณกิโลเมตรที่ 32 เป็นทางโค้งลาดชัน ได้เกิดเหตุขับขี่รถแหกโค้งลงร่องน้ำข้างทาง พุ่งชนต้นไม้ข้างทาง รถเสียหลักพลิกคว่ำ ผู้โดยสาร และผู้ขับขี่กระเด็น ออกมานอกรถ เสียชีวิตทั้งหมด 5 ราย ในที่เกิดเหตุ พนักงานสอบสวนเวร นายตำรวจเวรชั้นผู้ใหญ่ร่วมกับแพทย์โรงพยาบาลจอมทอง ตรวจสถานที่เกิดเหตุ ชันสูตรพลิกศพ โดยเบื้องต้นคาดว่าคนขับไม่ชำนาญทางประกอบกับเป็นทางโค้งลงเขา ทางเจ้าหน้าที่กำลังทำการสืบสวนสอบสวนถึงสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุโดยละเอียดต่อไป

ขอบคุณภาพจาก.หมวดการทางจอมทองและปภ.จ.เชียงใหม่

รวบยกแก๊งรับจ้างขนยาบ้า2แสนเม็ดเข้ากรุงเทพฯ

เจ้าหน้าที่ชุด ชปส.ภ.จว.เชียงราย ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.พงษ์สวัสดิ์ ไชยบาล รอง ผบก ภ.จว.เชียงราย,พ.ต.อ.รัฐพล น้อยช่างคิด ผกก.กก.สส.ภ.จว.เชียงราย พ.ต.ท.ถนัด ชุ่มมะโน รอง ผกก.กก.สส.ภ.จว.เชียงราย นำโดย พ.ต.ท.ศุภกรณ์ชัย เดชายิ้มสวัสดิ์ สว.กก.สส.ภ.จว.เชียงราย ร.ต.อ.ศราวุธ รัตน์สุวรรณ ร.ต.อ.วงศกร ธนานนทพันธุ์ ร.ต.อ.ผดุง ท้ายเรือคำ พร้อมพวก ได้ติดตามสกัดจับกุมผู้ต้องหา 6 คน พร้อมยาเสพติดจำนวน 200,000 เม็ด

ทางเจ้าหน้าที่สืบทราบว่ามีการลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากจากพื้นที่ จ.เชียงราย มุ่งหน้าสู่ชั้นในของประเทศ จึงสืบสวนติดตามจับกุมพบว่าขบวนการดังกล่าวได้ใช้รถกระบะยี่ห้อ อีซูซุ สีดำ หมายเลขทะเบียน บบ 6924 ภูเก็ต เป็นรถนำทาง และมีรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้าวีออส สีบอร์น ขับตามใช้เส้นทาง ผ่าน อ.สบปราบ จ.ลำปาง จึงได้สกั้ดกันรถคันดังกล่าวเอาไว้ที่ด่านตรวจ อ.สบปราบ พบนายสิทธา อายุ 25 ปี ชาว เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร และนายสหภาพ อายุ 25 ปี ชาว เขต บึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร อยู่ในรถตรวจค้นแต่ไม่พบสิ่งผิด
กฎหมายนำตัวมาเค้นสอบสารภาพว่าได้เป็นคนขับรถนำ รถลำเลียงยาเสพติด เป็นรถเก๋งซึ่งกำลังจะขับตามมา จึงได้สกัดจับกุมเอาไว้ พบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ภายในรถเก๋งคันดังกล่าว จำนวน 200,000 เม็ด ทำการขยายผลจนสามารถจับกุมกลุ่มขบวนการได้เพิ่มอีก 4 คนที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.เชียงราย ผู้ต้องหารับสารภาพว่าได้รับจ้างให้ลำเลียงยาบ้าดังกล่าวจากพื้นที่ จ.เชียงราย เพื่อให้ไปส่งที่ กรุงเทพฯ โดยได้รับค่าจ้าง จำนวน 300,000 บาท จ่ายมาแล้ว 100,000 บาท และจะจ่ายส่วนที่เหลือเมื่อทำงานเสร็จจึงควบคุมตัวพร้อมของกลางดำเนินคดีและขยายผลถึงเพื่อนร่วมแก๊งนี้ต่อไป

ตม.ทลายเครือข่ายพนันออนไลน์แม่สายรวบ15พนักงานพร้อมของกลางอื้อ

ตำรวจตรวจ ตม.เชียงราย โดยการนำของ พ.ต.อ.ณัฐวุฒิ แสงเดือน ผกก.ตม.จว.เชียงราย พ.ต.ท.ชย พานะกิจ รอง ผกก.(สอบสวน) กก.สส.บก.ตม.5,พ.ต.ท.ศรุต ระยานนท์ รอง ผกก.ตม.จว.เชียงราย,พ.ต.ท.กฤษณ์ สมณาศักดิ์ สว.ตม.จว.เชียงราย นำกำลังเจ้าหน้าที่ ติดตามสืบสวนจับกุมเครือข่ายเว็ปพนันออนไลน์ในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยได้สืบทราบว่าได้มีการเช่ารีสอร์ท เลขที่ 120 ม.2 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย จึงได้ขออนุมัติศาลแขวงจังหวัดเชียงรายที่ ค.81/2563 เข้าค้น พบกลุ่มเครือข่ายเว็ปพนันออนไลน์ รวม 13 คน เป็นชาย 5 คน หญิง 8 คน กำลังทำงานเป็นแอดมินเพจ รับฝาก-ถอน และชักชวนให้คนเล่นพนันออนไลน์ ซึ่งทั้ง 13 คนรับว่าทำงานให้กับเว็ปไซต์พนันออนไลน์ พร้อมได้ตรวจยึดของกลางคอมพิวเตอร์จำนวน 14 เครื่อง

จากนั้นได้มีการสืบสวนขยายผลนำกำลังเข้าตรวจค้นต่อเนื่องที่ ห้องพักหมายเลข 105 รีสอร์ทในบ้านน้ำจำเลขที่ 25 ม.12 อ.แม่สาย จ.เชียงราย และได้จับกุมผู้ต้องหาได้เพิ่มเติมอีก 2 ราย พร้อมของกลางคอมพิวเตอร์จำนวน 2 เครื่อง ภายหลังการเข้าตรวจค้น เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปสอบปากคำที่ ตม.จว.เชียงราย โดยผู้ต้องหาทั้งหมดรับสารภาพว่าพวกตนได้ทำหน้าที่เป็นพนักงานแอดมินเว็ปไซต์ตอบข้อซักถามและโอนเงินให้ลูกค้าพนัน โดยจะมีพฤติกรรมการเช่าห้องพักอยู่อาศัยเป็นกลุ่มเครือข่ายในพื้นที่ อ.แม่สาย โดยมีวงเงินการโอนเข้า-ออก กว่าวันละหลายล้านบาท

ควบคุมตัวทั้งหมดพร้อมของกลางส่งร้อยเวร สภ.อ.แม่สาย ดำเนินคดีข้อหา ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือ ทำอุบายล่อช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานหรือรับอนุญาตแล้วแต่เล่นพลิกแพลงหรือผู้ใดเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นอันขัดต่อบทแห่งราชบัญญัติหรือกฎกระทรวง หรือข้อความในใบอนุญาต

รัฐบาลญี่ปุ่นช่วยเหลือเด็กพิการจังหวัดอุตรดิตถ์

รัฐบาลญี่ปุ่นเห็นชอบให้การสนับสนุนโครงการจัดหารถตู้พร้อมลิฟท์ยกรถเข็นวีลแชร์สำหรับศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดอุตรดิตถ์ ผ่านโครงการความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจแบบให้เปล่าเพื่อพื้นฐานและความมั่นคงของมนุษย์ หรือโครงการคุซะโนะเนะ ซึ่งได้จัดพิธีลงนามความตกลงระหว่าง นายฮิโรชิ มัทสึโมะโตะ กงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ กับนางจินดา อุ่นทอง ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดอุตรดิตถ์ ที่สถานกงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่

ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดอุตรดิตถ์ได้เปิดทำการเมื่อปี พ.ศ. 2543 เพื่อคุ้มครองสิทธิและโอกาสทางการศึกษาของเด็กพิการในจังหวัดอุตรดิตถ์ โดยเป็นศูนย์ฯที่มีบุคลากร พร้อมทั้งอุปกรณ์ทางการศึกษาด้านวิชาชีพและการฟื้นฟูสมรรถภาพสำหรับเด็กพิการที่มีประสิทธิภาพอย่างมาก ศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดอุตรดิตถ์ได้รับเด็กพิการ ประเภทต่างๆ ได้แก่ บุคคลที่มีความบกพร่องทางการเห็น บุคคลที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน บุคคลที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา บุคคลที่มีความบกพร่องทางร่างงายหรือการเคลื่อนไหวหรือสุขภาพ บุคคลที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ บุคคลที่มีความบกพร่องทางการพูดและภาษา บุคคลที่มีความบกพร่องทางพฤติกรรมหรืออารมณ์ บุคคลพิการซ้อน ทั้งนี้จากจำนวนเด็กพิการที่มาลงทะเบียนกับศูนย์ฯทั้งสิ้น 289 คน แต่มีเด็กพิการจำนวนเพียง 30-35 คนเท่านั้นที่สามารถเดินทางมายังศูนย์ฯ เองได้ เนื่องด้วยปัญหาทางด้านที่อยู่อาศัย การเดินทาง และปัญหาอื่น ๆ และยังพบว่ามีเด็กที่พิการอย่างหนักจนไม่สามารถเดินทางได้ ดังนั้นทางศูนย์ฯ จึงต้องส่งครู เจ้าหน้าที่ดูแลเด็กและนักกายภาพบำบัดไปยังครอบครัวแต่ละแห่ง แต่ มีข้อจำกัดต่างๆในการให้การศึกษาและการฟื้นฟูสมรรถภาพนอกศูนย์ฯ ด้วยเหตุนี้ การพัฒนาระบบขนส่งเด็กๆ มายังศูนย์ จึงเป็นประเด็นปัญหาที่ต้องการการแก้ไขอย่างเร่งด่วน

ทางรัฐบาลญี่ปุ่นจึงมีมติให้การสนับสนุนแก่ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดอุตรดิตถ์เป็นงบประมาณมูลค่า 1,687,100 บาท เพื่อจัดหารถตู้พร้อมลิฟท์ยกรถเข็นวีลแชร์ ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการสนับสนุนในครั้งนี้จะมีส่วนช่วยให้เด็กที่ไม่สามารถไปเรียนที่ศูนย์ฯ สามารถเดินทางไปเรียนที่ศูนย์ฯได้ ขณะเดียวกันยังช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัวอีกด้วย
รัฐบาลญี่ปุ่นยังคงให้การสนับสนุนและช่วยเหลือองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในภูมิภาค ผ่านโครงการคุซะโนะเนะต่อไป

ผบ.ทบ.ตรวจชายแดนแม่ฮ่องสอนเน้นย้ำเฝ้าระวังป้องกันยาเสพติดและผู้หลบหนีเข้าเมืองป้องกันไวรัสโควิด-19

พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมกองกำลังชายแดน หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 บ้านม่อนตะแลง ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน โดยมี พ.อ. ชายแดน กฤษณสุวรรณ ผบ.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 ให้การต้อนรับ ภายหลังเข้ารับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ทั่วไปการป้องกันชายแดนของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 และเยี่ยมชมนิทรรศการการผลิตถ้วย จาน จากใบไม้เพื่อลดปัญหาหมอกควัน เสริมรายได้ให้กำลังทหารและชาวบ้านในพื้นที่ ผู้บัญชาการทหารบกได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน

พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. กล่าวว่า ปัจจุบันภัยความมั่นคงการใช้กำลังตามแนวชายแดนแทบจะไม่มี เพราะเรามีความสัมพันธ์อันดีในกลุ่มประเทศอาเซียนตั้งแต่ระดับรัฐบาลจนมาถึงหน่วยงานในพื้นที่ แต่ภัยในพื้นที่ปัจจุบันจะมาในลักษณะอื่นโดยยาเสพติดผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยเฉพาะภัยที่มากับผู้ลักลอบเข้าเมืองคือโควิด19 เราต้องให้ความสำคัญเพราะประเทศเราถือว่ามาตรการในการป้องกันโควิดอยู่ในระดับต้น ๆ ของโลก แม้แต่องค์การอนามัยโลกก็ให้การยอมรับ กองกำลังป้องกันชายแดนกองทัพบก ก็จะเน้นในเรื่องการดูแลเฝ้าระวังป้องกันภัยความมั่นคงกับโควิด-19 ให้มากขึ้นและให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก

ผบ.ทบ.กล่าวต่อไปว่า แต่ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนปัญหาลักลอบหลบหนีเข้าเมืองมีน้อย และเป็นจังหวัดที่มีความสงบเรียบร้อยดี ทำให้ปัญหายาเสพติดผู้หลบหนีเข้าเมืองอยู่ในระดับที่ต่ำ แต่ก็ไม่ปล่อยปะละเลย ได้เน้นย้ำเฝ้าระวังทุกพื้นที่ จุดไหนที่มีความเสี่ยงต่อการลักลอบลำเลียงยาเสพติดผู้หลบหนีเข้าเมืองมาก กองกำลังก็ต้องเพ็งเล็งเป็นพิเศษ ส่วนการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าทุกหน่วยงานก็ต้องร่วมมือกันในการรักษาป่าไว้ให้ได้ เมื่อทุกพื้นที่มีความสงบเรียบร้อยประชาชนอยู่อย่างมีความสุข ความอยู่ดีกินดี ความเจริญก็ตามมา
สำหรับหมอกควันไฟป่า ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยในพื้นที่ได้เตรียมการโดยนำบทเรียนจากในปีที่ผ่านมา มาแก้ปัญหา ระดมเครื่องมือเฮลิคอปเตอร์ เจ้าหน้าที่ ต้องมีการอบรมให้ความรู้ ในการเข้าไปดับไฟป่า โดยเฉพาะพื้นที่ ที่เกิดต่อเนื่องต้องเข้าไปให้ความรู้กับประชาชน ชาวบ้านที่อยู่ห่างไกลข้อมูลข่าวสาร คอยกำชับผู้นำชุมชนให้ช่วยกัน หากทุกคนทุกหน่วยงานมาช่วยกัน ปัญหาหมอกควันในพื้นก็จะลดลง จะทำให้เศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวดีขึ้น

ต่อมาได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ จากสนามบินแม่ฮ่องสอน ไปตรวจเยี่ยม รับฟังการบรรยายสรุป และตรวจภูมิประเทศ กองร้อยทหารราบที่ 752 ฐานปฏิบัติการบ้านไม้ลัน ตำบลปางมะผ้า อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน และมอบเสื้อกันหนาวให้กับประชาชนในพื้นที่ ติดตามการดำเนินโครงการจัดตั้งหมู่บ้านยามชายแดนอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ และตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ โรงพยาบาลค่ายกาวิละ ณ บ้านไม้ลัน ตำบลปางมะผ้า อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งการเดินทางมาตรรวจเยี่ยมหน่วยป้องกันชายแดน ในครั้งนี้ เป็นนโยบาย และภารกิจหลักของกองทัพบก ที่ผู้บัญชาการทหารบกให้ความสำคัญ ในการดูแลพื้นที่ชายแดน ตลอดการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ในพื้นที่รับผิดชอบ

เฉลิมยกทีมพรรคเพื่อไทยช่วย”ยิ้ม วิสาะรดี”อ้อนขอคะแนนชาวเชียงรายเลือกเป็นนายกอบจ.

ที่โรงเรียนพานพิทยาคม อ.พาน จ.เชียงราย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นายอดิศร เพียงเกษ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ นายสมชาย ไพบูลณ์ สมาชิกพรรคเพื่อไทย ได้ลงพื้่นที่จ.เชียงราย เพื่อช่วย น.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ผู้สมัครนายกองค์การบิหารส่วนจังหวัดเชียงราย หรือ นายก อบจ. เบอร์ 3 สังกัดพรรคเพื่อไทย โดยมีกำหนดการลงพื้นที่ในจ.เชียงราย 2 วัน โดยจุดแรกที่ โรงเรียนพานพิทยาคม อ.พาน จ.เชียงราย มีผ้เข้าร่วมรับฟังการหาเสียงประมาณ 1,000 คน และในช่วงบ่าย จะมีการหาเสียงที่ สนามฟุตบอลสิงห์เชียงราย ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย ส่วนวันอาทิตย์ที่ 15 พ.ย. เวลา 8.00-12.00 น. ปราศรัยที่ โรงเรียนเชียงของวิทยาคม อ.เชียงของ อ.เวียงแก่น อ. ดอยหลวง อ.ขุนตาล และเวลา 14.00-19.00น. จะปราศรัย ที่ ห้วยไคร้วิทยาคม อ.แม่สาย โดยมี ประชาชนจาก อ.แม่สาย อ.แม่ฟ้าหลวง อ.เชียงแสน อ.แม่จัน เข้าร่วม

นางสาววิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ได้ปราศรัยชู 3 ประเด็น หลักตามสโลแกน “ยิ้มยกกำลังสาม” โดยข้อแรก ให้คนเชียงรายยิ้มได้ เลิกจนมีงานทำทุกคน จะผลักดันเชียงรายให้เป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก เชียงรายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยศิลปะและวัฒนธรรม การกีฬา จะผลักดันเชียงรายให้เป็นที่รู้จักระดับโลก จะเสริมทักษะการศึกษาให้เด็กรุ่นใหม่ ตามความฝันของตนเอง พี่น้องเกษตรกรสามารถขายสินค้าเกษตรได้เองโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ขายโดยตรงให้กับผู้ซื้อ ที่สำคัญจะพัฒนาสินค้าให้เป็นที่ต้องการในตลาดโลก การศึกษาโดยการนำร่องของโรงเรียนอบจ. ลูกหลานชาวเชียงรายจะต้องพูดได้อย่างน้อย 3 ภาษา ไทย อังกฤษ จีน และอีกภาษาสำคัญคือภาษาโค้ดดิ้ง ภาษาคอมพิวเตอร์ ที่มีความสำคัญในทุกวันนี้ เพื่อติดต่อค้าขายออนไลน์ได้เองที่ไม่ต้องพึ่งใคร ข้อสอง เชียงรายเต็มไปด้วยศิลปะวัฒนธรรม มีวัดดีๆหลายแห่ง มีครูบาอาจารย์มีศิลปิน ศักยภาพเหล่านี้สามารถชูเชียงรายให้ชาวโลกได้เห็น และอยากผลักดันการท่องเที่ยวเชิงกีฬา อยากให้เด็กเยาวชนสามารถเข้าสู่อะคาเดมี หรือทีมเยาวชน ผลักดันลูกหลานเชียงรายเข้าสู่การกีฬา ดึงเด็กเยาวชนเข้ามาทำงานกับทีมสิงห์เชียงรายยูไนเต็ด ในแขนงต่างที่นอกเหนือจากการเป็นนักกีฬาฟุตบอล เช่น ทีมโค้ช พีอาร์คอมพิวเตอร์ หรือหน้าที่ต่างๆ ให้เป็นที่รู้จักเชิงกีฬา ไปทั่วโลก การพัฒนาอาหารพื้นเมืองเหนือ วัฒนธรรมล้านนา ให้นักท่องเที่ยวมาชิมอาหารเหนือ แต่งกายชุดคนเมือง ให้ได้รู้จักวัฒนธรรมชาวเหนือ มาเดินเที่ยวตลาด สิ่งต่างๆเหล่านี้ ยิ้มจะดึงผลักดันให้เชียงราย เชื่อมโยงกับประตูโลก และข้อสาม ครอบครัวจะต้องกลับมาอบอุ่นอีกครั้ง การที่เราดึงนักท่องเที่ยวมาที่เชียงราย พัฒนาการค้าแล้ว ลูกหลายเชียงรายก็ไม่จำเป็นต้อง ไปทำงานไกลถึงกรุงเทพฯหรือต่างจังหวัด มีงานมีเงินเดือน สร้างงานสร้างรายได้ในจังหวัดเชียงราย

ต่อจากการปราศรัยของวิสาระดี ก็จะเป็นการพูดปราศรัยของ นาย อดิศร เพียงเกศ นายยงยุทธ ติยะไพรัช และ ร.ต.อ.เฉลิมอยู่บำรุง ชูประเด็นการสนับสนุนตามมติของพรรคเพื่อไทย ที่เชื่อมโยงการเมืองท้องถิ่นกับการเมืองระดับประเทศ เมื่อการเมืองท้องถิ่นแข็งแกร่ง การเมืองระดับประเทศก็จะแข็งแกร่งไปด้วย พร้อมชูนโยบายต่างๆของพรรค เช่น กองทุนหมู่บ้าน หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ เลือกวิสาระดี เป็นนายกอบจ.เชียงราย เบอร์ 3 และผู้สมัครส.อบจ.ยกทีม ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่าที่ผ่านมาจังหวัดเรามีความมั่นคงแต่ขาดการบริหารจัดการ เช่นกระทรวงมหาดไทยหากเพื่อไทยได้มาเป็นรัฐบาลจะเลือกผู้ว่าราชการจังหวัด ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมาจากการเลือกตั้ง ลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน ตนเคารพมติพรรค พรรคส่งใครลงสมัครตนก็จะไปที่นั่นวันนี้ฝากผู้สมัครนายก อบจ.เชียงราย เบอร์ 3 ด้วย ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวทิ้งท้าย

เมืองน้ำกว๊านเชิญชวนเที่ยวงาน“ปีใหม่ม้งพะเยา64”

นายฐิติพันธ์ จางศิริสกุลชัย นายกสมาคมม้งพะเยา เปิดเผยว่า ตนได้เชิญผู้นำในพื้นที่ ประกอบด้วยผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการสมาคมม้งพะเยา ได้ประชุมหารือกันถึงการเตรียมพร้อมจัดงานวัฒนธรรมประเพณีปีใหมม้งพะเยา ประจำปี 2564 ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 30 ธันวาคม 2563 ถึงวันที่ 1 มกราคม 2564 นี้ ณ สนามบ้านใหม่รุ่งทวี ต.สบบง อ.ภูซาง จ.พะเยา ซึ่งในงานจะมีการแสดงวัฒนธรรม ประเพณีของประชาชนชาวม้งจาก 19 หมู่บ้าน ทั่วจังหวัดพะเยา และชาวม้งจากจังหวัดใกล้เคียงในภาคเหนือด้วย

นายกสมาคมม้งพะเยา กล่าวต่อว่า งานประเพณีปีใหม่ม้ง ชาวม้งทุกคนจะแต่งกายด้วยชุดแต่งกายประจำชาติพันธุ์อย่างงดงาม เพราะเป็นชุดประจำชาติพันธุ์ปักลวดลายจากภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษหลายร้อยปี ที่สำคัญคือการจัดการประกวดธิดาม้งพะเยา ถือเป็นจุดเด่นไฮไลท์ของงานทุกปี ซึ่งปีนี้ ได้มีการส่งชื่อและข้อมูลของสาวงามชาติพันธุ์ม้งเข้ามาแล้วจำนวน 32 คน คณะกรรมการที่รับผิดชอบจะต้องทำการคัดเลือกสาวงามที่จะมาขึ้นเวทีประกวด ผู้เข้าประกวดต่างมีคุณสมบัติทั้งความงามทางกาย ความงามภายใน และมีความสามารถให้ได้ร่วมชื่นชมมากมายเช่นปีที่ผ่าน ๆ มา สาวงามจะสวดชุดของชาติพันธุ์ม้งเข้าประกวด แข่งขันกันอย่างอลังการ สื่อให้เห็นถึงภูมิปัญญาผ้าม้งเป็นอย่างมาก

รวบสองหนุ่มขนยาไอซ์10กิโลกรัมคาปั๊มน้ำมัน

เจ้าหน้าที่ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ตำรวจตระเวนชายแดน (ศอ.ปส.ตชด.) , ร้อย ตชด.327,ศป.ปส.กก.ตชด.33 จับกุมผู้ต้องหา 2 คนคือ นายไชยวัฒน์ อายุ 24 ปี และนายศุภชัย อายุ 36 ปี ทั้งสองเป็นชาว ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย พร้อมของกลางยาไอซ์ จำนวนประมาณ 10 กิโลกรัม

โดยการจับกุมในครั้งนี้เจ้าหน้าที่สืบทราบว่ากลุ่มขบวนการค้ายาเสพติด ได้นำยาเสพติดมาพักไว้ในพื้นที่อำเภอแม่สรวยเพื่อเตรียม ส่งมอบให้กับลูกค้าโดยได้นัดส่งมอบกันที่ปั๊มน้ำมัน เอสโซ่ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย จึงวางแผนเพื่อจับกุมกระทั่งถึงเวลา พบผู้ต้องหาทั้งสองคน อยู่ภายในบริเวณปั๊มน้ำมันดังกล่าว ซึ่งตรงตามที่สายรายงานจึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น พบยาไอซ์ จำนวน 10 กิโลซุกซ่อนอยู่ใน กระเป๋าเป้สะพายลายพรางจึงได้ควบคุมตัวทั้งสองคนไว้พร้อมของกลางเพื่อทำการสอบสวนและขยายผล และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

รถตู้ทัวร์บุญซิ่งลงเขาเวียงแก่นบาดเจ็บ11ราย

พ.ต.ท.ชัยยง อินเถิง สว.สอบสวน สภ.เวียงแก่น ได้รับแจ้งจาก เจ้าหน้าที่กู้ภัยเจ้าหลวงเวียงแก่น ว่ามีอุบัติเหตุ รถตู้ตกเขาบริเวณ บ้านพิทักษ์คีรี ม.2 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย จึงได้ประสาน กำลังเจ้าหน้าที่ทหารพราน ร้อย.ทพ.3204 ฉก.ทพ.32 กองกำลังผาเมือง ร่วมกับ รพ.เวียงแก่น รพ.สต.ผาตั้ง รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุและให้การช่วยเหลือยังที่เกิดเหตุ

พบรถตู้ เลขทะเบียน 9924 กรุงเทพ พุ่งออกจากถนนสายหลักเข้าไปในป่าข้าวโพดข้างทางประมาณ 200 เมตร เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเจ้าหลวงเวียงแก่น เจ้าหน้าที่ทหารพราน ร้อย.ทพ.3204 ฉก.ทพ.32 กองกำลังผาเมือง ได้ช่วยกันนำผู้บาดเจ็บซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัยกลางคนจำนวน 10 คน พระสงฆ์1 รูป รวมจำนวน 11 คน โดยแต่ละคนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ซึ่งได้นำส่งโรงพยาบาลเวียงแก่นเพื่อตรวจร่างกายโดยโดยละเอียดต่อไป

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า คณะดังกล่าวได้เดินทางมาจาก จ.สมุทรสาคร ได้เดินทางไปทำบุญตั้งโรงทาน ที่วัดผาตั้ง ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย โดยหลังจากทำบุญแล้วได้มุ่งหน้าจะไปยัง อ.เชียงของ จ.เชียงราย แต่เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุเป็นทางลงเขายาว ประกอบกับคนขับรถอาจจะไม่ชินและชำนาญเส้นทางทำให้เบรคไม่อยู่พุ่งออกนอกเลนถนน เข้าไปในป่าละเมาะข้างทางเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

ขอบคุณภาพ-จากเจ้าหน้าที่กู้ภัยเจ้าหลวงเวียงแก่น และเจ้าหน้าที่ทหารพราน ร้อย ทพ.3204

มท.สั่งเข้มชายแดนแม่สายป้องกันโควิดสายพันธุ์เมียนมาระบาดข้ามแดน

 

นายโชคดี อมรวัฒน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ชายแดน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตรงข้าม จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา เพื่อประชุมการตรวจติดตามราชการแบบบูรณาการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 รอบที่สอง ตามมาตรการป้องกันสกัดโควิดจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยมี นายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอแม่สาย พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ที่ห้องประชุม ที่ว่าการอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย

จากนั้นได้เดินทางไปตรวจสอบพื้นที่ด่านพรมแดน ที่สะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 เพื่อตรวจเยี่ยมกรปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยได้ตรวจสอบจุดพักคอยของพนักงานขับรถชายเมียนมา ที่พักคอยที่ด่านพรมแดน และการคัดกรองของเจ้าหน้าที่ รวมไปถึงตรวจสอบรถบรรทุกสินค้าที่ข้ามมาจากประเทศเมียนมา ซึ่งนอกจากเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของยาเสพติดแล้วยังเป็นการป้องกันลักลอบลำเลียงสินค้าผิดกฏหมายและยาเสพติด

นายโชคดี กล่าวว่า การเข้มงวดกวดขันต่างๆ ในการเข้าออกตามช่องทางสากลที่เปิดให้รถเข้านั้นไม่น่าเป็นห่วง ห่วงแต่เรื่องการลักลอบข้ามแดนตามช่องทางธรรมชาติ จึงได้เสนอให้มีการฟื้นฟูคณะกรรมการหมู่บ้าน เพื่อดูแลหมู่บ้านตะเข็บชายแดน ป้องกันไม่ให้มีการลักลอบข้ามแดนเข้ามาพักพิง ซึ่งคนที่เข้ามาเสี่ยงต่อการเป็นพาหะนำเชื้อเข้ามาด้วย ส่วนการขนส่งสินค้าอาจจะต้องเพิ่มมาตรการป้องกันที่ละเอียดมากขึ้น เช่นอาจจะต้องมีการหุ้มพวงมาลัยซึ่งเป็นบริเวณที่มีการสัมผัสของคนขับชาวเมียนมาเวลาสับเปลี่ยนคนขับ และได้ฝากถึงประชาชนในหมู่บ้านชายแดนให้ช่วยกันปกป้องตนเองและชุมชนของตนเอง อย่าปล่อยให้มีการลักลอบข้ามแดนเกิดขึ้น รวมทั้งจะต้องไม่ให้ที่พักพิงแก่บุคคลที่ข้ามมาจากประเศเพื่อนบ้านด้วย เนื่องจากถึงตอนนี้เชื่อว่าทุกคนทราบดีแล้ว โควิด 19 อันตรายต่อชีวิต มีผู้ติดเชื้อเสียชีวิตเป็นจำนวนมากในต่างประเทศ เราต้องช่วยกันปกป้องคนองเราประเทศของเรา