หวั่นนำเชื้อโควิดแพร่ระบาดในประเทศนอภ.แม่สายจับขบวนการขนต่างด้าว 9 คนเตรียมส่งไปทำงานพื้นที่ชั้นใน

นายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอแม่สาย จ.เชียงราย ได้รับรายงานว่ามีการลักลอบลำเลียงชาวต่างด้าวมาซุกซ่อนเอาไว้ ที่บ้านเลขที่ 208 บ้านหนองอ้อ หมู่ 2 ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อเตรียมพาไปส่งทำงานในพื้นที่ต่างๆของประเทศไทย จึงได้มอบหมายให้นายราเมศวร์ นันทะเขต ปลัดป้องกัน อ.แม่สาย นำกำลังเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน (อส.) ตรวจสอบบริเวณดังกล่าว

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนด์ หมายเลขทะเบียน ผผ 3789 เชียงใหม่ ขับไปจอดภายในบ้านหลังดังกล่าวจึงเข้าไปตรวจสอบพบมีคนขับชื่อว่านายวรวุฒิ ชาว จ.เชียงใหม่ ภายในรถพบชาวสัญชาติเมียนมาโดยสารมา จำนวน 9 คน โดยเป็นชายจำนวน 7 คนและหญิงจำนวน 2 คน จึงได้ควบคุมตัวเอาไว้ทั้งหมดโดยเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมหลักฐานเพื่อขยายผลดำเนินคดีกับผู้ที่อยู่เบื้องหลัง โดยมีการใช้มาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด เนื่องจากในปัจจุบันประเทศไทยมีการปิดพรมแดนตลอดแนวและเปิดเฉพาะบางจุดเพื่อการขนส่งสินค้าเท่านั้น

การจับกุมในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ติดตามพฤติกรรมของขบวนการลักลอบขน ชาวเมียนมาจากพื้นที่ชายแดน มาพักเอาไว้เพื่อเตรียมส่งต่อไปทำงานยัง จ.เชียงใหม่ และพื้นที่อื่นๆ จนเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมได้ทั้งหมด ซึ่งผ่านมายังคงมีชาวต่างด้าวพยายามลักลอบเข้ามาตามแนวชายแดนอย่างต่อเนื่อง โดยมีการเรียกเก็บเงินค่านำพาข้ามพรมแดนตั้งแต่ 3,000 บาทต่อคน ซึ่งคาดว่าจะทำเป็นขบวนการ ชักชวนกลุ่มคนดังกล่าวเข้ามาทำงานในประเทศไทย โดยไม่คำนึงถึงการแพร่ระบาดในช่วงโควิด-19 ที่กำลังระบาดในประเทศเมียนมา และอาจจะส่งผลทำให้เกิดการแพร่ระบาดในพื้นที่ชายแดนได้

พ่อ-แม่เซนติเมตรมอบเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าให้กับเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิรวมใจอปพร.อ.เมืองเชียงใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายประทิน เกิดช้ำ และนางประคอง เกิดช้ำ พ่อและแม่ของนายศุภกิจ เกิดช้ำ อายุ 30 ปี หนึ่งในผู้เสียชีวิต จากอุบัติเหตุถูกรถยนต์เก๋งพุ่งชนรถรถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์วี สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฌห 3963 กรุงเทพมหานคร พลิกหงายท้องจมน้ำอยู่ในคลอง ที่ จ.เชียงใหม่ ทำให้ผู้โดยสารและคนขับคือนายจตุภัทร เข็มนาค หรือ “เซนติเมตร” อายุ 28 ปี สไตลิสต์และพิธีกรรายการล้นตู้ ทางช่องยูทูบ และนายศุภกิจ หรือโจ้ เกิดช้ำ อายุ 30 ปี ซึ่งต่อมาพระเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ให้การช่วยเหลือปั๊มหัวใจนำส่งโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ และทั้งคู่เสียชีวิตในเวลาต่อมา

ซึ่งในวันนี้ทางครอบครัว ได้เดินทางมามอบเครื่องฟื้นคืนคลื่นหัวใจด้วยไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ (AED) ยี่ห้อ heartsine แบร์นจากประเทศอังกฤษ มูลค่า85,000บาท ให้กับหน่วยกู้ภัยมูลนิธิรวมใจอปพร.อ.เมืองเชียงใหม่ โดยมีนางสุมาลี เงินถา ผู้จัดการมูลนิธิฯเป็นผู้รับมอบ โดยมีวัตถุประสงค์พื่อเพิ่ม ศักยภาพในการช่วยเหลือฟื้นคืนชีพผู้ป่วยฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุหรือผู้ป่วยที่หัวใจหยุดเต้นกระทันหัน นอกจากนี้ยังได้บริจาคเงินอีก10,000บาท เพื่อสนับสนุนกิจการสาธารณกุศลของทางมูลนิธิฯ

ผบช.ภ.5สั่งทุกสภ.อ.ในสังกัดกวาดล้างต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองหวั่นนำชื้อโควิด19แพร่ระบาด

พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 กล่าวว่าเนื่องจากแนวโน้มสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด 19 ในประเทศเพื่อนบ้านเมียนมา ยังคงมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด19 จากแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตนได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัด เพิ่มความเข้มในการตั้งจุดตรวจจุดสกัด การลักลอบเข้าเมืองของแรงงานต่างด้าว โดยเฉพาะหัวหน้าสถานีตำรวจในสังกัดที่มีพื้นที่ติดชายแดนติดกับประเทศเมียนมา โดยมีมาตรการในการป้องกันต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองให้มีผลการปฏิบัติเป็นรูปธรรมชัดเจน โดยตั้งจุดตรวจ จุดสกัดกับหน่วยงานในพื้นที่ เช่น ฝ่ายปกครอง ทหาร พร้อมทั้งประสานการปฏิบัติการสกัดกั้นการหลบหนีเข้าเมืองกับหน่วยตำรวจในพื้นที่ ได้แก่ ตชด. และ ตม. อย่างใกล้ชิดส่วนแรงงานต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำงานในประเทศให้เพิ่มความเข้มในการตรวจคัดกรองโรค โดยประสานการปฏิบัติกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ อีกทั้งให้ทุกหน่วยงานในสังกัดเพิ่มความเข้มในการตรวจสอบแรงงานต่างด้าวในพื้นที่และบังคับใช้กฎหมายกับแรงงานที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายอย่างเคร่งครัด และประสานขอความร่วมมือภาคเอกชน โรงงานอุตสาหกรรม ไม่ให้รับแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมายเข้าทำงานด้วย ผบช.ภาค5 กล่าวในที่สุด

ฮ.เบลล์212บินรับผู้ป่วยเลือดคั่งในสมอง

ที่กรมทหารพรานที่ 36 ค่ายเทพสิงห์ ตำบลบ้านกาศ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน พ.อ.สมรรถชัย แปงสาย ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่36 เปิดเผยว่า ทางกรมทหารพรานที่ 36 ได้จัด นายสิบพยาบาล และกำลังพลชุดบรรเทาสาธารณภัย อำนวยความสะดวกให้กับทาง ทีมแพทย์สกาย ด็อกเตอร์ จากโรงพยาบาลศรีสังวาลย์ ซึ่งได้เดินทางมากับเฮลิคอปเตอร์ เบลล์ 212 เพื่อบินมารับผู้ป่วยฉุกเฉิน หลังได้รับการประสานงานจาก หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 17 ว่า ทีมแพทย์โรงพยาบาลแม่สะเรียง ต้องการส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉินที่มีความจำเป็นต้องรักษาเร่งด่วน จำนวน 1 ราย ทราบชื่อผู้ป่วยคือ นางชัญญา มังกรอัศวกุล อายุ 58 ปี พักอาศัยอยู่ในตำบลแม่สะเรียง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ป่วยด้วยอาการเลือดคั่งในสมอง เป็นภาวะอาการที่เกิดจากเส้นเลือดในสมองแตก หรือฉีกขาด จนทำให้มีเลือดไหลออกมายังเนื้อเยื่อส่วนที่ใกล้เคียง ทำให้เซลล์สมองบริเวณนั้นได้รับความเสียหายอย่างรวดเร็ว ผู้ป่วยต้องเข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วน เนื่องจากเลือดที่ไหลออกมาอาจไปกดทับเนื้อเยื่อสมอง และ รบกวนการขนส่งออกซิเจนไปเลี้ยงสมองด้วย ทำให้เกิดอาการป่วยที่รุนแรงตามมา จนอาจถึงขั้นเป็นอัมพาตหรือถึงแก่ชีวิตได้หากรักษาไม่ทันการณ์

จากสถิติการลำเลียงผู้ป่วยฉุกเฉินในเขตพื้นที่ภาคเหนือตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 จนถึงปัจจุบัน ทีมแพทย์ สามารถช่วยเหลือลำเลียงผู้ป่วยฉุกเฉินได้กว่า 100 ราย ส่วนใหญ่ลำเลียงมาจากโรงพยาบาลต้นทางในจังหวัดแม่ฮ่องสอน น่าน และอำเภอรอบนอกของจังหวัดเชียงใหม่ มายังโรงพยาบาลปลายทางคือ โรงพยาบาลนครพิงค์ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ และโรงพยาบาลประสาท มีพาหนะเป็นอากาศยานทั้งเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ โดยผู้ป่วยฉุกเฉินทุกรายไม่ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น

ชาวอำเภอแม่สะเรียงร่วมใจผลิตโคมไฟเตรียมรับเทศกาลออกหว่าสวยงามสร้างรายได้อบจ.แม่ฮ่องสอนสนับสนุนงบประมาณ

แม่สะเรียงเริ่มแล้วเทศกาลประดิษฐ์โคม สร้างงานสร้างรายได้ผู้สูงอายุ นักเรียน อบจ.แม่ฮ่องสอน หนุนงบส่งเสริมการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมประเพณี จัดกิจกรรมงานประเพณีออกหว่า เทศกาลออกพรรษาอย่างยิ่งใหญ่การเตรียมรับเทศกาลออกหว่า ประเพณีออกพรรษา ผู้สูงอายุ และ นักเรียน หลายแห่ง รวมตัวกันเริ่มการทำโคมไฟหลากหลายชนิด ไว้ประดับประดา ตามประเพณีงานออกหว่า หรือออกพรรษา และส่วนหนึ่งไว้จำหน่าย เพื่อสร้างรายได้เมื่อเข้าสู่เดือนตุลาคมของทุกปี กลุ่มผู้สูงอายุในหมู่บ้าน อ.แม่สะเรียง อาทิ บ้านท่าข้าม บ้านทุ่งพร้าว หรือ กลุ่มนักเรียนตามสถานศึกษาต่างๆ ก็จะรวมตัวกันประดิษฐ์โคมไฟชนิดต่างๆ เพื่อเตรียมจำหน่ายประดับประดาในงานประเพณีออกหว่า หรือ เทศกาลออกพรรษา ซึ่งเริ่มตั้งแต่การหาไม้ไผ่ มาดัดไม้ ตัดกระดาษ ตัดผ้า ติดโคม ติดลายฉลุ ตามขนาดต่างๆ ของโคมที่มีหลากหลายรูปแบบเพื่อจัดจำหน่าย ให้กับประชาชนทั่วไป องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่วนราชการ และ องค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อนำไปประดับประดาตกแต่งอาคาร บ้านเรือนสำนักงาน ช่วงงานมหัศจรรย์สีสันแห่งโคมนอกจากนี้ยังมีการทำซุ้ม ติดประทีปโคมไฟให้สวยงดงามตามประเพณี ซึ่งโคมที่ทำออกมามีหลากหลายชนิด อาทิ โคมหูกระต่าย โคมแปดเหลี่ยม โคมสิบหกเหลี่ยม โคมดาว เป็นต้น มีราคาเริ่มต้นกันที่ 35-300 บาท แล้วแต่ขนาดและชนิดของโคม ซึ่งในการทำโคมแต่ละครั้งของกลุ่มผู้สุงอายุ นอกจากจะเป็นการสืบสานภูมิปัญญาสู่กลุ่มลูกหลานแล้ว ยังสามารถสร้างงานสร้างรายได้ ใช้เวลาว่างของผู้สูงอายุให้เกิดประโยชน์ ทำให้มีรายได้เฉลี่ยคนละ 3- 4 พันบาทต่อคนในห้วงเวลาหนึ่งเดือนที่ทำโคมไว้จำหน่าย

ทั้งนี้ ทาง องค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้สนับสนุนส่งเสริมกลุ่มเป้่าหมายเพื่อผลิตโคมประดับประดาตามเส้นทางท่องเที่ยวของอำเภอแม่สะเรียง ประกอบไปด้วย ชมรมผู้สุงอายุในพื้นที่แม่สะเรียง 2 แห่ง เครือข่ายสถานศึกษาในพื้นที่แม่สะเรียง 9 แห่ง และกลุ่มพระสงฆ์ในพื้นที่แม่สะเรียง โดยทำการผลิตโคม 16 เหลี่ยม โคมดาว โคมสี่เหลี่ยม จำนวนกว่า 1200 ลูก นอกจากนี้ทาง อบจ.แม่ฮ่องสอน ยังได้จัดสรรงบประมาณบูรณาการการจัดงานออกหว่า (มหัศจรรย์สีสันแห่งโคม) ร่วมกับเทศบาลตำบลแม่สะเรียง และ อบต.แม่คง เป็นเงินกวา 1 ล้านบาท ใน 3 กิจกรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและการอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น

สำหรับงานประเพณีออกหว่า หรือ เทศกาลออกพรรษา ของ อ.แม่สะเรียง กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1- 3 ตุลาคม 2563 มีกิจกรรมหลากหลาย เช่น กิจกรรมมหัศจรรย์สีสันแห่งโคม ชมการประดับประดาราชวัตรประทีปโคมไฟตามถนนสายต่าง ๆ ของเมืองแม่สะเรียง ชมขบวนแห่เทียนเหง (เทียนพันเล่ม) และชิมรสกับอาหารคาวหวานท้องถิ่น ในบริเวณกาดมั่วคัวฮอม สืบฮีตสานฮอย ย้อนรอยออกหว่า ลานวัฒนธรรม และวิถีชีวิตชนเผ่า เป็นต้น

ทหารผาเมืองซิวแก๊งขนยาเสพติดคารีสอร์ทหรูพร้อมของกลางยาไอซ์12กก.

เจ้าหน้าที่ทหารกองร้อยทหารม้าที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 4 กองกำลังผาเมือง จับกุมนายสมคิด ชาวจังหวัดเชียงราย พร้อมของกลางยาไอซ์ บรรจุอยู่ถุงชาสีทองจำนวน 12 กิโลกรัม จับกุมได้ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งในอ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่

โดยก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าได้แกะรอยแก๊งขนยาเสพติดจากชายแดนประเทศเมียนมาด้าน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ และทราบว่าแก๊งนี้มีด้วยกันสามคนรับยาเสพติดมาแล้วมาเปิดห้องพักเพื่อพักยาก่อนจะนำส่งให้ลูกค้าจึงเข้าทำการตรวจค้นผู้ต้องหาสองคนไหวตัวทันขับรถยนต์หลบหนีไปได้ จับได้นายสมคิด เพียงคนเดียวให้การว่ารับซื้อยาไอช์จำนวนดังกล่าวเพื่อนำไปขายต่อราคา 1.8 ล้านบาทส่วนคนจะได้ส่วนแบ่ง2.5 แสนบาท แต่มาถูกจับเสียก่อนซึ่งเจ้่าหน้าที่จะได้ติอตามจับกุมเพื่อนร่วมแก๊งที่หลบหนีมาดำเนินคดีต่อไป

พะเยาบ้านฝั่งแวนคว้าหมู่บ้านดีเด่นเศรษฐกิจพอเพียงชูวิถีชีวิต“ไทลื้อ”เรียบง่ายพออยู่พอกิน

นายนพดล เข็มเพชร กำนัน ต.เชียงบาน อ.เชียงคำ จ.พะเยา เปิดเผยว่าตามที่จังหวัดพะเยา ได้ดำเนินการคัดสรรกิจกรรมพัฒนาชุมชนดีเด่น ประจำปี 2563 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสรรหาและคัดเลือกหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง “อยู่เย็น เป็นสุข” ดีเด่นระดับจังหวัด และกิจกรรมพัฒนาชุมชนดีเด่นระดับจังหวัด รวมทั้งครัวเรือนสัมมาชีพชุมชนตัวอย่างระดับภาค ประจำปี 2563 ที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอพียงต้นแบบ เป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณชน เป็นการสร้างแรงจูงใจในการทำความดีและยกย่องเชิดชูเกียรติ โดยจะได้เข้ารับโล่พระราชทานสมเด็จพระกษิฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี

กำนัน ต.เชียงบาน กล่าวต่อว่า ในครั้งนี้บ้านบ้านฝั่งแวน หมู่ 11 ต.เชียงบาน ได้รับรางวัลชนะเลิศหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง อยู่เย็น เป็นสุข ดีเด่นระดับจังหวัด ประจำปี 2563 นำมาซึ่งความภาคภูมิใจของตนและคนทั้งหมู่บ้านที่ได้ทุ่มเท ความรัก สามัคคี แรงกายแรงใจ พัฒนาหมู่บ้านจนบรรลุเป้าหมายได้ในที่สุด ทั้งนี้ด้วยพื้นฐานของชาวไทลื้อบ้านฝั่งแวนที่มีวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย ไม่ฟุ่มเฟือย เช่น การปลูกพืชผักสวนครัว รั้วกินได้ สำหรับเป็นอาหารในครอบครัว เหลือก็แบ่งปันเพื่อนบ้าน เก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ขยายพันธุ์ต่อไปในอนาคต ทำให้เกิดความยั่งยืนด้านอาหารปลอดภัยด้วย มีระบบการเลี้ยงผึ้งให้กินน้ำหวานจากผักสวนครัว ดอกไม้ในชุมชนที่ไม่มีสารพิษใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งผึ้งจะเป็นตัวชี้วัดที่ดีที่สุดด้านความปลอดภัยจากสารพิษ นอกจากนี้กลุ่มอาชีพผ้าทอจากภูมิปัญญาไทลื้อทำให้มีรายได้เข้าสู่กลุ่มและหมู่บ้านอย่างต่อเนื่องดังนั้นรางวัลที่หมู่บ้านฝั่งแวนได้รับในครั้งนี้ ถือเป็นความภาคภูมิใจและเกียรติของชาวฝั่งแวนทุกคน และผู้ที่ให้การสนับสนุน ทั้งจากหน่วยงานราชการ สถาบันการศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) วัด และแน่นอนว่าวิถีความพอเพียงจะถูกต่อยอดและส่งต่อให้กับลูกหลานไปอย่างยั่งยืนด้วย นายนพดล กล่าว

ตชด.ส่งแก๊งค้ายานรกไปเกิดใหม่อีก1รายใช้จยย.ขนยาบ้า1แสนเม็ดฝิ่นดิบ32กก.เจอด่านยิงเปิดทางหนีโดนสวนดับจับเป็นได้รายหนึ่งเป็นเยาวชนหลงผิดแค่อายุ15ปี

บ่ายวันที่ 5 กย.63 เจ้าหน้าที่ ตชด.33 ร่วมกับตำรวจ สภ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เข้าตรวจสอบป่าทางบ้านนามะอื้น – หัวเจาะ หมู่ที่ 12 ต.แม่อาย อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ หลังจากเกิดการประทะกับแก๊งขนยาเสพติดเมื่อคืนที่ผ่านมา พบศพชายไม่ทราบชื่อนอนหงายเสีชีวิตตามร่างกายถูกยิงด้วยอาวุธปืนหลายแห่ง ห่างออกไปพบของกลางยาบ้าจำนวน 1 แสนเม็ด ฝิ่นดิบ 32 กิโลกรัม

ทั้งนี้เมื่อกลางดึกที่ผ่านมาพ.ต.อ.รังสิมันต์ สงเคราะห์ธรรม รอง ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 3 พ.ต.อ.อภิชาติ รักพงษ์ ผกก.ตชด.33 สืบทราบว่า จะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากจากโรงงานประเทศเพื่อนบ้านเข้ามายังจุดพักยาในประเทศไทยเพื่อรอส่งให้กับลูกค้าขนเข้าพื้นที่ชั้นในของประเทศโดยใช้เส้นทางบ้านนามะอื้น – บ้านหัวเจาะ หมู่ที่ 12 ต.แม่อาย อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เป็นเส้นลำเลียงเข้ามาจึงสั่งการให้สกัดกั้นเพื่อจับกุม

พบรถจักรยานยนต์ ต้องสงสัย จำนวน 2 คัน ตรงตามที่สายลับแจ้งมา ขณะขับขี่ลงมาจากหมู่บ้านนามะอื้น จึงแสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจค้นคันแรกหยุดให้ตรวจค้นพบเป็นเยาชนอายุ 15 ปีจึงควบคุมตัวไว้ อีกคันเร่งเครื่องหลบหนีโดยใช้อาวุธปืนยิงเปิดทางเจ้าหน้าที่จึงยิงตอบโต้ คนร้ายมีประมาณ3คนทิ้งรถและของกลางวิ่งหนีลงข้างทางเปิดฉากยิงใส่เจ้าหน้าที่เป็นระยะเพื่อเปิดทางหลบหนีทางเจ้าหน้าที่ได้ตรึงกำลังไว้ไม่เข้าตรวจสอบเพราะมืดและเป็นพื้นที่ใกล้ชายแดนหวั่นถูกซุ่มโจมตีกระทั่งช่วงสายจึงเข้าตรวจสอบพบศพคนร้ายเสียชีวิต1รายส่วนที่เหลืออาศัยความชำนาญในพื้นที่หลบหนีไปได้

ร้านก๋วยเตี๋ยวเชียงคำสู้โควิด19เริ่มขายได้ถึงแม้ไม่เหมือนเดิมก็พออยู่ได้หวั่นระบาดระลอก2วอนทุกฝ่ายร่วมมือป้องกันอย่างเข้มแข็ง

นางสาวสุภาพร ปัญจอม อายุ 48 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 192 หมู่ 3 ต.เชียงบาน อ.เชียงคำ จ.พะเยา โดยเปิดกิจการร้านก๋วยเตี๋ยวนำชัย เผยว่าตนได้เปิดร้านมานานประมาณ 4 ปี ก่อนที่จะเกิดสถานการณ์การระบาดของโควิด -19 ลูกค้าหนาแน่นทุกวัน ทั้งขาประจำและขาจร แต่ในช่วงเวลาที่เกิดการระบาดโควิด -19 ต้องปิดร้านตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 เป็นต้นมา ตอนนั้นเงียบเหงามาก ต่อมาเมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลายจึงเริ่มกลับมาเปิดขายอีกครั้งเมื่อประมาณกลางเดือนกรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งกลุ่มลูกค้ายังมีทั้งขาประจำและขาจรดังเดิม เนื่องจากร้านอยู่ติดถนนทางหลวงแผ่นดินสายเชียงคำ-พะเยา หาง่ายลูกค้าจึงแวะประจำ ทั้งนี้หลังโควิดคลี่คลายพบว่าปริมาณลูกค้าเข้าร้านสังเกตว่าลดลงร้อยละ 20-30 แต่ก็ยังขายได้

นางสาวสุภาพร กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามแม้นว่าขณะนี้โควิดจะคลี่คลายไปมากแล้ว ประชาชนเริ่มใช้ชีวิตปกติกันเกือบ 100% แต่ทางร้านก็ยังคงรักษามาตรฐานการให้บริการ และเน้นการป้องกันการระบาดของโรคอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยมีการตั้งจุดบริการล้างมือด้วยน้ำสบู่ที่หน้าร้าน ก่อนที่ลูกค้าจะเข้ามาสั่งอาหารและหาที่นั่งตามสะดวก แม่ค้าใส่หน้ากากอนามัย หน้ากากผ้า สวมหมวก ล้างมือบ่อย ๆ เพื่อป้องกันการระบาดของโควิดระลอก 2 ทั้งนี้การให้บริการด้านปริมาณอาหารของร้าน แม้ลูกค้าจะลดลงแต่ปริมาณอาหารที่บริการยังคงปริมาณเดิม ความสะอาด วัตถุดิบที่ใช้ทั้งเนื้อหมู เนื้อสด ลูกชิ้น เส้นก๋วยเตี๋ยว หรือเส้นต่าง ๆ ที่ลูกค้าสั่ง ต้องสดใหม่ทุกวัน และแถมน้ำพริกกากหมูที่ทำเองด้วย

กลัวจะเกิดโควิดระลอก2เหมือนกัน แต่ชีวิตก็ยังต้องทำมาหากิน ถ้าหากเกิดระบาดระลอกสองจริง ทางร้านก็ต้องมีมาตรการเข้มข้นยิ่งขึ้น โดยให้มีระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร ล้างมือ ใส่หน้ากาก ต้องปลอดภัยไว้ก่อนทุกคนทุกฝ้ายต้องร่วมมือร่วมใจกันป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดระลอก2เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวนำชัย เชียงคำ กล่าว

ข่าวนี้ไม่จริงนอภ.เมืองแม่ฮ่องสอนเตือนอย่าหลงเชื่อข่าวลือผู้ลี้ภัยติดโควิด19ตายในศูนย์อพยพ

นายพงศ์พีระ ชูชื่น นายอำเภอเมือง จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ในห้วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ได้เกิดกระแสข่าวลือว่า มีผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบชาวกะเหรี่ยงคะยา ในศูนย์พักพิงผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบบ้านในสอย ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ได้เกิดป่วยตายกระทันหันโดยสาเหตุมาจากติดเชื้อโรคโควิดจากสหภาพเมียนมา โดยข่าวลือดังกล่าวได้ถูกส่งต่อในสื่อโซเชียลออกไปเป็นวงกว้าง ส่งผลกระทบต่อประชาชนที่ทราบข่าวลือดังกล่าว ทำให้เกิดความตื่นตระหนกอย่างรุนแรง

ข่าวลือดังกล่าว ไม่เป็นความจริง ทั้งนี้ทางอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ได้มอบหมายให้นายศักดิ์วิทยา กองแก้ว ปลัดอำเภอ ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าพื้นที่พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยการสู้รบ บ้านใหม่ในสอย ทำการตรวจสอบแล้วพบว่าไม่เป็นความจริง นอกจากข่าวลือว่ามีผู้ป่วยด้วยโรคโควิดแล้ว ยังมีข่าวลือเกี่ยวกับ การป่วยตายของสุกรในพื้นที่พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยการสู้รบบ้านใหม่ในสอย นั้นทางอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงภายในพื้นที่พักพิงชั่วคราวฯบ้านใหม่ในสอย และหมู่บ้านใกล้เคียงแล้ว ไม่ปรากฏว่ามีการป่วยตายของสุกรตามการรายงานแต่อย่างใด

นายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน เปิดเผยต่อไปว่า ในช่วงนี้ มักมีผู้ไม่หวังดี สร้างข่าวลือในทางที่ผิดออกมาบ่อยครั้งส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นวงกว้าง ซึ่งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวของอำเภอ ทำการตรวจสอบต้นตอของข่าวลือดังกล่าวแล้ว หากพบจะทำการดำเนินคดีตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ อย่างเฉียบขาดต่อไป