ยาบ้าใครมารับกลับด้วย,กองกำลังผาเมืองสกัดกั้นกลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดตรวจยึดยาบ้า2แสนเม็ดและเฮโรอีน1.4กิโลกรัมในพื้นที่อ.ฝางจ.เชียงใหม่

กองร้อยทหารม้าที่ 4 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 4 กองกำลังผาเมือง จัดกำลังพล ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนเฝ้าตรวจ บริเวณเส้นทางสะพานหนองเต่า ต.ม่อนปิ่น อ.ฝาง จว.ช.ม. จนกระทั่งเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2563 เวลา 05.30 น. ตรวจพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัย ประมาณ 3 – 4 คน เดินแบกเป้สะพายหลังเข้ามาตามภูมิประเทศ เจ้าหน้าที่จึงได้ส่งสัญญาณให้หยุด เพื่อขอทำการตรวจค้น แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้วิ่งหลบหนี โดยอาศัยความมืดและความชำนาญเส้นทางหลบหนีไปได้ จากการตรวจสอบพื้นที่ ตรวจพบกระสอบปุ๋ยดัดแปลงเป็นเป้สะพายหลัง จำนวน 2 เป้ ภายในบรรจุยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ประมาณ 200,000 เม็ด และเฮโรอีน 2 ถุง น้ำหนักประมาณ 1.4 กก. ปัจจุบันหน่วยได้จัดกำลังเพิ่มเติมเข้าตรวจสอบพื้นที่ พร้อมกับนำของกลางทั้งหมดส่งให้ สภ.ฝาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด่วน,ปิด5จุดผ่อนปรนชายแดนแม่ฮ่องสอน15วันป้องกันเชื้อโควิด19ในเมียนมาระบาดลามเข้าไทย

ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผวจ.แม่ฮ่องสอน พันเอก โสภณ นันทสุวรรณ รองผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร นายแพทย์ศุภชัย บุญอำพันธ์นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่อสอน พร้อมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ประชุมพิจารณาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ซึ่งมีการระบาดระลอกที่ 2 ในรัฐยะไข่ และอีกหลายรัฐ ประเทศเมียนมา โดยเฉพาะรัฐยะไข่ มีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัฐโควิด -19 แล้ว กว่า 700 คน ซึ่งจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีแนวเขตติดต่อกับประเทศเมียนมาตลอดแนวชายแดน จะต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด

ภายหลังการประชุม นายสุวพงษ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผย ว่า ปัจจุบันจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้มีคำสั่งปิดชายแดนช่องทางจุดผ่อนปรนทั้ง 5 แห่งไปแล้วในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และได้ผ่อนปรนให้มีการส่งออกเฉพาะสินค้าชายแดนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการเมื่อวันที่ 1 ก.ค.63 ที่ผ่านมา ได้แก่ จุดผ่อนปรนการค้าช่องทางห้วยต้นนุ่น หมู่ที่4 ตำบลแม่เงา อำเภอขุนยวม , จุดผ่อนปรนการค้าช่องทางบ้านแม่สามแลบ หมู่ที่ 1 ตำบลแม่สามแลบ อำเภอสบเมย , และจุดผ่อนปรนการค้าช่องทางบ้านห้วยผึ้ง หมู่ที่ 3 ตำบลห้วยผา อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน แต่ขณะนี้สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ได้แพร่ระบาดหนักที่รัฐยะไข่ เมืองซิตตเว ซึ่งเป็นเมืองเอกของประเทศเมียนมา จนทำให้มีการล็อกดาวน์เมืองซิตตเวอย่างไม่มีกำหนดตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา

ทำให้ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีมติปิดจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอนทุกช่องทางเป็นเวลา 15 วัน นับจากวันที่มีประกาศอย่างเป็นทางการ คาดจะมีผลตั้งแต่วันที่ 3 ก.ย.63 เป็นต้นไป ห้ามคน ยานพาหนะ สินค้าทุกชนิด เข้าออกโดยเด็ดขาด รวมทั้งศูนย์อพยพทุกแห่งในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนอีกด้วย ส่วนผู้ป่วยที่อยู่ภายในศูนย์พักพิงหรือศูนย์อพยพสามารถเข้ามาตรวจรักษาในโรงพยาบาลในตัวเมืองหรือโรงพยาบาบอำเภอได้ตามปกติ แต่ถ้าหากพบมีเชื้อไวรัสก็ให้อยู่ภายในศูนย์อพยพ ยกเว้นหากมีผู้ป่วยรุณแรงก็สามารถเข้ามารักษาในตัวเมืองได้ ทุกช่องทางเข้าออกจะมีเจ้าหน้าที่คอยควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด

พ่อเมืองสามหมอกสั่งช่วยเหลือชาวบ้านได้รับผลกระทบภัยพิบัติน้ำท่วม2ตำบล2หมู่บ้าน33หลังคาเรือน

นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผจว.แม่ฮ่องสอน มอบหมายให้ นายพงศ์พีระ ชูชื่น นายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด นำสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคไปมอบให้กับราษฏรบ้านสบสอย ต.ปางหมู จำนวน 23 หลังคาเรือน และราษฏรบ้านป่าปุ๊ ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน จำนวน 10 หลังคาเรือน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยพิบัติในพื้นที่อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน

ทั้งนี้เนื่องจากช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 28-29 ส.ค.63 ได้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่อำเภอเมือง จ.แม่ฮ่องสอน ทำให้น้ำป่าจากภูเขาไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนประชาชนทั้ง 2 หมู่บ้าน ได้รับความเสียหาย มีดินโคลนไหลเข้ามาในอาคารบ้านเรือน เศษซากกิ่งไม้ ขอนไม้ เข้าอุดตันทางระบายน้ำทำให้น้ำไหลทะลักเข้าตัวบ้านและกำแพงบ้านได้รับความเสียหายหนัก

จากนั้น นายพงศ์พีระ ชูชื่น นายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ได้ออกสำรวจความเสียหาย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นอาคารบ้านเรือน สัตว์เลี้ยง ยานพาหนะ และสะพานที่มีเศษกิ่งไม้อุดตันทำให้น้ำไม่สามารถไหลได้สะดวก พร้อมกับแจ้งผู้ใหญ่บ้านทั้ง 2 หมู่บ้าน ให้สรุปความเสียหายของทรัพย์สิน ยานพาหนะ สัตว์เลี้ยง เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบและเดือนร้อนอย่างเร่งด่วน และให้ผู้ใหญ่บ้านแจ้งลูกบ้านให้ขนสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นขึ้นไปอยู่บนอาคารบ้านเรือนที่ปลอดภัย เนื่องจากช่วงนี้จะมีฝนตกลงมาต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงกลางคืนจะมีฝนตกหนัก โดยทางอำเภอได้เตรียมกำลัง อส.อำเภอและฝ่ายปกครอง พร้อมสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง หากพื้นที่หมู่บ้านใดมีภัยพิบัติจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือเร่งด่วนทันที

ยังคุมเข้มชายแดนทั้งทางบกและทางน้ำหวั่นชาวเมียนมานำเชิ้อโควิด19เข้ามาแพร่ระบาดในประเทศไทย

ทหาร ฉก.ม.2 กองกำลังผาเมือง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ฝ่ายปกครอง ตชด.327 เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกลาดตระเวณตามแนวชายแดน เพื่อสกั้ดกั้นการลักลอบเขาประเทศ ทั้งทางบก และทางน้ำโดยใช้เรือท้องแบบลาดตระเวณ ในแม่น้ำสาย แม่น้ำรวก จนถึง สามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เพื่อป้องกันชาวเมียนมาหลบหนีข้ามชายแดนทางธรรมชาตินำเชื้อโควิดที่ระบาดอย่างหนักในเมียนมามาแพร่ระบาดในไทย พ.อ.ชาตรี สงวนธรรม ผบ.ฉก.ม.2 ได้มอบหมายให้ ร.อ.กิตติเดช กันคล้อย ผบ.ร้อย.ม.3 ฉก.ม.2 จัดกำลังออกลาะตระเวณในพื้นที่รับผิดชอบตั้งแต่ อ.แม่สาย ถึง อ.เชียงแสน โดยเฉพาะจุดเสี่ยงและช่องทางธรรมชาติริมแม่น้ำสาย โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมกลุ่มบุถคคลและแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาได้อีก 3 ราย ได้ผู้ต้องหาจำนวน 6 คน ขณะลักลอบข้ามพรมแดนไทย-เมียนมา จึงควบคุมตัวส่งเจ้าหน้าที่ตวจคนเข้ามาดำเนินคดีและผลักดันออกนอกประเทศต่อไป

เสี่ยงปี่กลองเริ่มดังเชียงใหม่ KICK OFF สร้างการรับรู้ก่อนการเลือกตั้งท้องถิ่น

ที่ศูนย์ประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผวจ.เชียงใหม่ นายวิรุฬ พรรณเทวี รอง ผวจ.เชียงใหม่ นายรัฐพล นราดิศร รอง ผวจ.เชียงใหม่ นายเกรียงไกร พานดอกไม้ ผอ.กกต.จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยนายอำเภอ หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมเข้าประชุมกิจกรรมกิจกรรม KICK OFF การสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่นแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐและประชาชนทั่วไป

นายเกรียงไกร พานดอกไม้ ผอ.กกต.จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การเตรียมการเลือกตั้งทาง กกต.จังหวัดได้เตรียมการมาตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ในปีนี้ก็มีสัญญาณด้านการเลือกตั้งภายในปี 63 จึงมีความจำเป็นที่ต้องสื่อสารให้เจ้าหน้าที่ของรัฐและประชาชนมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง เข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนกาารต่างๆ และออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งโดยไม่ถูกครอบงำ ทราบกระบวนการ วิธีการ ขั้นตอนการเลือกตั้ง ซึ่งการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารต้องคำนึงถึงความแตกต่างของประชาชนในแต่ละบริบทของพื้นที่ การนำเสนอเนื้อหา การใช้ภาษาที่ตรงกลุ่มเป้าหมายที่กระตุ้นให้เกิดความรู้สึกร่วม ตระหนักรู้ เพื่อให้การประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่นให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิผลจึงได้จัดทำคลิปวีดีโอความรู้เกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่น จำนวน 10 เรื่อง สปอตวิทยุ จำนวน 4 เรื่อง ละครสั้นวิทยุภาษาเหนือ (กำเมือง) และชนเผ่า 9 ภาษา ได้แก่ ภาษาชนเผ่าอาข่า, ลีซู, เมี่ยน, ม้ง, ลาหู่, กะเหรี่ยง (โป), กะเหรี่ยง (สะกอ), ภาษาเหนือ (กำเมือง) และภาษายอง พร้อมมีอินโฟกราฟิกเป็นแอนิเมชั่น 2D จำนวน 4 เรื่อง พร้อมแผ่นพับประชาสัมพันธ์

เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐวางตัวเป็นกลางทางการเมือง ผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกไปใช้สิทธิอย่างมีคุณภาพ เพิ่มจำนวนร้อยละผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งและลดจำนวนบัตรเสียในการเลือกตั้งท้องถิ่น สร้างภาคีเครือข่ายการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ภาครัฐรระหว่างสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดและหน่วยงานของรัฐระดับอำเภอท้องถิ่น การประชาสัมพันธ์เป็นอย่างถูกต้องครบถ้วน

ผู้ที่จะลงสมัครเลือกตั้งไม่ว่าจะเป็น อบจ., เทศบาล และ อบต. นอกจากจะศึกษาเรื่อง พรบ.การเลือกตั้งแล้ว ยังต้องศึกษา พรบ.ของ อบจ., เทศบาล และ อบต. ที่เป็นกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วย ขณะที่ประชาชนก็ต้องติดตามข่าวสารจาก กกต.จังหวัด ติดตามจากสื่อมวลชน รวมถึงเสียงตามสายในหมู่บ้าน/ชุมชน และประกาศการเลือกตั้งในพื้นที่ว่า จะมีการเลือกตั้ง อบจ., เทศบาล และ อบต. ในวันไหน และจะเลือกตั้งอะไรก่อน แล้ววิธีการลงคะแนนเสียงแบบไหน ก็ควรศึกษาด้วย เพื่อลดอัตราบัตรเสียให้น้อยลง

สำหรับการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทาง ที่ผ่านมาได้มีการจัดการเลือกตั้งภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ไปแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกเป็นการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. ที่จังหวัดลำปาง และครั้งที่สอง ที่ จ.สมุทรปราการ ซึ่งก็ผ่านพ้นไปด้วยดี เป็นไปตามที่กรมควบคุมโรคกำหนด ซึ่งในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ ก็จะมีการขยายจุดให้ลงคะแนนเพื่อลดความแออัด จัดกำลังเจ้าหน้าที่ อสม. มาช่วยในการตรวจวัดอุณหภูมิ ประชาชนที่เข้ามาต้องใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ สวมใส่หน้ากากอนามัยด้วย

ลุยรื้อถอนรีสอร์ทบนดอยม่อนแจ่มต่อ

เจ้าหน้าที่ชุดพยัคฆ์ไพรร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 เชียงใหม่ นำโดยนายสัมพันธ์ พุฒด้วง ผอ.ศูนย์ป่าไม้เชียงใหม่ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่1 (เชียงใหม่) เข้ารื้อถอนรีสอร์ทบนดอยม่อนแจ่ม ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ อีกทั้งหมด 11 หลัง ซึ่งทั้งหมดเป็นหนึ่งในรีสอร์ท 28 รายที่มีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ริม ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการรื้อถอนรีสอร์ทบนดอยแห่งหนึ่งหลายแห่ง

โดยวันนี้ทางสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 กรมป่าไม้ ได้แยกปัญหาการบุกรุกรีสอร์ตบนดอยม่อนแจ่ม ออกเป็น 6 กลุ่มดังนี้ ซื้อขายเปลี่ยนมือ จำนวน 6 ราย ยึดถือครอบครองพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 4 ราย ครอบครองพื้นที่บุคคลอื่น จำนวน 2 ราย ขยายพื้นที่ครอบครอง จำนวน 9 ราย เปลี่ยนการครอบครอง จำนวน 4 ราย และครอบครองพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาต จำนวน 3 ราย ซึ่งทั้งหมดกระทำผิกกฏหมายต้องทำการรื้อถอนให้เสร็จสิ้นต่อไป

“ลดาวัลลิ์”ชูนโยบายสร้างความมั่นคงด้านน้ำแนะชาวกาฬสินธุ์สู้ภัยแล้งด้วยธนาคารน้ำใต้ดิน

นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงานฯและผู้ร่วมก่อตั้งพรรคเสมอภาค ลงพื้นที่เยี่ยมศูนย์เรียนรู้โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอเขาวง ของนายรัฐวัสส์ จรัสอภิรักษ์ โอกาสนึ้ได้พบปะเกษตรกรจากอำเภอเขาวง อำเภอกุฉินารายณ์และอำเภอห้วยผึ้ง จังหวัดกาฬสินธุ์เพื่อรับฟังความเดือดร้อนของชาวบ้าน ทำให้ทราบว่าเป็นพื้นที่ประสบภัยแล้งมาตลอดและความช่วยเหลือจากภาครัฐยังไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ ควรปรับปรุงกระบวนการขุดลอกแหล่งน้ำให้ได้ผลอย่างแท้จริงแก้ปัญหาขุดลอกแล้วยังไร้น้ำ กลายเป็นห้วยแล้ง สระแล้งมากมาย

นางลดาวัลลิ์จึงได้ขี้แจงนโยบายของว่าที่พรรคเสมอภาคที่กำหนดโครงการสร้างความมั่นคงด้านทรัพยากรน้ำไว้หลายวิธี ที่สำคัญที่สุดคือโครงการเก็บน้ำไว้ใต้ดินหรือธนาคารน้ำใต้ดิน จึงแนะนำการทำธนาคารน้ำใต้ดินร่วมกับการทำแก้มลิงบนหน้าดินแก่เกษตรกรชาวกาฬสินธุ์ เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งให้เก็บน้ำได้อย่างแท้จริง ข้อดีของธนาคารน้ำใต้ดินคือสามารถกักเก็บน้ำฝนไว้ใต้ดิน น้ำจะไม่ระเหยเพราะความร้อนเหมือนน้ำในบ่อบนผิวดิน ทำให้ในหน้าแล้งยังมีน้ำเพียงพอสำหรับทำการเกษตร

ในช่วงบ่ายนางลดาวัลลิ์และทีมเสมอภาค ได้พบปะประชาชนหลายอาขีพจาก 15 อำเภอในจังหวัดกาฬสินธุ์ มีตัวแทนกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดกาฬสินธุ์ได้บอกเล่าถึงอุปสรรคปัญหาการบริหารจัดการกองทุนที่ย้ายจากสำนักนายกรัฐมนตรีไปอยู่ภายใต้กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ทำให้กลุ่มสตรีต้องจำยอมรับโครงการที่คิดโดยข้าราชการแม้ไม่สนองความต้องการของสตรีก็ตาม เพราะถ้าไม่รับก็จะไม่จัดสรรงบประมาณให้ ซึ่งเป็นความอึดอัดใจของกลุ่มสตรีทั่วประเทศแต่ไม่รู้จะแจ้งให้ใครมาข่วยแก้ไขให้ได้ รู้สึกดีใจเมื่อมาพบนางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ซึ่งเป็นผู้คิดริเริ่มก่อตั้งกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีตั้งแต่ปี 2548 ด้วยทุนประเดิมจากรัฐบาล 780 ล้านบาท และได้กลายมาเป็นนโยบายรัฐบาลปี 2554 ด้วยทุนที่เพิ่มขึ้นเป็น 7,800 ล้านบาท จึงขอให้ช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้สตรีทั่วประเทศด้วย ซึ่งนางลดาวัลลิ์ ได้ชี้แจงว่า ตั้งแต่ปี 3548 ตนวางแผนดำเนินการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีไว้ 3 ระยะ คือระยะแรกนำร่อง 780 ล้านบาทตั้งกองทุนไว้ระดับตำบลๆละ 100,000บาท สำหรับ 7,800 ตำบล/ชุมชน ระยะที่สองคือ 7,800 ล้านบาทสำหรับ 78,000 หมู่บ้าน/ชุมชน และระยะที่สามคือ 78,000 ล้านบาทสำหรับ 78,000 หมู่บ้าน/ชุมชนๆละ 1,000,000 บาทอยู่คู่กับกองทุนหมู่บ้านและชุมชนทั่วประเทศ

หลักการที่คิดไว้ตั้งแต่ต้นคือ การให้ สตรีบริหารจัดการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีด้วยตนเอง ให้ข้าราชการทำหน้าที่ให้คำปรึกษาเท่านั้นไม่ควรเข้ามาครอบงำการตัดสินใจแทนสตรี วิธีนี้จะเป็นการพัฒนาบทบาทและศักยภาพการเป็นผู้นำของสตรีให้มีความรู้มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์และการตัดสินใจ ในแต่ละโครงการแต่ละกิจกรรมที่จะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของสตรีไทยให้มีความก้าวหน้า ทันสมัย และยกระดับสตรีไทยให้เก่งในด้านทำธุรกิจการค้าขาย การลงทุนและการส่งออก สตรีจะพึ่งตนเองได้ สตรีจะมีบทบาทร่วมพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากได้อย่างเข้มแข็ง จึงขอเชิญชวนสตรีไทยทุกหมู่บ้านทุกชุมชน มารวมพลังกันให้แน่นแฟ้นเพื่อแก้ไขทุกอุปสรรคปัญหาของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีของพวกเราให้สำเร็จโดยเร็ว เพื่อประโยชน์สุขของประเทศชาติโดยรวม ไม่ใช่ประโยชน์ของใครคนใดคนหนึ่ง

แฉขบวนการค้ามนุษย์ฝั่งประเทศเพื่อนบ้านตุ๋นเรียกเก็บเงินคนเมียนมาหัวละ 3 พันบาทอ้างลักลอบเข้าไทยไม่ถูกจับ

แฉมีขบวนการค้ามนุษย์ฝั่งประเทศเพื่อนบ้านตุ๋นขาวเมียนมา เรียกเก็บเงินหัวละ 3 พันาบาท อ้างว่าเคลียร์ กับฝั่งไทยแล้วข้ามชายแดนได้ไม่ถูกจับ คนเมียนมาตกเป็นเหยื่อหลายรายพอข้ามแดนทางเส้นทางธรรมชาติ จ๊ะเอ๋เจ้าหน้าที่ทหารถูกจับทุกราย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตามชายแดนก็ได้บูรณาการเข้มงวดในการลาดตระเวณและตรวจจับแบบเข้มงวดเพื่อป้องกันผู้ที่ลักลอบเข้าเมืองน้ำเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้ามาระบาดในประเทศไทย

เวลา 00.15 น. วันที่ 30 ส.ค.63 พ.อ.ชาตรี สงวนธรรม ผบ.ฉก.ม.2 มอบหมายให้ ร.อ.กิตติเดช กันคล้อย ผบ.ร้อย.ม.3 ฉก.ม.2 จัดกำลังพลลาดตระเวณบริเวณท่าข้ามตามธรรมชาติในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่กำลังระบาดในประเทศเมียนมาในขณะนี้ โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการลาดตระเวณบริเวณช่องทางธรรมชาติริมแม่น้ำสาย จนกระทั่งมาถึงบริเวณ ท่าข้ามป่าสัก บ.สันทรายใหม่ หมู่ 11 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จเชียงราย ได้ตรวจพบบุคคลต้องสงสัย จำนวน 2 คน กำลังเดินข้ามแม่น้ำสายมา จึงได้แสดงตัวเพื่อตรวจค้น

สอบสวนทราบชื่อ นายทูนแสนหวี อายุ 53 ปี สัญชาติเมียนมา และ นางเหี่ยน อายุ 54 ปี สัญชาติเมียนมา จากการตรวจค้นภายในกระเป๋าสัมภาระไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ทั้ง 2 คน ให้การรับสารภาพว่า ได้เดินทางมาจาก เมืองลาเชียว ประเทศเมียนมา มายัง จ.ท่าขี้เหล็ก ตรงข้ามกับชายแดนไทย ที่ อ.แม่สาย จ.ฌชียงราย เพื่อมาข้ามแม่น้ำสายก่อนที่จะเดินทางไปหาบุตรสาว และไปทำงานที่สวนลำไย ที่ จ.เชียงใหม่ โดยเสียค่าใช้จ่ายในการข้ามแม่น้ำสาย ฝั่งประเทศเมียนมา 3,000 บาทต่อคน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวส่งให้กับทางเจ้าหน้าที่ ตม. ดำเนินการตามกฎหมาย ก่อนจะผลักดันออกนอกประเทศต่อไป

สมพงษ์ ผู้นำฝ่ายค้านขึ้นเหนือเปิดเวทีรับฟังเสียงสะท้อนจากผู้ประกอบการจากวิกฤตโควิด-19 เชื่อว่าสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นในเร็วๆนี้ จวกเม็ดเงินรัฐบาลช่วยวงการท่องเที่ยวที่ผ่านมาแก้ไม่ตรงจุด

ที่ห้องแกรนด์นันทาบอลรูม โรงแรมฮอลิเดย์อินน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นำ ส.ส.ฝ่ายค้าน จัดโครงการผู้นำฝ่ายค้านสภาผู้แทนราษฎรพบประชาชน รับฟังปัญหาจากกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ซึ่งการจัดเวทีในครั้งนนี้ ผู้นำฝ่ายค้าฯ ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษต่อกลุ่มผ้ประกอบการท่องเที่ยวและภาคบริการรวมถึงประชาชนที่เดินทางมาร่วมกว่า 500 คน เรื่องผลกระทบ ความเดือดร้อนต่อภาคการท่องเที่ยวและบริการจากวิกฤตโควิด-19

รวมทั้งจัดให้มีเสวนา ฝ่ายค้านรับฟัง 4 กลุ่มเปราะบางจากวิกฤตโควิด-19 และข้อเสนอแนะพร้อมรับฟังปัญหาจากกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบ โดยมีนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรองนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย, นพ.เอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย, นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ, นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย, นพ.เรวัต วิศรุตวช รองหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ

นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า การเดินทางมาที่จังหวัดเชียงใหม่ในครั้งนี้ถือเป็นเวทีที่ 2 โดยเวทีแรกนั้นได้เปิดรับฟังปัญหาจากกลุ่มแรงงานที่ได้รับผลกระทบที่กรุงเทพฯ ส่วนเวทีที่ 3 และ 4 จะเป็นการเปิดรับฟังกลุ่มเปราะบางที่เป็นภาคเกษตรกรรมในพื้นที่ภาคอีสานที่จังหวัดหนองคาย มาฟังความคิดเห็นว่าเขาประสบปัญหาอย่างไรแล้วนำเข้าไปสู่สภาผู้แทนราษฎรให้ มีการถกกันว่าจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร ก็มี 4 – 5 โครงการที่ทำอยู่ โครงการแรกเรื่องแรงงานก็ทำไปแล้ว ตอนนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการท่องเที่ยวและบริการถือว่าเป็นจุดที่เดือดร้อนที่สุด เพราะกว่าการท่องเที่ยวจะฟื้นฟูมาแบบเดิมจะต้องใช้เวลามาก อีกเรื่องที่บอกว่าภาคเกษตรเดือดร้อนสิ่งของส่งไปไม่ได้ แต่คนนั้นต้องกินไม่ต้องส่งก็ได้ สินค้าการเกษตรของเราส่งเสริมในประเทศ ภาคการผลิตก็ทำอยู่แล้ว แต่ภาคการท่องเทที่่ยวจะให้คนไทยเที่ยวคนไทยจะได้เท่าไหร่ คิดว่าเงิน 3 ล้านล้านบาทที่จะเข้ามาต่อปีด้านการท่องเที่ยวขณะนี้เท่าไหร่ ถึงครึ่งล้านหรือเปล่ายังไม่รู้ ไม่มีทางแก้ไขฟื้นฟูได้ในระยะเร็วๆ นี้แน่นอนก็มีความเป็นห่วงจึงได้มาจัดกิจกรรมในวันนี้

เวทีสภาที่จริงอยู่ที่รัฐบาลแต่สภาจะพูดให้รัฐบาลเข้าใจ สภาไม่มีปัญญาที่จะหาเม็ดเงินมาช่วยแต่รัฐบาลจะหาทางช่วยเขาอย่างไร จังหวัดเชียงใหม่ขณะนี้ตนไม่อยากพูดอะไรมาก มีกี่ 10 แห่งแล้วที่ประกาศขาย เพราะคนไม่มีเงินและไม่มีนักท่องเที่ยว การใช้เงินของรัฐบาลที่ผ่านมาไปมุ่งเน้นเรื่องอื่นมากกว่า การช่วยเหลือต่อกลุ่มคะแนนเสียงเขามากกว่า การช่วยเหลือด้านเม็ดเงินอย่าให้ธนาคารมีเงื่อนไขมาก ข้อเท็จจริงทำไมรัฐบาลไม่มาทำเอง เอาเงินที่ไปให้ธนาคารพาณิชย์เอามาใส่ใน ธกส., กรุงไทย เพื่อให้เบาลงในเงื่อนไข มันมีกรอบปฏิบัติจริงแต่กรอบนี้เข้าถึงไม่ได้ทุกคน กว่าจะผ่านเงื่อนไขแรก รออนุมัติกี่วัน กี่เดือน ต้องทำเงื่อนไขแรกกว่าจะผ่าน และปี 64 เชื่อว่าการท่องเที่ยวยังตึงๆ อยู่ คนจะอยู่รอดไปถึงปี 64 หรือไม่ ส่วนเรื่องเงิน 50,000 ล้านบาทของรัฐบาลที่บอกว่าจะมาช่วยเหลือ ก็ไม่อยากบอกว่าจะเพียงพอหรือไม่ เพราะรัฐบาลรู้กฎเกณฑ์ในเงื่อนไขดี ว่าหลักเกณฑ์การปล่อยเงินนั้นเป็นอย่างไร

ส่วนสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองในขณะนี้เป็นสิทธิทางกฎหมายของประชาชนที่สามารถทำได้ การชุมนุมปราศจากอาวุธ สงบ เป็นไปตามข้อกฎหมาย ก็ต้องเคารพให้เกียรติเป็นสิทธิของเขา

โควิด19ระบาดหนักในเมียนมาหวั่นต่างด้าวลอบข้ามแดนแพร่เชื้อ ทหารผาเมืองคุมเข้ม4อำเภอชายแดนจ.เชียงราย

ที่ห้องประชุมที่ว่าการอ.แม่สาย จ.เชียงราย พล.ต.ถนัดพล โกศัยเสวี ผบ.กองกำลังผาเมือง พ.อ.ชาตรี สงวนธรรม ผบ.ฉก.ม.2 พ.อ.พักตร์พงษ์ เงสันเที๊ยะ หัวหน้ากลุ่มงานนโยบายแผนและการข่าว กอ.รมน.จ.เชียงราย หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 31 ร่วมกับ นายอำเภอ แม่สาย แม่จัน แม่ฟ้าหลวง และเชียงราย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำหมู่บ้าน ร่วมประชุมหารือการป้องกันการแพร่ระบาดโรคไวรัส โควิด-19 ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอแม่สาย โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เข้าร่วม

พล.ต.ถนัดพล โกศัยเสวี กล่าวว่า ตามด่านถาวรต่างๆ ในพื้นที่ จ.เชียงรายนั้นไม่น่าเป็นห่วงเพราะมีการควบคุมโรคประจำแต่ละด่านอยู่แล้ว แต่ที่เป็นห่วงและต้องขอความร่วมในแต่ละหมู่บ้านตามแนวชายแดนช่วยกันสอดส่องเป็นหูเป็นตาให้กับทางเจ้าหน้าที่หากพบคนแปลกหน้าเข้ามาในชุมชน อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ก็ได้มีการลาดตระเวณตามแนวชายแดน โดยมีการใช้โดรนตรวจการทางอากาศ การเพิ่มกำลังในการลาดตระเวณ เพิ่มรั้วลวดหนามแบบหีมเพลงเพื่อเสริมความแข็งแรง รวมไปถึงเพิ่มไฟส่องสว่างในจุดที่มืดและมองไม่เห็น

โดยการหารือในครั้งนี้ เพื่อวางแผนในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กำลังระบาดซ้ำรอบ 2 ในประเทศเมียนมา ซึ่งทางการเมียนมาได้สั่งปิดโรงเรียนทั่วประเทศเพื่อป้องกันการติดต่อโดยในพื้นที่ชายแดน จ.เชียงราย มี 4 อำเภอที่มีชายแดนต่อกับประเทศเมียนมา และมีช่องทางที่สามรรถเดินทางข้ามพรมแดนตามเส้นทางธรรมชาติได้ตลอดแนวชายแดน จึงต้องมีการป้องกันไม่ให้มีการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย เพื่อป้องกันผู้ที่อาจจะมีเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้ามาในประเทศ โดยตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค.-26 ส.ค.สามรรถจับกุมผู้ลักลอบข้ามแดนได้ 56 ครั้ง ผู้ต้องหา 151 ราย เป็นชาวเมียนมา 83 ราย ไทย 54 ราย ลาว 12 ราย และจีน 2 ราย

การป้องกันการแพร่ระบาดตามแนวชายแดนนั้นสำคัญมาก เพราะหากมีผู้ติดเชื้อหลุดลอดเข้ามาได้เพียง 1 คนอาจส่งผลกระทบและแพร่เชื้อเป็นวงกว้างได้ ดังนั้นจึงต้องขอความร่วมมือกับทุกฝ่ายทั้งภาคประชาชน และทางฝ่ายปกครองในพื้นที่ช่วยกันสอดส่องเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบ 2 ในประเทศไทย” ผบ.กองกำลังผาเมืองกล่าวในที่สุด