เมืองสามหมอกเชิญชวนเที่ยวทุ่งดอกบัวตองบานดอยแม่อูคอ

นายชนก มากพันธ์ รอง ผวจ.แม่ฮ่องสอน เป็นประธานเปิดท่องเที่ยวเทศกาลดอกบัวตองบานประจำปี 2563 ขึ้นอย่างเป็นทางการบนดอยแม่อูคอ ต.แม่อูคอ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน โดยเริ่มต้นด้วยพิธีรับขวัญดอกบัวตอง การแสดงพิธีเปิดของนักเรียนจากโรงเรียนขุนยวมวิทยาด้วยชุดการแสดง “ งามบัวตองตระการ ม่านฟ้าผ่องอำไพ บุปผาเลิศลิไล สายใยรักสัมพันธ์ “โดยมีส่วนราชการ นักท่องเที่ยวและชาว ต.แม่อูคอ ร่วมงานจำนวนมาก

นายชนก ประธานพิธีเปิดกล่าวว่า “ ขณะนี้ดอกบัวตองที่ดอยแม่อูคอมีความเบ่งบานเหลืองอร่ามสวยงามพร้อมให้ผู้คนได้มาสัมผัส ตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงกลางเดือนธันวาคม โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาพักค้างคืนกางเต็นท์นอนท่ามกลางวงล้อมของดอกบัวตองกลางสายหมอกบนความสูง 1,600 เมตร ในเนื้อที่ความกว้างกว่า 500 ไร่ ได้อย่างใกล้ชิด พร้อมมีศาลาจุดชมวิวที่มองเห็นทุ่งบัวตองได้รอบ 360 องศา มีบริการเครื่องดื่ม เต็นท์พัก ห้องน้ำ และบริการอื่น ๆ เตรียมไว้อย่างครบครัน ปัจจุบันดอกบัวตองแบ่งบานแล้วประมาณ 60 % อุณหภูมิบนดอยแม่อูคอช่วงกลางคืนอยู่ที่ 16-15 องศาเซลเซียส โดยผู้ที่ขึ้นไปสัมผัสจะได้พบ ความแปลกใหม่ในหลาย ๆ จุดรวมทั้งความสมบูรณ์ของทุ่งบัวตองอย่างเต็มอิ่ม เพราะจังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นทุ่งดอกบัวตองต้นฉบับที่ใหญ่และสวยงามที่สุดของประเทศ โดยขณะนี้มีนักท่องเที่ยวขึ้นไปชมความสวยงามของดอกบัวตองที่ดอยแม่อูคอกันแล้วไม่ขาดสาย คาดว่านักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นไปชมทุ่งดอกบัวตองในช่วงฤดูหนาวนี้ไม่ต่ำกว่า 80,000 คน

นอกจากนี้ที่ อ.ขุนยวม นอกจากจะมีทุ่งดอกบัวตองแล้ว ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์ตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงกับทุ่งบัวตอง บ่อน้ำพุร้อนบ้านหนองแห้ง และพิพิธภัณฑ์อาวุธยุทโธปกรณ์ และยานยนต์ของทหารญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ได้เดินทัพและตั้งฐานทัพใน อ.ขุนยวม รวบรวมไว้ให้ได้ชมด้วย

รองนายกฯเปิดงานมหกรรมการเงินเชียงใหม่Money Expoเชียงใหม่2020

ที่เซ็นทรัลพลาซ่าเชียงใหม่แอร์พอร์ต จ.เชียงใหม่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงานมหกรรมการเงินเชียงใหม่ครั้งที่ 15 Money Expo เชียงใหม่ 2020 งานในงานมีการเปิดบูธต่างๆของสถาบันการเงินชื่อดังจัดโปรโมชั่นพิเศษส่งท้ายปี มาให้ประชาชนผู้เข้าร่วมงานสามารถเลือกใช้บริการได้อย่างครบวงจร ทั้งสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อส่วนบุคคล รวมทั้งการลงทุนในหุ้น อนุพันธ์ กองทุน โดยมีผู้เชี่ยวชาญมาให้คำแนะนำในการลงทุนอย่างเหมาะสมด้วย

นายจุรินทร์ กล่าวว่าการจัดงานมหกรรมการเงินเชียงใหม่ในครั้งนี้ ถือเป็นงานเปิดโอกาสให้นักธุรกิจ และประชาชน สามารถเข้าถึงแหล่งทุน และสามารถเลือกเครื่องมือทางการเงินการลงทุนที่เหมาะสม เพื่อเป้าหมายในการเพิ่มสภาพคล่องให้กับการดำเนินการทางธุรกิจ การขยายกิจการ เพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ นอกจากนี้ในงานยังได้มีการจัดผู้เชี่ยวชาญมาให้คำแนะนำในการลงทุนอย่างเหมาะสม ทำให้ผู้ประกอบการสามารถวางแผนการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งหวังว่าการจัดงานในครั้งนี้จะส่งผลให้ GDP ของประเทศเติบโตขึ้นต่อไปในอนาคต

ด้านนายสันติ วิริยะรังสฤศฏ์ ประธานจัดงานมหกรรม Money Expo เปิดเผยว่า สำหรับงานมหกรรมการเงินเชียงใหม่ครั้งที่ 15 ในวันนี้ได้มีธนาคาร บริษัทการเงิน บริษัทประกัน บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กว่า 30 แห่ง ทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน ได้มาร่วมกันเปิดบูธจัดเต็มแคมเปญโปรโมชั่น มาให้กับประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่และภาคเหนืออย่างเต็มที่ ทั้งสินเชื่อซื้อบ้านดอกเบี้ย 0% นาน 3 เดือน สินเชื่อส่วนบุคคลดอกเบี้ย 0% นาน 30 วัน รวมไปถึงสินเชื่อต่างๆอีกมากมาย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน เพื่อประโยชน์ของประชาชนและผู้ประกอบการเชียงใหม่และภาคเหนือ ที่ต้องการสินเชื่อในช่วงนี้จะได้มีสภาพคล่องเพียงพอในช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัว เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ สู้วิกฤตการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 โดยงานนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-8 พ.ย.นี้

ม่อนแจ่มจะกลับมาแจ่มหรือไม่ผู้ตรวจการแผ่นดินลงพื้นสางปัญหาบุกรุกป่าให้ความเป็นธรรมกับชาวบ้าน

ที่กองอำนวยการส่วนหน้าสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) บริเวณจุดชมวิวดอยม่อนแจ่ม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่พลเอก วิทวัส รชตะนันทน์ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายวทัญญู ทิพยมณฑา รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน พันโท เทพจิต วีณะคุปต์ ผู้อำนวยการสำนักสอบสวน 4 พร้อมคณะ และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่อุทยาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกันลงพื้นที่ติดตามแก้ไขปัญหาการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ริม (ม่อนแจ่ม) เพื่อติดตามแก้ไขปัญหาการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ริม ตรงส่วนของพื้นที่ดอยม่อนแจ่มและพื้นที่ใกล้เคียง ตำบลโป่งแยง และตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีการนำที่ดินไปใช้ประกอบธุรกิจที่พัก – รีสอร์ท ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการหลวงหนองหอย

พลเอก วิทวัส รชตะนันทน์ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า ตามที่มีผู้ประกอบการธุรกิจที่พักในพื้นที่ม่อนแจ่มร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดินเนื่องจากได้รับความเดือดร้อนกรณีถูกกรมป่าไม้ดำเนินคดีอาญาในข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และประกาศให้ระงับการประกอบธุรกิจ อีกทั้งมีคำสั่งให้รื้อถอนสถานประกอบการนั้น ในวันนี้ ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมพบปะประชาชนที่เดือดร้อนจากกรณีดังกล่าว โดยพบว่าป่าแม่ริมเป็นต้นน้ำลำธารจัดอยู่ในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1 เอ มีขนาดพื้นที่กว่า 13,000 ไร่ เป็นพื้นที่ที่โครงการหลวงหนองหอยขอใช้ประมาณ 2,000 ไโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ราษฎรในพื้นที่ใช้ที่ดินทำเกษตรกรรมทดแทนการปลูกฝิ่น ซึ่งมีราษฎรเข้าร่วมโครงการ 900 กว่าราย แต่ปัจจุบันได้มีการแปรสภาพกลายเป็นธุรกิจที่พัก – รีสอร์ท จำนวน 113 ราย โดยเป็นกลุ่มที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบสิทธิ์ จำนวน 82 ราย และถูกดำเนินคดีแล้ว 31 ราย เนื่องจากเข้าข่าย กระทำความผิดชัดเจน นำที่ดินไปใช้ไม่ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ของโครงการหลวงหนองหอย รวมทั้งมีการบุกรุกพื้นที่ป่าเพิ่มเติม เปลี่ยนมือเจ้าของ หรือขายกิจการให้นายทุนต่างชาติ ทั้งนี้ ทั้งนี้ราษฎรที่ทำเกษตรกรรมในพื้นที่ตามเดิมและไม่มีการบุกรุกเพิ่มเติมจะไม่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ในกรณีนี้

สำหรับการพิสูจน์สิทธิในที่ดินทำกินให้ดำเนินการภายใต้หลักการพิสูจน์ว่า คนอยู่ก่อนประกาศเขตป่าหรือไม่ หากเป็นกรณีคนอยู่ก่อนประกาศเขตป่า 2507 ก็ให้ดำเนินการโดยอาศัยประมวลกฎหมายที่ดิน 2497 สามารถไปเดินเรื่องออกเอกสารสิทธิครอบครองที่ดินทำกินต่อไปได้ ถ้ากรณีมีการประกาศเขตป่าก่อนให้ใช้หลักการแก้ปัญหาตามสภาพข้อเท็จจริง โดยจะอาศัยการอ่านภาพถ่ายแผนที่ทางอากาศและแผนที่ที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ เพื่อตรวจสอบร่องรอยการทำกินว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรมาประกอบการพิจารณาสิทธิในแต่ละแปลง นอกจากนี้ ผู้ตรวจการแผ่นดินจะเร่งหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อวางแผนแม่บทบริหารจัดการพื้นที่และการอยู่ร่วมกันของชุมชนเพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความปลอดภัย สามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติโดยไม่ทำลายซึ่งกันและกัน คงไว้ซึ่งทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ดังเดิม อาจมีการพัฒนาในรูปแบบวิสาหกิจชุมชนหรือการท่องเที่ยวเชิงเกษตรเพื่อส่งเสริมระบบเศรษฐกิจชุมชนในพื้นที่อย่างยั่งยืนต่อไปด้วย

ด้านนายวิชิต เมธาอนันต์กุล ประธานวิสาหกิจชุมชนม่อนแจ่ม เปิดเผยว่าในอดีตชาวบ้านอยู่ก่อนการประกาศเป็นพื้นที่ป่าสงวน ชาวบ้านจึงน่าจะมีสิทธิในพื้นที่ และการประกอบกิจการท่องเที่ยว ก็เป็นเพราะทางโครงการหลวงมาส่งเสริม จึงมีการก่อสร้างดัดแปลงเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรขึ้น ซึ่งตอนนี้สภาพการท่องเที่ยวซบเซา เพราะปัญหาโควิด รวมถึงถูกภาครัฐบีบทุกทาง ซึ่งผู้ประกอบกิจการที่เหลือก็ยังคงเปิดกิจการเหมือนเดิมอยู่ อยากเชิญชวนนักท่องเที่ยวขึ้นมาท่องเที่ยวได้เหมือนเดิม ส่วนะการต่อสู้ด้านกฏหมายเราก็จะเดินหน้าสู้เพื่อความเป็นธรรมให้กับชาวบ้านในพื้นที่ม่อนแจ่มต่อไป

ภาคเหนือตอนบนแข่งดุหลายสนามเลือกตั้งนายกอบจ. ส.อบจ.เชียงใหม่ เชียงราย แพร่ สู้กันยิบตา

วันที่ 2 พ.ย.63ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นสถานที่รับสมัครการรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีผู้สมัครพร้อมทีมสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ สจ. จำนวนมาก พร้อมกองเชียร์ ทีมีสีสัน ตะโกนโห่ร้อง เชียร์ผู้สมัครของตัวเอง โดย นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร อายุ 53 ปีหรือสว.ก๊อง คนดังของจังหวัดเชียงใหม่ ลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย พร้อมทีมผู้สมัคร ทั้ง 42 เขตเลือกตั้ง เดินทางเข้ามารอตั้งแต่เวลา 6.30 น. โดยมี นายสุรพล เกียรติไชยากร นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ร่วมขบวนมารอรับสมัคร จับฉลากได้ หมายเลข 1  โดย สอบจ. และกองเชียร์ที่รออยู่ด้านนอกต่างส่งเสียงดีใจ  ส่วนตัวเต็งอีกคนหนึ่งที่มีสมัครในวันนี้คือนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ อายุ 64 ปี แชมป์เก่า ก็พร้อมทีมสจ. 42 คนก็มาลงสมัครได้หมายเลข 2 ท่านกลางความดีใจของกองเชียร์ โดยนายบุญเลิศ ลงสมัครในนามกลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม ไม่สังกัดพรรคใด ส่วนกลุ่มประชารัฐเชียงใหม่ ก็ส่งผู้สมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่18 คน ส่วนตัวผู้สมัครนายกคือนายบดินทร์ กินาวงศ์ ยังไม่มาสมัครในวันนี้

นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร  ผู้สมัครหมายเลข 1 กลุ่มเพื่อไทย เปิดเผยว่า ตั้งใจไว้ว่าอยากได้หมายเลข1 เพราะคนจะจำได้ง่าย การลงสมัครครั้งนี้มีความพร้อมอย่างมากในการที่จะตั้งใจทำงาน ส่วนนโยบายของกลุ่มเพื่อไทย เนื่องจากเชียงใหม่เป็นจังหวัดท่องเที่ยว รายได้ร้อยละ 70-80 มาจากการท่องเที่ยว โดยจะจัดสรรงบประมาณไปทางด้านการท่องเที่ยวและกีฬา โดยจะบริหารงบประมาณที่มีอยู่ประมาณ 2,000กว่าล้านบาท ให้ประชาชนได้ประโยชน์มากที่สุด ส่วนทีมงานที่จะเข้ามาช่วยบริหารจัดการ เป็นทีมที่มีความพร้อม ส่วนตัวมีความตั้งใจมากว่า 6ปีแล้ว ที่จะลงสมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด การลงสมัครในครั้งนี้จึงมีความมั่นใจอย่างมาก

ด้านนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ผู้สมัครหมายเลข 2จากกลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม อดีตนายกอบจ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่าประเด็นหลักที่จะดำเนินการหากได้รับเลือกจะสานต่อโครงการต่างๆ ที่วางไว้ โดยเฉพาะปัญหาหมอกควันที่เชียงใหม่ต้องเผชิญมาอย่างต่อเนื่อง ส่วตัวมีความกังวล คาดว่าปีนี้จะหนักกว่าทุกปี เนื่องจากปีนี้มีความแห้งแล้ง ปริมาณน้ำมีน้อย จึงเป็นนโยบายหลักที่จะเร่งดำเนินการ หากได้รับการเลือกเข้าไปบริหาร ส่วนตัวมีความมั่นใจเกินร้อย จากการที่ได้มีโอกาสลงพื้นที่ สัมผัสกับประชาชนในพื้นที่ และจากการพูดคุยกับ ส.อบจ. ทุกคนมีความมั่นใจอย่างมาก ซึ่งผู้สมัคร ส.อบจ.ร้อยละ 80 เป็นทีมงานเดิมที่ทำงานร่วมกันมา สำหรับการหาเสียง จะเป็นการหาเสียงแบบคนรุ่นใหม่ไม่โจมตีกัน โดยจะชูนโยบายเพื่อให้ท้องถิ่นได้ประโยชน์มากที่สุดเพื่อมาแข่งกันในเรื่องของนโยบาย

จ.เชียงราย ที่อาคารคชสาร สนามกีฬากลางจังหวัดเชียงราย สถานที่รับสมัครผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)เชียงราย และสมาชิก อบจ.เชียงราย โดยมีกำหนดตั้งแต่วันที่ 2-6พย.63 โดยวันนี้เป็นวันแรกได้มีผู้สมัคร นายก อบจ.ที่ประกาศตัวทั้งสิ้น 3รายประกอบไปด้วยนายมงคลชัย ดวงแสงทอง อดีตประธานสภาอุตสาหกรรม จ.เชียงราย ลงสมัครในนามอิสระ นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ อดีตสมาชิก อบจ.เชียงราย หลายสมัยลงในนามอิสระ และ น.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เชียงราย เขต 3 พรรคเพื่อไทย และเป็นบุตรสาวของนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.ที่พึ่งใช้มีดกรีดแขนในสภาผู้แทนราษฎรเมื่อเร็วๆ นี้ ลงสมัครในนามตัวแทนจากพรรคเพื่อไทย

เมื่อทั้งหมดมาถึงก่อนเวลาเปิดรับสมัคร ทางคณะกรรมการพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆเป็นสักขีพยานจึงได้จัดให้มีการจับสลากเพื่อกำหนดหมายเลข ปรากฎว่านายมงคลชัย จับได้หมายเลข 1นางอทิตาธร จับได้หมายเลข 3และ น.ส.วิสารดี จับได้หมายเลข 3 ท่ามกลางเสียงให้กำลังใจจากทีมงานของแต่ล่ะฝ่าย

จ.แพร่ ที่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ วันแรกแห่สมัคร ทั้งคนเก่า และคนใหม่ พร้อมทีมงานแห่ให้กำลังใจเพียบ ต่างมั่นใจในชัยชนะในครั้งนี้ ซึ่งเป็นไปตามคาดหมายมีผู้มาก่อนเวลาถึง 3 คน ด้วยกัน คือ นายอนุวัธ วงศ์วรรณ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ ซึ่งจับสลากได้หมายเลข 1 และนายประสงค์ ชุ่มเชย อุปนายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดแพร่ และอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ พ.ศ. 2554 ซึ่งได้หมายเลข 2 และหมายเลข 3 ซึ่งสละสิทธิไม่จับสลากเพราะต้องการล็อคหมายเลข 3 ในการหาเสียงคือ นายสุภวัฒน์ ศุภศิริ อดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ ผู้สมัครจากคณะก้าวหน้าจังหวัดแพร่ ซึ่งแต่ละคนก็มีทีมงานที่ลงสมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ ในแต่ละเขต โดยได้มีการทยอยเข้ามาสมัครกันอย่างต่อเนื่อง

นายอนุวัธ วงศ์วรรณ อดีตนายกอบจ.แพร่ ผู้สมัครหมายเลข 1 กล่าวว่า มีความมั่นใจเกิน 100 เนื่องจากผู้สมัคร สมาชิกสภา อบจ.แพร่ ชุดเดิมก็ได้ทำผลงานให้เป็นที่ประจักษ์กับทุกพื้นที่ คิดว่าถ้าการเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธรรมคิดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ทีมของเราก็น่าจะมากันได้หมดสำหรับคู่แข่ง ก็ไม่หนักใจเท่าไหร่ มีนิดหน่อย เพราะเราก็ไม่ทราบว่าเขาจะใช้กลยุทธ์อะไร ที่จะมาทำให้ประชาชนไขว้เขวถ้าโดยตรงแล้วพวกเราคิดว่าพวกเราน่าจะได้เข้ามาทั้งหมดครับ

นายประสงค์ ชุ่มเชย ผู้สมัครหมายเลข 2 กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มั่นใจมากเพราะออกพื้นที่มาโดยตลอดได้รับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชน และนำสิ่งที่ได้รับมาจากพี่น้องประชาชนมาทำนโยบาย สำหรับคู่แข่งทั้งสองนั้นไม่หนักใจ เพราะตนนั้นมีการเตรียมตัวและเก็บข้อมูลมาโดยตลอด ทั้งของนายกคนปัจจุบันและของทางพรรคก้าวไกล ซึ่งมันมีความแต่งต่างกัน ระหว่างการเมืองระดับชาติและการเมืองท้องถิ่น ชาวบ้านน่าจะเลือกคนที่เข้าใจ เข้าถึงปัญหาของพี่น้องชาวจังหวัดแพร่

นายสุภวัฒน์ ศุภศิริ ผู้สมัครหมายเลข 3 กล่าวว่า มั่นใจในการเลือกตั้งครั้งนี้เนื่องจากนโยบายของเราประกอบไปด้วย 4 ด้าน ด้านเศรษฐกิจ ด้านสุขภาพ การศึกษา และสิ่งแวดล้อม ซึ่งเชื่อแน่ว่าหากวางรากฐาน 4 ด้านนี้ จะสามารถสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้พี่น้องชาวจังหวัดแพร่ได้ ณ ตอนนี้ลงสมัครเต็มตัวแล้วก็ต้องลงเต็มที่ ส่วนผลจะเป็นอย่างไรนั้นต้องขอให้พี่น้องประชาชนเป็นคนช่วยตัดสิน และขอโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามาทำงานเพื่อบ้านเพื่อเมืองด้วยครับนายสุภวัฒน์ ศุภศิริ กล่าวในที่สุด

ต้นไม้ใหญ่ล้มหน้าวัดพระธาตุดอยสุเทพฯทับรถพังยับสามคันนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บสองคน

ศูนย์กู้ชีพเวียงพิงค์สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับแจ้งว่า มีอุบัติเหตุต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มทับรถยนต์และประชาชนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดขึ้นที่บริเวนก่อนถึงลิฟต์ขึ้นวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ จึงได้จัดเจ้าหน้าที่กู้ชีพ พร้อมรถพยาบาลเข้าให้การช่วยเหลือ โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงก็พบกับต้นไม้ขนาดประมาณ 5 คนโอบ ล้มทับรถที่จอดบริเวณดังกล่าว รวม 3 คัน เป็นรถสองแถวแดง 1 คัน ทะเบียน 30-6503 เชียงใหม่ รถฟอร์จูนเน่อสีขาว ของนักท่องเที่ยว 1 คัน ทะเบียน 3กย-7676 กรุงเทพมหานคร และรถของวัดพระธาตุดอยสุเทพฯ อีก 1 คัน รถกระบะ 4 ประตู สีขาว ทะเบียน ผธ-6080 เชียงใหม่

จากการตรวจสอบ มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 ราย เป็นนักท่องเที่ยวเดินทางมาจาก จ.นครปฐม ซึ่งนั่งอยู่ในรถสองแถวแดงคันที่ต้นไม้ล้มทับ เจ้าหน้าที่กู้ภ้ยเทศบาลตำบลสุเทพพร้อมด้วยชาวบ้านช่วยกันตัดกิ่งไม้ที่ทับและขวางด้านท้ายรถสองแถว ก่อนจะสามารถนำผู้ได้รับบาดเจ็บออกจากรถมาได้ โดยรายแรกได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ 1 ราย และอีก 1 รายมีอาการปวดหลัง ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยเทศบาลตำบลสุเทพจึงได้ทำการปฐมพยาบาล ก่อนจะนำตัวส่งรักษาต่อยังโรงพยาบาลต่อไป

“เทศกาลโกมล้านนา ปูจาผางผะตี๊บ”เทศบาลเชิงดอยจัดใหญ่งานลอยกระทงหนองบัวพระเจ้าหลวง

นายชุติพนธ์ สารแปง นายกเทศมนตรีตำบลเชิงดอย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ พร้อมหน่วยงานราชการ เอกชน และประชาชนในตำบลเชิงดอย จัดงานประเพณีลอยกระทงหรือประเพณียี่เป็ง ขึ้นที่หนองบัวพระเจ้าหลวง ใช้ชื่องานว่า”เทศกาลโกมล้านนา ปูจาผางผะตี๊บ” ต.เชิงดอย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม ถึง 1 พฤศจิกายน 2563 โดยบรรยากาศภายในงานเมื่อคืนที่ผ่านมาปรากฏว่าคับคั่งไปด้วยประชาชน นักท่องเที่ยวจำนวนมากที่หลั่งไหลกันเดินทางไปร่วมประเพณีและเที่ยวชมบรรยากาศภายในงานที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่

ซึ่งภายในงานคืนแรก มีการประกวดธิดาดวงดี เทพีจ๊กเบอร์ (จับฉลาก) จากเหล่าบรรดานางฟ้าจำแลง สาวประเภทสองที่มาเข้าร่วมประกวดและแสดงความสามารถกัน ซึ่งการประกวดในครั้งนี้ไม่จำเป็นต้องสวยเลิศ แต่ขอให้ “พกดวง” มาด้วย เพราะตัดสินกันด้วยการจับสลาก ว่าใครจะคว้ามงกุฏ ไปครอง โดยภายในงานคืนแรกนี้ไม่มีการปล่อยโคมแต่มีจุดผางผะตี๊บ 5,000 ดวง ตกแต่งโคมไฟแบบล้านนากว่า 5 พันดวง ภายในงานเป็นไปแบบ ท่องเที่ยววิถีใหม่ New Normal ที่อุโมงค์ไฟจะมีข้อความไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก พร้อมไฟน้ำตก รูป 12 นักษัตร

นอกจากนั้นยังมีการตกแต่งอุโมงค์โคมไฟ ไปยังศาลาแปดเหลี่ยม ซึ่งจุดนี้อุโมงค์ไฟจะมีหัวใจ แล้วมีคำว่า “New Normal” เพื่อให้ประชาชนได้มาถ่ายภาพเป็นที่ระลึกไว้ว่าปีนี้มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 บริเวณสะพานเดินรอบศาลา มีโคมไฟแบบล้านนามาตกแต่งทางเดินพร้อมไฟที่งดงาม ส่วนบริเวณชายหาดก็มีกำแแพงโคมไฟ หลากหลายสีสัน “ตัวโคมผัด” หรือโคมหมุนขนาดใหญ่ จะเป็นแบบการรณรงค์ป้องกัน การสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อย สแกนไทยชนะ และการตรวจวัดไข้ด้วย โดยนายชุติพนธ์ สารแปง นายกเทศมนตรีตำบลเชิงดอย กล่าวว่าคืนแรกของการจัดงานประสบผลสำเร็จด้วยดีมีนักท่องเที่ยวและประชาชนมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก และขอเชิญชวนมาเที่ยวชมกันซึ่งงานยังมีอีกสองคืนด้วยกัน

การท่าฯเชียงใหม่ประชาสัมพันธ์เชิงรุก”โครงการพาน้ำพริกขึ้นเครื่องบินกลับบ้าน”

นายอมรรักษ์ ชุมสาย ณ อยุธยา ผอ.การท่าอากาศยานเชียงใหม่ มอบหมายให้ฝ่ายรักษาความปลอดภัย และฝ่ายอำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ นำเจ้าหน้าที่ออกประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์มาตรฐาน สำหรับบรรจุอาหารเหลว อาทิ น้ำพริกหนุ่ม แกงฮังเล น้ำจิ้ม ที่สามารถนำขึ้นไปบนห้องโดยสารอากาศยานได้ ตามโครงการ “พาน้ำพริกกลับบ้าน” โดยได้ให้คำแนะนำและตอบข้อซักถามจากบรรดาร้านค้าที่จำหน่ายของฝากในตลาดวโรรส หรือกาดหลวง ซึ่งเป็นตลาดที่จำหน่ายของฝากที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่ที่สุดของจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องการนำอาหารที่มีส่วนผสมของของเหลวขึ้นบนห้องโดยสารอากาศยาน หลังจากที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ ที่กำกับดูแลด้านการบินของไทย ได้ออกประกาศ “หลักเกณฑ์การตรวจค้นของเหลว เจล สเปรย์ที่จะนำขึ้นบนห้องโดยสารอากาศยาน หรือเข้าไปในเขตหวงห้ามของสนามบินสาธารณะ พ.ศ.2562” มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา

ส่วนกำหนดคำนิยามของ “ของเหลว เจล สเปรย์” หมายรวมถึงของเหลวในรูปแบบต่างๆ เช่น น้ำ เครื่องดื่ม ซุป น้ำเชื่อม แยม สตูว์ ซอส น้ำพริก หรืออาหารอย่างอื่นที่อยู่ในซอส หรือที่มีส่วนประกอบเป็นของเหลวในปริมาณมาก ส่งผลให้การนำอาหารที่เป็นของเหลวดังกล่าว ติดตัวขึ้นไปบนห้องโดยสารอากาศยานต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์การบินสากล คือ ต้องอยู่ในบรรจุภัณฑ์มาตรฐานปริมาตรที่รองรับของเหลวได้ไม่เกิน 100 มิลลิลิตร ปิดผนึกสนิทไม่สามารถเปิดออกได้ มีฉลากข้อความระบุแหล่งที่มา และระบุปริมาตรของเหลวที่อยู่ภายในอย่างชัดเจน ของเหลวทั้งหมดรวมกันสูงสุดไม่เกินคนละ 1,000 มิลลิลิตร หากไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ข้างต้น หรือมีปริมาตรมากกว่าที่กำหนดสามารถนำไปกับอากาศยานได้ด้วยการโหลดใต้ท้องเครื่อง ทั้งนี้ที่ผ่านมายังมีผู้โดยสาร ผู้ใช้บริการ รวมถึงผู้ผลิตและจำหน่ายของฝากที่เป็นอาหารเหลว จำนวนมากไม่ทราบข้อกำหนดดังกล่าว หรือมีความเข้าใจคลาดเคลื่อน ส่งผลให้ผู้โดยสารต้องทิ้งอาหารที่เป็นของเหลว โดยเฉพาะน้ำพริกหนุ่ม ณ บริเวณจุดตรวจก่อนขึ้นเครื่องเฉลี่ยวันละ 100-200 ชิ้นเลยทีเดียว

กองกำลังผาเมืองยึดอีกยาบ้า3ล้านกว่าเม็ดชายแดนไทย-เมียนมาอ.แม่ฟ้าหลวงจ.เชียงราย

พ.อ.จักรกริศน์ เจริญโชติกาญจน์ ผู้แทน ผบ.กองกำลังผาเมือง ร่วมกับ พ.ต.อ.ประจัญ ปัญญาแก้ว รอง ผบก.ภ.จว.เชียงราย เป็นประธานแถลงข่าวการจับกุมยาเสพติด เป็นยาบ้าจำนวน ประมาน 3,400,000 เม็ด ที่บริเวณบ้านผาจีใหม่ ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหวง จ.เชียงราย โดยมีเจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ.แม่ฟ้าหลวง ตำรวจชุดสกัดกั้นยาเสพติด.พท.ชายแดน ภ.5 ร่วมกันแถลงข่าว

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อ เวลา13.00น.วันที่ 30 ต.ค.63 เจ้าหน้าตำรวจ สภ.แม่ฟ้าหลวงร่วมกับเจ้า ทหาร บก.ควบคุม ปส. และเจ้าหน้าที่ทหาร ร้อย ฉก.ม.3 ตชด.327 และ เจ้าหน้าที่ ตำรวจชุดสกัดกั้นยาเสพติด.พท.ชายแดน ภ.5 ได้สืบทราบว่ามีกลุ่มขบวนการลำเลียงยาเสพติด ได้พยายามลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากชายแดนประเทศเพื่อน ด้านอ.แม่จัน และ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย จึงได้เพิ่มความเข้มงวดในการลาดตระเวณและเฝ้าระวัง รวมถึงตั้งจุดตรวจและสกัดตามพื้นที่รับผิดชอบจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวณ บก.ควบคุม.ปส. ได้ตรวจพบรอยรถยนต์ เข้าไปในป่าอย่างผิดสังเกต จึงได้จัดกำลังเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว จะได้พบกระสอบฟางวางกองรวมกันอยู่ จำนวน 23 เป้ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนจะวางกำลังไว้โดยรอบ และทำการตรวจสอบกระสอบดังกล่าว เบื้องต้นพบว่าภายในมียาบ้าบรรจุอยู่ จำนวนประมาณ 3,352,000 เม็ด โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดและติดตามขยายผลถึงกลุ่มและขบวนการค้ายาบ้ารายนี้ต่อไป

พ.อ.จักรกริศน์ เจริญโชติกาญจน์ กล่าวว่า ปัจจุบัน ทางกองกำลังผาเมือง ได้เข้มงวดในพื้นที่ชายแดนเพื่อป้องกันการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน และป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยได้จัดกำลังและลาดตระเวณ ตามแนวชายแดน โดยเพิ่มความเข้มงวดขึ้นกว่าเดิม สำหรับยาเสพติดดังกล่าวคาดว่าเป็นของกลุ่มว้าเหนือและว้าใต้ ลำเลียงเข้ามาในพื้นที่เพื่อเตรียมส่งให้ขบวนการลักลอบขนเข้าพื้นที่ชั้นในของประเทศแต่ถูกทางเจ้าหน้าที่มาพบเสียก่อนจึงได้หลบหนีไปอย่างไรก็ตามทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องยังคงมาตรการตรวจเข้มชายแดนภาคเหนือต่อไป

กกต.แม่ฮ่องสอนพร้อมจัดเลือกตั้งนายกและสมาชิกอบจ.เมืองสามหมอกคาดไม่มีปัญหาถึงแม้บางพื้นที่ห่างไกลหน่วยเลือกตั้งอยู่บนดอยสูง

คณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดแม่ฮ่องสอน และคณะกรรมการการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน เตรียมพร้อมการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และสมาชิกสภาจังหวัดแม่ฮ่องสอน เรียกประชุมคณะกรรมการเตรียมความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งโดยใช้อาคารศาลาประชาคมจังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นศูนย์ประสานงานการเลือกตั้ง

นายณัฐเศรษฐ์ ราชไชยา ผู้อำนวยการสำนักงานการเลือกตั้งประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า การเลือกตั้ง นายก อบจ.และสมาชิก อบจ.แม่ฮ่องสอน จะเริ่มรับสมัครระหว่างวันที่ 2-6 พ.ย.63 ค่าสมัครนายก อบจ.30,000 บาท ,สมาชิก อบจ.2,000 บาท ส่วนค่าใช้จ่ายในการหาเสียงของนายก อบจ.ไม่เกิน 3 ล้านบาท สำหรับสมาชิก อบจ.ไม่เกิน 300,000 บาท ในการเลือกตั้งดังกล่าวผู้มีสิทธิเลือกตั้งก็จะมีเพิ่มมากขึ้นจากเดิมอยู่ที่ประมาณ 180,000 คน (หนึ่งแสนแปดหมื่นคน)อำเภอที่มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมากที่สุดได้แก่ อ.แม่สะเรียง และ อ.เมือง ทั้ง 7 อำเภอของจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีสมาชิก อบจ.ได้ 24 คน อำเภอที่มี สมาชิก อบจ.ได้ 5 คน คือ อ.เมือง และ อ.แม่สะเรียง ที่เหลือก็ลดหลั่นกันไปตามจำนวนประชากร ผู้ที่จะลงสมัครสมาชิก อบจ.จะต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านอยู่ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนไม่น้อยกว่า 1 ปีนับถึงวันสมัคร และไม่จำเป็นต้องลงสมัครในพื้นที่อำเภอที่ตนมีชื่ออยู่ในอำเภอนั้น ๆ เช่น มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในพื้นที่อำเภอแม่สะเรียง จะไปสมัครเป็นสมาชิก อบจ.ในพื้นที่ อ.ปาย ก็ได้ การติดป้ายประกาศหาเสียงผู้สมัครสามารถปิดประกาศติดป้ายหาเสียงได้ทุกที่ ยกเว้นกรณี กกต.ท้องถิ่น หรือ กกต.อบจ.ประกาศห้ามจะไม่สามารถปิดประกาศหาเสียได้

นายพงษ์ศักดิ์ บุญเป็ง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ขณะนี้เรามีความพร้อมเลือกตั้ง นายก อบจ.และสมาชิก อบจ. 100 เปอร์เซ็นต์ สถานที่รับสมัครใช้หอประชุมศาลาประชาคมจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นสถานที่รับสมัคร สำหรับหน่วยเลือกตั้งที่มีความเป็นห่วงมากที่สุดคือหน่วยเลือกตั้งพื้นที่ตำบลแม่คง อ.เม่สะเรียง โดยจะให้ครูเขตพื้นที่ , ครูอาสา กศน.และครู ตชด.เป็นคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง จะต้องวางแผนรับหีบบัตรก่อนวันเลือกตั้ง โดยหน่วยที่อยู่ไกลกันดาร อาจจะให้รับไปก่อนเพราะต้องใช้เวลาในการเดินทางและเตรียมเอกสารลงคะแนน การเลือกตั้งนายก อบจ.และสมาชิก อบจ.ในวันที่ 20 ธ.ค.63 ไม่กังวลเรื่องการขนย้ายหีบบัตรเนื่องจากเป็นช่วงหน้าหนาวการเดินทางสะดวกแม้จะเป็นพื้นที่ห่างไกลกันดาร

ทต.แม่ริมไอเดียเจ๋งผุดโครงการขยะแลกไข่

เทศบาลตำบลแม่ริมเดินหน้าตามโครงการ”ขยะแลกไข”ได้ผลคุ้มค่ากับการลงทุน สามารถสร้างจิตสำนึกในการคัดแยกขยะจากครัวเรือนส่งผลให้ปริมาณขยะในพื้นที่ลดลงเป็นที่น่าพอใจ ขณะเดียวกันปลูกฝังจิตสำนึกการคัดแยกขยะกับเด็กและเยาวชนได้เดป็นอย่างดียิ่งเพราะขยะเกิดประโยชน์คุ้มค่าเมื่อนำมาแลกกับไข่

นายจุฬา สังข์เรือง นายกเทศมนตรีตำบลแม่ริมอ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ พร้อมกับนายบรรเจิด มาตัน รองนายกเทศมนตรีฯ และสมาชิกสภาเทศบาลตำบลแม่ริม เจ้าหน้าที่จากกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ได้ร่วมกันออกหน่วยบริการตามโครงการขยะแลกไข่ บริเวณศาลาวัดทรายมูล ตามกิจกรรมขยะแลกไข่ เทศบาลตำบลแม่ริม โดยได้รับความสนใจจากประชาชนในชุมชนอย่างมากได้นำขยะที่ตนเองคัดแยกแล้วมาชั่งกิโลเพื่อแลกกับไข่ที่ทางเทศบาลตำบลแม่ริมได้จัดซื้อไว้ในการเตรียมความพร้อมเมื่อประชาชนนำขยะมาแลกเปลี่ยน

นายกเทศมนตรีตำบลแม่ริม กล่าวย้ำว่าโครงการดังกล่าวถือเป็นนโยบายของคณะผู้บริหารเทศบาลฯที่ต้องการสนับสนุนให้ประชาชนเห็นความสำคัญต่อการคัดแยกขยะก่อนทิ้ง กิจกรรมตามโครงการจัดขึ้นมุ่งเน้นให้พี่น้องประชาชนช่วยกันลดปริมาณขยะและเศษสิ่งเหลือใช้คัดแยกแล้วได้ประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็กและเยาวชนที่เทศบาลฯได้เล็งเห็นความสำคัญในการปลูกฝังจิตใจและปลุกจิตสำนึกไม่ให้มีการทิ้งขยะเรี่ยราดและชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการแยกขยะที่จะทำให้สภาวะของสิ่งแวดล้อมในเขตเทศบาลตำบลแม่ริมหากไร้ขยะและไม่มีการทิ้งเรี่ยราดแล้ว จะทำให้พื้นที่เกิดความสวยงามเป็นบ้านเมืองที่น่าอยู่น่ามอง โครงการคัดแลกขยะและนำขยะมาแลกกับไข่ เทศบาลตำบลแม่ริมได้ทำอย่างต่อเนื่องเพราะส่งประโยชน์สูงสุดในหลายๆด้านกับพี่น้องประชาชนและเทศบาลฯได้ประหยัดงบประมาณในการนำขยะไปทิ้งได้อีกด้วย นายกเทศมนตรีฯกล่าวในที่สุด